ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เริ่มปฏิบัติการ!!!
“แต่น แต้น นี่ไงมิ้น อันน์ได้มาแล้ว ข้อมูกลับเฉพาะของพี่ศิลป์ที่อันน์เฝ้าอุส่าห์ตรากตรำหามาได้แรมปี”
มิ้นตาโต ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้อันน์กำลังอยู่ในช่วงบ้าพี่ศิลป์อย่างหนัก เธอยังไม่เคยเห็นอันน์ทุ่มอะไรแบบนี้มาก่อน นอกจากว่าใครจะเอาหนังสือหายากที่มีอยู่ไม่กี่เล่มบนโลกมาให้อันน์อ่านแค่นั้นแหละ
“อันน์ทำได้ไงน่ะ”
“อ๊ะๆ มิ้นดูถูกอันน์เกินไปแล้ว อย่างอันน์น่ะอยากได้อะไรก็ต้องได้จ๊ะ เห็นอันน์ได้แต่อ่านหนังสือแบบนี้น่ะนะ อันน์น่ะเก่งคอมพ์นะจะบอกให้”ว่าแล้วเจ้าตัวก็ขยับตัวเข้าใกล้เพื่อนสนิทขึ้นอีกนิดเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน”ก็แค่แฮคเข้าคอมพ์โรงเรียนนิดหน่อยหาประวัติส่วนตัวพี่ศิลป์ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถอันน์หรอก”อันน์กระซิบพร้อมกับขยิบตา
“หา???? อันน์ แต่นั่น...”
“จุ๊ๆๆ น่า มันไม่ใช่อะไรที่ผิดกฎหมายอะไรนี่นา ก็แค่อยากรู้อะไรนิดๆหน่อยๆของรุ่นพี่ในโรงเรียนแค่นั้นเอง”
“แต่ถ้าคุณครู...”
“ก็ถ้ามิ้นไม่พูด ใครจะรู้ล่ะจริงมั้ย”
“มันก็จริง แต่...”
“อ้าว ต้น หวัดดี”
“....”
พอได้ยินประโยคนี้มิ้นก็ตัวแข็งทันที มือทั้งสองข้างรีบขยับขึ้นจับผมเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย มิ้นเช็ดหน้าเช็ดตาด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะเป็นกุลสตรีซักเท่าไรก่อนจะหันไปข้างหลังอันพร้อมรอยยิ้มสวย
“หวัด...”
“แหะๆ ล้อเล่นน่ะมิ้น ต้นไม่ได้มาหรอก”อันน์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่ามิ้นจะหันไปทักกับความว่างเปล่า”แค่ตรวจสอบดูว่ามิ้นคิดถึงต้นรึเปล่าน่ะ แต่หลังจากดูแล้ว มิ้นต้องคิดถึงต้นมากๆแน่เลย เอาแบบนี้ เดี๋ยวอันน์ขอตัวไปศึกษาข้อมูลพี่ศิลป์ แล้วมิ้นก็ไปเดทกับต้นสองต่อสองก็แล้วกันนะ บาย”
จบคำแล้วอันน์ก็รีบเดินออกมาทันที ใบหน้าของอันน์กำลังเปื้อนยิ้มขณะที่กำลังฮั่มเพลงอย่างมีความสุข อันน์ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร ทั้งๆที่ก็ยังไม่เคยแม้แต่จะพูดกับพี่ศิลป์แม้แต่ครั้งเดียว มองหน้ากันตรงๆก็ยังไม่กล้า แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับอันน์กันแน่นะ
ช่างเถอะ จะคิดอะไรมากล่ะ ขอแค่มีความสุขก็พอ
โครม!!!
อันน์เด้งจากแรงชนกับใครบางคนจนไปกองอยู่กับพื้น พร้อมๆกับกระดาษข้อมูลของศิลป์ที่ปลิวว่อนไปทุกทิศทุกทาง อันน์รีบเด้งตัวขึ้นทันที ใครกันที่กล้าทำแบบนี้ แค่ชนเธอน่ะไม่เท่าไร แต่มาทำให้ข้อมูลพี่ศิลป์ของเธอต้องแปดเปื้อนดินนี่สิ ยอมไม่ได้!!!
