ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : เสียงร้องจากโต๊ะ 6
หลังเลิกเรียนก็รีบติดเกียร์หมาวิ่งไปที่ร้านน้าปลาอย่างรวดเร็ว
“มาแล้วจ้า เป็ดน้อยน่ารักมาไม่สายชดเชยเมื่อวานจ้า...” พูดมาแต่ปากซอยร้านซะอีก คนแถวนั้นเขามองแล้วไปกระซิบกระซาบกัน หลังจากมานั่งคิดไตร่ตรองดีแล้ว สรุปว่าพวกเขาพูดประโยคเดียวกันเลย
‘มันบ้ารึเปล่าวะเนี่ย’
         
“โอ้ย! นี่ เป็ด ไม่ต้องตะโกนมาก็ได้นะ แล้วทำไมไม่มาเมื่อวาน”
“อุ้ย! พูดเสียงเข้มไม่รับกับหน้าตาที่สวยเมื่อ10ปีก่อนเลย”
“ตอนนี้ก็สวยอยู่ย่ะ น้าหักเงินอีกซักวันคงไม่เสียหายเท่าไหร่หรอกมั้ง”
“แหะๆ...น้าปลานี่ ชอบพูดเล่นตลอดเลย การโกหกเป็นสิ่งม่ายดีนะคะ”วิ่งไปกอดน้าสุดเลิฟด้วยความกลัวจะโดนหักเงินทันที(ออกแนวเลวรึเปล่าเนี่ย)ถ้าไม่ว่าสกปรกคงจะเลียแขนน้าไปแล้วนะเนี่ย
“แล้วจะตอบไหมว่าเมื่อวานไปไหนมา”
“เอ่อ.....เมื่อวาน” จะหาเหตุผลอะไรล่ะเนี่ย โกรธเพื่อนจนขี้เกียจมาทำงานเหรอ ไม่ได้ๆ...เพราะว่ามันจะทำให้คุณน้ารู้ว่า ‘ฉันแอบไปดูผู้ชายมา’ เดี๋ยวโดนหักเงินเอาดื้อๆ
“ก็...เมื่อวานมันตากแดดทั้งวันเลยเลย เป็ดปวดหัวมาก ก็เลยกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนค่ะ” เอ๊ะ!รู้สึกว่าเมื่อกี้จะพูดไปว่าโกหกเป็นสิ่งไม่ดีไม่ใช่เหรอ
“โกหกนั้นตายตกนรก” น้าฉันขุดเพลงอะไรมาก็ไม่รู้ เดาว่าคงเก่ามาก (มีอะไรแก่กว่าเพลงที่เป็ดฟังด้วยหรือนี่ โอ้...ฉันทันสมัยจริง) น้าส่งสายตามาทางฉัน ตีความได้ว่า ‘เป็ดพอเลย ไม่ต้องมาทำสตอแหล’
“อะไรล่ะน้าปลาหนูพูดจริงๆนะคะ”
“ก็เมื่อวานฝนตก แล้วจะมีแดดให้ตากหรือจ๊ะเด็กน้อย” น้าปลาทำน่ารักเหมือนเด็กญี่ปุ่น แต่ฉันเกลียดท่าทางอย่างนี้มาก เพราะมันเป็นท่าที่นังกานดามันชอบทำ เฮอะ... เอ่อ...ใครช่วยบอกฉันทีว่าทำไมฉันถึงไม่บอกน้าว่าตากฝนเนี่ย
“ก็...น้าปลาไม่เคยได้ยินเหรอคะ...ฝนตกแดดออก  นกกระจอกจะออกจากรัง .”แปลงร่างเป็นพี่เบนซ์ทันที (แต่ฉันเป็นไม่ได้ ก็คนมันขาวน่ะนะ)ด้วยการขุดเพลงสมัยย่ายังสาวๆมาร้อง
“แต่เมื่อวานแดดไม่ออก อีกอย่าง ฝนตกเขาจะให้นักเรียนออกมานอกอาคารได้ยังไง” แล้วฉันจะตอบยังไงเนี่ย น้าท่านพูดมีเหตุมีผลขนาดนี้เนี่ย
“ก็...ตอนวิ่งไปโรงอาหารไงคะน้า หัวมันเปียกอ่ะ”แหลสุดเลย ฉันว่านิสัยฉันไม่เคยเป็นอย่างนี้นะ- -
“เออๆ..ไม่ถามแล้ว ใส่เอี๊ยมแล้วทำงาน เร็ว!”
“ค่ะๆ น้า” วิ่งไปอย่างเร็วรี่ เพราะกลัวจะโดนหักเงินอีก
“รับออร์เดอร์ลูกค้าสิเป็ด อย่าขี้เกียจ”
“ค่ะป้า” วิ่งออกมาที่โต๊ะด้านนอกร้านทันที หลับหูหลับตาพูดคำพูดประจำ
“สวัสดีค่ะร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปลาน้อยยินดีต้อนรับค่ะ เขียนออร์เดอร์ที่ใบตรงนั้นเลยนะคะ
“ครับๆ”
“รับน้ำอะไรดีคะ มีเก็กฮวย ลำไย ชาดำเย็น โอเลี้ยง เป็ปซี่ และอื่นๆค่ะ”
“เอา....โค้กละกันครับ”
“นี่...บอกว่ามีเป็ปซี่นี่ยังจะเอาโค้กอีก คุณนี่ยังไงเนี่ย คิดบ้างหรือเปล่า”
“เอ่อ....เป็ปซี่ก็ได้ครับ” ฉันลืมตาขึ้นมาด่า ภาพที่เห็นทำให้ฉันแทบลงไปดิ้นแด่วๆเหมือนปลาหมอใกล้ตาย
“พี่แม็ค!”ฉันตะโกนเบาๆ(มันเบาไงหว่า)แต่พอให้ได้ยินกันในโต๊ะ
“เฮ้ย! แม็ค นี่มันเป็ดที่แอบชอบแกรึเปล่าวะ”เพื่อนพี่แม็คที่นั่งข้างพูดเสริม หน้าตาก็หล่อไม่เท่าพี่เขายังจะมาพูดอีก แบร่! (มันไม่เกี่ยวอะไรกันเลยนี่หว่า)
“เออ...ใช่ๆ นี่แหละ เป็ดแน่นอน ฉันจำหน้าได้ ”
“นี่จะกินก๋วยเตี๋ยวหรือจะนั่งคุยกันเรื่องฉันเนี่ย จะเอาไหมก๋วยเตี๋ยวไม่เอาฉันจะได้ไปรับโต๊ะอื่น”
“เอ่อ...กินครับเจ๊  แม็ค ออร์เดอร์เขียนเสร็จยัง”เสียงเพื่อนหน้าไม่หล่อคนนั้นพูดขึ้นมาอย่างกวนๆ
“อ่ะครับนี่ ใบออร์เดอร์ หุบปากไปเลยไอ้นนท์”ฉันรับใบมาแล้วรีบไปเสียบไว้ข้างเตาแล้ววิ่งๆไปตักน้ำแข็ง เอาเป็ปซี่ไปให้เขา
“นี่น้องเป็ดคะ พี่ขออะไรที่ไม่ใช่เป็ปซี่ได้ไหม น้ำตาลมันเยอะ กลัวอ้วนน่ะค่ะ” อี๋!...พุงพลุ้ยขนาดนี้ยังกลัวอ้วนอีก (มันอคตินะ จริงๆแล้วเขาผอม)
“หญิง อย่าเรื่องมากน่า เป็ปซี่มีก็กินๆไปเหอะ”พี่แม็คด่า ผู้หญิงชื่อหญิงนั่น อุ้ยชื่อหญิง โหลมาก ห้องฉันมีชื่อหญิงตั้งสองคน แล้วห้องน้ำหญิง หอพักหญิงอีก โหลมาก อี๋ (*o*)
“แต่แม็ค น้ำหนักหญิงเพิ่งลดไปได้ 2 โลเองนะ เดี๋ยวกินก็อ้วนขึ้นมาอีกหรอก”พูดอย่างออดอ้อนเชียว อยากรู้จริงใครจ่ายตังค์เนี่ย เฮอะ!
“นี่ตกลงเอาน้ำอะไรกันฮะ คุณหญิง ไม่อ้วน ไร้น้ำตาล เอานั่นไหม น้ำกลั่น”
“ต๊าย! รับลูกค้าภาษาอะไร พูดจาไม่เข้าหู”
“เป็นเฉพาะกับลูกค้าน่ารำคาญ เรื่องมากเท่านั้นค่ะ เอาน้ำก๊อกไหม”
“กินเป็ปซี่ก็ได้ เพราะยังไง ฉันเป็นแฟนแม็ค กินเหมือนแม็ค ทำอะไรๆกับแม็คอยู่แล้วอยู่แล้ว”หา พูดใหม่ซิ พี่แม็คมีแฟนแล้ว อะไรกัน ความหวังของฉัน พังทลายลง คนสวยอย่างฉัน ต้องไร้แฟนหรือนี่ แต่ทำไมแฟนพี่แม็คต้องชื่อโหล หน้าโหลขนาดนี้ด้วยล่ะ ฉันว่าฉันยังหน้าตาดีกว่ายัยนี่เลย
“เสิร์ฟโต๊ะ 6” ป้าเพ็ญ ตะโกนมา ฉันก็วิ่งไปเอาก๋วยเตี๋ยวมาแล้วไปเสิร์ฟให้พวกพี่แม็คทันที
รักแรกของฉัน มีแฟนแล้ว แต่ก็เหอะนะ รักแรกส่วนใหญ่ก็ไม่สมหวังทั้งนั้นแหละ  อย่าหวังมากเลยเป็ดน้อย
“ของที่สั่งได้แล้วค่ะ” กระแทกชามไปบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี ทำให้น้ำกระฉอกไปโดนน้องหญิงเขา
“กรี๊ด! ร้อนๆ  กรี๊ด! อีบ้า” สมน้ำหน้า ฟ้าดินลงโทษ น้ำร้อนกระฉอกไปโดนแกคนเดียวเลย ฮ่าๆ สะใจโว้ย!
“โทษค่ะ ขอโทษ เดี๋ยวเช็ดให้ค่ะ” ฉันเสแสร้งทำเป็นจะเช็ดให้ แต่ว่า...
“ไม่ต้องเลยแก ทำเขาเจ็บ ขอโทษจะพอเหรอไง”
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะคะ” น้องหญิงเขาท่าจะบ้า แค่น้ำร้อนโดนแค่นี้จะเอาอะไรกับฉันอีกค้า
“เอามาให้อีกชามเลย น้ำเป็ปซี่ฟรีอีกขวด เข้าใจไหม แล้วแคบหมูห้ามคิดตังค์” หนอยแน่ะ อภิสิทธิ์พิเศษจริงๆเลยนะ แต่มาทำอย่างนี้ร้านที่ฉันทำงานอยู่ ไม่มีทางได้แน่นอน !! รับประกันด้วยหัวของเป็ดน้อยผู้น่ารักคนนี้ได้เลย
“ปลาๆ” เสียงป้าเพ็ญเรียกน้าปลาสุดที่รักจอมหักเงิน
“อะไรคะ?..”
