ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gem Knight - สงครามอัญมณีครองพิภพ

    ลำดับตอนที่ #2 : เลวีกับเซชิล

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 54


    Chapter I: Boy & Girl

     

                สายลมเย็นโชยเหนือทะเลเอโอเลียน แสงแดดฤดูใบไม้ผลิยังความอบอุ่นไปทั่วแผ่นดิน วันนี้ที่ไซคลาดิส เมืองท่าใหญ่แห่งสหพันธรัฐกรีซีเรีย ยังคงคึกคักด้วยเหล่าพ่อค้าจากทั่วสารทิศ

                ณ มุมหนึ่งของท่าเรือ มีเด็กชายสี่คน ยืนล้อมเด็กอีกคนหนึ่ง

                “ไงเลวี เก่งจริงก็ลุกขึ้นมาสิ” เด็กหนุ่มร่างใหญ่ผมสีน้ำตาลหยิก ผลักเลวีกระเด็นไปกระแทกลังไม้ล้มลง

                เลวีมีผมสีเขียวมรกตเส้นเล็กเงางาม ใบหน้าสวยเหมือนผู้หญิง รูปร่างเล็กเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน

                เขาทำท่าจะลุก แต่ก็โดนใครอีกคนเข้ามาขัดขาจากข้างหลัง จนล้มก้นจ้ำเบ้า

                “นอกจากชื่อเหมือนผู้หญิงแล้วยังหน้าเหมือนผู้หญิงอีก” เด็กที่ขัดขาเลวีมีใบหน้าเรียว เขาหัวเราะปากกว้างเห็นฟันเหยิน

                เด็กหนุ่มทั้งห้าเป็นลูกของซีแมนหรือนักเดินเรือ เนื่องจากเลวีมีสีผมประหลาด จึงดูแปลกแยกและตกเป็นเป้าของการรังแกอยู่เสมอ

                “คนอะไรมีผมสีเขียว คงได้มาจากแม่สินะ จริงสิแกไม่มีแม่นี่นา ฮ่าๆ ไอ้เด็กไม่มีแม่” เด็กหนุ่มอีกคนผสมโรงอย่างคึกคะนอง

                ทันใดนั้นก็มีถังไวน์เปล่าลอยเฉี่ยวหัวพวกเด็กเกเรไปกระแทกกำแพงหินด้านหลังแตกกระจาย

                “ไม่มีแม่แล้วมันหนักกบาลพวกเจ้าตรงไหน” น้ำเสียงเดือดดาลดังมาจากเด็กสาวผู้มีผมและนัยน์ตาสีฟ้าครามดุจน้ำทะเล เธอยืนจังก้าอยู่บนลังไม้ซึ่งสูงท่วมหัวเด็กพวกนั้น

                “ยัยเซชิลโผล่มาแล้ว!” เหล่าลูกชายซีแมนทำหน้าเหมือนเห็นผี แล้ววิ่งไปหลบหลังเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลซึ่งเป็นหัวโจก

                เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลมิได้กลัวเกรงเด็กสาว ทั้งสองจ้องตากันอยู่พักหนึ่ง

                “จริงๆ เลย พวกเจ้านี่โตแต่ตัวรึไง รังแกคนอ่อนแอมันสนุกตรงไหน บอกหน่อยซิ โกไลแอต” เซชิลเชิดหน้ามองเด็กหัวโจก

                “นั่นมันเรื่องของข้า” โกไลแอตโวยเหมือนจะตัดพ้อ “แล้วเจ้าล่ะ ทำไมถึงต้องคอยปกป้องเจ้าเลวีอยู่เรื่อย”

                สิ้นคำเด็กหนุ่ม ทุกอย่างพลันเงียบกริบ แม้แต่สายลมยังหยุดนิ่งประดุจจะรอฟังคำตอบจากเด็กสาว

                “ก้อ...” แววตาที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจของเซชิลเริ่มหลุกหลิก “ก็เลวีเขาไม่มีแม่เหมือนกับข้าใช่มั้ย ข้าเลยเห็นเขาเป็นเหมือนน้องชาย ใช่แล้ว พี่สาวก็ต้องปกป้องน้องชายสิ ฮ่าๆๆๆ” เด็กสาวยืนเท้าสะเอวแหงนหน้าหัวเราะกับท้องฟ้าทั้งที่ไม่รู้ว่ามันขำตรงไหน แต่จะให้หยุดหัวเราะก็กลัวเสียฟอร์ม

                โกไลแอตทำหน้าเหมือนกลืนลูกพีชเน่าเข้าไปทั้งลูก “พวกเรากลับกันได้แล้ว” เขาตะโกนบอกเพื่อนๆ แล้วหันหลังเดินจากไป

                “เอ่อ... หยุดหัวเราะได้แล้วมั้ง” เลวีเอ่ยขึ้น เมื่อเขากับเซชิลอยู่กันตามลำพัง

                “อ้าว พวกนั้นไปกันแล้วเรอะ แหะๆ”

                “ขอบใจนะเซชิล” เลวีแหงนหน้ามองเด็กหญิงซึ่งยืนอยู่บนลังไม้ “แต่เจ้าไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังนะ”

