คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2 ไส้ศึก
“หัวหน้าค่ะ ได้แหล่งแล้วคะ”ไซรินหันไปทางโต๊ะที่สามแถวที่หนึ่งฝั่งซ้ายทันที ตั้งใจฟังคำพูดของลูกน้องทุกคำแม้ว่ามือจะยังคงทำงานที่จอใหญ่ “จากคลื่นที่อยู่ในข้อมูล มันชี้ว่าตัวเครือค่ายที่มาอยู่ในจีน เมืองเดียวกับเรา แต่มันมีคลื่นที่ใกล้เคียงกันเป็นร้อยๆอัน จนไม่สามารถแยกได้ค่ะ”
“ต้องรอจนกว่าจะใช้งานซินะ”ไซรินวิเคราะห์ ต้องขอบคุณเครื่องที่เกว็นส่งมาให้จริงๆ ช่วยพวกเธอหาข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมถึงสองเท่าหรือเร็วกว่าด้วยซ้ำ และโปรแกรมวัดคลื่นก็คงจะได้หยิบขึ้นมาใช้ “คอยจับตาดูคลื่นนั่นไว้ ลองใช้โปรแกรมวัดคลื่นใหม่ดู”
“ค่ะ”ลูกน้องรับคำสั่ง แล้วหันไปทำงานต่อทันที
“หัวหน้าครับ ได้รายชื่อของคนที่เข้าไปดูเว็บข้อมูลแล้วครับ”เสียงจากโต๊ะใดโต๊ะหนึ่งในแถวกลางดังขึ้นมา “แต่มันมีเป็นพันๆคนเลยครับ”
“คัดเอาคนที่เข้านานที่อยู่ในเครือค่ายเอาข้อมูลแบบละเอียด หรือ ก็อปปี้ข้อมูลออกไปมา”ไซรินสั่งอีกครั้ง คนที่เข้าไปเปลี่ยนและทำลายระบบการส่งเข้าอาวุธของกองทัพลับ สร้างความเสียหายให้องณ์กรเธอไม่น้อย และถ้าพวกเธอยังหาที่มาและป้องกันไม่ได้ พวกนั้นก็สามารถหาที่อยู่และทำลายองค์กรเธอได้ในไม่ช้า “ได้แล้วส่งมาที่จอใหญ่”
“หัวหน้าค่ะ พวกนั้นเปิดคลื่นแล้วค่ะ”
“พวกมันส่งไปไหน”
“...มาที่บริษัทเราค่ะ”ไซรินลมแทบจับ พวกนั้นหาที่อยู่ของพวกเธอได้ยังไง ก่อนจะเหลือบไปเห็นตัวช่วยที่เสียบอยู่ก็คิดออกทันที
“อย่าเพิ่งทำลายคลื่นนั่น ปล่อยมันเข้า แล้วส่งข้อมูลมาที่จอใหญ่”ลูกน้องมองไซรินอย่างไม่เข้าใจ ทำไมหัวหน้าจึงได้คิดให้พวกนั้นมาแฮงค์ข้อมูล ก่อนจะแทบร้องอ๋อ “เรามีตัวช่วยไม่ต้องห่วง ให้พวกนั้นมันรับพิษที่ตัวเองทำ”
แล้วตารางวัดคลื่นก็ขึ้นที่จอใหญ่ทันที มันซูมละเอียดเข้าไปเพื่อจับสัญญาที่ชัดเจนซึ่งมีเพียงแค่หนึ่งสัญญาเท่านั้น แต่คลื่นที่พวกนั้นใช้หลอกล่อก็มีถึงห้าคลื่นที่เหมือนกันให้พวกไซรินต้องปวดหัวเล่น
“เอาไงต่อค่ะ”คนที่ยืนข้างไซรินถามอย่างเป็นกังวล เธอเป็นรองหัวหน้าของที่นี่
