ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tokyo in Dream ภาค 1: รักขบวนสุดท้ายของยัยซินฯ

    ลำดับตอนที่ #4 : คุณหนูตระกูลคัตซึคาว่า

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 48


    ห้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ วันจันทร์



    ตอนนี้เริ่มเรียนไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่โต๊ะข้างๆชั้นว่างเปล่า ชั้นมีเรื่องอยากคุยกับยูมี แต่เธอยังไม่มา

    โทรหาก็ปิดเครื่อง ชั้นฝากข้อความไว้ประมาณสิบกว่าข้อความได้ แต่ข้อความตอบกลับนับได้ศูนย์



    หมดชั่วโมงแล้ว ชั้นเริ่มกระวนกระวาย ทั้งซาโต้และริวจิต่างส่งสายตามาที่ชั้นจากหลังห้อง

    พอพักเที่ยวปุ๊บพวกเราแทบจะกระโดดเข้าหากัน



    “โทรหายูมีได้มั้ย”

    “ชั้นโทรไม่ได้เลย”

    “เอาไงกันดี”

    “ไปดูที่บ้านดีมั้ย” ซาโต้เสนอความเห็น

    หลังจากนั้นเราก็โดดเรียนวิชาตอนบ่าย (วิชาพันธุศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาที่เรียนแล้วหลับทุกที)

    แล้วตรงไปที่บ้านของยูมีซึ่งใช้เวลาเดินจากมหาวิทยาลัยไม่ถึงสิบนาที

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    บ้านซาระดะ



    กิ้ง ก่อง กิ้งก่อง

    “ยูมี  ยูมี!! เธออยู่บ้านรึเปล่า”

    ปกติยูมีอยู่กับคุณลุงคุณป้า แต่ตอนนี้พวกเขาคงไปทำงาน

    ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก ได้ยินเสียงคนวิ่งลงบันได



    “พวกเธอมากันทำไม” เสียงยูมีตะโกนออกมา แต่ประตูก็ยังไม่เปิด

    “เราเป็นห่วงเธอนะ”

    “เปิดประตูหน่อยสิ”

    “ชั้นมีเรื่องต้องคุยกับเธอนะ”



    ในที่สุดยูมีก็ยอมแพ้พวกเราสามคน เธอค่อยๆแง้มประตูออก ตาเธอบวมแดง

    เหมือนร้องไห้มาทั้งคืน ชั้นค่อนข้างแปลกใจที่เธอโผเข้ามากอดชั้น



    “คาเนน ฮือ ฮือ” ยูมีเริ่มร้องไห้อีก พวกเราทั้งสี่เลยย้ายกันเข้าไปในบ้าน

    ยูมียังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่โซฟา ริวจิและซาโต้ไปเตรียมเครื่องดื่มในครัว (พวกเค้าคงอยากให้ชั้นกับยูมีคุยกัน)



    “ยูมี เธอไม่ต้องร้องไห้แล้วล่ะ” ชั้นถอนหายใจเบาๆ วันนี้ชั้นต้องตัดใจแล้วสินะ

    “คาเนโกะ ให้ชั้นพูดก่อนนะ ฮือ... เมื่อวันศุกร์ ตอนที่พี่มาริบอกให้พวกเรากลับได้...ชั้นก็ตัดสินใจ ฮึก...

    ชั้นรอเค้าอยู่ที่หน้าตึก พอพวกเธอเลิกซ้อมกัน เค้าก็เดินออกมา  แล้ว.. ฮือ แล้วชั้นก็เรียกเค้าไว้...”

    โอ... ชั้นพอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น  -o-

    “ชั้นบอกเค้าไปว่าชั้นชอบเค้านะ ถ้าเค้ายังไม่มีแฟน แต่เค้า... เค้า… ฮือ”

    ยูมีมองหน้าชั้นก่อนพูดต่อ

    “เค้าบอกว่า.. ว่า.. เค้า  ชอบ  เธอ”

    “ยูมี”

    “...”

