ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the night shadow ภารกิจต่อรักในเงามืด

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่3 ข้อมูล

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 57


    สาวน้อยผู้บังอาจมาท้าปากแข็งกับไซรินนั่งไม่ได้สารรูปอยู่ใต้เครื่องสอบสวนสมัยโบราณที่ไม่รู้ว่าไซรินเอามาจากไหน

    The Street sweeper’s Daughter ลูกสาวคนเก็บขยะ... ชื่อประหลาดของเครื่องทรมานโบราณที่พวกเขาจะจำไปจนวันตาย

    เหล่าพนักงานทั้งหลายได้พักงานมาดูการลงโทษคนทรยศอย่างแสนสาหัสด้วยวิธีที่พวกเขาไม่คิดจะได้เจอ แต่ก็อดสะใจสาวใสใจมารคนนี้ไม่ได้ที่ทำให้พวกเขาทั้งหลายทำงานแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน

    “กดแน่นขึ้นอีก”ไซรินที่นั่งบนเก้าอี้สั่ง ซึ่งเหมือนฉากพญาซาตานกำลังนั่งอยู่บนบัลลังกำลังลงโทษนางฟ้าอย่างเลือดเย็น

    แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น... ทั้งตึกนี่คงยอมเป็นแหล่งชุมนุมซาตาน

    “พวกนั้นรู้อะไรบ้าง แล้วเครื่องนั้นมันทำอะไร”ไซรินเอ่ยปากถามรอบที่สาม

    “ถะ...ถ้าฉันตาย...แกก็ไม่มีทาง...ได้ข้อมูลหรอก”สาวน้อยผู้ยังไม่เจียมบอดี้เถียงเสียงแข็ง แม้ว่าเลือดจะไหลออกมาจากปากและจมูกแล้วก็ตาม “แกยังต้องใช้ฉันอีก...แค่กๆ”

    “หัวหน้าค่ะ”แล้วยังไม่ทันไร รองหัวหน้าที่ไซรินสั่งให้ลองแฮงค์ข้อมูลเครื่องบ้าที่ไอ้สาวน้อยสุดเลวเอาเข้ามาดูก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่ไซริน

    “ว่าไงหนานฉิว”หนานฉิวแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของเจ้านาย มันน่ากลัวจนอดกลืนน้ำลายไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าไซรินไม่ใช่คนที่จะพาลใส่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ก็ควบคุมเสียงไม่ได้เพราะโกรธมาก เธอจึงเกร็งแค่เล็กน้อยเมื่อเจอหัวหน้าในโหมดพญามาร

    “คือไอ้เครื่องนี่มันจะส่งข้อมูลผ่านสัญญาณเฉพาะตัวไปที่คาดว่าน่าจะเป็นองค์กรนู้น มันไม่ได้ใช้ระบบรหัสผ่าน แต่ใช้เป็นเครื่องที่ส่งสัญญาณให้ปลดข้อมูลได้ในระยะที่เหมาะสม”หนานฉิวตอบไว ไม่อยากทำให้ไซรินโกรธเธอเข้าไปด้วย แต่คำตอบก็ทำให้ระดับบรรยากาศเย็นลงไปอีกจนน่าใจหาย แค่โชคดีที่สายตาของไซรินจับจ้องไปที่คนที่โดนเครื่องทรมานนั่งคุกเข่าหัวติดพื้นเท่านั้น

    “ก็บอกแล้ว...ว่าเธอต้องการฉัน”ต้าซินจะคงพูดหาทางรอด

    ปัง

    ไซรินตบที่วางแขนแล้วลุกขึ้น ตัวสั่นเพราะความโกรธ พยายามควบคุมจังหวะการหายใจของตัวเองให้เป็นปกติเพื่องลดความโกรธไม่ให้เข้าไปกระทำความรุนแรงผู้หญิงด้วยกันเพิ่มขึ้นอีก... ถ้าไม่จำเป็นเป็น และทำตัวน่าให้อภัย

