ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Prince ::: ปฏิบัติการตามล่าเจ้าชายในฝัน[จบ]

    ลำดับตอนที่ #3 : พี่ศิลป์คนที่ 2!!!

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 51







    “คือว่า  อันน์ชอบพี่ศิลป์น่ะค่ะ    อยากจะเป็นแฟนกับพี่ศิลป์ได้รึเปล่าคะ”

    อันน์พูดเสียงดัง    รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งออกหู    พูดไปแล้ว   เราพูดไปแล้ว     จะทำยังไงดี   ถ้าเกิดถูกปฏิเสธล่ะอันน์   ไม่สิ   ต้องปฏิเสธแน่ๆเลย   ก็เราไม่เคยคุยกันเลยนี่นา   โอ๊ยยยยย   เห็นมั้ย   มิ้นก็เตือนแล้ว  ทำไมถึงยังโง่อยู่นะ    ตายแล้ว  ตายแน่ๆ  

    “เอ่อ   ขอโทษค่ะ   คิดว่าอันน์ไม่ได้พูดอะไรออกไปก็แล้วกันนะคะ”

    “ก็เอาสิ”

    “ค่ะ  คะ??”อันน์เหรอหรา”ก็  ก็เอาสิ  เหรอคะ  ก็เอาสิ   นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ”อันน์มองหน้าศิลป์เหมือนพยายามหาความหมายจากดวงตา   เป็นครั้งแรกที่อันน์มองหน้าศิลป์ตรงๆ    ใบหน้าคมเข้ม   ผิวสีแทน    นัยน์ตาคมกริบที่แทบจะทะลุลงกลางใจ   นี่สินะที่ทำให้ผู้หญิงหลายๆคนหลงใหล   ริมฝีปากของศิลป์หยักขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังขำ    แต่เอ...  ทำไมใจอันน์ไม่เต้นเหมือนที่เจอพี่ศิลป์ครั้งแรกกันนะ

    “ฉันหมายถึงตกลง   ตอนนี้เธอมีฐานะเป็นแฟนของผู้ชายที่ชื่อศิลป์แล้ว  พอใจรึยัง”

    “พอค่ะ  พอใจ   พอใจมากด้วย”อันน์ตอบรับ   รู้สึกเหมือนตัวเองได้ขึ้นสวรรค์ยังไงอย่างนั้น

    ศิลป์ยิ้ม”งั้นก็ดี   มีอะไรอีกมั้ย”

    อันน์ส่ายหน้า“ไม่มีแล้วค่ะ   แค่นี้ก็มากพอสำหรับอันน์แล้ว”

    “อ่าว   เฮ้!  ศิลป์   จะไปไหนน่ะ”

    หา???   เมื่อกี้พี่ศิลป์ว่าอะไรน่ะ

    อันน์มองตามพี่ศิลป์ไป   ก่อนจะอ้าปากค้าง   อันน์หันมามองศิลป์   แล้วหันไปมองผู้ชายหน้าบ้านอีกครั้ง    เฮ้ย !!!~   อะไรกัน    ทำไมสองคนนี้ถึงได้เหมือนกันอย่างกับแกะแบบนี้   แล้วใครเป็นพี่ศิลป์ตัวจริงกัน

    “ทำหยิ่งเหรอ    มานี่    มาคุยกับแฟนนายนี่”ชาย...   ที่ตอนนี้อันน์แน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ศิลป์เดินไปดึงแขนศิลป์ให้เดินมาหาอันน์”เอ้า   ทำความรู้จักกับแฟนซะ”

    “นายพูดอะไรของนาย”พี่ศิลป์(คนที่พึ่งโผล่มา)พูดขึ้นเป็นครั้งแรก

    “อ้าว!   ก็ยัยเปี้ยกนี่มาขอนายเป็นแฟน   ฉันก็เลยตกลงให้   เป็นไง  ดีใช่มั้ยล่ะ”ผู้ชายคนนั้นเอาข้อศอกกระทุ้งศิลป์”อยู่เฉยๆก็มีผู้หญิงมาเป็นแฟนโดยไม่ได้ทำอะไรเลย   นายไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ   ฉันทำเพื่อนายได้เสมอ”

    “มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย  เรื่องของฉัน   ฉันจัดการเองได้”พี่ศิลป์(ตัวจริง)โต้กลับ

    “อย่าทำเป็นอารมณ์เสียไปหน่อยเลยน่า    นายน่ะได้แต่เก็บตัวอยู่ในแผ่นน้ำแข็งหนาเตอะ   ไม่ยอมให้ใครเข้าไปหาหายซักที   แล้วแบบนี้เมื่อไรนายจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าวะ”ชายคนนั้นว่า

