ตอนที่ 53 : มายาที่ 51 ออกเดินทางอีกครั้ง <= [100%]
มายาที่ 51
ออกเดินทางอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ข้าก็กลับไปเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้อลันฟัง และขอให้อลันเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ เสียงเล่าเรื่องของมิดไนท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องมานานเงียบลง ก่อนที่เจ้าแมวดำจะถอนหายใจอย่างโล่งอก อดีตและเรื่องราวอันแสนเศร้าโศกที่มิดไนท์ต้องทนแบกรับมานานตอนนี้ได้ถูกระบายออกมาจนหมดสิ้นแล้ว ความอึดอัดภายในอกที่มักมีก็หายไปด้วย
ขอโทษที่ข้าปิดบังเจ้ามาตลอด และขอโทษที่ข้าทำให้เจ้าต้องไปเป็นนักฆ่าของอนามัน เจ้าแมวดำขอโทษเสียงค่อย ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ต่างคนต่างพากันนิ่งเงียบราวกับถูกสั่งห้ามไม่ให้เอ่ยปากพูดสิ่งใด ฟืนในเตาผิงส่งเสียงปะทุเปรี๊ยะปร๊ะ
เฟลมหลับตาลงอย่างแช่มช้า ภาพความทรงจำในอดีตไหลพรั่งพรูเข้ามาในหัวสมองไม่หยุด หลังจากที่มิดไนท์เล่าเรื่องในอดีตให้เฟลมฟัง เวทย์ลบความทรงจำของอนามันก็สลายไป เฟลมจำเรื่องราวในอดีตของเขาได้ทั้งหมดแล้ว ทั้งเรื่องที่ตนเองมีชื่อจริงว่ารานิน การ์เดี้ยน ทั้งเรื่องที่มิดไนท์เดิมมีชื่อว่าเก็นกะ ทั้งเรื่องที่ครอบครัวของเขาถูกอนามันฆ่าล้างตระกูลในคืนที่พายุกระหน่ำ รวมทั้งเรื่องที่เขาเคยให้สัญญาไว้กับบิดาของเขาด้วย สัญญาที่เขาบอกว่า จะสู้ในฐานะการ์เดี้ยนจนกว่าชีวิตจะหาไม่
เจ้าจะโกรธจะเกลียดข้าก็ได้นะที่ข้าปิดบังเรื่องนี้มาตลอด มิดไนท์ก้มหน้าสลด เฟลมผ่อนลมหายใจยาว บรรยากาศภายในห้องส่อเค้ามาคุชวนให้รู้สึกหงุดหงิดพิกล
ข้าขออยู่กับมิดไนท์ตามลำพังซักพักได้ไหมขอรับ เฟลมหันไปขออนุญาตกับไคอา ซึ่งไคอาก็ไม่ได้ว่าอะไรและเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี หลินเดินตามหลังองค์ราชาหนุ่มไปห่างๆ สองแฝดมองเฟลมด้วยสายตาเจือเค้าความเป็นห่วง แต่เมื่อเฟลมส่ายหน้าบอกเป็นนัยๆว่าไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งสองก็ยอมเดินออกไปจากห้องอย่างว่าง่ายโดยมีพวกกาโอเดินตามออกไปติดๆ ประตูไม้บานหนาปิดฉับลง เสียงฝีเท้าเบาลงเรื่อยๆก่อนจะเงียบหายไปในที่สุด
เฟลมหันกลับมาให้ความสนใจเจ้าแมวดำตรงหน้าอีกครั้ง มิดไนท์ยังคงนั่งก้มหน้างุดด้วยความสลด ความเงียบโรยตัวอย่างเชื่องช้า ก่อนจะถูกทำลายด้วยเสียงของเจ้าแมวดำ
เฟลม.... ข้าขอโทษ
.....
ข้าขอโทษจริงๆ มิดไนท์เอ่ยขอโทษซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกำลังสวดมนต์ภาวนา เฟลมลอบถอนหายใจเฮือก มิดไนท์ไม่เห็นจำเป็นต้องมาขอโทษเขาเลย เขาต่างหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษที่ทำให้มิดไนท์ต้องทนอยู่อย่างทรมานใจมาตลอด
ถ้าเป็นเฟลม เขาคงรู้สึกเสียใจจนแทบคลั่งถ้าอยู่ๆเด็กที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆจำคนที่เลี้ยงมาไม่ได้ แต่มิดไนท์กลับทนได้กว่า10ปี ต้องถือว่าเจ้าแมวดำตรงหน้านั้นมีจิตใจที่เข้มแข็งจริงๆ
ข้าขอโทษจริงๆเฟลม ข้าขอโทษ เหมือนเจ้าแมวดำกำลังเพ้อ มันพร่ำเอ่ยขอโทษอย่างไม่ขาดสาย
ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องไปเป็นนักฆ่า ขอโทษที่ข้าไม่สามารถเลือกทางเดินที่ดีกว่านี้ให้เจ้าได้ น้ำเสียงของมิดไนท์บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวนั้นกำลังเครียดจัด เจ้าแมวดำงุ้มหน้าลงต่ำจนแทบชิดเตียง มันรู้สึกว่าขอบตาของมันร้อนผ่าวและมีหยาดน้ำตาใสซึมรื้น ความรู้สึกผิดที่มีอยู่เต็มอกกำลังกดดันมิดไนท์ เฟลมขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่ชอบเลยที่มิดไนท์มานั่งโทษตนเองเพราะมันไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้ ยิ่งมิดไนท์มีท่าทีไม่สบายใจ เฟลมก็พลอยรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย
ข้าขอโทษ เจ้าแมวดำยังไม่หยุดขอโทษ เฟลมถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
เจ้าไม่เห็นจำเป็นต้องมาขอโทษข้าเลยมิดไนท์ ก็ข้าไม่ได้โกรธเจ้าซักหน่อยนี่ เด็กหนุ่มว่าเสียงกลั้วหัวเราะ เรียกให้เจ้าแมวดำเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำพูดด้วยความงงงวยอย่างรวดเร็วราวถูกดีด
หมายความว่าไง? เจ้าไม่โกรธข้าเหรอที่ข้าทำให้เจ้าต้องไปเป็นนักฆ่า ทำให้เจ้าต้องฆ่าคนทั้งๆที่จริงๆแล้วเจ้าไม่ได้พิสมัยการฆ่าคนเลยซักนิด แถมยัง...