“เป็ดมันจะปล่อยระเบิดแล้ว โต๊ะ 6 ดูสิ” ถึงแม้จะกระซิบกระซาบยังไงหนูก็ได้ยินค่ะน้า หูหนูมันหูหมานะคะ ได้ยินทุกเรื่อง แต่ที่น้าๆ ป้าๆเขาพูด มันเป็นความจริง เพราะตอนนี้ฉันแปลงกายเป็นผู้ก่อการร้ายวางC-4แล้ว...( >o< )
“นี่คุณหญิง น้ำมันกระฉอกใส่ขาคุณแล้วมันทำให้ขาเน่าอักเสบต้องตัดขาทิ้งรึไงคะ ร้องแรกแหกกระเชออย่างกับเห็นหมาสุดที่รักชักดิ้นชักงอกระแด่วๆต่อหน้าต่อตาอย่างงั้นน่ะ มีอภิสิทธิ์พิเศษอะไรหรือยะที่จะมาขอโน่นขอนี่ฟรีๆน่ะ ทำมาเรื่องมากขอเป็ปซี่ ก๋วยเตี๋ยว แคบหมูฟรี
เหรอ ฝันไปเหอะ คนเขาทำมาหากินนะโว้ย! ถ้าจะมากินร้านนี้แล้วเรื่องมากอย่างนี้นะ ไม่ต้องกินมันหรอก นี่แม็คคุมแฟนตัวเองบ้างเถอะ มาที่
นี่แล้วทำเขาวุ่นวาย ขอโทษก็ขอโทษแล้วมันยังไม่พอใจเลย น่ารำคาญจริงๆ ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย ชื่อก็โหลทำตัวเหลวไหลจริงๆ” ด่าเสร็จก็ยืนยิ้มจ้องหน้าหาเรื่องคุณหญิงเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกคนในร้านนั่งเงียบจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียวกัน ท่านหญิงแม่แห่งบ้านทรายทองมองฉันเหมือนเห็นเยติสี่ตา หกขา แปดรูจมูกอย่างงั้นแหละ
“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!” ท่านหญิงหญิงกรี๊ดอย่างเสียจริต ถ้ารู้ว่ามันกรี๊ดดังอย่างนี้ไม่ด่าให้เปลืองน้ำลายหรอก
“หนวกหู กรี๊ดอะไรเนี่ย ด่านิดด่าหน่อยเองวุ้ย!” พูดบ่นๆกับนนท์ เพื่อนพี่แม็คที่มาด้วยกันน่ะแหละ
“เออ...ใช่ ยัยนี่มันเป็นอย่างนี้ทุกทีแหละ แต่ฉันเคยเห็นแย่กว่านี้”
“ตอนไหนอ่ะคะ”
“ตอนที่แม็คปฏิเสธความรักไง หญิงนะ....กรี๊ดดังลั่นได้ยินกันทั้งอาคารเลย ฮะฮะ” หา พี่แม็คไม่ได้เป็นแฟนกับท่านหญิงเหรอนี่ โอ้...สวรรค์มีตา ฮ่าๆ พูดอย่างกับเป็นนางพญาหน้าขาวเลย ไม่ได้ๆ ต้องทำตัวสงบเสงี่ยม สงบเสงี่ยม.....
“พอเถอะหญิง คนเขามองกันทั้งร้านแล้ว ไม่อายบ้างเหรอ ทำตัวน่ารำคาญเหมือนที่เป็ดบอกจริงๆน่ะแหละ” พี่แม็คตวาดเสียงเข้มขึ้นมา ทำเอาเพื่อนสาวเงียบไปเลย ฮะฮะ สะใจโว้ย!!
“เป็ด ฮะฮะ...มาเอา ฮะฮะ ก๋วยเตี๋ยวไปเสิร์ฟที ฮ่าๆๆ” ฉันย่องไปไร้ซึ่งเสียงเหมือนแมวย่อง
“หัวเราะอะไรคะน้าปลา” พูดไปก็หยิบชามก๋วยเตี๋ยวไปวางให้โต๊ะ 4 แต่ท่าทางเขาจะไม่สนใจหนูเลย หน้าหนูมันไม่น่าสนใจเท่าหน้าสามคนที่นั่งหน้าสลอนอยู่โต๊ะ 6 หรือคะพี่
“ก็จะไม่ให้หัวเราะได้ไงล่ะ แกเล่นเอาซะมันอึ้งเชียว สะใจมาก....ฮ่าๆๆ” นี่ ใครเป็นแม่ฉันเนี่ย ทำไมนิสัยฉันมันเหมือนน้าเลยแฮะ หรือว่า...น้าฝากฉันให้แม่เลี้ยง O๐O
“น้าน่ะ มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ไม่ดีนะคะน้า”ไม่ว่าเปล่า เอานิ้วขึ้นส่ายดุกดิกให้ดูน่ารักน่าหยิก เหมือนน้องพลับในมิวสิค คุณครูคะ...หรือคุณครูครับหว่า น้องพลับนี่หญิงหรือชายนะ จำไม่ได้ ไปคิดเอาละกันนะคะ ^^”
“อ้าว แล้วใครล่ะคะ ทำเขามีความทุกข์” เหมือนโดนมดไต่หน้าทันที ไหงพูดตรงงี้อ่ะ...น้าหนู - -“
“น้าปลาอ่ะ พูดตรงไปป่าวเนี่ย แต่ว่า สะใจมาก ฮ่าๆ”
“ไม่สำนึกผิดเลยใช่ไหมเนี่ยฮะ” น้ายืนเท้าสะเอวมองหน้าฉันยิ้มๆ
“อ้าว ก็อยากจะเอาก๋วยเตี๋ยว เป็ปซี่ แคบหมูฟรีนี่ สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ” 
“ทำงานเสร็จรับเงินมาแล้วเรียบร้อยโรงเรียนจีน (ไม่โดนหักเงินด้วยแหละ คิกๆ) ก็จะเดินกลับบ้าน ทันใดนั้น......
“เป็ดครับ น้องเป็ด” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ฉันหันหลังไปเป็นภาพสโลโมชั่นแบบเดอะแมททริกซ์ด้วยท่าทางเหมือนพจมาน สว่างวงศ์ ผสม เจเน็ท เขียว (ส่วนผสมทุเรศมาก)
“อะไรคะพี่แม็ค” ยืนยิ้มแฉ่งเหมือนนางงามมาดากัสก้าให้พี่แม็คสุดเลิฟ
“เอ่อ...ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าหญิงทำตัวไม่ค่อยดี”
“อ๋อ..ค่ะ หนักกว่านี้ก็เคยเจอค่ะ” ฉันเคยตบหน้าลูกค้าที่มาจับหน้าอกฉันด้วยแหละ เป็นวันที่จะลืมไม่ลงเลย เพราะว่าผู้ชายคนที่โดนฉันตบมันมาท้าฉันต่อย แล้วมันแพ้ฉันด้วยแหละ ฮ่าๆๆ สะใจมากกกกกกก >.<
“แล้วก็ขอบคุณนะครับ...ที่ด่ามันน่ะ สะใจมาก ฮ่าๆๆ” อ่าว...พี่แม็คจะเป็นพวกเดียวกับฉันแล้ว เห็นคนอารมณ์เสียแล้วมีความสุข
เนื่องจากเราเรื่องเดียวกันและสะใจกับอาการณ์ของคุณหญิงเหมือนกัน เราก็เลยเดินคุย นั่งคุยกันในสนามเด็กเล่นแถวบ้านฉัน พี่เขาบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับน้องหญิงเลย อุ้ย! เบาหัวใจเหมือนยกเขาพระสุเมรุออกจากอกแน่ะ สงสัยคุยกันเพลินไปหน่อย ตอนนี้1:30 PMแล้ว คุยกันตั้ง 30นาที หม่อมแม่ด่าแน่เลย ทำยังไงดีเนี่ย
“ครับ...แล้ว.....”
“...” พี่แม็คก้มหน้าลง ทำไมเหรอคะ น้ำกัดเท้าหรอคะพี่ ^_^”
“เอ่อ...” พี่ท่านยังคงก้มหน้าต่อไป เอ..หรือว่าเป็นฮ่องกงฟุต -_-“
“...” มองหน้าพี่เขาอย่างสงสัยและพินิจพิเคราะห์ อุ้ย!...พี่แม็คมีสิวที่ขมับซ้ายด้วยแหละ>O<”
“เรื่องที่เขาว่ากัน” หูที่กางเหมือนเวตาลของพี่แม็คเริ่มแดงๆขึ้นมาเหมือนโดนจับลวก เพราะฉันไม่เห็นหน้าก็เลยไม่รู้ว่าหน้าจะแดงรึเปล่า...
“ว่ากันว่าอะไรเหรอคะ?” ทำหน้าแบบใสซื่อไม่รู้เรื่องอารายเลยนะค้า
“...”พี่แม็คเงียบไป ฉันเลยเริ่มรำคาญ จะพูดอะไรเนี่ย ถึงเป็นชายในฝันก็ด่าได้นะจะบอกให้ คิ้วฉันเริ่มเขยิบเข้าหากันจนเกือบจะติดกันเหมือนฆาตกรต่อเนื่องใจโหดในเมืองนอกเลย (ฉันชอบเรื่องแนวนี้มากเลยนะ มันสนุกดี)
“นี่เป็ดไม่รู้เรื่องเหรอ” พี่แม็คเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าแบบว่า‘นี่ทำไม่โง้โง่อย่างนี้ ข่าวมันออกจะดัง’โถ่พี่ รู้สิยะ มันเรื่องเกี่ยวกับฉันทั้งนั้นเลยนะ จะไม่ให้รู้ได้ยังไง แต่ว่า พี่จะพูดเรื่องข่าวอะไรล่ะ หนูมันคนดัง ลงข่าวหลายฉบับนะ 0.0
“เรื่องอะไรล่ะคะ พี่ไม่พูด แล้วเป็ดจะรู้ได้ยังไง”
“ก็เรื่อง....ที่เขาว่า” แล้วพี่เขาก็ก้มหน้ามองเท้าตัวเองอีก รองเท้านักเรียนมันแพงนักหรือไงยะ มองมันอยู่นั่นน่ะ กลัวหายเหรอ
“...” ฉันเริ่มเอียงคอเท้าสะเอวแล้ว พี่คะ ... พี่ตกไทยเหรอคะ เลยไม่รู้ว่าคำว่า ‘เร็ว’ มันแปลว่าอะไรน่ะ
“ที่เขาว่าเป็ดแอบชอบพี่น่ะ จริงรึเปล่า” พี่แม็คเงยหน้าขึ้นมา แก้มพี่เขาเป็นชมพูอ่อนๆลามไปถึงหู เห็นแล้วอยากจะหอมซักฟอดเลย (^_^)    ฉันเริ่มสับสนกับคำถามที่เขาถามมา ถ้าฉันบอกความจริงไป พี่เขาจะเกลียดเราไหมน่ะ
“ไม่ค่ะ โถ่..พี่ นักข่าว...เขียนอะไรก็ได้อยู่แล้ว” พูดโกหกออกไปอย่างตั้งใจเลย ด้วยความกลัว...กลัวที่พี่เขาจะเกลียดเรา
“เหรอ...อืม ครับ งั้นพี่ไปส่งที่บ้านนะ บ้านพี่อยู่แถวนี้เหมือนกัน” พี่แม็คเดินไปบ้านฉันถูกทางด้วย ทำไมพี่เขาถึงรู้ล่ะว่าบ้านฉันอยู่ไหน .V. แล้วทำไมพี่เขาต้องทำหน้าเศร้าๆด้วยอ่ะ หรือพี่เขารู้ว่าเราโกหกหว่า โอ้ว...พี่เขาเป็นเครื่องจับเท็จ
“งั้นเป็ดลาแล้วนะคะพี่แม็ค กลับบ้านดีๆนะคะ” ฉันกำลังจะเดินเข้าบ้านแต่พี่แม็คจับมือฉันไว้ก่อน หน้าฉันร้อนวูบวาบๆ
“อะไรคะ?” หันไปมองพี่เขาอย่างสงสัย พี่เขาจับมือฉันทำไมน่ะ รู้ไหม ฉันจะละลายแล้วนะเนี่ย -~-
“เอ่อ...ไม่มีอะไร พี่ไปล่ะนะ” พี่เขาเดินลึกเข้าไปในซอยอีก ฉันรีบวิ่งตามไปโดยโยนกระเป๋าไว้ที่หน้าบ้าน
“นี่อะไรเนี่ย โยนกระเป๋าที่ประตู ถ้าประตูพังใครจะจ่ายฮะ” แม่ตะโกนไล่หลังมา ฉันรีบผลักพี่แม็คไปอย่างรวดเร็วเหมือนติดจรวด เพราะกลัวว่าพี่เขาจะหูอื้อไปเสียก่อน
“นี่...เธอทำอะไรน่ะ” แม็คหันมาข้างหลังตอนที่ฉันเริ่มหยุดวิ่งแล้วเพราะมันเหนื่อย  ฉันยืนพักกับเสาไฟฟ้าแล้วหอบแฮ่กๆ
“แล้ววิ่งตามพี่มาทำไมล่ะเนี่ย” พี่แม็คมองอย่างงงๆ ทำไมมันปรับอารมณ์เร็วขนาดนี้วะเนี่ย เมื่อกี้ยังเศร้ายู่เลย ไมตอนนี้ร่าเริงแล้วเนี่ย เศร้าต่อสิ เป็ดไม่ว่านะคะ
“ก็ ....จะถามว่า พี่เป็นอะไรหรอ ทำไมดูเศร้าๆยังไงไม่รู้ นี่เป็ดเป็นห่วงนะ”
“อุ้ย...เป็นห่วงพี่ด้วยเหรอ” พี่แม็คทำเสียงน่ารักน่าชังน่ากอดและน่าจูบในคราวเดียวกัน
“ไม่นี่ หนูไม่ได้พูดอะไรทั้งน้าน...แล้วบ้านพี่อยู่ไหนอ่ะ”นี่ฉันหน้าด้านไปรึเปล่าเนี่ย ถามหาบ้านเขาใหญ่เลย
“หลังนี้แหละ”พี่เขาชี้นิ้วไปข้างหน้า อ่าวเฮ้ย! ถัดจาดบ้านฉันไป 1 หลังเอง ทำไมฉันไม่รู้จักเขาก่อนหน้านี้เนี่ย ฉันช่างไร้ซึ่งมนุษยสัมพันธ์เลย คนหล่อๆข้างๆบ้านทำไมไม่รู้จัก ฮึ่ม...>0<
“จริงดิ...แล้วเข้าบ้านพี่ได้ไหมอ่ะ” o.o -.- o.o -.- กระพริบตาปริบๆเรียกร้องความสงสาร(หรือมันจะน่าถีบหว่า เอ...ไม่แน่จาย)
“เอ่อ...กลับบ้านดึก แล้วแม่ไม่ว่าเหรอครับ”
“ว่า แต่เป็ดหน้าด้าน คิกๆ”
“เข้าก็ได้ แต่รีบกลับบ้านนะ” พี่แม็คขยิบตาน่ารักมาให้ฉัน แล้วผลักหลังฉันเข้าบ้าน บ้านพี่แม็คดูท่าจะใหญ่กว่าบ้านฉันหน่อย รถก็มีหลายคัน อิจฉาจังเยย แหะๆ น้ามยายไหย
“เฮ้ย...แฟนนายเหรอแม็ค  พ่อแม็คมีแฟนแล้ว มีแฟนน่ารักซะด้วยสิ” อุ้ย เขาว่าฉันน่ารักเหรอ เลิกชอบแม็คละ มาชอบคนนี้แทน ในที่สุดก็มีคนชมเราแล้วโว้ย!
