ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MINE" II ( FIC EXO CHANBAEK )

    ลำดับตอนที่ #2 : MINE" II - chapter 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.97K
      6
      22 มี.ค. 56

    © Tenpoints !

    MINE II

    Chapter 2

     

     

     

     

     

    “เสี่ยว พวกกูอยู่นี่” คนตัวเล็กตะโกนเรียกเพื่อนที่อยู่อีกด้านของถนนพร้อมกับรอยยิ้มสดใส ไม่ได้เจอเพื่อนแค่วันเดียวยังคิดถึงขนาดนี้

     

    “เป็นไงบ้างเรียนวันแรก” ลูฮานวิ่งจูงมือเทามาหยุดตรงหน้าเพื่อน เหลือบมองไปถึงคนที่ยืนอยู่ข้างหลังสองคน คนหนึ่งไม่รู้จักแต่อีกคนหนึ่งรู้จักดี เซฮุนไม่ได้สนใจเพื่อนตัวเองเท่าไรนัก แต่ลูฮานก็รู้ว่าเซฮุนกำลังมองหาใคร

     

    “พี่เค้าเปลี่ยนเสื้ออยู่ เดี๋ยวก็ออกมาซ้อม” เซฮุนพยักหน้าน้อยๆก่อนจะเดินไปควงแขนเทา

     

    “กูคิดถึงมึงจัง นี่เพื่อนใหม่กู พามาเที่ยวโรงเรียนเรา” แบคฮยอนบอกก่อนจะมองไปที่กลุ่มเด็กที่ไม่คุ้นหน้าหลายคนที่กำลังจับจองที่นั่งด้านข้างสนาม จากที่มีแต่เด็กผู้ชายที่มาเล่นกีฬาก็เต็มไปด้วยเด็กผู้หญิงมากมายที่นั่งจับกลุ่มกัน ก็วันนี้มันวันแลกเปลี่ยนนักเรียนวันแรกนี่หน่า แต่ทำไมต้องมานั่งด้านข้างสนามบาสด้วยที่อื่นไม่มีหรือไง

     

    “เจสสิก้านะ” เจสสิก้ายิ้มให้เพื่อนใหม่สองคน

     

    “นี่เทานะ แล้วนี่ก็ลูฮาน แล้วพี่ชานยอลกูอ่ะ” ถามเมื่อไม่เห็นคนตัวสูงที่แอบชอบ

     

    “เดี๋ยวเค้าก็มา พวกมึงเล่าให้กูฟังหน่อยว่าไปเรียนที่นั่นเป็นไงบ้าง สนุกมั้ย” เทาพาเพื่อนๆมานั่งตรงที่ประจำพร้อมกับแกะขนมที่เซฮุนซื้อมาง้อแฟน

     

    “กูไม่ได้ให้มึงกินนะ กูเอามาให้แฟนกู วางเลย” มือเรียวฉวยเอาขนมใส่ถุงตามเดิมก่อนจะเอามาวางที่ตักของตน

     

    “โห่ กูซื้อเองก็ได้หรอกสัส”

     

    “งั้นก็ไปซื้อไป เอาน้ำเปล่าให้กูสองขวด เจสเอาไรมั้ยฝากมันไปซื้อ”

     

    “ไม่ล่ะ”

     

    “งั้นกูไปกับเทาเอง” แบคฮยอนดีดตัวขึ้นตามเทาไปที่ร้านค้า ส่วนคนที่เหลือก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆเพื่อรอกินขนมจากเพื่อนตัวดี

     

     

    ...

     

     

    “มินอา เธอว่าพี่ชานยอลชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ”

     

    “น่าจะตัวเล็กๆนะ เพราะพี่เค้าเป็นคนตัวสูง”

     

    “งั้นฉันจะไม่กินนมแล้ว เดี๋ยวสูง ป้าค่ะไม่เอานมสดปั่นแล้วนะ” ผู้หญิงสองคนที่มาจากฝั่งจีหน้าตาน่ารักคุยกันอย่างสนุกสนานระหว่างรอซื้อน้ำ แบคฮยอนที่อารมณ์เสียตั้งแต่ได้ยินคนคุยกันว่าชอบพี่ชานยอลก็ยิ่งอารมณ์เสียหนักเข้าไปอีก

     

    เฮอะ ไม่อยากจะบอกพี่ชานยอลอ่ะของฉันคนเดียว...

