ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักวุ่นวิญญาณหลอน (Haunting with Love!)

    ลำดับตอนที่ #9 : ระทึกขวัญ! ชมรมวิจัยวิญญาณ! (ตอนกลาง)

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 53



    วันอาทิตย์ที่ 2x เดือนกรกฎาคม



                    รถเมล์จอดที่หน้าร้านม็อคเบอเกอร์ ผมลงจากรถ มองนาฬิกาก็เห็นว่าเพิ่งห้าโมงครึ่ง อืม... อีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด

                    “โจ้!” ใครคนหนึ่งร้องทัก... ผมรู้จักเจ้าของเสียงใสๆ นี้

                    เมื่อหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นน้ำ วันนี้เธอสวมรองเท้าผ้าใบ กางกางยีนส์ และเสื้อยืดคอวีสีชมพู รวบผมไว้ข้างหลัง ดูทะมัดทะแมง

                    หัวใจของผมพองโต... อาทิตย์นี้ผมได้เห็นน้ำในชุดไปรเวทตั้งสองครั้งแล้ว คุ้มจริงๆ ที่อุตส่าห์ถ่อมาถึงโรงเรียนในวันหยุด!

                    เราสองคนนั่งที่ม้านั่งหน้าป้ายรถเมล์

                    "ว่าแต่คุณพ่อคุณแม่ของน้ำเขาไม่ว่าเหรอ... ออกมาข้างนอกตอนเย็นๆ"

                    น้ำส่ายหน้า

                    "พี่รจน์เขาทำจดหมายจากกรรมการนักเรียนให้นะ อ้างว่าไปดูแลการกิจกรรมนอกสถานที่ของชมรมฯ"

                    ผมอึ้ง... หัวหน้ากรรมการนักเรียนคนนี้นี่ดูถูกไม่ได้เลยแฮะ

                    ว่าแต่ทำไมไม่เห็นมีจดหมายให้ผมเลย... (ก็เขาไม่ได้เชิญแกนี่)

                    “พี่รจน์นี่เป็นคนยังไงเหรอ”

                    “พี่รจน์เหรอ... อืม...ก็เป็นคนจริงจังนะ พี่เขาช่วยสอนงานเกี่ยวกับกรรมการนักเรียนให้เด็กใหม่อย่างฉันตั้งเยอะตั้งแยะ โดยไม่เคยแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเลย ที่ฉันหลงเสน่ห์การเป็นกรรมการนักเรียนก็เพราะพี่รจน์นี่แหละ"

                    ดวงตาของน้ำเป็นประกายขณะเล่า

                    จะหลงเสน่ห์การเป็นกรรมการนักเรียนก็ไม่เป็นไรหรอก... แต่อย่าเป็นเหมือนพี่รจน์เชียวนะ

                    "แล้วเห็นว่าพี่รจน์เรียนเก่งมากๆ เลยนะ ทั้งชั้นม.6 ดูเหมือนจะเป็นรองแค่พี่ตั๋นคนเดียวมั้ง”

                    มิน่าล่ะ... เพราะเห็นพี่ตั๋นเป็นคู่แข่งด้วยมั้ง ถึงได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากเอาชนะซะขนาดนั้น

                    "พี่รจน์เขาก็จริงจังจริงๆ นั่นแหละ น้ำอยู่กับพี่เขาแล้วไม่เหนื่อยแย่เรอะ"

                    “หืมมม.... ดูเป็นห่วงเป็นใยน้ำจังเลยนะ” ใครคนหนึ่งลากเสียงล้อเลียนผมอยู่ข้างหลังม้านั่ง จิตสังหารนี้มัน...!

                    “สวัสดีครับ!” ร่างกายผมทะลึ่งพรวดขึ้นจากม้านั่ง แล้วประนมไหว้เองโดยอัตโนมัติ

                    “พี่รจน์ สวัสดีค่ะ” น้ำลุกขึ้นยกมือไหว้เช่นกัน

                    พี่รจน์รับไหว้

                    “หวัดดีจ๊ะ อืม...ว่าแต่เราชื่อโจ้เรอะ” เธอขมวดคิ้วข้างหนึ่งมองผม

                    “เอ่อ... ครับ”

                    “ฝากดูแลน้ำด้วยนะ”

                    “ครับผม!” ด้วยความยินดียิ่ง!

