ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Prince ::: ปฏิบัติการตามล่าเจ้าชายในฝัน[จบ]

    ลำดับตอนที่ #4 : ชายอีกคนหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 51





    “พี่ศิลา   สวัสดีค่ะ”

    “อ้าว   อันน์    สวัสดี    จะไปไหนล่ะเนี่ย”

    อันน์ยิ้ม....   ยิ้มที่แสนเป็นเอกลักษณ์   พยักเพยิดไปทางร้านขายอาหารสดที่ห่างออกไปอีกประมาณห้าเมตรบอกเป็นนัยว่าตนจะไปที่นั่น

    “ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอเรา”

    “เป็น  ไม่เป็น  ก็ฝึกได้ค่ะ”อันน์ย้อน   มองภาพศิลาหิ้วของพะรุงพะรังด้วยท่าทางขำๆ   อดคิดถึงใครบางคนที่หน้าตาเหมือนกันไม่ได้

    “เป็นไง     จีบไอ้ศิลป์ติดยัง”  

    คนถูกถามแลบลิ้น   ส่ายหัวหวืดเป็นการปฏิเสธ”เดือนเดียวเองค่ะ    พี่ศิลป์ไม่ใจอ่อนแบบนั้นหรอก”ว่าพลางเดินเข้าใกล้ศิลา”ให้อันน์ช่วยมั้ยคะ  ดูท่าจะหนัก”

    “ถ้าจะช่วย  ก็ช่วยอย่าขวางทางพี่   แล้วก็อยู่ห่างๆที    จะไม่ไหวแล้ว”

    “อ๊ะๆ   ขอโทษค่ะ”อันน์รีบถอยหลังออก   มองศิลาขนของขึ้นใส่มอเตอร์ไซด์ช้าๆ   เสร็จแล้วศิลาก็หันมาพูดกับอันน์ต่อ

    “แล้วหน้าอย่างเราคิดยังไงจะทำอาหารล่ะ”

    “อ๋อ...    พรุ่งนี้พี่ศิลป์แข่งฟันดาบรอบชิงชนะเลิศน่ะค่ะ   อันน์ก็เลยจะทำให้พี่ศิลป์ในงานกีฬาสี แหะๆ   จะได้มีเวลาจู๋จี๋กันสองต่อสอง”

    “จู๋จี๋?”ศิลาทวนคำ  ก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมาด้วยความอดไม่อยู่”อย่างไอ้ศิลป์เนี่ยนะจะทำท่าจ๊ะจ๋ากับอันน์    ดีๆๆ   ถ่ายรูปมาให้พี่ดูด้วยล่ะ  อยากเห็น”

    “ง่ะ   ไม่ต้องมาว่าเลยน้า   คอยดูเถอะ   ซักวันอันน์จะจู๋จี๋  จ๊ะจ๋า   เจ๊าะแจะ   กับพี่ศิลป์ให้ดู”

    “คร๊าบบบ   แล้วพี่จะคอยดู”

    “แต่ก่อนอื่น   พี่ศิลาบอกหน่อยสิว่าพี่ศิลป์ชอบกินอะไร   เอ๊ะ!  ไม่เอาดีกว่า   อันน์ว่าอันน์ทำของที่อันน์ชอบให้พี่ศิลป์กินดีกว่า   เสร็จแล้วพี่ศิลป์ก็จะได้ชอบอะไรเหมือนกัน”

    “...”ศิลาชักเริ่มทึ่งกับความสดใสของหญิงสาว
      
    “จริงด้วยๆ   พี่ศิลา    ว่าแต่อยู่บ้านพี่ศิลป์พูดถึงอันน์บ้างรึเปล่า   ว้ายย!!   ตายแล้ว  พูดแล้วเขิลลลล    ไปแล้วดีกว่า   พี่ศิลาเนี่ย   พูดอะไรก็ไม่รู้    อันน์ก็อายเป็นเหมือนกันนะ”

    คนถูกว่าเกาหัวแกรกๆ   ชักเริ่มเดาใจสาวเจ้าไม่ถูก

    “อันน์    ขอโทษนะที่มาสา....   พี่ศิลป์!!!~”มิ้นร้อง   เบิกตากว้างมองศิลาตั้งแต่หัวจรดเท้า   แปลกใจ....   พี่ศิลป์กำลังยิ้ม...ให้อันน์?