“น่ารักอะไรกันพี่มายด์ นี่ขี้เหร่ที่สุดใน ร.ร.แล้วนะ” พี่แม็คพูดแล้วชี้ๆมาที่ฉัน ฉันเอนตัวหลบยังไงพี่แกก็ยังชี้ตามมาอยู่นั่นแหละ ใจร้ายที่สุด
“แง้..อย่าพูดเรื่องนี้จิ มันแทงหัวใจสีแดงทั้งสี่ห้องแล้วนะ” พูดแล้วกุมหน้าอกแล้วแกล้งทำทรุด พี่แม็คยังคงยืนเฉยแล้วเอาเท้าเขี่ยฉันเล่น เห็น
ฉันเป็นอะไรเนี่ยฮะ *-*
‘ตึกๆ เอี๊ยดอ๊าด’
เสียงคนวิ่งลงบันไดมาดังขึ้น จะรีบร้อนอะไรนักหนา วิ่งมาขนาดนั้น
“ไหนๆ แฟนไอ้แม็คมัน” ชายวัยประมาณ 50 วิ่งลงมาแล้วมองหาคนที่มองหาอยู่ มายด์ คงจะเป็นพี่ของแม็คน่ะนะ...ชี้ตัวฉันมาการเหมือนชี้ตัวคนร้ายคดีข่มขืน...0.0 ทำไมฉันเปรียบตัวเองอย่างงั้นฟะเนี่ย
“เอ่อ...หนูไม่ใช่ .”
“แฟนแกน่ารักดีนะ สวยกว่าแฟนไอ้มายด์มันอีก”พ่อพี่แม็คพูดเปรยๆ มายด์ถลึงตาใส่พ่อทันที
“เมย์เขาสวยออก นิสัยดีด้วย ยัยนี่นะ นิสัยยังดีไม่เท่าเลย” มันจะมากไปแล้วนะ >o<
“นี่พี่มายด์ รู้จักฉันดีมากเลยใช่ไหมถึงมาเปรียบกับคนอื่นได้น่ะ รู้นิสัยฉันมากนักเหรอเลยมาด่าแล้วเปรียบกับน้องเมย์สุดที่รักของพี่เนี่ยฮะ ตา
บ้า!” ฉันตวาดแหวออกไปก่อนที่จะปิดปากตัวเองเพราะว่ามันพลั้งปากไป .... คือฉันยังไม่ได้บอกคุณผู้อ่านเหรอคะ บอกก็ได้ คือ เวลาฉันโกรธหรือเสียใจมากๆ ฉันมักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ บางทีก็ด่าไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนเส้นเอ็นกระตุกอ่ะค่ะ - -“
ชายทั้งสามมองนิ่งอึ้งมองตรงมาทางฉันคนเดียว หนูพลั้งปากไปค่ะ หนูไม่รู้ >o<
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” ฉันรีบขอโทษขอโพยใหญ่ ก็มันพลั้งปากนี่ นายอยากทำฉันโมโหเอง
“ผมสิขอโทษ ที่เอาคุณไปว่าอย่างนั้น แหะๆ”พี่มายด์รีบขอโทษขอโพยฉัน ฉันเลยขอตัวออกจากบ้านโดยมีแม็คเดินมาส่งด้วย
“กินข้าวรึยังอ่ะ”
“ยังเลย...พ่อฉันทำอาหารไม่ค่อยอร่อยเลย ปกติฉันซื้อกินเอา” แม็คทำปากเบ้ คงจะนึกถึงรสชาติอาหารที่พ่อทำ
“เอาอย่างงี้...พี่ไปกินบ้านเป็ด แม่เป็ดทำอาหารอร่อยมาก” ฉันยกนิ้วให้รับประกันฝีมือ
“ไม่ล่ะมั้งครับ ไม่สะดวกรึเปล่า เรายังไม่ค่อยรู้จักกันเลย เข้าบ้านผู้หญิงมันเสียมารยาท” พี่แม็คเกาๆหัวตัวเอง เป็นเหาหรือสังกะตังรึเปล่า
หว่า...-o-
“โถ่...เป็ดยังเข้าบ้านพี่ได้เลย แล้วพี่จะเข้าบ้านเป็ดไม่ได้เชียว...ไปกันเลย” ฉันดันหลังพี่แม็คเข้าบ้าน พี่เขาก็ยอมแต่โดยดี...ทันใดนั้น ทัพพีก็ลอยมาตรงหน้า ฉันเบี่ยงตัวหลบและลากพี่แม็คไปกับฉันด้วย ทัพพีเลยลอยไปโดนประตูแทน
“ทำไมกลับบ้านดึกๆดื่นๆ แล้วตานี่มันเป็นใคร” แม่ตะโกนดังลั่นบ้าน ไม่กลัวเสียงแหบเหรอแม่คะ พี่แม็คทำหน้าแหยๆแบบว่าเหมือนกลัวอ่ะนะ
“ผมกลับบ้านก็ได้นะครับ เห็นไหมเป็ด พี่บอกแล้วว่าไม่น่าจะได้” พี่แม็คทำท่าจะออกไป ฉันจับมือพี่เขาไว้ก่อน
“ก็นี่เพื่อนหนูอ่ะค่ะ อยู่บ้านข้างๆนี้ เขาจะมาขอกินข้าวกับเราหน่อย เพราะหนูไปโม้ว่าแม่ทำกับข้าวอร่อยมาก เขาเลยหนีฝีมือพ่อเขามากินฝีมือแม่โดยเฉพาะเลยน้า” ฉันยิ้มๆให้แม่ รอยยิ้มเริ่มปรากฏขึ้นบนหน้าแม่ฉันแล้ว แม่ฉันเป็นคนบ้ายอมาก แค่ยออะไรหน่อยก็ยอมแล้ว (^o^)
“โอเค วันนี้แม่จะทำอาหารสุดฝีมือเลย ให้เพื่อนเป็ดรู้ว่า แม่เก่งกาจแค่ไหน ฮ่าๆๆ” พอแม่ฉันเดินเข้าครัวไปอย่างคนบ้าฉันก็รีบวิ่งไปเอาเก้าอี้กับจานเพิ่ม แต่เอ๊ะ! ทำไมมันมีเก้าอี้เพิ่มอีกตัวล่ะ หรือว่า? O.o
“เป็ด” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“พี่ปาล์ม” ฉันวิ่งไปโผกอดชายสุดที่รักทันที ถ้าหอมแก้มได้หอมไปแล้ว แต่พี่ฉันเนี่ยนะ ไม่เอาดีกว่า
“กลับมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“เมื่อกี้นี้เอง สาวนครนายกไม่สวย เลยกลับมาหาน้องสุดสวยของพี่ดีกว่า” ฉันยิ้มๆ นี่พี่เขาบอกฉันสวยจริงหรือพูดเล่นเนี่ย พี่ยิ่งเชื่อไม่ได้อยู่
“เชอะ...หนีน้องไปเที่ยว ไม่ยอมพาไปด้วย งอนแล้ว แบร่!” แลบลิ้นแผล็บๆเหมือนผีเลียหมูในคนเห็นผีภาค 1 ให้พี่ดู ปาล์มยิ้มเยาะ(มันคงคิดว่า ‘มันทำเหมือนจริงๆเลย ถ้าลอยได้แล้วอุ้มลูกคงเหมือนเด๊ะ’แน่เลย >0<) น่าถีบจริงๆ
“โถ่...ก็เป็ดต้องเรียนนี่ พี่ก็เลยไม่พาไป ฮ่าๆ แล้ว...”
