ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความทรงจำ 2
รุ่งเช้าฉันตื่นขึ้นมาด้วยเสียงทะเลาะกันของมดกับมีน
“ก็พี่มดนั่นแหละเอารีโมทไปซ่อนไว้”
“เปล่าพี่ไม่ได้เอาไปนะ”
สองคนนี้ชอบทะเลาะกันเวลาทำรีโมททีวีหาย
เมื่อฉันเหลือบดูนาฬิกามันก็ปาเข้าไปตั้ง 7 โมงครึ่งแล้ว  ตายแล้วฉันต้องรีบไม่งั้นไปเรียนพิเศษสาย
วันนี้ก็เหมือนเช่นวันที่ผ่านมา ฉันนั่งเหม่อลอยไม่ได้ฟังที่อาจารย์พูด จนได้ยินเสียงกระชากวิญญาณของอาจารย์
ฉันเลยดึงสมาธิมาตั้งใจเรียน
หลังเลิกเรียน ฟ้า ฉัน และยิมเดินไปขึ้นรถพร้อมกันเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางฉันได้ยินคนในรถนินทาอาจารย์กัน
“โห อาจารย์โคตรดุเลยอะ นี่แค่เรียนพิเศษนะยังดุขนาดนี้เปิกเทอมมีหวังตายแน่ แล้วเสียงของแกก็โคตรจะกระชากวิญญาณ ได้ยินแล้ว สยองเลยนะ”
ยัยคนที่นินทาคิดเหมือนฉันเป๊ะ ฉันเลยนั่งยิ้มกับคำพูดนั้น
“เป็นอะไร มิ้ง ยิ้มอยู่ได้”
“เปล่าฉันก็แค่... เอ่อ ไม่มีอะไร”
“ อ้าวถึงซอยบ้านฉันแล้วนี่”
“ บาย พรุ่งนี้เจอกันนะ ยิม ฟ้า”
ฉันเดินฮัมเพลงจนเกือบถึงบ้าน แล้วก็เจอกับรุ่นน้อง ฉันไม่รู้จะทักอะไร เลยถามเกี่ยวกับวันปัจฉิมของ ป.6
“วันปัจฉิมเป็นงัยบ้างล่ะ”
“ก็หนุกดีนะพี่ เพื่อนให้ของมาเยอะแยะเลย”
“งั้นก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่เข้าบ้านก่อนนะ”
ฉันเพิ่งนึกอะไรได้เลยไปรื้อของในลิ้นชัก แล้วก็เจอลายมือของพลอยู่ในสมุดเล่มหนึ่งของฉัน ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเป็นตอนป.6 แล้วฉันก็เอา แต่คิดถึงพลอีกครั้ง
ตอนเรียนภาคฤดูร้อนตอนป.6 ฉันนั่งเรียนอยู่หลังพล แล้วคุยกับเพื่อนตอนที่อาจารย์ยังไม่มา
“นี่มิ้ง ตอนป.1 เธอชอบใครเหรอ”
“ก็ชอบ...ก็ชอบพลงัย” ฉันพูดอ้ำๆอึ้งๆเบาๆ
แต่เพื่อนฉันยัยปากไวนี่ดันไปบอกพลเรื่องเมื่อกี้
“ นี่พล มิ้งบอกว่าเคยชอบนายตอนป.1ล่ะ”
พลหันหน้ามาที่ฉัน แล้วทำสายตาเหมือนจะถามว่าจริงเหรอ
ฉันตอบอย่างเขินๆว่า”อืม..ใช่”
แล้วพูดอย่างเร็วว่า”มันก็แค่ป.1อะนะ ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายแล้วล่ะ”(ฉันพูดออกไปได้งัย ทั้งๆที่น่าจะบอกว่าชอบมาตลอดสิ แต่    ฉัน  ก็ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร โอกาสยังมีอีกเยอะ)
พลพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับเพื่อนต่อ
ตอนเรียนภาคฤดูร้อนฉันได้ที่หนึ่งด้วยล่ะ ( ฉันยิ้มกับความเก่งของตัวเอง)
เมื่อพ้นช่วงฤดูร้อนไปแล้วก็เริ่มเข้าเรียนชั้นป.6 พวกเพื่อนๆฉันเรียนกันอย่างจริงจัง เพราะอีกไม่นานก็ต้องสอบเข้าม.1แล้ว  อาจารย์ได้จัด  ห้องใหม่ให้นักเรียนหญิงนั่งกับนักเรียนชาย โดยการจับฉลาก ฉันอธิษฐานในใจว่าขอให้ได้นั่งกับพลด้วยเถิด และเหมือนพระเจ้าจะรับรู้ความ ปรารถนาของฉัน ฉันได้เลขที่นั่งคู่กับพล ฉันดีใจมากแล้วรีบไปนั่งยังโต๊ะที่ฉันจับฉลากได้
