เรื่องบ้าๆหนึ่งหน้ากระดาษ ตอน คูป (KOOP) - เรื่องบ้าๆหนึ่งหน้ากระดาษ ตอน คูป (KOOP) นิยาย เรื่องบ้าๆหนึ่งหน้ากระดาษ ตอน คูป (KOOP) : Dek-D.com - Writer

    เรื่องบ้าๆหนึ่งหน้ากระดาษ ตอน คูป (KOOP)

    ในโลกที่เรารู้จักดีอาจมีบางเรื่องที่เราไม่เคยรู้ ซึ่งโจคือผู้ที่ได้สัมผัสและร่วงรู้ถึงราชาแห่งพลังอันเก่าแก่หรือที่เรียกว่าคูป(KOOP)ตนหนึ่ง และเรื่องราวต่อจากนี้คือมุมหนึ่งของเขาทั้งคู่

    ผู้เข้าชมรวม

    77

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    77

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มี.ค. 57 / 19:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
                   เป็นเรื่องสั้นประมาณหนึ่งหน้ากระดาษเรื่องที่สามของโปรเจก เรื่องบ้าๆหนึ่งหน้ากระดาษ เรื่องนี้ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมาจากหนังและการ์ตูนแนวพลังวิเศษ ซุปเปอร์ฮีโร่ และคาดว่าจะมีแนวนี้เยอะ 555555๋+ ซึ่งเรื่องนี้ออกไปทางซัมมอนซะมากกว่า เป็นเพื่อนจากโบราณกาลที่มายังยุคปัจจุบันเพื่อร่วมมือกับคนที่ถูกชะตาเพื่อปกป้องโลกไรงี้ เชื่อว่าหลายๆคนก็เคยฝันว่าอยากมีพลังพิเศษอะไรแบบนี้กันมั่งล่ะ เอาเป็นว่านี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งเล็กๆ ของพลังพิเศษที่อยากให้สัมผัสกัน แหม๋ๆ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโปรเจคนี้ก็คงได้เห็นคูปหลายชนิดแบบมีพลังที่คาดไม่ถึงกันน่ะนะ <------- (ขี้เกียจเขียนเป็นเรื่องยาวก็บอกมาเหอะ! -_-" ) 

                   เรื่องสั้นเรื่องต่อไปจะเป็นแนวไหน รอติดตามกันต่อไปจ้า
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                     ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาความขัดแย้งและสภาวะโลกทรุดตัวจากการทำลายด้วยเงื้อมมือมนุษย์ เป็นช่วงเริ่มเข้าสู่หายนะที่ทุกคนบนโลกเรียกว่าสงบสุขเพราะความคุ้นชิน

                     ภายใต้ปัญหาต่างๆของโลกก็ยังมีพลังงานบางอย่างแฝงเร้นซ่อนตัวอยู่เงียบๆ มันถือกำเนิดจากความขัดแย้งและเสียดสีกันระหว่างความดีและความชั่ว ซึ่งมันถูกเรียกจากมนุษย์ชนรุ่นหลังว่า

                     ‘KING OF OLD POWER’ หรือเรียกย่อๆว่า คูป

                     ก่อกำเนิดพลังเกินหยั่งซึ่งมากพอที่จะเยียวยารักษาโลกและมวลมนุษย์ให้คงอยู่ได้ แต่ในทางตรงกันข้ามบางพลังก็สามารถทำลายทุกสิ่งที่มันปรารถนาให้ย่อยยับพินาศได้เช่นกัน หากมันถือกำเนิดขึ้นเมื่อไหร่นั่นถือว่าโลกและมนุษย์ชาติถึงคราววิบัติเป็นแน่

                     ซึ่งนั่นหนุ่มน้อยที่มีนามว่าโจรู้ดี โจที่ไม่สนใจอะไรนอกจากเสียงเพลงและใช้ชีวิตไปกับการเบื่อข่าวเรื่องความขัดแย้งของนักการเมือง การขัดผลประโยชน์กันของนักลงทุน การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้คนโดยทำลายธรรมชาติซึ่งเป็นดั่งชีวิตผู้คนเอง ทั้งหมดนั่นทำให้เวลาฟังเพลงของเขาน้อยลง เพราะ.................. 

                     กึกๆๆๆ!

