ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฉัน เธอ รัก เขา
ร้านขนมทาร์ตสวีทบัน
กิ๊ง ก่อง
“สวัสดีค่ะ อ๊ะ”
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ ชั้นก็เลยมาช่วยงานที่ร้านพี่นานะทั้งวัน
เพื่อนทั้งสามของชั้นยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตู
“เมื่อวานเป็นไงบ้าง” ริวจิถามเรียบๆ ผิดกับสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ของยัยยูมี
“ยูมี ชั้นมีเรื่องคุยกับเธอ”
“อะไรเหรอ” -o-
“มานี่ซิ” ชั้นดึงเธอไปคุยที่หน้าร้าน ซาโต้กับริวจิมองผ่านกระจกมาที่เราสองคนด้วยความสนใจ
“นี่ ... เค้าหล่อเน้อ” =>_<=
“เธอบอกเค้าว่าชั้นอดข้าวจนเป็นลมเหรอ?”
“เธอว่าเค้าไม่หล่อรึไง”
“ชั้นถามเรื่องที่เธอ...”
“เท่มากๆเลย เค้ายังไม่มีแฟนด้วยนะ”
ชั้นเริ่มหมดความอดทนที่จะรอคำตอบ -_-#
“เข้าร้านกันเถอะ ยูมี”
“แล้วเมื่อกี้เธอถามชั้นว่าอะไรนะ”
“ไม่  มี  อะ  ไร” -_-#
หลังจากวันนั้นพวกเราก็ต้องซ้อมบทกันทุกวันศุกร์ ยัยยูมีเอาแต่บ่นเรื่องที่ไม่มีบทระหว่างนางฟ้า
กับเจ้าชาย เธอเสนอให้พี่มาริเปลี่ยนบทให้นางฟ้าเสกรถม้ากับฟักทองให้เจ้าชาย 2แต่พี่มาริไม่เห็นด้วย
ความคิดนั้นเลยตกไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องเรียนภาษาอังกฤษ
“ยูมี เธอทำอะไรน่ะ อาจารย์มองแล้วนะ”
“ชู่ส์ ชั้นกำลังเขียนจดหมายรัก”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอจะส่งถึงใคร จดหมายรักถึงเจ้าชายนั่นเอง  -_-
“นี่ คาเนจัง” ยูมียื่นจดหมายที่ใส่ซองเรียบร้อยมาให้ชั้น
“อะไร”
“ฝากให้เค้าด้วยนะ” >||<
!! บ้าไปแล้วแน่ๆ แต่ชั้นก็รับซองนั้นมา ก็ชั้นไม่มีเหตุผลอะไรจะปฏิเสธนี่นา
ฮือๆ เจ้าชายของชั้น ต้องกลายเป็นเจ้าชายของนางฟ้าไปซะแล้ว ชั้นก็ชอบเค้าเหมือนกันน้า -_-~
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกิจกรรม
“เอาล่ะ ทุกคนวันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพี่จะประชุมกับพวกเด็กปีหนึ่งต่อ นักแสดงปีสองกลับได้”
เสียงสวรรค์จากพี่มาริ บอกให้พวกเรากลับได้
ชั้นถอนหายใจขึ้นมาเฮือกใหญ่ๆหลังจากต้องท่องบทยาวๆ ซึ่งเป็นบทขอพรจากนางฟ้า
แต่งบทโดยนางฟ้ายูมี  -_-^
(ส่วนนางฟ้าก็ปรากฏตัวออกมาแล้วพูดแค่ว่า “Your dream will come true” ประโยคเดียว)
ก่อนกลับยูมีหันมาจ้องตาชั้น ทำปากขมุบขมิบ อ่านได้ความว่า “อย่า  ลืม” ก่อนจะลุกลี้ลุกลนเก็บของ
กลับไป ชั้นหันไปมองคัตซึคาว่า ตานั่นก็กำลังเก็บของอยู่เหมือนกัน ชั้นจะทำยังไงดีนะ
“คัตซึคาว่า ตอนนี้เธอว่างมั้ย”
เค้าเงยหน้าขึ้นมา หน้าตาเค้าเหมือนเจ้าชายเพราะขนตายาวๆพวกนี้สินะ
“อืม ... ชั้น  ตอนนี้ไม่ว่างน่ะ” เค้าทำท่าลังเล
“งั้น พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้ชั้นก็ไม่ว่าง ที่บ้านชั้นจะมีงานน่ะ เราต้องช่วยกันเตรียมงานนิดหน่อย”
“...” -_-*
“สักสองทุ่มชั้นไปหาเธอที่บ้านได้ไหม?”
“หา .. อ้อ สองทุ่มชั้นยังทำงานอยู่น่ะ อยู่ที่ร้านขนมก่อนถึงหอชั้น”
“งั้นสองทุ่มเจอกันที่นั่น ชั้นไปก่อนล่ะ”
แล้วเค้าก็วิ่งออกไป ชั้นยังกำจดหมายของยูมีไว้ วันพรุ่งนี้ชั้นค่อยให้เค้าแล้วกัน
ทำไมนะ ชั้นถึงได้รู้สึกปวดใจจังเลย เมื่อกี้นี้แวบนึง ชั้นคิดว่าอยากให้เค้าปฏิเสธที่จะรับจดหมายนี่
ชั้นผิดไหมนะที่คิดแบบนี้ แย่จัง ชั้นรู้สึกผิดกับยูมีจังเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ร้านขนมทาร์ตสวีทบัน ทุ่มครึ่ง
ระหว่างที่ชั้นกำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ชั้นก็เหลือบเห็นเค้าผ่านทางกระจกใสหน้าร้าน
เค้าใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีเลือดหมู กับกางเกงยีนส์ที่ดูดีมากๆตัวนึง นั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามร้าน
ข้างๆเก้าอี้ไม้ยาวตัวนั้นมีโคมไฟส่องถนนอยู่ติดกันพอดีจึงมีแสงสว่างพอให้อ่านหนังสือได้
นี่เค้าไม่ได้โทรเข้ามาเรียกชั้น คงเพราะมันยังไม่ถึงสองทุ่มละมั้ง แต่ตอนนี้ลูกค้าไม่มีแล้ว
พี่นานะกำลังเก็บกวาดอยู่ในครัว ฉันจึงเริ่มปิดร้าน และเตรียมตัวกลับ
“รอนานไหม”
“ไม่เป็นไร ชั้นอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ”
ชั้นนั่งลงที่โต๊ะไม้ข้างๆเค้า  มองไปฝั่งตรงข้ามพี่นานะกำลังล็อคกุญแจร้าน เธอโบกมือมาให้ฉันก่อนเดินจากไป
เราสองคนเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะพูดขึ้นมา
“เรื่องที่ชั้นจะบอกเธอ...”
“เราเดินไปคุยไปเถอะ” นายตาโตลุกขึ้นแล้วพูดโดยไม่มองหน้าชั้น
เราเดินไปตามถนนเส้นเดิม สิ่งที่แตกต่างกันก็คือวันนี้ชั้นไม่ได้อยู่บนหลังของเธอ
ตอนนั้น ชั้นอยากจะบอกเธอว่าชั้นชอบเธอมาก แต่ตอนนี้ชั้นกำลังจะบอกว่าเพื่อนชั้นชอบเธอ
ฮือ ... ชั้นรู้สึกเศร้าจัง
เราเดินกันมาได้ครึ่งทางแล้ว แต่ชั้นก็ยังไม่ได้บอกเค้าเรื่องจดหมาย ในที่สุดเค้าก็พูดขึ้นมาก่อน
“มิมุระ”
เค้าหยุดเดิน แต่ก็ยังมองตรงไปข้างหน้า
“หือ?”
