คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1 ครอบครัวที่รัก
“กลับมาแล้วคร้าบบ”ทันทีที่เปิดประตู กลิ่นอาหารหอมๆจากห้องครัวก็ลอยมาแตะจมูก สองเท้าใหญ่ถอดร้องเท้าแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว เจอร่างบางที่ม้วนผมสีดำสนิทขึ้นเป็นมวยครึ่งหนึ่งของความยาวทั้งหมดกำลังสาระวนอยู่กับการทำอาหาร เดี๋ยวก็เคี่ยวแกงหม้อนี้ เดี๋ยวก็ไปผัดกระทะนู้น
“เชิญไปอาบน้ำเลยค่ะ ไม่ต้องมาแกล้งกัน”ฝีเท้าคนฝ่ายชายหยุดชะงักทันที ห่างจากร่างบางที่เอ่ยเสียงขัดพร้อมกับหยิบตะหลิวหันกลับมากั้นเขาและเธอไปเพียงครึ่งช่วงแขน
“รู้ทันอีกแล้ว”เขาเบะปาก จ้องตะหลิวที่เกือบจะติดจมูกตัวเองตาเหล่ ก่อนจะดันมันออกไปด้านข้าง ซึ่งคนถือก็ไม่ได้ขัดอะไร เขาจึงเข้าไปโอบเอวบางของภรรยาแล้วจูบเบาๆที่ปาก
“อืม... พอแล้ว ฮวินหยาง”ร่างบางย่างเข้าวัยยี่สิบสี่บอกสามียี่สิบห้าของตัวเอง เอามือมาดันปากของฮวินหยางออกเมื่อดูท่าเขาจะไม่หยุดง่ายๆ เธอเลยโดนดึงเข้าไปกอดแน่นแทน
“ไม่ได้คุยกันเกือบสองอาทิตย์ ไม่คิดถึงกันเลยหรือไง หึ แยหลี”ฮวินหยางพูดเสียงอ้อนๆขณะที่วางคางไว้บนไหลเล็ก ซุกจมูกเข้าไปในผมแถบซอกคอสูดกลิ่นหอมๆที่คิดถึง
“คิดถึงสิ ทำไมจะไม่คิดละ”แยหลีตอบ เธอก็คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆของเขาเหมือนกัน สิบสามวันที่ผ่านมาทั้งสองงานยุ่งตัวเป็นเกลี่ยว ถึงเธอและเขาจะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็แทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย นอนเตียงเดียวกันแต่แทบไม่ได้กอดกัน กว่าเธอจะกลับเขาก็หลับไปแล้ว ไม่ก็กว่าเขาจะตื่นเธอก็ออกไปทำงานแล้ว หรือไม่เธอก็เขาต้องนอนค้างที่ทำงาน แล้วสัปดาห์ก่อนเธอก็ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศด้วยห้าวัน “นายไปอาบน้ำก่อน แล้วมากินข้าว”
“ไม่เอา จะอาบพร้อมเธอเลย”เขากอดเธอไม่ยอมปล่อย กลับกอดแน่นขึ้นด้วยซ้ำ
“บ้าสิ”เธอว่าทั้งๆที่ปากยิ้ม ตีหลังเขาเบาๆ ก่อนจะผลักตัวเขาออก หันมาทำกับข้าวต่อ “จะไปทำอะไรก็ไป ฉันทำข้าวเสร็จแล้วจะเรียก”
“ไม่ต้องหรอก เพราะฉันจะอยู่อย่างนี้จนกว่าเธอจะเสร็จ”ฮวินหยางพูดพลางกอดแยหลีจากด้านหลัง ซึ่งคนโดนกอดก็มองค้อนกลับมาให้ แต่เจ้าตัวก็ส่งตาหวานอ้อนๆไปให้ ทำให้ฝ่ายหญิงได้แต่กลอกตา
“ไม่เมื่อยหรือไง”แยหลีถาม หันมามองใบหน้าคมเกือบหวานที่วางอยู่บนไหล่ตัวเอง เมื่อคุณสามียืนกอดเธอมาได้สักสิบนาทีแล้ว
“ไม่อะ เธอเตี้ยกว่าฉันไม่เท่าไหร่เอง ไม่ชอบเหรอ”ฮวินหยางเหล่ตามองหน้าแยหลี
“ยังไม่ได้บอกสักนิดว่าไม่ชอบ”แยหลีฟอร์มตอบหน้าตาย ก็จริงของเขา เธอเตี้ยกว่าเขาไม่ถึงสิบเซ็นต์ด้วยซ้ำ ซึ่งฮวินหยางก็สูงร้อยแปดสิบกว่าๆได้ เธอก็ห่วงว่าเขาจะปวดหลัง ถ้าไม่ก็จงกอดต่อไปละกัน อย่างนี้... “ก็อุ่นดี”
ฮวินหยางยิ้มตาหยีแล้วฉกความหวานที่แก้มนวล ซึ่งแยหลีก็แสร้งค้อนให้ ก่อนจะยิ้มแล้วหอมแก้มเขาคืนบาง ทั้งสองก็หัวเราะไปทำอาหารไป ให้ความรักฟุ้งไปทั่วบ้าน