     

    “เรารีบไปที่สนามกันเหอะ เดี๋ยวนักกีฬาก็ออกมาซ้อมแล้ว” ทันทีที่ได้น้ำผู้หญิงสองคนก็หายไปทันที แบคฮยอนรีบเร่งคนขายให้ปั่นน้ำให้ตัวเองไวไวเพราะอยากเจอพี่ชานยอลใจจะขาด ไม่ได้ไม่ได้ จะช้ากว่าคนพวกนั้นไม่ได้...

     

    “มึงจะเร่งป้าเค้าทำไม” เทาเอ็ดเพื่อนตัวเองเมื่ออีกคนแสดงกริยาไม่เหมาะสมออกไป

     

    “กูอยากไปหาพี่ชานยอลกูช้าไม่ได้ มีคนชอบพี่เค้าเยอะจังเลย ฮื่อ” แบคฮยอนกะโดนสะบัดตัวไปมาเหมือนเด็กที่โดนขัดใจ

     

    “อย่าอ้อยขอร้อง คนอื่นมอง” เทาส่ายหน้าก่อนจะจ่ายตังค์แล้วทิ้งเพื่อนตัวเองให้ยื่นอ้อนอยู่หน้าร้านคนเดียว

     

    “เทาน้อยพี่ชานยอลกูมีคนมาจีบเยอะมั้ย” เทาพยักหน้า... วันนี้แลกเปลี่ยนวันแรก มีเด็กมาทักทายเยอะไปหมดแต่คงไม่เท่ากับกลุ่มพี่ไคและชานยอล สองคนนั้นเป็นคนดัง ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องรุ่นเดียวกันเห็นรุมสองคนนั้นตลอด พี่ชานยอลก็ยิ้มเก่งส่วนพี่ไคก็ไม่มีไอ้ฮุนคุม วันนี้สองคนนี้ถือว่าดังทีเดียว..

     

    “มึงต้องคอยส่องให้กูนะ”

     

    “ส่องห่าไรล่ะ วันๆถ้าไม่มีไอ้ฮุนมึงว่าเราจะเจอกับกลุ่มพี่ไคเหรอ”

     

    “นั่นแหละ ถ้าได้ยินเรื่องของพี่ชานยอลต้องมาเล่าให้กูฟังนะ”

     

    “เออๆ”

     

     

    ...

     

     

    “พี่ชานยอลฮะ น้ำเปล่าเย็นๆจะได้ชื่นใจ” แบคฮยอน ถลาลงไปยืนข้างหน้าทันทีที่กลุ่มของรุ่นพี่ซ้อมบาสเสร็จ

     

    “ขอบใจมาก” รับก่อนจะแกะและกำลังจะยกขึ้นดื่มเพื่อดับกระหาย

     

    แบคฮยอนมองคนตรงหน้าด้วยความดีใจ ดีใจที่พี่ชานยอลคุยกับตน ดีใจที่คนตรงหน้ากำลังจะดื่มน้ำที่ตนซื้อมาให้ อ่า กินเข้าไปเยอะๆเลยพี่ชานยอล พี่จะได้รักผมคนเดียว .////. ขอเวลาเขินแปบดิ่

     

    แต่เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไวเสมอ...

     

    “พี่ชานยอลค่ะ น้ำค่ะ พวกเราซื้อมาให้”

     

    “พี่ชานยอลค่ะ ขนมค่ะ”

     

    “พี่ค่ะผ้าเช็ดหน้าค่ะ”

     

    เด็กผู้หญิงหลายคนกรู่เข้าไปล้อมชานยอลไว้ แรงผลักทำให้แบคฮยอนกระเด็ดออกมายืนอยู่นอกวงสนทนา ยืนมองด้วยความเหรอหรา ส่วนชานยอนก็รับน้ำกับขนมนั้นไว้และพูดขอบคุณอย่างไม่ขาดปาก ส่วนคนอื่นๆที่เดินตามชานยอลเข้ามาในสนามตอนแรกก็ยืนแซวและแยกกันไปตามมุมต่างๆของตัวเอง

     

    “อ่า ขอบคุณน้องๆทุกคนมากนะ พี่มีกำลังใจซ้อมเลย” เสียงทุ้มมีเสน่ห์พูดทีเล่นทีจริงแต่ทำเอาสาวๆหน้าแดงด้วยความเขิน แบคฮยอนได้แต่ยืนมองชานยอลยิ้มให้คนอื่นจนกระทั่งชานยอลปลีกตัวเดินผ่านแบคฮยอนไปหาเพื่อนๆนักกีฬาที่นั่งอยู่อีกด้านถึงรู้สึกตัว