                    สักครู่หนึ่งพี่ตั๋นก็ขับรถตู้สีขาวมาจอดรับพวกเราที่หน้าโรงเรียน เจ้าต่อก็นั่งมาด้วย

                    “มาสายห้านาที” พี่รจน์ติงหลังจากที่ทุกคนขึ้นรถแล้ว

                    “เอาน่า เธอก็รู้ว่าถนนในกรุงเทพฯมันเป็นยังไง” พี่ตั๋นยิ้มเฉย ตามองถนน ขับรถต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน

                    "งั้นเสร็จงานนี้ต้องพาไปเลี้ยงข้าว เป็นการขอโทษ"

                    "ก็ดีเหมือนกัน ฉันรู้จักหมูกระทะอร่อยอยู่ร้านนึง"

                    "ไม่เอาหมูกระทะ... มีร้านอื่นมั้ย"

                    “เอ่อ... นี่เรากำลังจะไปที่ไหนเหรอคะ” น้ำแทรกขึ้นเป็นการห้ามทัพไปด้วยในตัว

                    “หึๆ ฟังแล้วจะหนาว ที่ๆ เรากำลังจะไปเป็นหมู่บ้านร้างของโครงการบ้านจัดสรรแถวรามอินทราซึ่งได้ชื่อว่าเฮี้ยนติดอันดับต้นๆ เลยล่ะ”

                    “เฮอะ ยังไงก็คงแค่ข่าวลือหลอกเด็ก”

                    “ไม่หรอก คนที่กลับมาจากที่นั่นเขาเล่าให้ฟังว่าเฮี้ยนเอาเรื่องเลยล่ะ ขนาดไปกันหลายๆ คนยังโดนหลอกเลย บ้างก็ว่าได้ยินเสียงร้องเล็กแหลมแสบแก้วหู บ้างก็ว่าเห็นเงาคนยืนกวักเรียกอยู่หน้าบ้านร้าง หลายคนที่ไปที่นั่นก็ต้องเจอดี คือประสบอุบัติกลับมา... โชคดีที่ยังไม่มีใครเป็นอะไรมาก"

                    พี่ตั๋นเล่าอย่างตื่นเต้นและจริงจังเหมือนกำลังพูดถึงเรื่องของคนอื่น... ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้โครงการบ้านจัดสรรที่ว่านั่นจะเฮี้ยนจริงไม่จริง แต่ยิ่งพี่ตั๋นแสดงความมั่นใจเท่าไร ผมก็ยิ่งเสียวไส้เท่านั้น

                    ในตอนนั้นเองพี่ตั๋นก็จอดรถที่ทางแยกสามแพร่งซึ่งมีป้อมยามเล็กๆ

                    "ขอโทษนะครับ โครงการบ้านจัดสรรเฮฟเวนลี่ ไปทางไหนครับ"

                    พี่ยามทำหน้ามุ่ย มองพี่ตั๋นงงๆ

                    "โครงการเฮฟเวนลี่... เลี้ยวซ้ายครับ แล้วนี่พวกน้องจะไปทำอะไรกันเรอะ"

                    "เลี้ยวซ้ายใช่ไหมครับ... ขอบคุณนะครับ พวกเรามาเก็บข้อมูลวิจัยเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติครับ!"

                    ว่าแล้วพี่ตั๋นก็ออกรถ

                    วิวข้างนอกเริ่มมืดและวังเวง แทบไม่มีเสาไฟฟ้าหรือบ้านเรือนให้เห็น ผิดกับก่อนหน้านี้ ทั้งสองข้างทางไปมีแต่ทุ่งหญ้าและต้นไม้ ผมกดไฟจากมือถือเพื่อดูเวลา อีกห้านาทีสองทุ่ม... สองทุ่มมันมืดขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย

                    "เมื่อกี้พี่เล่าถึงไหนแล้วนะ" พี่ตั๋นเอ่ยขึ้น

                    "ก็ที่ว่าบ้านร้างในโครงการฯมันเฮี้ยนไง" เจ้าต่อช่วยเตือนความจำ

                    "เออใช่ๆ ที่จริงบ้านในโครงการเฮฟเวนลี่นั้นสร้างเสร็จไปบางส่วน และเริ่มเปิดขายแล้ว แต่ที่ต้องกลายเป็นหมู่บ้านร้างก็เพราะพิษเศรษฐกิจเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้ไม่ค่อยมีคนมาซื้อ บางคนซื้อแล้วก็ไม่มีปัญญาผ่อน จนโครงการฯล่ม"