“ลองแยกเปิดเสียงออกมาซิ”โต๊ะแรกของทั้งห้าแถวรับข้อมูลจากจอใหญ่แล้วลองเปิดเสียงที่ละอันให้ไซรินแยกเอง เธอขมวดคิ้วก่อนจะเปลี่ยนคำสั่ง “เปิดพร้อมกัน”
ไซรินมีพรสวรรค์ในการแยกเสียงคลื่น แม้ตระตุกเพียงเล็กน้อยก็จับเสียงได้ และหนึ่งในนั้นแต่ต่างออกไป แม้เพีนงเสี้ยววินาที่เธอก็จับได้ทันที่
“คลื่นที่สอง เจาะข้อมูลเข้าไปเดี๋ยวนี้”
“เฮ้อ...”หลังจากกลับมาบ้าน ไซรินในนามแยหลีก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย เอานิ้วมานวดขมับที่ปวดตุบๆจากการฟังคลื่นนานทั้งวัน จู่ๆมือใหญ่ของคนที่กลับมาก่อนก็แทรกเข้ามานวดให้แทน แม้สีหน้าของเขอเองก็ดูไม่ดีกว่าเธอสักนิด
“งานเครียดเหรอ”ฮวินหยางถาม ก้มลงหอมหน้าผากของคนรักที่หงายหลังพิงมา
“อืม มีคนคอยส่งคลื่นรบกวนระบบสื่อสาร น่ารำคาญ นายละ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอก ใช่ไหม”ไซรินถาม เอามือเอือมไปจับหน้าเขาอย่างอ่อนโยน
“หึ ใช่ อ่านข้อมูลหลอกเลยโดนโปรแกรมตีกลับ เครื่องแฮงค์แทนเลย”เขายิ้มกว้างออกมา ก่อนจะเอามือกอดพ้าดบ่าเล็ก แล้วจูบที่ปากเจ้าของไหล่เบาๆ “อยากลางานไปเที่ยวรอบโลกกับเธอจัง”
“นั่นซิ อยากเหมือนกัน”ไซรินยิ้มออกมาน้อยๆ แม้จะเอะใจกับงานเขาแต่ก็ไม่เก็บมาใส่ใจ “ถ้าลางานได้อะนะ”
“นั่นซินะ อย่างนั้นคงต้องรอเกษียญอย่างเดียว”พูดแล้วฮวินหยางก็ค่อยๆเดินอ้อมมาข้างหน้าไซริน “งั้นตอนนี้เรามาทำอะไรที่วัยเกษียญทำไม่ได้ดีกว่า”
เท่านั้นแหละ สมองก็หายปวดทันที่ ไซรินลืมตาพรึบ เด้งตัวขึ้นดัง พูดเสียงดัง “ไม่... ฮวินหยาง ปล่อย... ว้าย”
จะวิ่งหนีก็ไม่ทัน เมื่อเขาเล่นมาดักหน้าไว้แล้ว ฮวินหยางกอดไซรินไว้ ไม่ให้เธอหนีไปไหน ดึงเธอมาจูบปิดปาก ก่อนจะรีบอุ้มเธอขึ้นท่าเจ้าสาว แล้วพาเข้าห้องนอน ปิดประตูทันที
“โอย...”เดี๋ยวนี้ไซรินรู้สึกว่าเธอจะลงนั่งช้าๆไม่ได้ เป็นต้องทิ้งตัวลงเหมือนคนแก่ขึ้นทุกที หนึ่งเดือนที่ผ่านมาถึงจะมีตัวช่วยจากวาติโน แต่การเจาะหาที่มาของคนแฮงค์ข้อมูลก็ยังถือว่าหนักไม่น้อย แถมเธอกลับบ้านฮวินหยางก็เล่นไม่ยอมให้เธอได้นอนเต็มอิ่มซักที แต่ถึงจะบ่นอย่างนั้นเธอก็ยังมีความสุขกับฮวินหยางอยู่ดี เธอเกลียดความรู้สึกที่ขัดแย้งในหัวแบบนี้สุดๆ “เว้ย...”