     

    ถ้าพี่ยิ้มให้ผมคนเดียวจะรู้สึกดีขนาดไหนนะ

     

    แบคฮยอนก้มหน้าให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะเหลือบไปเห็นขวดน้ำที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นตรงที่ชานยอลยืนเมื่อกี้ ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจเอื้อมมือไปหยิบมาไว้กับตัวก่อนจะมองไปที่กลุ่มของตัวเอง พี่ชานยอลกำลังดื่มน้ำ ลูฮานและเพื่อนในกลุ่มก็กำลังแกะขนมที่พี่ชานยอลได้มา ก่อนจะมองที่ขวดน้ำที่อยู่ในมือตัวเอง...

     

    ถ้าเป็นขวดธรรมดาก็คงไม่คิดไรหรอกแต่ขวดนี้เป็นขวดที่เค้ายื่นให้พี่ชานยอลไม่ผิดแน่ เพราะเค้าเป็นคนแกะฉลากพลาสติกจนขวดมันเปลือยแบบนี้ด้วยตัวเอง ทำไมเค้าจะจำไม่ได้ล่ะ...

     

     

    ...

     

     

    “เตี้ย เธอเป็นอะไร” แทคยอนที่สังเกตน้องชายตั้งแต่กลับมาบ้านยันก่อนนอน น้องชายตัวดีเอาแต่นั่งเงียบ ตอนแรกก็คิดว่าเดี๋ยวแบคฮยอนก็จะเล่าให้ตัวเองฟังเพราะมันจะเป็นแบบนี้ตลอด แต่จนจะเข้านอนแบคฮยอนก็ยังนั่งเหม่อมองขวดน้ำบูดๆเบี้ยวๆที่นอนตายอยู่บนเตียง โดยไม่ปริปากพูดซักคำ...

     

    จนตอนนี้กลายเป็นเค้าเองที่ทนไม่ไหว... หงุดหงิดโว้ย...

     

    “หือ”

     

    “อย่ามาหือ ถามน่ะได้ยินมั้ย ถามว่าเป็นอะไร” แทคยอนเอานิ้วชี้ที่ปากตัวเองก่อนจะพูดกับอีกคน

     

    “อือได้ยิน”

     

    “ได้ยินก็ตอบเซ่” แทคยอนกระโดดไปมาบนเตียงพร้อมกับตะโกนเสียงดังๆใส่น้องชายตัวเอง

     

    “ก็นั่งฟังดีดีดิ ไอ้บ้า”

     

    “เออ ยิ้มซักที” ลงมานั่งหอบที่ด้านล่าง เอามือเท้าคางอย่างน่ารัก กระพริบตาสามสี่ทีพอให้โลกสดใส

     

    “วันนี้เราเอาน้ำไปให้คนที่เราชอบมา แล้วเค้าก็รับของๆคนอื่นด้วย แล้วขวดน้ำเราก็เป็น... แบบนี้”

     

    “อ่อ เค้าทำหล่นมั้ง เธอจะคิดมากทำไม”

     

    “ก็เราอยากให้เค้าเก็บไว้นี่ (- 3 -)” แบคฮยอนยู่ปาก

     

    “เธอ มัน เพ้อ”เอาหมอนปาใส่หน้าคนเป็นน้องก่อนจะกระโดดไปที่หน้าประตู “นอนเถอะเตี้ยพรุ่งนี้ที่โรงเรียนมีงานด้วย หาเสื้อสีขาวใส่นะ เรารักเธอมากนะเตี้ย...ฝันดี”

     

    “ฝันดีแทคน้อย”

     

     

    ...