“แล้วอะไร”
“นี่ใคร แฟนเป็ดเหรอ (^o^)” อุ้ย...พี่ขา หนูก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนกันแหละค่ะ
“เฮ้ย!...ไม่ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนเป็ดเขา” พี่แม็ครีบพูดโพล่งขึ้นมาอย่างไว พี่ปาล์มมองฉันยิ้มๆ พ่อก็เอากับเขาด้วย นี่คิดว่าฉันเป็นแฟนพี่เขา
จริงๆเหรอเนี่ย
“นี่พี่แม็คค่ะ อยู่ม.6 อยู่บ้านข้างๆเรานี่แหละ แล้วนี่พี่ปาล์ม พี่ชายฉันเอง” หันไปยิ้มหวานให้พี่แม็ค พี่แม็คดันหัวเราะอย่างเสียจริต ฉันยิ้มตลก
นักเหรอฮะเนี่ย (- o -)
“นี่..แม็ค ชื่อกับหน้าคุ้นๆ อ๋อ..นี่ที่มันออกหนังสือพิมพ์ใช่ไหม OoO” แม่เดินมาวางผักบุ้งไฟแดงลงบนโต๊ะ ทำไมมันมีไอ้ผักแดงๆเยอะจังหว่า.....- -“
“หา...แม่จำได้เหรอ รูปในหนังสือพิมพ์มันไม่ได้หล่อเท่านี้นะคะ - * -”  เฮ้ย! หม่อมแม่เขารู้ว่าเราแอบชอบนี่ แงแงแงแง เอาไงดี
“โถ แม่ตาดีกว่าอีแร้งอีกลูก แล้วก็...ถึงแม่ห้ามยังไงนะ ถ้าเป็นคนนี้แม่รับได้ ฮิฮิ”  Oh my god! พี่แม็คต้องมีวิชาสะกดจิตหรือวิชาย้าย
วิญญาณแน่นอนเลย หม่อมแม่ยอมให้ฉันเป็นแฟนพี่แม็คได้ (แต่พี่แม็คเขาชอบหนูรึเปล่าหว่า เฮ้อ...รักเขาข้างเดียว ยังแห้งยังเหี่ยวไม่พอ
โย่วๆ เพลงน่ะค่ะ จำได้ไหม ไม่โบราณเท่าไหร่หรอก เพลงของแช่ม แช่มรัมณ์ อ่ะค่ะ)
“แม่...” พูดเหมือนโกรธๆใส่แม่ (แต่จริงๆแล้วดีใจมาก คิกๆ) แม่ยิ้มๆแล้ววิ่งเข้าไปเอากับมาอีก 3-4 อย่าง
“วันนี้มีแขกเพิ่ม 1 คน แม่เลยทำอาหารเพิ่มนิดหน่อยน่ะค่ะ”” แม่มองพี่แม็คที่นั่งข้างๆฉันแล้วมองสลับฉันไปมาแล้วยิ้มๆ รู้นะแม่คิดอะไรอยู่ แต่ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เพราะว่าพี่แม็คเขาไม่ชอบเราหรอก จริงมะ ^^”
“อ้าว...เป็ดรออะไร ตักข้าวให้พี่ๆสิ” ฉันรีบลุกขึ้นตักข้าวให้ พี่แม็ค พี่ปาล์ม พ่อ แม่ แล้วตักให้ฉันเองตามลำดับ
“แหมๆๆ...ตักให้แม็คก่อนเลยนะ ทีพี่ตัวเองน่ะ ได้ทีหลัง งอนแล้ว” พี่ปาล์มทำงอนแก้มป่องเหมือนแก้มลิง (o.o) หน้าตบให้แก้มแฟบจัง
“โถ่พี่ปาล์ม ทำอย่างงั้นก็ไม่ใช่ว่าจะน่ารักเล้ย” พูดไปก็ตักผักบุ้งไฟแดงมาบนจาน .... แซ่บมาก เผ็ดจี๊ดเข้าถึงทรวงในเลย น้ำๆ น้ำอยู่ไหน
เอ๊ะ!....อ่าว แก้วไม่ครบ ไม่มีน้ำเรานี่หว่า
“แม่อ่ะ ไม่เอาน้ำมาให้หนูเลย เผ็ดจะตาย” พูดออกไปทั้งๆที่ปากเจ่ออย่างงั้นเลย เผ็ดมาก
“เอาน้ำพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปเอาใหม่เอง” พี่แม็คพูดพลางผลักแก้วน้ำมาให้...สุภาพบุรุษมาก
“ข...ขอบคุณค่ะพี่แม็ค” ฉันพูดเบาๆ โอย...อยู่ใกล้ๆแล้วฉันจะละลาย หน้าร้อนวูบวาบๆ
“นี่เป็ด หน้าแดงจนถึงติ่งหูแล้ว ฮ่าๆ แม็คไม่ต้องเอาเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้เอง” พี่ชายตัวดีพูดแล้วเดินไปเอาน้ำมาให้พี่แม็คใหม่ นี่หน้าฉันแดง
เหรอนี่ ไม่ใช่แน่เลย พี่ฉันต้องพูดตลกแน่นอน
“บ้า ไม่เห็นแดงเลย พี่ปาล์มอ่ะมั่ว แบร่..”แลบลิ้นแผลบๆใส่พี่ปาล์ม มั่วอ่ะ มาหาว่าเราหน้าแดงเฉยเลย >_<”
“แดงจ้ะแดง เป็ดหน้าแดงแจ๋เลยล่ะ” แม่พูดแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ สงสัยคงแดงจริงอ่ะ มันไม่จริ้งหน้าฉันไม่แดง ไม่มีทาง มันไม่มีทางที่
ผู้ชายคนไหนจะทำให้ฉันหน้าแดงได้นอกจากที่พี่ปาล์มไปประจานเรื่องฉันนอนน้ำลายยืดต่อหน้านักเรียนหลายๆคนในปีที่แล้ว คราวนั้นฉันอายแทบจะมุดดินเลยล่ะ
“เอ่อ...พี่แม็คกินข้าวเถอะ แม่ฉันทำอร่อยมากเลย” ฉันก้มหน้าก้มตากินผักบุ้งไฟแดงอันแสนจะเผ็ดร้อนที่แม่ทำมาต่อไป
“ทำไมแม่ทำเผ็ดอย่างงี้อ่ะแม่ OoO” พูดไปแล้วซดน้ำอักๆ
“ก็วันนี้เห็นผู้ชาย..เอ้ย..เพื่อนเป็ดมาบ้าน ก็เลยทำเผ็ดๆหน่อย เป็ดจะได้กินไม่ได้” แม่นะแม่ รู้ว่าหนูกินเผ็ดไม่ค่อยได้ยังจะแกล้งอีก กินหมู
ทอดกระเทียมก็ได้ โถ่...ไม่ง้อหรอก
“อร่อยมากครับ อร่อยมากเลย อร่อยกว่าพ่อผมทำอีก” พี่แม็คพูดแล้วกินอย่างเร็วมาก อาหารทั้งจานหมดไปในเวลา 10 นาทีแล้วรีบขอเบิ้ลจานที่ 2 ต่อ แม่นี่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งเลย บ้ายอจริงๆเลยแม่ของหนู
“อุ้ย! อร่อยขนาดนั้นเชียว วันหลังมากินที่บ้านอีกก็ได้นะจ๊ะ แม่ไม่ว่า” แม่พูดพลางตักกับข้าวให้พี่แม็คกิน พี่แม็คยิ้มๆแล้วกินต่อ
“นี่ พี่เชื่อเป็ดแล้ว แม่เป็ดทำอาหารอร่อยมากเลย ^O^” พี่แม็คพูดแล้วยิ้มๆ ยิ้มน่ารักมากเลย เหมือนเด็กสามขวบ (จะบอกว่าพี่เขาหน้าเบบี้เฟส หน้าละอ่อนอ่ะ)
“แล้ว แม็คลองเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ” อุ้ย! ผู้ชายมาบ้านทีพูดดีกว่าพูดกับลูกอีกอ่ะแม่
แม่นะแม่
“ก็ ตอนนี้แม็คเป็นนักบอลของร.ร.น่ะครับ ปีนี้ผมกะจะลงวอลเลย์บอล” พี่แม็คพูดแล้วยัดผักบุ้งไฟแดงเข้าไปเคี้ยวตุ่ยๆในปาก ดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ (ยอมรับเถอะนะว่าพี่แม็คทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด)
“เป็นนักวอลเลย์เหมือนยัยเป็ดเลย นี่เป็ดมันเล่นเก่งนะ เข้าใจหาแฟนนี่ เป็นนักวอลเลย์ด้วย” พี่ปาล์มพูดออกตัวแทนฉันใหญ่ แล้วมาบอกเขาเป็นแฟนฉันอีก
“ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนไง พูดจนปากจะฉีกถึงติ่งหูแล้วยังไม่เข้าใจอีก!”ลุกตะโกนทันที พี่แม็คอึ้งนิดหน่อย แต่ว่าพวกพ่อแม่ไม่รู้สึกอะไรเลย คงประมาณว่าชินมั้ง
“เออ..เชื่อก็เชื่อ แล้วแม็ค แม็คชอบน้องพี่รึเปล่า พี่สนับสนุนเต็มที่นะครับน้อง” ฟังพี่ปาล์มพูดเข้าสิ พี่แม็คนี่อายม้วนหน้าแดงแจ๋เลย
“พอพอเลย พี่เขาไม่ชอบหนูหรอก” ฉันโบกมือปัดๆไป
“ก็ไม่แน่ ของอย่างนี้ไม่ได้ยินจากเจ้าตัวเองก็ไม่รู้นะ อย่างพ่อเนี่ย ตอนแรกพ่อเขาไม่ชอบแม่เลย แล้วตอนนี้ล่ะครองรักกันจนมีสองตัวนี้แหละ ตา ยายนะ มีแต่บ่นๆว่าพ่อจะมาคบหลอกๆ พอท้องแล้วก็ทิ้ง..แล้วตอนนี้ล่ะ ^^” แม่พูดยิ้มๆ แล้วมองฉันสลับกับพี่แม็คอีกแล้ว พี่แม็คมองหน้าฉันยิ้มๆ อย่าทำหนูหวั่นไหวสิคะ หนูไม่ชอบพี่หรอก แค่ปลื้มเองเห็นเล่นบอลเก่งแค่นั้นเอง O3O
กินข้าวเสร็จก็เดินออกมาส่งพี่แม็ค แม่เอากับข้าวสองสามอย่างให้พี่แม็คเอากลับไปให้พ่อกับพี่ของพี่แม็คกินด้วยแหละ สงสัยแม่สนับสนุนพี่เขาเต็มที่ นี่ขนาดเพิ่งรู้จักกันนะเนี่ย
“พ่อแม่เป็ดน่ารักจัง แม่ทำอาหารอร่อยด้วย” เดินคุยกันท่ามกลางความมือ ช่างโรแมนติกอะไรอย่างนี้ ^_^
“แน่นอน แม่ฉันเป็นกุ๊กโรงแรมห้าดาวเลยนะขอบอก” พูดแล้วยิ้มแบบภูมิใจในแม่ตัวเองมากเลย
“อืม.. งั้นพี่เข้าบ้านเลยนะ” พี่แม็คยิ้มให้ฉันด้วยแหละ ทำไมฉันต้องทำอะไรไม่ถูกเก้ๆกังๆอย่างงี้ด้วยล่ะ มือไม้อ่อน เข่าแทบทรุดแน่ะ
“ค่ะ...บายนะคะ แล้วเจอกัน” ฉันโบกมือบ๊ายบายพี่แม็คแล้วจะเดินเข้าบ้าน
“เป็ด...”