พอเถอะมิดไนท์ ไม่ต้องโทษตัวเองแล้ว เฟลมตัดบทก่อนที่มิดไนท์จะโทษตัวเองไปมากกว่านี้ เด็กหนุ่มรู้ดีว่าแค่นี้เจ้าแมวดำตรงหน้าก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว เขาไม่ต้องการทำให้มิดไนท์รู้สึกย่ำแย่ไปมากกว่านี้อีก
ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก ไม่แม้แต่จะมีสิทธิ์มาโกรธเจ้าด้วยซ้ำ เฟลมอุ้มมิดไนท์ขึ้นสูงเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน เจ้าแมวดำกะพริบตาปริบๆ
ขอบใจเจ้ามากนะมิดไนท์ เจ้าแมวดำเอียงคอมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความฉงน ยิ่งเฟลมพูด มิดไนท์ก็ยิ่งไม่เข้าใจ เฟลมจะมาขอบคุณมันทำไมกัน มันทำให้เฟลมเป็นนักฆ่า เฟลมน่าจะโกรธมันมากกว่า ไม่ใช่มาขอบคุณมันแบบนี้
ถ้าไม่มีเจ้า ป่านนี้ข้าก็คงตายไปแล้ว ถ้าไม่มีเจ้า ข้าก็คงไม่มีโอกาสได้เจอเพื่อนๆพวกนี้ และที่สำคัญ ถ้าไม่มีเจ้า ข้าก็คงไม่มีวันนี้หรอกจริงไหม เด็กหนุ่มวางมิดไนท์ลงบนตักหนา
...
ขอบคุณมากขอรับ ท่านเก็นกะ คำพูดของเฟลมทำเอามิดไนท์อึ้งไปชั่วครู่ ลักษณะการพูดแบบนี้ เหมือนลักษณะการพูดของเจ้ารานินตัวน้อยไม่มีผิด หรือว่า...
ความทรงจำทั้งหมดของข้ากลับมาแล้วล่ะขอรับท่านเก็นกะ เฟลมยิ้มแฮ่ๆ มิดไนท์ถึงกับน้ำตาซึมด้วยความปิติ ความทรงจำทั้งหมดของเฟลมกลับมาแล้ว รานินตัวน้อยของเขากลับมาแล้ว การ์เดี้ยนกลับคืนสู่มหานครแล้ว มหานครต้องรอดพ้นจากความหายนะที่อนามันกำลังจะก่อขึ้นอย่างแน่นอน เพราะรานินเป็นเด็กที่ได้รับการทำนายว่าจะเป็นผู้ที่นำพามหานครไปสู่ความสงบสุข ดังนั้นรานินจะต้องหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ได้แน่
แต่ว่านะ ขอข้าเรียกท่านเก็นกะว่ามิดไนท์เหมือนเดิมได้ไหม เรียกมิดไนท์มาตั้ง10กว่าปี อยู่ดีๆจะให้เปลี่ยนมาเรียกท่านเก็นกะมันก็กระไรอยู่ เด็กหนุ่มเกาท้ายทอยแกรกๆ
นั่นสินะ มิดไนท์คลี่ยิ้มบาง จะเรียกแบบไหนมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะไม่ว่าจะชื่อไหน มันก็ยังเป็นเสือดำปีศาจที่คอยอยู่เคียงข้างเด็กหนุ่มอยู่ดี
อ้อใช่ เจ้าเองก็เรียกข้าว่าเฟลมเหมือนเดิมเถอะนะ ถึงจะไม่ใช่ชื่อที่ท่านพ่อกับท่านแม่ตั้งให้ แต่มันก็เป็นชื่อใหม่ที่เจ้าตั้งให้ข้านี่เนอะ และข้าเองก็ชอบชื่อนี้มากกว่าด้วย มันสั้นดี เฟลมว่าขำๆ ทำเอามิดไนท์อดขำด้วยไม่ได้ เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยซักนิดให้ตายเถอะ
หึ หึ มิดไนท์ลอบขำเบาๆ เฟลมยิ้มเผล่
เฮ่อ ในที่สุดเจ้าก็ยอมหัวเราะซักที อย่าเอาแต่ทำหน้าเครียดสิมิดไนท์ เครียดมากๆเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก พูดจบเฟลมก็ใช้มือขยี้หัวของมิดไนท์อย่างหมั่นไส้ มิดไนท์เผลอแยกเขี้ยวขู่ฟ่อ
ข้าเพิ่งจะห้าร้อยกว่าเองนะ ยังอยู่ได้อีกหลายร้อยปีน่าเจ้าเด็กเหลือขอ มิดไนท์ว่าเสียงต่ำ เฟลมหลุดขำน้อยๆ
แล้วจากนี้ต่อไปเจ้าจะทำยังไงล่ะ มิดไนท์เปลี่ยนหัวเรื่อง ดูเผินๆแล้วอาจเป็นคำถามที่เรียบง่าย แต่คำถามข้อนี้ก็ทำให้เฟลมต้องคิดหนักไม่น้อยเหมือนกัน เด็กหนุ่มงุ้มหน้าลงนิ่งคิด
เจ้าจะฆ่าอนามันทิ้งในฐานะที่เจ้าเป็นการ์เดี้ยนคนสุดท้ายของมหานคร หรือว่าเจ้าจะปล่อยอนามันไปเพราะอนามันเป็นผู้มีบุญคุณของเจ้าล่ะ
