คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ★เริ่มแน่ใจ.
★Hunz Part :
วันนี้ผมกับแกงส้มไม่ได้กลับบ้านด้วยกันเหมือนทุกวันเพราะน้องมีโปรเจคถึงดึก ครั้นจะให้ผมนั่งรอมันก็ดูจะมีพิรุธไปหน่อยมั๊ยครับ คนไม่ได้เป็นอะไรกันจะให้ไปนั่งรอกันคนอื่นเค้าจะมองกันยังง๊ายยย (ไรต์ : แคร์ด้วยหรอออออออ) ผมเลยขอตัวกลับมานอนเล่นที่หอ แต่นอนยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีเสียงรบกวนจากภายนอกปลุกให้ผมตื่นซะก่อน
ก๊อกๆๆๆ..
“เข้ามา”
“เห้ยพี่ฮั่น เดี๋ยวนี้ติดเด็กหรอวะ”
“เด็กอะไรของมึงวะไอแคน”
“ผมเห็นพี่ไปม.กับไอเด็กหอตรงข้ามนี่ทุกวัน ไปรู้จักกันตอนไหนวะ”
“น้องรหัสไอโน่มัน ก็หอเดียวกันไปด้วยกันก็ไม่เห็นแปลก” ผมตอบปัด มือยังคงไม่ปล่อยจากโทรศัพท์มือถือ
“ให้มันจริงเหอะพี่ อย่าให้รู้นะเว่ยว่าติดเด็กแล้วทิ้งน้องอ่ะ”
“เออ แล้วนี่มึงมาห้องกูมีอะไรอีก”
“ว่าจะมายืมกีต้าร์เฉยๆ ไปล่ะ” แล้วมันก็คว้ากีต้าร์ผมไปอย่างหน้าตาเฉยครับ ดู๊ดูไอน้องคนนี้- -
พรึ่บ..
หลังจากไอแคนออกจากห้องไปไม่ถึงสิบนาทีไฟทั้งหอก็ดับ ปัญหาประจำครับหอผม ไม่รู้ว่าเจ้แกลืมจ่ายค่าไฟหรือยังไง ไฟดับได้ดับดี แรกๆผมก็กลัวนะครับแต่หลังๆผมเริ่มชิน เทียนไขที่ห้องนี่มีเป็นโหล ผมพยายามข่มตาตัวเองให้หลับ ไหนๆไฟก็ดับแล้วนอนเลยละกัน- - ยังไม่ทันที่ผมจะหัวถึงหมอนก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหน้าต่าง..
“พี่ฮั่น”
“หืม? ผีหลอกป่าววะไอฮั่น”
“พี่ฮั่นอยู่มั๊ยครับ” เสียงยังคงดังอยู่เป็นระยะๆ ทำให้ผมต้องเดินหาต้นเสียงก่อนจะพบว่ามันมาจากระเบียงของหอพัก
“อ้าวแกงกลับมานานรึยัง”
“ถึงห้องตอนไฟดับพอดีฮะ”
“แล้วนี่มายืนตากยุงอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่เข้าห้อง”
“ผม..”
“ว่าไง?”
“ห้ามขำนะ ผมกลัวความมืดT_T”
“ฮ่าๆๆๆๆ โตจะตายแล้วนะเรายังกลัวความมืดอยู่อีก”
“เออ ผมกลัวความมืด แล้วไงวะ!” อ้าวงอนแล้วหรอวะ แล้วนั่นเดินเข้าห้องไปอีก ไหนบอกว่ากลัวความมืดไง ไอเด็กบ้าเอ๊ยยยย!
ผมตัดสินใจเอาเทียนไขใส่กระเป๋าก่อนจะวิ่งไปยังหอตรงข้าม ไม่ต้องเดาก็คงจะพอรู้นะครับว่าผมจะเดินไปที่ห้องไหน
ก๊อกๆๆๆ..
“แกงส้ม”
“..............................”
ก๊อกๆๆๆ..
“แกงส้ม”
“..............................”
“พี่มาอยู่เป็นเพื่อน เราจะได้ไม่กลัวไง” พูดยังไม่ทันขาดคำประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมด้วยใบหน้าของเด็กขี้งอนที่ตอนนี้ดูท่าจะงอนหนักเอาการใช่น้อย
“ผมอยู่คนเดียวได้!”
