ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ผู้หญิงงี่เง่า ผู้ชายมันโง่!: เลคเชอร์ว่าด้วยช่องว่างระหว่างเพศ บนหม้อเอ็มเค
เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย... มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมซึ้งแก่ใจเลยว่าตัวเองไม่มีวันเข้าใจผู้หญิงได้ทั้งหมด...
วันนั้นเป็นวันธรรมดาๆ ในหน้าร้อน หลังจากที่สอบปลายภาคเสร็จ ผมกับใจก็ไปกินมื้อเที่ยงที่เอ็มเคตามปกติ
“เอาบะหมี่เป็ด เกี๊ยวกุ้ง สาหร่ายทรงเครื่อง แล้วก็ผักกาดขาวค่ะ” ใจบอกสาวเสิร์ฟ
“ขอข้าวหน้าเป็ดด้วยครับ” ผมว่า
ใจสั่งบะหมี่เป็ดกับเกี๊ยวกุ้งของโปรด และผักกาดขาวเหมือนทุกครั้ง แปลกนิดเดียวตรงที่วันนี้เธอสั่งสาหร่ายทรงเครื่องด้วย
สาหร่ายทรงเครื่องเป็นของโปรดของผม ที่ผมต้องสั่งทุกครั้ง แต่ในเมื่อวันนี้ใจชิงสั่งไปแล้ว ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้ไม่ต้องลำบากสังเอง
“วันก่อนไอ้ชัยมันทะเลาะกับแฟนแหละ...”
เมื่อสาวเสิร์ฟจากไป บทสนทนาของเราก็เริ่มขึ้น
เรื่องมีอยู่ว่า "นก" แฟนของชัยโกรธชัยที่ไม่ยอมติวเลข (stat) ให้เธอ ทั้งที่ก่อนสอบภาษาอังกฤษเธอยังช่วยติวให้เขา
“แต่ฉันไม่เคยขอให้นกติวอังกฤษให้เลยนะเฟ้ย...”
ชัยบ่นกับผม
“ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็ทำด้วยตัวเองมาตลอด และก็ไม่ชอบให้ใครมาช่วยด้วยซ้ำ ถ้ายัยนกไม่พูดออกมาแล้วใครมันจะไปตรัสรู้ฟะ ว่าอยากให้ตรูไปช่วยติวให้”
วิชาเลขที่นกเพิ่งสอบเสร็จไปนั้นเป็นวิชาที่ชัยไม่ได้ลงทะเบียนเรียน ซ้ำเจ้าชัยก็ไม่ได้เรียนเลขเก่งกว่านกเลยสักนิด
ผมเห็นด้วยกับเจ้าชัยที่มันบอกว่า "ถ้านกไม่พูดแล้วมันจะรู้ได้ไงว่าต้องการให้ช่วยติว"
“เรื่องก็เป็นยังงี้แหละ...”
หลังจากที่ฟาดข้าวหน้าเป็ดหมด ผมก็คีบเกี๊ยวกุ้งตัวที่ 2 เข้าปาก
ใจวางตะเกียบลง มองหน้าผมเซ็งๆ
“ผู้หญิงก็งี่เง่างี้ยังงี้ทั้งนั้นแหละ..."
น้ำเสียงของเธอซีเรียสพอสมควร
“เขารู้ว่าผู้ชายมันโง่! ถ้าไม่บอก มันคิดเองไม่เป็นหรอก... แต่ก็ยังเลือกที่จะทำตัวงี่เง่า ไม่ยอมพูดตรงๆ อยู่ดี”
“ลองถ้าฉันบ่นปวดหัว ชลก็คงวิ่งไปซื้อพาราฯมาให้ ทั้งที่ฉันกำลังขอร้องให้ช่วยติวแท้ๆ ...” เธอว่า
“ยังงั้นหรอกเหรอ....”
ผมว่าพลางคีบสาหร่ายทรงเครื่องชิ้นที่ 5 เข้าปาก
เอ...ทำไมสาหร่ายมันเหลือเยอะจัง
“ผู้ชายนะ ขอแค่พูดคำเดียวมันก็ทำให้แล้ว ขนาดขอให้มาช่วยกรอกน้ำให้มันยังทำเลย...”
