คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5 ข้อมูล (2)
ปิ๊ง...
“เฮ้อ...โดนจับจนได้”ไซรินทิ้งตัวพิงเก้าอี้ น่าเสียดาย... แต่ก็ช่างเถอะ มันก็เป็นแค่ของแถม นิ้วเรียวกดปิดโน๊ตบุ๊คของสามี โดยไม่ลืมเข้าไปลบข้อมูลการเปิดใช้เครื่องกับเซฟข้อมูลไว้โดยเฉพาะ ไม่รู้ป่านนี้ฮวินหยางจะรู้รึยังนะ หลังจากที่เธอทำตัวเป็นปกติมาเดือนกว่า แถมเรื่องต้าซินอีก น่าจะกลับไปสิงที่องค์กรโรนาซินแล้ว
โรนาซิน... องค์กรที่เธอเคยอยู่ ไซรินหยิบแท็ปเล็ตที่สร้างโดยวาติโนขึ้นมาเปิดข้อมูลที่เจาะมาได้หมาดๆ องค์กรมีสำนักงานหลักสองที่ หนึ่งคือที่เก่าที่รัสเซียเป็นที่อยู่สำหรับฝึกสมาชิก และสำนักงานที่สองเพิ่งสร้างอยู่ในจีน เลยออกนอกเมืองที่เธออยู่ออกไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็คนละฟากกับที่เธออยู่ สำหรับสำนักงานการติดต่อสื่อสารหาข้อมูล ฮวินหยางน่าจะ...ไม่ซิ ทำงานที่นี่แน่ๆ ในนามเชน ...หรือนั่นอาจจะเป็นชื่อจริงๆเขาก็ได้
“ตั้งแต่ที่ฉันเอาเครื่องนั้นไปติด ยัยหัวหน้าก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ขนาดฉันลบข้อมูลออกไปเกือบทั้งหมด ก็แค่ด่าแสบๆคันๆแล้วก็ไปทำงานต่อ”ต้าซินเล่าเรื่องระหว่างที่อยู่ในสำนักงานศัตรูให้พี่ชายฟัง โดยมีซินฟานินฟังอยู่ห่างๆ “จนกระทั้งคนจากสำนักงานใหญ่มา แค่ยัยนั่นเดินออกไป หัวหน้าก็เดินเข้ามากระชากหัวฉันเลย”
“คนจากองค์กรใหญ่? รู้รึเปล่าว่าเป็นใคร”เชนถามอย่างต้องการข้อมูลให้มากที่สุด “หน้าตา ลักษณะเป็นยังไง”
“ก็ไม่รู้ชื่อหรอก ผมสีทองเกือบบลอนด์ ตาสีอะไรฉันไม่รู้เพราะหล่อนใส่แว้นดำทุกครั้ง แต่ผิวนี่ขาวอย่างกับหิมะ ขนาดใส่เสื้ออะไรมิดชิด ฉันเห็นแวบเดียวก็ยังรู้ว่าสวยมากๆ”คำพูดของต้าชินทำให้ซินฟานินที่ยืนพิงกำแพงอยู่ยืนตรงขึ้นมาอย่างตั้งใจฟัง แค่คำบอกลักษณะ ใจของซินฟานินก็มีภาพของใครบางคนที่อยู่ในใจมาโดยตลอดปรากฎขึ้นเด่นชัด “อ่อ แล้วก็มีหลายครั้งที่ฉันได้ยินยัยหัวหน้าเรียกหล่อนว่าพี่เซๆ อะไรประมาณนี้”
