ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gem Knight - สงครามอัญมณีครองพิภพ

    ลำดับตอนที่ #5 : ฤดูใบไม้ร่วง

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 54


    Special Chapter: Fall

     

    หนึ่งปีก่อน...

                หลังจากวันนั้น เด็กสาวจะมานั่งเฝ้าท่าเรือตั้งแต่เช้าจรดค่ำทุกวัน ดวงตาอ้างว้างเหม่อมองไปยังอีกฟากหนึ่งของท้องทะเลไกลโพ้น สองมือถือกำไลบุบบี้ พร่ำภาวนาต่อเทพยาดา ขอให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย

                คราใดมีเรือเทียบฝั่ง เธอจะเข้าไปถามบรรดาลูกเรือและพ่อค้าเกี่ยวกับเรื่องของเด็กหนุ่มผู้มีผมสีเขียว ด้วยความหวังริบหรี่

                ทว่าทุกคำตอบกลับเป็นเสมือนลิ่ม ทิ่มแทงดวงใจปริร้าว ครั้งแล้วครั้งเล่า จนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ในที่สุดเด็กสาวก็ไม่อาจฝืนนั่งมองวิวของชายทะเลได้อีก

                เมืองเดิม ทิวทัศน์เดิม แต่เธอกลับรู้สึกแปลแยก ราวกับกำลังย่ำอยู่บนโลกที่ตนไม่รู้จัก

                เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากฤดูใบไม้ผลิสู่ฤดูร้อน จากฤดูร้อนสู่ฤดูใบไม้ร่วง วันหนึ่งหญิงสาวก็กลับมายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้ง

                ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ไม่รู้ขาหรือหัวใจของเธอกันแน่ที่ทรยศความตั้งใจนั้น

                ลมหนาวบาดลึกเข้าไปในหัวใจเหือดแห้ง เกลียวคลื่นม้วนตัวอ้อยอิ่ง ท่าเรือยามไร้ผู้คนช่างกว้างใหญ่เหลือเชื่อ

                จริงสินะ พวกโกไลแอตออกทะเลไปแล้ว...

                หญิงสาวหยุดยืนหน้าแท่นเหล็กสำหรับผูกเรือไว้กับฝั่ง ซึ่งเป็นที่นั่งประจำของเธอ

                วันนั้น ที่ท่าเรือก็เงียบเหงาแบบนี้... หญิงสาวย้อนนึกถึงวันที่เธอได้พบชายหนุ่มเป็นครั้งแรก

     

                นับแต่จำความได้ ภาพแผ่นหลังของพ่อผู้นั่งอยู่หน้าเตาร้อนระอุ กับเสียงค้อนตีเหล็กกระทบทั่งเป็นเสียงเล็กแหลม ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเซชิล

                บ่อยครั้งเด็กหญิงจะออกไปหาเพื่อนเล่นข้างนอก จึงได้รู้จักกับพวกโกไลแอตและสนิทกันอย่างง่ายดาย

                พอถึงฤดูร้อน พวกซีแมนต่างออกทะเล โกไลแอตจึงแอบหยิบฉวยฉมวกกับธนู แล้วชวนเพื่อนไปล่าสัตว์ในป่า

                ป่าโปร่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณครึ่งวัน เด็กหญิงสาวไม่ได้รู้สึกสนุกกับการเอาอาวุธไปทำร้ายสัตว์จึงปฏิเสธ

                เซชิลเลือกมาเดินเล่นแถวท่าเรือที่คุ้นเคย ในตอนนั้นเอง เธอก็พบเด็กคนหนึ่ง ยืนอยู่หน้าที่นั่งประจำของเธอ

                เด็กคนนั้นรู้สึกตัวจึงหันมา ลมทะเลพัดเรือนผมสีเขียวปลิว เผยให้เห็นใบหน้าขาวใสกับดวงตากลมโตสีเขียวมรกต

                เด็กหญิงเผลอจ้องใบหน้านั้นอย่างลืมตัว

                เด็กผู้ชาย...ไม่สิเด็กผู้หญิงหรือ...

                “เจ้าคือเซชิลสินะ” เด็กคนนั้นยิ้มใส

                “เอ๋? ทำไมเจ้าถึง...”

                “ข้าเห็นเจ้าอยู่กับพวกโกไลแอตบ่อยๆ”

                “เจ้า...” ไม่ทันที่เซชิลจะได้ถามอะไร เขาก็เขยิบเข้ามาประชิด

                “ข้าชื่อเลวี” เลวีพูดแค่นั้น แล้วก็เอื้อมมือไปลูบผมสีฟ้าที่ตัดสั้นเหมือนเด็กผู้ชายของเซชิล

                “ผมของเจ้าสวยจังเลย สีฟ้าครามยังกับน้ำทะเลแน่ะ”

                “อย่ามาโกหก ผมของข้าสีประหลาด น่าเกลียดจะตาย” เซชิลถอยออกมาทันที

                ครั้งแรกที่เจอพวกโกไลแอต เธอก็ถูกล้อเรื่องสีผมทันที เด็กหญิงอายจนทนไม่ได้ จึงประเคนกำปั้นเรียงตัว จากนั้นก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ให้เธอได้ยินอีก