    “ชั้นขอโทษนะ ... ยูมี  ชั้นขอโทษที่มันเป็นอย่างนี้” แล้วชั้นเริ่มก็ร้องไห้บ้าง



    พอยูมีเห็นชั้นร้องไห้ เธอก็ใช้หลังมือปาดน้ำตา เธอยิ้มเล็กๆให้ชั้น ถึงแม้ว่าแววตาเธอจะ

    ยังคงมีความเศร้าอยู่ เธอก็เดินตรงมาที่โซฟาตัวที่ชั้นนั่ง แล้วก้มตัวลงกอดชั้น

    แก้มของเราแตะกัน ชั้นรู้สึกถึงความชื้นจากน้ำตาของยูมี



    “คาเนจัง ชั้นเป็นนางฟ้า จำได้มั้ย”

    “อืม ใช่เธอเป็นนางฟ้าที่มีบทพูดสั้นที่สุดในโลก”

    ชั้นพยายามพูดให้มันตลก แต่น้ำตาก็ยังไหล

    “ชั้นรู้ว่าเธอก็ชอบเค้า”

    “ยูมี...”

    “Your dream will come true” ยูมีท่องบทนางฟ้าของเธอข้างๆหูชั้น

    “ยูมี ...ชั้นขอโทษ”

    ไม่รู้ว่าเป็นคำขอโทษครั้งที่เท่าไหร่ แต่ก็ดูเหมือนเป็นคำเดียวที่ชั้นพูดได้ตอนนี้

    “ชั้นเป็นนางฟ้าของเธอนะ ยัยซิน ชั้นจะทำให้เธอสมหวัง”

    แล้วยูมีก็คลายมือออก เราทั้งสองคนปาดน้ำตาและยิ้มให้กัน

    ที่หน้าประตูครัว ซาโต้กับริวจิก็กำลังส่งยิ้มให้ชั้น

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    ระหว่างทางกลับบ้าน (สายนั้นนั่นแหละ)



    เย้! วันนี้ได้กลับบ้านเร็ว (แล้วก็โดดเรียนช่วงบ่าย แล้วก็ไม่มีซ้อมบทวันนี้  *^_^*)

    ชั้นเดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกโล่งใจเป็นพิเศษ เพราะตอนนี้ยูมีกับชั้นก็ดีกันแล้ว

    เรื่องเดียวที่ชั้นกังวลอยู่ตอนนี้คือโน้ตของวิชาพันธุศาสตร์คาบบ่าย  

    (เนื่องจากพวกเราโดดเรียนกันยกแก๊ง เลยไม่มีใครเป็นต้นฉบับให้ลอกเลย)

    เอ... แต่มันชั้นลืมอะไรไปอย่างนึงน้า...  



    แล้วชั้นก็คิดถึงตอนที่อยู่ที่บ้านยูมี เสียงของยูมีก้องอยู่ในหัวชั้นอีกครั้งเหมือนเล่นเทปซ้ำ

    “ชั้นบอกเค้าไปว่าชั้นชอบเค้านะ ถ้าเค้ายังไม่มีแฟน แต่เค้า... เค้า…

    ฮือ.....เค้าบอกว่า.. ว่า.. เค้า  ชอบ  เธอ”



    เค้าชอบชั้น เค้าชอบชั้น เค้าชอบชั้น เค้าชอบชั้น *^-^*

    เหตุการณ์ในคืนวันนั้น เค้าถามชั้นว่าขอเป็นคนดูแลได้มั้ย ชั้นก็ยังไม่แน่ใจในความหมายที่เค้าพูดเลย

    หรือจริงๆแล้วเพราะชั้นไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง ทำไมเค้าไม่บอกมาตรงๆนะว่าเค้าชอบชั้น

    แต่ชั้นจะดีใจมากไม่ได้ ชั้นอาจจะรอไปก่อน เมื่อไหร่ที่ยูมีหายเศร้าแล้ว

    ชั้นจะบอกเค้าว่าชั้นก็ชอบเค้าเหมือนกัน นายตาโต เจ้าชายของชั้น



    เอี๊ยด!!

    รถสีดำคันหนึ่งมาจอดข้างๆชั้น ทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออก ผู้ชายใส่สูทสีดำสองคนเดินลงมา

    “คุณคือมิมุระซัง?”

    ผู้ชายคนนึงพูดกับชั้น หลังจากที่โค้งคำนับอย่างเรียบร้อย ชั้นโค้งตอบแบบงงงง

    หน้าตาท่าทางเค้าดูไม่เข้ากับกริยานุ่มนิ่มนี้เลย ถ้าดูจากภายนอกน่าจะเป็นโจรเรียกค่าไถ่มากกว่า

    “ค่ะ ไม่ทราบว่า...”

