ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the night shadow ภารกิจต่อรักในเงามืด

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่4 ตลบหลัง

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 57


     “หัวหน้าค่ะ”หนานฉิวเปิดประตูเข้ามา ไซรินถึงกับสะดุ้ง ทั้งๆที่หนานฉิวทำเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่คนที่เปลื่ยนคือเธอ ที่มีฉะงักติดหลัง ซึ่งหนานฉิวก็พอรู้ว่าเธอแปลกไป “หัวหน้าเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ ทำไมสองวันนี้ดูขวัญอ่อนจังเลยค่ะ”

    “มะ...ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวนี้เหม่อบ่อย ไม่รู้ทำไม”ไซรินตีหน้าเรียบยิ้มหน่อยๆตามฉบับ

    “อ้อค่ะ สงสัยคุณเซรินจะรู้นะค่ะ เลยมาที่นี่”หนานฉิวรายงานเสียงใสไร้ความระแวงว่าหัวหน้าตนจะโดนเล่นงาน “คุณเซรินให้ดิฉันมาตามหัวหน้าไปที่ห้องสอบสวนค่ะ”

    เฮือก

    ไซรินลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก รู้อยู่ว่าฝีมือโกหกเธอแย่ แล้วฝีมือจำผิดของเซรินก็ดีเลิศ แต่ไม่คิดว่าจะจำผิดข้ามประเทศได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงทำพลาดที่ข้อมูล

    “ว่าไงไซริน”เสียงหวานทรงอำนาจทักทันทีที่ไซรินมายืนหน้าทางเข้าห้องสอบสวน “หนานฉิว เธอไปทำงานก่อนเลย ไม่ต้องห่วง”

    ปัง

    ไซรินเดินมานั่งตรงข้ามเซรินเมื่อประตูปิด แต่ก็ไม่ยอมเปิดบทสนทนา เซรินก็เช่นกัน เอาแต่มองหน้าไซรินอย่างจะเจาะลึกไปถึงจิตใจ ส่วนคนโดนมองก็ได้แต่ก้มหน้าเพราะมีความผิด ทนแรงกดดันของเซรินอย่างสุดความสามารถ รู้สึกผิดที่วันนี้เซรินต้องมาทำกับเธอเหมือนนักโทษเหมือนศัตรู เธอคงทำให้เซรินผิดหวังไม่น้อยเลยซินะ

    “รู้ตัวด้วยเหรอที่ฉันมาเพราะอะไร”สุดท้ายเซรินก็ต้องยอมเปิดปากเป็นคนแรก เมื่อคนผิดไม่ยอมสารภาพมาเอง

    เงียบ ไร้เสียงตอบรับของไซริน ที่ตอนนี้ไร้คำพูดจะอธิบายและก็ไม่คิดจะหาข้ออ้างมาแก้ตัว เธอรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นหนึบๆในอก

    “แล้วเธอก็รู้ใช้ไหมว่าเธอเป็นคนสุดท้ายที่ฉันคิดว่าฉันต้องมาทำแบบนี้ด้วย”น้ำเสียงผิดหวังออกมาเต็มประโยคอย่างไม่ปิดบังทิ้มแทงลงไปในใจไซริน เจ็บยิ่งกว่าเอามีดจริงมากรีดกันจริงๆ “เพราะเธอเป็นคนสุดท้ายที่ฉันคิดว่าเธอจะทรยศองค์กร”

    แล้วน้ำตาก็ไหลลงมากระทบแก้มนวลของไซริน นัยน์ตาของเซรินเองก็ปวดร้าวไม่แพ้กันที่ต้องมาพูดทำร้ายจิตใจกันเอง

    “ฉันไม่เคยคิดจะทรยศองค์กร เซริน”ไซรินพูดเสียงสั่นเบาโดนที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาเซริน

    “ไม่คิดแต่ทำเลยสินะ”คำพูดที่เสียดสีออกมาจากปากเซริน ทำให้น้ำไหลไซรินออกมาอีกระลอก “ที่เธอลบข้อมูลออกไปคืออะไร เธอจะไปจัดการมันด้วยตัวเองหรือไง”

