คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เริ่มเรื่อง
บทนำ
ในร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ...
เสียงซุบซิบที่ดังขึ้นไม่หยุดตั้งแต่เมื่อครู่โดยไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงหรืออีกนัยหนึ่งก็คือต้นเสียงซุบซิบเหล่านั้นไม่ได้ใส่ใจที่จะลดเสียงลงเลยทำให้เพลงพิริยาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล่มโปรดหันไปมองรอบตัวอย่างนึกรำคาญเสียเต็มประดา...มันจะอะไรกันนักกันหนานะ...หญิงสาวคิดในใจอย่างหงุดหงิด แล้วเธอก็ต้องอ้าปากค้างอย่างลืมตัว โอ้...มิน่าเล่า นั่นมันมาร์คนี่ มาร์ค นักร้อง ดารา และนายแบบที่ดังที่สุดในเมืองไทยนี่นา...แม่เจ้า...ยัยพวกนั้นแค่ซุบซิบกันเหรอ ฉันละอยากจะกรี๊ดให้คอแตกไปเลย...เขาเป็นนักร้องคนโปรดของเธอ...หญิงสาวหันซ้ายหันขวาทำหน้าตาล่อกแล่กอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินอย่าง(ที่คิดว่า)เฉิดฉายตรงไปยังเคาท์เตอร์ เธอกระซิบกับเจ้าของร้านที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีด้วยว่าปฐวีชายหนุ่มเจ้าของร้านกับนิสราภรรยาสาวของเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายเธอ
“พี่วี พี่วี นั่นมาร์คนี่ เขามาอยู่นี่ได้ไงคะ” เธอลำล่ำละลักถามราวกับว่ากลัวคนที่เอ่ยถึงจะได้ยิน
“เขามาติดต่อเรื่องขอถ่ายทำมิวสิควีดีโออัลบัมใหม่ที่นี่น่ะ สักพักทีมงานเขาคงตามมา” ปฐวีตอบพลางเช็ดแก้วกาแฟไปพลางอย่างไม่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร
“ฮู้...ร้านพี่ก็ดังใหญ่สิงั้นน่ะ” หญิงสาวทำตาโต
“อืมม์ ก็คงงั้นละ นี่เราบ้าดารากับเค้าด้วยเหรอ เพลง” ชายหนุ่มเจ้าของร้านเอียงคอมองอย่างแปลกใจ
“อ๊ะ หนูเปล่าสักหน่อย หนูชื่นชอบผลงานเค้าต่างหากเล่า” เพลงพิริยาแก้ตัวพลางยิ้มอย่างเขินอาย
“จริงเหรอ ไม่ได้บ้าดาราจริงน่ะ” คู่สนทนาทำเสียงสูงอย่างล้อเลียน
“พี่วีก็ จริงน่ะสิ พี่ว่า หนูเข้าไปขอลายเซ็นเขาจะได้ไหม เขาจะให้ไหมพี่วี” เธอหันไปมองทางโต๊ะมุมริมสุด
“พี่ว่าอย่าเลย จะเอาไปทำไมลายเซ็น แล้วดูสิ มีใครกล้าเข้าไปขอมั่งล่ะ ข่าวว่านายคนนี้หยิ่งน่าดูไม่ใช่เหรอ เนี่ยะ ถ้าทีมงานมาคุยพี่ก็จะให้คุยกะพี่นิสน่ะแหละ พี่คงไม่คุยหรอก ไม่ถูกโรคกับดาราว่ะ” ปฐวีร่ายยาวใส่ก่อนจะมุ่งมั่นเช็ดแก้วกาแฟต่อไป เพลงพิริยาทำหน้าเซ็งๆก่อนจะล่าถอยกลับไปที่โต๊ะของเธอตามเดิม...ฉันน่าจะลองเดินผ่านเขาสักนี๊ด...หนึ่งนะ อะฮ้า...เผื่อเขาเห็นฉันแล้วอาจปิ๊งขึ้นมาก็ได้ใครจะรู้...แทนที่จะเดินตรงไปโต๊ะของตัวเองหญิงสาวกลับเดินอ้อมไปทางโต๊ะของเขา เธอสะบัดผมเล็กน้อย...นั่นจะทำให้ฉันดูเย้ายวนชวนมองแน่นอน...แล้วเค้าก็จะมองตามฉันจนคอหันเลยล่ะ...เธอคิดเองเออเองใจในคนเดียว...แต่ความจริงก็คือ มาร์คไม่!...แม้แต่จะเหลือบมองเธอด้วยซ้ำ...หญิงสาวทำหน้าเซ็งกว่าเก่าก่อนจะนั่งจุ่มปุ๊กลงที่เดิมแล้วอ่านหนังสือต่ออย่างไม่สบอารมณ์ โธ่...สวรรค์ไม่ช่วยหนูเล้ย...เธอได้แต่บ่นอยู่คนเดียว
มาร์คเหลือบดูนาฬิกาเป็นรอบที่สี่แล้ว...ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเต็มกำลัง นี่เขาต้องมารอทีมงานเหรอเนี่ยะ...เฮอะ...ช่างไม่ตรงเวลากันซะบ้างเลยให้ตายสิ ชายหนุ่มสบถเบาๆ ก่อนจะพลิกสมุดจดคิวเล่มหนาบนโต๊ะไปมาอย่างเบื่อหน่าย เสียงซุบซิบที่ดังขึ้นมาแทบจะทันทีที่เหยียบเข้ามาในร้านจนป่านนี้ยังไม่หยุด...จะอะไรกันนักกันหนานะ...น่ารำคาญจริงๆ เขาเหลือบมองไปทางโต๊ะตรงมุมด้านในสุดของร้าน ผู้หญิงตัวเตี้ยเหมือนมะขามข้อเดียวนั่นเอาแต่มองเขาอยู่นั่นแหละ เมื่อกี๊ก็พยายามเดินผ่านโต๊ะเขาทีหนึ่งแล้ว เขาทันเห็นตอนเธอสะบัดผมตอนที่เดินผ่านหน้าเขา ฮึ...สวยตายละ ยัยเตี้ย...แน่ะ มองอีกละ เธอจะมองอะไรนักหนาวะ...