                เซชิลฉุนกึ้ก

                “เดิมทีมันก็เพราะเจ้านั่นแหละ ปล่อยให้พวกนั้นรังแกอยู่ได้ ทำไมไม่ตอบโต้บ้าง” อารามโกรธ เธอจึงก้าวสะดุดขอบลังไม้ จนเสียหลักร่วงลงมา

                เลวีประคองร่างของเซชิลไว้อย่างง่ายดาย หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าภายใต้เสื้อตัวเล็กๆ นั้น เด็กหนุ่มได้ซ่อนกล้ามเนื้อที่เกร็งกระชับสมชายชาตรีไว้

                “ไม่เป็นไรใช่ไหม”

                เซชิลพยักหน้า

                หัวใจของเธอเต้นแรง แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่พูดค้างไว้ก็บันดาลโทสะขึ้นมาอีกคำรบ

                อีตานี่แข็งแรงขนาดนี้ ถ้าคิดจะสู้กับพวกโกไลแอตก็สู้ไหวแท้ๆ

                “ว่าแต่ที่มานี่มีธุระอะไรหรือเปล่า” เลวีถาม

                “จริงสิ พรุ่งนี้แล้วไม่ใช่หรือ” เซชิลทำหน้าตื่นเต้น “การออกเดินเรือครั้งแรกของเจ้าไง”

                เด็กหนุ่มยิ้มไร้เดียงสาทำให้ใบหน้าที่ดูเด็กอยู่แล้วยิ่งอ่อนเยาว์ลงไปอีก “ดีใจจัง อุตส่าห์จำได้ด้วย”

                “แหงสิ ก็ข้าเป็นพี่สาวของเจ้านี่” เด็กสาวจ้องใบหน้านั้นตรงๆ แล้วรู้สึกเขิน จึงเฉมองไปทางอื่น

                ซีแมนแห่งไซคลาดิสมีประเพณีว่า เมื่อเด็กผู้ชายมีอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์ก็จะต้องขึ้นเรือเดินสมุทรเพื่อฝึกฝนให้เป็นนักเดินเรือเต็มตัว

                พรุ่งนี้เลวีจะมีอายุครบสิบห้า เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ออกเรือไปกับพ่อและซีแมนคนอื่นๆ เพื่อขนสินค้าไปยังดินแดนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลเอโอเลียน

                “จะว่าไปเซชิลนี่คล้ายกับเอเลเน่เลยนะ” เลวีว่า ขณะที่ทั้งสองเดินเรียบท่าเรือซึ่งเต็มไปด้วยเรือสำเภามากมาย

                “เอเลเน่?”

                “ก็หญิงสาวผู้รวบรวมอัญมณีทั้งแปด แล้วปกป้องโลกใบนี้จากความชั่วร้ายไง มันเป็นเรื่องเมื่อประมาณสองร้อยปีก่อน ได้ยินว่านางมีผมสีฟ้าตาสีฟ้า แถมยังงดงามดุจเทพธิดา...” พูดถึงตรงนี้เลวีก็หันมามองเซชิล “สงสัยข้อสุดท้ายจะไม่เหมือนแฮะ”

                เด็กสาวเขกหัวเพื่อนชาย

                “ข้าไม่สวยตรงไหนยะ”

                “ล้อเล่นจ้ะ แต่ถ้าลดความห้าวลงอีกนิด เซชิลคงงามไม่แพ้เอเลเน่เลยล่ะ”

                “หึ ใช่สิ ก็พ่อข้าอยากมีลูกชายนี่นา ขนาดได้ลูกสาวแท้ๆ ยังตั้งชื่อเป็นผู้ชายอีก ข้าถึงได้แก่นกะโหลกยังงี้ไง” เซชิลงอนตุ๊บป่อง

                เลวีอาศัยอยู่ที่ท่าเรือมาตั้งแต่เล็ก จึงได้ยินเรื่องเล่ามากมายจากพวกพ่อค้านักเดินทาง ตำนานเกี่ยวกับหญิงสาวผู้รวบรวมอัญมณีทั้งแปดนี้เป็นเรื่องที่โด่งดังในแถบทะเลเอโอเลียน ว่ากันว่าใครที่รวบรวมอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดได้จะมีพลังขนาดเปลี่ยนโลกเลยทีเดียว

                “ความกล้าหาญถือเป็นข้อดีของเซชิลอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มกล่าว “เพียงแต่ต้องใช้ให้พอดี หากไร้ความกล้าก็เป็นคนขี้ขลาด กล้ามากไปก็เป็นคนบ้าบิ่น ผู้กล้าคือผู้รู้เวลาที่ควรและไม่ควรกล้า”

                เซชิลทำหน้างง อาจเป็นเพราะเลวีชอบคุยกับคนหลากหลาย จึงมีความคิดอ่านเกินเด็ก

                “หมายความว่าการใช้กำลังไม่ช่วยแก้ปัญหาเสมอไปไง” เลวีลูบหัวเซชิล เขาชอบวิสาสะลูบหัวเพื่อนหญิงแบบนี้บ่อยๆ

                เซชิลเคลิ้มอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบปัดมือออก แล้วหันมามองค้อนๆ ทำนองว่า ฉันแก่กว่านายนะยะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×