เซริน! ชื่อหนึ่งดังขึ้นในหัว มาพร้อมทั้งความตกใจ ยินดี หวาดกลัวปนเปรวมกันอยู่ในอก แต่ก็ทำหน้าตายถามตามฉบับ“ใช้เซรินรึเปล่า”
“ดิฉันก็ไม่รู้ค่ะ”ต้าซินก้มหัวตอบอย่างขออภัย
“แล้วนี่ไม่รู้ชื่อหัวหน้าตัวเองหรือไง”เชนถามอีกครั้ง รู้แปลกใจที่น้องสาวใช้แค่คำว่าหัวหน้าๆ
“ก็...ยัยนั่นเคยแนะนำตัวแค่ครั้งเดียว แต่พนักงานทุกคนก็เรียกเขาว่าหัวหน้าๆ”หญิงสาวคนเดียวในห้องอธิบายก่อนจะทำหน้านึก “จำได้ว่าขึ้นต้นด้วยไซๆอะไรก็ไม่รู้”
“ไซๆเหรอ ไซริน...”ซินฟานินหลุดออกมา เขารู้สึกว่าร่างกายมันเบาโหว่ง ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามา ทั้งดีใจทั้งโกรธ
“ใช่ๆ นั่นแหละ ไซริน”ต้าซินพูดออกมาอย่างมั่นใจ “แล้วก็มีอีกคนเป็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลอ่อน ดูท่าออกนักเลงๆ ไซรินเรียกเขาว่าเกอจือเฟิง แต่ดูๆแล้วน่าจะเป็นชาวยุโรป”
เกอจือเฟิง? นกพิราบ สายลม... ตัวแทนแห่งความเป็นอิสระเสรี เสรี...ลม... เกว็น! เท่านั้นแหละ ซินฟานินก็พุ่งตัวออกไปจากห้องพยาบาลอย่างกับพายุ ราวกับได้เจอข้อมูลล้ำค่า โดยมีเชนกับต้าซินเดินตามมาที่หลัง
“นี่ เปิดไปดูข้อมูลเก่าขององค์กรดิ เมื่อสิบสองปีก่อน”ซินฟานินสั่งคนที่อยู่เครื่องร่วมข้อมูลเสียงเครียดทันทีที่เข้ามาในห้องคุมอีกครั้ง “เข้าไปในเลขหนึ่งหกสามเก้า หนึ่งแปดสามเก้า กับ หนึ่งเจ็ดหกหก”
คนโดนสั่งทำตามงงๆ ก่อนจะได้รู้เด็กผู้หญิงสามคนออกมาที่จอใหญ่ เป็นเด็กหญิงผมทองตาน้ำเงิน ผมดำตาเทา และผมน้ำตาลตาดำ
เชนมองค้างอยู่ที่รูปเด็กผมดำตาเทา ถึงจะเป็นรูปเด็กแต่ก็ยังมีเคล้าให้ดูออก โดยที่เขาไม่ต้องใช้โปรแกรมอะไรเพื่อตรวจสอบ ต่อให้เปลี่ยนไปแคไหนเขาก็จำได้ เพราะหล่อนเป็นคนที่เขารักหมดใจ
“ใช้โปรแกรมคาดเดาหน้าตาเวลาโตซิ”ซิฟานินสั่ง แล้วผลก็ออกมาประจันแก่ทุกสายตาในห้อง
“ใช่ สามคนนี้แน่นอนค่ะ”พร้อมกับคำยืนยันของต้าซินที่ได้เจอตัวจริง รอยยิ้มเหยียดปรากฎบนใบหน้าของซินฟานิน
“ใช้โปรแกรมวัดหน้าตา หาข้อมูลทุกคนที่มีหน้าตาแบบนี้”
แยหลี...
