ตอนที่ 34 : มายาที่ 32 สอบปลายภาค <= [100%]
มายาที่ 32
สอบปลายภาค
ต่อไปเป็นกฎข้อที่ 129 ของมหานครนะ เสียงใสๆปนแก่นแก้วของนีออนช่วยทำให้ช่วงเวลาสายๆอย่างนี้ไม่เงียบมากนัก นีออน นีโอ ลินนะ เปมิน และทัสกำลังนั่งติวหนังสือกันอย่างเคร่งเครียดภายในห้องพักหมายเลข 101
ลินนะและเปมินนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง หูทั้งสองข้างฟังนีออนสาธยายเรื่องกฎหมายต่างๆของมหานครอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ นีออนนั่งอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดของเธอโดยมีองครักษ์เจ้าของฉายาแสนงี่เง่าใช้ตักเธอต่างหมอน ร่างหนาขยับยุกยิกไปมา ถึงแม้ว่าจะรู้สึกรำคาญ แต่ลึกๆแล้วเจ้าตัวแสบก็แอบรู้สึกดีใจเหมือนกัน
ส่วนนีโอที่เป็นเจ้าของความคิดที่ว่าจะมาติวหนังสือกันที่ห้องของลินนะนั้นพอเข้ามาถึงห้องปุ๊บก็หลับปั๊บ ร่างหนานอนแผ่หลาอยู่บนโซฟาอย่างมีความสุข ดูท่านีโอจะไม่สนใจกับการสอบเลยด้วยซ้ำ
แต่มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ก็พวกของนีโอเป็นนักฆ่าของโลกมืด ทำงานเสร็จเมื่อไหร่ก็จะหายตัวไปเมื่อนั้น การเรียนในโรงเรียนจึงดูไม่ค่อยจะมีความหมายสำหรับนีโอซักเท่าไหร่ และการสอบก็เช่นกัน
กฎข้อที่ 129 ว่าด้วยเรื่องของการทะเลาะวิวาท ถ้ามีเรื่องไม่พอใจกัน ชาวเมืองจะต้องไม่ใช้กำลังตัดสินโดยเด็ดขาด นีออนเอ่ยขึ้นเรียบๆ ดวงตาสีนิลสวยจับจ้องไปยังหนังสือ ว่าด้วยกฎหมายมหานคร เล่มหนาอย่างเบื่อหน่าย ลินนะและเปมินพยักหน้าคล้อยตาม
ต่อไปเป็นคำถามนะ ถ้าเกิดว่าชาวเมืองเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงขึ้นมา คนที่ทะเลาะกันนั้นจะเป็นอย่างไร นีออนเอ่ยถามพลางเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มโต ร่างบางสั่นสะท้านเล็กน้อยเพราะความหนาวเหน็บของฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน ถึงแม้จะมีเตาผิงที่กำลังปะทุไฟอยู่ในห้อง แต่ความหนาวก็ยังรุนแรงอยู่ดี
เปมินตอบ นีออนเอ่ยเรียกให้เปมินเอ่ยตอบคำถาม เปมินมีทีท่าลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามด้วยเสียงหวาน
คนที่ทะเลาะกันก็จะถูกส่งตัวไปหากษัตริย์ของเมืองที่ตนอาศัยอยู่ทันที ซึ่งคนๆนั้นจะต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน ไม่หนักก็เบา เมื่อเปมินพูดจบ นีออนก็พยักหน้าอย่างพอใจ
ถูกต้อง มีอะไรไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎข้อนี้ไหม นีออนเอ่ยถามพลางขดตัวน้อยๆเพราะหนาวกาย สองสาวส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่มีข้อสงสัย แต่เจ้าจอมงี่เง่าที่อยู่บนตักของนีออนนั้นยังนิ่งเฉย ไม่มีคำตอบรับสำหรับคำถามของนีออน
ทัส เข้าใจหรือเปล่า นีออนเอ่ยถามเสียงเข้ม แต่เจ้าของชื่อยังคงนิ่งเงียบ นีออนถอนหายใจอย่างระอาพลางใช้มือเล็กๆของตนสะกิดทัสเบาๆ
ครอก...
ปึ้ด!!!