แล้วเขาก็ทำตามที่พูดจริงๆ กอดเธอจนทำอาหารเสร็จ แถมหลังกินข้าวฮวินหยางก็ไม่ยอมพัก ทั้งๆที่ทั้งคู่เหนื่อยกับงานไม่น้อย
“ฮวินหยาง!”แยหลีสะดุ้ง เมื่อหันกลับมาจากฝักบัวเจ้าของชื่อก็มายืนอยู่หลังเธอ ทำเอาหัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ “มะ...มาทำอะไร”
แยหลีถามออกไป ทั้งๆที่ดูสภาพของสามีตัวเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ร่างโปร่งไม่มีเสื้อผ้าปิดสักชิ้น แถมก้าวเขามาหาเธออย่างไม่อาย ทั้งที่เธอแทบจะแทรกเข้ากำแพงไปแล้วถ้าทำได้ แปลว่าเขาเตรียมตัว”ทำการบ้าน”แบบทบต้นทบดอกกับเธอทั้งสองอาทิตย์อย่างเต็มที่
“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าจะอาบน้ำพร้อมกับเธอ”น้ำที่ไหลออกจากฝักบัวระห่างเขาและเธอไม่ช่วยอะไรเลย ท่อนแขนแกร่งดึงร่างบางออกมาจากมุมกำแพง ให้แผ่นหลังบางมาพิงอกในอ้อมกอดของเขาแทน โดยไม่ปล่อยให่ภรรยาได้ขัดขืน เขาก็ก้มลงไปชิมรสชาติของผิวนุ่มที่แก้มและค่อยๆเลือนมาที่ซอกคออันเปียกชุ่ม สายน้ำที่รินลงบนร่างกายทั้งสองไม่ทำให้ความหวานบนร่างบางหายไปแม้แต่น้อย จากที่เม้มปากเบาๆก็กลายเป็นกดแรงขึ้นจนกลายเป็นการประทับตราบนลำคอระหง
ฝ่ายคนโดนชิมก็พิงศีรษะบนไหล่กว้าง ไม่คิดจะขัดแม้แต่น้อย กลับเอนคอไปตามแรงที่ชายหนุ่มส่งมาให้อย่างสบายใจ แขนเรียวตวัดหลังไปเกาะคอของสามีแทน เมื่อมือของเขาที่ช่วยพยุงเธอในตอนแรกเริ่มละเลงลูบไล้ไปทั่วกาย
“อืม...”แยหลี่ครางเบาๆ ร่างกายเริ่มสะท้านกับไฟอารมณ์ที่ปะทุขึ้นในอก ความร้อนแล่นไปทั่วร่างกาย ความต้องการเริ่มเรียกร้องสิ่งที่มากกว่า และฮวินหยางก็ไม่ขัดอารมณ์เธอแต่อย่างใด เพราะความต้องการของเขาก็ไม่น้อยไปกว่าเธอ
ริมฝีบางทั้งสองประกบกัน ลิ้นนุ่มๆเข้ามาค้นทุกซอกทุกมุมทั้งริมฝีปากเอิ่บทั้งในปากพร้อมกับมือหนาเฟ้นดอกบัวตูมอันเต่งตึงที่ชูช่อตั้งขึ้นอย่างนุ่มนวล แต่กลับเพิ่มความร้อนแรงให้ทั้งสองอย่างมหาสาร ก่อนจะเลื่อนผ่านหน้าท้องเรียบบางลงมาที่ท้องน้อย มือบางก็ลงมากุมมือเขาด้วยเหมือนกัน
“อยากมีเจ้าตัวน้อยไหม”เขาถามด้วยเสียงแหบพร่า หลังจากถอนจูบออกแล้วก็หอมแก้มนวลอีกครั้ง
“ไม่อยาก”แยหลีดึงคอคนถามลงมาแล้วกระซิบตอบที่ใบหูเขา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมอมยิ้มนิดๆ ส่วนเขาย้นคิ้วพร้อมยกคิ้วข้างขวาขึ้น ก้มลงมามองร่างบางอย่างรอคำตอบต่อท้ายอย่างรู้ทัน “ไม่อยากแล้วจะยอมถึงตอนนี้เหรอ”
ฮวินหยางกลั่วหัวเราะในคอ หมุนตัวแยหลีที่ยิ้มกว้างมาจูบอย่างดูดดื่ม ลูบไล้มือลงมาตามสัดส่วนเว้าส่วนโค้งแล้วลงมาที่ต้นขาขาว เมื่อสองมือมาอยู่ตำแหน่งเดียวกันของขาทั้งสองข้าง ขาเรียวก็ออกแรงยกขึ้นตวัดรอบสะโพกชายหนุ่มอย่างรู้ใจ ก่อนที่แผ่นหลังจะโดนดันไปติดผนัง นิ้วเรียวยาวกำผมสีดำซอยสั้น ริมฝีบางได้รูปค่อยๆเลือนลงมาที่อกอวบ พลางเอื้อมมือไปปิดฝักบัว แล้วกลับมาเล่นระเริงกับดอกรักที่กำลังเบ่งบานเปิดทางให้เขาได้เติมเต็มช่องว่างของร่างบาง ก่อนจะเชื่อมตัวเขากับเธอเข้าร่วมกันเป็นหนึ่ง