    “เชิญคุณไปกับเราด้วยครับ”

    เป็นโจรเรียกค่าไถ่จริงๆด้วย!!!  -o-  ชั้นไม่ได้ฟังว่าเค้าสองคนพูดอะไรต่อเพราะกว่าเค้าจะหันมา

    ชั้นก็โกยอ้าวแบบไม่คิดชีวิต ไม่ลืมที่จะถอดรองเท้าส้นสูงออกมาหิ้วไว้เพื่อให้วิ่งได้เร็วขึ้น

    แต่ด้วยความรีบร้อน ชั้นเลยคว้ามาได้ข้างเดียว -__-



    สองคนนั้นตะโกนโหวกเหวกไล่หลังมา แล้วสักพักชั้นก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์จี้หลังมา

    แฮ่ก แฮ่ก !! นี่ชั้นแสดงหนังแอ๊กชั่นรึไงเนี่ย มาเฟียชุดดำตามล่าชั้น แถมยังขับรถจี้ตูดชั้นด้วย !!



    แฮ่ก แฮ่ก !! นี่ชั้นต้องตายแล้วจริงๆเหรอเนี่ย ?

    ขณะที่ชั้นวิ่งจนม้ามจะแตก ไอ้รถสีดำคันข้างๆมันกลับแล่นสบายๆ ขนาบข้างชั้น

    เจ้าอ้วนชุดดำหันมามองชั้นแถมยังยิ้มให้ซะด้วย (ชั้นเรียกมันมาอ้วนชุดดำกะผอมชุดดำละกัน)

    “วิ่งพอรึยังครับ มิมุระซัง”

    “แฮ่ก แฮ่ก !! ตามชั้นมาทำม้ายยย -_-”

    “ขอเชิญคุณไปที่บ้านคัตซึคาว่าเท่านั้นเองครับ ไม่นาน แล้วพวกผมจะพากลับมาส่ง”

    “แฮ่ก แฮ่ก !! ชั้นไม่.....”  เอ๊ะ เมื่อกี้เค้าว่าอะไรนะ  บ้านคัตซึคาว่างั้นเหรอ

    ชั้นหยุดวิ่งทันที รถแล่นเลยไปข้างหน้าก่อนเบรกและถอยกลับมา

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    บ้านคัตซึคาว่า



    ชายชุดดำพาชั้นมาที่บ้านหลังหนึ่ง ชั้นจะเรียกว่าบ้านได้มั้ยนะ เพราะว่าภายในรั้วที่ทั้งสูงและไกลมากนั้น

    คฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งอยู่ตรงกลางพื้นที่กว้างขวาง หน้าบ้านจัดเป็นสวนญี่ปุ่น ดูจากขนาดพื้นที่แล้ว

    น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะมากกว่า มีสระว่ายน้ำอยู่ทางด้านขวา มองไปไกลๆเห็นสนามเทนนิสด้วย

    ส่วนทางด้านซ้ายของตัวบ้านเป็นอาคารไม้หลังคาสูง มีแผ่นป้ายติดด้านหน้าเขียนว่าโรงฝึกคาราเต้



    แว่บหนึ่งชั้นรู้สึกกลัวขึ้นมา นี่ชั้นนั่งรถมากับคนแปลกหน้าด้วยรองเท้าข้างเดียว

    แล้วนี่จะใช่บ้านของคัตซึคาว่าที่ชั้นรู้จักรึเปล่านะ  คนนามสกุลเดียวกันในโตเกียวก็มีเยอะแยะซะด้วยสิ

    แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ชั้นก็คงหนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ -_-“



    ชายสูงอายุท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่กลางห้อง

    เมื่อชั้นถูกเชิญเข้าไป เจ้าดำอ้วนก็พูดขึ้น

    “นี่คือมิมุระซังครับ”

    แล้วเจ้าดำอ้วนนั่นก็โค้งหนึ่งที ชายคนนั้นพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้ออกไป

    ชายสูงอายุคนนั้นมีแววตาที่ดูเอื้ออาทร ดังนั้นจึงทำให้ชั้นไม่กลัวที่จะก้าวเข้าไป

    ชั้นเข้าไปยืนที่กลางห้อง โค้งคำนับอย่างตั้งใจ

    “สวัสดีค่ะ”

    “อ้อ... สวัสดีมิมุระซัง”

    ชายคนนั้นมองมาที่ชั้น แล้วจ้องไปรองเท้าที่ชั้นถืออยู่ (รองเท้าที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของชั้น)

    “ชั้นคงทำเธอลำบากสินะ”

    “อ้อ ... ไม่หรอกค่ะ  คุณลุง ...ว่าแต่...”