     

     

    “ไอ้ฮุนมึงดูดิ วันนี้เด็กที่นี่ใส่เสื้อสีขาวมาหมดเลย” แบคฮยอนกระโดดไปกอดคอเพื่อนตัวเองที่ยืนมองคนอื่นๆอยู่

     

    “เออว่ะ ไมวะ” เซฮุนตอบกลับพร้อมกับมองเสื้อเชิตที่ตัวเองใส่อยู่ ดีที่เมื่อคืนแบคฮยอนส่งข้อความมาบอกให้หาเสื้อสีขาวมาใส่ ไม่งั้นวันนี้คงกลายเป็นตัวประหลาดสีเหลืองแน่เลย

     

    “วันไวท์เดย์ไง” เจสสิก้าพูดอย่างรู้ดี

     

    “อะไร ไวท์เดย์” สองเพื่อนซี้มองหน้ากันไปมาพร้อมกับเครื่องหมายคำถาม

     

    “วันที่เด็กส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีขาว แล้วรุ่นน้องก็จะออกมาทำกิจกรรมให้กับรุ่นพี่ แบบเกมส์ต่างๆไรงี้ ปกติพี่ต้องทำให้น้องใช่มั้ย งานวันนี้น้องต้องทำให้พี่ไง”

     

    “หือ แล้วไม่ต้องเรียนเหรอ” เซฮุนถามอย่างสงสัย ก็ที่ฝั่งบีก็มีนะกิจกรรมอ่ะ แต่ไม่ได้จริงจังขนาดนี้

     

    “ถ้าอยู่บนห้องก็เรียน แต่ใครจะอยู่เรียน... วันนี้มีคอนด้วยนะ” เจสสิก้าเดินนำทุกคนเข้าไปในงาน

     

    “แล้วทำไมเธอรู้เยอะจัง เธออยู่ฝั่งจีนี่” แบคฮยอนถามเพราะขนาดอยู่ในเครือเดียวกันยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย

     

    “ก็นะ ช่างเหอะ” เจสสิก้าบอกปัดก่อนจะพาทุกคนไปนั่งอยู่ตรงกลางเวทีซึ่งสามารถมองเห็นคอนกลางแจ้งได้อย่างชัดเจน

     

    “แล้วแทคยอนอ่ะ” เซฮุนถามหาคนตัวสูงที่ปกติจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

     

    “อยู่บนเวทีไง” แบคฮยอนชี้ให้เซฮุนดู

     

    แทคยอนยืนอยู่บนเวทีพร้อมกับกีตาร์ ด้านข้างเป็นผู้หญิงที่กำลังยืนเซตไมค์อยู่ และเพื่อนอีกสองคนที่กำลังคุยกันและเซตกลองและเบสไปพร้อมๆกัน

     

    “ทิฟฟานี่” เจสสิก้าพูดออกมาด้วยความตกใจทันทีที่เห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่บนเวทีและกำลังแนะนำตัวเองและเพื่อนในวงก่อนจะเริ่มการแสดง

     

    “รู้จักเหรอ” เซฮุนหันไปถามเพราะอีกคนดูตกใจมาก

     

    “เออ อืม”

     

    “เจสสิก้ามีเพื่อนสวยนะเนี่ย” แบคฮยอนพูดขึ้นหลังจากมองไปบนเวที ผู้หญิงที่มีนัยน์ตายิ้มยังคงยิ้มสวยอยู่อย่างนั้น เสียงร้องเพลงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหนักแน่นและเข้มแข็ง ใบหน้าเรียวหวานส่ายไปตามจังหวะของเพลง เรียกให้คนที่ผ่านไปมามองได้อย่างดี

     

    “หึ ไม่ใช่เพื่อนหรอก” ได้แต่ตอบเบาๆ

     

     

    ...

     

     

    หลังจากที่อยู่ในงานมาซักพัก ทั้งสามคนก็หลบมุมมานั่งที่ใต้ต้นไม้ไม่ห่างไกลจากงานเท่าไหร่หนัก พอมองไปในงานก็มีแต่พวกเด็กแลกเปลี่ยนเท่านั้นแหละที่ตื่นเต้น กระตือรือร้นเดินเล่นกันในงาน ส่วนเด็กในโรงเรียนก็นั่งเล่นกันซะมากกว่าอีก

     

    “ทำไมเค้าถือดอกกุหลาบสีขาวเต็มเลยอ่ะเจส” แบคฮยอนถามเจสสิก้า

     

    “เค้าเอาไว้ให้รุ่นพี่ไง แบบว่าอยากให้ใครก็ให้ แล้วก็ใครป๊อปๆหน่อยก็จะได้เยอะ”

     

    “มีแบบนี้ด้วยว่ะไอ้ฮุน กูว่าถ้าพี่ไค พี่ชานยอล พี่คริสจบม.หกที่นี่กูว่านะมึง คงต้องมีสิบมืออ่ะ”

     