ทันทีที่ได้ยินเสียงกรนของทัส เส้นความอดทนของเจ้าตัวแสบก็ขาดผึงลงทันที
ทัส! นีออนตวาดดังลั่น ดังเสียจนนีโอยังสะดุ้งตื่น เพื่อนสาวทั้งสองหัวเราะแห้งๆอย่างเหนื่อยใจ เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อกระเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นดวงตาอาฆาตของสาวจอมยุ่ง ทัสก็ตีหน้าเหยเก
โทษที เผลอหลับไปนิด ทัสหัวเราะแห้งๆพลางเอ่ยแก้ตัว นีออนแยกเขี้ยวกว้างพลางยิ้มเย็นยะเยือกอย่างน่ากลัว เส้นเลือดในสมองเต้นตุ้บๆ หมัดเล็กกำแน่นอย่างหงุดหงิด
แสดงว่าเข้าใจหมดแล้วสินะเรื่องกฎหมายน่ะถึงได้มีเวลางีบ นีออนตวาดถามเสียงดัง ทัสส่ายหน้าไปมาอย่างหวาดๆ ทัสเป็นคนขอให้นีออนติวเรื่องกฎหมายให้เขาเอง แต่ทัสดันมาหลับคาตักเจ้าตัวเล็กเสียได้ ถ้านีออนไม่โกรธก็โลกแตกแล้วล่ะ
แต่ก่อนที่นีออนจะเริ่มต้นวิ่งไล่ฆ่าหั่นศพทัส นาฬิกาแขวนบนผนังห้องก็ส่งเสียงเตือนบอกเวลาเที่ยงตรงเสียก่อน เปมินลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น นีออนส่งยิ้มให้เปมินอย่างมีเลศนัย
แหม พอเลิกปุ๊บก็ไปรับปั๊บเลยนะ นีออนกล่าวแซว ลินนะแอบขำน้อยๆเมื่อเห็นหน้าของเปมินเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ทัสฉีกยิ้มกว้างพลางค่อยๆสาวเท้าหนีให้พ้นเงื้อมมือของนีออนที่กำลังจะจับคอเสื้อตนไว้ เปมินก้มหน้าหลบสายตาทั้งสามคู่ที่จ้องมาทางตน
อย่ามาล้อข้าสิ เปมินเอ่ยด้วยเสียงเขินอาย
แหม ก็มันน่าอิจฉานี่นา เจ้ากับกาโอน่ะสวีทกันจะตาย แต่ดูคู่ของข้าซิ วันๆเอาแต่จะฆ่ากัน ทัสเอ่ยขึ้นมาอย่างขำๆ แต่แล้วก็ต้องมานึกเสียใจทีหลังเมื่อเจ้าจอมยุ่งของทัสหันกลับมามองทัสด้วยสายตาคาดโทษ บอกได้คำเดียวว่า งานนี้ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
ไม่เอาน่า อย่าทะเลาะกันสิ ไปได้แล้วล่ะเปมินเดี๋ยวกาโอจะรอนาน แล้วเจอกันที่โรงอาหารนะ ลินนะเอ่ยห้ามศึกของสองจอมแสบก่อนจะหันไปโบกมือให้กับเปมิน เปมินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องพักเพื่อไปรับกาโอที่เพิ่งเลิกฝึกพิเศษ
กาโอและเฟลมต้องไปฝึกพิเศษทุกวันตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงเที่ยงตามคำสั่งของหลิน ทั้งสองจึงไม่ค่อยได้ติวหนังสือกันเสียเท่าไหร่ ส่วนมากฝึกเสร็จก็นอนแผ่อยู่ที่ห้องพักเพราะเหนื่อยล้า เปมินจึงต้องไปคอยช่วยทั้งสองติวหนังสือที่ห้อง ความจริงเรียกว่าไปติวให้กาโอคนเดียวจะดีกว่า เพราะส่วนมากเฟลมจะชอบแวบออกมานอนฟังพวกลินนะติวหนังสือกันเป็นประจำ
ตั้งแต่วันที่อลันคัดเลือกตัวกาโอและเฟลมไปเป็นตัวแทนนั้น เวลาก็ผ่านมาได้เกือบสองสัปดาห์แล้ว พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสอบปลายภาคที่ทุกคนต่างไม่อยากให้มันมาถึง ระเบียงทางเดินในโรงเรียนนั้นเงียบสงบเพราะมีแต่คนติวหนังสือกันที่ห้องอย่างเคร่งเครียด แต่ยังไม่ทันจะได้เดินพ้นโซนหอพักฝั่งตะวันออกดี เปมินก็ได้ยินเสียงโครมครามดังเล็ดลอดออกมาจากห้องพักของเธอ
ไม่ต้องให้เดาก็รู้ได้ว่านีออนคงซัดทัสไปหลายหมัดเลยทีเดียว เปมินส่ายหน้าอย่างระอา แล้วขาเรียวก็ก้าวเดินต่อไป
..........