“ให้ชั้นเป็นคนดูแลเธอได้ไหม”
“...” O_O
ก็ได้ ...ชั้นมันเลว ชั้นค่อยๆเอาจดหมายของยูมี สอดลงกระเป๋ากระโปรง
“เธอไม่ต้องตอบชั้นตอนนี้ก็ได้”
เค้ายังคงมองไปข้างหน้า สองมือล้วงกระเป๋า (ชั้นก็ล้วงกระเป๋าอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อซ่อนจดหมาย
ของยูมี เพื่อนรัก ชั้นขอโทษ)
ไม่กี่วินาทีตอนนั้น แต่มันช่างนานเหมือนหลายชั่วโมง ในที่สุดชั้นก็พูดออกไป
“ขอโทษนะ” ชั้นตอบออกไปแบบนั้น
แค่ชั้นไม่ได้เอาจดหมายของยูมีให้เค้ามันก็รู้สึกผิดมากเกินไปแล้ว
อีกสองสามวินาทีที่ไม่มีใครพูดอะไร (แต่ก็นั่นแหละ ชั้นรู้สึกว่ามันเหมือนหลายชั่วโมง)
“เอ่อ... งั้นชั้นกลับก่อนนะ ใกล้ถึงบ้านเธอแล้วนี่”
เค้าเดินหันหลังกลับไป
“ขอโทษนะ คัตซึคาว่า”
ชั้นตะโกนตามหลังเค้าไป เค้าไม่ได้หันกลับมาเพียงแต่โบกมือให้ฉันเท่านั้นเอง
มันปวดที่ใจ จนน้ำตาไหลออกมา
....คัตซึคาว่า ชั้นก็ชอบเธอเหมือนกัน
...ขอบคุณนะที่ชอบชั้น
...แล้วก็ขอโทษด้วยนะ
แล้วคืนนั้นชั้นก็ร้องไห้จนตาบวมก่อนจะหลับไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องพักนิสิตปีสอง คณะวิทยาศาสตร์
เก้าโมงครึ่งแล้ว ตอนนี้ทุกคนควรจะอยู่ในห้องเรียน ชั้นไม่ได้มุ่งตรงไปที่ห้องเรียน
แต่เดินมาที่ห้องพักนิสิต กะว่ารอให้หมดคาบก่อนแล้วค่อยแอบเข้าห้องเรียน
ในห้องพักนิสิตที่ควรจะไม่มีใคร แต่ยูมีอยู่ที่นั่น เธอหันมาตอนที่ชั้นผลักประตูเข้าไป
“คาเนโกะ”
“ยูมี ทำไมเธอไม่เข้าเรียน”
ชั้นหยุดอยู่ตรงประตู
“ชั้นรอเธอ ... เค้าว่ายังไงบ้าง”
“ยังไง  อะ.. อะไรเหรอ”
“เรื่องจดหมายไง”
-_-‘  ชั้นจะบอกยูมียังไงดีนะ
“เอ่อ... ยูมี ชั้น ชั้น ..ปวดฉี่น่ะ ชั้นไปก่อนนะ” 
แล้วชั้นก็วิ่งหนีไป 
“เดี๋ยว คาเนโกะ มาคุยกันก่อน”
ยูมีตะโกนตามชั้นออกมา 
ชั้นขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ เสียงยูมีเรียกชั้นอยู่ที่หน้าประตู
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ คาเนโกะ ตอบชั้นเซ่  นี่ชั้นใจไม่ดีนะ”
“ยูมี ชั้นไม่ได้ส่งจดหมายให้เธอ”
ชั้นสอดจดหมายในเป้ออกไปด้านนอก
“ทำไม?” เสียงเธอเบาลง
“ชั้น คือ...”
“เธอชอบเค้าเหรอ?”
“เปล่า เปล่า คือเมื่อวานเราทะเลาะกันน่ะ เรื่อง... เรื่องบทน่ะ เธอเอาไปให้เค้าเองแล้วกันนะ”
ชั้นค่อยๆเปิดประตูออกมา ที่หน้าประตูยูมียืนถือจดหมายนั่น ตาเธอแดงและมีน้ำตาเอ่อเต็มทั้งสองตา
“เธอชอบเค้า!!”
“ยูมี...”
ยูมีวิ่งหนีไป ชั้นเรียกเธออีก แต่เธอก็ไม่หันกลับมา
ตอนนี้ชั้นรู้สึกหดหู่สุดๆ ชั้นหักอกผู้ชายคนนึง แล้วชั้นก็อกหัก แล้วเพื่อนก็มาโกรธชั้นอีก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรงอาหารรวม
ชั้นไม่มีอารมณ์เข้าเรียนเลยเดินไปหาอะไรกินที่โรงอาหาร
โรงอาหารที่มหาวิทยาลัยมีอยู่หลายจุด แต่ชั้นชอบที่นี่ที่สุด เป็นโรงอาหารที่บรรยากาศเหมือน
คาเฟ่ ที่มีอาหารตามสั่งทั้งข้าวชุดญี่ปุ่น และมีอาหารฟาสต์ฟู้ดพวกแฮมเบอร์เกอร์ด้วย
[กรุ๊ง กริ๊ง]
“ยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานกล่าวต้อนรับ
ชั้นมองหาที่นั่ง แล้วสายตาชั้นก็เหลือบไปเห็นนายตาโต ที่สำคัญเค้ามองมาที่ชั้นซะด้วยสิ
ชั้นต้องทำตัวเป็นปกติ ยังไงดี? แล้วชั้นก็ตัดสินใจก้าวตรงไปยังโต๊ะที่เค้านั่งอยู่
“สวัสดีจ้ะ คัตซึคาว่า”
“สวัสดี”
เค้าตอบโดยไม่หันมามองหน้าชั้น
“กินข้าวอยู่เหรอ ชั้นนั่งด้วยนะ”
“อืม”
ชั้นนั่งลงตรงข้ามเค้า พนักงานเดินเข้ามารับออเดอร์
“ข้าวห่อไข่ที่นึงค่ะ”
ชั้นหันไปบอกพนักงาน
“เอ๊ะ... ไม่ได้นะ”
ชั้นหันมามองเค้าด้วยความสงสัย พนักงานคนนั้นก็ดูท่าทางงงเช่นเดียวกัน
“ทำไม?”
“ก็ชั้นกินอยู่ เธอห้ามกินเหมือนชั้น”
นี่มันบ้ารึเปล่า ทำไมชั้นถึงกินเหมือนเค้าไม่ได้?
“นี่ นาย....”
ก่อนที่ชั้นจะเถียงเค้าต่อ
[กรุ๊ง กริ๊ง]
“สวัสดีค่ะ” เสียงพนักงานคนเดิมกล่าวต้อนรับ
กลุ่มคนที่เข้ามาใหม่นั้นไม่ใช่ใคร เพื่อนทั้งสามของชั้นเอง ชั้นไม่อยากให้ยูมีเห็นชั้นในตอนนี้เลย บ้าจริง
แต่ท่าทางซาโต้คงยังไม่รู้เรื่องระหว่างชั้นกับยูมี อีตานั่นยิ้มแฉ่งเดินตรงเข้ามา
“คาเนโกะ ไม่น่าเชื่อเลย พวกเธออยู่ด้วยกันเหรอเนี่ย”
-o- ชั้นพูดไม่ออก  ยูมีกำลังมองมา ตาของเธอยังแดง และตอนนี้ดูเหมือนเธอจะร้องไห้อีก
แล้วยูมีก็วิ่งออกจากร้านไป ทิ้งความงุนงงไว้ให้เพื่อนอีกสองคน
“ยูมี  เดี๋ยวก่อน”  ชั้นวิ่งตามเธอออกไป
“ยูมี เธอกำลังเข้าใจผิดนะ” ชั้นรีบพูดเมื่อเธอหยุดวิ่งที่หน้าตึกพละ
“ชั้น... ไม่อยากคุยกับเธอ”
“ยูมี...”
