ตอนที่ 2 : บทนำ <= [100%]
บทนำ
ในอดีตกาลนานมาแล้ว มหานครแห่งนี้ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเหล่าพืชพรรณธรรมชาตินานาชนิดและเหล่าสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ภายใต้การปกครองขององค์กษัตริย์ผู้ทรงอำนาจ
เพื่อความสะดวกและมั่นคงในการปกครอง มหานครแห่งนี้จึงได้ทำการแบ่งแยกดินแดนผืนใหญ่ออกเป็นห้าเมืองย่อยๆด้วยกัน
... เมืองเอราเดส เมืองศูนย์กลางของมหานคร เมืองหลวงอันแสนรุ่งเรืองและสงบสุข
เมืองเมไวย์น่า เมืองทางแดนใต้ เมืองท่าอันแสนอุดมสมบูรณ์
เมืองเคนตาเซีย เมืองทางชายฝั่งตะวันออก เมืองแห่งการเกษตร
เมืองเซ็นโอซ่า เมืองทางภาคเหนือ เมืองแห่งธรรมชาติ
และสุดท้าย...
เมืองโอรอสย่า เมืองทางดินแดนตะวันตก เมืองแห่งแร่นานาพันธุ์
เมืองทั้งห้าเมืองต่างเป็นพันธมิตรต่อกันและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเรื่อยมาโดยมีพลเมืองหลากหลายเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเหล่ามนุษย์เดินดินธรรมดา นักปราชญ์ นักเวทย์ นักรบ นักรบผู้ควบคุมพลังธรรมชาติ เหล่าปีศาจ อมนุษย์ ภูตและสัตว์ป่านานาชนิด
แต่ในความสงบสุขนั้นก็ยังแฝงไปด้วยความขัดแย้งที่แสนจะร้ายแรง ปีศาจและเหล่าอมนุษย์เริ่มที่จะทะเลาะกับเหล่ามนุษย์ด้วยเรื่องของสิทธิต่างๆอันควรจะได้รับในมหานคร นานวันเข้า จากการทะเลาะเปลี่ยนมาเป็นการสู้รบ และกลับกลายเป็นมหาสงครามแบ่งแยกดินแดนในที่สุด
องค์ราชาที่ปกครองดินแดนทั้งห้าจึงลงมติให้ขับไล่เหล่าอมนุษย์และเหล่าปีศาจทั้งหลายออกจากมหานครเพื่อเป็นการตัดปัญหา ศึกการแย่งชิงดินแดนจึงเริ่มขึ้น
ท้ายที่สุด ย้อนหลังจากปัจจุบันกลับไป15ปี เหล่ามนุษย์จากมหานครก็สามารถขับไล่เหล่าปีศาจและเหล่าอมนุษย์ออกจากดินแดนได้เป็นผลสำเร็จ แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่นักรบที่เห็นด้วยกับองค์ราชาของตน มีนักรบอยู่ไม่น้อยที่เข้าข้างเหล่าปีศาจ ด้วยความโกรธแค้นที่มีต่อองค์ราชา ทำให้เหล่านักรบรวมตัวกันก่อตั้ง โลกมืด
จุดประสงค์คือเพื่อแก้แค้นแทนเหล่าสหายปีศาจของตนและนำมหานครนี้กลับเข้าสู่มหานครที่เต็มไปด้วยปีศาจอีกครั้ง โลกมืดได้ลงมือลอบสังหารเหล่านักรบและผู้กล้าในสงครามอย่างเหี้ยมโหด โดยเฉพาะเหล่านักรบผู้ควบคุมพลังธรรมชาติและนักเวทย์ นักรบที่เก่งกาจจนน่ากลัว
ทุกคนต่างล้มตายกันเหมือนใบไม้ร่วง จนในที่สุด นักรบผู้ควบคุมพลังธรรมชาติและนักเวทย์คนสุดท้ายของมหานครก็สิ้นลม นักรบผู้ที่รอดชีวิตก็มีเพียงแต่นักรบที่ยอมรับและเข้าร่วมกับโลกมืดเท่านั้น
และนี่คือตำนานที่เล่าขานกันมาถึง15ปีว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้มหานครแห่งนี้ไร้ซึ่งนักรบที่เก่งกาจและนักเวทย์ที่แสนสำคัญ
..........