    “ฉันไม่อยากมีแฟน”

    “ไม่รู้ล่ะ   อยากไม่อยากยัยเปี๊ยกนี่ก็เป็นแฟนนายแล้วล่ะ    ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายต้องไปรับไปส่งยัยนี่   แล้วก็พากันไปเที่ยวทุกอาทิตย์ด้วย”

    “ฉันไม่ทำ”

    “นายไม่สงสารผู้หญิงคนนี้บ้างเหรอวะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”อันน์โผล่งขึ้น   สูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้า   ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง”ถ้าพี่ศิลป์ไม่อยากเป็นแฟนกับอันน์   อันน์ก็ไปบังคับใจพี่ศิลป์ไม่ได้หรอก     แต่พี่ศิลป์ก็ช่วยตามใจอันน์ด้วยนะคะ    ถ้าหลังจากนี้อันน์จะพยายามให้พี่ศิลป์หันมาสนใจอันน์ให้ได้    อันน์มีเรื่องที่จะพูดแค่นี้แหละค่ะ   บ๊ายบาย”

    น้ำเสียงสุดท้ายของอันน์ร่าเริงขึ้นมาราวกับเป็นคนละคน   อันน์ตัดสินใจแล้ว   อันน์จะเป็นตัวของตัวเอง   จะพยายามทำให้พี่ศิลป์หันมาสนใจตัวเองให้ได้!!!

    อันน์โบกมือ   แล้วเดินจากไป...   แล้วเจ้าตัวก็หันมาทันทีราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างได้

    “เอ้อ...  ลืมถามไปค่ะ   คุณคือใครเหรอคะ”

    “ฉันน่ะเหรอ”ชายผู้มีใบหน้าคล้ายศิลป์เลิกคิ้วพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง    เขายิ้มขำๆ”ฉันเป็นพี่ชายฝาแฝดกับศิลป์น่ะ   ชื่อศิลา   ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ   อันน์”

    เจ้าของดวงหน้าใสยิ้มกว้าง”ค่ะ   ยินดีที่ได้รู้จัก   แล้วก็เป็นกำลังใจให้อันน์ช่วยจีบพี่ศิลป์ด้วยนะคะ”    


    “เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครเลยนะ”

    ศิลาพูดขึ้น   หลังจากที่อันน์เดินจากไปแล้ว   เขาหันไปมองศิลป์....น้องชายของเขา     น้องชายที่ไม่เคยมีความสุขกับชีวิตมานานหลายปี   เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในบ้าน   แต่เรื่องนี้ก็ดีอยู่นิดที่ทำให้เขารู้จักผู้หญิงที่ชื่อว่าอันน์

    ผู้หญิงที่เขาต้องสานต่อเพื่อให้น้องชายของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม

    ศิลป์ยักไหล่   เดินกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางไม่สนใจใยดี

    “ทำมาเป็นเก๊ก  ลึกๆก็คิดล่ะสิว่าเจ้าหล่อนน่ะ   น่ารัก”ศิลาตะโกนไล่หลัง   ก่อนจะคว้าเอาหมวกกันน็อกคู่ใจมาสวมหัว   แล้วสตาร์ทรถจากไป...


    “ขออันน์นั่งด้วยคนนะคะ”

    เสียงใสดังขึ้นจากความเงียบงัน   พร้อมร่างๆหนึ่งที่ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับเขาโดยไม่รอคำตอบ   ศิลป์มองไปทางหญิงสาว   ดวงหน้าหวานมีรอยยิ้มเสมอเวลาที่เขามอง    นัยน์ตากลมโตคู่นั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งความซุกซนซ่อนความฉลาดเอาไว้    เจ้าหล่อนช่าง‘ตื้อ’เก่งเสียจริง
      
    “อันน์เรียนภาษาอังกฤษมาค่ะ    สนุกม๊ากมาก    แต่ได้คำศัพท์ที่ต้องกลับมาท่องตั้งเยอะแน่ะ”อันน์พูดแล้วเอนตัวเข้ามองหนังสือที่ศิลป์กำลังอ่าน”พี่ศิลป์อ่านอะไรเหรอคะ”

    “...”

    เงียบ....

    “พี่ศิลป์อ่านอะไรอยู่เหรอคะ”อันน์ถามอีกครั้ง   ก็เมื่อตะกี้เธอเห็นพี่ศิลป์หันมามองเธอแล้วไม่ใช่เหรอ  ก็น่าจะรู้นี่นาว่าเธออยู่นี่   แล้วทำไมต้องทำท่าเหมือนเธอไม่อยู่ในโลกแบบนั้นล่ะ

    “....”