“ชั้นไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
“ยูมี..” ตอนนี้ชั้นเริ่มร้องไห้บ้าง ยูมีสะบัดมือชั้นออกจากแขนเธอแล้วหันหลังให้
ชั้นไม่กล้าแม้แต่จะจับไหล่เธอ ถึงตอนนี้ชั้นทำได้อย่างเดียวคือหันหลังแล้วเดินออกมา
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกิจกรรม วันศุกร์
“นี่พวกเธอสองคนเป็นอะไรไป” พี่มาริตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย
ฉากที่เราซ้อมกันอยู่ก็คือฉากที่นางฟ้าเสกเสื้อผ้าที่สวยงามให้ซินเดอเรลล่า แต่ตลอดเวลาที่เราซ้อมบทกัน
ยูมีไม่มองหน้าชั้นเลย ส่วนตัวชั้นก็ได้แต่พยายามทำให้ปกติที่สุด
“พอ พอ เปลี่ยนไปซ้อมฉากเต้นรำแทน” พี่มาริไม่อาจทนบรรยากาศอึดอัดนั้นต่อไป
“หวังว่าเธอคงไม่มีปัญหาอีกคนนะ คัตซึคาว่า”
นายตาโตเดินมา พี่มาริคงจะหัวเสียอีกแน่ถ้ารู้ว่านายคัตซึคาว่าก็ไม่มองหน้าชั้นเหมือนกัน
“ไม่ครับ ไม่มีปัญหา”
“ดี งั้นเริ่มซ้อมบทเต้นรำ คนอื่นไปพักก่อน”
ชั้นยังยืนอยู่ตรงกลางห้อง คัตซึคาว่าเดินมาตรงหน้าชั้น พวกเราไม่มีใครกล้าจับมือใครก่อน
“จับมือกันเซ่ โธ่...” พี่มาริตะโกน
เราค่อยๆแตะมือกัน พี่มาริเปิดเพลง แล้วเธอก็เดินมาจัดท่าให้ชั้น
“ใครให้เธอแตะมือแบบนี้ นี่มันไม่ใช่เต้นรำรอบกองไฟนะ. นี่แบบนี้”
ชั้นถูกพี่มาริผลักตัวเราให้ชิดกัน แล้วมือของเค้าก็ถูกจับให้มาโอบที่หลังชั้น -o-‘
ชั้นมองไปทางยูมี เธอจ้องมาทางชั้น แล้วเธอก็วิ่งพรวดพราดออกจากห้องไป
ถึงตอนนี้ทุกคนในห้องก็เลยเข้าใจสถานการณ์  พี่มาริกุมขมับ
“เฮ้อ.. นี่น่ะ มันอะไรกัน พวกเธอไปคุยกันก่อนดีมั้ย  พอ พอ ชั้นกลับบ้านก่อน
เจอกันวันศุกร์หน้า”
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทีละคน ตัวชั้นเองก็เดินกลับบ้านอย่างเซ็งๆ
ชั้นคิดออกแล้ว พรุ่งนี้ชั้นจะไปคุยกับยูมี  ชั้นจะต้องไม่ทะเลาะกับเพื่อนเพราะเรื่องแบบนี้
พรุ่งนี้ชั้นจะไปบอกยูมีว่าชั้นไม่ได้ชอบคัตซึคาว่า แล้วเราก็จะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
... ไม่ยากเลย
... ไม่ยากเลย
แล้วน้ำตาชั้นก็ไหลออกมาอีก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อีกครึ่งทางจะถึงสถานี ฝนก็เริ่มตกลงมา ค่อยๆแรงขึ้นแรงขึ้น น้ำตาของชั้นไหลรวมปะปนกับน้ำฝน 
ชั้นเข้าไปหลบในตู้โทรศัพท์ นี่มันเริ่มดึกแล้ว ไม่รู้ว่าชั้นต้องติดฝนอยู่อีกนานเท่าไหร่
ชั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาริวจิ
“ริวจิ... ฮือ นายอยู่ไหนน่ะ มีร่มมั้ย”
“นี่เธอร้องไห้อยู่รึไง แล้วอยู่ที่ไหน”
“ชั้นอยู่ในตู้โทรศัพท์หน้าร้ายเทปังโนจู”
“แล้วเธอไปทำอะไรในนั้นล่ะ ยายบ๊องเอ๊ย รอตรงนั้นนะ เดี๋ยวชั้นไปรับ”
รอดแล้ว มีเพื่อนก็ดีอย่างนี้เองนะ ชั้นนึกถึงยูมีจัง ถ้าเป็นเมื่อก่อนชั้นคงโทรหายูมีเป็นคนแรก
แต่ตอนนี้เธอคงไม่อยากแม้แต่จะรับโทรศัพท์ชั้น เมื่อกี้เธอยังบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าชั้นด้วยซ้ำ
สิบนาทีต่อมามีรถแท็กซี่มาจอดข้างๆตู้โทรศัพท์ แล้วริวจิก็เดินกางร่มออกมา
“เอ้า ... แล้วออกมาเร็ว”
ริวจิยื่นร่มอีกคันมาให้แล้ววิ่งนำไปหน้าร้านเทปังโนจู ตรงนั้นมีกันสาดกว้างพอให้หลบฝนได้
“เธอ ..โอเคนะ”
“อื้ม”
พวกเรายืนรอกันอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง แล้วฝนก็หยุด ริวจิยืนยันจะไปส่งชั้นที่บ้าน
“ไม่ต้องกังวลนะ”
ชั้นพยักหน้า แต่จริงๆแล้วชั้นก็ยังกังวลอยู่มากเลยล่ะ
“แล้ววันจันทร์พวกเธอคุยกันนะ คุยกันให้เข้าใจ”
“ชั้นคิดไว้แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง ชั้นเข้าบ้านล่ะ นายก็กลับดีๆนะ”
“อืม บาย”
คืนวันนั้นชั้นฝันร้าย ชั้นฝันว่าซินเดอเรลล่าขอพรจากนางฟ้าเพื่อจะได้ไปพบเจ้าชาย
แต่นางฟ้านั้นแอบชอบเจ้าชายอยู่ตั้งแต่แรก จึงเสกให้ซินเดอเรลล่าเป็นคางคกไป
แล้วนางฟ้าก็ขึ้นรถฟักทองไปหาเจ้าชายซะเอง -_-“
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกิจกรรม หนึ่งเดือนถัดมา
ตั้งแต่วันนั้นยูมีก็หลบหน้าชั้น เธอย้ายที่นั่งไปอยู่ริมหน้าต่าง ช่วงเที่ยงก็รีบออกไปก่อน
บางครั้งเธอก็ไปกินข้าวกับกลุ่มเด็กเรียน ส่วนซาโต้กับริวจิก็แบ่งหน้าที่กัน
ริวจิมาอยู่เป็นเป็นเพื่อนชั้น ส่วนซาโต้ก็ไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนยูมี
ชั้นเองก็อยากจะคุยกับยูมี แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้คุยกันเลย อย่างไรพวกเรายังต้องซ้อมบทด้วยกัน
ทุกเย็นวันศุกร์ นั่นคือเวลาเดียวที่ชั้นจะได้พูดกับยูมี ซึ่งก็เป็นบทพูดในละครเท่านั้นเอง
วันนี้เป็นวันของซาโต้กับริวจิ ทั้งสองต้องทำหน้าที่ลากและเข็นรถเข็น ที่ตอนนี้พวกเรากำลัง
ช่วยกันแต่งให้มันมีหน้าตาคล้ายฟักทองมากที่สุด ส่วนริวจิก็ต้องแต่งตัวเป็นม้า
พวกน้องๆปีหนึ่งเอาหน้ากากม้ามาสวมให้ริวจิ (พวกเราขำกันทั้งห้อง)
“ตายแล้ว” เสียงพี่มาริร้องขึ้นขณะที่เรากำลังตบแต่งรถฟักทอง
ทุกคนหยุดกิจกรรม หันมาตามเสียงของพี่มาริ
“เรายังขาด คนที่เป็นทหารของเจ้าชายน่ะจ้ะ พี่ไม่คิดว่าเจ้าชายต้องถือรองเท้าแก้วเอง”
“ให้ซาโต้ แสดงบทนั้นด้วยดีมั้ยคะ” ชั้นออกความเห็น
พี่มาริส่ายหน้า
“พี่กลัวว่าจะเปลี่ยนชุดไม่ทัน แล้วอีกอย่างริวจิคงดึงรถคนเดียวไม่ไหวหรอก . คัตซึคาว่า”
“ครับ”
“ตอนนี้มีเธอคนเดียว ที่เป็นตัวแทนจากคณะวิศวะ เธอไปหาเพื่อนมาช่วยอีกคน”
“อ่อ ... ครับ”
ผิดคาด ชั้นนึกว่านายจะปฏิเสธซะอีก เพราะนายก็ไม่ได้ตั้งใจมาแสดงตั้งแต่แรกแล้ว
แล้วนี่ต้องไปหาคนมาร่วมแสดงอีก แต่คงเกรงใจรุ่นพี่มาริ จึงไม่กล้าปฏิเสธ
“ขอบใจจ้ะ” พี่มาริยิ้มหวาน
“พี่ๆค้า กระดาษสีส้มหมดแล้วค่ะ” น้องปีหนึ่งตะโกน
“ชั้นไปซื้อให้ค่ะ” ยูมีอาสา
ยูมีคงหาเหตุผลที่จะหลบหน้าไปอีก
“งั้นให้คาเนโกะไปด้วยแล้วกันจะได้ช่วยกันถือ”
“...”