    จริงๆแล้วตอนแรกชั้นโมโหมาก ชั้นต้องวิ่งแทบตาย และเสียรองเท้าคู่โปรดด้วย

    แต่ชั้นก็รู้ว่าไม่ควรเสียมารยาทกับผู้ใหญ่อ่ะนะ



    “ชั้นเป็นพ่อของยูซาโตะ”

    “คะ:::?”

    ความจริงชั้นพอจะเดาได้ เพราะนี่คือบ้านคัตซึคาว่า แต่ที่ชั้นเดาไม่ได้ก็คือทำไมชั้นต้องมาที่นี่ด้วย

    O-o หรือว่าจะเป็นเหมือนในละคร! ที่บ้านของพระเอกคัดค้านความรักของพระเอกและนางเอก!



    “ชั้นรู้มาว่าคนเธอคือคนที่ยูซาโตะชอบ”

    -_-“ นี่เค้าบอกคนไปทั่วเลยรึไงนะ

    “คุณลุงทราบได้อย่างไรคะ”

    “ไม่มีอะไรเกี่ยวกับลูกชายชั้นที่ชั้นไม่รู้  มานั่งนี่สิ”

    คุณลุงยกชาขึ้นจิบ พลางชี้มือไปที่เก้าอี้ข้างหน้า ชั้นดินเข้าไป พูดขออนุญาตก่อนนั่งลง



    “หนูเป็นเด็กน่ารักนะ”

    “คะ.... ขอบคุณค่ะ”

    “สมัยนี้ผู้หญิงที่เรียนสูงๆอย่างหนูหายาก ชั้นรู้มาว่าบ้านของหนูอยู่ที่เกียวโต

    แม่ของหนูก็รับจ้างเลี้ยงเด็กอย่างนั้นใช่มั้ย”

    “ค่ะ” O-o มีอะไรที่คุณลุงท่านนี้ไม่รู้อีกมั้ยเนี่ย

    “เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ...ชั้นตรวจสอบประวัติของเธอแล้ว ถือว่าเธอสอบผ่านนะ

    ในการที่จะมาเป็นสะใภ้คนเดียวของครอบครัวเรา อีกสองปียูซาโตะและเธอก็จะเรียนจบ

    ดังนั้นก่อนที่จะถึงเวลานั้น ขอให้เธอ...ช่วยดูแลเค้าด้วย ก่อนจะถึงวันนั้นพวกเธอต้องหมั้นกันก่อน

    ชั้นไม่อยากให้มันตัดสินใจอะไรผิดพลาดอีก”

    \\o_O/

    อะไรกันนี่! สอบประวัติ สะใภ้คนเดียว  หมั้น  นี่เค้าพูดเรื่องอะไรกัน

    แล้วอะไรที่ผิดพลาด โอย...ชั้นมึนแล้วนะ

    ชั้นสูดลมหายใจแรงๆหนึ่งที ก้มหัวคำนับสวยๆก่อนพูด

    “ขอโทษนะคะ หนูคิดว่าคุณลุงอาจจะเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะคะ”

    “เอ๋...?”

    “พวกเราไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ เราแค่จะแสดงละครด้วยกันเท่านั้นเอง”

    “5555 เธอนี่ตลกดี”

    “???”

    คุณลุงยืนขึ้น และหันไปทางหน้าต่าง แผ่นหลังของเค้าทำให้ชั้นนึกถึงคนบางคน

    เค้าช่างคล้ายกับนายตาโตนั่น ทั้งหน้าตา และท่าทาง

    “ชั้นไม่ได้สนว่าพวกเธอจะเป็นแฟนรึไม่”

    “คุณ... คุณลุงคะ???”