                     โจผละหน้าออกจากหนังสือที่โต๊ะทันทีเมื่อตนรู้สึกว่าโต๊ะและข้าวของสั่นอย่างหนัก เมื่อเขามองไปที่หน้าต่างก็เห็นว่าหน้าต่างนั้นสั่นหนักมากเพราะมีลมกระแทกไม่หยุด โจจึงเอาเฮดโฟนซึ่งดังกระหึ่มด้วยท่วงทำนองร็อคออกจากหูและเดินไปเปิดหน้าต่างด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และทันทีที่เขาเปิด

                     ปัง!

                     ฟิ้ว!!!!!!

                     หน้าต่างก็กระแทกตัวออกจากกันอย่างแรงเพราะสายลมที่ถูกเจ้าของห้องเชิญแทรกตัวเข้ามาอย่างเร็ว

                     มันกำลังมาแล้วนะ

                     สายลมก้อนใหญ่เอ่ยขึ้นก่อนจะเริ่มหมุนวนก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ โจที่ยังยืนอยู่ตรงหน้าต่างก็หันกลับมามองก่อนจะถอดเฮดโฟนที่คอโยนลงบนเตียงแล้วเดินเข้าไปหา

                     อืม! งั้นก็รีบไปเถอะ จะได้เสร็จเร็วๆ

                     พูดจบโจก็เดินเข้าไปในสายลมนั้นทำให้ตอนนี้โจกลายเป็นคนที่มีลมพัดวนและพุ่งออกจากตัวทุกทาง

                     โจกระโดดออกจากหน้าต่างทันที ด้วยเพราะมีพลังใหม่นี้ทำให้โจตัวเบาดั่งปุยนุ่นสามารถกระโดดได้สูงและแม้แต่ลอยก็ยังทำได้

                     เมื่อใช้เวลาไม่นานในการชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงของโจก็มาถึงที่หมาย เขาหยุดยืนบนหลังคาตึกแห่งหนึ่งและต้องแปลกใจเมื่ออีกฝั่งตรงข้ามของตึกไกลๆนั้น มีหนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีร่างกายห่อหุ้มด้วยน้ำนั่งชันเข่าดูเขาอยู่

                     นายมาทำอะไร! แบ็งค์ แถวนี้มันเป็นถิ่นของฉัน

                     โจเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ซึ่งถึงแม้อยู่ไกลกันแต่ด้วยพลังของทั้งคู่จึงสนทนาและสื่ออารมณ์กันดีเพียงแค่พูดออกมาเบาๆ

                     โอ๊ะ! ใจเย็นโจ ฉันแค่ว่างจัดน่ะนะ เลยมาดูลาดเลาซะหน่อย แค่ดูเท่านั้น เชิญตามสบาย ฮี้ๆๆๆๆ

                     ให้มันจริงเถอะ!......

                     ดูเหมือนโจจะไม่ชอบขี้หน้าของแบ็งค์สักเท่าไหร่หรืออาจเป็นเพราะนิสัยของแบงค์และคูปที่จับคู่กับเขาอยู่ เพราะทั้งคู่ต่างเป็นประเภทโลเลไหลลื่นเปลี่ยนไปมาได้เสมอ แต่เรื่องนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับจุดประสงค์ที่โจมาในคืนนี้

                     ซึ่งเบื้องล่างของตึกที่โจยืนอยู่นั้น คือลานกว้างซึ่งมีคนอยู่สองกลุ่มทะเลาะกันและกำลังห้ำหั่นคร่าชีวิตกันอยู่ โจชะเง้อมองดูอย่างเงียบๆต่างจากแบงค์ที่กำลังหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน

                     คนทั้งสองพวกนั้นมีเรื่องขัดแย้งกันทางการเมืองและไม่สามารถพูดคุยกันได้เพราะความคิดต่างกันสุดขั้ว แต่ในสายตาที่โจมองเห็นผ่านคูปของตนคือความต่างของความดีและชั่ว แต่มันไม่ใช่หน้าที่ในวันนี้ที่โจมา เขาจึงเฝ้ารอ

                     ซึ่งสิ่งที่เขาเฝ้ารอคือการถือกำเนิดใหม่ของพลังที่มาจากผลของการปะทะครั้งนี้ และนั่นก็เป็นไปตามคาดของคูป มวลสารบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือผู้คนที่เริ่มหมดลมหายใจจากการปะทะ ผู้คนจำนวนไม่น้อยนอนจมกองเลือดล้มตายเป็นเบือ มวลสารก็เริ่มเป็นรูปร่างคนและสีน่าสะอิดสะเอียดที่เห็นได้ชัดเจน

                     เมื่อเบื้องร่างไร้คนที่มีชีวิต โจจึงรีบกระโดลงมาทันที ณ เบื้องหน้าของคูปตนใหม่

                     ข้าเพิ่งเกิดมาเองนะ คิดจะขวางข้าแล้วรึไง

                     คูปซึ่งไร้ใบหน้ามีเพียงมวลสารสีม่วงขะมุกขะมัวเอ่ยขึ้น

                     โลกนี้มันสกปรกมากพอแล้ว ไม่มีพื้นที่ให้แกอยู่หรอก ตายไปซะ!”