ไม่ฆ่าไม่ได้เหรอมิดไนท์ แค่จับตัวมาขังไว้อย่างเดียวไม่ได้เหรอ เด็กหนุ่มถามพาซื่อ
แล้วเจ้าคิดว่าอนามันจะยอมหยุดอยู่แค่โดนจับงั้นเหรอ มิดไนท์ถามกลับห้วนๆ ทำให้เฟลมหลุดพึมพำออกมาเบาๆอย่างลืมตัว
นั่นสินะ เด็กหนุ่มจับคางทำท่าครุ่นคิด ตอนแรกที่คิดจะหักหลังอนามันก็เพราะคิดว่าถ้าจับอนามันได้เรื่องทั้งหมดก็จะจบ แต่ที่มิดไนท์พูดก็มีส่วนถูก เฟลมรู้จักอนามันดี เขาคงไม่ยอมหยุดยั้งแผนการง่ายๆอย่างแน่นอน ถ้ายังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ อนามันก็จะไม่มีวันหยุดอยู่นิ่งๆเด็ดขาด ถ้าไม่ฆ่าอนามันทิ้งเรื่องก็คงไม่จบ
เฮ่อ เฟลมสูดหายใจลึกก่อนผ่อนออกมาเพื่อระบายความเครียด ถ้าเขาฆ่าอนามัน เขาก็อาจจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนอกตัญญูเพราะสังหารผู้มีพระคุณ แต่ถ้าเขาไม่ฆ่า มหานครทั้งมหานครก็อาจจะต้องพบกับหายนะ
หายนะงั้นเหรอ คำว่าหายนะปรากฏเด่นชัดในสมอง
จะปล่อยให้มหานครพบกับความหายนะไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถึงแม้จะโดนตราหน้าว่าเป็นคนอกตัญญูก็ไม่สน
มิดไนท์ ข้าตัดสินใจได้แล้วล่ะ เฟลมเงยหน้าขึ้นสบดวงตาสีทองอร่ามของมิดไนท์ ดวงตาสีแดงเพลิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
งั้นเหรอ แล้วเจ้าตัดสินใจว่ายังไงล่ะ เจ้าแมวดำแสร้งถาม ถึงแม้จะแน่ใจแล้วก็ตามว่าทางที่เฟลมเลือกนั้นจะต้องไม่ใช่ปล่อยอนามันไปอย่างแน่นอน
จะทำยังไงน่ะเหรอ ไม่เห็นต้องถามเลย ก็ตัวเลือกน่ะมันก็มีแค่หนึ่งมาตั้งแต่แรกแล้วนี่นา เฟลมคลี่ยิ้ม
ข้าก็ต้องทำหน้าที่ของข้าในฐานะการ์เดี้ยนคนสุดท้ายของมหานครให้ดีที่สุดน่ะสิ ข้าจะต้องขัดขวางมาสเตอร์ให้ได้ จะยอมให้มหานคนรแห่งนี้ตกเป็นของปีศาจไม่ได้อย่างเด็ดขาด เฟลมทุบอกว่าเสียงหนักแน่น มิดไนท์ถึงกับอดยิ้มไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้ถูกเลี้ยงมาในฐานะสายเลือดของการ์เดี้ยน แต่เฟลมก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสายเลือดของการ์เดี้ยนที่มีอยู่ในตัวเฟลมนั้นแรงมากทีเดียว สายเลือดที่ยอมสละแม้กระทั่งชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องมหานครอันเป็นที่รัก
ตอบได้สมกับเป็นสายเลือดของการ์เดี้ยน เจ้านี่มันเหมือนพ่อของเจ้าไม่มีผิด มิดไนท์แซวขำๆ เฟลมเกาแก้มอย่างอายๆก่อนยกมือขึ้นเสยเส้นผมที่หล่นลงมาปรกหน้า พลันมือซ้ายก็สัมผัสได้ถึงสัมผัสเย็นๆที่ใบหูซ้าย มันคือสัมผัสของต่างหูเงินบริสุทธิ์ที่อนามันมอบให้เฟลมเพื่อเป็นสิ่งยืนยันว่าเฟลมคือแฟนธ่อม ออฟ ดาร์กเนส มันคือสิ่งที่ยืนยันว่าเฟลมคือนักฆ่าที่ขึ้นตรงต่ออนามัน
เฟลม ตอนนี้เจ้าก็ไม่ใช่แฟนธ่อมแล้ว ถอดต่างหูนั่นออกได้แล้วมั้ง มิดไนท์เอ่ยเสียงไม่สบอารมณ์ เฟลมพึมพำเบาๆว่านั่นสินะพลางเอื้อมมือขึ้นเพื่อจะถอดต่างหูออก แต่ปรากฏว่า
ถอดไม่ออก เฟลมว่าเสียงเครียด เรียกให้เจ้าแมวดำต้องขมวดคิ้วมุ่น
ว่าไงนะ มิดไนท์ถามทวนอย่างฉงน เฟลมลองพยายามแกะต่างหูออกอีกครั้ง แต่มันก็ยังคงติดแน่นเหมือนเดิม เฟลมกับมิดไนท์หันมองหน้ากันด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความกังวลใจ นึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อยว่าจะต้องมีเรื่องอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นแน่
..........
