ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักเผ็ดๆ...ของยัยเป็ดขี้เหร่

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : นี่หรือ...เรียกว่าเพื่อน

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 48


                        เดินเข้าร.ร.ด้วยอารมณ์แจ่มใสตอนเวลา 7.30 น. แต่พอสายตาฉันเหลือบไปเห็นที่ตั้งขายหนังสือพิมพ์ร.ร.ก็แทบสำลักไมโลที่เอามากินตอนเช้า



                    อยากเด็ดดอกฟ้า

        เป็ดขี้เหร่ประจำโรงเรียนได้เปลี่ยนสปีชี่ส์เป็นสุนัขเห่าเครื่องบินเมื่อวานนี้ ด้วยการไปแอบหลงรัก แม็ค หนุ่มผู้โชคร้ายนักฟุตบอลโรงเรียน  เธอเดินไปแอบมองเขาตลอดเวลาตั้งแต่เวลา 15.30 – 17.00 น.  ทำเอาเป็ดตัวผู้อกเดาะไปตามๆกัน

                                สวย...กานดา



    ข้อความเหล่านี้ขึ้นหัวจั่ววางขายอยู่หน้าร.ร. ฉันวิ่งไปซื้อมา 1 ฉบับแล้ววิ่งขึ้นไปที่อาคารเรียนอย่างรวดเร็ว เส้นเลือดในสมองมันเต้น ตุบๆ ด้วยความโกรธ...



    “ไอ้สวย นี่หมายความว่ายังไงกันฮะ” ฉันโยนหนังสือพิมพ์ใส่ไอ้สวยที่ยืนเม้าท์กับเพื่อนอยู่หลังห้องแล้วเหวี่ยงกระเป๋าไปด้านหลังโดยไม่สนใจคนที่จ้องมองมายังฉันอีกต่อไป



    “อะไรหรอ” สวยหันมาทำหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ทันที        



    “ไม่ต้องเลย ข่าวที่ขึ้นหราอยู่หน้าหนังสือพิมพ์เนี่ย หมายความว่าไง”



    “ไหน...” ไอ้สวยแกล้งทำหยิบขึ้นมาดูแล้วพยักหน้าหงึกๆ



    “ก็....เขียนตามจริงนี่ อะไรหรอ ผิดเหรอ ฉันเป็นนักข่าวก็ต้องหาข่าวเป็นธรรมดาสิ” ไอ้เพื่อนเลวนี่ ถ้าฉันเป็นเหมือนในหนังสือฉันคงกลายเป็นมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวไปแล้วล่ะตอนนี้ เพราะมันพูดจนฉันโกรธจริงๆแล้ว



    “ผิดสิฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน คราวที่แล้วแกขึ้นเขียนฉันขี้เหร่เนี่ย ฉันก็แทบจะพลิกแผ่นดินหนีแล้ว แล้วนี่มันอะไร ไอ้สวย”



    “ข่าวไง…”



    “ไม่ต้องมาพูดกวนเลย แกทำอะไรหัดมีสามัญสำนึกบ้างสิ ไม่ใช่แกอยากจะเขียนอะไรก็เขียน”ตอนนี้ตาฉันเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาออทีตา



    “ทำไมฉันจะเขียนข่าวยังไงมันก็เรื่องของฉัน แกมายุ่งอะไรด้วย”



    “แกจะเขียนอะไรก็เขียนไปสิ แล้วทำไมต้องมาเขียนเรื่องฉัน ฉันเสียหายนะเว้ย”



    “แกมีอะไรให้เสียอีกล่ะ หน้าตาก็ขี้เหร่ ดีที่เรียนดีแค่นั้นแหละ นี่ถ้าฉันไม่หวังจะหาข่าวแล้วลอกงานแกนะ ฉันไม่ลดตัวมาคบกับแกหรอก” ฉันไม่อาจจะหยุดยั้งน้ำตาที่ไหลทะลักออกมาจากดวงตาของฉันได้แล้ว น้ำตาใสๆไหลออกมาจากตาอย่างหยุดไม่ได้ มันเพราะอะไร เสียใจ หรือโกรธ?