    “ไม่ใช่ซักหน่อยมิ้น    นี่พี่ศิลา  เป็นพี่ชายของพี่ศิลป์   พี่ศิลาคะ  นี่มิ้นค่ะ   เพื่อนอันน์เอง”

    “สวัสดีครับ”

    “เอ่อ   ค่ะ”มิ้นตอบรับก่อนจะหันไปกระซิบกับอันน์”พี่ชายพี่ศิลป์   คนนี้น่ะเหรอที่อันน์เล่าให้ฟังว่าไปตอนไปขอพี่ศิลป์เป็นแฟน”

    “อื้อ”

    “เหมือนกันอย่างกับแกะแน่ะ”มิ้นวิจารณ์

    “ไม่หรอกมิ้น    มองแรกๆอาจจะเหมือนกันมาก   แต่ถ้าดูดีๆจะไม่เหมือนนะ   ทั้งพี่ศิลป์   พี่ศิลา   จะมีอะไรบางอย่างที่บอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง”

    “อย่างน้อยๆพี่ศิลาก็ยิ้มเป็นล่ะนะ”มิ้นพูด”แต่ตามหลัก   ศิลาน่ะ   ต้องเย็นชาไม่ใช่เหรอ   ศิลป์ต่างหากล่ะที่จะต้องเป็นสิ่งที่อ่อนโยน    เพราะศิลปะน่ะต้องใช้จิตใจดู”

    “พูดอะไรน่ะมิ้น   ฟังไม่รู้เรื่อง”อันน์โวย”ตายแล้ว!    เย็นมากแล้วนะเนี่ย   เดี๋ยวก็เลือกของที่จะซื้อไม่ทันหรอก   ไปกันมิ้น   พี่ศิลา   สนใจไปด้วยกันมั้ยคะ”

    “ก็เอาสิ   พี่ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน” 






      
    “พี่ศิลป์หล่อ  พี่ศิลป์เท่ห์   พี่ศิลป์เก่ง   พี่ศิลป์สู้ๆๆ    กรี๊ดดดดดดดด”

    เสียงเชียร์ดังกระหึ่มสแตนเชียร์ของโรงเรียน    วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแข่งกีฬา   ฟันดาบ   กีฬาที่มีทั้งผู้ชายผู้หญิงเข้ามาดู   สำหรับผู้ชายน่ะดูเพื่อความสนุกสนาน   แต่ผู้หญิงความต้องการอย่างเดียวคือเพื่อมาเห็นความเก่งกาจและแสนเท่ห์ของชายที่ชื่อศิลป์....

    เป็นข่าวไปทั่วโรงเรียนเรื่องที่ว่าเด็กผู้หญิงที่ชื่ออันน์...เด็กนักเรียนม.สี่ที่แสนจะบ้าหนังสือและไม่เคยสนใจใครที่เข้ามาจีบกลับเข้าไปจีบพี่ศิลป์....   รุ่นพี่ม.ห้าคนเก่ง   จีบมาเดือนกว่าๆ  ทั้งๆที่ผ่ายหญิงก็หน้าตาไม่ได้น่าเกลียดอะไร   แถมยังเป็นคนน่ารักสุดๆดั้น...ไม่ติด   จึงไม่แปลกอะไรเลยที่ตอนนี้   ศิลป์เป็นที่จับตามองของผู้หญิงทั้งโรงเรียน  หนึ่ง...ในฐานะผู้ชายที่หล่อ   เท่ห์   เก่ง   และมาดขรึมที่สุดในโรงเรียน(ก่อนหน้านี้ก็ป๊อบ  แต่ป๊อบไม่มาก)  สอง...ในฐานะที่เป็นถึงนักกีฬาฟันดาบตัวจริงของโรงเรียน  และสาม...เป็นผู้ชายที่น่านำมาแข่งขันกันเป็นแฟนมากที่สุด

    แม้ตอนนี้แต่ละคนยังไม่มีท่าทีว่าจะเข้าไปเป็นคู่แข่งของอันน์    แต่ทุกคนกำลังจับตามองทั้งสองคนทุกย่างก้าว

    “เย้ๆๆๆ  พี่ศิลป์   พี่ศิลป์   พี่ศิลป์  พี่ศิลป์ชนะแล้วมิ้น   พี่ศิลป์ชนะแล้ว”อันน์ตะโกนใหญ่หลังจากการประกาศผลผู้ชนะเลิศ    เด้งตัวไปมาด้วยความดีใจ    แล้วพอศิลป์เดินออกจากสนาม   เจ้าคนดีใจหนักก็วิ่งเข้าหาชายในดวงใจด้วยความเร็วสุดชีวิต

    “พี่ศิลป์เก่งจังเลยล่ะ    เท้เท่ห์ค่ะตอนที่กำลังจะชนะ”

    อันน์พูดพร้อมกับยื่นผ้าให้ศิลป์ซับเหงื่อ  ระหว่างนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข  

    “หายเหนื่อยรึยังคะ   เดี๋ยวจะได้ไปกินข้าวกัน”

