คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สาเหตุการติดสิ่งเสพติด
สาเหตุการติดยาเสพย์ติด
สภาพจิตใจที่อ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง จะเป็นสาเหตุสำคัญให้คนติดยาเสพติดได้ การดำเนินชีวิตอยู่ของเยาวชน / เด็กวัยรุ่น หรือวัยทำงานที่อยู่ในครอบครัวที่มีความสุข สิ่งแวดล้อมที่ดี หรืออยู่ในแวดวงของเพื่อนพ้องที่มีความรักใคร่กลมเกลียว และมีความหวังดีแก่เพื่อนเสมอ ย่อมเป็นกลุ่มคนที่ไม่เสี่ยงต่อการติดยาเสพติด
สาเหตุที่ผู้ติดยาเสพติดส่วนใหญ่อ้างถึง ได้แก่เพื่อนที่ติดยาเสพติดแล้วมาชักชวน เห็นเพื่อนเสพยาเสพติดแล้วอยากทดลองบ้าง มีคนมาหลอกลวง สิ่งแวดล้อมไม่ดี สุขภาพกายไม่ดี
ปัจจุบันยาเสพติดเป็นปัญหาที่พบการแพร่ระบาดมากในกลุ่มเยาวชน ซึ่งสาเหตุสำคัญของการติดยาเสพติดในเยาวชนเกิดจากสาเหตุใหญ่ ๆ คือ ( กรมวิชาการ,2542)
1) สาเหตุจากตนเอง ได้แก่
1. การไม่มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องยาเสพติด ใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
จำแนกตามการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท แบ่งเป็น 4 ประเภท
1. อยากทดลอง เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นซึ่งเป็นนิสัยของคนโดยทั่วไป และโดยที่ไม่คิดว่าตนจะติดสิ่งเสพย์ติดนี้ได้
จึงไปทำการทดลองใช้สิ่งเสพย์ติดนั้น ในการทดลองใช้ครั้งแรกๆ อาจมีความรู้สึกดีหรือไม่ดีก็ตาม ถ้ายังไม่ติดสิ่งเสพย์ติดนั้น ก็อาจ
ประมาท ไปทดลองใช้สิ่งเสพย์ติดนั้นอีก จนใจที่สุดก็ติดสิ่งเสพย์ติดนั้น หรือ ถ้าไปทดลองใช้สิ่งเสพย์ติดบางชนิด เช่น เฮโรอีน
แม้จะเสพเพียงครั้งเดียว ก็อาจทำให้ติดได้
2. ความคึกคะนอง คนบางคนมีความคึกคะนอง ชอบพูดอวดเก่งเป็นนิสัย โดยเฉพาะวัยรุ่นมักจะมีนิสัยดังกล่าว คนพวกนี้อาจแสดงความเก่งกล้าของตน ในกลุ่มเพื่อนโดยการแสดงการใช้สิ่งเสพย์ติดชนิดต่าง ๆ เพราะเห็นแก่ความสนุกสนาน ตื่นเต้น และ
ให้เพื่อนฝูงยอมรับว่าตนเก่ง โดยมิได้คำนึง ถึงผลเสียหาย หรือ อันตรายที่จะเกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างไร ในที่สุดจนเองก็กลายเป็นคนติดสิ่งเสพย์ติดนั้น
3. การชักชวนของคนอื่น อาจเกิดจากการเชื่อตามคำชักชวนโฆษณา ของผู้ขายสินค้าที่ เป็นสิ่งเสพย์ติดบางชนิด เช่น ยากระตุ้นประสาทต่างๆ ยาขยัน ยาม้า ยาบ้า เป็นต้น โดยผู้ขายโฆษณาสรรพคุณของสิ่งเสพย์ติดนั้นว่ามีคุณภาพดีสารพัดอย่างเช่น ทำให้มีกำลังวังชา ทำให้มีจิตใจแจ่มใส ทำให้มีสุขภาพดี ทำให้มีสติปัญญาดี สามารถรักษาโรคได้บางชนิด เป็นต้น ผู้ที่เชื่อคำชักชวนโฆษณาดังกล่าวจึงไปซื้อตามคำชักชวนของเพื่อนฝูง ซึ่งโดยมากเป็นพวกที่ติดสิ่งเสพย์ติดนั้นอยู่แล้ว ด้วยความเกรงใจเพื่อน