    “ผิดแล้ว...ฉันต้องการเครื่องนั่นที่เธอซ่อนไว้ต่างหาก ไม่ใช่เธอ ต้าซิน”ไซรินพูดเสียงเรียบ มุมปากยกขึ้นที่ไม่อาจเรียกได้ว่ายิ้ม เพราะมันชวนสยองมากกว่า แต่ทุกคนก็ยอมรับว่า ไซรินยังคงสวยทุกอกิริยาบท แล้วไซรินก็สั่งเสียงเด็ดขาด “ยงฉินตรวจสอบตัวเองว่ามีอะไรแปลกปลอมในตัวรึเปล่า ส่วนผู้ชายคนอื่นเอาเน็กไทด์มาปิดตา ถ้ามีใครแอบมองฉันจะควักลูกตาออกมา”

    แล้วไซรินก็เดินเข้าไปหานักโทษ ค่อยสอดนิ้วเข้าไปในผมที่ยุ่งเหยิง แล้วแสยะยิ้มให้อย่างน่ากลัว

    “กรี๊ดดดด...”ต้าซินร้องอย่างทุรนทุราย เมื่อไซรินดึงตัวเธออกมาจากเครื่องทรมารผิดวิธี ทำให้กระดูกหลังและเข่าเจ็บปวดเหมือนโดนบดเป็นเสี่ยงๆ

    “ค้นทุกมุมทุกส่วน อย่าให้พลาดแม้มิลิเมตรเดียว”ไซรินสั่ง แล้วโยนต้าซินไปในวงลูกน้องผู้หญิงที่มายืนรออย่างรู้หน้าที่ เสียงเสื้อขาดดังขึ้นทันทีที่ต้าซินไปอยู่ในวงล้อม

    “ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไรเลย”คนที่ลุกขึ้นคนแรกรายงานหลังจากตรวจดูทุกส่วนของต้าซินไม่ต่ำกว่าสามรอบ คนอื่นๆก็เช่นกัน

    ต้าซินยิ้มอย่างสะใจ ก่อนจะหุบหน้าซีดทันทีที่ไซรินพูดคำสังใหม่

    “เอาเครื่องอุนตร้าซาวมาตรวดที่ช่องคลอด อ่อ แล้วก็ไม่ต้องพิถีพิถันอะไรมากนะ เปลืองของ”

     

    ไซรินมานั่งทำงานแทนที่ต้าซิน โดยที่เก้าอี้ คีบอร์ด โดนเปลี่ยนใหม่หมด โดยมีเครื่องเล็กๆที่มีไฟสีเขียวกระพริบๆอยู่ในซองพลาสติกอย่างดี แม้จะล้างจนสะอาดแล้ว เธอนั่งกู้ข้อมูลที่หายไปกลับมาและลบข้อมูลปลอมทั้งหมดออกไปทีละอัน ซึ่งก็ใช้แทบห้าชั่วโมงเพราะไอ้เครื่องบ้านั่นมันดันกันโปรแกรมสแกนตรวจสอบ เธอจึงต้องมาเสียเวลาไปมากมายขนาดนี้ ก่อนจะปล่อยข้อมูลไปที่จอใหญ่แล้วแยกไปตามแถวๆอีกที

    เธอบอกเอโดรเรียบร้อยทุกเรื่องในวันนี้ และบอกข้อบกพร่องให้วาติโนพัฒนาเครื่องมือต่อไป

    “เฮ้อ...”ไซรินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน นวดขมับตัวเองอย่างอ่อนล้า โชคดีที่เธอให้เครื่องต้าซินเป็นเครื่องที่สามารถส่งออกได้แต่ไม่สามารถลิงค์ข้อมูลภายนอก ฝ่ายนั้นจึงได้แค่ข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ไม่อย่างนั้น ป่านนี้ซินฟานินคงมาถล่มที่นี่ไปแล้ว เธอเริ่มคิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆของฮวินหยางแล้ว หวังว่ามันคงจะทำให้หายเหนื่อยได้บ้าง