โรงอาหารประจำโรงเรียนไดมอนที่มักจะเต็มไปด้วยเหล่าเด็กนักเรียนกลับว่างโล่ง มีกลุ่มเด็กนักเรียนอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหาร แถมยังกินแบบรีบร้อนสุดๆเสียด้วยสิ
เฟลมกวาดดวงตาสีแดงเพลิงไปทั่วโรงอาหารเพื่อมองหากลุ่มเพื่อนของตน แล้วดวงตาของเฟลมก็ไปสะดุดเข้ากับภาพที่ทำให้เขาต้องปวดหัว นีออนกับทัสกำลังทะเลาะกันด้วยเสียงที่ดังลั่นโดยมีลินนะและนีโอคอยห้ามศึกอยู่ข้างๆ ดวงตาข้างขวาของทัสมีรอยช้ำที่ค่อนข้างน่ากลัว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝีมือใคร ฝีมือของจอมแสบอย่างแน่นอน
นั่นมันของข้านะ นีออนวีนด้วยเสียงแหลมสูง แหลมจนกระทั่งเฟลมต้องยกมือขึ้นปิดหู ไม่รู้จะแหลมอะไรมากมาย
ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ อย่าทำเป็นงกไปหน่อยเลย ถือว่าเป็นค่าทำขวัญเมื่อกี้ก็แล้วกัน ทัสเอ่ยตอบโดยที่ในปากยังคงเต็มไปด้วยเนื้อไก่ชิ้นโต ถ้าเดาไม่ผิด เฟลมคิดว่าทัสน่าจะไปขโมยไก่มาจากนีออน นีออนก็เลยว้ากใส่เข้าให้
ทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่าอีกแล้ว ...
เป็นสิ ก็นั่นมันของข้านี่ นีออนแยกเขี้ยวกว้างพลางส่งเสียงขู่ต่ำๆในลำคอเหมือนแมว ทัสทำหน้าตาไม่แยแสแถมยังเคี้ยวไก่ตุ้ยๆเหมือนพยายามยั่วนีออน
ก็ข้าบอกว่ามันเป็นค่าทำขวัญไง เมื่อกี้ต่อยข้าซะแรงเชียว ทัสกล่าวโต้ เฟลมยกมือขึ้นกุมขมับอย่างปวดเศียรเวียนเกล้า ไม่รู้จะทะเลาะกันทำไมกะอีแค่เนื้อไก่ชิ้นเดียว เฟลมก้าวฉับๆไปหาเพื่อนทั้งสี่ของตนทันที
แค่เนื้อชิ้นเดียวเอง ไปหยิบใหม่เอาก็ได้นี่นีออน ส่วนเจ้า ทัส คิดยังไงถึงไปแย่งผู้หญิงกินซะล่ะ เฟลมถามขึ้นด้วยเสียงที่ดังฟังชัดพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆลินนะอย่างหมดอารมณ์ จานข้าวกระแทกลงบนโต๊ะส่งเสียงเคร้งดังลั่น สองตัวป่วนสะดุ้งโหยง
ง่า... ทัสถึงกับพูดไม่ออกเมื่อโดนเฟลมว่า แต่มันก็จริงอย่างที่เฟลมบอกนั่นแหละ ทัสเลยไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงดี
เลิกทะเลาะกันได้แล้วข้ารำคาญ เป็นคู่รักกันภาษาอะไรทะเลาะกันอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน เฟลมกล่าวแขวะ สองตัวแสบปั้นหน้าเหยเก นีโอถึงกับหลุดขำเสียยกใหญ่เมื่อเห็นน้องสาวของตนปั้นหน้าบูด
น่านะ แล้วกาโอกับเปมินล่ะ ลินนะเอ่ยถามเฟลมหลังจากที่กวาดสายตามองหาทั้งคู่มาได้พักหนึ่งแล้ว
เจ้ากาโอมันเหนื่อยมากเลยจะขอนอน เปมินเลยอยู่เฝ้าน่ะ เฟลมกล่าวตอบ ลินนะพยักหน้ารับเบาๆ
แล้วเจ้าไม่เหนื่อยบ้างเหรอลินนะถามเสียงห่วงใย เฟลมส่ายหน้าช้าๆพลางส่งข้าวคำต่อไปเข้าปาก
ไม่เหนื่อยมากหรอก แค่เพลียนิดๆเท่านั้นเอง
แล้วมื้ออาหารกลางวันก็ดำเนินไปอย่างเงียบๆปนอึกทึกครึกโครมเล็กน้อย สาเหตุก็มาจากสองตัวยุ่งประจำโต๊ะนั่นแหละ แป๊บๆทะเลาะกัน แป๊บๆกัดกัน ไม่รู้ว่าจะทะเลาะอะไรกันนักหนา เรื่องที่ทะเลาะก็ใช่ว่าจะมีสาระมากมาย
หลังจากเสร็จมื้ออาหารที่แสนจะวุ่นวายไปอีกหนึ่งมื้อ นีออนและนีโอก็ตกลงกันว่าจะไปเดินเล่นที่สวนหลังโรงเรียนเพื่อเป็นการคลายเครียด และที่แน่ๆคือทัสก็ต้องขอตามไปด้วย เฟลมกับลินนะจึงต้องกลับไปติวหนังสือที่ห้องกันสองคน เพราะจะไปติวกับกาโอก็กลัวว่าจะไปขัดจังหวะสวีทจ๊ะจ๋า ทั้งสองก็เลยตัดสินใจไปติวกันที่ห้องของลินนะ
.