    “มึงหยุดพูดเลย กูไม่อยากคิดตาม” เซฮุนบอกปัดก่อนจะมองไปที่คนสวยทิฟฟานี่ ที่ตอนนี้มาคุยอยู่กับเจสสิก้าตรงหน้าพวกเค้า

     

    “สวัสดี เราทิฟฟานี่นะ เรียกฟานี่ก็ได้”

     

    “อืม เราแบคฮยอน ส่วนนี่เซฮุน”

     

    “แล้วฟานี่ต้องทำอะไรอีกหรือเปล่า” เจสสิก้าถามทิฟฟานี่แบบอายๆ เซฮุนและแบคฮยอนที่มองเพื่อนตัวเองอยู่ถึงกับบางอ้อ แอบรักสินะ

     

    “ไม่แล้วจะไปหาเพื่อน”

     

    “เจสไปด้วยได้มั้ย”

     

    “อย่าไปเลย อึกอัดเปล่าๆ เราไปแล้วนะทุกคน ไปแล้วนะเจส”

     

    “เจอกันนะฟานี่”

     

    “เป็นเพื่อนกันจริงดิ” แบคฮยอนเกาะแขนเจสสิก้าแน่น

     

    “นั่นดิ เราเห็นเจสมองฟานี่ตาวิ้งๆเลย” เซฮุนเกาะเข้าอีกข้างของแขนเจสสิก้า

     

    “ไม่ใช่เพื่อนซักหน่อย แฟนต่างหาก”

     

    “เฮ้ย จริงดิ // อ๊า”

     

    “อืม คบกันมาซักพักแล้วแหละ”

     

    “เล่าๆ” แบคฮยอนพูดออกไปก่อนจะเขย่าแขนเพื่อนที่ตัวเล็กกว่า

     

    “ก็เป็นแฟนกันไง ยังจะอยากรู้อะไรอีก”

     

    “แบบ... อ่อ ขอโทษนะเจส ทำไมแฟนเจสไม่มาดูเจสเลยอ่ะเมื่อวาน แล้วทำไมไปเดินกับเพื่อนละ งานแบบนี้น่าจะเดินกับแฟนนะ” แบคฮยอนพูดไปตามสิ่งที่ตนคิด โดยที่ไม่รู้เลยว่าคำถามพวกนั่นแทงใจเจสสิก้าเข้าอย่างจัง

     

    “ก็... ฟานี่คงเขินมั้งที่มีแฟนเป็น เอ่อ.. เป็นผู้หญิง”

     

    “เหรอ แล้วไอ้ฮุนคงหน้าด้านมากสินะ ที่มันเดินกับแฟนมันตลอดเลย ทั้งๆที่แฟนมันก็เป็นผู้ชาย”

     

    “... ช่างมันเถอะ เนอะๆ” เจสสิก้าคอตก ไม่รู้จะพูดยังไง ความจริงก็อยากบอกให้ทุกคนรู้นั่นแหละ แต่บอกไปก็มีแต่เสียเปล่าๆ ตัวเองเรียนฝั่งหญิงล้วนเรื่องทอมดี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ฟานี่เรียนสหะ เรื่องแบบนี้อาจจะดูแปลกไปหน่อย ไม่อยากให้ฟานี่โดนมองแปลกๆ ไม่อยากให้คนมองฟานี่ไม่ดีนี่หน่าแค่นี้เจสยอมได้

     

    “มึงเลิกถามเถอะหมา มึงดูเจสด้วยว่าคอตกแล้ว” เซฮุนบีบเบาๆที่ไหล่เจสสิก้าก่อนจะชี้หน้าว่าเพื่อนตัวเองที่ยังคงความสงสัยไว้อยู่บนใบหน้า

     

    “เออๆ เข้าใจก็ได้”

     

     

    ...

     

     

    วันนี้เป็นอีกวันที่สี่หนุ่มหนึ่งสาวมาจับเข้านั่งคุยกันถึงเรื่องต่างๆ ที่ฝั่งบี เซฮุนก็รอกลับบ้านพร้อมไค แบคฮยอนก็มาเฝ้าว่าที่แฟน? ลูฮานก็ซ้อมบาส เทาก็นั่งคุยกับเจสสิก้าถึงเรื่องแฟนชั่น โดยที่แทบไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาที่ทั้งห้ารวมตัวกันมันน่ามองขนาดไหน... เด็กฝั่งบีที่เฝ้าสังเกตความน่ารักของเด็กกลุ่มนี้ลงความเห็นเหมือนกันว่า...