ฟืนในเตาผิงของห้องสมุดประจำพระราชวังหลวงเมืองเคนตาเซียส่งเสียงปะทุดัง ไคอาหยิบเอกสารคดีฆ่าล้างตระกูลการ์เดี้ยนมาพลิกเปิดดูอย่างลวกๆ ก่อนหันไปคุยกับหลินอย่างออกรส
เหล่าองค์รัชทายาททั้งห้าแยกย้ายกันไปนั่งยังโซฟาที่มีอยู่ตามมุมห้อง ทัสถูมือไปมาเพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บพลางหย่อนกายลงนั่งที่โซฟาข้างๆกาโอ สองแฝดเลือกเดินไปยังหน้าต่างบานใหญ่ ดวงตาสีนิลทั้งสองคู่เหม่อมองไปไกลยังฟากฟ้าสีดำสนิทยามค่ำคืน หิมะสีขาวบริสุทธิ์ตกต่อเนื่องกันมามากกว่า 3 วันแล้ว อุณหภูมิจึงลดลงต่ำจนแทบทนไม่ได้
สายลมพัดผ่านแผ่วเบา เรียกให้เจ้าตัวแสบที่ยืนเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ต้องขมวดคิ้วมุ่น ในสถานที่ปิดแบบนี้ จะมีลมพัดได้ยังไงกัน และดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอก็คงรู้สึกแบบเดียวกับเธอด้วย นีโอหันมองน้องสาวก่อนพยักหน้าให้นีออนอย่างเงียบงัน
สงสัยจะเป็นเจ้านิก คนเป็นพี่กระซิบ นีออนส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆ
อ่านสิ ข้าขี้เกียจ แล้วจึงสั่งเสียงเฉียบขาด
เจ้านี่น้า นีโอส่ายหัวน้อยๆให้กับคำของน้องสาวพร้อมหลับตาลง เด็กหนุ่มตั้งสมาธินิ่งเพื่ออ่านสิ่งที่มาพร้อมกับสายลม แต่ก่อนที่นีโอจะอ่านข้อความที่มากับสายลมได้จบ สายลมก็พลันหยุดพัดโบกไปเสียดื้อๆ นีออนชักสีหน้าประหลาดในขณะที่นีโอได้แต่ยืนปั้นหน้างง
มีอะไรเหรอ ทัสเอ่ยทักเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของทั้งสอง นีออนเอียงคอนิด
ไม่มีอะไรหรอก เด็กสาวตอบอย่างขอไปที
มีอะไรเกิดขึ้นกับนิกรึเปล่านะ ก่อนหันไปกระซิบกระซาบกับพี่ชาย นีโอส่งเสียงอือเห็นด้วย
นั่นสิ เพราะปรกติสายลมของนิกจะไม่หยุดพัดจนกว่าพวกเราจะอ่านจบนี่นา นีโอตั้งข้อสังเกต ทัสทำหน้ายู่เมื่อเห็นทั้งสองเอาแต่กระซิบกระซาบกัน
เฮ้ อย่าเอาแต่กระซิบกันอยู่สองคนสิ เห็นแล้วมันขัดหูขัดตาฟ่ะ ทัสแขวะพลางแยกเขี้ยวขู่แฮ่ เรียกให้นีออนหันขวับจ้องหน้าทัสด้วยสายตาราวกับอยากจะฆ่าปาดคอทัสในทันที
ข้าจะคุยอะไรกันมันก็เรื่องของข้า ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้าองครักษ์งี่เง่า เสียงแหวที่แหลมสูงทำให้ไคอาต้องลดหนังสือในมือลงและเปลี่ยนมาให้ความสนใจบทสนทนาของนีออนและทัสแทน หลินขยับหันมองตาม
หนอย ว่าไงนะยัยขี้เหร่ นีโอขยับยิ้มเจื่อน เจ้าพวกนี้เริ่มกัดกันอีกแล้ว
ไอ้องครักษ์ปัญญานิ่ม ทัสลุกพรวดเดินเข้าไปยืนประจันหน้านีออน
ยัยไม้เสียบผี เปมินกับลินนะยิ้มเฝื่อนพลางพยายามจะเข้าไปห้ามทัพ แต่ก็ต้องหยุดความพยายามในทันทีเมื่อโดนทั้งสองหันมาแยกเขี้ยวใส่ ถ้าขืนยังดื้อดึงจะเข้าไปห้าม มีหวังเจ้าสองตัวนี้ได้เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นพวกเธอแทนแน่
ไอ้องครักษ์หน้าตาอุบาทว์
ยัยตัวประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์
ไอ้องครักษ์ซื่อบื้อ
ยัยสมองนิ่ม ยัยขี้เหร่ ยัยทุเรศ ยัยตัวประหลาด ยัยอ้วน!
เฮ้ย พูดงี้มาต่อยกันเลยดีกว่ามะ นีออนถกแขนเสื้อกระดิกนิ้วท้า จานากับโอริส่ายหน้าอย่างระอาให้กับความติ๊งต๊องของเจ้าสองแสบ ในขณะที่กาโอได้แต่แค่นหัวเราะด้วยความเซ็ง ลองได้พูดแบบนี้ อีกเดี๋ยวได้ต่อยกันจริงๆแน่
โด่เอ๊ย แน่จริงก็เข้ามาสิ ทัสยกหมัดขึ้นในท่าเตรียมพร้อม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นีออนรู้สึกว่าความอดทนของเธอได้หมดลงแล้ว
ได้เลย กล่าวจบ เจ้าของฉายาจอมแสบทั้งสองก็เริ่มตีกันทันที ไคอากับหลินกะพริบตาปริบๆมองทั้งสองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ทำไมถึงได้เก่งกันอย่างนี้นะ สามารถทำให้เรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ด้วย!!!