พลเป็นคนที่เรียนเก่งเหมือนกัน เวลาทำข้อสอบที่ไม่เข้าใจเราก็มักปรึกษากัน จนนานวันวันเข้าเราก็สนิทกันเหมือนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันคน หนึ่ง    ในคาบเรียนที่ 3ของวันนั้นเรานั่งทำข้อสอบกันประมาณ50ข้อ ฉันคิดว่ามันไม่ค่อยยากนะ เพราะอ่านมาบ้างแล้ว อาจารย์บอกว่าปรึกษากันได้ ฉันกับพลเลยช่วยกันคิด
“มิ้งข้อ 48 ข้อไหนเหรอ”พลถามเพราะไม่แน่ใจคำตอบข้อนั้น
ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่ฉันเลือกคือข้อ ข แล้วฉันก็บอกเขาว่า
“ฉันเลือกข้อ ข น่ะ นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ”
แล้วเขาก็เชื่อฉัน พอถึงข้อ 50 ฉันก็โล่งอกที่ทำเสร็จ ฉันเลือกข้อ 50 คือข้อ ก แต่พลเลือกข้อ ค ส่วนข้ออื่นเราเลือกเหมือนกันหมด ฉันไม่ได้สังเกตว่าข้อ 50 ฉันนั่นแหละกาผิดเอง พออาจารย์เฉลย พลได้ 50 เต็ม แต่ฉันสิได้ 49 ฉันไม่ค่อยพอใจเลยนั่งเฉย และรู้สึกเหมือนมีมือใครมาลูบหัวฉัน ก่อนจะได้ยินเสียง
“ขอบใจนะ” วันนี้ฉันได้ท็อปของห้องเลย ถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงไม่มีโอกาสอย่างนี้”
นั่นมันเสียงของพลนี่ ฉันเลยยิ้มให้เขาแล้วลืมเรื่องโกรธไปซะสนิทเลย(วันนี้เขาลูบหัวฉันด้วย โอ้ดีใจจริงๆเลย)
แล้ววันต่อๆมาเราก็เล่นกันอย่างสนุกสนานเวลาคาบพัก เขาเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาก
แล้ววันนั้นเขาก็เล่นเป็นดีเจ
“หวัดดีครับไม่ทราบว่าคุณพลต้องการขอเพลงให้ใครเหรอครับ”เขาพูดถามตอบกับตัวเอง
“ผมขอเพลงให้คุณมิ้งน่ะครับ”
“เพลงอะไรเหรอครับ”
“เพลงพูดไม่ค่อยเก่งครับ”
ฉันได้ยินที่เขาพูด แต่ก็นึกว่าเขาพูดเล่น เพราะปกติเขาก็ขี้เล่นอยู่แล้ว แล้วก็มีเสียงเพลงลอยมา
“พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ ถ้ารู้ว่าชอบอะไรจะหาให้เธอ”
ฉันเขินมากที่เขาร้องเพลงนี้ให้ฉัน แล้วเสียงเขาก็ดีพอจะเป็นนักร้องได้เลย
“นายร้องเพลงอะไรอะ หยุดร้องได้แล้ว”
“คุณไม่ชอบเหรอครับ งั้นเปิดเพลงใหม่”เขายังเล่นไม่รู้อะไร
แล้วฉันก็หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ
“เธอโกรธเหรอ”
“เปล่า”
“งั้นเป็นไร โอเค ฉันไม่ร้องเพลงแล้วอย่าโกรธนะ”
ฉันยิ้มให้เขาแทนคำตอบ แล้วเราก็นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
เย็นวันนั้นฉันร้องเพลงพูดไม่ค่อยเก่ง ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ พลางยิ้ม
แม่และน้อง2 คนของฉันนั่งนินทาฉันอยู่
“แม่ๆ พี่บ้ารึเปล่า ร้องเพลงนั้นอยู่หลายรอบแล้วนะ”
“ปล่อยพี่เค้าเถอะ สงสัยเรียนหนักเกิน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาย”
( ฉันไม่ได้บ้านะ แต่ฉันดีใจมากเลยดีใจแบบไม่เคยมีใครรู้สึกอย่างนี้มาก่อน)
แล้วคืนนั้นฉันก็หลับหลังจากร้องเพลงนั้นซ้ำไปซ้ำมาประมาณ 20 รอบได้