“นี่ เวลาเดินก็หัดมองตาม้าตาเรือบ้างสิ แบบนี้เวลาเดินไปไหนก็ได้แต่ชนคนอื่นไปทั่วใครมันจะไปยอม แล้วอีกอย่างนะ คิดว่าเป็นผู้ชายทำผิดจะไม่ยอม...เอื้อก ”
คำพูดทั้งหมดกลืนหายลงคอของอันน์เมื่ออันน์มองเห็นหน้าว่าไอ้คนที่ชนเธอและเธอด่าฉอดๆๆๆไปนั่นน่ะ พี่ศิลป์สุดหล่อของเธอนั่นเอง ตายล่ะหว่า แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงกับชีวิตดีล่ะเนี่ย
“ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวพี่เก็บของนะ”
“เอ้อๆ ไม่ต้องหรอกค่ะ อันน์เก็บเองได้”อันน์รีบพูด พร้อมกับโกยกระดาษทั้งหมดเข้าอ้อมกอดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็แหม.... จะให้พี่ศิลป์รู้ได้ไงล่ะ ว่าของที่เธอแบกเป็นกองพวกนี่น่ะ ข้อมูลพี่ศิลป์ล้วนๆเลย
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง
พูดสิ อันน์ พูด เมื่อกี้แกยังพูดได้ฉอดๆๆ มาถึงตอนนี้ทำไมถึงได้แข็งทื่อแบบนี้นะ โอกาสแบบนี้ยิ่งหาไม่ได้ง่ายๆอยู่ซะด้วย
“เอ่อ “ศิลป์งึมงำ ทำให้อันน์รีบต่อขึ้นทันที
“มีอะไรเหรอคะ บอกอันน์ได้ อันน์ยินดีรับฟังเสมอ”เอ๊ะ พูดแปลกๆแฮะเรา พูดอย่างกับพี่ศิลป์จะขออะไรเรางั้นแหละ
“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ”
แป่ว อันน์คิด นึกว่าจะมีอะไร ที่แท้ก็อยากจะไปแล้ว นี่อยู่กับอันน์มันไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยรึไงนะ แล้วเราจะตอบว่าไงดีล่ะ ถ้าบอกว่าให้ไปก็ เฮ้อ.... คิดหนักอีกแล้ว
แล้วโดยที่ไม่รอคำตอบ ศิลป์ก็เดินลิ่วๆจากไปทันที ทิ้งให้เจ้าคนกำลังคิดหนักต่องแข็งทื่อ พร้อมกับอาการตัวชากว่าห้านาที ถึงจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง
อะไรกัน อันน์ นี่พี่ศิลป์ไม่แม้แต่จะสนใจอันน์ซักนิดเลยนะ
ไม่ได้ เราจะนั่งเศร้ากับความไม่สำคัญแบบนี้ไม่ได้ แบบนี้แหละต้องมุ่งมัน อันน์ต้องเปิดใจให้พี่ศิลป์สนใจในตัวอันน์ให้ได้ สู้ๆ!!!