ท่ามกลางยามราตรีของเมืองเอราเดส เมืองหลวงอันแสนสงบสุข เมืองที่อยู่ใต้การปกครองขององค์กษัตริย์หนุ่มที่มากด้วยความสามารถนามว่า ฮิเอ็น ไดมันด้า ประชาชนทุกคนในเมืองหลวงกำลังหลับใหลอยู่อย่างเป็นสุข ดวงจันทร์ยามเที่ยงคืนลอยเด่นสูงบนฟากฟ้า เมฆก้อนใหญ่เคลื่อนที่อย่างแช่มช้าและบดบังแสงของดวงจันทร์ทำให้รอบๆเมืองตกอยู่ใต้ความมืดมิด
แต่ท่ามกลางความมืดมิดนั้น ได้ปรากฏเงาของเด็กหนุ่มผู้มีเรือนผมสีแดงเพลิงสวยที่ยาวระต้นคอและนัยน์ตาสีแดงเพลิงเป็นประกายแม้จะอยู่ใต้ความมืดก็ตาม เด็กหนุ่มอยู่ในชุดฟอร์มสีดำสนิท มือหนาเอื้อมหยิบผ้าคลุมที่มีสีดำเช่นเดียวกับชุดฟอร์มขึ้นมาปิดบังใบหน้าไว้อย่างมิดชิด เด็กหนุ่มถูกเคียงข้างด้วยแมวที่มีขนสีดำสนิทกลืนเข้ากับความมืด นัยน์ตาของมันมีสีทองเรืองรองดุจดั่งดวงจันทร์ในยามราตรี
ทั้งสองเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบกริบไปในความมืด เด็กหนุ่มและแมวดำคู่หูกระโดดตัวลอยจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นไม้อีกต้นหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ความมืดและความสูงไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
เบื้องหน้าของทั้งคู่คือคฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีพ่อค้าชาวต่างชาติเจ้าของธุรกิจค้าผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเอราเดส แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือออกมาว่าเขาได้ไปหักหน้าพ่อค้าผ้าไหมชื่อดังอีกรายของเมืองเอราเดสกลางงานเลี้ยงเข้า และนั่นเองที่เป็นสาเหตุให้คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะมีลมหายใจ
เด็กหนุ่มและคู่หูแมวดำแอบลอบเข้าไปภายในคฤหาสน์ได้อย่างง่ายดาย ทหารรักษาความปลอดภัยเพียง 5 คนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับนักฆ่าอย่างเขา ร่างท้วมของเจ้าของบ้านกำลังอยู่ในห้วงนิทราอย่างมีความสุข
เด็กหนุ่มเอื้อมมือของตนเข้าไปค้นหาของบางอย่างภายใต้ผ้าคลุม เด็กหนุ่มชักมือออกอย่างแช่มช้าพร้อมกับชูรูปถ่ายที่อยู่ในมือขึ้นส่องกับแสงจันทร์ที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ภาพในรูปถ่ายคือภาพของเจ้าของคฤหาสน์ไม่ผิดแน่
เร็วเข้าเถอะ ก่อนที่พวกทหารเวรจะมา เจ้าแมวดำคู่หูพูดเตือนสติเด็กหนุ่มด้วยเสียงแผ่วเบา เสียงของมันฟังแล้วคล้ายเสียงของเด็กหนุ่มที่มีอายุไม่น่าจะเกินสิบแปดปี
ฮื่อ เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับคู่หูอย่างเงียบกริบ มือหนาของเด็กหนุ่มชักมืดสั้นออกมาจากที่เหน็บมีดข้างเอวด้วยความชำนาญ
ควับ!
ทันใดนั้น ร่างท้วมของเจ้าของบ้านก็ผุดลุกขึ้นมาพร้อมกับหมัดหนักๆที่ต่อยเข้ากับสีข้างของเด็กหนุ่ม
...เจ้าของบ้านรู้ตัวตื่นเสียแล้ว...
เด็กหนุ่มกระโดดหลบฉากออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับปามีดสั้นเข้าใส่เจ้าของบ้านร่างท้วม ชายร่างท้วมหลบได้ทันอย่างหวุดหวิด แต่มีดสั้นก็ยังเฉี่ยวโดนแก้มอวบหนา เลือดสีแดงข้นไหลทะลักออกมาเล็กน้อยจากรอยแผล
เด็กหนุ่มอาศัยจังหวะที่ชายร่างท้วมเผลอพุ่งเข้าใส่พร้อมกับลงมีดสั้นที่คมกริบบนคอ คอของชายร่างท้วมขาดวิ่นหล่นลงมาจากบ่าใหญ่ที่เคยใช้รองรับ ร่างของเหยื่อเบื้องหน้าแน่นิ่งไปโดยทันที
...งานของเขาเสร็จแล้ว...
เด็กหนุ่มยืนมองผลงานของตนอย่างพอใจก่อนจะกระโดดจากห้องนอนห้องใหญ่ของคฤหาสน์ออกไปยืนบนต้นไม้ใหญ่ด้านข้าง เด็กหนุ่มดึงผ้าคลุมสีดำที่ใช้คลุมหน้าออกเพราะอากาศเริ่มร้อนขึ้น
แสงจันทร์ยามราตรีส่องผ่านหมู่เมฆลงมายังใบหน้าของเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี เด็กหนุ่มผู้มีเรือนผมและนัยน์ตาสีแดงเพลิง สายลมอ่อนๆทำให้เส้นผมพลิ้วไหวตามแรงลม เส้นผมของเด็กหนุ่มพลิ้วได้สวยงาม สวยงามราวกับเส้นผมของเด็กหนุ่มเป็นเปลวเพลิงที่กำลังไหววูบเพราะแรงลม
เด็กหนุ่มมีนามว่า เฟลม การ์ไดแอน เด็กหนุ่มที่ได้รับสมญานามจากโลกแห่งความมืดว่า Phantom of Darkness หรือปีศาจแห่งความมืดมิด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หนุกดีค่าา