รุ่งขึ้นฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ พลางนึกว่าวันนี้จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นมั้ยน้า
คาบ1 คาบ2 ผ่านไปฉันสังเกตเห็นพลใช้แต่ liquidของฉัน ไม่ยอมใช้ของตัวเอง ( นายนี่ก็งกเหมือนกันนะ แค่เรื่องliquidเท่านั้นเหรอ)ฉันคิดอยู่ในใจ
“นายใช้ของฉันมาตั้งนานแล้วนะ แถมยังเอาไปเขียนเล่นบนโต๊ะอีก รู้มั้ยมันแพงนะตั้ง 70 บาท” (ฉันว่าเทวดาของฉันไปแล้ว)
เขาหยุดเขียนและเหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วเขาก็เปิดฝาน้ำยาลบคำผิดของเขาแล้วเทเติมให้ฉันจนเกือบหมด
“พอใจแล้วยัง”
“ขอบใจนะ”นายนี่มันเป็นผู้เสียสละโดยแท้ ( เทวดาของฉัน perfect จริงๆ)
“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องขอโทษ ที่เอาliquid เธอมาเล่นจนเกือบหมด”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ”
ตอนเย็นฉันเป็นเวรทำความสะอาด ฉันนึกสงสัยว่าพลเขียนอะไรไว้บนโต๊ะเลยไปดู ฉันเห็นข้อความว่า
‘ พลชอบ พลชอบ พลชอบ’ เต็มไปหมด ฉันยืนนึกอยู่นานก่อนจะเขียนเติมคำว่ามิ้งลงไปด้วยปากกา เพราะไม่อยากให้มันเด่นชัดเกินไป
ตอนเย็นฉันทำการบ้านโดยไม่ใช้liquid อันนั้นเลย ฉันจึงไปยืมของยัยมด ( ขอโทษนะ แต่พี่อยากเก็บมันไว้อย่างนี้ ไม่อยากใช้ให้หมด) ฉันผูกริบบิ้นที่liquid อันนั้น แล้วเขียนป้ายติดไว้ว่าของสำคัญ แล้วฉันก็ขอเงินแม่ไปซื้อliquidอันใหม่
“ก็พี่มดนั่นแหละเอารีโมทไปซ่อนไว้”
“เปล่าพี่ไม่ได้เอาไปนะ”
สองคนนี้ชอบทะเลาะกันเวลาทำรีโมททีวีหาย
เมื่อฉันเหลือบดูนาฬิกามันก็ปาเข้าไปตั้ง 7 โมงครึ่งแล้ว  ตายแล้วฉันต้องรีบไม่งั้นไปเรียนพิเศษสาย
วันนี้ก็เหมือนเช่นวันที่ผ่านมา ฉันนั่งเหม่อลอยไม่ได้ฟังที่อาจารย์พูด จนได้ยินเสียงกระชากวิญญาณของอาจารย์
ฉันเลยดึงสมาธิมาตั้งใจเรียน
หลังเลิกเรียน ฟ้า ฉัน และยิมเดินไปขึ้นรถพร้อมกันเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางฉันได้ยินคนในรถนินทาอาจารย์กัน
“โห อาจารย์โคตรดุเลยอะ นี่แค่เรียนพิเศษนะยังดุขนาดนี้เปิกเทอมมีหวังตายแน่ แล้วเสียงของแกก็โคตรจะกระชากวิญญาณ ได้ยินแล้ว สยองเลยนะ”
ยัยคนที่นินทาคิดเหมือนฉันเป๊ะ ฉันเลยนั่งยิ้มกับคำพูดนั้น
“เป็นอะไร มิ้ง ยิ้มอยู่ได้”
“เปล่าฉันก็แค่... เอ่อ ไม่มีอะไร”
“ อ้าวถึงซอยบ้านฉันแล้วนี่”
“ บาย พรุ่งนี้เจอกันนะ ยิม ฟ้า”
ฉันเดินฮัมเพลงจนเกือบถึงบ้าน แล้วก็เจอกับรุ่นน้อง ฉันไม่รู้จะทักอะไร เลยถามเกี่ยวกับวันปัจฉิมของ ป.6
“วันปัจฉิมเป็นงัยบ้างล่ะ”
“ก็หนุกดีนะพี่ เพื่อนให้ของมาเยอะแยะเลย”
“งั้นก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่เข้าบ้านก่อนนะ”
ฉันเพิ่งนึกอะไรได้เลยไปรื้อของในลิ้นชัก แล้วก็เจอลายมือของพลอยู่ในสมุดเล่มหนึ่งของฉัน ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเป็นตอนป.6 แล้วฉันก็เอา แต่คิดถึงพลอีกครั้ง