ถนนยามเช้าคึกคัก พวกแม่บ้านต่างแข่งกันแย่งลูกค้าทำให้ตลาดนัดของวันนี้คึกคักเหมือนทุกวัน แสงแดดทอประกายสีทองจางเป็นภาพที่สวยงามแม้จะไม่มีใครสังเกตเห็น อันน์เดินไปตามทางเดิน เดินความความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
วันนี้เป็นวันเสาร์ โรงเรียนปิด และแน่นอนว่าคู่ที่กำลังหวานจ๋อยอย่างมิ้นกับต้นต้องไม่ยอมเสียเวลาเที่ยวด้วยกันแม้แต่วินาทีเดียว และอันน์ก็รู้ด้วยว่าวันเสาร์แบบนี้มิ้นต้องมากินไอศกรีมที่ร้านสุดโปรดแน่ๆ
ฮั่นเน้ เจอแล้ว คนอย่างอันน์จะเดาผิดได้ซะที่ไหน
วันนี้มิ้นสวมชุดสวยสีครีม ประดับด้วยสร้อยลูกปัดเม็ดโป้งที่ดูเข้ากัน ใบหน้าของมิ้นกำลังอยู่ในเวลาที่มีความสุขมากๆ อันน์มองเห็นแก้มมิ้นออกจะแดงนิดๆ ทำให้ใบหน้าที่สวยอยู่แล้วของมิ้นยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ แต่ก็นะ เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว ทำไมมิ้นถึงยังไม่ชินกับการอยู่กับต้นสองต่อสองอีกนะ
นายต้นนี่ก็แปลกคน มาเดทกับแฟนแท้ๆยังใส่ชุดอย่างกับอยู่บ้าน ถึงหน้าตาของหมอนี่จะหล่อพอที่จะใส่อะไรก็ดูดีจนหมดก็เถอะ กรี๊ดดดด นั่น จะทำอะไรยะ ถือดียังไงจะมาจับมือเพื่อนฉัน
อันน์รีบเอามือจับมือมิ้นให้ขยับไปทางอื่น
“สวัสดีจ้า ต้น มิ้น”อันน์ทัก พร้อมกับส่งสายตาจิกไปที่ต้น
ใบหน้ายิ้มแย้มของทั้งสองคนหายไปทันที ต้นทำหน้าเบื่อหน่าย ส่วนมิ้นก็ทำหน้าสงสัยสุดๆ
“อ้าว อันน์ มานี่ได้ไงล่ะจ๊ะ”
“ก็มาหามิ้นแหละ”อันน์พูดพร้อมกับนั่งลงข้างมิ้นโดยไม่ขอคำอนญาต”มิ้น มิ้นต้องช่วยอันน์นะ อันน์กำลังแย่มากๆเลยล่ะ น้านะนะ”อันน์อ้อนเสียงหวาน
“มีอะไรเหรอ ค่อยๆพูดก็ได้”
“ก็...”อันน์ทำท่าลังเล พร้อมกับมองไปยังต้น เป็นความหมายที่รู้ๆกันว่าอันน์ไม่ย้าก ไม่ยากให้ต้นได้รู้เรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย และนั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของต้นยิ่งเสียขึ้นเป็นสองเท่า
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ อันน์..”
“เป็นสิมิ้น เป็นมากด้วย นี่มัน...”
“แต่..”
“ช่างเถอะมิ้น ต้นก็ไม่อยากจะฟังซักเท่าไรนักหรอก พอเห็นหน้ายัยนี่ความสุขก็หายไปหมดแล้วล่ะ ไปนะ แล้วเจอกัน”ต้นแทรกขึ้นมาพร้อมกับหยิบหมวกขึ้นมาสวม แล้วเดินหนีหายไปเลย
“โห... ผู้ชายอะไร ไม่เลี้ยงแฟนตัวเอง”อันน์วิจารณ์
“แต่เรื่องนี้อันน์ทำเกินไปนะ”มิ้นโวย