หรือ เชื่อเพื่อน หรือต้องการแสดงว่าตัวเป็นพวกเดียวกับเพื่อน จึงใช้สิ่งเสพย์ติดนั้น
- ถูกหลอก เช่น ใช้ยาเพื่อลดความอ้วนหรืออ่านหนังสือได้ทน หรือถูกชักจูงให้ใช้ เพื่อบำบัดความ
เจ็บป่วย ระงับทุกข์ ความวิตกกังวล
ปัจจุบันนี้มีผู้ขายสินค้าประเภทอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มบางรายใช้สิ่งเสพย์ติดผสมลงในสินค้าที่ขาย เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้านั้นไปรับประทานเกิดการติด อยากมาซื้อไปรับประทานอีก ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ซื้ออาหารนั้นมารับประทาน จะไม่รู้สึกว่าตนเองเกิดการติดสิ่งเสพย์ติดขึ้นแล้ว รู้แต่เพียงว่าอยากรับประทานอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มที่ซื้อจากร้านนั้น ๆ กว่าจะทราบก็ต่อเมื่อตนเองรู้สึกผิด
สังเกตต่อความต้องการ จะซื้ออาหารจากร้านนั้นมารับประทาน หรือต่อเมื่อ มีอาการเสพย์ติดรุนแรง และมีสุขภาพเสื่อมลง
- มีเรื่องไม่สบายใจ มีปัญหาแล้วแก้ปัญหาโดยการใช้ยาเสพติดเพื่อลืมปัญหา
- มีค่านิยมไม่ถูกต้อง คิดว่าโก้เก๋ อยากอวดเพื่อน
- ขาดกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคหรือความกดดันชีวิต เครียด ผิดหวัง
- ไม่มีทักษะการสื่อสารหรือขาดมนุษยสัมพันธ์ ถูกเพื่อนชวนแล้วปฏิเสธไม่เป็น หรือ การทำตามเพื่อน ต้องการให้เพื่อนยอมรับ
- การไม่รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
- เกิดจากความเจ็บป่วย
๑. คนที่มีอาการเจ็บป่วยทางกายเกิดขึ้นเพราะสาเหตุต่าง ๆ เช่นได้รับบาดเจ็บรุนแรง เป็นแผลเรื้อรัง มีความเจ็บปวดอยู่
เป็นประจำ เป็นโรคประจำตัวบางอย่าง เป็นต้น ทำให้ได้รับทุกข์ทรมานมาก หรือ เป็นประจำ จึงพยายามแสวงหาวิธีที่จะช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากความทุกข์ทรมานนั้นซึ่งวิธีหนึ่งที่ทำได้ง่ายคือ การรับประทานยาที่มีฤทธิ์ระงับอาการเจ็บปวดนั้นได้ ซึ่งไม่ใช่เป็นการรักษาที่เป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วย เพียงแต่ระงับอาการเจ็บปวดให้หมดไปหรือลดน้อยลงได้ชั่วขณะ เมื่อฤทธิ์ยาหมดไปก็จะกลับเจ็บปวดใหม่ ผู้ป่วยก็จะใช้ยานั้นอีก เมื่อทำเช่นนี้ไปนานๆ เกิดอาการติดยานั้นขึ้น
๒. ผู้ที่มีจิตใจไม่เป็นปกติ เช่น มีความวิตก กังวล เครียด มีความผิดหวังในชีวิต มีความเศร้าสลดเสียใจ เป็นต้น ทำให้สภาวะจิตใจไม่เป็นปกติจนเกิดการป่วยทางจิตขึ้น จึงพยายามหายาหรือสิ่งเสพย์ติดที่มีฤทธิ์สามารถคลายความเครียดจากทางจิตได้ชั่วขณะหนึ่งมารับประทาน แต่ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อยาหมดฤทธิ์ จิตใจก็จะกลับเครียดอีก และ ผู้ป่วยก็จะเสพสิ่งเสพย์ติด ถ้าทำเช่นนี้
ไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ผู้นั้นติดยาเสพย์ติดในที่สุด
๓. การไปซื้อยามารับประทานเองโดยไม่ทราบสรรพคุณยาที่แท้จริงขนาดยาที่ควรรับประทาน การรับประทานยาเกินจำนวนกว่าที่แพทย์ได้สั่งไว้ การรับประทานยาบางชนิดมากเกินขนาด หรือรับประทานติดต่อกันนานๆ บางครั้งอาจมีอาการถึงตายได้ หรือบางครั้งทำให้เกิดการเสพติดยานั้นได้
2) ตัวสาร สารที่มีคุณสมบัติทำให้ เสพติดนั้นจะต้องขึ้นไปออกฤทธิ์ที่สมองทำให้ความรู้สึกหรือ "อายตนะ" ของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เราชอบ เช่น โคเคนเมื่อขึ้นสู่สมองแล้วจะทำให้ เกิดอาการซู่ซ่าวูบขึ้นฉับพลันเกิดความรู้สึกว่าตนมีพลังจิตมหาศาล เก่งกล้าสามารถ มั่นใจเหลือหลายอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน คนเสพจึงชอบและหลงไหล ไขว่คว้าหาฤทธิ์โคเคน สารฝิ่นเมื่อขึ้นสู่สมองแล้ว จะทำให้เกิดอาการสงบทางจิต เป็นความเคลิบเคลิ้มเหมือนฝัน ไม่มีความกลุ้มพะวงใจ จิตใจสบาย ไม่ห่วงหน้าห่วงหลัง ผู้คนจึงชอบและติดฤทธิ์สารฝิ่น กระดาษเมาหรือแอซิค (L.S.D.) เมื่อขึ้นถึงสมองแล้วจะทำให้หูทิพย์ตาทิพย์ คือประสาทหลอน เช่น เห็นคนเหาะได้ ประสาทรับรู้ผิดเพี้ยนไปหมด ผู้คนชอบเสพเพราะมันให้ความตื่นเต้น แปลกประหลาด ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็น สารเหล่านี้ได้มาจากธรรมชาติคือได้มาจากพืช หรือได้มาจากการสังเคราะห์ทางเคมีหรือกึ่งธรรมชาติกึ่งสังเคราะห์ก็ได้เช่น กัน พืชในธรรมชาติมีอยู่ถึง ๕ หมื่นตระกูล แต่จะมีเพียงไม่ถึง ๕๐ ตระกูลเท่านั้นที่เป็นพืชเสพติด เช่น ฝิ่น มนุษย์สูบผิ่นและติดฝิ่นมาเป็นพัน ๆ ปีแล้ว เพิ่งสังกัดหัวเชื้อที่เป็นสารเสพติดคือตัวมอร์ฟีนได้เมื่อร้อยกว่าปีมานี่ เอง เอามอร์ฟีนจากต้นฝิ่นมาดัดแปลงตกแต่งโครงร่างโมเลกุลใหม่ได้ "สารฝิ่น" มากมายรวมทั้งผงขาวเฮโรอีน เฮโรอีนจึงเป็นสารเสพติดกึ่งธรรมชาติกึ่งสังเคราะห์ แอซิคหรือกระดาษเมาเป็นสารสังเคราะห์ที่เกิดขึ้นทางกระบวนการเคมีไม่สามารถ หาได้ตามธรรมชาติ
3) สาเหตุจากสภาพแวดล้อม ได้แก่การอบรมเลี้ยงดูไม่เหมาะสม ครอบครัวแตกแยก ครอบครัวขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่มีเวลาเอาใจใส่ดูแล พ่อแม่มีพฤติกรรมการใช้ยาเสพติด อยู่ในสังคมที่ล่อแหลมเต็มด้วยอบายมุข หรือ อยู่ในแหล่งการค้าและเสพยา ถูกเพื่อนบังคับ หรือคบเพื่อนที่เสพ