    คบเป็นเพื่อนกับฉันเพื่อลอกงานกับหาข่าวงั้นหรอ



    “...” ฉันพูดไม่ออกเหมือนคำที่จะพูดมันติดคออยู่ ฉันกำหมัดแน่นแล้วปาดน้ำตาออก



    “แล้วแกจะทำไมฮะ ไอ้เป็ด อยากให้ข่าวพรุ่งนี้ดีก็ออกไปแถลงแก้ข่าวซี้ ออกไปได้เลย”



    “ไอ้สวย ทำไมทำอย่างนี้ล่ะ”



    “ทำไม อยากจะทำ แล้วทำไมจะทำไม่ได้ นี่มันชีวิตฉัน ฉันจะทำอะไรกับชีวิตฉันก็ได้”



    “แต่ชีวิตของแกทำชีวิตฉันเดือดร้อน ทำไม แกไม่แคร์คนอื่นบ้างเลยเหรอ”



    “ไม่ ฉันแคร์คนอื่น ยกเว้นแก คนอย่างแกน่ะ ถึงฉันไม่แคร์มันก็ไม่มีใครแคร์อยู่แล้ว แกมันหน้าตาอัปลักษณ์ รู้ตัวไว้ด้วย”



    “แกเป็นเพื่อนฉันหรือเปล่าเนี่ย เพื่อนกันไม่ทำกันอย่างนี้นะ”



    “นี่ ฉันไปเป็นเพื่อนแกตอนไหนกันล่ะ ฉันไม่เคยและไม่อยากมีเพื่อนน่าเกลียดอย่างแก”



    “อะไรกัน ไอ้สวย.....” ฉันทรุดเข่าอ่อนลงตรงนั้น น้ำตายังคงไหลต่อไม่ขาดสาย นั่งสะอึกสะอื้นอยู่หลังห้องอย่างไม่อาย



    “จำไว้ แกไม่เคยเป็นเพื่อนฉัน ฉันมาแกล้งคบกับแกเพื่อหาข่าว เพราะฉันเป็นนักข่าว ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อได้ข่าวที่ต้องการ เข้าใจไหม ไอ้น่าเกลียด ไอ้อัปลักษณ์”



    ‘เพียะ’

    ฉันลุกขึ้นมาตบหน้าไอ้สวยอย่างแรง หน้ามันหันไปตามฝ่ามือที่ซัดออกไป มีรอยมือสีแดงบนใบหน้าไอ้นักข่าวเลวนั่น  



    “ไอ้เป็ด....แก..แกตบฉันเหรอ”



    “จะทำไม แกรู้จักฉันน้อยไปแล้วไอ้สวย ที่ฉันสงบเสงี่ยมน่ะ เพราะแม่ฉันอยากให้เป็น อาจจะเพราะ แกไม่เคยเป็นเพื่อนฉันน่ะนะ แกก็เลยไม่

    รู้”



    “เพื่อนกันไม่ตบกันนะเว้ย!”



    “อ้าว...จะกลืนน้ำลายตัวเองแล้วเหรอ เมื่อกี้ยังบอกเลยว่าไม่ใช่เพื่อนฉัน ถ้ายังไง”



    ‘ผัวะ’

    ฉันต่อยหน้าไอ้สวยอย่างแรง จนมันลงไปกองกับพื้น สะใจมากฮะฮะ



    “ขอฝากหมัดนี้ให้แกด้วยนะ คนแปลกหน้า  .... ไอ้สวย แกไม่ใช่เพื่อนฉัน” ฉันยืนชี้หน้ามันแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทันที



    วันนี้ทั้งวันฉันไม่คุยกับใครเลย เพื่อนเกือบครึ่งห้องพยายามจะมาปลอบฉันแต่ฉันก็อยากอยู่คนเดียวมากกว่า  ที่คบกันเป็นเพื่อนมา 2 ปีนี่ ไม่มีความหมายอะไรเลย ทำไม....เพื่อนรักที่น่ารักนิสัยดีของฉันหายไปไหน  



    สายฝนที่โปรยปรายลงมามันช่างเหมือนหนังเกาหลีที่เวลาซึ้งๆเศร้าๆจะมีฝนตก...