“อะไรคะพี่”
“ร้านน้าเป็ดรับคนอีกไหมอ่ะ พี่จะหางานพิเศษทำหน่อย ขี้เกียจทำไกลบ้าน”พี่แม็คพูดแล้วเกาหัวตัวเองอีก ฉันว่าพี่แกเป็นสังกะตังแหงเลยอ่ะ
“น่าจะรับนะคะ เดี๋ยวคุยกับน้าลาให้ รับรองพี่ได้งานแน่” พูดไปยิ้มไปแล้ววิ่งขึ้นห้องเลย ใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร ทำไมฉัน...ยังไงอ่ะ บอกไม่ถูก มันเป็นแค่ตอนอยู่กับพี่แม็คคนเดียวเลย หรือว่า.....ไม่ใช่หรอก ถ้างั้น
นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะพี่แม็ค ^^
***************************************
แหะๆ.....บอกหน่อยนะ ความจริงเราเปงผู้ชายอ่ะ ตอนแรกจะหลอกเพื่อนมันไม่ให้รู้ แต่ตอนนี้มันรู้กันทั้งห้องแล้วก็เลยบอกแหละ ที่ไม่ได้อัพนี่เพราะว่าเราย้ายบ้านแล้วยังไม่มีเน็ตอ่ะ ตอนนี้มีเน็ตแย้ว ดีจาย ^^
“มาแล้วจ้า เป็ดน้อยน่ารักมาไม่สายชดเชยเมื่อวานจ้า...” พูดมาแต่ปากซอยร้านซะอีก คนแถวนั้นเขามองแล้วไปกระซิบกระซาบกัน หลังจากมานั่งคิดไตร่ตรองดีแล้ว สรุปว่าพวกเขาพูดประโยคเดียวกันเลย
‘มันบ้ารึเปล่าวะเนี่ย’
         
“โอ้ย! นี่ เป็ด ไม่ต้องตะโกนมาก็ได้นะ แล้วทำไมไม่มาเมื่อวาน”
“อุ้ย! พูดเสียงเข้มไม่รับกับหน้าตาที่สวยเมื่อ10ปีก่อนเลย”
“ตอนนี้ก็สวยอยู่ย่ะ น้าหักเงินอีกซักวันคงไม่เสียหายเท่าไหร่หรอกมั้ง”
“แหะๆ...น้าปลานี่ ชอบพูดเล่นตลอดเลย การโกหกเป็นสิ่งม่ายดีนะคะ”วิ่งไปกอดน้าสุดเลิฟด้วยความกลัวจะโดนหักเงินทันที(ออกแนวเลวรึเปล่าเนี่ย)ถ้าไม่ว่าสกปรกคงจะเลียแขนน้าไปแล้วนะเนี่ย
“แล้วจะตอบไหมว่าเมื่อวานไปไหนมา”
“เอ่อ.....เมื่อวาน” จะหาเหตุผลอะไรล่ะเนี่ย โกรธเพื่อนจนขี้เกียจมาทำงานเหรอ ไม่ได้ๆ...เพราะว่ามันจะทำให้คุณน้ารู้ว่า ‘ฉันแอบไปดูผู้ชายมา’ เดี๋ยวโดนหักเงินเอาดื้อๆ
“ก็...เมื่อวานมันตากแดดทั้งวันเลยเลย เป็ดปวดหัวมาก ก็เลยกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนค่ะ” เอ๊ะ!รู้สึกว่าเมื่อกี้จะพูดไปว่าโกหกเป็นสิ่งไม่ดีไม่ใช่เหรอ
“โกหกนั้นตายตกนรก” น้าฉันขุดเพลงอะไรมาก็ไม่รู้ เดาว่าคงเก่ามาก (มีอะไรแก่กว่าเพลงที่เป็ดฟังด้วยหรือนี่ โอ้...ฉันทันสมัยจริง) น้าส่งสายตามาทางฉัน ตีความได้ว่า ‘เป็ดพอเลย ไม่ต้องมาทำสตอแหล’
“อะไรล่ะน้าปลาหนูพูดจริงๆนะคะ”
“ก็เมื่อวานฝนตก แล้วจะมีแดดให้ตากหรือจ๊ะเด็กน้อย” น้าปลาทำน่ารักเหมือนเด็กญี่ปุ่น แต่ฉันเกลียดท่าทางอย่างนี้มาก เพราะมันเป็นท่าที่นังกานดามันชอบทำ เฮอะ... เอ่อ...ใครช่วยบอกฉันทีว่าทำไมฉันถึงไม่บอกน้าว่าตากฝนเนี่ย
“ก็...น้าปลาไม่เคยได้ยินเหรอคะ...ฝนตกแดดออก  นกกระจอกจะออกจากรัง .”แปลงร่างเป็นพี่เบนซ์ทันที (แต่ฉันเป็นไม่ได้ ก็คนมันขาวน่ะนะ)ด้วยการขุดเพลงสมัยย่ายังสาวๆมาร้อง
“แต่เมื่อวานแดดไม่ออก อีกอย่าง ฝนตกเขาจะให้นักเรียนออกมานอกอาคารได้ยังไง” แล้วฉันจะตอบยังไงเนี่ย น้าท่านพูดมีเหตุมีผลขนาดนี้เนี่ย
“ก็...ตอนวิ่งไปโรงอาหารไงคะน้า หัวมันเปียกอ่ะ”แหลสุดเลย ฉันว่านิสัยฉันไม่เคยเป็นอย่างนี้นะ- -
“เออๆ..ไม่ถามแล้ว ใส่เอี๊ยมแล้วทำงาน เร็ว!”
“ค่ะๆ น้า” วิ่งไปอย่างเร็วรี่ เพราะกลัวจะโดนหักเงินอีก
“รับออร์เดอร์ลูกค้าสิเป็ด อย่าขี้เกียจ”
“ค่ะป้า” วิ่งออกมาที่โต๊ะด้านนอกร้านทันที หลับหูหลับตาพูดคำพูดประจำ
“สวัสดีค่ะร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปลาน้อยยินดีต้อนรับค่ะ เขียนออร์เดอร์ที่ใบตรงนั้นเลยนะคะ
“ครับๆ”
“รับน้ำอะไรดีคะ มีเก็กฮวย ลำไย ชาดำเย็น โอเลี้ยง เป็ปซี่ และอื่นๆค่ะ”
“เอา....โค้กละกันครับ”
“นี่...บอกว่ามีเป็ปซี่นี่ยังจะเอาโค้กอีก คุณนี่ยังไงเนี่ย คิดบ้างหรือเปล่า”
“เอ่อ....เป็ปซี่ก็ได้ครับ” ฉันลืมตาขึ้นมาด่า ภาพที่เห็นทำให้ฉันแทบลงไปดิ้นแด่วๆเหมือนปลาหมอใกล้ตาย
“พี่แม็ค!”ฉันตะโกนเบาๆ(มันเบาไงหว่า)แต่พอให้ได้ยินกันในโต๊ะ
“เฮ้ย! แม็ค นี่มันเป็ดที่แอบชอบแกรึเปล่าวะ”เพื่อนพี่แม็คที่นั่งข้างพูดเสริม หน้าตาก็หล่อไม่เท่าพี่เขายังจะมาพูดอีก แบร่! (มันไม่เกี่ยวอะไรกันเลยนี่หว่า)
“เออ...ใช่ๆ นี่แหละ เป็ดแน่นอน ฉันจำหน้าได้ ”
“นี่จะกินก๋วยเตี๋ยวหรือจะนั่งคุยกันเรื่องฉันเนี่ย จะเอาไหมก๋วยเตี๋ยวไม่เอาฉันจะได้ไปรับโต๊ะอื่น”
“เอ่อ...กินครับเจ๊  แม็ค ออร์เดอร์เขียนเสร็จยัง”เสียงเพื่อนหน้าไม่หล่อคนนั้นพูดขึ้นมาอย่างกวนๆ
“อ่ะครับนี่ ใบออร์เดอร์ หุบปากไปเลยไอ้นนท์”ฉันรับใบมาแล้วรีบไปเสียบไว้ข้างเตาแล้ววิ่งๆไปตักน้ำแข็ง เอาเป็ปซี่ไปให้เขา
“นี่น้องเป็ดคะ พี่ขออะไรที่ไม่ใช่เป็ปซี่ได้ไหม น้ำตาลมันเยอะ กลัวอ้วนน่ะค่ะ” อี๋!...พุงพลุ้ยขนาดนี้ยังกลัวอ้วนอีก (มันอคตินะ จริงๆแล้วเขาผอม)
“หญิง อย่าเรื่องมากน่า เป็ปซี่มีก็กินๆไปเหอะ”พี่แม็คด่า ผู้หญิงชื่อหญิงนั่น อุ้ยชื่อหญิง โหลมาก ห้องฉันมีชื่อหญิงตั้งสองคน แล้วห้องน้ำหญิง หอพักหญิงอีก โหลมาก อี๋ (*o*)
“แต่แม็ค น้ำหนักหญิงเพิ่งลดไปได้ 2 โลเองนะ เดี๋ยวกินก็อ้วนขึ้นมาอีกหรอก”พูดอย่างออดอ้อนเชียว อยากรู้จริงใครจ่ายตังค์เนี่ย เฮอะ!
“นี่ตกลงเอาน้ำอะไรกันฮะ คุณหญิง ไม่อ้วน ไร้น้ำตาล เอานั่นไหม น้ำกลั่น”
“ต๊าย! รับลูกค้าภาษาอะไร พูดจาไม่เข้าหู”
“เป็นเฉพาะกับลูกค้าน่ารำคาญ เรื่องมากเท่านั้นค่ะ เอาน้ำก๊อกไหม”
“กินเป็ปซี่ก็ได้ เพราะยังไง ฉันเป็นแฟนแม็ค กินเหมือนแม็ค ทำอะไรๆกับแม็คอยู่แล้วอยู่แล้ว”หา พูดใหม่ซิ พี่แม็คมีแฟนแล้ว อะไรกัน ความหวังของฉัน พังทลายลง คนสวยอย่างฉัน ต้องไร้แฟนหรือนี่ แต่ทำไมแฟนพี่แม็คต้องชื่อโหล หน้าโหลขนาดนี้ด้วยล่ะ ฉันว่าฉันยังหน้าตาดีกว่ายัยนี่เลย
“เสิร์ฟโต๊ะ 6” ป้าเพ็ญ ตะโกนมา ฉันก็วิ่งไปเอาก๋วยเตี๋ยวมาแล้วไปเสิร์ฟให้พวกพี่แม็คทันที
รักแรกของฉัน มีแฟนแล้ว แต่ก็เหอะนะ รักแรกส่วนใหญ่ก็ไม่สมหวังทั้งนั้นแหละ  อย่าหวังมากเลยเป็ดน้อย
“ของที่สั่งได้แล้วค่ะ” กระแทกชามไปบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี ทำให้น้ำกระฉอกไปโดนน้องหญิงเขา
“กรี๊ด! ร้อนๆ  กรี๊ด! อีบ้า” สมน้ำหน้า ฟ้าดินลงโทษ น้ำร้อนกระฉอกไปโดนแกคนเดียวเลย ฮ่าๆ สะใจโว้ย!
“โทษค่ะ ขอโทษ เดี๋ยวเช็ดให้ค่ะ” ฉันเสแสร้งทำเป็นจะเช็ดให้ แต่ว่า...
“ไม่ต้องเลยแก ทำเขาเจ็บ ขอโทษจะพอเหรอไง”
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะคะ” น้องหญิงเขาท่าจะบ้า แค่น้ำร้อนโดนแค่นี้จะเอาอะไรกับฉันอีกค้า
“เอามาให้อีกชามเลย น้ำเป็ปซี่ฟรีอีกขวด เข้าใจไหม แล้วแคบหมูห้ามคิดตังค์” หนอยแน่ะ อภิสิทธิ์พิเศษจริงๆเลยนะ แต่มาทำอย่างนี้ร้านที่ฉันทำงานอยู่ ไม่มีทางได้แน่นอน !! รับประกันด้วยหัวของเป็ดน้อยผู้น่ารักคนนี้ได้เลย
“ปลาๆ” เสียงป้าเพ็ญเรียกน้าปลาสุดที่รักจอมหักเงิน
“อะไรคะ?..”
