คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ~~***เหตุเกิดที่ร้านเกม(หนุ่มเจ้าเล่ห์ vs สาวจอมซ่า)***~~
“ให้ตายเหอะ ทำไมเป็นงี้เนี่ย หมอนั่นมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้” เซบินพูดกับโบมี และมินอาระหว่างทางกลับบ้าน วันนี้พวกเธอจะไปกินไอศกรีมแล้วก็ต่อด้วยการไปเล่นที่เกมส์เซ็นเตอร์
“ใจเย็นน่า รู้รึเปล่าว่าพวกผู้หญิงในห้องน่ะอิจฉาเธอจะตาย” โบมีพูด เธอเองก็รู้สึกอิจฉาเซบินเช่นเดียวกัน และที่สำคัญเธอก็ไม่ชอบคนที่มานั่งข้างเธอเลย
“เออนี่ โบมี นายคนที่นั่งข้างเธอน่ะเป็นงัยบ้างล่ะ”มินอาถามขึ้น
“เป็นงัยน่ะเหรอ ฉันอยากจะบ้าตาย เกิดมาไม่เคยเห็นใครนั่งพูดนั่งหัวเราะคนเดียวแบบนั้นเลย ถึงฉันจะรู้ว่าหมอนั่นไม่ใช่เด็กใหม่ แต่ฉันก็ยังไม่เคยเข้าใกล้เขาเลยนะ”โบมีทำหน้าเซ็ง
“ เอาน่า....เราไปเล่นเกมคลายเครียดกันดีกว่า” เซบินรีบวิ่งเข้าไปในร้านเกมทันที
“ รอด้วยสิ” แล้วโบมีกับมินอาก็รีบวิ่งตามไป
ข้างในนั้นมีเสียงดังโหวกเหวกมากมายทั้งเสียงจากเกมและเสียงคนเล่น แสงเลเซอร์จากเกมสะท้อนออกมาเป็นเส้นหลายสีช่างน่าแสบตา
“ ไปแลกเหรียญกันเถอะ” ทั้งสามคนตรงไปที่เคาเตอร์เพื่อแลกเหรียญ พวกเธอเห็นพนักงานแอบงีบหลับ
“พี่ๆ แอบหลับเดี๋ยวก็โดนหักเงินเดือนหรอก” เซบินกระซิบข้างหูพนักงานหญิงร่างท้วม
“ผิดไปแล้วค่ะหัวหน้า” เธอรีบพยุงตัวลุกขึ้นแล้วหันรีหันขวาง
“พี่..พวกเราเอง” ทั้งสามคนหันหน้าเข้าหากันแล้วหัวเราะ พวกเธอค่อนข้างจะสนิทกับพี่สาวคนนี้
“แหม! ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ หัวใจจะวาย”เธอรีบพูดเตือนทั้งสามคน
“ค่ะพี่...งั้นเราเอาเหมือนเดิมนะ”เซบินรีบพูดต่อ
“เอ้านี่”พนักงานหญิงรับเงินมาแล้วยื่นเหรียญให้ เธอรู้ดีว่าทั้งสามคนแลกเงินจำนวนนี้ทุกครั้ง
ทั้งสามคนเดินออกมา เซบินเดินตรงไปที่เกมวัดพลัง
“วันนี้ฉันจะเล่นให้สะใจไปเลย คอยดูเถอะ” เซบินแอบหัวเราะออกมาทำให้เพื่อนทั้งสองตกใจ
“ใจเย็นเซบิน” โบมีรีบเข้าไปห้าม เมื่อเห็นเซบินตั้งท่าจะชกเป้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างแรง
“ 100คะแนนเต็ม! ทำได้งัยเนี่ย” ระหว่างที่โบมีและมินอากำลังอึ้งกับความสามารถของเซบิน เซบินก็หันไปเห็นชายคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอต้องอารมณ์เสีย
“ ทำไมฉันจะต้องหายใจในที่เดียวกันกับหมอนั่นด้วยนะ” เซบินพูดออกมา คิ้วขมวดเป็นปมเล็กน้อย
“มีอะไรเหรอ เซบิน” มินอาขยับแว่นถาม
“ลองมองตรงนั้นดูสิ” เซบินชี้นิ้วไปที่ชายร่างสูงโปร่งในชุดเครื่องแบบนักเรียนชายโรงเรียนเอส
“น่ะ..นั่นใช่ดองวอนรีเปล่า”มินอาตาเกือบจะออกมานอกแว่นอยู่แล้ว เธอจ้องอย่างไม่วางตา
“ฉันว่าน่าจะใช่นะ ทำไมเราไม่เข้าไปทักเค้าล่ะ” ก่อนที่โบมีจะพูดจบขาเธอก็ก้าวตรงไปที่ชายคนนั้นแล้ว
“โบมีกลับมานี่นะ”
เซบินรีบตามไป แต่ไม่ทันซะแล้ว โบมีชนชายคนนั้นเข้าอย่างจัง
“เธอทำอะไรของเธอเนี่ย ทำเสื้อฉันยับแล้วรู้มั้ย” เขาตะคอกพร้อมกับทำสายตาดุก้มมองโบมี
“ขะ..ขอโทษค่ะ” โบมีเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าเขา