    ยังไม่ทันที่ชั้นจะได้ถามอะไรต่อไป ประตูหน้าก็เปิดออก คัตซึคาว่า ยูซาโตะยืนอยู่ที่หน้าประตู

    เค้าส่งสายตาเย็นชาไปที่พ่อของเค้า ซึ่งยังคงยืนยิ่งอยู่ท่าเดิม ไม่แม้แต่จะหันกลับมา

    “มิมุระ มานี่”

    “เอ่อ...” ชั้นยังทำอะไรไม่ถูก

    “ชั้นบอกให้มานี่!”

    พูดจบเค้าก็เดินตรงเข้ามาลากตัวชั้นออกไป ชั้นรีบโค้งอำลาคุณลุงคนนั้นก่อนถูกลากปลิวออกจากห้องไป



    “นี่... ปล่อยชั้นนะ” ชั้นร้องเมื่อเค้าหยุดที่หน้าบ้าน

    “เธอมาที่นี่ทำไม”

    เค้าถามเสียงแข็ง มือเค้ายังคงบีบที่แขนชั้น

    “โอ๊ย... ปล่อยก่อนได้มั้ย ชั้นเจ็บ”

    ดูเหมือนเค้าเพิ่งจะรู้ตัว จึงคลายมือออก

    “ขอโทษ แล้วเธอบอกได้รึยังว่าเธอมาที่นี่ทำไม”

    “เธออยากรู้เธอก็ไปถามพ่อเธอดูสิ”

    “เค้าเรียกให้เธอมา เธอก็มางั้นเหรอ”

    “แล้วนี่นายจะโมโหอะไรเนี่ย เป็นบ้ารึไง” ชั้นตัดสินใจไม่บอกสิ่งที่คุณลุงคุยกับชั้นเมื่อครู่

    “จะกลับรึยัง” เค้าถาม

    “อืม”



    “คุณเอซึ ขับรถไปส่งเพื่อนผมด้วย”

    เค้าพูดกับนายอ้วนดำ ซึ่งมายืนอยู่ข้างหลังพวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

    “ครับ คุณหนู”

    คุณหนูเหรอ ^_^ น่ารักจัง ชั้นหันไปมองเค้า เห็นเค้าหน้าแดง และแกล้งหันไปทางอื่น

    ชั้นเดินตามเจ้าอ้วนดำมาที่รถ ก่อนจะเข้าไปนั่งด้านหลัง คัตซึคาว่าเดินตามมา

    ในมือเค้ามีรองเท้าอีกข้างที่หายไปของชั้น O-O แล้วมันไปอยู่ที่เค้าได้ยังไงเนี่ย



    เค้าดึงประตูเปิดออกก่อนจะโน้มตัวลงมาในรถ แล้วดึงขาข้างที่ไม่มีรองเท้าของชั้น

    “นี่ นี่ !! หยุดนะ นายจะทำอะไรน่ะ” ชั้นจะดึงเท้ากลับ

    “อยู่เฉยๆเซ่! ทำไมเธอนี่ช่างยุ่งซะจริง” เสียงดังของเค้าทำให้ชั้นเงียบลง ยอมให้เค้าสวมรองเท้าให้แต่โดยดี

    เค้าบรรจงสวมรองเท้าให้ชั้น แล้วค่อยๆปล่อยมือ

    “เอ่อ ขอบคุณนะ” ชั้นพึมพำ (จริงๆแล้วชั้นเขินมากเลย)

    “กลับดีๆนะ มิมุระ” เค้าพูดก่อนปิดประตูเบาๆก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนออกไป



    ชั้นเหมือนตกอยู่ในความฝัน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเป็นความจริงรึเปล่า ตอนที่เค้าสวมรองเท้าให้เมื่อกี้

    อย่างกับบทละครที่เราซ้อมกันทุกเย็นวันศุกร์ แล้วยังเรื่องที่พ่อเค้าพูดอีก ...เอ.. แต่ชั้นเหมือนลืมอะไรไปนะ

    ชั้นลืมอะไรไปรึเปล่านะ??



    ***********************************************************************

    จากผู้แต่ง

    เกร็ดเล็กๆน้อยๆนะคะ - เกียวโตแม้จะชื่อคล้ายเมืองโตเกียว แต่ก็เป็นเมืองที่อยู่ห่างออกไป

    และอยู่ในคนละภูมิภาคกันด้วย (อยู่คนละภาคกันน่ะค่ะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×