“อันน์ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่”อันน์ว่า”เอ้อๆ มิ้น อันน์ศึกษามาแล้วล่ะ บ้านพี่ศิลป์อยู่ซอยสี่ หมู่บ้านเดียวกับมิ้นเลย เราไปเที่ยวหาพี่ศิลป์กันนะ”
“พอพูดถึงพี่ศิลป์ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเชียวนะ”มิ้นแซว
“ก็แหม....”อันน์หน้าแดง
“ถ้าอันน์แน่ใจว่าพอถึงบ้านพี่เขาจะพูดด้วยจริงๆมิ้นจะไปส่ง แต่ถ้าไปแล้วเกิดลังเลขึ้นมาก็เสียเที่ยวเปล่านะ”
“เออ นั่นสิ”อันน์ทำท่าคิดหนัก”มิ้น แล้วอันน์จะทำยังไงดีล่ะ อันน์อยากเจอหน้าพี่ศิลป์ อยากคุยกับพี่ศิลป์ อยากเห็นพี่ศิลป์หัวเราะ อันน์จะทำไงดี แล้วรู้รึเปล่า เมื่อวานน่ะ อันน์เจอพี่ศิลป์ด้วย แต่ดูเหมือนพี่ศิลป์ไม่คิดจะคุยกับอันน์เลยล่ะ”
“ก็อันน์กับพี่ศิลป์เคยคุยกันซะที่ไหนเล่า แล้วอันน์ไม่คิดบ้างเหรอว่า ไม่ใช่จะมีแค่อันน์คนเดียวซักหน่อยที่ชอบพี่เขาน่ะ คนอื่นๆเขาก็ชอบ ถึงจะมีไม่มาก แต่เพราะพี่เขาขรึมๆล่ะมั้ง เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปยุ่ง”
อันน์ขมวดคิ้ว”พี่ศิลป์เขาป็อบเหรอ ไม่เห็นอันน์จะรู้จักพี่ศิลป์ก่อนหน้านี้เลยนี่”
“อันน์เอาแต่อ่านหนังสือนี่ โรงเรียนเราจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่เห็นจะสนใจซักนิด แล้วแบบนี้จะไปรู้จักได้ยังไงล่ะ”
“มันก็ใช่(มั้ง)”อันน์เริ่มเครียดหนัก”เอาล่ะสิ ทั้งป็อบ ทั้งเย็นชาแบบนี้ แล้วอันน์จะเข้าไปสนิทสนมพี่ศิลป์ได้ยังไงล่ะ”
“อืม... นั่นสินะ”
ทั้งสองคนเริ่มเข้าสู่ความคิดของตัวเอง อันน์กำลังคิดหนัก พยายามนึกถึงเรื่องราวของหนังสือนิยายที่ตนเคยอ่านมาทุกเล่ม ส่วนมิ้นก็คิดเหมือนกัน แต่ความคิดเริ่มที่จะโอนเอียงไปหาต้นซะมากกว่า มิ้นไม่รู้ว่าตอนนี้ต้นอยู่ที่ไหน ทำอะไร แล้วจะโกรธมิ้นไหม แล้วมิ้นจะทำยังไงได้ล่ะ อันน์น่ะต้องการเพื่อนที่ปรึกษาได้นี่นา
“อ๋อ อันน์รู้แล้ว”อันน์ตะโกนขึ้น ดวงตาเปล่งประกายด้วยความยินดี”อันน์เคยอ่านนิยายเล่มหนึ่ง นางเอกเป็นหญิงสาวบ้านนอกถักเปียสองข้างไปพักอยู่บ้านพระเอก...”
“นั่นมันพจมานไม่ใช่เหรออันน์ แล้วอันน์จะเข้าไปรับใช้อยู่บ้านพี่ศิลป์ได้ยังไงกันล่ะ”
“ไม่ได้เหรอ”
“แล้วใครเขาว่าได้กันหา!!!”
“งั้นก็มีอีกเรื่องหนึ่ง นางเอกถูกจ้างให้เป็นสายลับ... ถูกสั่งให้ไปแต่งงานกับพระเอก”
“อันน์พึ่งอายุแค่สิบหกปีนะจ๊ะ ไม่ใช่ยี่สิบหก ถึงจะไปแต่งงานทั้งๆที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะน่ะ”มิ้นว่า
“เอ๋ แต่ตอนนี้กฎหมาย...”
“อันน์จ๋า อันน์คิดว่าพี่ศิลป์เขาจะยอมแต่งงานกับอันน์มั้ยล่ะ”
“อันน์จะไปขอพี่ศิลป์เป็นแฟน!!!”