ตอนเรียนภาคฤดูร้อนตอนป.6 ฉันนั่งเรียนอยู่หลังพล แล้วคุยกับเพื่อนตอนที่อาจารย์ยังไม่มา
“นี่มิ้ง ตอนป.1 เธอชอบใครเหรอ”
“ก็ชอบ...ก็ชอบพลงัย” ฉันพูดอ้ำๆอึ้งๆเบาๆ
แต่เพื่อนฉันยัยปากไวนี่ดันไปบอกพลเรื่องเมื่อกี้
“ นี่พล มิ้งบอกว่าเคยชอบนายตอนป.1ล่ะ”
พลหันหน้ามาที่ฉัน แล้วทำสายตาเหมือนจะถามว่าจริงเหรอ
ฉันตอบอย่างเขินๆว่า”อืม..ใช่”
แล้วพูดอย่างเร็วว่า”มันก็แค่ป.1อะนะ ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายแล้วล่ะ”(ฉันพูดออกไปได้งัย ทั้งๆที่น่าจะบอกว่าชอบมาตลอดสิ แต่    ฉัน  ก็ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร โอกาสยังมีอีกเยอะ)
พลพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับเพื่อนต่อ
ตอนเรียนภาคฤดูร้อนฉันได้ที่หนึ่งด้วยล่ะ ( ฉันยิ้มกับความเก่งของตัวเอง)
เมื่อพ้นช่วงฤดูร้อนไปแล้วก็เริ่มเข้าเรียนชั้นป.6 พวกเพื่อนๆฉันเรียนกันอย่างจริงจัง เพราะอีกไม่นานก็ต้องสอบเข้าม.1แล้ว  อาจารย์ได้จัด  ห้องใหม่ให้นักเรียนหญิงนั่งกับนักเรียนชาย โดยการจับฉลาก ฉันอธิษฐานในใจว่าขอให้ได้นั่งกับพลด้วยเถิด และเหมือนพระเจ้าจะรับรู้ความ ปรารถนาของฉัน ฉันได้เลขที่นั่งคู่กับพล ฉันดีใจมากแล้วรีบไปนั่งยังโต๊ะที่ฉันจับฉลากได้
พลเป็นคนที่เรียนเก่งเหมือนกัน เวลาทำข้อสอบที่ไม่เข้าใจเราก็มักปรึกษากัน จนนานวันวันเข้าเราก็สนิทกันเหมือนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันคน หนึ่ง    ในคาบเรียนที่ 3ของวันนั้นเรานั่งทำข้อสอบกันประมาณ50ข้อ ฉันคิดว่ามันไม่ค่อยยากนะ เพราะอ่านมาบ้างแล้ว อาจารย์บอกว่าปรึกษากันได้ ฉันกับพลเลยช่วยกันคิด
“มิ้งข้อ 48 ข้อไหนเหรอ”พลถามเพราะไม่แน่ใจคำตอบข้อนั้น
ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่ฉันเลือกคือข้อ ข แล้วฉันก็บอกเขาว่า
“ฉันเลือกข้อ ข น่ะ นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ”
แล้วเขาก็เชื่อฉัน พอถึงข้อ 50 ฉันก็โล่งอกที่ทำเสร็จ ฉันเลือกข้อ 50 คือข้อ ก แต่พลเลือกข้อ ค ส่วนข้ออื่นเราเลือกเหมือนกันหมด ฉันไม่ได้สังเกตว่าข้อ 50 ฉันนั่นแหละกาผิดเอง พออาจารย์เฉลย พลได้ 50 เต็ม แต่ฉันสิได้ 49 ฉันไม่ค่อยพอใจเลยนั่งเฉย และรู้สึกเหมือนมีมือใครมาลูบหัวฉัน ก่อนจะได้ยินเสียง
“ขอบใจนะ” วันนี้ฉันได้ท็อปของห้องเลย ถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงไม่มีโอกาสอย่างนี้”
นั่นมันเสียงของพลนี่ ฉันเลยยิ้มให้เขาแล้วลืมเรื่องโกรธไปซะสนิทเลย(วันนี้เขาลูบหัวฉันด้วย โอ้ดีใจจริงๆเลย)
แล้ววันต่อๆมาเราก็เล่นกันอย่างสนุกสนานเวลาคาบพัก เขาเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาก
แล้ววันนั้นเขาก็เล่นเป็นดีเจ