ชั้นกับยูมีมองหน้ากัน ด้วยความรู้สึกคนละแบบ ชั้นอยากไปกับยูมี จะได้มีโอกาสคุยกัน
ส่วนยูมีคงไม่อยากไปกับชั้นเธอจึงปฏิเสธออกมา
“พี่มาริคะ ขอโทษค่ะ”
“จ๊ะ”
“คือชั้นปวดท้องน่ะค่ะ คงไปไม่ไหวแล้ว”
ข้ออ้าง ชั้นรู้ ยูมีเธอไม่ได้ปวดท้องหรอก สุดท้ายชั้นก็เลยต้องเดินออกมาคนเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชั้นเดินจ้ำไปที่ร้านขายเครื่องเขียน สักพักได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมาข้างหลัง
“คัตซึคาว่า”
“พี่มาริให้ชั้นมาช่วยเธอถือของน่ะ”
“อ้อ ... เหรอ” ชั้นไม่รู้จะพูดอะไร
จริงๆแล้วดีใจที่ได้เจอกันข้างนอกอย่างนี้ แต่เค้าคงคิดไม่เหมือนกัน หน้าตาเค้าดูเฉยๆ
ชั้นเดินนำไป ส่วนเค้าก็เดินตามหลังมาเงียบๆ เราไม่ได้คุยอะไรกัน จนถึงร้านเครื่องเขียน
“กระดาษสีส้มมีอยู่ยี่สิบแบบเหรอคะ !”
วันนี้ชั้นได้รู้ว่ามันมีสีส้มอยู่อย่างน้อยยี่สิบชนิดในโลกนี้ -_-“
“เดี๋ยวชั้นช่วยเลือก” คัตซึคาว่าเดินเข้ามาในร้านเมื่อได้ยินเสียงของชั้น
“ขอบคุณ” ชั้มพึมพัม ก่อนที่เราจะค่อยๆเดินดูกระดาษสีส้มเจ้าปัญหานั่น
“อ๊า... ชั้นว่าอันนี้แหละ”
คัตซึคาว่าตะโกนออกมาหลังจากที่เราหากันอยู่นาน ชั้นหันไปตามเสียง
เห็นเค้านั่งรื้อกองกระดาษอยู่หลังตู้กระจกตรงมุมตู้เก็บกระดาษแคบๆนั่น ชั้นกระเถิบตัวเข้าไปซ้อนด้านหลังเค้า
ของวางระเกะระกะข้างบนนี่ก็จริงๆเล้ย ไม่ได้จัดร้านมั่งหรือไงนะ
\"อันนี้แหละ ชั้นว่าใช่เลย\"
ชั้นต้องย่อตัวแล้วชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ  ด้วยลักษณะนั้นทำให้หน้าของชั้นอยู่ใกล้ไหล่ของเค้า
“เธอว่าใช่เหรอ?” ชั้นถาม
“ก็ อุ๊บ!!”
เค้าหันมากระทันหัน เลยทำให้.... (กรี๊ด >-< ขอกรี๊ดแป๊บนึงค่ะ) หน้าของเค้ามาชนกับแก้มของชั้น
ชั้นแทบจะกระโดดออกมาจากตรงนั้นด้วยความตกใจ ส่วนเค้าก็รีบยืนขึ้น
ชั้นถอยมาชนกับม้วนกระดาษที่ตั้งอยู่ทำให้กระดาษม้วนๆเหลานั้นล้มระเนระนาด
ส่วนเค้าก็หัวกระแทกกับชั้นวางไหมพรม ทำให้ไหมพรมหลากสีตรงนั้นร่วงลงมากองท่วมบริเวณนั้น
ถึงชั้นจะยังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้ชั้นกลั้นหัวเราะไม่อยู่
พวกเราหัวเราะให้กันขณะที่ช่วยกันเก็บของที่เราทำกระจัดกระจาย
พวกเราที่เดินกลับไปที่ห้องซ้อมหลังจากซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว คัตซึคาว่าเดินนำไปเร็วมาก
จนชั้นเกือบจะต้องเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง
“นี่ รอชั้นด้วยสิ” ชั้นวิ่งไม่ไหวแล้วนะตาบ้า
คัตซึคาว่าหยุด และค่อยๆหันหน้ามา หน้าเค้ากลับไปมีแววเฉยชาอย่างเดิม เมื่อกี้เค้ายังยิ้มอยู่เลย
“อย่าทำอย่างงี้” คัตซึคาว่าพูดกับชั้น แต่ไม่มองหน้าชั้น
“หือ... ทำอะไร???” ชั้นงง
“อย่ายิ้ม... อย่ามองหน้าชั้น... อย่าหัวเราะแบบเมื่อกี้อีก เพราะ... เพราะ มันจะทำให้ชั้นรักเธอ”
ชั้นก็รักเธอเหมือนกัน ในใจชั้นพูดแบบนั้น แต่ปากชั้นกลับปิดสนิท
“ ”
คัตซึคาว่าเดินไปแล้ว แต่ชั้นยังยืนอยู่  สุดท้ายชั้นก็ตัดสินใจหันหลังเดินกลับบ้าน
ไม่กลับไปที่ห้องกิจกรรมอีก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากผู้เขียน
เกร็ดความรู้ - นักเรียนญี่ปุ่นจะเปิดเทอมเดือนเมษายนค่ะ
เดือนเมษาของญี่ปุ่นไม่ใช่หน้าร้อนนะคะแต่เป็นฤดูใบไม้ผลิค่ะ
กิ๊ง ก่อง
“สวัสดีค่ะ อ๊ะ”
เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ ชั้นก็เลยมาช่วยงานที่ร้านพี่นานะทั้งวัน
เพื่อนทั้งสามของชั้นยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตู
“เมื่อวานเป็นไงบ้าง” ริวจิถามเรียบๆ ผิดกับสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ของยัยยูมี
“ยูมี ชั้นมีเรื่องคุยกับเธอ”
“อะไรเหรอ” -o-
“มานี่ซิ” ชั้นดึงเธอไปคุยที่หน้าร้าน ซาโต้กับริวจิมองผ่านกระจกมาที่เราสองคนด้วยความสนใจ
“นี่ ... เค้าหล่อเน้อ” =>_<=
“เธอบอกเค้าว่าชั้นอดข้าวจนเป็นลมเหรอ?”