     

    เซฮุนเด็กขี้อายหน้าตาน่ารัก (แต่มีแฟนแล้ว) จบนะ...

    แบคฮยอนตัวเล็กคุยเก่ง ถึงแม้จะดูไม่สุภาพแต่ความที่เป็นคนขี้แกล้งนั่นแหละน่าโดนแกล้งเป็นที่สุด

    ลูฮานเก้อคนที่บอกว่าตัวเองแมนตลอดเวลาทั้งๆความจริงแล้วตัวเองสวยกว่าผู้หญิงหลายๆคนด้วยซ้ำ

    เทาสุดหล่อตลอดกาล ความอบอุ่นผ่านดวงตาและมารยาทที่ดีงามบอกได้คำเดียวว่าน้องเป๊ะมาก

     

    เป็นธรรมดาที่เด็กบางคนยิ่งอยู่ยิ่งหล่อยิ่งดูดี สำหรับฝั่งบีแล้วถือว่ามีอะไรสวยๆงามๆให้ดูในโรงเรียนชายล้วนแบบนี้ดีกว่ามีแต่ล่ำๆเป็นไหนๆ

     

    “วันนี้มึงทำอะไรมาให้พี่ชานของมึงว่ะ” เทาถามเพราะให้ความผิดปกติของหมาน้อย

     

    “วันนี้เหรอ... ก็เป็นผ้าเช็ดหน้าไง ขนมที่กูคัดสรรมาแล้วว่าดีต่อกล้ามเนื้อของกองหน้านักบาส แล้วก็ยาแก้ปวดเพื่อว่าพี่เค้าจะปวดกล้ามเนื้อไง”

     

    “มึงพร้อมเนอะ”

     

    “ความจริงกูแม่.งโคต.รอย่างเป็นกรรมการอ่ะ กูจะเป่าให้อีกฝั่งหนึ่งแม่.ง ฟาล์วพี่ชานยอลของกูจะได้ไม่ต้องวิ่งเยอะ”

     

    “แล้วพกดอกกุหลาบมาทำไมทั้งสามคน”

     

    “เออนั่นดิ่ มีไรเหรอ”ลูฮานถามก่อนจะหยิบดอกกุหลาบออกมาจากมือเพื่อนแล้วโบกไปมา

     

    “อย่าสิลูฮาน เดี๋ยวกุหลาบก็คอหักหรอก” เจสสิก้าดุลูฮานอย่างไม่จริงจังนัก เพราะว่าเอาดอกกุหลาบที่ทิฟฟานี่ให้ตนไปโบกเล่นไปมา

     

    “วันนี้วันไวท์เดย์ เค้าให้เอากุหลาบสีขาวไปให้รุ่นพี่ที่แอบชอบไง กูเลยเอามาให้พี่ชานยอล”

     

    “อือหือ ตัวห่างไกลแต่ดวงใจไม่เคยห่างรักเลยนะ” เทาแซวเพื่อนตัวเอง ซึ่งแทนที่แบคฮยอนจะอายกลับกลายเป็นหัวเราะชอบใจ

     

    “ก็นิดนึงนะ”

     

     

    ...

     

     

    “เธอรู้จักโชรงเด็กฝั่งไอหรือเปล่า”

     

    “เพื่อนมินอาใช่มั้ย ทำไมเหรอ น่ารักดีนะ”

     

    “ก็น่ารัก เหมือนว่าจะคุยๆกับพี่ชานยอลนะ”

     

    “รู้ได้ไงอ่ะ พึ่งเจอกันแค่สองวันเองนะ”

     

    “ก็เห็นเค้าบอกว่าพี่ชานยอลไปขอเบอร์นี่หน่า ไม่ใช่เหรอ...”

     

    “ไม่รู้ดิ่ แต่พี่ชานยอลก็หล่อ โชรงก็สวย ก็เหมาะกันดีนะ”

     

    แบคฮยอนนั่งมองหน้าเซฮุนและเพื่อนๆตาปริบๆ หูทั้งสองข้างก็ทำการประมวลผลคำพูดที่ได้ยินเมื่อสักครู่ แม้ว่าจะตกใจอยู่บ้างแต่ก็ได้แต่นั่งคอตกถอนหายใจฟังไปเงียบๆ มีคนชอบพี่ชานยอลเยอะจังเลยนะ บรรยากาศเริ่มกดดันด้วยความไม่ตั้งใจ...