ไซรินเอามือขึ้นมาขยี้หัวอย่างแรงก่อนฟุบลงกับโต๊ะทำงาน
“งานที่ฉันให้หนักไป หรืองานบ้านหนักไปจ๊ะ ไซริน”เสียงที่ฟังดูทรงอำนาจแต่กลับอบอุ่นดังขึ้นมาจากมุมเดียวที่เกว็นเคยนั่ง เล่นเอาไซรินสะดุ้งตัวขึ้นมาทันทีก่อนที่โคมไฟจะเปิดพรึบด้วยมือของสาววัยยี่สิบห้า ผมสีบลอนด์ลอนเงายังคงโดนปล่อยให้ทิ้งตัวสยายเกือบเลยเอวอย่างสวยงามตามฉบับ ดวงตาสีน้ำเงินยังคงมีอำนาจ สง่างามและเปียมไปด้วยความอบอุ่น
“เซริน”ไซรินเรียกแขกคนสำคัญ นี่เธอเหม่อถึงขนาดไม่เห็นเซรินเลยหรือเนี่ย
“ฮะๆ ท่าจะเป็นหนักนะเนี่ย เมื่อคืนฮวินหยางใช้งานหนักไปเหรอ”รองหัวหน้าใหญ่ขององค์กรเงาแซวรุ่นน้องคนสนิท ไซรินถึงกับหน้าขึ้นสี มองเซรินอย่างถามว่ารู้ได้ไง “คอเธอโดนกัดจนแดงเป็นแถบแล้ว”
ไวกว่าความคิด ไซรินยกมือขึ้นมาตะปบคอตัวเองทันที นั่นทำเอาเซรินหัวเราะร่า
“ฮ่าๆๆๆ ฉันล้อเล่นน่า”เซรินหัวเราะจนตาหยี ยกมือขาวๆเรียวๆขึ้นมาปาดน้ำตา
“พี่เซ!”ไซรินหันมาค้อนขวับให้ ทำเอาเซรินระเบิดหัวเราะมาอีกระรอก
“ถ้าฉันกับเอโดรไม่ติดงาน ฉันก็คงโดนไม่น้อยกว่าเธอหรอก”พี่เซของหัวหน้าหน่วยทางเทคโนโลยีพูดพลางยิ้มอย่างเอ็นดู
ไซรินสะบัดหน้าอย่างหงุดหงิด มองรุ่นพี่ที่เคารพพูดถึงคนที่เป็นทั้งหัวหน้าทั้งสามีได้อย่างไม่อายปาก ก่อนจะปลงว่าคนอย่างเซรินไม่เคยอายที่จะพูดความจริง เพราะก่อนจะงานเข้าอย่างนี้ ก็มีช่วงหนึ่งที่เซรินดูเหนื่อยเป็นพิเศษ ทั้งๆที่งานก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เพราะเป็นช่วงเพิ่งแต่งงานใหม่ๆ แต่ก็ไม่มีหลานให้รุ่นน้องอย่างพวกเธออีกเจ็ดคนได้อุ้มสักที
“แล้วนี่มาทำไมเนี่ย”ไซรินพูดด้วยน้ำเสียงไร้เยื่อใย
“โธ่ อย่าโกรธกันซิ นานๆจะมีเรื่องแวะมาหาได้ทั้งที จะพูดแต่งานมันก็ไม่หายคิดถึง”เซรินแสร้งทำหน้าอ้อนซึ่งมันน่าเตะมากกว่า ไซรินจึงต้องค้อนไปให้ว่าถ้าไม่พูดจะออกไปห้องคุมสัญญาณแล้วนะ เซรินจึงยอมเข้าโหมดจริงจัง “โอเคๆ เข้าเรื่องก็ได้”
“ตามที่ส่งข้อมูลไปที่หน่วยของฉัน สรุปออกมาได้ว่าข้อมูลแผ่นสิบนี้เป็นตัวจริง ที่เหลืออีกร้อยกว่าอันนั่นเป็นแค่คนที่เข้ามาล่อเพื่อยื้อเวลา แต่พวกนั้นพลาดอยู่อย่าง ที่ที่พวกนั้นเข้าเว็บมา มันเป็นเขตใกล้เคียงกัน เวลาเดียวกันและใช้ระบบสัญญาณเดียวกันอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นก็หาตำแหน่งที่ตั้งให้ได้แล้วค่อยดูประวัติว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่ซ้ำกันแล้วค่อยแบ่งหน้าที่กันเจาะดูข้อมูล”เซรินยื่นแฟ้มเอกสารข้อมูวตัวอย่าง และรหัสต่างๆมาให้ไซริน “ฉันโหลดข้อมูลไปที่ตัวเก็บข้อมูลของวาติโนแล้ว ไปเปิดดูได้”