    เสียงของเซรินก็สั่นไม่แพ้ไซริน แต่เป็นสั่นเพราะโกรธและผิดหวังอย่างมาก แต่เซรินก็พยายามควบคุมเอาไว้ ความเงียบที่ได้มาจากคนที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นน้องสาวทำให้ความโกรธยิ่งลุกโชน

    “...เธอไม่บอกก็ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากบังคับเธอเหมือนนักโทษ”หลังจากเงียบไปสักพัก เซลินก็ทำให้ใจเย็นลง แล้วก็คิดขึ้นมาได้ ว่าทั้งโลกมีเพียงแค่สองอย่างที่ไซรินยอมเสี่ยงชีวิตด้วย คือองค์กร...กับฮวินหยาง แต่ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวกับข้อหลังด้วย เธอก็ไม่อยากไปบังคับไซริน เพราะเข้าใจดีว่ามันลำบากใจไม่น้อย เซรินลุกขึ้น เตรียมเดินออกไป “ถ้าพร้อมบอกเมื่อไหร่ก็บอกละกัน”

    “ฉันขอโทษ...”ไซรินกลั้นสะอื้นอย่างยากลำบาก หันหน้าที่เต็มไปด้วยรอยน้ำตามามองเซรินที่หยุดเดิน พยายาคุมสติ สารภาพทุกอย่างออกมา“ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ ฉันไม่รู้จะทำยังไง ทุกอย่างมันมืดไปหมด ฮวินหยาง... ฮวินหยาง ฮวินหยางเขา...ฮึกๆ”

    พูดออกมาได้ไม่เท่าไหร่ ความรู้สึกที่เหมือนมีก้อนมากระจุกที่คอก็ทำให้ไซรินกลั้นน้ำตาไม่ไหว เอามือข้างหนึ่งมาปิดตาเท้าไว้กับโต๊ะ ร้องไห้ระบายความรู้ที่เก็บมาสองวันออกมา

    ทั้งๆที่คิดว่าโกรธมากแล้วแท้ๆ แต่เมื่อเห็นน้ำตาของไซรินเข้าก็ใจอ่อนยวบ เข้ามากอดปลอบโยนทุกที่ เพราะถ้าคิดในทางกลับกัน ถ้าเอโดรเป็นคนของศัตรู เธอเองก็อาจจะทำแบบเดียวกับไซริน เพราะถ้าองค์กรรู้ คนรักของเธอคงไม่รอดแน่ๆ และถ้าต้องเห็นเขาตาย เธอคงอยู่อย่างไร้ชีวิต “เธอไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก อย่าทำอะไรที่เธอไม่ต้องการ เราต้องการแค่ขัดงานเขา ไม่ได้ต้องการตัวหรือชีวิตเขา”

    “ฮวินหยางไม่น่าทำอะไรเธอ แต่ซินฟานินน่ะเธอต้องระวังนะ”เซรินบอก ความโกรธหายไปจากน้ำเสียง เหลือเพียงความเป็นห่วง มือบางที่ขาวราวกับหิมะกอดปลอบโยนหญิงสาวผู้เด็กกว่าอย่างอ่อยโยน จนคนร้องไห้ไม่เหลือน้ำตาที่จะร้องต่อ

    “...เซริน ฉันจะไม่บอกทุกคนเรื่องฮวินหยาง แต่ฉันจะไม่ยอมให้เขามาทำลายองค์กรเราเด็ดขาด”ไซรินบอกอย่างมั่นใจ ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดในอ้อมออกของเซรินที่มีสีหน้าหนักใจ

     

    ไซรินจ้องดูเครื่องมือในมือตัวเองอย่างลังเลปนหนักใจ

    ฉันไม่ได้อยากทำอย่างนี้ แต่ถ้าพวกนายจับฉันไป ข้อมูลทุกอย่างขององค์กรนายก็จะไปที่เซริน แต่ถ้าไม่ ทุกอย่างก็จะเป็นความลับต่อไป มือบางเสียบอุปกรณ์ในมือเข้าที่ปลั๊กหลังทีวี ซึ่งเป็นที่ลับสายตาที่สุด

    ก็ถือซะว่าเป็นการเดิมพันก็แล้วกัน...