“นาย...ทำไมต้องตะคอกด้วยล่ะ มันเสียหายมากนักเหรอกะอีแค่ทำเสื้อยับน่ะ”เซบินจ้องหมอนั่นเขม็ง
“ปากดีนักนะ คงจะไม่รู้จักฉันล่ะสิ” ชายผู้นั้นยิ้มให้ เป็นยิ้มที่ดูจริงใจกว่านายลีดองวอนซะอีก
ระหว่างที่ทั้งสองจ้องกันอย่างไม่วางตา มินอาก็พูดแทรกขึ้น
“จะไม่รู้จักได้งัยเล่า ก็เพิ่งเจอนายเมื่อเช้าเองนะดองวอน” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย
“ ว่างัยนะ ฉันน่ะเหรอ.....ไม่มีทาง แล้วฉันก็ไม่ได้ชื่อดองวอนด้วย” เขาหันขวับมาที่มินอาทำให้เธอสะดุ้ง
‘ หรือเราจะจำผิดคน แต่...ทำไมหน้าเหมือนกันเลยล่ะ’ ทั้งสามคนคิดอยู่ในใจ
“ ถ้างั้นนายคือ...” เซบินทำหน้าสงสัย
“ฉัน ลี ดองเฮ” เขาขยับปกเสื้อวางมาด
เซบินเพิ่งสังเกตว่าหมอนี่มีลูกน้องตามมาเป็นพรวนด้วย ‘ท่าทางจะไม่ใช่คนธรรมดา อาจจะเป็นมาเฟียแถวนี้ก็เป็นได้ แต่ทำไมหมอนี่หน้าเหมือนนายดองวอนเลยล่ะ ไม่สิต่างกันที่แววตาแล้วก็สีผม นายดองวอนนั่นผมดำนี่ แต่หมอนี่ผมสีน้ำตาล แล้วตาของนายดองวอนก็ดูเย็นชากว่าหมอนี่ซะอีก ถ้าจะบรรยายนิสัยล่ะก็นายดองวอนน่ะเย็นชา ส่วนหมอนี่น่ะเจ้าเล่ห์ สรุปมันก็ไม่ดีสักอย่าง ให้ตายเหอะ ทั้งๆที่ฉันเกลียดผู้ชายทำไมฉันจะต้องมาเจอคนที่หน้าเหมือนกัน แถมนิสัยยังแย่พอๆกันถึงสองคนด้วยนะ เซ็งจิต ’
“เซบิน ..เซบิน!เธอฟังอยู่รึเปล่า” มินอาสะกิดเซบิน เพื่อเตือนให้เธอควบคุมอารมณ์ให้ได้เพราะตอนนี้เซบินกำลังกำหมัดแน่น
“เอ่อ...อะไรเล่า”
“ก็นายคนนี้น่ะ ท้าพนันกับเราล่ะ”
“ แล้วงัย” เซบินเลิกคิ้ว
“ก็ถ้าเธอแพ้ เธอก็ต้องมาเป็นลูกน้องฉันน่ะสิ” ดองเฮพูดขึ้น ตอนนี้เด็กในร้านเกมหันมามองที่พวกเธอทั้งสามคนเป็นตาเดียว สายตาของเจ้าพวกนั้นดูตื่นตระหนก
“ แล้วฉันไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ คนที่ทำน่ะโบมีไม่ใช่เหรอ” เธอชี้นิ้วไปทางโบมี โบมีจ้องเธอกลับท่าทางหวาดๆ
แล้วพูดต่อ
“เธอจะบ้าเหรอไม่คิดจะช่วยฉันรึงัย เจ้าเพื่อนบ้า” เซบินเห็นโบมีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า เลยอดเห็นใจไม่ได้
“ เอาล่ะ..ฉันจะแข่งกับนายก็ได้ แต่ขอบอกนะว่าห้ามเข้าใกล้ฉันเกิน 1 เมตร” เซบินกำชับอย่างหนักแน่น
“ เธอนี่ตลกชะมัดเกลียดผู้ชายรึงัย”
“ก็ใช่น่ะสิถามได้”เซบินมองค้อนตอบ ‘หมอนี่คงจะสูงสัก180เซน ล่ะมั้ง สูงพอๆกับนายเฮงซวยดองวอนนั่นเลย อ๊าก!!แล้วฉันจะไปคิดถึงนายทำไมเนี่ย’ เธอทำท่าจะดึงทึ้งผมตัวเองอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกผู้ชายทำให้เธอประสาทเสีย นายดองเฮที่ยืนดูอยู่ก็อดหัวเราะไม่ได้
“เล่นเกมแข่งรถเป็นงัย” เขาพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่ ดองเฮรีบจูงมือเซบินตรงไปที่เก้าอี้แข่งรถ ทุกคนที่มองอยู่ทำตาโตทันทีไม่เว้นแม้แต่โบมีและมินอา เพราะเซบินรีบสะบัดมือออกและตบไปที่แก้มดองเฮฉาดใหญ่
“ฉันบอกนายแล้วงัย ห้ามเข้าใกล้ฉัน แล้วนายมาแตะต้องตัวฉันหมายความว่างัย” เซบินไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้แล้วตอนนี้