    เงียบ...

    อันน์ฮึดฮัดเดินไปข้างหลังศิลป์    แล้ววางหนังสือของตัวเองเข้าบังหน้ากระดาษที่ศิลป์กำลังอ่านอยู่     ให้คนที่โดนขัดขวางการอ่านหนังสือต้องถอนหายใจเฉือก   นับหนึ่งถึงสิบในใจแล้วพูดเสียงแข็ง

    “ขอโทษครับ    ผมจะอ่านหนังสือ”

    “แหงะ   เอาอีกแล้ว   อันน์บอกแล้วไงคะว่าให้แทนตัวเองว่าพี่  หรือไม่ก็ฉัน  หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ห่างเหินแบบนี้!”อันน์โวยวาย

    “ก็เราไม่ได้สนิทกันนี่ครับ”

    “แล้วไม่ต้องลงท้ายด้วยครับด้วย”อันน์ต่อ”เรารู้จักกันเกือบเดือนแล้วนะคะ   แล้วพี่ศิลป์ก็อายุมากกว่าอันน์ด้วย    ทีกับพี่ศิลายังพูดฉันกับนายได้เลย”

    “....”

    “เอ้อ!  เอางี้ดีกว่า   ยังไงๆพี่ศิลป์จะไม่แทนตัวเองว่าพี่กับอันน์แล้วใช่ม้าย   งั้นเราก็เรียกกัน   ฉันกับนายเหมือนที่พี่ศิลป์คุยกับพี่ศิลาดีกว่า”อันน์ยิ้มกว้าง

    ศิลป์ส่ายหัว   ขยับไปอีกทาง   แล้วก็นั่งอ่านหนังสือต่อไปเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

    “แง้ๆๆๆ   พี่ศิลป์อ่ะ   ทำไมต้องทำกับอันน์แบบนี้ด้วย”อันน์ร้องยอมแพ้   แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองเหมือนเดิม

    “เอ้อ!   เกือบลืมไป   อันน์ได้ข่าวว่ากีฬาสีปีนี้พี่ศิลป์ลงแข่งฟันดาบใช่ม้า!   เท่ห์สุดๆไปเลยค่ะพี่ศิลป์    อันน์จะไปเป็นกองเชียร์ให้พี่ศิลป์เองนะ  ”

    “....”คนถูกผู้หญิงขอเดทด้วยยังคงนั่งหน้าตายอ่านหนังสือไปโดยไม่รับรู้  

    “ว้าวๆ   งั้นพอพี่ศิลป์แข่งชนะแล้วเราก็ต้องเลี้ยงฉลองกันสิใช่มั้ย     อันน์อยากกินไอติมอ่ะ   เราไปกินไอติมกันนะคะพี่ศิลป์   นะ    น้า!!~”

    “....”

    “ไม่รู้ล่ะ   ไม่พูดอะไรแบบนี้ถือว่าพี่ศิลป์ตกลงแล้วกัน”พูดพลางขยับยิ้มกว้าง” ดีจังเลย  จะได้ไปเที่ยวกับพี่ศิลป์   เป็นวันที่อันน์รอคอยเลยล่ะ”

    “....”

    “อันน์ที่โชคดีจังเนอะที่มีคนที่ชอบชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน”เจ้าตัวยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ   ไม่สะทกสะท้านกับความเย็นชาของคนข้างๆ”เพราะแบบนี้ไงอันน์ถึงได้ชอบพี่ศิลป์ม๊ากกกมาก   เอ๊ะ   ตายแล้ว   อันน์ต้องไปหามิ้นแล้วล่ะ   ไปก่อนนะคะพี่ศิลป์   แล้วค่อยเจอกัน   บาย” 







    ตัวน่ารำคาญ....

    เขาจะคิดแบบนี้ได้รึเปล่านะ   ในเมื่อเจ้าหล่อนเข้ามาหาเขาทุกทีที่มาหาได้

    หรือน่าสงสาร

    ในเมื่อเขาไม่ได้แม้แต่จะสนใจเจ้าหล่อนเลย....     แต่เจ้าหล่อนกลับตามเขาแจมาเกือบเดือนได้แล้ว

    เขาใจร้ายเกินไปรึเปล่านะ

    ทุกครั้ง   ที่มีผู้หญิงมาชอบ   มาตามติด   พวกหล่อนไม่เห็นจะมีความอดทนได้นานเท่านี้เลย  

    ทั้งๆที่เจ้าหล่อนตัวเล็กขนาดนั้น!!!