    “หัวหน้าค่ะ โกโก้อุ่นๆค่ะ”ไซรินเงยหน้าขึ้นมามองหนานฉิวที่ยื่นแก้วกระเบื้องที่มีควันลอยขึ้นมาเล็กน้อยอย่างสงสัย “โกโก้มีสารด้วยใช้หายเครียดได้ค่ะ ฉันเห็นหัวหน้าเหนื่อยๆเลยชงมาให้”

    “เหนื่อยเหรอ...”ไซรินกระตุกยิ้ม กวาดตามองลูกน้องทุกคนในห้อง ภายใต้ดวงตาที่ส่องแววมุ่งมั่นในการทำงาน มีประกายความเหนื่อยล้าไว้ไม่น้อย สีหน้าทุกคนปิดไม่มิดเลย “พวกเธอเหนื่อยกว่าฉันอีก... ฉันยังมีกลับบ้านไปนอนพักกับสามี แต่พวกเธอใช้ชีวิตอยู่แต่ในตึกนี่ ไม่เหนื่อยกว่าเหรอ”

    “ไม่เหนื่อย!”ลูกน้องเกือบสามสิบคนที่ดูเหมือนจะตั้งใจทำงานเด้งหน้าขึ้นมาตอบพร้อมกัน ทำเอาไซรินหันขวับไปอย่างแปลกใจ

    “ขอแค่วันหยุดหนึ่งวันหลังจากงานนี้ก็พอ”เสียงมาจากมุมหลังสุด

    “ขอเงินเดือนเพิ่มซักหนึ่งเปอร์เซ็นก็ได้”เสียงจากอีกมุม

    “ไม่เป็นพญามารอย่างวันนี้อีกก็พอ”ยงฉินพูดเสียงอ่อย แต่ก็ได้ยินกันทั้งห้อง พากันฮาครืน

    ตั้งแต่วันนี้ที่ทุกคนเห็นบทลงโทษครั้งแรกในหกกว่าปีที่ทำงานมา ก็ไม่มีใครกล้าหลอกไซรินอีกนาน แต่ก็คงไม่ใช่พวกเขาแน่นอน เพราะแค่คิดยังไม่เคย อย่างยงฉินถึงจะรักต้าซินมาก แต่ก็เลือกไซรินมากว่า เพราะกว่าครึ่งในนี้เป็นเด็กที่พวกเอโดรช่วยเอาไว้ในวันไฟไหม กับเด็กที่อยู่ในสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าที่ไม่มีเงินเลี้ยง ความผูกพันธ์จึงมีกันลึกซึ้ง

    “ที่พวกเราทำในวันนี้ มันยังน้อยกว่าที่พวกหัวหน้าทำให้เรา ที่เราทำงานอย่างมอบชีวิตให้ก็เพราะพวกหัวหน้าเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพวกเรา เอาเงินให้ทั้งๆที่พวกคุณก็แทบมีไม่พอเลี้ยงตัวเอง ความสำเร็จขององค์กรเป็นสิ่งที่พวกเราคาดหวังไว้ พวกเราขออย่างเดียว... ขอหัวหน้าอย่าท้อ เพราะพวกเราจะไม่มีแรงสู้”หนานฉิวเป็นตัวแทนพูดแทนเกือบสามสิบคนที่เหลือ แม้ตอนท้ายๆมันจะเสียงสั่นเพราะกลั้นน้ำตาไม่ไหว “เพราะฉะนั้น ดื่มโกโก้ด้วยเถอะค่ะ แล้วเรามาสู้งานกันต่อ”

    “ขอบคุณนะ”ไซรินยิ้มหวานให้ทุกๆคนอย่างจริงใจ รับแก้วมาจากหนานฉิว ก่อนจะพูดติดตลก “เพื่อที่จะให้ฉันดื่มโกโก้แก้วเดียว ถึงกับต้องลงทุนพูดจนคนเกือบสามสิบคนบ่อน้ำตาแตกเลยนะเนี่ย”