“ เอ่อ...มันลืมตัวน่ะ ฉันนึกว่าเธอเป็นผู้ชาย ก็ห้าวซะขนาดนั้น” ดองเฮเอามือลูบผมทำให้ผมที่ยุ่งอยู่เมื่อครู่กลับเข้าที่ เขาก็ไม่ผิดหรอกเพราะขนาดโบมีและมินอายังเผลอนึกว่าเซบินไม่ใช่ผู้หญิงมาแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเธอไว้ผมยาวล่ะก็
“ ไม่มีครั้งต่อไปแน่” เซบินรีบก้าวฉับๆไปนั่งที่เก้าอี้เตรียมตัวออกสตาร์ท ส่วนดองเฮก็ตามไปเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนดูจะตั้งใจกันมาก
“ หัวหน้า สู้ๆ” เจ้าพวกลูกน้องนั่นมาตะโกนโหวกเหวกอะไรกันนักนะ เสียสมาธิหมด
“เซบิน สู้ๆ” นี่พวกเธอก็อีกคน เงียบๆไม่เป็นรึงัย
เซบินหันความสนใจไปที่หน้าจอต่อ แต่ตอนนี้ดองเฮขึ้นนำแล้ว
‘ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอก’ เมื่อถึงโค้งสุดท้ายเซบินได้โอกาสแซง แต่แล้วนายดองเฮนั่นกลับเร่งสปีดอย่างเร็ว และเข้าเส้นชัยอันดับหนึ่งด้วยเวลา1.03วินาที ส่วนเซบินนั้นแพ้ดองเฮเพียง 2 วินาที
“ เจ็บใจนัก” เซบินรีบลุกออกมา ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าดองเฮที่ตอนนี้มีรอยฝ่ามือเธอประทับอยู่
“เธอแพ้แล้ว อย่าลืมทำตามสัญญาล่ะ”
“พวกเรากลับดีกว่า” เซบินทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินออกจากร้านเกมไป
“ฮึๆๆ....เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก และฉันก็จะแย่งทุกอย่างที่เป็นของนายมานายลีดองวอน”ดองเฮแสยะยิ้มก่อนจะเอามือลูบแก้มที่โดนเซบินตบ
เมื่อทั้งสามคนเดินออกมานอกร้านได้พอสมควรแล้ว เซบินก็เริ่มการสนทนาอีกครั้ง
“ไอ้พวกผู้ชายเฮงซวย เธอก็เหมือนกันนะโบมี ถ้าเธอไม่ชนไอ้หมอนั่น ฉันก็คงไม่เดือดร้อนหรอก”
“ฉัน.....” โบมีเริ่มหน้าถอดสี เธอรู้สึกสำนึกผิดจริงๆ
“ มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ เซบิน ใครจะไปรู้ล่ะว่าโบมีจะไปชนนายนั่นน่ะ” มินอารีบแก้ตัวให้โบมีทันที เมื่อเห็นว่าเซบินเลือดขึ้นหน้าแล้ว
“ ช่างมันเหอะ งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ พวกเธอก็ระวังตัวด้วยล่ะ บางทีนะ หมอนั่นอาจจะสะกดรอยตามมาก็ได้”
เฮือก! โบมีและมินอาพร้อมใจกันหยุดชะงักทั้งสองทำตาโตหันมามองเซบิน
“พูดอะไรบ้าๆอย่างนั้นล่ะ” โบมีรีบค้อนกลับ
“ ก็แค่...งั้นฉันกลับบ้านดีกว่า ไปล่ะ” เซบินโบกมือให้ทั้งสองก่อนจะเดินเลี้ยวขวาเพื่อตรงไปที่บ้านของเธอ จริงๆแล้วทั้งสามคนก็อยู่ระแวกเดียวกัน แต่บ้านของเซบินดูเหมือนจะไกลกว่าหน่อย ลมหนาวพัดผ่าน ย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว ทำให้ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มแห้งและร่วงหล่น ตามทางที่เซบินเดินกลับนั้นมีแต่ใบไม้แห้งสีน้ำตาลและสีแดงร่วงหล่นเกลื่อนพื้น หากจะบรรยายสภาพจิตใจของเธอในขณะนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับบรรยากาศรอบข้าง
อีกไม่นานหิมะก็จะตกแล้ว
“ ถึงเวลาที่ต้องถักเสื้อกันหนาวตัวใหม่แล้วสินะ”เซบินพูดก่อนที่จะดึงเสื้อให้กระชับขึ้นและกอดอกเพื่อต้านลมหนาว ภาพข้างหน้าเธอนั้นคือบ้านหลังน้อยที่แสนสงบสุขของเธอ ควันลอยอยู่เหนือหลังคา แม่คงจะหุงข้าวรอเรากลับแล้วสินะ
“หนูกลับมาแล้วค่ะแม่” เธอวิ่งเข้าไปกอดแม่
****************************************
ความคิดเห็น