                     สิ้นเสียงสั่งโจก็พุ่งเข้าไปทันที คูปที่มีเพียงวิญญาณธาตุไร้ร่างที่ทำให้ตนใช้พลังได้ก็รีบมองหาภาชนะซึ่งคือคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ทันที แต่เพราะไม่มีมันจึงทำได้เพียงแค่หนีเท่านั้น

                     โจที่มีพลังของคูปลมกระโดดเข้ามาขวางด้านหน้า และใช้มือที่มีสายลมวิ่งเสียดสีกันเป็นดาบอันยาวใหญ่ หั่นสะบั้นส่วนแขนขาของคูปทันที

                     อ๊าาาาาาาา!!!!!!..........

                     คูปทรุดลงกับพื้นร้องด้วยความเจ็บปวดถึงแม้การโจมตีใดๆจะทำให้มันเจ็บหรือตายไม่ได้แต่ก็ไม่ใช่กับคูปด้วยกัน

                     มันรู้ทันทีว่า ณ เวลานี้ไม่เหมาะที่มันจะเกิดมาแต่ก็ไม่ใช่ตลอดไปจึงหัวเราะอย่างยโสออกมาและเอ่ยท้าทายเป็นครั้งสุดท้าย

                     ถึงแกคิดจะปกป้องโลกนี้ตลอดไปมันก็เสียเปล่า เพราะถึจะฆ่าข้าได้ แต่อีกไม่นานเมื่อความดีและความชั่วปะทะกันอีกข้าก็จะถือกำเนิด และคูปตนอื่นๆที่เป็นเหมือนข้าก็จะกำเนิดอีกมากมายบนโลกใบนี้ คนอย่างแกขวางพวกข้าไปได้ไม่ตลอดหรอก!”

                     เมื่อคูปพูดจบโจก็ยกมืออีกข้างขึ้นซึ่งมันมีลมก่อตัวเป็นลูกกลมใหญ่และมีแสงสีขาวส่องสว่างบกบ่อกถึงพลังที่อัดแน่นมหาศาล โจหันไปมองที่คูปซึ่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์เช่นเคย

                     ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เพราะโลกใบนี้ยังมีคนอื่นและคูปที่คิดเหมือนๆกันอยู่อีก ต่อให้แกฟื้นขึ้นมากี่ที แกก็จะเจอกับพวกฉันจำไว้

                     สิ้นเสียงโจก็อัดพลังลูกนั้นใส่ที่ตัวมันทันที

                     อ๊าาาาาาาา!!!!!!..........

                     เสียงร้องครั้งสุดท้ายของคูปดังขึ้นและกลายเป็นแสงสีขาวสว่างวาบและก็หายไป

                     เมื่อเหตุการณ์จบลง โจก็มองไปยังแบงค์ซึ่งกำลังใช้พลังของคูปทำลู่น้ำตามตึกรามต่างๆเพื่อวิ่งไถลจากไป โจไม่สนใจว่าแบงค์มาที่นี่เพื่ออะไรเพราะตอนนี้เขาเหนื่อยเต็มที จึงกระโดดขึ้นสู่ฟ้าเพื่อกลับบ้านไปนอนฟังเพลงตามเดิม

                     สามลมพาพัดทั้งโจและคูปไปส่งดั่งพวกพ้องที่คุ้นเคย

                     ความรู้สึกเย็นชื่นใจแต่อบอุ่นนี้ถ้าโจไม่ผสานร่างกับคูปก็คงไม่มีทางเข้าใจได้

                     โจหนุ่มน้อยขี้เบื่อไร้อารมณ์ก็เผลอยิ้มออกมาจนได้เมื่อคิดว่า

                     ถ้าวันหนึ่งสายลมไม่ต้องแปดเปื้อนมลพิษหรือมลทินที่ลอยมาจากความคิดของมนุษย์ก็คงดี

                     มันคงทำให้คูปลมของตนมีความสุขมากกว่านี้และมันคงเป็นสายลมที่จะช่วยให้โลกใบนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งก็เป็นได้____________________________________

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×