ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พี่ศิลป์คนที่ 2!!!
“คือว่า อันน์ชอบพี่ศิลป์น่ะค่ะ อยากจะเป็นแฟนกับพี่ศิลป์ได้รึเปล่าคะ”
อันน์พูดเสียงดัง รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งออกหู พูดไปแล้ว เราพูดไปแล้ว จะทำยังไงดี ถ้าเกิดถูกปฏิเสธล่ะอันน์ ไม่สิ ต้องปฏิเสธแน่ๆเลย ก็เราไม่เคยคุยกันเลยนี่นา โอ๊ยยยยย เห็นมั้ย มิ้นก็เตือนแล้ว ทำไมถึงยังโง่อยู่นะ ตายแล้ว ตายแน่ๆ
“เอ่อ ขอโทษค่ะ คิดว่าอันน์ไม่ได้พูดอะไรออกไปก็แล้วกันนะคะ”
“ก็เอาสิ”
“ค่ะ คะ??”อันน์เหรอหรา”ก็ ก็เอาสิ เหรอคะ ก็เอาสิ นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ”อันน์มองหน้าศิลป์เหมือนพยายามหาความหมายจากดวงตา เป็นครั้งแรกที่อันน์มองหน้าศิลป์ตรงๆ ใบหน้าคมเข้ม ผิวสีแทน นัยน์ตาคมกริบที่แทบจะทะลุลงกลางใจ นี่สินะที่ทำให้ผู้หญิงหลายๆคนหลงใหล ริมฝีปากของศิลป์หยักขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังขำ แต่เอ... ทำไมใจอันน์ไม่เต้นเหมือนที่เจอพี่ศิลป์ครั้งแรกกันนะ
“ฉันหมายถึงตกลง ตอนนี้เธอมีฐานะเป็นแฟนของผู้ชายที่ชื่อศิลป์แล้ว พอใจรึยัง”
“พอค่ะ พอใจ พอใจมากด้วย”อันน์ตอบรับ รู้สึกเหมือนตัวเองได้ขึ้นสวรรค์ยังไงอย่างนั้น
ศิลป์ยิ้ม”งั้นก็ดี มีอะไรอีกมั้ย”
อันน์ส่ายหน้า“ไม่มีแล้วค่ะ แค่นี้ก็มากพอสำหรับอันน์แล้ว”
“อ่าว เฮ้! ศิลป์ จะไปไหนน่ะ”
หา??? เมื่อกี้พี่ศิลป์ว่าอะไรน่ะ
อันน์มองตามพี่ศิลป์ไป ก่อนจะอ้าปากค้าง อันน์หันมามองศิลป์ แล้วหันไปมองผู้ชายหน้าบ้านอีกครั้ง เฮ้ย !!!~ อะไรกัน ทำไมสองคนนี้ถึงได้เหมือนกันอย่างกับแกะแบบนี้ แล้วใครเป็นพี่ศิลป์ตัวจริงกัน
“ทำหยิ่งเหรอ มานี่ มาคุยกับแฟนนายนี่”ชาย... ที่ตอนนี้อันน์แน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ศิลป์เดินไปดึงแขนศิลป์ให้เดินมาหาอันน์”เอ้า ทำความรู้จักกับแฟนซะ”
“นายพูดอะไรของนาย”พี่ศิลป์(คนที่พึ่งโผล่มา)พูดขึ้นเป็นครั้งแรก
“อ้าว! ก็ยัยเปี้ยกนี่มาขอนายเป็นแฟน ฉันก็เลยตกลงให้ เป็นไง ดีใช่มั้ยล่ะ”ผู้ชายคนนั้นเอาข้อศอกกระทุ้งศิลป์”อยู่เฉยๆก็มีผู้หญิงมาเป็นแฟนโดยไม่ได้ทำอะไรเลย นายไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ ฉันทำเพื่อนายได้เสมอ”
“มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย เรื่องของฉัน ฉันจัดการเองได้”พี่ศิลป์(ตัวจริง)โต้กลับ
“อย่าทำเป็นอารมณ์เสียไปหน่อยเลยน่า นายน่ะได้แต่เก็บตัวอยู่ในแผ่นน้ำแข็งหนาเตอะ ไม่ยอมให้ใครเข้าไปหาหายซักที แล้วแบบนี้เมื่อไรนายจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าวะ”ชายคนนั้นว่า
“ฉันไม่อยากมีแฟน”
“ไม่รู้ล่ะ อยากไม่อยากยัยเปี๊ยกนี่ก็เป็นแฟนนายแล้วล่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายต้องไปรับไปส่งยัยนี่ แล้วก็พากันไปเที่ยวทุกอาทิตย์ด้วย”