ห้องพักหมายเลข 101 นั้นดูเงียบและสงบไปถนัดตาเมื่อไม่มีสองตัวยุ่งอยู่ด้วย ลินนะนั่งลงบนเตียงนุ่มของตนพลางพลิกหน้ากระดาษของหนังสือเล่มหนาอย่างเอาเป็นเอาตาย เฟลมนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างเตียง ดวงตาสีแดงเพลิงกวาดมองกองหนังสือร่วมสิบเล่มที่อยู่บนโต๊ะอย่างเซ็งๆ
เจอแล้ว วันนี้เจ้าจะติวกันเรื่องเมืองมิตรทั้งห้าต่อใช่ไหม ลินนะเอ่ยถามเสียงหวานใส เฟลมพยักหน้ารับพลางเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ลินนะ
เมื่อวานเราคุยค้างกันไว้ที่สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเคนตาเซียสินะ อืม.. เมืองเคนตาเซียนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เลื่องชื่ออยู่ทั้งหมดสามสิบสี่ที่ แต่ที่มีชื่อเสียงและคนชอบไปกันมากที่สุดก็คือตลาดเวสลาน่าแล้วก็ป่ามายา ลินนะกล่าวโดยที่สายตายังคงไม่ละไปจากหนังสือเล่มโต เฟลมพยักหน้ารับก่อนจะขีดเขียนอะไรลงไปบนกระดาษอย่างลวกๆ
ป่ามายานั้นชาวเมืองเคนตาเซียเชื่อกันว่าเป็นป่าที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น เพราะป่านี้เป็นป่าที่แสนจะอุดมสมบูรณ์ ให้ชีวิตและทุกๆสิ่งแก่มนุษย์ เป็นป่าที่เป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่งในมหานครแห่งนี้ ลินนะอธิบายโดยมีเฟลมนั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
แต่ป่านี้ก็มีอันตรายอยู่มากเหมือนกันนะ มีทั้งปีศาจเอย อมนุษย์เอย สัตว์ป่าเอย เยอะแยะไปหมด และที่ได้ชื่อว่าป่ามายาก็เพราะว่าป่านี้ชอบสร้างภาพลวงตากับหมอกที่ทำให้คนหลงทางกันบ่อยๆ น่ากลัวจัง ลินนะกล่าวพลางทำหน้าตาหวาดๆ เฟลมถึงกับหลุดขำออกมานิดๆเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของลินนะ
จะไปกลัวทำไมล่ะ เราไม่ได้ไปสอบปลายภาคกันที่นั่นซักหน่อยนี่ เฟลมกล่าวล้อ หน้าของลินนะเริ่มขึ้นสีระเรื่อ
ก็มันน่ากลัวนี่นา ลินนะแก้ตัว เฟลมขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆ
เป็นถึงเจ้าหญิงคนเก่งของท่านฮิเอ็น แต่ดันขี้กลัวซะนี่ เฟลมว่าพลางหัวเราะร่วน ลินนะป่องแก้มอย่างไม่พอใจ มือบางเงื้อขึ้นเตรียมทำร้ายร่างกายของเฟลม
เฮ้ยๆ ข้าล้อเล่น เฟลมกล่าวพลางโยกตัวหลบฝ่ามือพิฆาตของลินนะ ลินนะยังคงฟาดมือไม่หยุด เฟลมลุกจากเก้าอี้เตรียมวิ่งหนี ลินนะลุกขึ้นตาม และ...
ว้าย!
เฮ้ย!
โครม!!!