                    "แต่นั่นเป็นหน้าฉาก... ที่จริงเจ้าของโครงการนี้ ซื้อที่ดินมาในราคาถูกเพราะที่ตรงนี้เคยเป็นสุสานมาก่อน ได้ยินว่าวิญญาณที่นี่เฮี้ยนมาก ขนาดเชิญทั้งหมอผี ทั้งพราหมณ์ ทั้งคนทรงมาทำพิธีตั้งหลายครั้งก็ยังไม่ได้ผล พวกที่มาอยู่ที่นี่ต่างก็เจอดี จนต้องออกไปกันหมด"

                    เอ่อ... พี่ตั๋นครับ ผมเชื่อแล้วว่าเฮี้ยนจริงๆ ไม่ต้องเล่าแล้วครับ

                    "พี่จิงโจ้ ดูนั่นสิ" อัยย์เรียกให้ผมมองออกไปทางขวามือ

                    "พวกเราดูนั่นสิ!" เจ้าต่อเองก็คงจะเห็นเหมือนกันจึงบอกทุกคนในรถ

                    จะตาฝาดรึเปล่าผมไม่รู้ล่ะ แต่ที่หน้าต่างชั้นสองของบ้านร้างที่มืดสนิท มีแสงสีขาวคล้ายๆ เงาของคนอยู่!

                    "ผี!" เจ้าต่อร้องขึ้น

                    "ไหน? ตั๋นจอดรถก่อน!" พี่รจน์ว่า คงเพราะนั่งอยู่ทางซ้ายของคนขับ จึงมองไม่ค่อยถนัดมั้ง

                    "เอาน่า นี่เพิ่งแค่ออเดิร์ฟ ที่ๆ เรากำลังจะไปนะ รับรองยิ่งกว่านี้อีก!"

                    พี่ตั๋นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่น่าเชื่อว่าพี่ตั๋นจะประสาทแข็งขนาดนี้ แต่เอ๊ะ... เดี๋ยวก่อนสิ!

                    "!!"

                    จู่ๆ รถของเราก็เร่งความเร็วขึ้นจนหลังของผมถูกดันติดกับเก้าอี้...!

                    "แว้กกก!! พี่ตั๋น! คันเร่ง! ปล่อยคันเร่งก๊อนนนน--------!!!!!!"

                    เจ้าต่อร้องเสียงหลง ทันใดนั้นรถก็เบรคกระหันก่อนถึงทางโค้งไม่กี่เมตร จนผมหน้าขมำไปกระแทกกับเก้าอี้ข้างหน้า

                    เอาเข้าไป ไปๆ มาๆ รู้สึกว่าท่านประธานของเราจะขวัญอ่อนกว่าผมอีกมั้ง...

                    จะฝีมือคนหรือวิญญาณไม่รู้ล่ะ ถ้าเมื่อกี้พวกเราแหกโค้งตายหมู่อยู่ที่นี่ล่ะก็ คงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานที่ช่วยตอกย้ำความเฮี้ยนให้กับโครงการเฮฟเวนลี่แน่...

    ... ... ...

    เอ่อ... ยังไม่จบงับ... - -"

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    มุมทักทายจ้า ^^

    ทีแรกว่าจะเขียนเรื่องของชมรมวิจัยวิญญาณแค่สองตอน แต่ตอนที่สองนั้นยาวกว่าที่คิด
    ผมเลยซอยมันเป็นอีกสอง (รวมเป็นสามตอน)... ตอนนี้ก็เลยสั้นไปหน่อยอย่างที่เห็นนี่แหละฮะ แหะๆ

    คุณ ChaosVivikinG: ขอบคุณที่ติดตามเสมอครับ ^^ อัยย์จะได้เจอเพื่อนๆ ไหม
    คงต้องติดตามตอนต่อไปครับ อิอิ

    คุณ [þ-เมฆาล่องลอย§-]: ขอบคุณคร้าบ :)  จะพยายามอัพต่อไปเรื่อยๆ ครับ!


    ส่วนที่น้องพิมถามว่าเลือดที่รจน์เห็นในห้องน้ำที่ราชบุรีนั้น เป็นเลือดจริงๆ หรือเปล่า
    ขอติดไว้เฉลยตอนหน้าละกันน้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×