ใจพูดถึงชายคนหนึ่งที่โทรไปที่ “คลับฟรายเดย์”
ชายคนนั้นบ่นว่าผู้หญิงที่คบอยู่เอาแต่ใจมากจนเขาอยากจะเลิก แต่พอเจ้าหล่อนโทรมาบอกให้ช่วยกรอกน้ำให้ เขาก็วิ่งแจ้นออกจากบ้านไปกรอกน้ำให้ถึงหอพัก
โธ่เอ๊ย... แกมันก็ไอ้มาโซฯ(ชอบถูกจิกหัวใช้)นั่นแหละ
(ใครไม่เข้าใจความหมายของมาโซฯกรุณาหานิยายประเภท "คุณผู้หญิงเป็นเจ้านายคุณผู้ชายเป็นสัตว์เลี้ยง" มาอ่านซะ)
“นั่นสินะ...” ผมว่า
“ผมเองจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่เข้าใจเธอดีเลย....”
“ใครที่คิดว่าตัวเองเข้าใจผู้หญิงทุกอย่างก็โง่เต็มที” ใจว่า
“ผู้หญิงนะไม่ได้อยากให้ผู้ชายเข้าใจหรอก... ขอแค่ทำให้ถูกใจก็พอ”
ใจคงเป็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ทั้งที่เรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว ผมก็เหมือนยังไม่รู้จักเธออยู่ดี...
“อย่างเมื่อกี้นายกินเกี๊ยวกุ้งของฉันไปสองตัว..." ใจว่า
"ถ้าฉันจะงี่เง่าจริงๆ คงนึกด่าในใจว่า นี่ฉันอุตส่าห์สั่งสาหร่ายให้แกแท้ๆ ทำไมแกยังมาแย่งเกี๊ยวกุ้งฉันกินอีก แล้วพาลโกรธนายไปทั้งวัน ซึ่งถ้าเป็นยังงั้นนายก็ไม่มีวันรู้อีกนั่นแหละว่าถูกโกรธเรื่องอะไร”
“ถ้างั้น...”
“อ๊ะ ไม่ต้องสั่งเกี๊ยวกุ้งมาอีกที่หนึ่งเลยนะ เพราะฉันอยากกินเจ้าเกี๊ยวกุ้งสองตัวนั้นเท่านั้น ซึ่งก็ลงไปอยู่ในท้องของนายเรียบร้อยแล้ว ถ้าสั่งมาอีกที่มีแต่จะทำให้ฉันยิ่งโมโหนายเปล่าๆ ...”
เธอดักคอ
“. . . . .”
ผมอ้าปากค้าง สาหร่ายชิ้นสุดท้ายหล่นจากตะเกียบ...
ถ้าให้บรรยายความรู้สึกก็คงเหมือนผมกำลังเห็นอารยธรรมแอตแลนติสท์ ไม่ก็มนุษย์ต่างดาวมาปรากฏอยู่ต่อหน้า...
โอ... แม่เจ้า!! ตรูรู้แล้วว่าตรูไม่รู้อะไรเลยจริงๆ!!!
อมตะวาจาของ "โสเครติส" นักปรัชญาเอกของโลกก้องอยู่ในหัวผม
มิน่าล่ะ สาหร่ายมันถึงเหลือเยอะ เพราะเธอไม่ได้แตะเลยสักชิ้นนี่เอง
ที่แท้ใจก็สั่งสาหร่ายมาให้ผมกินเพื่อที่ผมจะได้ไม่ไปแตะต้องเกี๊ยวกุ้งของโปรดของเธอนั่นเอง...
เฮ้อ... นี่ถ้าบอกผมซักคำ ผมก็จะไม่ทำ(ไม่กินเกี๊ยวกุ้ง)แล้วแท้ๆ
ของแค่นี้คิดเองไม่เป็นหรือไงยะ!
เสียงของใจแว่วมาหลอกหลอนผม...
เออแฮะ... จริงของเธอ... ก็ผู้ชายมัน "โง่ววววว" นี่หว่า
(ถ้าไม่บอกแล้วหมาที่ไหนมันจะไปรู้ฟะ!)
ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกของซิกมุนด์ ฟรอยด์ที่พูดไว้ก่อนตายแล้วว่า
“ตรูไม่เคยเข้าใจผู้หญิงเลยเจงๆ...”
... ... ...
- จบตอน -
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น