“ขอบคุณ”ไซรินพูด เธอยังคงเคารพเซรินเป็นเหมือนทั้งพี่ทั้งแม่อยู่ แม้ว่าฝีมือด้านเทคโนโลยีของเซรินจะไม่ดีเท่าเธอ
“ไม่เป็นไรหรอก น้องหนู”เซรินยิ้มอย่างอบอุ่น เรียกไซรินเหมือนตอนเด็ก ซึ่งไซรินตอนนั้นไม่ชอบชื่อนี้มากๆ ถึงขั้นเกลียด แต่เซรินก็ไม่ต้องการเรียกเธอว่าหนึ่งแปดสามเก้าเช่นกัน ไปๆมาๆเลยได้ชื่อไซรินมา “มานี่มา กว่าจะได้เจอกันอีกไม่รู้เมื่อไร”
“ฉันรักพี่นะ”ไซรินพูดขณะกอดเซรินแน่น เช่นเดียวกับเซริน
“พี่ก็รักเธอเหมือนกัน”เซรินบอก ก่อนจะถอนกอดแล้วสบตากับเธออย่างมีความหมาย “ไม่ว่ายังไงก็ปรึกษาพี่คนนี้ได้ทุกเรื่องนะ ไม่ต้องเอาเรื่องงานทุกครั้งก็จะดีมาก”
“อืม แต่ว่าคนอื่นๆเป็นไงบ้าง”ไซรินถามถึงเพื่อนๆอีกเจ็ดคนที่ร่วมชีวิตด้วยกันมาแต่เล็ก
“อา... ถ้าเป็นเอโดรก็กำลังเช็คความเคลื่อนไหวในประเทศต่างๆที่พวกเราไม่ได้ดูแลกับธุรกิจเครือค่ายใหญ์ที่เป็นศัตรูกับพวกพันธมิตรกับซินฟานิน แล้วก็พันธมิตรทางอเมริกาที่ฟรอนเคยดูแลก็โดนเล่นงานหนัก ส่วนอาการฟรอนก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากที่คลอดสองปีก่อน นิกโคลัสก็ไปรักษาการณ์แทนเฟรมที่ต้องกลับรัสเซียในกองทหารลับไทยกับมาริซะคอยยืมกำลังมาเฟียคุมตัวพวกแอนฟานี เกว็นก็ทั้งต้องคอยทำงานหาข่าวส่งข่าวแบบเดิม แล้วก็เพิ่มเข้างานสังคมไปด้วยกับวาติโน แล้วริมสันก็น่าจะราดตระเวนไม่เยอรมัน ฝรั่งเศส ก็อังกฤษ สรุปก็หัวหมุนกันทุกคน”เซรินรายงานยามเดินไปที่ประตู ไม่ลืมหยิบแว่นกับหมวกตาข่ายดำแบบเก๋ไป แล้วก็รายงานส่วนที่ลืมก่อนปิดประตู“อ่อ... แล้วคอลินกับไนติงเกลหลานรักก็น่ารักน่าฟัดมากก ส่วนฉันก็จะไปองค์กรใหญ่ที่อเมริกา แล้วก็จะไปรับอาวุทที่รัสเซีย”
หา? ไซรินทวนคำพูดเซรินในใจก่อนจะงง มันต้องรับอาวุธที่อเมริกา แล้วไปองค์กรใหญ่ที่รัสเซียไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเซรินถึง... หรือว่า...
แล้วไซรินก็เดินไปที่หน้าต่างที่เชื่อมกับห้องคุมสัญญาณ ก่อนจะแหวกมู่ลี่ดู แล้วก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นสัญญาณไฟสีแดงแปลกปลอมอยู่ใต้โต๊ะหนึ่งในห้าของแถวที่ชิดห้อง
ปึง โครม!