ตายซะเถอะไอ้องครักษ์ซื่อบื้อ! นีออนตวาดพร้อมเตะผ่าหมากทัส ทำเอาหนุ่มน้อยใหญ่ที่เห็นภาพเมื่อครู่ต้องหลับตาปี๋ส่งเสียงร้องซี้ด เจ้าทัสเอ๊ย ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
แย้ก!!! !@#$%^&*()_+!!! โดนกระบวนท่านี้เข้าไป ทัสถึงกับร้องเสียงหลงไม่เป็นภาษาก่อนล้มลงกลิ้งไปกลิ้งมา เด็กหนุ่มถึงกับน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด มือหนากุมทัสน้อยแน่น นีโอหลุดร้องอูยอย่างลืมตัว
เยส!!! นีออนประกาศชัยชนะด้วยท่าทีสะใจ ผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหัวเราะเจื่อนๆด้วยความเหลือเชื่อ
ปรกติสองคนนี้เค้าเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอกาโอ ไคอาชี้สองแสบพร้อมหันไปถามบุตรชาย กาโอพยักหน้าหงึกหงัก โดยมีองค์รัชทายาทอีกสี่คนที่เหลือและหลินพยักหน้าสนับสนุน ไคอาหัวเราะด้วยท่าทีเหนื่อยใจ
ขอรับ เป็นอย่างงี้ทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ทะเลาะกันวันนั้นโลกก็คงแตกแล้วล่ะขอรับ กาโอตอบกลับเสียงเบื่อหน่าย นีออนยิ้มเผล่พลางหักนิ้วดังกร๊อบแกร๊บ ดูเหมือนว่าเธอยังจะอยากเข้าไปกระทืบทัสต่อ แต่ความต้องการของเธอก็โดนขัดขวางได้เสียก่อนเมื่อนีโอเดินเข้าไปล๊อกตัวนีออนไว้ เจ้าตัวแสบดิ้นพล่านอย่างไม่สบอารมณ์
ปล่อยข้านะนีโอ ข้าจะไปกระทืบมัน มันบังอาจมาด่าข้า นีออนหันไปแหวพี่ชาย นีโอเบือนหน้าหนีไม่รับฟัง
น่าน่า อย่าไปทำทัสมันเลยนะ แค่นี้ทัสก็เจ็บจะแย่อยู่แล้วล่ะ ลินนะตบบ่าห้ามเจ้าตัวแสบ กาโอเดินเข้าไปพยุงทัสให้ลุกขึ้น เด็กหนุ่มผู้แสนโชคร้ายหยัดกายลุกยืน แต่แล้วก็ล้มลงไปนอนตัวงออีกรอบ ใบหน้าของเด็กหนุ่มบูดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังไม่วายขอปากมากอีกซักนิด
หนอย จำไว้เลยนะเจ้าตัวแสบ ข้าลุกได้เมื่อไหร่เจ้าไม่รอดแน่ ทัสผูกอาฆาต นีออนแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างไม่ใส่ใจ
แน่จริงก็ลุกขึ้นมาสิ ตางี่เง่า
ยัยอัปลักษณ์เอ๊ย
เฮ้ย พูดแบบนี้นี่แสดงว่าอยากเจ็บตัวอีกรอบใช่ไหมเนี่ย
เออ มีไรมะ คำพูดของทัสทำให้ผู้ที่ได้ยินต้องส่ายหน้าอย่างเอือมๆ จะลุกยังลุกไม่ขึ้นแล้วดันไปท้าเจ้าตัวแสบอีก นี่มันบ้าหรือโง่กันแน่นะ
มีแน่ไอ้สมองกลวง นีออนแยกเขี้ยวงุดพยายามกระโจนเข้าใส่ทัสอีกรอบ นีโอกลอกตามองเพดานด้วยความเบื่อหน่ายพลางกระชับวงแขนให้แน่นมากขึ้น เจ้าตัวแสบเมื่อไม่ได้อย่างใจก็เริ่มส่งเสียงคำรามต่ำๆ
ปล่อยข้านะนีโอ นีออนตวาดเสียงแหลม แต่นีโอกลับยังยืนนิ่ง เจ้าตัวแสบกัดฟันแยกเขี้ยวกว้าง
ข้าบอกให้เจ้าปล่อยข้าไงเล่า ว่าแล้วนีออนก็กระทุ้งศอกใส่ท้องของนีโออย่างจัง นีโอถึงกับจุกพูดไม่ออก เมื่อวงแขนของพี่ชายคลายแรงแล้ว นีออนก็ฉีกยิ้มสะบัดนีโอทิ้งแล้วถีบเท้ากระโจนเข้าใส่ทัสอย่างรวดเร็วจนลินนะหลบแทบไม่ทัน กาโอซึ่งนั่งอยู่ข้างๆทัสเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบลุกขึ้นถอยฉากออกมาไกลเจ้าเพื่อนซี้ทันที
เจ้าตาย! นีออนตะโกนเสียงสูงแสบแก้วหู
เหวอ ทัสหลับตาปี๋แล้วสวดมนต์ภาวนาในใจ ไม่น่าไปยั่วยัยนี่เลยให้ตายเหอะ
สายลมพลันพัดวูบแรง เรือนผมสีดำขลับปลิวสะบัดพริ้ว เจ้าตัวแสบชะงักมือที่กำลังจะประทุษร้ายทัสในทันที ดวงตาสีนิลหรี่ลงเหมือนกำลังพิจารณาบางสิ่งบางอย่าง
เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆถึงมีลมพัดได้ล่ะ ไคอาถามเสียงต่ำ นีโอทำท่าจุ๊ปากเพื่อบอกให้ทุกคนเงียบ สองแฝดหลับตาลงอย่างแช่มช้า สายลมพัดโบกต่อเนื่อง
หืม? สองแฝดส่งเสียงประหลาดพร้อมขมวดคิ้ว ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นขมวดคิ้วตาม จะมีก็แต่ทัสที่ยังคงนอนกลิ้งร้องโอดโอยอยู่กับพื้น
แย่แล้ว ต้องรีบไปบอกเฟลมแล้ว! อยู่ๆนีออนก็โพล่งเสียงดังเรียกให้ทุกคนสะดุ้งโหยง นีโอตีหน้าเครียด
เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ พวกกาโอประสานเสียงถามอย่างพร้อมเพรียง สองแฝดกวาดสายตามองทุกคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเค้าความตระหนก
โลกมืดบุกเอราเดสน่ะสิ จบประโยค สองแฝดก็พุ่งตัววิ่งหายไปทางห้องที่เฟลมพักอยู่อย่างรวดเร็ว พวกไคอาหันหน้ามองกันอย่างงงๆก่อนจะวิ่งตามทั้งสองไป โดยไม่มีใครนึกเลยว่าได้ทิ้งให้ทัสนอนร้องโอดโอยอยู่คนเดียวเสียแล้ว
เฮ้ย มาช่วยพยุงข้าขึ้นก่อนเซ่
...
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ทัสจึงได้แต่แค่นหัวเราะด้วยความเซ็งและกระดึ้บตามพวกไคอาไปอย่างช้าๆ
..........