“ก็ไหนบอกว่ากลัวความมืดไง ก็มาอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่ไง”
“ก็เมื่อกี้พี่ยังขำผมอยู่เลยนี่” แสงสลัวๆจากภายนอกทำให้ผมเห็นใบหน้าของเด็กขี้งอนได้ แม้ไม่ชัดเจนนักแต่มันก็ยังดูน่ารักอยู่ดีในสายตาผม
“ลืมเรื่องนั้นไปซะ แล้วก็เปิดประตูให้พี่สักที ยุงกัดตัวลายหมดแล้วเนี่ย” ทันทีที่ผมพูดจบแกงส้มก็เปิดประตูให้ผมทันที ผมส่งเทียนไขที่จุดแล้วให้แกงส้มก่อนจะจุดอีกเล่มนึงปักไว้ที่หัวเตียง
“ห้องผมรกนิดนึงนะพี่”
“ห้องพี่รกกว่าห้องแกอีก ฮ่าๆ” ผมขำน้อยๆให้แกงส้มก่อนจะเดินไปนั่งที่ปลายเตียง ห้องแกงส้มไม่รกเท่าไหร่เมื่อเทียบกับห้องผม เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ตามผนังห้องมีรูปวาดติดไว้มากมาย ดูท่าทางก็คงเป็นฝีมือเจ้าตัวอีกนั่นแหละ ข้างหัวเตียงผมเหลือบไปเห็นคีย์บอร์ดวางตั้งอยู่
“นี่ เราเล่นดนตรีด้วยหรอ”
“เล่นดิ่พี่ แก้เบื่ออ่ะ”
“ไว้ว่างๆแต่งเพลงกัน^^”
“โอเค ถ้าผมไม่ลืมก่อนน่ะนะ ฮ่าๆ”
“เออแกไม่มีทางลืมหรอกน่า เออนี่ถามไรหน่อยดิ่”
“ว่า?”
“ทำไมถึงกลัวความมืดวะ โตจนป่านนี้แล้วนะ”
“ถ้าเล่าแล้วห้ามล้อนะเว่ย สัญญาด้วย”
“ด้วยเกียรติของอิสริยะเลย เอ้า!”
“ผมเคยเล่นซ่อนแอบกับพี่สาว แล้วทีนี้ผมไปแอบในห้องเก็บของใช่ป๊ะ ปรากฏมันล็อคออกไม่ได้ กว่าป๊าจะมาเจอก็วันถัดไป” ไม่รู้ว่าเรื่องที่แกงส้มเล่ามันน่าสนใจหรือเพราะคนตรงหน้าทำให้ผมสนใจเรื่องเล่า ผมเองก็ไม่แน่ใจ..ทุกครั้งที่ดวงหน้าหวานขยับปากพูดก็ดูจะทำให้ผมเคลิ้มอยู่ตลอด เหมือนกำลังโดนดึงดูดจากอะไรสักอย่าง
“..................................”
“พี่รู้มั๊ยคืนนั้นผมไม่หลับตาเลยนะ ผมกลัวมาก..ร้องหาใครก็ไม่มีใครได้ยิน หลังจากนั้นผมก็กลัวความมืด กลัวที่แคบมาตลอด”
“แล้วพี่อ่ะกลัวอะไรบ้างมั๊ย”
“ไม่เชิงกลัวหรอก แต่พี่..เกลียดการอยู่คนเดียว”
“หมายความว่าไงวะพี่” แกงส้มถามผมด้วยความสงสัย
“ก็ไม่ชอบอยู่คนเดียว ไม่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ก็แค่นั้น..”
“งั้น..ก็หาใครสักคนมาอยู่ด้วยดิ่” ไม่ว่าประโยคที่หลุดมาจากปากแกงส้มจะเป็นเพราะความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่มันทำให้ผมรู้สึก..หัวใจเต้นแรง..