หรือติดยา ฯลฯ แนวการทางการแก้ไข ฝึกเยาวชนให้จิตใจเข้มแข็ง เข้าใจตนเองและครอบครัว
บ้านและโรงเรียน สร้างเยาวชนให้มีทักษะชีวิต ร่วมกันสร้างสังคมให้ปลอดยาเสพติด
จากปัจจัยดังกล่าวจะเห็นว่าปัจจัยที่เกิดจากตัวเองก่อให้เกิดปัญหาการใช้ยาเสพติดในเยาวชน
มากที่สุด ด้วยเป็นวัยอยากลอง อยากรู้ อยากเห็น และต้องการการยอมรับ ตลอดจนเป็นวัย
ที่ร่างกายเปลี่ยนจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ ดังนั้น การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้ผล จำเป็นต้องให้ทั้งความรู้และทักษะที่จำเป็นพร้อม ๆ กันหลาย ๆ อย่าง ตลอดจนการปรับ
เปลี่ยนทัศนคติที่จำเป็นเพื่อให้เยาวชนรู้จักป้องกันตนเองจากปัญหาต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งปัญหาการ
ใช้ยาในทางที่ผิด
ปัญหาอีกประการหนึ่งที่ทำให้เด็กบางคนเข้าไปสู่การใช้ยาเสพติดก็คือ ปัญหาเรื่องของการต่อต้านผู้ใหญ่ อัน นี้เป็นเรื่องตามวัยของเขาด้วย ด้วยความที่เขาอยากเป็นตัวของเขาเอง ทำให้เด็กบางทีรู้สึกไม่อยากเชื่อฟังสิ่งที่ผู้ใหญ่พูด บางทีก็แสดงความก้าวร้าวออกมา ถ้าคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูไม่เข้าใจ ก็จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รุนแรงกับเด็ก หรือพยายามเข้าไปควบคุมหรือจัดการกับเขา เด็กก็จะยิ่งต่อต้านมากขึ้น อะไรที่เรารู้สึกว่าไม่ดี อะไรที่เราห้ามเขา อะไรที่เราบอกว่า อย่าทำ เด็กก็จะยิ่งอยากทำ เหมือนจะประชดผู้ใหญ่ไปทางหนึ่งด้วย แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังอ่อนอยู่ ทำให้ไม่ทราบว่าการประชดด้วยการใช้ยาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อตัว เองเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนปัจจัยต่อไปที่จะทำให้เด็กบางคนที่เมื่อหันเข้าไปลองแล้ว เกิดการติดยาเสพติดค่อนข้างจริงจัง คือปัญหาในเรื่องของภาวะทางอารมณ์ เด็กๆ หลายคนไม่มีความสุข เขารู้สึกเศร้าใจ รู้สึกทุกข์ใจ มีปัญหาต่างๆ รอบตัวโดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว ความไม่ลงรอยกันในครอบครัว ความขัดแย้งกันของคุณพ่อคุณแม่ การทะเลาะเบาะแว้งกันที่บางทีถึงขนาดทำร้ายร่างกายกัน ทำให้เด็กรู้สึกไม่มีความสุข ความกลัดกลุ้มใจ ทุกข์ใจเช่นนี้แหละ ที่ทำให้เขาจมอยู่กับยาเสพติด บางคนอาจลองด้วยความตั้งใจ เพราะรู้สึกว่าในขณะที่ชีวิตไม่มีความสุขนั้น มีบางสิ่งบางอย่างที่ให้ความสุขกับเขาได้ ทำให้เขาลืมความทุกข์ต่างๆ เหล่านี้ไปได้ หากครอบครัวมีความสุข เด็กจะไม่คิดสนใจพึ่งยาเสพติดเช่นนี้
ความคิดเห็น