“ฉันไม่ทำ”
“นายไม่สงสารผู้หญิงคนนี้บ้างเหรอวะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”อันน์โผล่งขึ้น สูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง”ถ้าพี่ศิลป์ไม่อยากเป็นแฟนกับอันน์ อันน์ก็ไปบังคับใจพี่ศิลป์ไม่ได้หรอก แต่พี่ศิลป์ก็ช่วยตามใจอันน์ด้วยนะคะ ถ้าหลังจากนี้อันน์จะพยายามให้พี่ศิลป์หันมาสนใจอันน์ให้ได้ อันน์มีเรื่องที่จะพูดแค่นี้แหละค่ะ บ๊ายบาย”
น้ำเสียงสุดท้ายของอันน์ร่าเริงขึ้นมาราวกับเป็นคนละคน อันน์ตัดสินใจแล้ว อันน์จะเป็นตัวของตัวเอง จะพยายามทำให้พี่ศิลป์หันมาสนใจตัวเองให้ได้!!!
อันน์โบกมือ แล้วเดินจากไป... แล้วเจ้าตัวก็หันมาทันทีราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างได้
“เอ้อ... ลืมถามไปค่ะ คุณคือใครเหรอคะ”
“ฉันน่ะเหรอ”ชายผู้มีใบหน้าคล้ายศิลป์เลิกคิ้วพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เขายิ้มขำๆ”ฉันเป็นพี่ชายฝาแฝดกับศิลป์น่ะ ชื่อศิลา ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ อันน์”
เจ้าของดวงหน้าใสยิ้มกว้าง”ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็เป็นกำลังใจให้อันน์ช่วยจีบพี่ศิลป์ด้วยนะคะ”
“เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครเลยนะ”
ศิลาพูดขึ้น หลังจากที่อันน์เดินจากไปแล้ว เขาหันไปมองศิลป์....น้องชายของเขา น้องชายที่ไม่เคยมีความสุขกับชีวิตมานานหลายปี เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในบ้าน แต่เรื่องนี้ก็ดีอยู่นิดที่ทำให้เขารู้จักผู้หญิงที่ชื่อว่าอันน์
ผู้หญิงที่เขาต้องสานต่อเพื่อให้น้องชายของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม
ศิลป์ยักไหล่ เดินกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางไม่สนใจใยดี
“ทำมาเป็นเก๊ก ลึกๆก็คิดล่ะสิว่าเจ้าหล่อนน่ะ น่ารัก”ศิลาตะโกนไล่หลัง ก่อนจะคว้าเอาหมวกกันน็อกคู่ใจมาสวมหัว แล้วสตาร์ทรถจากไป...
“ขออันน์นั่งด้วยคนนะคะ”
เสียงใสดังขึ้นจากความเงียบงัน พร้อมร่างๆหนึ่งที่ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับเขาโดยไม่รอคำตอบ ศิลป์มองไปทางหญิงสาว ดวงหน้าหวานมีรอยยิ้มเสมอเวลาที่เขามอง นัยน์ตากลมโตคู่นั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งความซุกซนซ่อนความฉลาดเอาไว้ เจ้าหล่อนช่าง‘ตื้อ’เก่งเสียจริง
“อันน์เรียนภาษาอังกฤษมาค่ะ สนุกม๊ากมาก แต่ได้คำศัพท์ที่ต้องกลับมาท่องตั้งเยอะแน่ะ”อันน์พูดแล้วเอนตัวเข้ามองหนังสือที่ศิลป์กำลังอ่าน”พี่ศิลป์อ่านอะไรเหรอคะ”
“...”
เงียบ....
“พี่ศิลป์อ่านอะไรอยู่เหรอคะ”อันน์ถามอีกครั้ง ก็เมื่อตะกี้เธอเห็นพี่ศิลป์หันมามองเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ก็น่าจะรู้นี่นาว่าเธออยู่นี่ แล้วทำไมต้องทำท่าเหมือนเธอไม่อยู่ในโลกแบบนั้นล่ะ
“....”
เงียบ...