“พี่ศิลป์เขาไม่ยอมหรอกอันน์”
“ไม่ อันน์จะไป จะไปตอนนี้ด้วย มิ้นไม่ต้องมาห้าม ถึงยังไงอันน์จะไปขอทั้งๆที่พี่ศิลป์ไม่เคยชอบอันน์นี่แหละ อันน์ทนไม่ได้แล้ว อันน์อยากเจอพี่ศิลป์ อยากไปเที่ยวกับพี่ศิลป์ อยากขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนกับพี่ศิลป์”
-----------------------------------------
ตอนนี้เชื่อละว่าถ้าจะอยู่ในเด็กดีให้รอด จำต้องโฆษณาเข้าไว้ ><
โอ้ว!!~ ไหงมิมีคนมาอ่าน
มิ้นตาโต ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้อันน์กำลังอยู่ในช่วงบ้าพี่ศิลป์อย่างหนัก เธอยังไม่เคยเห็นอันน์ทุ่มอะไรแบบนี้มาก่อน นอกจากว่าใครจะเอาหนังสือหายากที่มีอยู่ไม่กี่เล่มบนโลกมาให้อันน์อ่านแค่นั้นแหละ
“อันน์ทำได้ไงน่ะ”
“อ๊ะๆ มิ้นดูถูกอันน์เกินไปแล้ว อย่างอันน์น่ะอยากได้อะไรก็ต้องได้จ๊ะ เห็นอันน์ได้แต่อ่านหนังสือแบบนี้น่ะนะ อันน์น่ะเก่งคอมพ์นะจะบอกให้”ว่าแล้วเจ้าตัวก็ขยับตัวเข้าใกล้เพื่อนสนิทขึ้นอีกนิดเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน”ก็แค่แฮคเข้าคอมพ์โรงเรียนนิดหน่อยหาประวัติส่วนตัวพี่ศิลป์ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถอันน์หรอก”อันน์กระซิบพร้อมกับขยิบตา
“หา???? อันน์ แต่นั่น...”
“จุ๊ๆๆ น่า มันไม่ใช่อะไรที่ผิดกฎหมายอะไรนี่นา ก็แค่อยากรู้อะไรนิดๆหน่อยๆของรุ่นพี่ในโรงเรียนแค่นั้นเอง”
“แต่ถ้าคุณครู...”
“ก็ถ้ามิ้นไม่พูด ใครจะรู้ล่ะจริงมั้ย”
“มันก็จริง แต่...”
“อ้าว ต้น หวัดดี”
“....”
พอได้ยินประโยคนี้มิ้นก็ตัวแข็งทันที มือทั้งสองข้างรีบขยับขึ้นจับผมเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย มิ้นเช็ดหน้าเช็ดตาด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะเป็นกุลสตรีซักเท่าไรก่อนจะหันไปข้างหลังอันพร้อมรอยยิ้มสวย
“หวัด...”
“แหะๆ ล้อเล่นน่ะมิ้น ต้นไม่ได้มาหรอก”อันน์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่ามิ้นจะหันไปทักกับความว่างเปล่า”แค่ตรวจสอบดูว่ามิ้นคิดถึงต้นรึเปล่าน่ะ แต่หลังจากดูแล้ว มิ้นต้องคิดถึงต้นมากๆแน่เลย เอาแบบนี้ เดี๋ยวอันน์ขอตัวไปศึกษาข้อมูลพี่ศิลป์ แล้วมิ้นก็ไปเดทกับต้นสองต่อสองก็แล้วกันนะ บาย”
จบคำแล้วอันน์ก็รีบเดินออกมาทันที ใบหน้าของอันน์กำลังเปื้อนยิ้มขณะที่กำลังฮั่มเพลงอย่างมีความสุข อันน์ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองเป็นอะไร ทั้งๆที่ก็ยังไม่เคยแม้แต่จะพูดกับพี่ศิลป์แม้แต่ครั้งเดียว มองหน้ากันตรงๆก็ยังไม่กล้า แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับอันน์กันแน่นะ
ช่างเถอะ จะคิดอะไรมากล่ะ ขอแค่มีความสุขก็พอ
โครม!!!
อันน์เด้งจากแรงชนกับใครบางคนจนไปกองอยู่กับพื้น พร้อมๆกับกระดาษข้อมูลของศิลป์ที่ปลิวว่อนไปทุกทิศทุกทาง อันน์รีบเด้งตัวขึ้นทันที ใครกันที่กล้าทำแบบนี้ แค่ชนเธอน่ะไม่เท่าไร แต่มาทำให้ข้อมูลพี่ศิลป์ของเธอต้องแปดเปื้อนดินนี่สิ ยอมไม่ได้!!!