“เธอว่าเค้าไม่หล่อรึไง”
“ชั้นถามเรื่องที่เธอ...”
“เท่มากๆเลย เค้ายังไม่มีแฟนด้วยนะ”
ชั้นเริ่มหมดความอดทนที่จะรอคำตอบ -_-#
“เข้าร้านกันเถอะ ยูมี”
“แล้วเมื่อกี้เธอถามชั้นว่าอะไรนะ”
“ไม่  มี  อะ  ไร” -_-#
หลังจากวันนั้นพวกเราก็ต้องซ้อมบทกันทุกวันศุกร์ ยัยยูมีเอาแต่บ่นเรื่องที่ไม่มีบทระหว่างนางฟ้า
กับเจ้าชาย เธอเสนอให้พี่มาริเปลี่ยนบทให้นางฟ้าเสกรถม้ากับฟักทองให้เจ้าชาย 2แต่พี่มาริไม่เห็นด้วย
ความคิดนั้นเลยตกไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องเรียนภาษาอังกฤษ
“ยูมี เธอทำอะไรน่ะ อาจารย์มองแล้วนะ”
“ชู่ส์ ชั้นกำลังเขียนจดหมายรัก”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอจะส่งถึงใคร จดหมายรักถึงเจ้าชายนั่นเอง  -_-
“นี่ คาเนจัง” ยูมียื่นจดหมายที่ใส่ซองเรียบร้อยมาให้ชั้น
“อะไร”
“ฝากให้เค้าด้วยนะ” >||<
!! บ้าไปแล้วแน่ๆ แต่ชั้นก็รับซองนั้นมา ก็ชั้นไม่มีเหตุผลอะไรจะปฏิเสธนี่นา
ฮือๆ เจ้าชายของชั้น ต้องกลายเป็นเจ้าชายของนางฟ้าไปซะแล้ว ชั้นก็ชอบเค้าเหมือนกันน้า -_-~
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกิจกรรม
“เอาล่ะ ทุกคนวันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพี่จะประชุมกับพวกเด็กปีหนึ่งต่อ นักแสดงปีสองกลับได้”
เสียงสวรรค์จากพี่มาริ บอกให้พวกเรากลับได้
ชั้นถอนหายใจขึ้นมาเฮือกใหญ่ๆหลังจากต้องท่องบทยาวๆ ซึ่งเป็นบทขอพรจากนางฟ้า
แต่งบทโดยนางฟ้ายูมี  -_-^
(ส่วนนางฟ้าก็ปรากฏตัวออกมาแล้วพูดแค่ว่า “Your dream will come true” ประโยคเดียว)
ก่อนกลับยูมีหันมาจ้องตาชั้น ทำปากขมุบขมิบ อ่านได้ความว่า “อย่า  ลืม” ก่อนจะลุกลี้ลุกลนเก็บของ
กลับไป ชั้นหันไปมองคัตซึคาว่า ตานั่นก็กำลังเก็บของอยู่เหมือนกัน ชั้นจะทำยังไงดีนะ
“คัตซึคาว่า ตอนนี้เธอว่างมั้ย”
เค้าเงยหน้าขึ้นมา หน้าตาเค้าเหมือนเจ้าชายเพราะขนตายาวๆพวกนี้สินะ
“อืม ... ชั้น  ตอนนี้ไม่ว่างน่ะ” เค้าทำท่าลังเล
“งั้น พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้ชั้นก็ไม่ว่าง ที่บ้านชั้นจะมีงานน่ะ เราต้องช่วยกันเตรียมงานนิดหน่อย”
“...” -_-*
“สักสองทุ่มชั้นไปหาเธอที่บ้านได้ไหม?”
“หา .. อ้อ สองทุ่มชั้นยังทำงานอยู่น่ะ อยู่ที่ร้านขนมก่อนถึงหอชั้น”
“งั้นสองทุ่มเจอกันที่นั่น ชั้นไปก่อนล่ะ”
แล้วเค้าก็วิ่งออกไป ชั้นยังกำจดหมายของยูมีไว้ วันพรุ่งนี้ชั้นค่อยให้เค้าแล้วกัน
ทำไมนะ ชั้นถึงได้รู้สึกปวดใจจังเลย เมื่อกี้นี้แวบนึง ชั้นคิดว่าอยากให้เค้าปฏิเสธที่จะรับจดหมายนี่
ชั้นผิดไหมนะที่คิดแบบนี้ แย่จัง ชั้นรู้สึกผิดกับยูมีจังเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ร้านขนมทาร์ตสวีทบัน ทุ่มครึ่ง
ระหว่างที่ชั้นกำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ชั้นก็เหลือบเห็นเค้าผ่านทางกระจกใสหน้าร้าน
เค้าใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีเลือดหมู กับกางเกงยีนส์ที่ดูดีมากๆตัวนึง นั่งอ่านหนังสือรออยู่ที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามร้าน
ข้างๆเก้าอี้ไม้ยาวตัวนั้นมีโคมไฟส่องถนนอยู่ติดกันพอดีจึงมีแสงสว่างพอให้อ่านหนังสือได้
นี่เค้าไม่ได้โทรเข้ามาเรียกชั้น คงเพราะมันยังไม่ถึงสองทุ่มละมั้ง แต่ตอนนี้ลูกค้าไม่มีแล้ว
พี่นานะกำลังเก็บกวาดอยู่ในครัว ฉันจึงเริ่มปิดร้าน และเตรียมตัวกลับ
“รอนานไหม”
“ไม่เป็นไร ชั้นอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ”
ชั้นนั่งลงที่โต๊ะไม้ข้างๆเค้า  มองไปฝั่งตรงข้ามพี่นานะกำลังล็อคกุญแจร้าน เธอโบกมือมาให้ฉันก่อนเดินจากไป
เราสองคนเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะพูดขึ้นมา
“เรื่องที่ชั้นจะบอกเธอ...”
“เราเดินไปคุยไปเถอะ” นายตาโตลุกขึ้นแล้วพูดโดยไม่มองหน้าชั้น
เราเดินไปตามถนนเส้นเดิม สิ่งที่แตกต่างกันก็คือวันนี้ชั้นไม่ได้อยู่บนหลังของเธอ
ตอนนั้น ชั้นอยากจะบอกเธอว่าชั้นชอบเธอมาก แต่ตอนนี้ชั้นกำลังจะบอกว่าเพื่อนชั้นชอบเธอ
ฮือ ... ชั้นรู้สึกเศร้าจัง
เราเดินกันมาได้ครึ่งทางแล้ว แต่ชั้นก็ยังไม่ได้บอกเค้าเรื่องจดหมาย ในที่สุดเค้าก็พูดขึ้นมาก่อน
“มิมุระ”
เค้าหยุดเดิน แต่ก็ยังมองตรงไปข้างหน้า
“หือ?”
