You say love without saying it - You say love without saying it นิยาย You say love without saying it : Dek-D.com - Writer

    You say love without saying it

    เขาจริงจัง และตั้งใจที่จะดูแลกันอย่างดี

    ผู้เข้าชมรวม

    353

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    353

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    12
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 มี.ค. 64 / 01:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    You say love without saying it

    __

     

    “มาแล้วทำไมไม่ให้คนไปบอกเนี่ย”

    ถ้อยคำที่ดังขึ้นข้างตัวชวนให้รู้สึกถึงอารมณ์ของผู้พูดในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี ก่อนที่สักพักจะค่อยๆได้ยินเสียงราวกับว่าผู้พูดคนนั้นกำลังหย่อนก้นลงนั่งตรงพื้นที่ว่างบนโซฟานุ่มตัวเดียวกัน เสียงดนตรีคลอเบาๆลอยมาพร้อมกับลมเย็นๆที่คาดว่าคงจะมาจากพัดลมตัวใหญ่สักตัว ผมรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้น ก่อนที่พวกมันจะถูกลืมเลือนไปหมดเมื่อคนที่นั่งข้างกันค่อยๆเลื่อนมือมากอบกุมมือข้างหนึ่งของตัวเองเอาไว้

    “ร้อนไหม เพื่อนเรามันแกล้งอะไรมาหรือเปล่า”

    “เขาจะแกล้งอะไรได้”

    “ไอ้พวกนั้น เราให้ไปรับมาจากโรงพยาบาล มันไม่ได้พาไปเถลไถลที่ไหนใช่ไหม”

    “ขอร้องเถอะ กูไปรับไปส่งมันแทนมึงกี่รอบแล้ว”

    ผมหัวเราะออกมาแผ่วเบา ได้ยินเสียงคนข้างตัวเถียงทะเลาะกับใครอีกคนที่ยังคงอยู่ภายในห้องนี้ บรรยากาศรอบกายดูจะผ่อนคลายเหมาะแก่การทำงานอย่างที่คาดคิดเอาไว้ไม่มีผิด

    ผมเลื่อนมือไปซ้อนทับมือนุ่มๆข้างนั้นเอาไว้ ก่อนจะลูบมันไปมาเบาๆ

    มือข้างนี้ ผมลูบมันมานับครั้งไม่ถ้วน

    แต่แม้ว่าจะอยู่กับมันมานาน ผมกลับไม่เคยรู้เลย ว่าหน้าตาของเจ้าของมือนั้นเป็นเช่นไร

    ดวงตาทั้งสองข้างในตอนนี้ แม้จะมีแต่ก็ไร้ประโยชน์เสียเหลือเกินเมื่อไม่อาจจะใช้การอะไรได้อีก แน่นอนว่าความโชคร้ายมันไม่เข้าใครออกใคร ครั้งสุดท้ายที่ยังสามารถมองเห็นโลกทั้งใบ มองเห็นสี มองเห็นภาพวาดจากฝีมือของตัวเอง มันก็นานมากๆ นานจนเหมือนจะลืมวิธีการมองเห็นอะไรพวกนั้นไปเสียแล้ว

    เคยเป็นคนปกติเหมือนกัน เคยมีตาทั้งสองข้างที่มองทุกสิ่งทุกอย่างได้รอบกาย กระทั่งประสบอุบัติเหตุ ถึงได้สูญเสียความมหัศจรรย์ที่พ่อกับแม่ได้ให้มาไปพร้อมกันกับรถยนต์คู่ใจ

    สามปีที่ทนอยู่อย่างนี้

    และสามปีที่ได้จับมือเขา

    จุดเริ่มต้นในการพบเจอช่างเป็นอะไรที่ธรรมดามากๆ ธรรมดาจนผมไม่รู้เลยว่าโลกใบนี้จะผลักใครสักคนเข้ามาในชีวิตของผมได้ง่ายดายมากถึงขั้นนี้เลยหรืออย่างไรกัน

     

    “ทางนี้ครับ”

    “ขอบคุณครับ”

    “ไม่เป็นไรครับ ระวังนะ”

     