     

    แล้วเธอจะทำยังไงเซรินถาม มองคนที่ตาแดงก่ำ แต่จิตใจยังคงมั่นคงเพื่องาน

    ถึงฉันจะไม่รู้ที่มาและต้นทางของสัญญาณนั่นจริงๆ แต่ฉันก็สามารถกันพวกนั้นมาเจาะข้อมูลได้ งานพวกนั้นก็จะไม่คืบหน้า แต่ฉันจะส่งข้อมูลปลอมไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะหาจุดรวมจริงๆได้ ไซรินพูดด้วยแววตาที่แน่วแน่ แม้หัวใจกำลังกรีดร้องเพราะสิ่งที่เธอจะทำมันเป็นการเริ่มต้นของการผิดสัญญาที่เธอเกลียดและฉันจะใช้เครื่องดูดข้อมูลทางไฟฟ้าในบ้านของฉัน เพราะสถานที่ที่ฉันลบออกไปคือบ้านของฉันเอง

    หือ นี่เขาถึงกับทำงานที่บ้านด้วยเหรอ แล้วเธอก็ไม่รู้เรื่องเลยเนี่ยนะ ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ

    เขาทำตอนฉันหลับ มีครั้งหนึ่งฉันตื่นมากลางดึกก็เห็นเขาทำงานในคอม แต่เพราะสัญญญาเอาไว้ว่าจะไม่ก้าวกายงานของเขาก็เลยไม่ได้เอะใจ ไซรินพูดเป็นเสียงกระซิบ

    นี่เชื่อใจกันเต็มร้อยขนาดนี้ แล้วดันมาเจอเรื่องแบบนี้ บาปหนักแท้หนอ...คู่กรรมยังยอม เซรินคิดสงสารทั้งคู่อย่างจริงใจ

    “แล้วไงต่อ...”

    นับจากนี้ไป ฉันจะใส่เครื่องดักฟังตลอดไซรินหยิบอุปกรณ์ดักฟังที่ได้มาจากเกว็นออกมาจากลิ้นชัก ถ้าฉันโดนจับได้ ฉันจะเปิดเครื่องทันที พวกนั้นก็คงพาฉันไปที่องค์กรหลัก พวกเธอก็จะรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน แล้วเธอก็มาเอาเครื่องดูดข้อมูลได้ แล้วซินฟานินก็คงจะได้รู้ว่านอกจากเอโดรกับฟรอนที่ยังไม่ตายแล้ว ก็ไม่มีพวกเราคนไหนตาย

    เราเสียเธอ แต่ก็ได้ข้อมูลมาแทน ฝ่ายนั้นก็นำข้าศึกเข้าบ้านชัดๆเลยซิ ร้ายไม่เบานะเราน่ะ

    ก็ติดมาจากเธอนั้นแหละไซรินเพย้อหน้ากวนๆ

    หึหึหึ ทำเป็นย้อนนะ เฮ้อ แต่ไซริน... เรื่องนี้จะเป็นความลับได้อีกนานเท่าไหร่ ความลับมันไม่มีมนโลกนะ เซรินได้แต่คิด ไม่กล้าพูดออกไป

    มีอะไรหรอ เห็นเซรินจู่ๆเงียบไปกลางขั้นจึงถามขึ้น

    แค่จะบอกว่า เรื่องร้ายยังมาไม่ถึง ใช้เวลาที่มีให้คุ้มนะ อย่าคิดมาก แล้วก็...ทำตัวให้เป็นปกติด้วยละ

     

    ปิ๊งๆๆๆ

    “ว่าไง ได้เรื่องไหม”เสียงคุมงานเคร่งดังมาจากชายหนุ่มลูกครึ่งผมดำวัยยี่สิบหกย่างยี่สิบเจ็ดที่ยืนหน้าเครียดกลางห้องควบคุมเครื่องเทคโนโลยีที่มีเป็นพันๆเครื่องขนาดยักษ์