    “ผมยังไม่หิวครับ”

    “เฮ้อ...    เอาอีกแล้ว    พูดครับ   พูดผม   มันเพราะเกินไปนะค้า”อันน์ลากเสียง  เสร็จแล้วก็ลากคนตัวสูงออกมาจากโรงยิมโดยไม่สนใจสายตาคนอื่นที่มองมาซักนิด

    อันน์กึ่งลากกึ่งดึงศิลป์มาที่เงียบสงบที่หนึ่งของโรงเรียน   ออกจะเป็นที่ๆหายากอยู่บ้างในเมื่อที่นี่เป็นที่ๆมีความส่วนตัวไม่น้อยเพราะไม่ค่อยจะมีใครรู้จักที่นี่    อีกทั้งยังมีบ่อน้ำใสๆให้มองเห็นตัวปลาว่ายอยู่รอบบ่อ   ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับอยู่บ้าน

    ศิลป์ยังคงไม่พูดไม่จาตอนที่อันน์ดึงมา   แม้จะสงสัยอยู่บ้าง    แต่ก็ไม่แสดงท่าที   อันน์ล่ะภูมิใจซะจริงๆที่ชีวิตนี้ได้มาเจอกับศิลป์

    “ที่นี่สวยมั้ยคะ   อันน์เดินมาเจอมันตอนที่รู้สึกเศร้ามากๆค่ะ   พอมาถึงที่นี่ก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยแหละ”

    ศิลป์เห็นด้วย    เขามองภาพข้างหน้าโดยละเอียด   ไม่น่าเชื่อว่ามีที่แบบนี้อยู่ในโรงเรียน   เหมือนกับผู้หญิงที่พาเขามานั่นแหละ....  ไม่น่าเชื่อว่ามีคนแบบนี้อยู่ในโลก

    “นั่งก่อนสิคะ   รับรองว่าสะอาดหมดจด   รับไอดินกลิ่นหญ้า   ถ้าอยากสบายกว่านี้ก็ถอดรองเท้าได้ค่ะ   พื้นที่นี่เย็นสบายมากมายเลยล่ะ    อันน์บอกพี่ศิลป์รึยังคะว่าทำอาหารมาให้พี่ศิลป์ทาน    อย่าบอกน้าว่าไม่หิว   อันน์ทำมาสุดฝีมือเลยล่ะ   อ้า....   หอมจัง”

    อันน์ยื่นปิ่นโตให้ศิลป์

    “ผมไม่กินครับ”

    “....”

    อันน์ยังคงตั้งท่ายื่นปิ่นโตค้างเอาไว้อย่างนั้น     นัยน์ตาคู่โตจ้องไปยังศิลป์ด้วยความแน่วแน่   ไม่ยอมแพ้อยู่อย่างนั้น    จนศิลป์ต้องยอมแพ้รับปิ่นโตไปทานแต่โดยดี

    ให้ตายสิ!    เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนดื้อแบบนี้มาก่อนเลย

    “กินเลยค่ะ    ชิมดูว่าถูกใจรึเปล่า”

    ศิลป์ละสายตาจากหญิงสาวตรงหน้า    กวาดสายตามอง’ข้าวผัด’ที่เจ้าหล่อนดูจะภูมิใจนักภูมิใจหนา   กลิ่นหอมอ่อนๆของกระเทียมเจียวลอยเข้าจมูกเรียกน้ำย่อยคนดูได้เป็นอย่างดี   แครอทชินเล็กชิ้นน้อยบวกกับผักกาดดูจะเพิ่มสีสันของอาหารขึ้นอีกมากโข    นัยน์ตาคมตวัดมองแม่ครัวอย่างลังเล   และเมื่อสายตาที่มองมาแบบกึ่งขอร้องกึ่งบังคับทำให้เขาต้องแอบยิ้มในใจชั่วแวบ   แล้วตักข้าวผัดเข้าปาก

    รสชาติแรกที่รับรู้คือหวานนิดๆ  ก่อนมันจะกลายเป็นเค็ม    และเค็มมากในทันทีที่ตั้งต้นเคียว   เอื้อก!   นี่เจ้าหล่อนได้ชิมก่อนเอามากินรึเปล่าเนี่ย

    ชั่งใจอยู่ชั่วครู่   ทานต่อ   ด่า    ทานต่อ   ด่า   ทานต่อ...