“หัวหน้าครับ ผมขอทำเองครับ”
กริ๊งๆ
ไซรินละสายตาจากหน้ารถ มาดูมือถือ เมื่อเห็นว่าเป็นงานจึงหาจังหวะแล้วเสียบหูฟังเข้าก่อนกดรับ
“ว่าไง หนานฉิว”
“หัวหน้าค่ะ ยงฉินบอกว่ามีคนเปิดดูข้อมูลของพวกหัวหน้าค่ะ ทุกอันเลย”ปลายสายตอบมาเสียงเครียด “คาดว่าน่าจะให้โปรแกรมวัดหน้าตาน่ะค่ะ”
“เหรอ”ไซรินรับเสียงเบาหวิว แปลว่าเขารู้แล้วใช่ไหม... ราวกับเรี่ยวแรงหายไปหมด สมองคิดอะไรไม่ออก เธอจึงเลี้ยวรถจอดข้างทาง
“หัวหน้าค่ะ หัวหน้า...คุณไซริน!”เมื่อเห็นไซรินเงียบไป หนานฉิวจึงเรียกสติหล่อนลั่นทะลุโทรศัพท์
“ห๊ะ ว่าอะไรนะ”ไซรินสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“หัวหน้า...”รองหัวหน้าเอ่ยอย่างเป็นห่วง “จะให้ทำยังไงค่ะ”
“เอ่อ... ก็ลองตรวจดูว่าใช้จากที่ไหน”สมองของหัวหน้าหน่วยองค์กรเงาเริ่มแล่นแบบติดๆดับๆกับอารมณ์ที่ไม่คงที่
“รอสักครู้นะค่ะ ยงฉิน...”ปลายสายบอก ก่อนเสียงเรียกชื่อคนสนิทจะดังแว่วมา ผ่านไปสักสองนาที ปลายสายก็กลับมาแบบเสียงไม่มั่นใจ “เอ่อ... หัวหน้าค่ะ ตอนนี้หัวหน้าอยู่ไหนค่ะ”
“ทำไม”ไซรินขมวดคิ้ว ถามเสียงห้วน เพราะเธอเคยบอกแล้วว่าจะมาทำเรื่องส่วนตัว แล้วก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง
“คือ... ไม่ใช่ว่าดิฉันอยากยุ่งนะค่ะ”หนานฉิวรีบพูดก่อนที่ไซรินจะเข้าใจผิดจนอารมณ์เสีย “คือไอ้ที่ที่หัวหน้าให้หา มันอยู่ใกล้ที่ที่หัวหน้าอยู่ตอนนี้อะค่ะ อีกแค่ร้อยเมตรก็ถึงแล้ว... แล้วดิฉันกับยงฉินก็ไม่ได้ตามหรือสอดเรื่องหัวหน้านะค่ะ แต่เครื่องมันจับสัญญาณมือถือในเครือเราอัตโนมัติอะค่ะ”
“...ฉันขอโทษ”ไซรินถอนหายจิความเครียดถมเข้ามาในหัวมากขึ้น แปลว่าเธอมาถูกสินะ ฮวินยะ... เชนคงทำงานที่นี่
“หัวหน้าสบายดีรึเปล่าค่ะ เสียงดูเหนื่อยๆ”เสียงของคนที่อยู่สำนักงานทักอย่างเป็นห่วง
“คงเหนื่อยจริงๆแหละ”ไซรินที่หลายวันมานี้มาลุยทำงานนอกสถานที่คนเดียวยอมรับ สองสามวันมานี้รู้สึกมึนหัวบ่อยๆ เพราะลุยแดดค่อนข้างมาก
“แล้วนี่หัวหน้ากินอะไรบ้างรึยังค่ะ เลยเที่ยงมานานแล้ว”
“เอ้อ ยัง”ไซรินก้มมองนาฬิกาข้อมือ นี่จะบ่ายแล้วหรือ สงสัยเธอสนแต่เส้นทางในจีพีเอสจนลืมเวลา แล้วเธอก็ไม่รู้สึกหิวด้วย ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่อยากมากกว่า
“กินบ้างนะค่ะ จะได้มีแรงทำงาน”หนานฉิวกลาวอย่างหวังดี