    นั่นแหละ ทุกคนจึงรู้ว่าตัวเองร้องไห้อยู่ ก็รีบยกแขนเสื้อมาเช็ดออกไป รวมทั้งไซรินด้วย

    “เอ่อ...หัวหน้าค่ะ ทำไมถึงปล่อยให้ต้าซินอยู่ต่อไปละค่ะ”หนานฉิวถามอย่างกล้าๆกลัวๆเมื่อไซรินดื่มโกโก้หมดแล้ว ซึ่งเธอก็สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อไซรินตวัดตามามอง กลัวว่าพญามารจะกลับมาสิงไซรินอีก

    ไซรินเหยียดยิ้มเย็นอีกครั้งเมื่อคิดถึงสภาพจะตายแลมิตายแลของต้าซิน

    “ก็เพราะว่าเซรินสั่งให้ปล่อยนะซิ”ที่จริงเธอก็ไม่อยากให้ต้าซินต้องมาทรมานต่อไปอีก เพราะยังไงหล่อนก็ต้องตายเพราะซินฟานินอยู่แล้ว แต่เพราะ... “คำพูดที่เซรินทำเป็นพูดสลับก็เพื่อให้ต้าซินได้ยินและเพื่อให้ฉันปล่อยหล่อนไปบอกซินฟานินแบบนั้นต่างหาก แต่ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะเชื่อหรือไม่ก็ไม่เป็นไร เพราะที่เซรินต้องการจริงๆคือผลลัพที่ได้จากข้อมูลในเครื่องบ้านี่ต่างหาก อ่อ แล้วเตรียมตัวย้ายข้อมูลไปในโน๊ตบุ๊คนะ อีกสามอาทิตย์เราจะเปลี่ยนที่ทำงาน”

    “ได้สถานที่แล้วครับ”ยงฉินพูดขึ้นมาหลังจากไล่ตามสัญญาณที่เครื่องแฮงค์ข้อมูลของต้าซินไปยังปลายทางของที่ส่งข้อมูล และส่งข้อมูลแสดงขึ้นจอใหญ่ทันที รูปสถานที่ทั้งสิบสถานที่แสดงเรียงกันบนจอ ทำไซรินแทบจะเป็นลม แต่ยังไม่ทันได้ดูให้แน่ใจ ลูกน้องอีกแถวก็พูดขึ้นมา

    “ได้รูปรายชื่อบุคคลแล้วค่ะ”แล้วทันทีที่รายชื่อเข้าจอใหญ่ โปรแกรมก็หารูปกับข้อมูลที่มีส่วนเกี่ยวข่องโดยอัตโนมัติ รูปเป็นสิบๆรูปวิ่งทับๆกันอย่างรวดเร็ว แต่ไซรินมั่นใจว่าตนมองไม่ผิด

    “หยุด อย่าเพิ่งโหลดข้อมูลส่งเซริน”ทุกคนหันมามองไซรินทันที “ส่งไปที่ห้องทำงานฉัน ฉันมีอะไรของตรวจสอบนิดหน่อย”

    พูดจบเธอก็เดินออกไปเข้าห้องทำงานส่วนตัวทันทีไม่เปิดโอกาสให้ถาม เปิดคอมไล่ที่ละรูปๆ รูปสถานที่เธอมั่นใจแล้วว่าหนึ่งในนั้นคือบ้านเธอเอง แต่ก็ยังอยากรู้ทั้งหมด ว่ารูปคนที่เธอเห็นมัน...

    ไม่ผิดแน่... ไซรินเอามือปิดหน้า หัวใจเหมือนตกลงไปในเหวลึก สมองที่เพื่อเหมือนจะเห็นทางออกก็กลับมามืดแปดด้านเหมือนเดิม ถึงจะเปลี่ยนชื่ออะไรหมดแล้ว แต่เธอจำได้... ไซรินมองดูรูปคนที่อยู่ในจอคอม

    ฮวินหยาง...