    “ไม่ ไม่ได้เลยซักทาง ไม่ว่าจะเจาะเข้าไปทางไหน ก็เหมือนมีคนค่อยตรวจจับและกันออกไป ทั้งๆที่ไม่มีสัญญาณที่มาเลย”ชายหนุ่มเชื้อสายจีนผมกับตาสีดำวัยยี่สิบห้าใส่แว่นที่กำลังยืนกดปิดข้อความที่เตือนถึงการล้มเหลวในการเจาะข้อมูลที่ขึ้นมาตลอดระยะเกือบสองเดือนนี้อย่างเคร่งเครียด จนผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดต้องเดินเข้ามาพิจารณาด้วยตัวเอง

     “เข้าไปยังถึงตัวเก็บข้อมูลฝั่งนู้น ก็มีบางอย่างทำให้เด้งกลับมา ถ้าเป็นโปรแกรมในตัวเครื่อง มันก็ต้องไปให้ถึงตัวเครื่องก่อนโปรแกรมถึงจะทำงาน แต่นี่มันเป็นคนที่คอยขัดขวางกลางขั้น...”

    ปี๊บๆ

    เสียงโปรแกรมเครื่องใหญ่ดังร้องเตือนถึงการแทรกแทรงสัญญาณมาในเครื่องคอมใดเครื่องหนึ่งในห้อง ทำให้คนทั้งห้องลุกฮือ หัวหน้าฝ่ายควบคุมเทคโนโลยีขององค์กรยักษ์ก็สไลด์หน้าจอไปที่แผนผังสัญญาณข้อมูลของห้องทันที่ แถวการวางเรียงโต๊ะคอมก็ปรากฏขึ้นมา ทุกอันมีสีดำ ยกเว้นเครื่องกลางของแถวเกือบริมซ้ายมีสีแดงกระพริบถี่ๆ

    “เครื่องไอสิบห้า รีบบล็อกเครื่องตัวเองเดี๋ยวนี้”ชายหนุ่มตะโกนสั่ง คนที่ประจำตำแหน่งก็รีบลงมือทันทีตั้งแต่เขายังไม่สั่ง แต่...

    ปี๊บๆ

    เสียงเตือนดังขึ้นอีกครั้ง บอกถึงการเจาะระบบดาวน์โหลดข้อมูลสำเร็จไปต่อหน้าต่อตา

    ปี๊บๆๆๆๆๆๆๆ...

    แล้วเครื่องคอมในห้องนั้นก็โดนไปตามๆกัน แสงสีแดงกระพริบขึ้นบนหน้าจอของคนคุมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมันกำลังเข้ามาใกล้เครื่องหลักเรื่อยๆ ที่เครื่องใหญ่ ชายหนุ่มประจำตำแหน่งรีบตั้งระบบรักษาข้อมูลทันที แต่ยังไม่ทันที่สัญญาณเจาะข้อมูลจะเข้ามาที่เครื่อง มันก็ตัดหายไปเอง

    “เวรเอ๋ย! เจ็บใจจริงๆ ต้าซินมั่วทำอะไรอยู่ ทำไมถึงปล่อยให้เป็นแบบนี้ สัญญาณจากเครื่องเจาะข้อมูลก็ยังมีอยู่ ข้อมูลก็ส่งมาปกติ แล้วทำไม...”ซินฟานินที่เหล่าหัวหน้าองค์กรเงาเกลียดนักกลัวหนาสบดอย่างเคืองแค้น “เชน ติดต่อต้าซินบ้างรึเปล่า”

    “ก็มีส่งข้อความครับ”หนุ่มแว่นผู้เป็นหัวหน้าการเจาะข้อมูล เข้าใจภาษาซีที่สุดในสามโลก และรับตำแหน่งเป็นมือขวาขององค์กรโรนาซินซึ่งโดนเปลี่ยนมาอยู่ในมือซินฟานินจากเอโดร

    “ลองโทรไปสิ”คำสั่งจากชายผู้สามารถคว่ำบาตรผลักดันตัวเองมาเป็นหัวหน้าองค์กรได้ตั้งแต่สิบสามขวบ