เท้าของลินนะสะดุดเข้ากับผ้าคลุมเตียงอย่างจัง ร่างบางเซจะล้มลงไปจับกบกับพื้น แต่ด้วยสิ่งใดไม่รู้ทำให้เฟลมรีบพุ่งเข้าไปรับ แต่เท้าเจ้ากรรมของนักฆ่าคนเก่งก็ดันไปสะดุดกับขอบเตียง เฟลมจึงร่วงลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นก่อนที่ลินนะจะร่วงลงไปเสียอีก เฟลมนอนแผ่สามสลึงอย่างหมดแรง แล้วร่างของลินนะก็ล้มทับเฟลมดังแอ้ก เล่นเอาเฟลมจุกจนพูดไม่ออก
ลินนะรู้สึกว่าในหัวมึนตึ้บเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วนัก แต่โชคก็ยังเข้าข้างลินนะ เธอไม่ได้ลงไปนอนกองอยู่บนพื้น แต่เธอล้มลงไปนอนทับร่างของเฟลมที่นอนแผ่หลาอยู่ต่างหาก เฟลมคงจะจุก เพราะไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียงแค่คืบ ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจที่ถูกผ่อนออกมาอย่างช้าๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องดวงตาสีแดงเพลิงอยู่นานสองนาน มีแต่ความสงบนิ่ง
หน้าของเฟลมเริ่มเปลี่ยนสี เลือดสูบฉีดอย่างคลุ้มคลั่ง หน้าของเฟลมแดงแจ๋ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่ตอนนี้เฟลมกำลังรู้สึกว่าหัวใจของตนนั้นเต้นเร็วและแรงเหลือเกิน เหมือนกับมีคนมาตีกลองศึกอยู่ที่หัวใจยังไงยังงั้น
นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
อ๊ะ ข้าขอโทษ ลินนะเอ่ยทำลายความเงียบในที่สุด ร่างเล็กกระเด้งออกมาจากร่างของเฟลมที่ตนนอนทับอยู่นานสองนาน เฟลมลุกขึ้นนั่งพลางเสสายตามองไปทางอื่น ใบหน้ายังคงแดงและร้อนฉ่า
ไหงหัวใจมันถึงได้เต้นแรงอย่างงี้ฟะ
หลังจากที่ใช้ความพยายามเป็นอย่างหนักในการปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้เข้าจังหวะได้แล้ว เฟลมก็เพิ่งรู้ตัวว่าได้ทำอะไรเสียมารยาทลงไปซะแล้ว เล่นหันหน้าหนีลินนะแบบนั้น แล้วลินนะจะโกรธเขาไหมล่ะเนี่ย
เอ้อ ขอโทษนะ เมื่อกี้ข้าไม่ได้ตั้งใจจะหันหน้าหนีเจ้านะ เฟลมกล่าวแก้ตัวพลางหันหน้ามาทางลินนะ หน้าของลินนะแดงแจ๋จนน่ากลัว แดงกว่าหน้าของเฟลมในตอนนี้เสียอีก
ง่า... เฟลมถึงกับพูดอะไรไม่ถูก ลินนะเองก็เช่นกัน
เงียบกันไปอีกครู่หนึ่ง
เอ่อ เมื่อกี้ขอโทษนะ ข้าซุ่มซ่ามไปหน่อย ลินนะเอ่ยทำลายความเงียบอีกครั้ง เฟลมพยักหน้ารับคำขอโทษนั้นเบาๆ
ข้าก็ต้องขอโทษด้วยนะที่... เฟลมอยากจะพูดต่อว่าหันหน้าหนี แต่ปากก็พูดไม่ออก เฟลมเกาท้ายทอยแกรกๆอย่างงงๆ
เอาเป็นว่าเรามาท่องหนังสือกันต่อเหอะนะ เฟลมกล่าวชวนหลังจากทำการประมวลข้อมูลมานาน ลินนะผงกหัวรับคำ เฟลมยันกายให้ลุกขึ้นก่อนจะส่งมือให้ลินนะช้าๆ
ขอบใจจ้ะ ลินนะว่าพลางพยายามดึงตัวเองขึ้น แต่ดูเหมือนข้อเท้าของลินนะจะไม่ค่อยเป็นใจซักเท่าไหร่ ลินนะล้มพับลงไปอีกรอบ
โอ๊ย!
เฮ้ย!
โครม!!
มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้าลินนะล้มลงไปคนเดียว แต่นี่เธอดันดึงเฟลมให้ลงไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับพื้นอีกรอบนี่สิ แถมหน้าผากยังชนกันอีก เฟลมถึงกับตีหน้าซื่อบื้อ หัวใจเต้นแรงอีกแล้วแฮะ
ขอโทษนะ ขอโทษ ข้านี่ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ลินนะเอ่ยขอโทษ เฟลมหัวเราะเจื่อนๆเป็นการกลบเกลื่อน ดวงหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่รู้สาเหตุ เฟลมยันตัวให้ลุกนั่ง
ดูเหมือนข้อเท้าจะแพลงนะ เฟลมกล่าววิเคราะห์พลางจับข้อเท้าของลินนะเบาๆ ลินนะพยักหน้ารับอย่างอายๆ
ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวข้ารักษาเอง ลินนะว่าพลางวางมือเหนือข้อเท้าขาว ริมฝีปากบางพึมพำบางสิ่งอย่างแผ่วเบา เกิดวงแหวนสีฟ้าขึ้นเหนือข้อเท้าของลินนะ มีเสียงวิ้งตามมา และแสงสีฟ้าก็หายเข้าไปในข้อเท้า ลินนะผ่อนลมหายใจยาว
เรียบร้อยแล้วล่ะ ลินนะกล่าวพลางยิ้มกว้าง และนั่นก็ดันทำให้หัวใจเจ้ากรรมของเฟลมเต้นโครมครามขึ้นมาอีกรอบ เฟลมทุบลงไปที่อกด้านซ้ายของตัวเองแรงๆ แล้วก็รู้ตัวว่าไม่น่าทำไปเลยเมื่อลินนะมองมาทางเฟลมด้วยสายตาเหมือนจะเป็นห่วง
เป็นอะไรหรือเปล่า ลินนะเอ่ยถาม เฟลมตีหน้างง
อ่ะ ไม่เป็นไรๆ
จริงนะ
อื้ม เฟลมพยักหน้ารับอย่างเต็มที่
ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ ลินนะยิ้มกว้าง เฟลมเองก็ยิ้มเช่นกัน
แล้วประตูห้องก็เปิดกว้างออก ปรากฏร่างของเพื่อนทั้งห้าคนที่เดินเข้ามาภายในห้อง ดวงตาของเพื่อนๆทั้งห้าคู่จ้องมองไปทางเฟลมและลินนะที่นั่งกองอยู่บนพื้นอย่างสงสัยปนงงงวย
เดี๋ยวนี้พวกเจ้ามีรสนิยมชอบลงไปนั่งติวหนังสือกันบนพื้นแล้วเหรอ กาโอเอ่ยถามอย่างสงสัย เฟลมกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วราวถูกดีด แล้วลินนะก็ลุกตามขึ้นมาติดๆ
เปล่า มีอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ เฟลมกล่าวแก้ตัว ขาทั้งสองข้างพาเดินไปหยิบสมุดจดโน้ตของตนที่หล่นอยู่บนพื้น สองแฝดยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น เฟลมก็เห็นแววมีเรื่องปวดหัวขึ้นมาทันที
ข้ารู้นะว่าเมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ นีโอเกริ่น เมื่อเจ้าเพื่อนตัวดีที่นานๆจะแสบซักทีเป็นคนเริ่มเรื่อง เพื่อนคนอื่นก็หูผึ่งทันที เฟลมกรอกตามองเพดานอย่างเหนื่อยใจ ลมหายใจถูกผ่อนออกมาอย่างยาวยืด
อะไรเหรอนีโอ อะไรเหรอ ทัสถามเร่งด้วยความอยากรู้อยากเห็น เปมินและกาโอพยักหน้าคล้อยตาม
ก็เมื่อกี้เจ้าเฟลมกับลินนะน่ะ... นีออนกล่าวบ้าง เฟลมเริ่มกัดฟันอย่างโกรธเคือง ส่วนลินนะก็ได้แต่นั่งแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน
พวกเจ้าอยากมีเรื่องกันมากใช่ไหม!!! สิ้นเสียงขู่ของเฟลม ทั่วทั้งห้องก็ตกอยู่ภายใต้ความวุ่นวาย โดยมีเฟลมและสองแฝดวิ่งไล่กันให้วุ่น มีเสียงหัวเราะดังขึ้นไม่ขาดช่วง แล้วบ่ายวันนั้นก็จบลงโดยที่ไม่ได้อ่านหนังสือติวกันยกกลุ่ม!!!
..........