    บทสนทนาระหว่างเราเกิดขึ้นเพียงเท่านั้น ก่อนที่มันจะค่อยๆมากขึ้น และมากขึ้น เมื่อผมได้ยินเสียงของเขาอีกครั้งที่บ้านของตนเอง ความทรงจำในคืนนั้นยังคงเด่นชัดราวกับมันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ด้วยซ้ำ

    นึกย้อนกลับไปแล้วก็ยังค่อนข้างงุนงงกับจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์พวกเรา

    เขาเป็นแฟนเก่าของหมอคนแรกๆที่เคยรักษาผมล่ะ

    ผมยังจำได้ วันที่เขามานั่งข้างๆกัน ร้องไห้ แล้วก็ยืมทิชชู่ในกระเป๋าไปเช็ดน้ำตา เสียงสูดน้ำมูกยังคงดังอยู่อย่างนั้น นึกย้อนกลับไปทีไรก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาต้องคิดยังไงถึงมานั่งปรับทุกข์กับชายตาบอดสักคนแบบนั้น

    ผมไม่ได้พยายามอะไรที่จะได้พบเจอเขาเลย เพราะแบบนี้ ถึงได้กล้าพูดว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราทั้งคู่น่ะมันช่างเรียบง่ายเหลือเกิน

    “วันนี้ใส่ชุดแบบนี้”

    เสียงของคนที่ยังนั่งอยู่ข้างตัวดังขึ้นอีกครั้ง ในยามที่เขาค่อยๆจับประคองมือทั้งสองข้างให้ไปวางบนเนื้อตัวของเขา สัมผัสแปลกประหลาดของเนื้อผ้าชวนให้รู้สึกชะงักเล็กน้อย แต่ไม่กี่วินาทีก็ค่อยๆวางมือลง แล้วจับมันไปมาเบาๆ

    เขารับงานถ่ายแบบ เป็นนายแบบ ถ่ายทั้งโฆษณาสารพัด ถ่ายทั้งร้านค้าเสื้อผ้าออนไลน์ของตัวเองและเพื่อนที่ร่วมลงทุนกัน ดังเช่นวันนี้ เขาก็มาถ่ายงานเพื่อลงโฆษณาตามช่องทางต่างๆ เพราะติดธุระ จึงไม่อาจจะว่างไปรับผมที่โรงพยาบาลเฉกเช่นปกติ สุดท้ายเลยต้องวานให้เพื่อนของตัวเองไปรับไปส่งแทนแบบนี้

    ผมอยากเห็นหน้าเขา

    อยากเห็นเสื้อผ้าของเขา

    อยากรู้ว่าเขาใส่เสื้อผ้าสีอะไร มีเส้นผมสีอะไร ดวงตาสีอะไร

    อยากรู้เหลือเกินว่ารอยยิ้มของเขามันจะสวยงามขนาดไหน

    “วันนี้ใส่เสื้อสีฟ้า ตรงนี้เป็นแถบสีขาว แล้วก็ตรงนี้มีปักสติกเกอร์เป็นรูปดอกกุหลาบด้วยนะ”

    เขาพูดอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะเลื่อนมือข้างนั้นของผมขึ้นไปไล่สัมผัสตามจุดต่างๆ ผมทำได้เพียงยิ้มบางตอบรับ ยิ่งได้ยินเสียงสดใสของเขา ก็ยิ่งนึกเอาเองในหัวว่าเขาในวันนี้คงจะดูดีมากๆแน่นอน

    ทั้งๆที่ความจริง ผมจินตนาการถึงสีฟ้าไม่ได้เลย

    ผมเกือบจะลืมรูปร่างของดอกกุหลาบไปหมดแล้ว

    ไม่รู้เหมือนกันว่านาทีนี้ตัวเองจะทำหน้าแบบไหนออกไป มือนุ่มๆข้างนั้นถึงได้ค่อยบีบกระชับมือ คล้ายกับต้องการจะปลอบประโลมกัน กระทั่งเสียงรอบกายเงียบไป สัมผัสอุ่นละมุนบางอย่างก็เกิดขึ้นที่ข้างแก้มของตัวเอง มันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

    แต่เป็นเสี้ยววินาทีที่จู่ๆภาพของสีฟ้าก็ฉายชัด

    เป็นเสี้ยววินาทีที่ดอกกุหลาบกลับเข้ามาในความทรงจำ

    ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาวะปกติดังเดิม

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×