     

    “กูลงสนามแล้วนะ” ลูฮานเอามือไปยีผมเพื่อนเตี้ยก่อนจะวิ่งลงไปสมทบกับพวกพี่ที่อยู่ในสนามและลงมือซ้อมบาส

     

    “ฉันกลับบ้านแล้วนะ เดี๋ยวฟานี่รอ” พูดจบก็ถือกระเป๋ากลับบ้านทันที

     

    “มึงอย่าคิดมากดิ่หมา เค้าอาจจะไม่ได้คบกันก็ได้” เทาได้แต่ปลอบเพื่อนเตี้ยไม่ให้คิดมาก จะแก้ตัวให้พี่ชานยอลก็คงไม่ได้เพราะตัวเองก็กำลังจะเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังเหมือนกัน

     

    “เออ กูกำลังคิดหาทางจัดการให้พี่ชานยอลอยู่กับกูแค่คนเดียวอ่า มึงว่าไง” พูดก่อนจะแกะฉลากขวดน้ำให้มันกลายเป็นขวดเปลือยอีกครั้ง

     

    “มึงต้องไม่งี่เง่า ไม่ไร้เหตุผล” เซฮุนบอกเพราะถ้าเรางี่เง่าเมื่อนั้นเราจะไม่ฟังใครเลย แล้วปัญหาต่างๆจากที่เยอะเข้าไปแล้วก็จะเยอะเข้าไปอีก...

     

    “เออ กูกำลังคิดว่าจะทำยังไงให้พี่ชานยอลชอบกู กูต้องน่ารักแบบโชรงคนนั้นหรือเปล่า”

     

    “เป็นคนอื่นมันเหนื่อย เป็นตัวของตัวเองเถอะ” เทาบอกเพื่อนก่อนจะเล่นเกมส์ต่อ เซฮุนพยักหน้ากับคำพูดของเทาก่อนจะมองไปที่แฟนตัวเองที่เล่นบาสอยู่ในสนาม

     

    แบคฮยอนคนเก่งที่เคยสดใสตลอดเวลาตอนนี้เหมือนหมดกำลังใจ แอบชอบมาตั้งนาน รุ่นพี่และเพื่อนๆหลายคนก็รู้ แต่ทำยังไงก็เหมือนคนที่ชอบไม่ได้มองมาที่ตนเลย บางครั้งก็เหนื่อย... แต่ยังไม่เคยคิดว่าจะหยุด... บางครั้งก็งงว่าทำไมพอเป็นเรื่องของพี่ชานยอลที่ไร ร่างกายเหมือนหยุดทำงานไปซะดื้อๆ

     

    แบคฮยอนมองคนที่กำลังเล่นบาสในสนาม พี่ชานยอลยังอยู่ที่เดิมคงมีแต่ตัวเค้าคนเดียวสินะที่เดินเข้าไปหา พอมองไปรอบๆก็เจอผู้หญิงคนนั้นที่ร้านขายน้ำกับเพื่อนของเธอกำลังยืนมองนักกีฬาในสนาม ซักพักเธอก็โบกมือให้กับรุ่นพี่ที่เค้าแอบชอบก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินเข้าไปเพื่อพูดคุยกัน หยอกล้อกันไปมาโดยที่ไม่แคร์สายตาของคนรอบข้าง ขนาดกัปตันทีมเดินมาตามให้ลงสนามทั้งคู่ก็ยังคงพลัดกันตีที่ไหล่ไปมา...

     

    ไม่ได้  ไม่ได้  ไม่ได้... แบคฮยอนอย่าพึ่งหมดกำลังใจ... เรายังมีไฟเราทำได้ ฮึบๆ ได้แต่ยืนให้กำลังใจตัวเองอยู่ตรงกลางสนามบาสคนเดียว

     

     

    ...

















    เหนื่อยมากเลยค่ะ ทำไมมันออกมาเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้...
    ไม่ได้ตั้งใจ ตอนแต่งนั่งคิดถึงเรื่องที่เจอ
    แล้วมันก็เป็นเช่นนี้แล

    มีน้องถามว่าทำไมต้องเจสสิก้า
    ก็นะ .. เราชอบนางนะอิอิ
    ...

    #รักคนอ่านทุกคนนะคะ
    #จุบเหม่งรัวๆ






     









     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×