อันน์ฮึดฮัดเดินไปข้างหลังศิลป์ แล้ววางหนังสือของตัวเองเข้าบังหน้ากระดาษที่ศิลป์กำลังอ่านอยู่ ให้คนที่โดนขัดขวางการอ่านหนังสือต้องถอนหายใจเฉือก นับหนึ่งถึงสิบในใจแล้วพูดเสียงแข็ง
“ขอโทษครับ ผมจะอ่านหนังสือ”
“แหงะ เอาอีกแล้ว อันน์บอกแล้วไงคะว่าให้แทนตัวเองว่าพี่ หรือไม่ก็ฉัน หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ห่างเหินแบบนี้!”อันน์โวยวาย
“ก็เราไม่ได้สนิทกันนี่ครับ”
“แล้วไม่ต้องลงท้ายด้วยครับด้วย”อันน์ต่อ”เรารู้จักกันเกือบเดือนแล้วนะคะ แล้วพี่ศิลป์ก็อายุมากกว่าอันน์ด้วย ทีกับพี่ศิลายังพูดฉันกับนายได้เลย”
“....”
“เอ้อ! เอางี้ดีกว่า ยังไงๆพี่ศิลป์จะไม่แทนตัวเองว่าพี่กับอันน์แล้วใช่ม้าย งั้นเราก็เรียกกัน ฉันกับนายเหมือนที่พี่ศิลป์คุยกับพี่ศิลาดีกว่า”อันน์ยิ้มกว้าง
ศิลป์ส่ายหัว ขยับไปอีกทาง แล้วก็นั่งอ่านหนังสือต่อไปเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
“แง้ๆๆๆ พี่ศิลป์อ่ะ ทำไมต้องทำกับอันน์แบบนี้ด้วย”อันน์ร้องยอมแพ้ แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองเหมือนเดิม
“เอ้อ! เกือบลืมไป อันน์ได้ข่าวว่ากีฬาสีปีนี้พี่ศิลป์ลงแข่งฟันดาบใช่ม้า! เท่ห์สุดๆไปเลยค่ะพี่ศิลป์ อันน์จะไปเป็นกองเชียร์ให้พี่ศิลป์เองนะ ”
“....”คนถูกผู้หญิงขอเดทด้วยยังคงนั่งหน้าตายอ่านหนังสือไปโดยไม่รับรู้
“ว้าวๆ งั้นพอพี่ศิลป์แข่งชนะแล้วเราก็ต้องเลี้ยงฉลองกันสิใช่มั้ย อันน์อยากกินไอติมอ่ะ เราไปกินไอติมกันนะคะพี่ศิลป์ นะ น้า!!~”
“....”
“ไม่รู้ล่ะ ไม่พูดอะไรแบบนี้ถือว่าพี่ศิลป์ตกลงแล้วกัน”พูดพลางขยับยิ้มกว้าง” ดีจังเลย จะได้ไปเที่ยวกับพี่ศิลป์ เป็นวันที่อันน์รอคอยเลยล่ะ”
“....”
“อันน์ที่โชคดีจังเนอะที่มีคนที่ชอบชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน”เจ้าตัวยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ไม่สะทกสะท้านกับความเย็นชาของคนข้างๆ”เพราะแบบนี้ไงอันน์ถึงได้ชอบพี่ศิลป์ม๊ากกกมาก เอ๊ะ ตายแล้ว อันน์ต้องไปหามิ้นแล้วล่ะ ไปก่อนนะคะพี่ศิลป์ แล้วค่อยเจอกัน บาย”
ตัวน่ารำคาญ....
เขาจะคิดแบบนี้ได้รึเปล่านะ ในเมื่อเจ้าหล่อนเข้ามาหาเขาทุกทีที่มาหาได้
หรือน่าสงสาร
ในเมื่อเขาไม่ได้แม้แต่จะสนใจเจ้าหล่อนเลย.... แต่เจ้าหล่อนกลับตามเขาแจมาเกือบเดือนได้แล้ว
เขาใจร้ายเกินไปรึเปล่านะ
ทุกครั้ง ที่มีผู้หญิงมาชอบ มาตามติด พวกหล่อนไม่เห็นจะมีความอดทนได้นานเท่านี้เลย
ทั้งๆที่เจ้าหล่อนตัวเล็กขนาดนั้น!!!