“มาแล้วค่ะ มาแล้ว ขอโทษจ่ะมาร์ค รถมันติดน่ะ” เสียงหัวหน้าฝ่ายประสานงานดังขึ้นพร้อมกับทีมงานอีกสี่ห้าคนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เฮอะ...รถติด ว่าแล้วต้องอ้างแบบนี้ มาร์คคิดในใจ
“เอาเป็นว่าตกลงตามที่ทีมงานว่านี่แหละค่ะ ทางเราสะดวกอยู่แล้ว” นิสรากล่าวสรุปหลังจากหารือกันได้พักใหญ่ หญิงสาวชื่นชอบผลงานของมาร์คอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว การเจรจาขอใช้สถานที่ถ่ายทำครั้งนี้จึงราบรื่นสมใจทั้งสองฝ่าย
“ต้องขอบคุณคุณนิสมากนะคะที่กรุณา ร้านคุณสวยมากจริงๆค่ะ จริงมั๊ยมาร์ค” จีน่า หัวหน้าฝ่ายประสานงานเอ่ยขึ้น
“ครับ ร้านของคุณนิสตรงกับคอนเซปต์อัลบัมใหม่ของผมจริงๆครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณอีกครั้งนะครับ” มาร์คบอกพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ทำเอาสาวๆทั้งประเทศใจละลาย
“ค่ะ ยินดีค่ะ” นิสรายิ้มรับ
“ขอโทษค่ะ เออ...ดิฉันเอากาแฟมาเปลี่ยนให้คุณมาร์คใหม่ค่ะ พี่วีบอกให้เอามา” อยู่ๆเพลงพิริยาก็ประคองกาแฟร้อนเข้ามา ทุกคนที่ร่วมโต๊ะอยู่รวมทั้งนิสราหันไปมองอย่างงงๆ ก็พอดีกับที่หญิงสาวยื่นถ้วยกาแฟมาตรงหน้ามาร์คอย่างแรง...จะด้วยความประหม่าหรืออะไรก็แล้วแต่...กาแฟร้อนทั้งแก้วราดลงบนตักมาร์คเต็มๆ ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นทันทีพร้อมกับร้องโอดโอย...นี่มันยัยเตี้ยมะขามข้อเดียวนี่
“โอ๊ย ยัยบ้า เธอทำอะไรของเธอเนี่ยะ” เขาโวยวายเสียงดังลั่น ทิ้งมาดขรึมเมื่อครู่ไปจนหมด
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอโทษค่ะ ฉันจะหาผ้ามาเช็ดให้นะคะ ผ้า...ผ้า เอาทิชชู่ก็แล้วกันค่ะ” เพลงพิริยาลนลานหันซ้ายหันขวาหาผ้าไม่เจอเลยคว้าทิชชูปราดเข้าไปจะเช็ดให้เขา
“ไม่ต้องเลยนะ อย่ามาใกล้ฉันนะ ออกไปไกลๆฉันเลย ยัยโรคจิต” มาร์คตะคอกใส่ด้วยความโมโหสุดขีด เพลงพิริยาชะงักไปทันที เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างโกรธจัด โรคจิตเหรอ นายกล้าดียังไงมาด่าฉันว่าโรคจิต
“หนอย...นายคิดว่านายเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาด่าว่าฉันแบบนี้ หา ฉันบอกว่าฉันขอโทษไงล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ หรือนายมันโง่ซะจนฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง” เธอเท้าสะเอวด่าเขาบ้าง
“เธอ...เธอกล้าด่าฉันว่าโง่เหรอ เธอ...” มาร์คโกรธจนสมองตื้อไปหมด
“ใช่ ฉันกล้าด่านาย นายคิดว่าดังคับฟ้าแล้วจะด่าใครว่ายังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ ฮึ...นายมันก็แค่ขายหน้าตา ร้องเพลงเล่นละครเดินแบบอะไรไม่ได้เรื่องหรอกจะบอกให้” เพลงพิริยายังไม่ยอมหยุด เธอไม่เคยรู้สึกโกรธใครมากเท่านี้มาก่อนเลยให้ตายสิ!
“นี่เธอ กล้าดียังไง ฉันจะให้ทนายของฉันฟ้องเธอ คอยดูสิ” มาร์คเต้นเร่าๆชี้หน้าหญิงสาว คนอื่นๆในร้านต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ณ์ที่เกิดขึ้น บ้างก็คว้ากล้องหรือโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป นิสราดูเหมือนว่าจะหายจากอาการตกตะลึงแล้วรีบลุกขึ้นคว้าแขนเพลงพิริยาก่อนจะละล่ำละลักขอโทษทีมงานแล้วลากยัยตัวยุ่งเข้าไปหลังร้าน ส่วนชายหนุ่มคู่กรณีก็ถูกทีมงานของเขาพาตัวออกไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันอาทิตย์จะมาอัพตอนใหม่นะคะ ช่วยคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น