    ศิลป์ปิดหนังสือดังฉับ   สมาธิในการอ่านหนังสือหายลับไปกลับตา   ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆตัวเองถึงได้อารมณ์เสียเอาง่ายๆแบบนี้

    แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าอารมณ์เสียเรื่องอะไร!!!

    ชายหนุ่มสูดหายใจลึก   ก่อนจะผ่อนมันออกมาช้าๆเบาๆ   นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน... 






    “มิ้นจ๋า!!!~   อันน์กลับมาแล้ว”อันน์ยิ้มกว้าง”ขอโทษน้าที่ทำให้ทุกคนต้องรอ   พอดีอันน์ไปหาพี่ศิลป์ที่ห้องสมุดกันอยู่น่ะ    อ้าว...   ทำไมถึงได้ทำหน้าเคร่งเครียดจังมิ้น  หรือนายว่าต้น...”

    มิ้นขมวดคิ้ว”ต้นเขาดีกับมิ้นมากเลยอันน์    แต่ที่มิ้นเครียดน่ะเพราะอันน์นั่นแหละ   วันๆก็พูดถึงแต่พี่ศิลป์    เวลาว่างทีก็ไปหาพี่ศิลป์   จนคนทั้งโรงเรียนเขานินทาอันน์เต็มไปหมดเลยรู้มั้ย   เขาน่ะ  หาว่าอันน์อยากได้แฟนจนต้องดิ้นพล่าน”

    อันน์ใจเสีย   แต่ก็ยังคงยิ้มได้“จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดนี่นา      อันน์น่ะ    อยากอยู่กับพี่ศิลป์ตลอดเวลาเลยล่ะ   แล้วก็ถ้าได้เป็นแฟนกับพี่ศิลป์จะดีมากๆเลย”

    “ทั้งๆที่พี่ศิลป์แทบจะไม่สนใจอันน์เลยเนี่ยนะ”มิ้นถามกลับ...ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

    “แค่อันน์ได้อยู่กับพี่ศิลป์อันน์ก็มีความสุขแล้วล่ะ   ไม่ต้องให้พี่ศิลป์สนใจอันน์หรอก”

    “อันน์...   แน่ใจอย่างนั้นจริงๆเหรอ”

    อันน์ยิ้มด้วยความมั่นใจ”แน่ใจที่สุดเลยล่ะมิ้น     ทุกวันนี้อันน์ก็มีความสุขยิ่งกว่าแต่ก่อนเยอะเลยล่ะ”

    “ถ้าอันน์ว่าอย่างนั้นมิ้นก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ  แต่...”

    “แต่....?”

    “แต่อันน์อย่าอยู่แต่กับพี่ศิลป์จนลืมมิ้น   แต่นี้ก็ดีมากๆแล้วล่ะจ๊ะ”มิ้นยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก

    “จ้า   มิ้นก็รู้อยู่แล้วนี่นา   ว่าอันน์น่ะรักมิ้นที่สุดในโลกเลย”

    “มิ้นก็รักอันน์เหมือนกันแหละจ๊ะ   ว่าแต่  วันนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ”

    “ก็เหมือนเคยแหละ   ไม่ยอมพูดกับอันน์เลย”อันน์ว่า   แต่ยังยิ้มอยู่”แต่อันน์ก็เห็นนะ   ว่าพี่ศิลป์เริ่มใจอ่อนแล้ว    อันน์เห็นนัยน์ตาพี่ศิลป์ไหวๆด้วยแหละตอนที่อันน์พูดด้วย”

    มิ้นขมวดคิ้ว”ไหวเนี่ยนะอันน์”

    “ใช่    มันไหวหน่อยหนึ่ง   ถือว่าคุ้มกับความพยายาม”อันน์ยิ้มแก้มแทบปริ   ขณะที่มิ้นชักเริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยนใจให้อันน์เลิกสนใจพี่ศิลป์อีกครั้ง

    “ถ้าอันน์ว่าแบบนั้น   ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ”

    “อื้ม...   วันกีฬาสีพี่ศิลป์แข่งฟันดาบด้วย   อันน์สัญญากับพี่ศิลป์แล้วล่ะว่าจะไปเชียร์   มิ้นไปส่งอันน์นะ”

    “หา???”มิ้นอ้าปากกว้าง”พี่ศิลป์ขอให้อันน์ไปเชียร์เหรอ”

    “เปล่าหรอกจ๊ะ   อันน์เป็นคนขอไปเองแหละ  แหะๆ”

    มิ้นเริ่มเกิดอาการเซ็ง....   นี่เพื่อนเราจะมีความหวังในรักรึเปล่านี่!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×