เฟลม พวกข้าขอเข้าไปนะ เสียงแหลมเล็กดังขึ้นเพื่อขออนุญาต แต่ยังไม่ทันที่เจ้าของชื่อจะได้ขานตอบรับ ประตูไม้บานหนาก็กระแทกเปิดออกอย่างแรง ตามมาด้วยร่างเล็กของนีออนที่โผล่พรวดเข้ามาในห้อง นีโอทะลึ่งพรวดตามหลังน้องสาวเข้ามาติดๆ ทำให้เฟลมอดสงสัยไม่ได้ว่าจะขออนุญาตให้เปลืองน้ำลายไปทำไม เฟลมมองหน้าสองแฝดด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย แต่ท่าทีตื่นตะลึงของนีออนก็ทำให้ความไม่พอใจของเฟลมเปลี่ยนมาเป็นความฉงนในที่สุด เฟลมลดมือที่กำลังถอดต่างหูลง
เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ มิดไนท์เป็นฝ่ายตั้งคำถาม สองแฝดสูดลมหายใจลึกเพื่อปรับจังหวะการหายใจให้เข้าที่ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พวกกาโอวิ่งตามเข้ามาในห้อง นีโอสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง
ท่านมิดไนท์ เมื่อกี้นิกส่งข่าวมาบอกว่าโลกมืดบุกเอราเดสขอรับ แล้วตอนนี้ไดมอนก็โดนพวกโลกมืดล้อมเอาไว้แล้วด้วยขอรับ นีโอรายงานเร็วรัว มิดไนท์ถึงกับหน้าถอดสี โลกมืดบุกไปไดมอน เป้าหมายของพวกมันก็คงไม่พ้นร่างของลูซิเฟอร์ที่หลับใหลอยู่ภายในห้องสมุดต้องห้ามเป็นแน่ ถ้าโลกมืดได้ร่างของลูซิเฟอร์ไป ก็เท่ากับว่าโลกมิดได้ชัยไปแล้วยกหนึ่ง จะปล่อยให้โลกมืดได้ร่างของลูซิเฟอร์ไปไม่ได้เด็ดขาด
มิดไนท์หันมองหลินที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังไคอา
หลิน เจ้ารีบกลับไปที่ไดมอนด่วนเลย ที่ไดมอนมีแต่นักเรียน คงรับมือพวกโลกมืดไม่ไหวแน่ เจ้าแมวดำสั่งเสียงเฉียบขาด คนถูกไหว้วานผงกหัวรับคำสั่ง
ทราบแล้วขอรับ โดยไม่ต้องให้พูดซ้ำ หลินวิ่งหายออกไปจากห้องแทบจะในทันที นีออนรอจนกระทั่งแผ่นหลังของหลินลับสายตาไป จึงหันมาพูดกับมิดไนท์ต่อด้วยท่าทีร้อนรน
ท่านมิดไนท์เจ้าคะ นอกจากโลกมืดจะบุกไดมอนแล้ว นิกก็ยังส่งข่าวมาบอกอีกด้วยว่ามาสเตอร์กำลังมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบจันทราเจ้าค่ะ
บ้าชิบ เจ้าแมวดำสบถเสียงเครียดให้กับสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงทุกขณะ เฟลมเลิกผ้าห่มขึ้นพลางกระโดดลงมาจากเตียง แล้วก็ถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย เพิ่งจะฟื้นไข้แท้ๆ ต้องมาออกกำลังกายอีกแล้ว
เด็กหนุ่มบิดกายไปมาเพื่อยืดกล้ามเนื้อ เพื่อนๆต่างมองตามการกระทำของเฟลมอย่างงงๆ
เฟลม เจ้ายังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ ลงมาเดินร่อนทำไมล่ะ นีออนท้วงเสียงเจือเค้าความเป็นห่วง
เรื่องอาการบาดเจ็บของข้าน่ะช่างมันเถอะ ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของมาสเตอร์นะ ถ้ามาสเตอร์ได้อัญมณีทั้งสองชิ้นไป มหานครได้ล่มสลายแน่
ข้าเห็นด้วยกับเฟลม จานาที่เงียบมานานโพล่งขึ้นมาด้วยเสียงที่เรียบกริบ โอริพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
ถ้างั้นพวกข้าขอตัวไปเตรียมสัมภาระก่อนก็แล้วกันนะ พวกเจ้าก็รีบๆเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ยิ่งดึกหิมะก็จะยิ่งตกหนัก เดี๋ยวจะเดินทางไม่ได้กันพอดี โอริแนะ แล้วสองเจ้าชายก็หันหลังเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบงัน นีออนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วแลบลิ้นล้อเลียน เจ้าสองคนนี้นี่มันกวนโมโหชะมัด
ตึก! ตึก! ตึก!