    “ไม่มีคนรับครับ...”คนที่อยู่ฝ่ายการติดต่อวางโทรศัพท์แล้วรายงาน ซินฟานินตบโต๊ะอย่างเกรี้ยวกราด แต่ยังไม่ทันได้สบทด่าอะไร ประตูห้องก็เปิดพร้อมผู้ชายสองคนที่กลับมาจากการลาดตระเวนพร้อมกับอุ้มร่างสาวที่โชกได้วยเลือดเข้ามา

    “หัวหน้าครับ เราพบหล่อนระหว่างทางมาที่นี่ครับ”หนึ่งในคนอุ้มพูดหลังจากวางร่างผู้บาดเจ็บลงกับพื้น

    “ต้าซิน”เชนวิ่งออกมาจากจุดทำงาน ตรงมาที่คนเจ็บอย่างเป็นห่วงจับใจ “ใครทำเธออย่างนี้”

    “พวกมัน... หัวหน้า”ต้าซินเค้นพูดอย่างลำบาก กับความเจ็บจากกระดูกแตกที่เริ่มรุนแรงมาขึ้นตั้งแต่เดือนก่อนที่พวกไซรินมันพาเธอไปทิ้งที่ต่างเมือง และเธอก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้ เพราะมันจะเสี่ยงต่อการเปิดเผยงานของเธอ “พะ  พวกมันล่อให้...ขะ ข้อมูลปลอม และ...แล้วเจาะข้อมะ...มูลเรา...มัน...มีเครื่องชะ...ช่วย”

    “ปิดคลื่นสัญญาณเครื่องดูดข้อมูลเดี๋ยวนี้! มันเป็นกับดัก!”เชนตะโกนสั่งลั่น เมื่อฟังคำพูดที่ออกมาจากปากต้าซิน คนที่อยู่ฝ่ายคุมเครื่องดูดข้อมูลรีบจัดการทันที

    “เรียบร้อยครับ!” ทุกคนในห้องพาต่างกันถอนหายใจ ไม่รู้ว่าฝ่ายนู้นจะเจาะข้อมูลไปถึงไหนแล้ว

    “เธอทำงานภาษาอะไรห๊ะ ต้าซิน”ซินฟานินกลับมาเล่นงานลูกน้องตัวเอง  “ให้เข้าไปทำงานได้ตั้งนาน แล้วดันได้เรื่องแป็บเดียว ไม่ได้เรื่อง!

    แล้วต้าซินก็โดนกระชากหัวแล้วเหวียงลงพื้นเหมือนที่ไซรินทำไม่มีผิด แวบหนึ่งที่ต้าซินเห็นเงาไซรินซ้อนทับกับหัวหน้าที่แท้จริงของตน

    “อย่าครับ หัวหน้า!”เชนเอาตัวเข้ามาช่วยหล่อน

    “หลบไปซะ นังนี่มันทำงานพลาด ทำให้พวกนั้นได้ข้อมูลไป แกจะปกป้องอีกเหรอ”ซินฟานินตวาดใส่หน้าเชน เขาก้มหน้ารับแต่ก็ไม่ถอยหลบไป

    “ถึงอย่างนั้นต้าซินก็ทำงานดีมาโดยตลอดนะครับ”เชนพูดแก้ต่างให้ “อย่างน้อยเราก็ได้ข้อมูลฝั้งนู้นมาด้วย ยังไงก็เห็นว่าเขาเป็นน้องสาวผมหน่อยเถอะครับ”

    ซินฟานินทำหน้าขัดใจ มันก็จริงตามที่เชนพูด ยังไงๆ เก็บไว้ก่อนก็ได้ ถ้ามันไปทำเรื่องอะไรอีกค่อยจัดการทีหลัง “เออๆ ไปทำแผล แล้วกลับมาบอกข้อมูลให้ฉันฟัง ไปซะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”

    “ขอบคุณค่ะ/ครับ”ต้าซินกับเชนพูดแล้วพากันออกไปที่ห้องพัก





    รองหัวหน้าแห่งองค์กรเงา เซริน


    ก็ถือซะว่าเป็นการเดิมพันก็แล้วกัน...

    เชนกับต้าซิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×