“นี่ตกลงเธอเป็นรองหัวหน้าฉันหรือแม่เนี่ย”ไซรินอดไม่ได้ที่จะแซวกลับไป
“โธ่ หัวหน้าอะ”ปลายสายทำเสียงงอนง้อ
“หึๆ เดี๋ยวฉันจะลงไปกินแล้วเนี่ย อยู่ที่แหล่งอาหารพอดี แล้วพวกเธออยากได้อะไรไหม เดี๋ยวขากลับจะได้แวะซื้อให้ ห้ามเกรงใจด้วย”ไซรินถามแกมบังคับ เท่านั้นเธอก็ได้ยินเสียงคนสนิทจอมแสบตะโกนถามคนที่เหลือพลางบอกคำสั่งสุดท้ายเธอด้วย แล้วไซรินก็ดึงกระดาษโน๊ตออกมาเขียนรายการอาหาร และเริ่มเปลี่ยนเกียร์ออกรถเลี้ยวเข้าที่จอดรถ
ไซรินขับรถหาที่ว่างอย่างช้าๆ แล้วถอยหลังจอดตรงที่ว่าง เธอดับเครื่องแล้วเก็บอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าสะพายกับของที่เธอต้องใช้งาน และดึงกระจกออกมาเช็กใบหน้าที่วันนี้แต่งหน้าจนเข้มจนถ้ามองด้วยตาก็คงไม่รู้ว่าเป็นเธอ ทั้งๆที่ไม่เคยแต่งถ้าจะออกมาข้างนอก แถมยังใส่เดรสสีดำเหนือเข่า กับส้นสูงสีดำ ก่อนจะรวบผมสีดำจนตึงและมัดเป็นหางม้าสูง ทั้งหมดก็เพื่อพลางตัว
ไซรินเก็บเครื่องสำอางที่นานแสนนานที่จะได้ใช้ และปลดล็อกประตู แล้วรถสีครามที่แสนคุ้นตาก็มาจอดที่เฉียงๆกับเธอ ทำให้เธอหยุดมือที่จะเปิดประตูลงไป เพื่อหันไปมอง ก่อนจะค้างเมื่อเห็นใบหน้าที่เธอสาบานได้ว่ารู้จักดีที่สุด เพราะเจอกันทุกเย็นกำลังเปิดประตูลงมา
พรึบ ปี๊น
“โอ๊ย”ไซรินร้องออกมาลั่นรถพร้อมกับเสียงแตรรถที่ดังขึ้นเพราะเธอดันก้มผิดทางไปชนกับพวงมาลัย แต่เธอก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น เพราะรู้ว่าคนขับหนุ่มที่เพิ่งลงจากรถคันข้างๆหันมามอง ถึงจะมั่นใจว่าเขาจะจำหน้าเธอไม่ได้ และรถเองก็ใช้ขององค์กร แต่ก็อายที่ดันทำอะไรน่าอายลงไป ก่อนจะเหลือบขึ้นมองแล้วเงยขึ้นนิดๆเมื่อเห็นว่าเขาเดินไปด้านคนโดยสารของรถตัวเอง แล้วเปิดประตูก้มไปประคองผู้หญิงออกมาที่ทำให้ไซรินอ้าปากค้าง จนกระทั่งทั้งสองคนจากรถข้างๆประคบประคองเดินกันลับไป
คนที่เคยขึ้นชื่อว่าเงียบก็อยากจะกรี๊ดดังๆ กับความโกรธที่แล่นเข้ามาและหัวใจที่เต้นถี่ แค่เห็นฮวินหยางมากับผู้หญิงก็อยากบ้าแล้ว นี่ยังเข้ามาประคองอย่างสนิทสนมแนบชิดก็อยากจะเข้าไปตบ แถมนังนั่นยังเป็นนังงูพิษด้วย! ยิ่งอยากจะเอามาทรมารด้วยเครื่องลงโทษโบราณทั้งหลายที่มีแล้วจบลงด้วยเอาปืนมายิ่งให้สมองแตกตัวพรุนไม่ให้เหลือซาก นังงูพิษนะไม่ใช่ฮวินหยาง
ความคิดเห็น