พลันเสียงฝีเท้าถี่รัวก็ดังกระทบโสตประสาท เรียกให้ผู้ที่ได้ยินหันมองหาต้นเสียงตามสัญชาตญาณอย่างรวดเร็ว
ท่านไคอาขอรับ! แย่แล้วขอรับ! เสียงตะโกนเรียกหาดังลั่น และตามมาด้วยร่างของนายทหารหนุ่มนายหนึ่งที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาองค์ราชาประจำเมืองเคนตาเซีย นายทหารหนุ่มค้อมกายลงทำความเคารพนิดหนึ่ง
ท่านไคอาขอรับ โลกมืดบุกขอรับ นายทหารหนุ่มพูดเร็วระรัว
ว่าไงนะ โลกมืดบุกงั้นเรอะ ไคอาถามกลับอย่างไม่เชื่อหู นายทหารหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักยืนยันคำพูด
ขอรับ มากันเป็นพันเลยขอรับ แถมพวกดาร์กเดม่อนก็มากันให้เพียบเลยขอรับ เมื่อได้ฟังการรายงานสถานการณ์ องค์ราชาหนุ่มก็ถึงกับเครียดจัด นอกจากเอราเดสแล้ว เคนตาเซียก็โดนบุกด้วยงั้นเหรอ นี่พวกโลกมืดมันชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้วนะ
สั่งการออกไป ให้กองทัพหน่วยที่หนึ่ง สองและสามออกไปต้านโลกมืดเอาไว้ อย่าให้มันบุกเข้ามาถึงเขตพระราชวังหลวงได้ แล้วก็ให้กองทัพหน่วยที่สี่และห้าอพยพผู้คนในเมืองมาอยู่ในเขตพระราชวังหลวงอย่างเร่งด่วน ไป! ไคอาสั่งการอย่างชำนาญ นายทหารหนุ่มก้มหัวรับคำสั่งก่อนหันหลังวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
ท่านเก็นกะ ข้าคงต้องขอตัวก่อนนะขอรับ ไคอากล่าวลาสั้นๆพร้อมค้อมกายทำความเคารพเจ้าแมวดำอย่างมีมารยาท จากนั้นจึงวิ่งหายไปจากห้องด้วยท่าทีรีบเร่ง
กาโอ เปมิน ทัส แล้วก็เจ้าตัวเล็ก พวกเจ้าเองก็ไปเตรียมตัวกันได้แล้วล่ะ ขืนชักช้าเดี๋ยวก็ได้ติดพายุหิมะกันพอดี เฟลมหันไปสั่งเสียงเรียบ ผู้ถูกเรียกทั้งสี่ผงกหัวรับคำเบาๆ
เข้าใจแล้ว เมื่อเสียงตอบรับเงียบลง ทั้งสี่ก็พากันแยกย้ายหายไปอย่างรวดเร็ว เฟลมหันไปหาสองแฝด
นีโอ นีออน ไปเปลี่ยนชุดซะ
เปลี่ยนชุด? สองแฝดประสานเสียงถามด้วยความฉงน ก่อนก้มลงมองชุดที่ตนเองกำลังสวมใส่อยู่อย่างไม่เข้าใจ ชุดที่ใส่อยู่ก็ไม่ได้เลอะเทอะซักหน่อย เพิ่งจะเปลี่ยนเมื่อเช้านี้ด้วยซ้ำ จะเปลี่ยนอีกทำไม
อือ เปลี่ยนเป็นชุดฟอร์มลอบสังหารซะ คราวนี้พวกเราต้องปะทะกับมาสเตอร์ ชุดฟอร์มลอบสังหารมีความยืดหยุ่นแล้วก็ทนทานมาก จะสู้กับมาสเตอร์ก็ต้องสู้ด้วยชุดนี้แหละ เฟลมอธิบาย สองแฝดพยักหน้าพลางส่งเสียงอือเพื่อบอกว่าเข้าใจแล้ว
ชุดฟอร์มลอบสังหารที่เฟลมพูดถึงคือชุดที่ถูกตัดเย็บมาจากไหมของแมลงปีศาจที่หายาก ไหมของแมลงปีศาจมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความทนทานและมีความยืดหยุ่นสูงมาก สามารถรองรับแรงกระแทกได้มากกว่าชุดทั่วไปหลายเท่า ซึ่งส่วนมากเฟลมและสองแฝดจะใส่ก็ต่อเมื่อต้องทำงานลอบสังหารที่เสี่ยงๆเท่านั้น
เข้าใจแล้ว
..........
สรรพเสียงรอบกายดังอื้ออึงจนปวดหู เสียงอาวุธโลหะ เสียงเฮละโลปลุกกำลังใจ เสียงร้องไห้อันเกิดจากความเจ็บปวดทรมาน ทุกๆเสียงดังระงมปนเปจนจับสาระไม่ได้ เปลวไฟสีแดงเข้มลุกโชนสว่างจ้าลามเลียฝืนฟ้าอันดำมืด หิมะสีขาวพิสุทธิ์ยังคงตกโปรายปรายไม่หยุด
ทัสเหวี่ยงข้าวของสัมภาระของทุกคนขึ้นเกวียนอย่างลวกๆ อากาศภายนอกพระราชวังนั้นหนาวสุดขั้วหัวใจจริงๆ หนาวจนรู้สึกไม่อยากขยับไปไหน
กาโอเงยหน้ามองเปลวเพลิงที่ลามเลียท้องฟ้าด้วยสายตาเจ็บปวด เมืองเคนตาเซียกำลังถูกโจมตีโดยโลกมืด เมืองเคนตาเซียกำลังถูกทำลาย
กาโอ เจ้าไม่เป็นไรนะ เปมินบีบมือของกาโอแรงๆ เธอรู้ว่าตอนนี้กาโอกำลังคิดอะไรอยู่ กาโอบีบกลับเพื่อบอกว่าไม่เป็นอะไร
ข้าไม่เป็นอะไร ท่านพ่อกับชาวเมืองทุกคนกำลังทำหน้าที่ของตนเองอยู่ ข้าเองก็ต้องทำหน้าที่ของข้าเช่นกัน กาโอตอบกลับเสียงแผ่วเบา ความจริงเขาอยากอยู่ที่เมืองกับพ่อของเขามากกว่า อยู่ที่เมืองเคนตาเซียเพื่อช่วยพ่อของเขาต่อกรกับโลกมืด แต่เขาทำไม่ได้ เขาต้องไปที่ทะเลสาบจันทรากับทุกคนเพื่อไปปลดผนึกทะเลสาบจันทราซึ่งเป็นน้ำแข็งตลอดทั้งปี