“ให้ชั้นเป็นคนดูแลเธอได้ไหม”
“...” O_O
ก็ได้ ...ชั้นมันเลว ชั้นค่อยๆเอาจดหมายของยูมี สอดลงกระเป๋ากระโปรง
“เธอไม่ต้องตอบชั้นตอนนี้ก็ได้”
เค้ายังคงมองไปข้างหน้า สองมือล้วงกระเป๋า (ชั้นก็ล้วงกระเป๋าอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อซ่อนจดหมาย
ของยูมี เพื่อนรัก ชั้นขอโทษ)
ไม่กี่วินาทีตอนนั้น แต่มันช่างนานเหมือนหลายชั่วโมง ในที่สุดชั้นก็พูดออกไป
“ขอโทษนะ” ชั้นตอบออกไปแบบนั้น
แค่ชั้นไม่ได้เอาจดหมายของยูมีให้เค้ามันก็รู้สึกผิดมากเกินไปแล้ว
อีกสองสามวินาทีที่ไม่มีใครพูดอะไร (แต่ก็นั่นแหละ ชั้นรู้สึกว่ามันเหมือนหลายชั่วโมง)
“เอ่อ... งั้นชั้นกลับก่อนนะ ใกล้ถึงบ้านเธอแล้วนี่”
เค้าเดินหันหลังกลับไป
“ขอโทษนะ คัตซึคาว่า”
ชั้นตะโกนตามหลังเค้าไป เค้าไม่ได้หันกลับมาเพียงแต่โบกมือให้ฉันเท่านั้นเอง
มันปวดที่ใจ จนน้ำตาไหลออกมา
....คัตซึคาว่า ชั้นก็ชอบเธอเหมือนกัน
...ขอบคุณนะที่ชอบชั้น
...แล้วก็ขอโทษด้วยนะ
แล้วคืนนั้นชั้นก็ร้องไห้จนตาบวมก่อนจะหลับไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องพักนิสิตปีสอง คณะวิทยาศาสตร์
เก้าโมงครึ่งแล้ว ตอนนี้ทุกคนควรจะอยู่ในห้องเรียน ชั้นไม่ได้มุ่งตรงไปที่ห้องเรียน
แต่เดินมาที่ห้องพักนิสิต กะว่ารอให้หมดคาบก่อนแล้วค่อยแอบเข้าห้องเรียน
ในห้องพักนิสิตที่ควรจะไม่มีใคร แต่ยูมีอยู่ที่นั่น เธอหันมาตอนที่ชั้นผลักประตูเข้าไป
“คาเนโกะ”
“ยูมี ทำไมเธอไม่เข้าเรียน”
ชั้นหยุดอยู่ตรงประตู
“ชั้นรอเธอ ... เค้าว่ายังไงบ้าง”
“ยังไง  อะ.. อะไรเหรอ”
“เรื่องจดหมายไง”
-_-‘  ชั้นจะบอกยูมียังไงดีนะ
“เอ่อ... ยูมี ชั้น ชั้น ..ปวดฉี่น่ะ ชั้นไปก่อนนะ” 
แล้วชั้นก็วิ่งหนีไป 
“เดี๋ยว คาเนโกะ มาคุยกันก่อน”
ยูมีตะโกนตามชั้นออกมา 
ชั้นขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ เสียงยูมีเรียกชั้นอยู่ที่หน้าประตู
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ คาเนโกะ ตอบชั้นเซ่  นี่ชั้นใจไม่ดีนะ”
“ยูมี ชั้นไม่ได้ส่งจดหมายให้เธอ”
ชั้นสอดจดหมายในเป้ออกไปด้านนอก
“ทำไม?” เสียงเธอเบาลง
“ชั้น คือ...”
“เธอชอบเค้าเหรอ?”
“เปล่า เปล่า คือเมื่อวานเราทะเลาะกันน่ะ เรื่อง... เรื่องบทน่ะ เธอเอาไปให้เค้าเองแล้วกันนะ”
ชั้นค่อยๆเปิดประตูออกมา ที่หน้าประตูยูมียืนถือจดหมายนั่น ตาเธอแดงและมีน้ำตาเอ่อเต็มทั้งสองตา
“เธอชอบเค้า!!”
“ยูมี...”
ยูมีวิ่งหนีไป ชั้นเรียกเธออีก แต่เธอก็ไม่หันกลับมา
ตอนนี้ชั้นรู้สึกหดหู่สุดๆ ชั้นหักอกผู้ชายคนนึง แล้วชั้นก็อกหัก แล้วเพื่อนก็มาโกรธชั้นอีก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรงอาหารรวม
ชั้นไม่มีอารมณ์เข้าเรียนเลยเดินไปหาอะไรกินที่โรงอาหาร
โรงอาหารที่มหาวิทยาลัยมีอยู่หลายจุด แต่ชั้นชอบที่นี่ที่สุด เป็นโรงอาหารที่บรรยากาศเหมือน
คาเฟ่ ที่มีอาหารตามสั่งทั้งข้าวชุดญี่ปุ่น และมีอาหารฟาสต์ฟู้ดพวกแฮมเบอร์เกอร์ด้วย
[กรุ๊ง กริ๊ง]
“ยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานกล่าวต้อนรับ
ชั้นมองหาที่นั่ง แล้วสายตาชั้นก็เหลือบไปเห็นนายตาโต ที่สำคัญเค้ามองมาที่ชั้นซะด้วยสิ
ชั้นต้องทำตัวเป็นปกติ ยังไงดี? แล้วชั้นก็ตัดสินใจก้าวตรงไปยังโต๊ะที่เค้านั่งอยู่
“สวัสดีจ้ะ คัตซึคาว่า”
“สวัสดี”
เค้าตอบโดยไม่หันมามองหน้าชั้น
“กินข้าวอยู่เหรอ ชั้นนั่งด้วยนะ”
“อืม”
ชั้นนั่งลงตรงข้ามเค้า พนักงานเดินเข้ามารับออเดอร์
“ข้าวห่อไข่ที่นึงค่ะ”
ชั้นหันไปบอกพนักงาน
“เอ๊ะ... ไม่ได้นะ”
ชั้นหันมามองเค้าด้วยความสงสัย พนักงานคนนั้นก็ดูท่าทางงงเช่นเดียวกัน
“ทำไม?”
“ก็ชั้นกินอยู่ เธอห้ามกินเหมือนชั้น”
นี่มันบ้ารึเปล่า ทำไมชั้นถึงกินเหมือนเค้าไม่ได้?
“นี่ นาย....”
ก่อนที่ชั้นจะเถียงเค้าต่อ
[กรุ๊ง กริ๊ง]
“สวัสดีค่ะ” เสียงพนักงานคนเดิมกล่าวต้อนรับ
กลุ่มคนที่เข้ามาใหม่นั้นไม่ใช่ใคร เพื่อนทั้งสามของชั้นเอง ชั้นไม่อยากให้ยูมีเห็นชั้นในตอนนี้เลย บ้าจริง
แต่ท่าทางซาโต้คงยังไม่รู้เรื่องระหว่างชั้นกับยูมี อีตานั่นยิ้มแฉ่งเดินตรงเข้ามา
“คาเนโกะ ไม่น่าเชื่อเลย พวกเธออยู่ด้วยกันเหรอเนี่ย”
-o- ชั้นพูดไม่ออก  ยูมีกำลังมองมา ตาของเธอยังแดง และตอนนี้ดูเหมือนเธอจะร้องไห้อีก
แล้วยูมีก็วิ่งออกจากร้านไป ทิ้งความงุนงงไว้ให้เพื่อนอีกสองคน
“ยูมี  เดี๋ยวก่อน”  ชั้นวิ่งตามเธอออกไป
“ยูมี เธอกำลังเข้าใจผิดนะ” ชั้นรีบพูดเมื่อเธอหยุดวิ่งที่หน้าตึกพละ
“ชั้น... ไม่อยากคุยกับเธอ”
“ยูมี...”