    ฮึ่ม    เดี๋ยวเขาอดทนกินจนหมดแล้วให้เจ้าหล่อนรู้ตัวเองคงจะดีกว่า

    “ฮั่นเน่   อร่อยใช่ม้า    อันน์ว่าแล้ว”อันน์พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ   เสร็จแล้วก็ตักส่วนของตัวเองเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆๆได้สักพักก็สำลักออกมาอย่างไม่อายใคร

    “น้ำ  น้ำ   น้ำ”เจ้าตัวพูดพร้อมกับโบกมือไปมาคล้ายกับคิดว่าเดี๋ยวน้ำคงลอยเข้ามือเอง

    ศิลป์หัวเราะ   หยิบขวดน้ำที่ตนได้จากการแข่งกีฬาให้แม่สาวสำลักข้าวตัวเอง   อันน์ดื่มน้ำอึกๆใหญ่เพื่อลดเค็ม   เสร็จแล้วก็ยื่นขวดน้ำคืนศิลป์

    “เฮ้อ....   นึกว่าจะไม่รอดซะละ”อันน์ว่า”ดีนะเนี่ยที่พี่ศิลป์ช่วยไว้ทัน”อันน์ยิ้มแล้วก็ทำหน้ามุ่ย”แล้วทำไมไม่บอกอันน์ก่อนละคะว่ามันเค็ม    จะได้ไม่กิน   เห็นตักใส่ปากหน้าตาเฉยนึกว่าจะอร่อย   เอ๊ะ  เอ๊ะ  เอ๊ะๆๆๆๆ    เมื่อกี้   เมื่อกี้...”

    อันน์เบิกตากว้าง   มือชี้ไปที่ขวดน้ำข้างตัวศิลป์”พี่ศิลป์  พี่ศิลป์   พี่ศิลป์เอาขวดน้ำนั่นให้อันน์ดื่มใช่มั้ยคะ”

    “....”

    “อ้ายยยยยย    จูบ   จูบทางอ้อมกับพี่ศิลป์”

    พูดจบคนคิดเองเออเองก็หน้าแดงแจ๋    ชักเริ่มทำอะไรไม่ถูก  หัวใจมันก็เต้นตึกตักๆควบคุมไม่อยู่ไปซะแล้ว

    “อันน์   อันน์    อ๊ะๆ   สถานการณ์แบบนี้อันน์จะพูดอะไรได้ล่ะ”

    แล้วท่าทางตกอกตกใจของอันน์ก็กลับกลายเป็นคิดหนัก    จนศิลป์แทบตั้งตัวไม่ติด   เงียบกันไปพักใหญ่แล้วเจ้าตัวก็พูดขึ้นอีกครั้ง

    “อ๋อๆ   รู้แล้วๆ   อันน์  อันน์ต้องบอกว่า   พี่ศิลป์ต้องรับผิดชอบอันน์นะ   มาเป็นแฟนอันน์กับอันน์เลยด้วย”

    พูดไปเจ้าหล่อนก็อายไป    ทำเอาคนฟังเหนื่อยใจขึ้นมาตงิดๆ

    “คุณคิดผิดแล้วครับ   น้ำนั่นผมยังไม่ได้แตะต้องเลยซักนิด”

    “หง่ะ  “อันน์เสียดาย”งั้นพี่ศิลป์ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอันน์แล้วล่ะสิ   เฮ้อ...  เซ็ง  เอ้อ!  อันน์หมายถึงดีแล้วล่ะค่ะ”

    ความจริงคืออันน์เสียใจสุดๆเลยล่ะ   ไม่เอาๆ   เปลี่ยนเรื่อง!

    “อันน์ขอโทษนะคะ   ข้าวผัดก็กินไม่ได้ซะแล้ว”อันน์พูดเสียงอ่อย”ทีเมื่อวานอันน์ทำอาหารกินพี่ศิลายังชมอยู่เลยว่าอร่อย   พี่ศิลป์ต้องชอบแน่”

    คำพูดถึงพี่ชายทำให้ศิลป์ตวัดสายตามองอันน์   แล้วทำท่าเป็นไม่สนใจแล้วมองทางอื่น    แม้ตัวใจจะรู้สึกตงิดๆกับคำพูดหญิงสาว

    นี่เขาไม่พอใจอะไรกันนะ

    “เอางี้ดีกว่า”อันน์พูดพร้อมกับลุกพรวดขึ้นทันที”อันน์ไปเลี้ยงไอติมพี่ศิลป์เลยดีกว่า   ฉลองพี่ศิลป์ชนะตามที่สัญญาไว้”

    สัญญาที่ไม่มีเขาไม่เห็นได้ตกลงซักนิด...   ศิลป์คิดในใจ   แต่ก็ยังคงขัดขวางความประสงค์ของเจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ดี

    “วันนี้อันน์เลี้ยงไม่อั้นค่ะ   ฉลองๆๆฉละ...”

    เสียงของอันน์หายไปเมื่อมองเห็นชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

    “อันน์    ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×