“เป็ดมันจะปล่อยระเบิดแล้ว โต๊ะ 6 ดูสิ” ถึงแม้จะกระซิบกระซาบยังไงหนูก็ได้ยินค่ะน้า หูหนูมันหูหมานะคะ ได้ยินทุกเรื่อง แต่ที่น้าๆ ป้าๆเขาพูด มันเป็นความจริง เพราะตอนนี้ฉันแปลงกายเป็นผู้ก่อการร้ายวางC-4แล้ว...( >o< )
“นี่คุณหญิง น้ำมันกระฉอกใส่ขาคุณแล้วมันทำให้ขาเน่าอักเสบต้องตัดขาทิ้งรึไงคะ ร้องแรกแหกกระเชออย่างกับเห็นหมาสุดที่รักชักดิ้นชักงอกระแด่วๆต่อหน้าต่อตาอย่างงั้นน่ะ มีอภิสิทธิ์พิเศษอะไรหรือยะที่จะมาขอโน่นขอนี่ฟรีๆน่ะ ทำมาเรื่องมากขอเป็ปซี่ ก๋วยเตี๋ยว แคบหมูฟรี
เหรอ ฝันไปเหอะ คนเขาทำมาหากินนะโว้ย! ถ้าจะมากินร้านนี้แล้วเรื่องมากอย่างนี้นะ ไม่ต้องกินมันหรอก นี่แม็คคุมแฟนตัวเองบ้างเถอะ มาที่
นี่แล้วทำเขาวุ่นวาย ขอโทษก็ขอโทษแล้วมันยังไม่พอใจเลย น่ารำคาญจริงๆ ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย ชื่อก็โหลทำตัวเหลวไหลจริงๆ” ด่าเสร็จก็ยืนยิ้มจ้องหน้าหาเรื่องคุณหญิงเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ทุกคนในร้านนั่งเงียบจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียวกัน ท่านหญิงแม่แห่งบ้านทรายทองมองฉันเหมือนเห็นเยติสี่ตา หกขา แปดรูจมูกอย่างงั้นแหละ
“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!” ท่านหญิงหญิงกรี๊ดอย่างเสียจริต ถ้ารู้ว่ามันกรี๊ดดังอย่างนี้ไม่ด่าให้เปลืองน้ำลายหรอก
“หนวกหู กรี๊ดอะไรเนี่ย ด่านิดด่าหน่อยเองวุ้ย!” พูดบ่นๆกับนนท์ เพื่อนพี่แม็คที่มาด้วยกันน่ะแหละ
“เออ...ใช่ ยัยนี่มันเป็นอย่างนี้ทุกทีแหละ แต่ฉันเคยเห็นแย่กว่านี้”
“ตอนไหนอ่ะคะ”
“ตอนที่แม็คปฏิเสธความรักไง หญิงนะ....กรี๊ดดังลั่นได้ยินกันทั้งอาคารเลย ฮะฮะ” หา พี่แม็คไม่ได้เป็นแฟนกับท่านหญิงเหรอนี่ โอ้...สวรรค์มีตา ฮ่าๆ พูดอย่างกับเป็นนางพญาหน้าขาวเลย ไม่ได้ๆ ต้องทำตัวสงบเสงี่ยม สงบเสงี่ยม.....
“พอเถอะหญิง คนเขามองกันทั้งร้านแล้ว ไม่อายบ้างเหรอ ทำตัวน่ารำคาญเหมือนที่เป็ดบอกจริงๆน่ะแหละ” พี่แม็คตวาดเสียงเข้มขึ้นมา ทำเอาเพื่อนสาวเงียบไปเลย ฮะฮะ สะใจโว้ย!!
“เป็ด ฮะฮะ...มาเอา ฮะฮะ ก๋วยเตี๋ยวไปเสิร์ฟที ฮ่าๆๆ” ฉันย่องไปไร้ซึ่งเสียงเหมือนแมวย่อง
“หัวเราะอะไรคะน้าปลา” พูดไปก็หยิบชามก๋วยเตี๋ยวไปวางให้โต๊ะ 4 แต่ท่าทางเขาจะไม่สนใจหนูเลย หน้าหนูมันไม่น่าสนใจเท่าหน้าสามคนที่นั่งหน้าสลอนอยู่โต๊ะ 6 หรือคะพี่
“ก็จะไม่ให้หัวเราะได้ไงล่ะ แกเล่นเอาซะมันอึ้งเชียว สะใจมาก....ฮ่าๆๆ” นี่ ใครเป็นแม่ฉันเนี่ย ทำไมนิสัยฉันมันเหมือนน้าเลยแฮะ หรือว่า...น้าฝากฉันให้แม่เลี้ยง O๐O
“น้าน่ะ มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น ไม่ดีนะคะน้า”ไม่ว่าเปล่า เอานิ้วขึ้นส่ายดุกดิกให้ดูน่ารักน่าหยิก เหมือนน้องพลับในมิวสิค คุณครูคะ...หรือคุณครูครับหว่า น้องพลับนี่หญิงหรือชายนะ จำไม่ได้ ไปคิดเอาละกันนะคะ ^^”
“อ้าว แล้วใครล่ะคะ ทำเขามีความทุกข์” เหมือนโดนมดไต่หน้าทันที ไหงพูดตรงงี้อ่ะ...น้าหนู - -“
“น้าปลาอ่ะ พูดตรงไปป่าวเนี่ย แต่ว่า สะใจมาก ฮ่าๆ”
“ไม่สำนึกผิดเลยใช่ไหมเนี่ยฮะ” น้ายืนเท้าสะเอวมองหน้าฉันยิ้มๆ
“อ้าว ก็อยากจะเอาก๋วยเตี๋ยว เป็ปซี่ แคบหมูฟรีนี่ สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ” 
“ทำงานเสร็จรับเงินมาแล้วเรียบร้อยโรงเรียนจีน (ไม่โดนหักเงินด้วยแหละ คิกๆ) ก็จะเดินกลับบ้าน ทันใดนั้น......
“เป็ดครับ น้องเป็ด” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา ฉันหันหลังไปเป็นภาพสโลโมชั่นแบบเดอะแมททริกซ์ด้วยท่าทางเหมือนพจมาน สว่างวงศ์ ผสม เจเน็ท เขียว (ส่วนผสมทุเรศมาก)
“อะไรคะพี่แม็ค” ยืนยิ้มแฉ่งเหมือนนางงามมาดากัสก้าให้พี่แม็คสุดเลิฟ
“เอ่อ...ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าหญิงทำตัวไม่ค่อยดี”
“อ๋อ..ค่ะ หนักกว่านี้ก็เคยเจอค่ะ” ฉันเคยตบหน้าลูกค้าที่มาจับหน้าอกฉันด้วยแหละ เป็นวันที่จะลืมไม่ลงเลย เพราะว่าผู้ชายคนที่โดนฉันตบมันมาท้าฉันต่อย แล้วมันแพ้ฉันด้วยแหละ ฮ่าๆๆ สะใจมากกกกกกก >.<
“แล้วก็ขอบคุณนะครับ...ที่ด่ามันน่ะ สะใจมาก ฮ่าๆๆ” อ่าว...พี่แม็คจะเป็นพวกเดียวกับฉันแล้ว เห็นคนอารมณ์เสียแล้วมีความสุข
เนื่องจากเราเรื่องเดียวกันและสะใจกับอาการณ์ของคุณหญิงเหมือนกัน เราก็เลยเดินคุย นั่งคุยกันในสนามเด็กเล่นแถวบ้านฉัน พี่เขาบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกับน้องหญิงเลย อุ้ย! เบาหัวใจเหมือนยกเขาพระสุเมรุออกจากอกแน่ะ สงสัยคุยกันเพลินไปหน่อย ตอนนี้1:30 PMแล้ว คุยกันตั้ง 30นาที หม่อมแม่ด่าแน่เลย ทำยังไงดีเนี่ย
“ครับ...แล้ว.....”
“...” พี่แม็คก้มหน้าลง ทำไมเหรอคะ น้ำกัดเท้าหรอคะพี่ ^_^”
“เอ่อ...” พี่ท่านยังคงก้มหน้าต่อไป เอ..หรือว่าเป็นฮ่องกงฟุต -_-“
“...” มองหน้าพี่เขาอย่างสงสัยและพินิจพิเคราะห์ อุ้ย!...พี่แม็คมีสิวที่ขมับซ้ายด้วยแหละ>O<”
“เรื่องที่เขาว่ากัน” หูที่กางเหมือนเวตาลของพี่แม็คเริ่มแดงๆขึ้นมาเหมือนโดนจับลวก เพราะฉันไม่เห็นหน้าก็เลยไม่รู้ว่าหน้าจะแดงรึเปล่า...
“ว่ากันว่าอะไรเหรอคะ?” ทำหน้าแบบใสซื่อไม่รู้เรื่องอารายเลยนะค้า
“...”พี่แม็คเงียบไป ฉันเลยเริ่มรำคาญ จะพูดอะไรเนี่ย ถึงเป็นชายในฝันก็ด่าได้นะจะบอกให้ คิ้วฉันเริ่มเขยิบเข้าหากันจนเกือบจะติดกันเหมือนฆาตกรต่อเนื่องใจโหดในเมืองนอกเลย (ฉันชอบเรื่องแนวนี้มากเลยนะ มันสนุกดี)
“นี่เป็ดไม่รู้เรื่องเหรอ” พี่แม็คเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าแบบว่า‘นี่ทำไม่โง้โง่อย่างนี้ ข่าวมันออกจะดัง’โถ่พี่ รู้สิยะ มันเรื่องเกี่ยวกับฉันทั้งนั้นเลยนะ จะไม่ให้รู้ได้ยังไง แต่ว่า พี่จะพูดเรื่องข่าวอะไรล่ะ หนูมันคนดัง ลงข่าวหลายฉบับนะ 0.0
“เรื่องอะไรล่ะคะ พี่ไม่พูด แล้วเป็ดจะรู้ได้ยังไง”
“ก็เรื่อง....ที่เขาว่า” แล้วพี่เขาก็ก้มหน้ามองเท้าตัวเองอีก รองเท้านักเรียนมันแพงนักหรือไงยะ มองมันอยู่นั่นน่ะ กลัวหายเหรอ
“...” ฉันเริ่มเอียงคอเท้าสะเอวแล้ว พี่คะ ... พี่ตกไทยเหรอคะ เลยไม่รู้ว่าคำว่า ‘เร็ว’ มันแปลว่าอะไรน่ะ
“ที่เขาว่าเป็ดแอบชอบพี่น่ะ จริงรึเปล่า” พี่แม็คเงยหน้าขึ้นมา แก้มพี่เขาเป็นชมพูอ่อนๆลามไปถึงหู เห็นแล้วอยากจะหอมซักฟอดเลย (^_^)    ฉันเริ่มสับสนกับคำถามที่เขาถามมา ถ้าฉันบอกความจริงไป พี่เขาจะเกลียดเราไหมน่ะ
“ไม่ค่ะ โถ่..พี่ นักข่าว...เขียนอะไรก็ได้อยู่แล้ว” พูดโกหกออกไปอย่างตั้งใจเลย ด้วยความกลัว...กลัวที่พี่เขาจะเกลียดเรา
“เหรอ...อืม ครับ งั้นพี่ไปส่งที่บ้านนะ บ้านพี่อยู่แถวนี้เหมือนกัน” พี่แม็คเดินไปบ้านฉันถูกทางด้วย ทำไมพี่เขาถึงรู้ล่ะว่าบ้านฉันอยู่ไหน .V. แล้วทำไมพี่เขาต้องทำหน้าเศร้าๆด้วยอ่ะ หรือพี่เขารู้ว่าเราโกหกหว่า โอ้ว...พี่เขาเป็นเครื่องจับเท็จ
“งั้นเป็ดลาแล้วนะคะพี่แม็ค กลับบ้านดีๆนะคะ” ฉันกำลังจะเดินเข้าบ้านแต่พี่แม็คจับมือฉันไว้ก่อน หน้าฉันร้อนวูบวาบๆ
“อะไรคะ?” หันไปมองพี่เขาอย่างสงสัย พี่เขาจับมือฉันทำไมน่ะ รู้ไหม ฉันจะละลายแล้วนะเนี่ย -~-
“เอ่อ...ไม่มีอะไร พี่ไปล่ะนะ” พี่เขาเดินลึกเข้าไปในซอยอีก ฉันรีบวิ่งตามไปโดยโยนกระเป๋าไว้ที่หน้าบ้าน
“นี่อะไรเนี่ย โยนกระเป๋าที่ประตู ถ้าประตูพังใครจะจ่ายฮะ” แม่ตะโกนไล่หลังมา ฉันรีบผลักพี่แม็คไปอย่างรวดเร็วเหมือนติดจรวด เพราะกลัวว่าพี่เขาจะหูอื้อไปเสียก่อน
“นี่...เธอทำอะไรน่ะ” แม็คหันมาข้างหลังตอนที่ฉันเริ่มหยุดวิ่งแล้วเพราะมันเหนื่อย  ฉันยืนพักกับเสาไฟฟ้าแล้วหอบแฮ่กๆ
“แล้ววิ่งตามพี่มาทำไมล่ะเนี่ย” พี่แม็คมองอย่างงงๆ ทำไมมันปรับอารมณ์เร็วขนาดนี้วะเนี่ย เมื่อกี้ยังเศร้ายู่เลย ไมตอนนี้ร่าเริงแล้วเนี่ย เศร้าต่อสิ เป็ดไม่ว่านะคะ
“ก็ ....จะถามว่า พี่เป็นอะไรหรอ ทำไมดูเศร้าๆยังไงไม่รู้ นี่เป็ดเป็นห่วงนะ”
“อุ้ย...เป็นห่วงพี่ด้วยเหรอ” พี่แม็คทำเสียงน่ารักน่าชังน่ากอดและน่าจูบในคราวเดียวกัน
“ไม่นี่ หนูไม่ได้พูดอะไรทั้งน้าน...แล้วบ้านพี่อยู่ไหนอ่ะ”นี่ฉันหน้าด้านไปรึเปล่าเนี่ย ถามหาบ้านเขาใหญ่เลย
“หลังนี้แหละ”พี่เขาชี้นิ้วไปข้างหน้า อ่าวเฮ้ย! ถัดจาดบ้านฉันไป 1 หลังเอง ทำไมฉันไม่รู้จักเขาก่อนหน้านี้เนี่ย ฉันช่างไร้ซึ่งมนุษยสัมพันธ์เลย คนหล่อๆข้างๆบ้านทำไมไม่รู้จัก ฮึ่ม...>0<
“จริงดิ...แล้วเข้าบ้านพี่ได้ไหมอ่ะ” o.o -.- o.o -.- กระพริบตาปริบๆเรียกร้องความสงสาร(หรือมันจะน่าถีบหว่า เอ...ไม่แน่จาย)
“เอ่อ...กลับบ้านดึก แล้วแม่ไม่ว่าเหรอครับ”
“ว่า แต่เป็ดหน้าด้าน คิกๆ”
“เข้าก็ได้ แต่รีบกลับบ้านนะ” พี่แม็คขยิบตาน่ารักมาให้ฉัน แล้วผลักหลังฉันเข้าบ้าน บ้านพี่แม็คดูท่าจะใหญ่กว่าบ้านฉันหน่อย รถก็มีหลายคัน อิจฉาจังเยย แหะๆ น้ามยายไหย
“เฮ้ย...แฟนนายเหรอแม็ค  พ่อแม็คมีแฟนแล้ว มีแฟนน่ารักซะด้วยสิ” อุ้ย เขาว่าฉันน่ารักเหรอ เลิกชอบแม็คละ มาชอบคนนี้แทน ในที่สุดก็มีคนชมเราแล้วโว้ย!