“ชั้นไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
“ยูมี..” ตอนนี้ชั้นเริ่มร้องไห้บ้าง ยูมีสะบัดมือชั้นออกจากแขนเธอแล้วหันหลังให้
ชั้นไม่กล้าแม้แต่จะจับไหล่เธอ ถึงตอนนี้ชั้นทำได้อย่างเดียวคือหันหลังแล้วเดินออกมา
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกิจกรรม วันศุกร์
“นี่พวกเธอสองคนเป็นอะไรไป” พี่มาริตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย
ฉากที่เราซ้อมกันอยู่ก็คือฉากที่นางฟ้าเสกเสื้อผ้าที่สวยงามให้ซินเดอเรลล่า แต่ตลอดเวลาที่เราซ้อมบทกัน
ยูมีไม่มองหน้าชั้นเลย ส่วนตัวชั้นก็ได้แต่พยายามทำให้ปกติที่สุด
“พอ พอ เปลี่ยนไปซ้อมฉากเต้นรำแทน” พี่มาริไม่อาจทนบรรยากาศอึดอัดนั้นต่อไป
“หวังว่าเธอคงไม่มีปัญหาอีกคนนะ คัตซึคาว่า”
นายตาโตเดินมา พี่มาริคงจะหัวเสียอีกแน่ถ้ารู้ว่านายคัตซึคาว่าก็ไม่มองหน้าชั้นเหมือนกัน
“ไม่ครับ ไม่มีปัญหา”
“ดี งั้นเริ่มซ้อมบทเต้นรำ คนอื่นไปพักก่อน”
ชั้นยังยืนอยู่ตรงกลางห้อง คัตซึคาว่าเดินมาตรงหน้าชั้น พวกเราไม่มีใครกล้าจับมือใครก่อน
“จับมือกันเซ่ โธ่...” พี่มาริตะโกน
เราค่อยๆแตะมือกัน พี่มาริเปิดเพลง แล้วเธอก็เดินมาจัดท่าให้ชั้น
“ใครให้เธอแตะมือแบบนี้ นี่มันไม่ใช่เต้นรำรอบกองไฟนะ. นี่แบบนี้”
ชั้นถูกพี่มาริผลักตัวเราให้ชิดกัน แล้วมือของเค้าก็ถูกจับให้มาโอบที่หลังชั้น -o-‘
ชั้นมองไปทางยูมี เธอจ้องมาทางชั้น แล้วเธอก็วิ่งพรวดพราดออกจากห้องไป
ถึงตอนนี้ทุกคนในห้องก็เลยเข้าใจสถานการณ์  พี่มาริกุมขมับ
“เฮ้อ.. นี่น่ะ มันอะไรกัน พวกเธอไปคุยกันก่อนดีมั้ย  พอ พอ ชั้นกลับบ้านก่อน
เจอกันวันศุกร์หน้า”
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทีละคน ตัวชั้นเองก็เดินกลับบ้านอย่างเซ็งๆ
ชั้นคิดออกแล้ว พรุ่งนี้ชั้นจะไปคุยกับยูมี  ชั้นจะต้องไม่ทะเลาะกับเพื่อนเพราะเรื่องแบบนี้
พรุ่งนี้ชั้นจะไปบอกยูมีว่าชั้นไม่ได้ชอบคัตซึคาว่า แล้วเราก็จะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
... ไม่ยากเลย
... ไม่ยากเลย
แล้วน้ำตาชั้นก็ไหลออกมาอีก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อีกครึ่งทางจะถึงสถานี ฝนก็เริ่มตกลงมา ค่อยๆแรงขึ้นแรงขึ้น น้ำตาของชั้นไหลรวมปะปนกับน้ำฝน 
ชั้นเข้าไปหลบในตู้โทรศัพท์ นี่มันเริ่มดึกแล้ว ไม่รู้ว่าชั้นต้องติดฝนอยู่อีกนานเท่าไหร่
ชั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาริวจิ
“ริวจิ... ฮือ นายอยู่ไหนน่ะ มีร่มมั้ย”
“นี่เธอร้องไห้อยู่รึไง แล้วอยู่ที่ไหน”
“ชั้นอยู่ในตู้โทรศัพท์หน้าร้ายเทปังโนจู”
“แล้วเธอไปทำอะไรในนั้นล่ะ ยายบ๊องเอ๊ย รอตรงนั้นนะ เดี๋ยวชั้นไปรับ”
รอดแล้ว มีเพื่อนก็ดีอย่างนี้เองนะ ชั้นนึกถึงยูมีจัง ถ้าเป็นเมื่อก่อนชั้นคงโทรหายูมีเป็นคนแรก
แต่ตอนนี้เธอคงไม่อยากแม้แต่จะรับโทรศัพท์ชั้น เมื่อกี้เธอยังบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าชั้นด้วยซ้ำ
สิบนาทีต่อมามีรถแท็กซี่มาจอดข้างๆตู้โทรศัพท์ แล้วริวจิก็เดินกางร่มออกมา
“เอ้า ... แล้วออกมาเร็ว”
ริวจิยื่นร่มอีกคันมาให้แล้ววิ่งนำไปหน้าร้านเทปังโนจู ตรงนั้นมีกันสาดกว้างพอให้หลบฝนได้
“เธอ ..โอเคนะ”
“อื้ม”
พวกเรายืนรอกันอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง แล้วฝนก็หยุด ริวจิยืนยันจะไปส่งชั้นที่บ้าน
“ไม่ต้องกังวลนะ”
ชั้นพยักหน้า แต่จริงๆแล้วชั้นก็ยังกังวลอยู่มากเลยล่ะ
“แล้ววันจันทร์พวกเธอคุยกันนะ คุยกันให้เข้าใจ”
“ชั้นคิดไว้แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง ชั้นเข้าบ้านล่ะ นายก็กลับดีๆนะ”
“อืม บาย”
คืนวันนั้นชั้นฝันร้าย ชั้นฝันว่าซินเดอเรลล่าขอพรจากนางฟ้าเพื่อจะได้ไปพบเจ้าชาย
แต่นางฟ้านั้นแอบชอบเจ้าชายอยู่ตั้งแต่แรก จึงเสกให้ซินเดอเรลล่าเป็นคางคกไป
แล้วนางฟ้าก็ขึ้นรถฟักทองไปหาเจ้าชายซะเอง -_-“
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกิจกรรม หนึ่งเดือนถัดมา
ตั้งแต่วันนั้นยูมีก็หลบหน้าชั้น เธอย้ายที่นั่งไปอยู่ริมหน้าต่าง ช่วงเที่ยงก็รีบออกไปก่อน
บางครั้งเธอก็ไปกินข้าวกับกลุ่มเด็กเรียน ส่วนซาโต้กับริวจิก็แบ่งหน้าที่กัน
ริวจิมาอยู่เป็นเป็นเพื่อนชั้น ส่วนซาโต้ก็ไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนยูมี
ชั้นเองก็อยากจะคุยกับยูมี แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้คุยกันเลย อย่างไรพวกเรายังต้องซ้อมบทด้วยกัน
ทุกเย็นวันศุกร์ นั่นคือเวลาเดียวที่ชั้นจะได้พูดกับยูมี ซึ่งก็เป็นบทพูดในละครเท่านั้นเอง
วันนี้เป็นวันของซาโต้กับริวจิ ทั้งสองต้องทำหน้าที่ลากและเข็นรถเข็น ที่ตอนนี้พวกเรากำลัง
ช่วยกันแต่งให้มันมีหน้าตาคล้ายฟักทองมากที่สุด ส่วนริวจิก็ต้องแต่งตัวเป็นม้า
พวกน้องๆปีหนึ่งเอาหน้ากากม้ามาสวมให้ริวจิ (พวกเราขำกันทั้งห้อง)
“ตายแล้ว” เสียงพี่มาริร้องขึ้นขณะที่เรากำลังตบแต่งรถฟักทอง
ทุกคนหยุดกิจกรรม หันมาตามเสียงของพี่มาริ
“เรายังขาด คนที่เป็นทหารของเจ้าชายน่ะจ้ะ พี่ไม่คิดว่าเจ้าชายต้องถือรองเท้าแก้วเอง”
“ให้ซาโต้ แสดงบทนั้นด้วยดีมั้ยคะ” ชั้นออกความเห็น
พี่มาริส่ายหน้า
“พี่กลัวว่าจะเปลี่ยนชุดไม่ทัน แล้วอีกอย่างริวจิคงดึงรถคนเดียวไม่ไหวหรอก . คัตซึคาว่า”
“ครับ”
“ตอนนี้มีเธอคนเดียว ที่เป็นตัวแทนจากคณะวิศวะ เธอไปหาเพื่อนมาช่วยอีกคน”
“อ่อ ... ครับ”
ผิดคาด ชั้นนึกว่านายจะปฏิเสธซะอีก เพราะนายก็ไม่ได้ตั้งใจมาแสดงตั้งแต่แรกแล้ว
แล้วนี่ต้องไปหาคนมาร่วมแสดงอีก แต่คงเกรงใจรุ่นพี่มาริ จึงไม่กล้าปฏิเสธ
“ขอบใจจ้ะ” พี่มาริยิ้มหวาน
“พี่ๆค้า กระดาษสีส้มหมดแล้วค่ะ” น้องปีหนึ่งตะโกน
“ชั้นไปซื้อให้ค่ะ” ยูมีอาสา
ยูมีคงหาเหตุผลที่จะหลบหน้าไปอีก
“งั้นให้คาเนโกะไปด้วยแล้วกันจะได้ช่วยกันถือ”
“...”