“พูดเหมือนแกจะมาอยู่กับพี่ยังไงยังงั้นแหละ” หยอดมาก็หยอดกลับสิ่ครับ ผมก็อยากจะลองใจไอเด็กนี่ดูเหมือนกันแหละ แต่ละคำที่พูดออกมาชอบทำให้ผมคิดอยู่เรื่อย-0-
“จะ จะบ้าหรอ ผมหมายถึงให้พี่หาสาวคุยไรเงี้ยจะได้ไม่เหงา หล่อๆอย่างพี่หาไม่ยากอยู่แล้วใช่ป๊ะ”
“ความจริงตอนนี้ก็เจอแล้วแหละ” ผมหันไปสบตาคนข้างๆที่ดูจะตั้งใจฟังผมเสียเหลือเกิน
“…………………………….”
“แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะสนใจพี่เหมือนที่พี่สนใจเค้ารึเปล่า” เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างจากนัยน์ตาคู่นั้น ในขณะที่กำลังพูดผมก็ค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเข้าหาแกงส้ม..
“สะ สนดิ่พี่ อย่างพี่เนี่ยสาวรักสาวหลงเลยมั้ง”
“หรอ..ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็คงดี”
“.................................”
“ใช่มั๊ย..แกงส้ม” และก่อนที่อะไรๆจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ก่อนที่ผมจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ผมก็หยุดการกระทำทั้งหมดก่อนจะเดินออกไปนอกระเบียง
“แกงส้ม..”
“ว่าไงพี่”
“ออกมาดูดาวตรงนี้สิ่” ผมกวักมือเรียกคนในห้องให้ออกมาดูแสงดาวที่อยู่ข้างนอก ในเมืองกรุงอย่างนี้น้อยครั้งนักที่จะเห็นดาวบนท้องฟ้า และยิ่งเป็นตึกสูงอย่างนี้แล้ว อย่าหวังเลยครับที่จะเห็นดาว แต่วันนี้..มันไม่เหมือนกับเมื่อวาน
“ไหนอ่ะ ไม่เห็นมีเลย”
“โน่นไง เห็นมั๊ย”
“ดวงเดียวเอง เรียกมาผมก็นึกว่ามีหลายดวง”
“ดาวสวยเนอะ”
“ดวงเดียวเนี่ยนะ” ผมไม่สนใจในคำพูดของแกงส้ม สำหรับผมแล้วต่อให้ไม่มีดาวบนฟ้าเลยแต่ว่ามีคนที่ผมอยากดูดาวด้วยอยู่ข้างๆ มันก็ยังดูสวยอยู่ดี
พรึ่บ..
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบไฟในห้องก็สว่างขึ้น แกงส้มยิ้มดีใจเหมือนเด็กๆ ต่างจากผม เฮ้อ..เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอใครๆก็พูดแบบนั้น ถึงเวลากลับห้องแล้วล่ะครับ
“ไฟมาแล้วเดี๋ยวพี่กลับห้องก่อนนะ”
“ขอบคุณมากนะพี่ฮั่นที่มาอยู่เป็นเพื่อน^^”
“แค่ไม่อยากเห็นคนแถวนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งเหอะ”
“เออ! คืนนี้ฝันร้ายก็แล้วกัน ชิ!”
“แต่..พี่ขอให้แกงส้มฝันดีก็แล้วกัน” ผมยิ้มหวานจนตาแทบปิดให้คนตรงหน้า แว๊บนึงถ้าผมไม่ตาฝาด ผมแอบเห็นแกงส้มหน้าแดงด้วยแหละ
ไอแสบแลบลิ้นใส่ผมก่อนจะปิดประตูห้องไป นับวันผมว่าผมยิ่งหลงรักไอเด็กแสบนี่ขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..แต่สิ่งเดียวที่ผมรู้ตอนนี้คือผมหยุดรักไอเด็กนี่ไม่ได้แล้ว..
_____________________________________
แงงกว่าจะมาต่อได้ โทษทีน้าตะเอง คอมเก๊าพัง
มาต่อให้ละ ตอนนี้ก็หน่วงๆ ไม่ไปไหนสักที สมองไม่ลื่นไหล
ติดตามกันตอนต่อไป~ น้องแกงเริ่มจะหวั่นไหวละ กร๊ากกก
อิหมีก็นะ..ไม่เก็บอาการตัวเองเล้ยยยย55555
เจอกันตอนหน้านะ รักทุกคน>3
ความคิดเห็น