                เด็กคนนี้ก็คงเหมือนกัน ปากพูดชมไปยังงั้น ในใจคงแอบหัวเราะอยู่สิท่าเด็กหญิงคิดในใจ

                “ไม่ได้โกหก ผมของเจ้าสวยจริงๆ นะ ข้าชอบมากเลยล่ะ” เลวียิ้มดวงตาเป็นประกาย

                หัวใจของเด็กหญิงพองโต

                “เจ้าก็เหมือนกันเลวี หน้าสวย แถมขนตางอนยาว ขนาดข้าเป็นผู้หญิงยังหลงเลย” เด็กหญิงเปลี่ยนเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกดีใจของตน

                ทันใดนั้นเลวีก็ระเบิดหัวเราะออกมา เซชิลงง ไม่เข้าใจว่าเรื่องที่ตนพูดขำตรงไหน

                “เซชิลข้าไม่ใช่ผู้หญิงหรอกนะ... ข้าเป็นผู้ชาย” เลวีเฉลย

                เด็กหญิงช็อค

                “อะไรนะ! เจ้าเป็นผู้ชายหรอกเหรอ” เซชิลแก้มแดงแป๊ด เธอก้มหน้างุด แทบอยากจะกระโดดทะเลเอโอเลียนเดี๋ยวนี้เลย

                ตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีอะไรนิ่มๆ วางลงบนหัวเด็กหญิง สิ่งนั้นลูบไปมาบนหัวของเธออย่างอ่อนโยน

                เซชิลปัดมือเลวีออก

                “ทำอะไรของเจ้าน่ะ!” เด็กหญิงค้อนควับ ตอนแรกที่ถูกจับผม เธอนึกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงจึงไม่ว่าอะไร แต่คราวนี้ไม่ใช่

                “เมื่อกี้ข้าเห็นภูตขี้อายเกาะอยู่บนหัวเจ้า ก็เลยช่วยไล่ให้ไง” เลวีพูดหน้าตาเฉย “เป็นไง มันไปแล้วใช่ไหม” เด็กชายยิ้มหวาน

                เด็กหญิงหลุดหัวเราะออกมา ทั้งที่ใจหนึ่งยังโกรธอยู่ เธอมองหน้าเลวีแล้วนึกอยากหยิกแก้มสีชมพูนั่นขึ้นมา

                คนอะไร ขี้โกงชะมัด โดยเฉพาะรอยยิ้มหวานนั่น

                เด็กหญิงอมยิ้ม นึกในใจว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้จะลองไว้ผมยาวดูบ้างดีกว่า...

     

                ลมแล้งกรรโชกมาอีกระลอก ท้องฟ้ามัวหม่น ทะเลเงียบเหงา จิตใจของเธอในตอนนี้ก็มีสภาพไม่ต่างกัน

                เพียงหลับตาใบหน้าของเด็กหนุ่มก็ปรากฏชัดในใจ

                ขอบใจนะ ข้าจะท่องโลกไปพร้อมกับกำไลนี้ แล้วกลับมาหาเซชิลแน่นอน

                รอยยิ้มอันอบอุ่นของเด็กหนุ่มยังเจิดจรัสอยู่ในความทรงจำ น้ำเสียงที่นุ่มนวลเป็นดั่งเวทมนตร์ทำให้จิตใจของเธอสงบ

                ตาบ้าเลวี เจ้านี่มันขี้โกงที่สุด เจ้าทำให้ข้าได้รู้จักกับโลกที่งดงามดุจความฝัน เจ้าพัดพาหัวใจของข้าล่องลอยไปด้วยสายลมสดใส ก่อนจะทิ้งมันลงไปในมหาสมุทรที่มืดมิดเหน็บหนาวอย่างโหดร้าย

                เลวี... เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าจะรู้สึกเหมือนที่ข้ารู้สึกไหม รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างในชีวิตได้ขาดหายไป รู้สึกว่าโลกทั้งใบกลายเป็นสีเทา รู้สึกโหยหาอยากเจอหน้าคนๆ หนึ่งจนแทบขาดใจ...

                หยดน้ำอุ่นๆ แตะแก้มสีแดงเรื่อ ก่อนจะเหือดแห้งกลายเป็นรอยชื้นเย็นเยียบ

                เซชิลปาดน้ำตา

                จริงสินะไม่ว่าจะสายลมที่หนาวเหน็บ แสงแดดอันอบอุ่น หรือความโศกเศร้าของข้า เขาก็จะไม่มีวันรับรู้ได้อีกต่อไปแล้ว...

                ในมือหญิงสาวมีมีดเล่มเล็กที่ใช้สำหรับตัดด้าย ระยะหลังเธอจะพกติดตัวไว้เพื่อเวลานี้โดยเฉพาะ

                เซชิลกำผมตัวเอง แล้วเฉือนทิ้งด้วยมีดตัดด้ายเล่มนั้น ก่อนจะแบมือ ปล่อยให้สายลมหอบเส้นผมสีฟ้าครามลงสู่ทะเลอันเวิ้งว้าง

                เธอสาบานกับตัวเองว่า วันนี้เธอจะเสียน้ำตาให้กับเขาเป็นครั้งสุดท้าย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×