“หวัดดีครับไม่ทราบว่าคุณพลต้องการขอเพลงให้ใครเหรอครับ”เขาพูดถามตอบกับตัวเอง
“ผมขอเพลงให้คุณมิ้งน่ะครับ”
“เพลงอะไรเหรอครับ”
“เพลงพูดไม่ค่อยเก่งครับ”
ฉันได้ยินที่เขาพูด แต่ก็นึกว่าเขาพูดเล่น เพราะปกติเขาก็ขี้เล่นอยู่แล้ว แล้วก็มีเสียงเพลงลอยมา
“พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ ถ้ารู้ว่าชอบอะไรจะหาให้เธอ”
ฉันเขินมากที่เขาร้องเพลงนี้ให้ฉัน แล้วเสียงเขาก็ดีพอจะเป็นนักร้องได้เลย
“นายร้องเพลงอะไรอะ หยุดร้องได้แล้ว”
“คุณไม่ชอบเหรอครับ งั้นเปิดเพลงใหม่”เขายังเล่นไม่รู้อะไร
แล้วฉันก็หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ
“เธอโกรธเหรอ”
“เปล่า”
“งั้นเป็นไร โอเค ฉันไม่ร้องเพลงแล้วอย่าโกรธนะ”
ฉันยิ้มให้เขาแทนคำตอบ แล้วเราก็นั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
เย็นวันนั้นฉันร้องเพลงพูดไม่ค่อยเก่ง ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ พลางยิ้ม
แม่และน้อง2 คนของฉันนั่งนินทาฉันอยู่
“แม่ๆ พี่บ้ารึเปล่า ร้องเพลงนั้นอยู่หลายรอบแล้วนะ”
“ปล่อยพี่เค้าเถอะ สงสัยเรียนหนักเกิน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาย”
( ฉันไม่ได้บ้านะ แต่ฉันดีใจมากเลยดีใจแบบไม่เคยมีใครรู้สึกอย่างนี้มาก่อน)
แล้วคืนนั้นฉันก็หลับหลังจากร้องเพลงนั้นซ้ำไปซ้ำมาประมาณ 20 รอบได้
รุ่งขึ้นฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ พลางนึกว่าวันนี้จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นมั้ยน้า
คาบ1 คาบ2 ผ่านไปฉันสังเกตเห็นพลใช้แต่ liquidของฉัน ไม่ยอมใช้ของตัวเอง ( นายนี่ก็งกเหมือนกันนะ แค่เรื่องliquidเท่านั้นเหรอ)ฉันคิดอยู่ในใจ
“นายใช้ของฉันมาตั้งนานแล้วนะ แถมยังเอาไปเขียนเล่นบนโต๊ะอีก รู้มั้ยมันแพงนะตั้ง 70 บาท” (ฉันว่าเทวดาของฉันไปแล้ว)
เขาหยุดเขียนและเหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วเขาก็เปิดฝาน้ำยาลบคำผิดของเขาแล้วเทเติมให้ฉันจนเกือบหมด
“พอใจแล้วยัง”
“ขอบใจนะ”นายนี่มันเป็นผู้เสียสละโดยแท้ ( เทวดาของฉัน perfect จริงๆ)
“ฉันต่างหากล่ะที่ต้องขอโทษ ที่เอาliquid เธอมาเล่นจนเกือบหมด”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ”
ตอนเย็นฉันเป็นเวรทำความสะอาด ฉันนึกสงสัยว่าพลเขียนอะไรไว้บนโต๊ะเลยไปดู ฉันเห็นข้อความว่า
‘ พลชอบ พลชอบ พลชอบ’ เต็มไปหมด ฉันยืนนึกอยู่นานก่อนจะเขียนเติมคำว่ามิ้งลงไปด้วยปากกา เพราะไม่อยากให้มันเด่นชัดเกินไป
ตอนเย็นฉันทำการบ้านโดยไม่ใช้liquid อันนั้นเลย ฉันจึงไปยืมของยัยมด ( ขอโทษนะ แต่พี่อยากเก็บมันไว้อย่างนี้ ไม่อยากใช้ให้หมด) ฉันผูกริบบิ้นที่liquid อันนั้น แล้วเขียนป้ายติดไว้ว่าของสำคัญ แล้วฉันก็ขอเงินแม่ไปซื้อliquidอันใหม่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น