ศิลป์ปิดหนังสือดังฉับ สมาธิในการอ่านหนังสือหายลับไปกลับตา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆตัวเองถึงได้อารมณ์เสียเอาง่ายๆแบบนี้
แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าอารมณ์เสียเรื่องอะไร!!!
ชายหนุ่มสูดหายใจลึก ก่อนจะผ่อนมันออกมาช้าๆเบาๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน...
“มิ้นจ๋า!!!~ อันน์กลับมาแล้ว”อันน์ยิ้มกว้าง”ขอโทษน้าที่ทำให้ทุกคนต้องรอ พอดีอันน์ไปหาพี่ศิลป์ที่ห้องสมุดกันอยู่น่ะ อ้าว... ทำไมถึงได้ทำหน้าเคร่งเครียดจังมิ้น หรือนายว่าต้น...”
มิ้นขมวดคิ้ว”ต้นเขาดีกับมิ้นมากเลยอันน์ แต่ที่มิ้นเครียดน่ะเพราะอันน์นั่นแหละ วันๆก็พูดถึงแต่พี่ศิลป์ เวลาว่างทีก็ไปหาพี่ศิลป์ จนคนทั้งโรงเรียนเขานินทาอันน์เต็มไปหมดเลยรู้มั้ย เขาน่ะ หาว่าอันน์อยากได้แฟนจนต้องดิ้นพล่าน”
อันน์ใจเสีย แต่ก็ยังคงยิ้มได้“จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดนี่นา อันน์น่ะ อยากอยู่กับพี่ศิลป์ตลอดเวลาเลยล่ะ แล้วก็ถ้าได้เป็นแฟนกับพี่ศิลป์จะดีมากๆเลย”
“ทั้งๆที่พี่ศิลป์แทบจะไม่สนใจอันน์เลยเนี่ยนะ”มิ้นถามกลับ...ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แค่อันน์ได้อยู่กับพี่ศิลป์อันน์ก็มีความสุขแล้วล่ะ ไม่ต้องให้พี่ศิลป์สนใจอันน์หรอก”
“อันน์... แน่ใจอย่างนั้นจริงๆเหรอ”
อันน์ยิ้มด้วยความมั่นใจ”แน่ใจที่สุดเลยล่ะมิ้น ทุกวันนี้อันน์ก็มีความสุขยิ่งกว่าแต่ก่อนเยอะเลยล่ะ”
“ถ้าอันน์ว่าอย่างนั้นมิ้นก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ แต่...”
“แต่....?”
“แต่อันน์อย่าอยู่แต่กับพี่ศิลป์จนลืมมิ้น แต่นี้ก็ดีมากๆแล้วล่ะจ๊ะ”มิ้นยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก
“จ้า มิ้นก็รู้อยู่แล้วนี่นา ว่าอันน์น่ะรักมิ้นที่สุดในโลกเลย”
“มิ้นก็รักอันน์เหมือนกันแหละจ๊ะ ว่าแต่ วันนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ”
“ก็เหมือนเคยแหละ ไม่ยอมพูดกับอันน์เลย”อันน์ว่า แต่ยังยิ้มอยู่”แต่อันน์ก็เห็นนะ ว่าพี่ศิลป์เริ่มใจอ่อนแล้ว อันน์เห็นนัยน์ตาพี่ศิลป์ไหวๆด้วยแหละตอนที่อันน์พูดด้วย”
มิ้นขมวดคิ้ว”ไหวเนี่ยนะอันน์”
“ใช่ มันไหวหน่อยหนึ่ง ถือว่าคุ้มกับความพยายาม”อันน์ยิ้มแก้มแทบปริ ขณะที่มิ้นชักเริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยนใจให้อันน์เลิกสนใจพี่ศิลป์อีกครั้ง
“ถ้าอันน์ว่าแบบนั้น ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ”
“อื้ม... วันกีฬาสีพี่ศิลป์แข่งฟันดาบด้วย อันน์สัญญากับพี่ศิลป์แล้วล่ะว่าจะไปเชียร์ มิ้นไปส่งอันน์นะ”
“หา???”มิ้นอ้าปากกว้าง”พี่ศิลป์ขอให้อันน์ไปเชียร์เหรอ”
“เปล่าหรอกจ๊ะ อันน์เป็นคนขอไปเองแหละ แหะๆ”
มิ้นเริ่มเกิดอาการเซ็ง.... นี่เพื่อนเราจะมีความหวังในรักรึเปล่านี่!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น