“นี่ เวลาเดินก็หัดมองตาม้าตาเรือบ้างสิ แบบนี้เวลาเดินไปไหนก็ได้แต่ชนคนอื่นไปทั่วใครมันจะไปยอม แล้วอีกอย่างนะ คิดว่าเป็นผู้ชายทำผิดจะไม่ยอม...เอื้อก ”
คำพูดทั้งหมดกลืนหายลงคอของอันน์เมื่ออันน์มองเห็นหน้าว่าไอ้คนที่ชนเธอและเธอด่าฉอดๆๆๆไปนั่นน่ะ พี่ศิลป์สุดหล่อของเธอนั่นเอง ตายล่ะหว่า แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงกับชีวิตดีล่ะเนี่ย
“ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวพี่เก็บของนะ”
“เอ้อๆ ไม่ต้องหรอกค่ะ อันน์เก็บเองได้”อันน์รีบพูด พร้อมกับโกยกระดาษทั้งหมดเข้าอ้อมกอดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็แหม.... จะให้พี่ศิลป์รู้ได้ไงล่ะ ว่าของที่เธอแบกเป็นกองพวกนี่น่ะ ข้อมูลพี่ศิลป์ล้วนๆเลย
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง
พูดสิ อันน์ พูด เมื่อกี้แกยังพูดได้ฉอดๆๆ มาถึงตอนนี้ทำไมถึงได้แข็งทื่อแบบนี้นะ โอกาสแบบนี้ยิ่งหาไม่ได้ง่ายๆอยู่ซะด้วย
“เอ่อ “ศิลป์งึมงำ ทำให้อันน์รีบต่อขึ้นทันที
“มีอะไรเหรอคะ บอกอันน์ได้ อันน์ยินดีรับฟังเสมอ”เอ๊ะ พูดแปลกๆแฮะเรา พูดอย่างกับพี่ศิลป์จะขออะไรเรางั้นแหละ
“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ”
แป่ว อันน์คิด นึกว่าจะมีอะไร ที่แท้ก็อยากจะไปแล้ว นี่อยู่กับอันน์มันไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยรึไงนะ แล้วเราจะตอบว่าไงดีล่ะ ถ้าบอกว่าให้ไปก็ เฮ้อ.... คิดหนักอีกแล้ว
แล้วโดยที่ไม่รอคำตอบ ศิลป์ก็เดินลิ่วๆจากไปทันที ทิ้งให้เจ้าคนกำลังคิดหนักต่องแข็งทื่อ พร้อมกับอาการตัวชากว่าห้านาที ถึงจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง
อะไรกัน อันน์ นี่พี่ศิลป์ไม่แม้แต่จะสนใจอันน์ซักนิดเลยนะ
ไม่ได้ เราจะนั่งเศร้ากับความไม่สำคัญแบบนี้ไม่ได้ แบบนี้แหละต้องมุ่งมัน อันน์ต้องเปิดใจให้พี่ศิลป์สนใจในตัวอันน์ให้ได้ สู้ๆ!!!