โรงเรียนไดมอนในวันนี้ช่างเงียบสงบเสียเหลือเกิน นักเรียนทั้งโรงเรียนต่างกำลังเคร่งเครียดอยู่กับข้อสอบที่พูดได้คำเดียวว่ายากอย่างสุดซึ้ง อาจารย์ที่ยืนคุมสอบหน้าห้องก็ตีหน้าขึงขัง และนั่นก็ยิ่งทำให้นักเรียนยิ่งเครียดกันเข้าไปใหญ่
การสอบภาคทฤษฎีนั้นเริ่มขึ้นในตอนแปดโมงเช้าและจะจบลงในเวลาเที่ยงตรง สี่ชั่วโมงกับข้อสอบสี่วิชา วิชาละสองร้อยข้อ แค่คิดก็สยองแล้ว
ห้องโถงประชุมกลางของนักเรียนชั้นปีหนึ่งถูกเนรมิตให้เป็นห้องสอบไปเรียบร้อยแล้ว โต๊ะแต่ละตัวอยู่ห่างกันไกลสุดกู่ ดังนั้นเรื่องการจะลอกข้อสอบกันจึงต้องถูกปัดออกจากสมองไปในที่สุด
ขอบตาของเฟลมและผองเพื่อนออกจะติดคล้ำๆเล็กน้อย เป็นเพราะเมื่อวานไม่ได้ติวหนังสือกันในช่วงบ่าย เวลาแห่งการติวก็เลยถูกยกมาอยู่ในช่วงดึกและล่วงเลยมาจนถึงเช้ามืด อ่านหนังสือโต้รุ่ง นั่นจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เฟลมจะนึกถึง
เฟลมหาวอีกวอดใหญ่ กระดาษข้อสอบเบื้องหน้าเหมือนหมุนได้และยังคงขาวโพลน ในหัวมีแต่ข้อสอบที่ตีกันให้ยุ่งวุ่นวายไปหมด
เหลืออีกสามสิบนาทีหมดเวลาสอบช่วงเช้า หลินประกาศด้วยเสียงดังก้อง ดวงตาสีทองที่มักจะฉายแววขี้เล่นกลับดูเคร่งเครียดจริงจัง นักเรียนพากันส่งเสียงฮือฮา บางคนถึงกับถอนหายใจเฮือก ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด
เฟลมตัดสินใจมั่วข้อสอบอย่างเต็มที่ คิดในใจว่าอย่างไรเสียผลสอบก็คงไม่มีผลกับตนเองอยู่แล้ว เพราะยังไงหลังจากทำงานเสร็จเขาและสองแฝดก็ต้องลากับเพื่อนๆ จะว่าไปแล้ว เป้าหมายของเฟลมในคราวนี้ก็เป็นเพื่อนของเขาถึงสามคนนี่นา
พอคิดถึงตรงนี้สมองเฟลมก็เริ่มปวดตุ้บๆ เฟลมรู้สึกสับสน ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงลงมือฆ่าเป้าหมายทั้งสามได้อย่างไม่ลังเล แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกไม่อยากลงมือ อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขาตลอดไป เฟลมไม่อยากกลับไปอยู่โลกมืดอีก
แต่นั่นมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน อนามันไม่มีทางปล่อยเฟลมออกจากโลกมืด ถึงแม้จะอยากแค่ไหน มันก็เป็นไปได้แค่ความต้องการ ไม่มีทางที่มันจะกลายมาเป็นความจริง
เหลืออีกห้านาที หลินประกาศเสียงดัง เฟลมสะดุ้งเฮือก หน้ากระดาษยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม เฟลมหัวเราะกับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นว่าตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปขนาดไหน
ซวยแล้วไง หลังจากหัวเราะเสร็จ เฟลมก็บ่นกับตัวเองอย่างหัวเสีย มือปั่นข้อสอบอย่างรวดเร็ว ห้านาทีสุดท้าย เอาวะ อย่างน้อยก็ขอแค่เสร็จ
วางปากกาได้ หลินกล่าวเมื่อเวลาผ่านไปครบห้านาทีแล้ว เสียงวางปากกาดังขึ้นพร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวอย่างผ่อนคลาย หลินสะบัดมือเบาๆ ข้อสอบทั้งหมดลอยไปอยู่ในมือของหลินอย่างเป็นระเบียบ
ดีมาก แล้วเจอกันตอนบ่ายโมงที่ลานกว้างหลังโรงเรียนนะ หลินกล่าวแล้วเดินหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เสียงคุยกันดังกระหึ่มไปทั่วห้องกว้าง
ไง ทำได้ไหม กาโอถามขึ้นพร้อมกับมือที่วางลงบนไหล่ของเฟลม เฟลมหันกลับมายิ้มเจื่อนๆเป็นคำตอบ
ก็นะ มั่วหมดนั่นแหละ เฟลมกล่าวเสียงกลั้วหัวเราะ เมื่อเพื่อนๆอีกห้าคนเดินมารวมตัวกันครบแล้ว ทั้งหมดก็ออกเดินไปโรงอาหารทันที ในอกรู้สึกโล่งเป็นอย่างมากหลังจากสอบเสร็จ ถึงแม้จะมีสอบรอบบ่ายอีก แต่ก็ไม่ค่อยมีคนห่วงซักเท่าไหร่ เพราะเรื่องการใช้กำลังเนี่ย พวกของเฟลมไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
..........