                    “แยหลี เธอเป็นอะไรรึเปล่า”ทั้งๆที่กะจะทำตัวเหมือนเดิมแท้ๆ แต่ฮวินหยางก็ยังคงดูออก และเธอก็เผลอหลบหน้าเขาตั้งหลายครั้ง แล้วตอนนี้เพื่อไม่ให้เธอหนีไปไหนอีก เขาจึงรอเธอนอนแล้วคร่อมขึ้นมา

    ให้ตาย แผนเขาแทบไม่ต้องลงมืออะไรเลย แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามวงจรแล้วก็รอเวลา....

    “แยหลี”ฮวินหยางเรียกชื่อเธอเสียงอ่อน ทำให้ไซรินออกมาจากความคิด ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ถึงมันจะยากเหลือเกิน

    “ไม่มีไรหรอก เรื่องงาน”คำว่าเรื่องงานออกมาปุ๊บ หมายถึงห้ามยุ่งเด็ดขาด ทำให้ฮวินหยางยอมแพ้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

    “แน่ใจนะว่าเรื่องงาน”

    “แน่ใจซิ”...แค่ว่ามันโยงมาเรื่องครอบครัวด้วยก็เท่านั้นเอง ไซรินต่อในใจ

    “เฮ้อ...”แล้วฮวินหยางก็ทิ้งตัวลงนอนข้างเธอ ดึงร่างบางไปกอด เอาจมูกมาถูไถกับแก้มนวล

    ทั้งๆที่ความระแวงเกิดขึ้นในใจไซรินไม่น้อย แต่อ้อมกอดของเขาก็ทำให้เธอสบายใจได้อย่างง่ายดาย... เพราะอย่างนี้ซินะ เธอถึงต้องยอมทำผิดต่อองณ์กรที่พวกเธอสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากเพื่อผู้ชายคนเดียว

    “ฮวินหยาง...”ในที่สุดไซรินก็ตัดสินใจออกมา เรียกชื่อสามีเบาๆ เขาครางรับเล็กน้อยว่าฟังอยู่ “เราต่างไม่รู้ว่างานที่อีกคนทำคืออะไร แต่ถ้าวันหนึ่งงานนั้นมันทำให้เราต้องฆ่ากันเอง นายจะทำอย่างไร”

    ฮวินหยางลืมตาโพล่ทันทีที่ได้ยินคำถาม เด้งตัวขึ้นมาพูด “อย่าพูดอะไรเป็นลางสิ” ไซรินพลิกตัวหันไปมองหน้าเขา ความมืดไม่ทำให้ความกังวล ตื่นตกใจ และ...ความระแวงบนหน้าฮวินหยางหายไป “ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้”

    “ไม่รู้สิ แค่อยากรู้ ระหว่างงานกับฉัน อะไรสำคัญกว่า”ไซรินตอบเสียงนิ่ง แม้ในใจจะปวดร้าวเจียนตายแล้วกับความจริงที่ตนเพิ่งทดสอบไปเมื่อกี้ ที่เขาเผลอแสดงความระแวงออกมา เขาเป็นมือขวาจริงๆ “แล้วคำตอบของนายละ”

    “...ฉันไม่เคยคิดเลย”เขาตอบเสียงเบา ดึงคนรักขึ้นมานอนบนอกเขา “ฉันไม่หวังให้มันเกิด อย่าไปคิดมันเลย ฉันไม่ยอมให้มันเกิดแน่ๆ”

    ไม่หรอก ฮวินหยาง มันกำลังจะเกิด มากำลังใกล้เข้ามา ไซรินคิด กระชับกอดร่างใหญ่

    “ฉันไม่รู้เลยจริงๆ...”เสียงหลุดมาจากปากฮวินหยางก่อนที่ไซรินจะพล่อยหลับไป

    นั่นซิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮวินหยาง เอโดรกับเซรินคือคนที่ทำให้ฉันรู้จักความรักและสร้างชีวิตให้ฉัน ส่วนนายคือคนที่เติมเต็มรักให้กับชีวิตฉัน ฉันจะทำอย่างไรดี...


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×