    พอฝนหยุดตก ฉันก็เดินกลับบ้านมาด้วยท่าทีเหมือนผีตายซากหรือซอมบี้ก็ไม่ปาน งงงานไม่ทำแล้ว ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลยตอนนี้ เปิดประตูบ้านไปแล้ววิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็วโดยไม่สนสิ่งที่จะตามมา



    “ไอ้เป็ด เข้ามาทำไมไม่ปิดประตู เดินเสียงดังดูไม่มีสกุลรุนชาติหมด แล้วสวัสดีแม่รึยังเนี่ย มารยาทที่แม่สอนมาหายไปไหนหมด ... ไอ้เป็ดลงมานี่”



    ‘ปัง’

    ฉันปิด ประตูแล้วกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง ฉันสะอื้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้



    “นี่เป็ด เป็นอะไรไม่ได้ยินแม่พูดเหรอ” แม่ยังคงตะโกนขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ฉันก็ไม่สนใจยังคงนอนเอาสะอื้นหน้าซุกหมอนอยู่อย่างนั้น ฉันได้ยินเสียงฝีกำลังขึ้นบันไดมา ลูกบิดประตูถูกบิดแล้วประตูก็เปิดออกพร้อมกับมีเงาของแม่ยืนอยู่



    “เป็ด...เป็นอะไรลูก” แม่พูดแล้ววิ่งมาโผกอดฉันที่นอนสะอึกสะอื้นอยู่บนเตียง ฉันชี้มือไปที่โต๊ะการบ้าน แม่ลุกขึ้นไปหยิบหนังสือพิมพ์ร.ร.มาอ่าน  



    “เรื่องจริงเหรอเป็ด” แม่หันขวับมาทำตาเขียว แม่รู้ว่าเราแอบมองผู้ชายแล้ว 0.0



    “มะ...มะ...ไม่จริงค่ะ” พูดออกมาทั้งที่สะอื้นอยู่อย่างนั้น แม่นะแม่ แทนที่จะปลอบ



    “ใครเป็นคนทำเรื่องนี้” แม่ตะโกนขึ้นมาทันที สีหน้าโกรธจัด ฉันไม่เคยเห็นแม่เป็นอย่างนี้เลย



    “ไอ้สวยไงแม่”



    “หา...นังสวยน่ะเหรอ”



    “อืม...เลิกคบมันไปแล้ว” พูดด้วยน้ำเสียงแบบสะอื้นเพราะยังเสียใจไม่หายและมีแม่มารื้อฟื้นด้วยใครบ้างล่ะที่จะไม่ร้อง



    “ดี แล้วพรุ่งนี้ แม่ไปร.ร.กับเป็ดนะ รอแม่ด้วย” แม่พูดเสียงเข้มแล้วเดินออกจากห้องพร้อมหนังสือพิมพ์นั่น  อะไรกัน ไม่มีการปลอบเลยหรอ ลูกสาวทั้งคนลงหนังสือพิมพ์อย่างเสียๆหายๆนะแม่ ไม่โอ๋ๆอะไรมั่งเลย



    น้อยใจลึกๆนะเนี่ย....



    ตื่นเช้ามาด้วยท่าทางเหมือนศพเดินได้เหมือนเดิม แต่งตัวอะไรเสร็จแล้วก็เดินลงมาOoO…ภาพที่ฉันเห็นเบื้องล่างก็คือ.....แม่แต่งตัวสวยอยู่ข้างล่าง ฉันแทบจะตกบันไดเลย เพราะทั้งชีวิตนี้เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก



    “มองอะไร ทำอย่างกับเห็นผีแน่ะ เสียมารยาท” นี่ฉันมองมากไปหรอนี่ อุ้ย! เสียมารยาทไม่ควรทำนะคะท่านผู้อ่านทุกท่าน



    “เปล่าค่ะเปล่า เห็นแม่สวยก็เลยมองน่ะค่ะ สวยผิดหูผิดตาสวยดั่งดอกลีลาวดีเลยค่ะ”



    “จริงหรือจ้ะ อุ้ยแม่เจ้า! แม่สวยขนาดนั้นเชียว เว่อร์ไปมั้ง” แม่ทำตัวบิดไปบิดมาเหมือนกุ้งเต้น