“น่ารักอะไรกันพี่มายด์ นี่ขี้เหร่ที่สุดใน ร.ร.แล้วนะ” พี่แม็คพูดแล้วชี้ๆมาที่ฉัน ฉันเอนตัวหลบยังไงพี่แกก็ยังชี้ตามมาอยู่นั่นแหละ ใจร้ายที่สุด
“แง้..อย่าพูดเรื่องนี้จิ มันแทงหัวใจสีแดงทั้งสี่ห้องแล้วนะ” พูดแล้วกุมหน้าอกแล้วแกล้งทำทรุด พี่แม็คยังคงยืนเฉยแล้วเอาเท้าเขี่ยฉันเล่น เห็น
ฉันเป็นอะไรเนี่ยฮะ *-*
‘ตึกๆ เอี๊ยดอ๊าด’
เสียงคนวิ่งลงบันไดมาดังขึ้น จะรีบร้อนอะไรนักหนา วิ่งมาขนาดนั้น
“ไหนๆ แฟนไอ้แม็คมัน” ชายวัยประมาณ 50 วิ่งลงมาแล้วมองหาคนที่มองหาอยู่ มายด์ คงจะเป็นพี่ของแม็คน่ะนะ...ชี้ตัวฉันมาการเหมือนชี้ตัวคนร้ายคดีข่มขืน...0.0 ทำไมฉันเปรียบตัวเองอย่างงั้นฟะเนี่ย
“เอ่อ...หนูไม่ใช่ .”
“แฟนแกน่ารักดีนะ สวยกว่าแฟนไอ้มายด์มันอีก”พ่อพี่แม็คพูดเปรยๆ มายด์ถลึงตาใส่พ่อทันที
“เมย์เขาสวยออก นิสัยดีด้วย ยัยนี่นะ นิสัยยังดีไม่เท่าเลย” มันจะมากไปแล้วนะ >o<
“นี่พี่มายด์ รู้จักฉันดีมากเลยใช่ไหมถึงมาเปรียบกับคนอื่นได้น่ะ รู้นิสัยฉันมากนักเหรอเลยมาด่าแล้วเปรียบกับน้องเมย์สุดที่รักของพี่เนี่ยฮะ ตา
บ้า!” ฉันตวาดแหวออกไปก่อนที่จะปิดปากตัวเองเพราะว่ามันพลั้งปากไป .... คือฉันยังไม่ได้บอกคุณผู้อ่านเหรอคะ บอกก็ได้ คือ เวลาฉันโกรธหรือเสียใจมากๆ ฉันมักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ บางทีก็ด่าไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนเส้นเอ็นกระตุกอ่ะค่ะ - -“
ชายทั้งสามมองนิ่งอึ้งมองตรงมาทางฉันคนเดียว หนูพลั้งปากไปค่ะ หนูไม่รู้ >o<
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” ฉันรีบขอโทษขอโพยใหญ่ ก็มันพลั้งปากนี่ นายอยากทำฉันโมโหเอง
“ผมสิขอโทษ ที่เอาคุณไปว่าอย่างนั้น แหะๆ”พี่มายด์รีบขอโทษขอโพยฉัน ฉันเลยขอตัวออกจากบ้านโดยมีแม็คเดินมาส่งด้วย
“กินข้าวรึยังอ่ะ”
“ยังเลย...พ่อฉันทำอาหารไม่ค่อยอร่อยเลย ปกติฉันซื้อกินเอา” แม็คทำปากเบ้ คงจะนึกถึงรสชาติอาหารที่พ่อทำ
“เอาอย่างงี้...พี่ไปกินบ้านเป็ด แม่เป็ดทำอาหารอร่อยมาก” ฉันยกนิ้วให้รับประกันฝีมือ
“ไม่ล่ะมั้งครับ ไม่สะดวกรึเปล่า เรายังไม่ค่อยรู้จักกันเลย เข้าบ้านผู้หญิงมันเสียมารยาท” พี่แม็คเกาๆหัวตัวเอง เป็นเหาหรือสังกะตังรึเปล่า
หว่า...-o-
“โถ่...เป็ดยังเข้าบ้านพี่ได้เลย แล้วพี่จะเข้าบ้านเป็ดไม่ได้เชียว...ไปกันเลย” ฉันดันหลังพี่แม็คเข้าบ้าน พี่เขาก็ยอมแต่โดยดี...ทันใดนั้น ทัพพีก็ลอยมาตรงหน้า ฉันเบี่ยงตัวหลบและลากพี่แม็คไปกับฉันด้วย ทัพพีเลยลอยไปโดนประตูแทน
“ทำไมกลับบ้านดึกๆดื่นๆ แล้วตานี่มันเป็นใคร” แม่ตะโกนดังลั่นบ้าน ไม่กลัวเสียงแหบเหรอแม่คะ พี่แม็คทำหน้าแหยๆแบบว่าเหมือนกลัวอ่ะนะ
“ผมกลับบ้านก็ได้นะครับ เห็นไหมเป็ด พี่บอกแล้วว่าไม่น่าจะได้” พี่แม็คทำท่าจะออกไป ฉันจับมือพี่เขาไว้ก่อน
“ก็นี่เพื่อนหนูอ่ะค่ะ อยู่บ้านข้างๆนี้ เขาจะมาขอกินข้าวกับเราหน่อย เพราะหนูไปโม้ว่าแม่ทำกับข้าวอร่อยมาก เขาเลยหนีฝีมือพ่อเขามากินฝีมือแม่โดยเฉพาะเลยน้า” ฉันยิ้มๆให้แม่ รอยยิ้มเริ่มปรากฏขึ้นบนหน้าแม่ฉันแล้ว แม่ฉันเป็นคนบ้ายอมาก แค่ยออะไรหน่อยก็ยอมแล้ว (^o^)
“โอเค วันนี้แม่จะทำอาหารสุดฝีมือเลย ให้เพื่อนเป็ดรู้ว่า แม่เก่งกาจแค่ไหน ฮ่าๆๆ” พอแม่ฉันเดินเข้าครัวไปอย่างคนบ้าฉันก็รีบวิ่งไปเอาเก้าอี้กับจานเพิ่ม แต่เอ๊ะ! ทำไมมันมีเก้าอี้เพิ่มอีกตัวล่ะ หรือว่า? O.o
“เป็ด” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“พี่ปาล์ม” ฉันวิ่งไปโผกอดชายสุดที่รักทันที ถ้าหอมแก้มได้หอมไปแล้ว แต่พี่ฉันเนี่ยนะ ไม่เอาดีกว่า
“กลับมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“เมื่อกี้นี้เอง สาวนครนายกไม่สวย เลยกลับมาหาน้องสุดสวยของพี่ดีกว่า” ฉันยิ้มๆ นี่พี่เขาบอกฉันสวยจริงหรือพูดเล่นเนี่ย พี่ยิ่งเชื่อไม่ได้อยู่
“เชอะ...หนีน้องไปเที่ยว ไม่ยอมพาไปด้วย งอนแล้ว แบร่!” แลบลิ้นแผล็บๆเหมือนผีเลียหมูในคนเห็นผีภาค 1 ให้พี่ดู ปาล์มยิ้มเยาะ(มันคงคิดว่า ‘มันทำเหมือนจริงๆเลย ถ้าลอยได้แล้วอุ้มลูกคงเหมือนเด๊ะ’แน่เลย >0<) น่าถีบจริงๆ
“โถ่...ก็เป็ดต้องเรียนนี่ พี่ก็เลยไม่พาไป ฮ่าๆ แล้ว...”