ชั้นกับยูมีมองหน้ากัน ด้วยความรู้สึกคนละแบบ ชั้นอยากไปกับยูมี จะได้มีโอกาสคุยกัน
ส่วนยูมีคงไม่อยากไปกับชั้นเธอจึงปฏิเสธออกมา
“พี่มาริคะ ขอโทษค่ะ”
“จ๊ะ”
“คือชั้นปวดท้องน่ะค่ะ คงไปไม่ไหวแล้ว”
ข้ออ้าง ชั้นรู้ ยูมีเธอไม่ได้ปวดท้องหรอก สุดท้ายชั้นก็เลยต้องเดินออกมาคนเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชั้นเดินจ้ำไปที่ร้านขายเครื่องเขียน สักพักได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมาข้างหลัง
“คัตซึคาว่า”
“พี่มาริให้ชั้นมาช่วยเธอถือของน่ะ”
“อ้อ ... เหรอ” ชั้นไม่รู้จะพูดอะไร
จริงๆแล้วดีใจที่ได้เจอกันข้างนอกอย่างนี้ แต่เค้าคงคิดไม่เหมือนกัน หน้าตาเค้าดูเฉยๆ
ชั้นเดินนำไป ส่วนเค้าก็เดินตามหลังมาเงียบๆ เราไม่ได้คุยอะไรกัน จนถึงร้านเครื่องเขียน
“กระดาษสีส้มมีอยู่ยี่สิบแบบเหรอคะ !”
วันนี้ชั้นได้รู้ว่ามันมีสีส้มอยู่อย่างน้อยยี่สิบชนิดในโลกนี้ -_-“
“เดี๋ยวชั้นช่วยเลือก” คัตซึคาว่าเดินเข้ามาในร้านเมื่อได้ยินเสียงของชั้น
“ขอบคุณ” ชั้มพึมพัม ก่อนที่เราจะค่อยๆเดินดูกระดาษสีส้มเจ้าปัญหานั่น
“อ๊า... ชั้นว่าอันนี้แหละ”
คัตซึคาว่าตะโกนออกมาหลังจากที่เราหากันอยู่นาน ชั้นหันไปตามเสียง
เห็นเค้านั่งรื้อกองกระดาษอยู่หลังตู้กระจกตรงมุมตู้เก็บกระดาษแคบๆนั่น ชั้นกระเถิบตัวเข้าไปซ้อนด้านหลังเค้า
ของวางระเกะระกะข้างบนนี่ก็จริงๆเล้ย ไม่ได้จัดร้านมั่งหรือไงนะ
\"อันนี้แหละ ชั้นว่าใช่เลย\"
ชั้นต้องย่อตัวแล้วชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ  ด้วยลักษณะนั้นทำให้หน้าของชั้นอยู่ใกล้ไหล่ของเค้า
“เธอว่าใช่เหรอ?” ชั้นถาม
“ก็ อุ๊บ!!”
เค้าหันมากระทันหัน เลยทำให้.... (กรี๊ด >-< ขอกรี๊ดแป๊บนึงค่ะ) หน้าของเค้ามาชนกับแก้มของชั้น
ชั้นแทบจะกระโดดออกมาจากตรงนั้นด้วยความตกใจ ส่วนเค้าก็รีบยืนขึ้น
ชั้นถอยมาชนกับม้วนกระดาษที่ตั้งอยู่ทำให้กระดาษม้วนๆเหลานั้นล้มระเนระนาด
ส่วนเค้าก็หัวกระแทกกับชั้นวางไหมพรม ทำให้ไหมพรมหลากสีตรงนั้นร่วงลงมากองท่วมบริเวณนั้น
ถึงชั้นจะยังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้ชั้นกลั้นหัวเราะไม่อยู่
พวกเราหัวเราะให้กันขณะที่ช่วยกันเก็บของที่เราทำกระจัดกระจาย
พวกเราที่เดินกลับไปที่ห้องซ้อมหลังจากซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้ว คัตซึคาว่าเดินนำไปเร็วมาก
จนชั้นเกือบจะต้องเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง
“นี่ รอชั้นด้วยสิ” ชั้นวิ่งไม่ไหวแล้วนะตาบ้า
คัตซึคาว่าหยุด และค่อยๆหันหน้ามา หน้าเค้ากลับไปมีแววเฉยชาอย่างเดิม เมื่อกี้เค้ายังยิ้มอยู่เลย
“อย่าทำอย่างงี้” คัตซึคาว่าพูดกับชั้น แต่ไม่มองหน้าชั้น
“หือ... ทำอะไร???” ชั้นงง
“อย่ายิ้ม... อย่ามองหน้าชั้น... อย่าหัวเราะแบบเมื่อกี้อีก เพราะ... เพราะ มันจะทำให้ชั้นรักเธอ”
ชั้นก็รักเธอเหมือนกัน ในใจชั้นพูดแบบนั้น แต่ปากชั้นกลับปิดสนิท
“ ”
คัตซึคาว่าเดินไปแล้ว แต่ชั้นยังยืนอยู่  สุดท้ายชั้นก็ตัดสินใจหันหลังเดินกลับบ้าน
ไม่กลับไปที่ห้องกิจกรรมอีก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากผู้เขียน
เกร็ดความรู้ - นักเรียนญี่ปุ่นจะเปิดเทอมเดือนเมษายนค่ะ
เดือนเมษาของญี่ปุ่นไม่ใช่หน้าร้อนนะคะแต่เป็นฤดูใบไม้ผลิค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น