ถนนยามเช้าคึกคัก พวกแม่บ้านต่างแข่งกันแย่งลูกค้าทำให้ตลาดนัดของวันนี้คึกคักเหมือนทุกวัน แสงแดดทอประกายสีทองจางเป็นภาพที่สวยงามแม้จะไม่มีใครสังเกตเห็น อันน์เดินไปตามทางเดิน เดินความความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
วันนี้เป็นวันเสาร์ โรงเรียนปิด และแน่นอนว่าคู่ที่กำลังหวานจ๋อยอย่างมิ้นกับต้นต้องไม่ยอมเสียเวลาเที่ยวด้วยกันแม้แต่วินาทีเดียว และอันน์ก็รู้ด้วยว่าวันเสาร์แบบนี้มิ้นต้องมากินไอศกรีมที่ร้านสุดโปรดแน่ๆ
ฮั่นเน้ เจอแล้ว คนอย่างอันน์จะเดาผิดได้ซะที่ไหน
วันนี้มิ้นสวมชุดสวยสีครีม ประดับด้วยสร้อยลูกปัดเม็ดโป้งที่ดูเข้ากัน ใบหน้าของมิ้นกำลังอยู่ในเวลาที่มีความสุขมากๆ อันน์มองเห็นแก้มมิ้นออกจะแดงนิดๆ ทำให้ใบหน้าที่สวยอยู่แล้วของมิ้นยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ แต่ก็นะ เป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว ทำไมมิ้นถึงยังไม่ชินกับการอยู่กับต้นสองต่อสองอีกนะ
นายต้นนี่ก็แปลกคน มาเดทกับแฟนแท้ๆยังใส่ชุดอย่างกับอยู่บ้าน ถึงหน้าตาของหมอนี่จะหล่อพอที่จะใส่อะไรก็ดูดีจนหมดก็เถอะ กรี๊ดดดด นั่น จะทำอะไรยะ ถือดียังไงจะมาจับมือเพื่อนฉัน
อันน์รีบเอามือจับมือมิ้นให้ขยับไปทางอื่น
“สวัสดีจ้า ต้น มิ้น”อันน์ทัก พร้อมกับส่งสายตาจิกไปที่ต้น
ใบหน้ายิ้มแย้มของทั้งสองคนหายไปทันที ต้นทำหน้าเบื่อหน่าย ส่วนมิ้นก็ทำหน้าสงสัยสุดๆ
“อ้าว อันน์ มานี่ได้ไงล่ะจ๊ะ”
“ก็มาหามิ้นแหละ”อันน์พูดพร้อมกับนั่งลงข้างมิ้นโดยไม่ขอคำอนญาต”มิ้น มิ้นต้องช่วยอันน์นะ อันน์กำลังแย่มากๆเลยล่ะ น้านะนะ”อันน์อ้อนเสียงหวาน
“มีอะไรเหรอ ค่อยๆพูดก็ได้”
“ก็...”อันน์ทำท่าลังเล พร้อมกับมองไปยังต้น เป็นความหมายที่รู้ๆกันว่าอันน์ไม่ย้าก ไม่ยากให้ต้นได้รู้เรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย และนั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของต้นยิ่งเสียขึ้นเป็นสองเท่า
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ อันน์..”
“เป็นสิมิ้น เป็นมากด้วย นี่มัน...”
“แต่..”
“ช่างเถอะมิ้น ต้นก็ไม่อยากจะฟังซักเท่าไรนักหรอก พอเห็นหน้ายัยนี่ความสุขก็หายไปหมดแล้วล่ะ ไปนะ แล้วเจอกัน”ต้นแทรกขึ้นมาพร้อมกับหยิบหมวกขึ้นมาสวม แล้วเดินหนีหายไปเลย
“โห... ผู้ชายอะไร ไม่เลี้ยงแฟนตัวเอง”อันน์วิจารณ์
“แต่เรื่องนี้อันน์ทำเกินไปนะ”มิ้นโวย
“อันน์ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่”อันน์ว่า”เอ้อๆ มิ้น อันน์ศึกษามาแล้วล่ะ บ้านพี่ศิลป์อยู่ซอยสี่ หมู่บ้านเดียวกับมิ้นเลย เราไปเที่ยวหาพี่ศิลป์กันนะ”
“พอพูดถึงพี่ศิลป์ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเชียวนะ”มิ้นแซว
“ก็แหม....”อันน์หน้าแดง