    “แต่ดอกลั่นทมมั่นปลูกแถวเมรุนี่ ชื่อไม่เป็นมงคลด้วย ลูกเวร” แม่วิ่งมาจะตีหลังฉัน ฉันวิ่งหนี แม่ก็วิ่งตามเหมือนหนูไล่กัดแมว พอฉันกินขนมปังปิ้งเป็นอาหารเช้าเสร็จ ฉันก็เดินทางออกไปร.ร.พร้อมแม่



    “นี่มันหมายความว่าไงคะผอ. คุณปล่อยให้ข่าวอย่างนี้ไปอยู่ในหนังสือพิมพ์โรงเรียนได้ยังไงคะ”



    “เอ่อ...”



    “รู้ไหมว่าลูกฉันเสียหายนะคะ มันไม่มีกองเซนเซอร์ข่าวเลยหรือคะ”  



    บทสนทนาระหว่างมารดาที่น่ารักและผอ.สร้างความอับอายให้ฉันเป็นอย่างมาก  ฉันเลยเดินหนีออกจากสถานที่นั้นทันที เดินออกไปดูหนังสือ และแล้ว สายตาก็ไปเห็นหนังสือพิมพ์ของวันนี้ที่ขึ้นหน้า 1 เกี่ยวกับฉันอีกแล้ว



            เป็ดขี้เหร่อารมณ์ร้าย ตบและต่อยเพื่อนสาวกลางห้องเรียน

    เนื่องจากกระแสข่าวเมื่อวานที่ว่า เป็ดขี้เหร่ไปแอบมอง แม็ค นักฟุตบอลโรงเรียนทำให้เป็ดสาวเครียดจัด ทำร้ายเพื่อนกลางห้องเรียน ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย เพียงเพราะเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไปถามถึงเรื่องข่าวที่เกิด

                            สวย...กานดา



    ยืนตะลึงงันอยู่หน้าที่ขายหนังสือพิมพ์อยู่ประมาณ 10 วินาที รีบหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องเรียนทันที



    “เฮ้ย! น้อง จ่ายตังค์ก่อน” คนขายหนังสือพิมพ์ตะโกนไล่หลังมา กรรม...โกรธจนลืมจ่ายเงินเลยฉัน “ค่ะๆ โทษค่า” ฉันโยนเหรียญ 10 บาทไปตกแหมะบนแผงพอดิบพอดี โอ้! ฉันเก่งจริงๆเลยจอร์จ

    พอถึงห้องเรียนฉันก็เดินหามนุษย์ร่วมห้องของฉันที่ชื่อ’สวย’(คือไม่อยากเรียกมันว่าเพื่อนน่ะนะ)



    “ไอ้สวย นี่แกจะจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหนเนี่ยฮะ”



    “อะไรเหรอจ๊ะ” ฉันปาหนังสือพิมพ์ใส่หน้ามันอีกครั้งในรอบสัปดาห์ สะใจจริงจริ้ง



    “จะอะไรอีกล่ะ จะเล่นกับใครน่ะ ดูให้มันดีๆ”



    “แล้วทำไม ฉันบอกแล้ว ว่าทำอะไรก็เรื่องของฉัน” ไอ้สวยลุกขึ้นมามองหน้าหาเรื่อง หน้าหมั่นไส้จริงๆ



    “ใช่ฉันก็ได้ยิน แต่จะทำอะไรกับใครน่ะ ดูคนด้วย แล้วอย่าหา ...... ว่าฉันไม่เตือน”



    “...” ฉันยิ้มกระหยิ่มในใจ เพราะสีหน้ามันเริ่มเปลี่ยนจากยิ้มเยาะเป็นหน้าตกตะลึงทันที



    “คงเข้าใจนะ....กานดา” ว่าแล้วฉันก็เดินเก็บกระเป๋าที่โต๊ะ เพื่อนๆในห้องก็เข้ามาคุยกับฉันอย่างปกติ กานดานั่งเหม่อลอยอยู่หลังห้อง คงหวาดๆอยู่แหละ สะใจเจ๊จริงๆ โฮะๆ! สมน้ำหน้า



    สะใจจริงๆ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×