ห้องทำงานของอนามันยังคงมืดสลัวเหมือนอย่างเคย เสียงปากกาที่ขีดเขียนกระดาษดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆอย่างเกรงใจ อนามันเหลือบหางตาไปมองทางประตูน้อยๆก่อนจะดีดนิ้วเบาๆ ประตูไม้ดีดออกอย่างว่าง่าย ปรากฏร่างของชายชราที่เดินเข้ามาภายใน
ท่านอนามันขอรับ ข้าตีมีดสั้นเสร็จแล้วขอรับ เสียงแหบแห้งของคาห์ที่ดังขึ้นนั้นเรียกรอยยิ้มจากอนามันได้เป็นอย่างดี อนามันหันกลับมามองคาห์ด้วยสายตาพึงพอใจ
ดีมากคาห์ ไหนล่ะ อนามันเอ่ยถามพลางยื่นมือออกไปด้านหน้า คาห์วางมีดสั้นห้าคู่ที่อยู่ในถุงใส่มีดสั้นลงบนมือของอนามัน อนามันฉีกยิ้มกว้างน่ารังเกียจ
ดีมาก อนามันกล่าวชม มือที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นเอื้อมไปหยิบมีดสั้นออกมายลโฉม
มีดสั้นนั้นมีด้ามจับเป็นไม้สีดำสนิท คมมีดทำจากเหล็กกล้าและมีสีดำขลับ อนามันหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ
ดีมากๆ อนามันกล่าวอีกครั้ง คาห์ค้อมหัวรับคำชมนั้นอย่างนอบน้อม
เจ้าช่วยเอาไปให้เฟลมหน่อยได้ไหม อนามันกล่าวขอร้อง คาห์พยักหน้ารับ
ขอรับ ข้ายินดีทำทุกอย่างเพื่อท่าน คาห์กล่าว
งั้นจงไปได้แล้ว บอกเฟลมว่าข้ามั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง อนามันกล่าวกำชับ คาห์ค้อมกายรับคำจากอนามันก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องทำงานที่มืดสลัว อนามันเผยรอยยิ้มที่แสนจะน่ารังเกียจอีกครั้ง
อีกไม่นานเพื่อนรัก อีกไม่นาน อนามันกล่าวพึมพำกับตนเองด้วยเสียงแผ่วเบา
ดวงตาสีทองของมิดไนท์นั้นวาววับ มันไม่ชอบเลยกับสิ่งที่อนามันกำลังจะทำ สิ่งนั้นจะทำให้มหานครทั้งมหานครต้องล่มสลาย
เมื่อวานก่อน ตอนที่อนามันออกไปจากห้องนี้ มิดไนท์ได้ทำการสำรวจห้องนี้และโต๊ะทำงานของอนามันอย่างละเอียดถี่ถ้วน และมิดไนท์ก็ได้รับรู้ความจริงว่าอนามันต้องการจะทำอะไรบ้าง สิ่งที่อนามันจะทำทำให้มิดไนท์โกรธอย่างสุดขีด
สายลมพัดไหวเล็กน้อยยามที่มิดไนท์สะบัดหางของมันเบาๆอย่างอารมณ์เสีย ร่างของมิดไนท์ค่อยๆจางหายไปพร้อมกับสายลมที่พัดโบก แต่ทว่าในห้องทำงานของอนามันนั้นยังคงหลงเหลือดวงตาอยู่อีกคู่หนึ่ง เจ้าของดวงตาคู่นั้นซ่อนตัวอยู่ในความมืดได้อย่างมิดชิด แต่เมื่อแสงไฟจากเชิงเทียนไหววูบ ดวงตาคู่นั้นก็หายลับไป หลงเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าและความมืดมิด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตอนนี้ที่บ้าน เรื่องนี้เล่ม 1 ก็นอนสบายอยู่บนเตียงได้สี่เดือนแล้ว เมื่อไหร่เล่ม 2 จะวางแผงอ่ะคะ?
ลินนะ เฟรม งัยกาน
น่ารักจัง กาโอ เปมินก็หวานซะ
เหลือแต้ทัส กะนีออน หวานยาก
สนุกมากๆๆค่ะ
น่ารักเมิ่กๆๆๆคร้า
คู่ของเฟลมกับลินนะเนี่ย
แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเยี้ยงไรต่อไปเน้อ
เฟลมก็สวีทเป็นกับเค้าด้วยพระเจ้าเลย
แต่ว่ารู้สึกว่าจะแต่งได้
น้ำเน่าเงาจันทร์ดีแฮะ
ฮะๆๆๆสนุกเจ้าค่ะ
ฮุ ฮุ ฮุ