“ถ้าอันน์แน่ใจว่าพอถึงบ้านพี่เขาจะพูดด้วยจริงๆมิ้นจะไปส่ง แต่ถ้าไปแล้วเกิดลังเลขึ้นมาก็เสียเที่ยวเปล่านะ”
“เออ นั่นสิ”อันน์ทำท่าคิดหนัก”มิ้น แล้วอันน์จะทำยังไงดีล่ะ อันน์อยากเจอหน้าพี่ศิลป์ อยากคุยกับพี่ศิลป์ อยากเห็นพี่ศิลป์หัวเราะ อันน์จะทำไงดี แล้วรู้รึเปล่า เมื่อวานน่ะ อันน์เจอพี่ศิลป์ด้วย แต่ดูเหมือนพี่ศิลป์ไม่คิดจะคุยกับอันน์เลยล่ะ”
“ก็อันน์กับพี่ศิลป์เคยคุยกันซะที่ไหนเล่า แล้วอันน์ไม่คิดบ้างเหรอว่า ไม่ใช่จะมีแค่อันน์คนเดียวซักหน่อยที่ชอบพี่เขาน่ะ คนอื่นๆเขาก็ชอบ ถึงจะมีไม่มาก แต่เพราะพี่เขาขรึมๆล่ะมั้ง เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปยุ่ง”
อันน์ขมวดคิ้ว”พี่ศิลป์เขาป็อบเหรอ ไม่เห็นอันน์จะรู้จักพี่ศิลป์ก่อนหน้านี้เลยนี่”
“อันน์เอาแต่อ่านหนังสือนี่ โรงเรียนเราจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่เห็นจะสนใจซักนิด แล้วแบบนี้จะไปรู้จักได้ยังไงล่ะ”
“มันก็ใช่(มั้ง)”อันน์เริ่มเครียดหนัก”เอาล่ะสิ ทั้งป็อบ ทั้งเย็นชาแบบนี้ แล้วอันน์จะเข้าไปสนิทสนมพี่ศิลป์ได้ยังไงล่ะ”
“อืม... นั่นสินะ”
ทั้งสองคนเริ่มเข้าสู่ความคิดของตัวเอง อันน์กำลังคิดหนัก พยายามนึกถึงเรื่องราวของหนังสือนิยายที่ตนเคยอ่านมาทุกเล่ม ส่วนมิ้นก็คิดเหมือนกัน แต่ความคิดเริ่มที่จะโอนเอียงไปหาต้นซะมากกว่า มิ้นไม่รู้ว่าตอนนี้ต้นอยู่ที่ไหน ทำอะไร แล้วจะโกรธมิ้นไหม แล้วมิ้นจะทำยังไงได้ล่ะ อันน์น่ะต้องการเพื่อนที่ปรึกษาได้นี่นา
“อ๋อ อันน์รู้แล้ว”อันน์ตะโกนขึ้น ดวงตาเปล่งประกายด้วยความยินดี”อันน์เคยอ่านนิยายเล่มหนึ่ง นางเอกเป็นหญิงสาวบ้านนอกถักเปียสองข้างไปพักอยู่บ้านพระเอก...”
“นั่นมันพจมานไม่ใช่เหรออันน์ แล้วอันน์จะเข้าไปรับใช้อยู่บ้านพี่ศิลป์ได้ยังไงกันล่ะ”
“ไม่ได้เหรอ”
“แล้วใครเขาว่าได้กันหา!!!”
“งั้นก็มีอีกเรื่องหนึ่ง นางเอกถูกจ้างให้เป็นสายลับ... ถูกสั่งให้ไปแต่งงานกับพระเอก”
“อันน์พึ่งอายุแค่สิบหกปีนะจ๊ะ ไม่ใช่ยี่สิบหก ถึงจะไปแต่งงานทั้งๆที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะน่ะ”มิ้นว่า
“เอ๋ แต่ตอนนี้กฎหมาย...”
“อันน์จ๋า อันน์คิดว่าพี่ศิลป์เขาจะยอมแต่งงานกับอันน์มั้ยล่ะ”
“อันน์จะไปขอพี่ศิลป์เป็นแฟน!!!”
“พี่ศิลป์เขาไม่ยอมหรอกอันน์”
“ไม่ อันน์จะไป จะไปตอนนี้ด้วย มิ้นไม่ต้องมาห้าม ถึงยังไงอันน์จะไปขอทั้งๆที่พี่ศิลป์ไม่เคยชอบอันน์นี่แหละ อันน์ทนไม่ได้แล้ว อันน์อยากเจอพี่ศิลป์ อยากไปเที่ยวกับพี่ศิลป์ อยากขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนกับพี่ศิลป์”
-----------------------------------------
ตอนนี้เชื่อละว่าถ้าจะอยู่ในเด็กดีให้รอด จำต้องโฆษณาเข้าไว้ ><
โอ้ว!!~ ไหงมิมีคนมาอ่าน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น