กรี๊ดดดด
ทุกคนในห้องควบคุมมองมายังหัวหน้าตัวเองแล้วก็ช็อคไปตามๆกัน
“ตั้งแต่เมื่อไหร่! แกเป็นพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไร!”ไซรินกระชากผมลูกน้องผู้หญิงขึ้นมาอย่างแรงจนเก้าอี้หงาย ก่อนจะขว้างคนทรยศให้คว่ำไปตามเก้าอี้ ลูกน้องแถบนั้นลุกฮือ มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งตัดหน้าไซรินมากอดคนที่กองอยู่กับพื้นอย่างปกป้อง
“หัวหน้าครับ ค่อยๆพูดกันก็ได้ครับ”ผู้ชายคนนั้นทำใจดีสู้เสือปรามหัวหน้าตัวเอง ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาเกือบหกปี ไม่เคยมีใครเห็นไซรินน็อตหลุดอย่างนี้มาก่อน มากสุดก็แค่ตวาดใส่หน้าด้วยวาจาเฉือดเฉือนใจที่เจ็บแสบเป็นที่สุด เมื่อมีคนกดข้อมูลผิดแล้วมันไปลบข้อมูลอื่นแล้วกู้กลับไม่ได้เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ไซรินกดดันกับงานมากที่สุด เพราะทำงานกินเวลามาเกินสามอาทิตย์มันไม่ใช่เรื่องดี แถมข้อมูลที่หายไปก็เรียกได้ว่าถ้าเอามาเรียงรวมกันเสร็จ กดคลิ๊กเดี๋ยวงานก็เสร็จแล้ว
“ค่อยๆพูด?! นายจะให้ฉันค่อยๆพูดกับนังงูพิษนี่เหรอ”ไซรินพูดเสียงเย็น ดวงตาสีเทาลดอุณหภูมิจนคนที่เห็นหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง พร้อมกับรังสีสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวเธอทำให้คนในห้องหายใจติดขัด “ถอยไปยงฉิน ไม่งั้นฉันจะถือว่านายรวมหัวทรยศองค์กรกับนังนี่ ฉันไม่อยากทำอะไรนายไปด้วย...ถ้าไม่จำเป็น”
คำว่างูพิษกับทรยศ สองคำนี้เป็นสิ่งที่ไซรินเกลียดที่สุด และทุกคนก็รู้ดี มันทำให้ทุกคนหันไปมองหน้าสาวน้อยที่โดนชี้หน้าว่าเป็นคนไม่รักดีอย่างไม่เชื่อสายตา
“ไม่นะยงฉิน ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันไม่ได้ทำ...”สาวน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อชายหนุ่มมองมาอย่างเหลือเชื่อและกำลังก้าวห่างออกจากตัวเธอไปอยู่หลังกลุ่มเพื่อน และปล่อยให้ไซรินมาจัดการเธอ
เพี๊ยะ
“ไม่ได้ทำเหรอ หยุดบีบน้ำตาเล่นบทตอแหลได้แล้ว แล้วนี่มันคืออะไร!”ไซรินตบหญิงสาวหงายไปกองกับพื้นอีกครั้ง ทุกๆคนร้องซี๊ดในใจ พลางดูไซรินกระชากเครื่องบางอย่างออกมาจากใต้โต๊ะ “เป็นเครื่องที่เธอผลิตขึ้นมาเองหรือไง ห๊ะ! ที่ทุกคนต้องทำงานแทบเป็นแทบตายกันมาเดือนหนึ่งกว่าก็เพราะเธอ ทั้งๆที่มันควรเสร็จตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อน แล้วมันก็เป็นเพราะเธอใช้ไอ้เครื่องนี้ใช่ไหม ข้อมูลถึงได้หายไปหมดกู้ไม่ได้ แล้วก็อ้อนให้ยงฉินช่วยออกปากแทนว่าเป็นคนทำ ใช่ไหม!”
“หึ ก็มันโง่หลงผู้หญิงอย่างฉันมากกว่าความถูกต้องทำไมละ”สาวน้อยที่ดูใสซื่อแสยะยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าคงแก้ตัวอะไรไม่ได้แล้ว ส่วนยงฉินแทบจะกองลงกับพื้น เมื่อรู้ว่าโดนใช้เป็นเครื่องมือกับแผนของฝ่ายตรงข้าม “แกก็โง่เชื่อลูกน้องไปหมดทุกอย่างเอง น่าสงสาร...หึๆๆ”
“เลิกสงสารฉัน มาสงสารตัวเองดีกว่านะ ว่าจะช่วยฉันแล้วตายสบาย หรือจะท้าปากแข็งกับเครื่องงัดสมัยโบราณ”ไซรินพูดเสียงเหี้ยม เธอเองก็ไม่ได้ไว้ใจนังคนนอกนี่ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่เพราะเห็นว่ายงชินไว้ใจเลยลองให้โอกาสดู แต่ไม่คิดว่าจะเป็นการให้โอกาสศัตรูแทน นอกจากต้องทำโทษเรื่องงานแล้วยังต้องลงโทษที่ใช้หัวใจลูกน้องของเธอเป็นเครื่องมือด้วย
นิ่งๆอย่างนี้ ฉันก็ร้ายนะ
ความคิดเห็น