“แล้วอะไร”
“นี่ใคร แฟนเป็ดเหรอ (^o^)” อุ้ย...พี่ขา หนูก็อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนกันแหละค่ะ
“เฮ้ย!...ไม่ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนเป็ดเขา” พี่แม็ครีบพูดโพล่งขึ้นมาอย่างไว พี่ปาล์มมองฉันยิ้มๆ พ่อก็เอากับเขาด้วย นี่คิดว่าฉันเป็นแฟนพี่เขา
จริงๆเหรอเนี่ย
“นี่พี่แม็คค่ะ อยู่ม.6 อยู่บ้านข้างๆเรานี่แหละ แล้วนี่พี่ปาล์ม พี่ชายฉันเอง” หันไปยิ้มหวานให้พี่แม็ค พี่แม็คดันหัวเราะอย่างเสียจริต ฉันยิ้มตลก
นักเหรอฮะเนี่ย (- o -)
“นี่..แม็ค ชื่อกับหน้าคุ้นๆ อ๋อ..นี่ที่มันออกหนังสือพิมพ์ใช่ไหม OoO” แม่เดินมาวางผักบุ้งไฟแดงลงบนโต๊ะ ทำไมมันมีไอ้ผักแดงๆเยอะจังหว่า.....- -“
“หา...แม่จำได้เหรอ รูปในหนังสือพิมพ์มันไม่ได้หล่อเท่านี้นะคะ - * -”  เฮ้ย! หม่อมแม่เขารู้ว่าเราแอบชอบนี่ แงแงแงแง เอาไงดี
“โถ แม่ตาดีกว่าอีแร้งอีกลูก แล้วก็...ถึงแม่ห้ามยังไงนะ ถ้าเป็นคนนี้แม่รับได้ ฮิฮิ”  Oh my god! พี่แม็คต้องมีวิชาสะกดจิตหรือวิชาย้าย
วิญญาณแน่นอนเลย หม่อมแม่ยอมให้ฉันเป็นแฟนพี่แม็คได้ (แต่พี่แม็คเขาชอบหนูรึเปล่าหว่า เฮ้อ...รักเขาข้างเดียว ยังแห้งยังเหี่ยวไม่พอ
โย่วๆ เพลงน่ะค่ะ จำได้ไหม ไม่โบราณเท่าไหร่หรอก เพลงของแช่ม แช่มรัมณ์ อ่ะค่ะ)
“แม่...” พูดเหมือนโกรธๆใส่แม่ (แต่จริงๆแล้วดีใจมาก คิกๆ) แม่ยิ้มๆแล้ววิ่งเข้าไปเอากับมาอีก 3-4 อย่าง
“วันนี้มีแขกเพิ่ม 1 คน แม่เลยทำอาหารเพิ่มนิดหน่อยน่ะค่ะ”” แม่มองพี่แม็คที่นั่งข้างๆฉันแล้วมองสลับฉันไปมาแล้วยิ้มๆ รู้นะแม่คิดอะไรอยู่ แต่ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เพราะว่าพี่แม็คเขาไม่ชอบเราหรอก จริงมะ ^^”
“อ้าว...เป็ดรออะไร ตักข้าวให้พี่ๆสิ” ฉันรีบลุกขึ้นตักข้าวให้ พี่แม็ค พี่ปาล์ม พ่อ แม่ แล้วตักให้ฉันเองตามลำดับ
“แหมๆๆ...ตักให้แม็คก่อนเลยนะ ทีพี่ตัวเองน่ะ ได้ทีหลัง งอนแล้ว” พี่ปาล์มทำงอนแก้มป่องเหมือนแก้มลิง (o.o) หน้าตบให้แก้มแฟบจัง
“โถ่พี่ปาล์ม ทำอย่างงั้นก็ไม่ใช่ว่าจะน่ารักเล้ย” พูดไปก็ตักผักบุ้งไฟแดงมาบนจาน .... แซ่บมาก เผ็ดจี๊ดเข้าถึงทรวงในเลย น้ำๆ น้ำอยู่ไหน
เอ๊ะ!....อ่าว แก้วไม่ครบ ไม่มีน้ำเรานี่หว่า
“แม่อ่ะ ไม่เอาน้ำมาให้หนูเลย เผ็ดจะตาย” พูดออกไปทั้งๆที่ปากเจ่ออย่างงั้นเลย เผ็ดมาก
“เอาน้ำพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปเอาใหม่เอง” พี่แม็คพูดพลางผลักแก้วน้ำมาให้...สุภาพบุรุษมาก
“ข...ขอบคุณค่ะพี่แม็ค” ฉันพูดเบาๆ โอย...อยู่ใกล้ๆแล้วฉันจะละลาย หน้าร้อนวูบวาบๆ
“นี่เป็ด หน้าแดงจนถึงติ่งหูแล้ว ฮ่าๆ แม็คไม่ต้องเอาเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้เอง” พี่ชายตัวดีพูดแล้วเดินไปเอาน้ำมาให้พี่แม็คใหม่ นี่หน้าฉันแดง
เหรอนี่ ไม่ใช่แน่เลย พี่ฉันต้องพูดตลกแน่นอน
“บ้า ไม่เห็นแดงเลย พี่ปาล์มอ่ะมั่ว แบร่..”แลบลิ้นแผลบๆใส่พี่ปาล์ม มั่วอ่ะ มาหาว่าเราหน้าแดงเฉยเลย >_<”
“แดงจ้ะแดง เป็ดหน้าแดงแจ๋เลยล่ะ” แม่พูดแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ สงสัยคงแดงจริงอ่ะ มันไม่จริ้งหน้าฉันไม่แดง ไม่มีทาง มันไม่มีทางที่
ผู้ชายคนไหนจะทำให้ฉันหน้าแดงได้นอกจากที่พี่ปาล์มไปประจานเรื่องฉันนอนน้ำลายยืดต่อหน้านักเรียนหลายๆคนในปีที่แล้ว คราวนั้นฉันอายแทบจะมุดดินเลยล่ะ
“เอ่อ...พี่แม็คกินข้าวเถอะ แม่ฉันทำอร่อยมากเลย” ฉันก้มหน้าก้มตากินผักบุ้งไฟแดงอันแสนจะเผ็ดร้อนที่แม่ทำมาต่อไป
“ทำไมแม่ทำเผ็ดอย่างงี้อ่ะแม่ OoO” พูดไปแล้วซดน้ำอักๆ
“ก็วันนี้เห็นผู้ชาย..เอ้ย..เพื่อนเป็ดมาบ้าน ก็เลยทำเผ็ดๆหน่อย เป็ดจะได้กินไม่ได้” แม่นะแม่ รู้ว่าหนูกินเผ็ดไม่ค่อยได้ยังจะแกล้งอีก กินหมู
ทอดกระเทียมก็ได้ โถ่...ไม่ง้อหรอก
“อร่อยมากครับ อร่อยมากเลย อร่อยกว่าพ่อผมทำอีก” พี่แม็คพูดแล้วกินอย่างเร็วมาก อาหารทั้งจานหมดไปในเวลา 10 นาทีแล้วรีบขอเบิ้ลจานที่ 2 ต่อ แม่นี่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งเลย บ้ายอจริงๆเลยแม่ของหนู
“อุ้ย! อร่อยขนาดนั้นเชียว วันหลังมากินที่บ้านอีกก็ได้นะจ๊ะ แม่ไม่ว่า” แม่พูดพลางตักกับข้าวให้พี่แม็คกิน พี่แม็คยิ้มๆแล้วกินต่อ
“นี่ พี่เชื่อเป็ดแล้ว แม่เป็ดทำอาหารอร่อยมากเลย ^O^” พี่แม็คพูดแล้วยิ้มๆ ยิ้มน่ารักมากเลย เหมือนเด็กสามขวบ (จะบอกว่าพี่เขาหน้าเบบี้เฟส หน้าละอ่อนอ่ะ)
“แล้ว แม็คลองเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ” อุ้ย! ผู้ชายมาบ้านทีพูดดีกว่าพูดกับลูกอีกอ่ะแม่
แม่นะแม่
“ก็ ตอนนี้แม็คเป็นนักบอลของร.ร.น่ะครับ ปีนี้ผมกะจะลงวอลเลย์บอล” พี่แม็คพูดแล้วยัดผักบุ้งไฟแดงเข้าไปเคี้ยวตุ่ยๆในปาก ดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ (ยอมรับเถอะนะว่าพี่แม็คทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด)
“เป็นนักวอลเลย์เหมือนยัยเป็ดเลย นี่เป็ดมันเล่นเก่งนะ เข้าใจหาแฟนนี่ เป็นนักวอลเลย์ด้วย” พี่ปาล์มพูดออกตัวแทนฉันใหญ่ แล้วมาบอกเขาเป็นแฟนฉันอีก
“ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนไง พูดจนปากจะฉีกถึงติ่งหูแล้วยังไม่เข้าใจอีก!”ลุกตะโกนทันที พี่แม็คอึ้งนิดหน่อย แต่ว่าพวกพ่อแม่ไม่รู้สึกอะไรเลย คงประมาณว่าชินมั้ง
“เออ..เชื่อก็เชื่อ แล้วแม็ค แม็คชอบน้องพี่รึเปล่า พี่สนับสนุนเต็มที่นะครับน้อง” ฟังพี่ปาล์มพูดเข้าสิ พี่แม็คนี่อายม้วนหน้าแดงแจ๋เลย
“พอพอเลย พี่เขาไม่ชอบหนูหรอก” ฉันโบกมือปัดๆไป
“ก็ไม่แน่ ของอย่างนี้ไม่ได้ยินจากเจ้าตัวเองก็ไม่รู้นะ อย่างพ่อเนี่ย ตอนแรกพ่อเขาไม่ชอบแม่เลย แล้วตอนนี้ล่ะครองรักกันจนมีสองตัวนี้แหละ ตา ยายนะ มีแต่บ่นๆว่าพ่อจะมาคบหลอกๆ พอท้องแล้วก็ทิ้ง..แล้วตอนนี้ล่ะ ^^” แม่พูดยิ้มๆ แล้วมองฉันสลับกับพี่แม็คอีกแล้ว พี่แม็คมองหน้าฉันยิ้มๆ อย่าทำหนูหวั่นไหวสิคะ หนูไม่ชอบพี่หรอก แค่ปลื้มเองเห็นเล่นบอลเก่งแค่นั้นเอง O3O
กินข้าวเสร็จก็เดินออกมาส่งพี่แม็ค แม่เอากับข้าวสองสามอย่างให้พี่แม็คเอากลับไปให้พ่อกับพี่ของพี่แม็คกินด้วยแหละ สงสัยแม่สนับสนุนพี่เขาเต็มที่ นี่ขนาดเพิ่งรู้จักกันนะเนี่ย
“พ่อแม่เป็ดน่ารักจัง แม่ทำอาหารอร่อยด้วย” เดินคุยกันท่ามกลางความมือ ช่างโรแมนติกอะไรอย่างนี้ ^_^
“แน่นอน แม่ฉันเป็นกุ๊กโรงแรมห้าดาวเลยนะขอบอก” พูดแล้วยิ้มแบบภูมิใจในแม่ตัวเองมากเลย
“อืม.. งั้นพี่เข้าบ้านเลยนะ” พี่แม็คยิ้มให้ฉันด้วยแหละ ทำไมฉันต้องทำอะไรไม่ถูกเก้ๆกังๆอย่างงี้ด้วยล่ะ มือไม้อ่อน เข่าแทบทรุดแน่ะ
“ค่ะ...บายนะคะ แล้วเจอกัน” ฉันโบกมือบ๊ายบายพี่แม็คแล้วจะเดินเข้าบ้าน
“เป็ด...”
“อะไรคะพี่”
“ร้านน้าเป็ดรับคนอีกไหมอ่ะ พี่จะหางานพิเศษทำหน่อย ขี้เกียจทำไกลบ้าน”พี่แม็คพูดแล้วเกาหัวตัวเองอีก ฉันว่าพี่แกเป็นสังกะตังแหงเลยอ่ะ
“น่าจะรับนะคะ เดี๋ยวคุยกับน้าลาให้ รับรองพี่ได้งานแน่” พูดไปยิ้มไปแล้ววิ่งขึ้นห้องเลย ใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร ทำไมฉัน...ยังไงอ่ะ บอกไม่ถูก มันเป็นแค่ตอนอยู่กับพี่แม็คคนเดียวเลย หรือว่า.....ไม่ใช่หรอก ถ้างั้น
นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะพี่แม็ค ^^
***************************************
แหะๆ.....บอกหน่อยนะ ความจริงเราเปงผู้ชายอ่ะ ตอนแรกจะหลอกเพื่อนมันไม่ให้รู้ แต่ตอนนี้มันรู้กันทั้งห้องแล้วก็เลยบอกแหละ ที่ไม่ได้อัพนี่เพราะว่าเราย้ายบ้านแล้วยังไม่มีเน็ตอ่ะ ตอนนี้มีเน็ตแย้ว ดีจาย ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น