เจ้าเฟลมกับสองฝาแฝดตัวแสบยังไม่มาอีกเหรอ จานาถามขึ้นมาลอยๆ น้ำเสียงที่แข็งกร้าวของจานานั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวกำลังหงุดหงิด ทัสกับลินนะสั่นศีรษะ
มาแล้วๆ นีออนตะโกนตอบเสียงฮึดฮัด และตามมาด้วยร่างของผู้ถูกถามหาทั้งสามที่เดินออกมาจากพระราชวังหลวงเมืองเคนตาเซีย เมื่อเห็นชุดที่พวกเฟลมสวมใส่ พวกจานาก็อึ้งกันไปนิด
ทั่วทั้งร่างของเฟลมและสองแฝดอยู่ในชุดฟอร์มสีดำสนิทที่รัดกุมและสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ รองเท้าสีดำดูกระชับ แขนทั้งสองข้างสวมปลอกแขนเหล็กกล้าสีดำสนิทตั้งแต่ช่วงศอกจนถึงหลังมือ จะมีก็แต่มือและช่วงคอขึ้นไปเท่านั้นที่ไม่มีอะไรปกคลุม
มิดไนท์ที่เกาะอยู่บนไหล่ขวาของเฟลมกระโดดลงมายืนบนพื้นอย่างรู้งาน เด็กหนุ่มเหวี่ยงผ้าคลุมสีดำสนิทให้คลุมร่าง ฮู้ดหนาถูกสวมปิดทับเรือนผมสีแดงเพลิงเอาไว้ และด้วยผ้าคลุมสีดำสนิทนี้ทำให้เพื่อนๆแทบมองไม่เห็นเฟลมถ้าไม่มีแสงไฟ จานาถลึงตามองทั้งสามนิ่ง
ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้! จานาตะคอกถามเสียงเครียด ท่าทางของเจ้าชายหนุ่มดูขัดใจอย่างมาก ซึ่งมิดไนท์เดาว่าน่าจะเป็นเพราะชุดของเฟลมเป็นชุดของนักฆ่า จานาถึงได้มีท่าทีหงุดหงิดเหลือประดา
ความจริงพวกข้าก็ไม่อยากใส่หรอกนะ แต่เพราะว่าคราวนี้ต้องประมือกับมาสเตอร์ซึ่งมีฝีมือในการต่อสู้สูงมาก พวกข้าจึงจำเป็นต้องใส่ชุดฟอร์มนี้เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เฟลมว่าเสียงเรียบ จานาพ่นคำสบถยาวพรืดก่อนกระโดดเข้าไปในเกวียน โอริขยับยิ้มบางและกระโดดตามจานาเข้าไปภายใน นีออนแยกเขี้ยวงุด
เป็นเจ้าชายที่ไม่น่าคบเลยให้ตายเหอะ
พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะนีออน เพราะพวกเราเป็นคนสังหารแม่ของเค้า มันก็สมควรแล้วล่ะที่เค้าจะเกลียดขี้หน้าพวกเราน่ะ เฟลมท้วงเสียงต่ำ นีออนเบ้ปากไม่พอใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่มันก็เป็นความจริงที่นีออนปฏิเสธไม่ได้
เฟลม รีบออกเดินทางกันเถอะ หิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ มิดไนท์ทัก
อืม เข้าใจแล้ว เด็กหนุ่มตอบคำอย่างแผ่วเบา กาโอ ลินนะ เปมินและทัสค่อยๆทยอยเดินขึ้นเกวียนอย่างเงียบๆ เฟลมกับนีโอเหวี่ยงกายขึ้นหลังอาชาด้วยท่าทีชำนาญ นีออนกระโดดขึ้นไปนั่งบนที่คนขับเกวียน
ไป! เฟลมและนีโอตะโกนสั่งพร้อมกระแทกส้นเท้าที่สีข้างของอาชาหนุ่ม ขบวนเดินทางเริ่มเคลื่อนที่อย่างแช่มช้า ทิ้งภาพความวุ่นวายที่โลกมืดก่อขึ้นกับเมืองเคนตาเซียไว้เบื้องหลังอย่างเงียบๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อันนั้นอะ ลินนะเองก็น่าจะชมบ้างน้า
พักหลังไม่ค่อยจะมีบทของลินนะเลย
ถ้าแต่งเรื่องนี้จบ
กรุณาแต่งเรื่องรักหวานแหววของ
ลินนะ กับเฟลมที อยากอ่านเต็มทน
เพราะตัวเองก็อยากรู้ว่าจะเน่าอะป่าว
แต่เอาเป็นว่าอัพเร็วๆถล่มเม้นจนมือหงิกแล้ว
ฮุ ฮุ ฮุ
ชอบแบบเกย์ๆหรอคับคุณtazuka
555+ like เหมือนผมเลย
ง่า...จะทำยังไงดีเอ่ยเฟลมคุง
ตกลงนีโอคู่ใครเนี่ย
นิกด้วย
เดี๋ยวก็จับให้คู่กันซะหรอก5555+
________________________________________________
ps กลางคืน....เป็นเวลาเงียบสงบ
กลางคืน....เป็นเวลาของความคิดถึงและห่วงหา
กลางคืน....เป็นเวลาของความอาลัยอาวรณ์
กลางคืน....เป็นเวลาของความเร้นลับ
และ
กลางคืน....เป็นเวลาของความแค้น
มาต่อไวๆนะเติลเติ้ล >0<
ช่วยมาอัพเร็วๆๆๆๆด้วยนะคับ
ไม่ได้ๆ เดี๋ยวจะสายไปซะก่อนนะ
กร๊าก
สมน้ำหน้าทัส
มาเม้นให้ฉลอง 75%
เรวๆแบบนี้ น้องแฟสะจาย ♥
โอ้ๆ
สองคนนี้นิ
ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่โตจริงๆ
น่าสงสารพวกกาโอจริงๆ
หุหุ
ในที่สุดเฟลมก็ได้รับความทรงจำในอดีตมาแย้วววว
สู้ๆน้าค่า
เรืองราวกำลังหน้าติดตามมากกว่าเดิมเลยอ่ะ
สู้ๆค่า....
ปากดีจนได้เรื่องเลย
กริ๊ดดดดดดดดดด น่ารักที่สุดมหานครจะเป็นไงเนี่ย 5555+++
ปวดท้องเลยอ่ะ 5555+
มาอัพต่อเร็วๆน้า~
หึหึหึ
ถ้าไม่อัพเรวๆเดี๋ยวจะมีคำไม่เพราะหลุดมาน้า
มีลงคำสาปไว้รึป่าวเนี่ย