“หมดแรงแล้วหรือครับ ที่รัก”ฮวินหยางถามกวนๆ พลางอมยิ้มมองร่างบางที่หมดแรงอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่เจ้าหล่อนยังเหลือฤทธิ์ที่จะมองเขาตาขวาง ทำเอาเขาหัวเราะร่า “อย่างนั้นก็ดี เพราะคืนนี้ยังอีกยาวนาน หึๆๆๆ”
ว่าแล้วก็จูบพาเอาสติของหญิงสาวหลุดลอยไปอีกครั้ง เขาพาเธอออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่รู้อีกที่ทั้งคู่ก็มาอยู่บนเตียงขนาดห้าฟุต ร่างกำยำน่าหลงไหลทาบลงมาบนร่างบางที่ดูสุขภาพดีจากการออกกำลังกายแล้ว และเพลงรักอันเร่าร้อนก็บรรเลงขึ้นอีกครั้งและอีกครั้งจนเกือบโต้รุ่ง
“สวัสดีตอนเช้า ไซริน”เมื่อร่างบางเดินเข้ามาในห้องส่วนตัว เสียงคนที่อยู่ในความมืดก็ทักขึ้นทันทีเป็นภาษารัสเซีย
“หนีห่าว(สวัสดี) เกอจื่อเฟิง”แยหลีตอบเป็นภาษาจีนเสียงนิ่งพลางเปิดไฟ และใช้ฉายาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของความอิสระ ในขณะที่แขกผู้มาเยือนที่นั่งสบายใจเฉิ่มอยู่บนโซฟารับแขกเหมือนเป็นบ้านตัวเองใช้”ชื่อจริง”ของเธอ “คิดว่าเธออยู่ที่อิตาลีซะอีก”
“ก็แค่แวะมาส่งของ แล้วเดี๋ยวก็กลับไปที่รัสเซียต่อ”คนเจ้าสำราญพูด ‘แวะ’ สบายๆเหมือนแวะบ้านแต่ละบ้านตามทางผ่าน แต่เปล่าเลย “แวะ” ของ เกว็น ผู้ส่งข่าว คือแวะแต่ละประเทศเพื่อตรวจและรายงายความคืบหน้าของข้อมูล “สามีเธอเป็นไงบ้าง”
“...สบายดี”แยหลีขมวดคิ้วเมื่อเกว็นถามถึงฮวินหยาง “ทำไม”
“เปล่า ก็แค่ถาม”เกว็นยักไหล่กวนๆ มองแยหลี หรือ ไซริน จัดของบนโต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์ทั้งหลายเพื่อทำงาน “นี่ไม่คิดจะบอกชื่อจริงๆให้เขารู้เหรอ แต่งงานกันก็ตั้งปีกว่าแล้ว”
“ไม่รู้จะปลอดภัยกว่า”ไซรินบอก น้ำเสียงหนักใจเผยเล็กน้อย การแต่งงานกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรเป็นการเสี่ยงอย่างมาก เพราะอาจเป็นการเพิ่มจุดอ่อนให้ตัวเอง ระหว่างเธอกับฮวินหยางต่างคนต่างรู้ว่างานของแต่ละฝ่ายเป็นความลับ เขารู้แค่ว่าเธอทำงานเกี่ยวกับการสื่อสาร และเธอก็รู้แค่ว่าเขาทำงานเกี่ยวกับการตรวจข้อมูลภาษาซี(ภาษาคอม)
มันคงแปลกที่คนเราแต่งงานกันโดยไม่รู้อาชีพของคู่ชีวิต แต่ทั้งสองก็สัญญากันไว้แล้วว่าจะไม่ก้าวกายงานหรือความลับของอีกฝ่าย เพื่อความสบายใจของทั้งสอง เพราะเข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง อย่างเธอที่เป็นห่วงไม่อยากให้เขาเอาชีวิตมาเสี่ยงอันตรายกับเรื่องที่ไม่รู้เรื่องด้วย หากเขารู้จักเธอในนามไซริน
“แล้วของที่มาส่งน่ะคืออะไร”หลังจากที่เหม่อไปชั่วครู่ไซรินก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา ซึ่งเกว็นก็ไม่ขัดค้านอะไร หยิบถุงนาฬิกาแบรนแนมขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“เป็นอุปกรณ์สอดแนม หาข้อมูลใหม่ เอโดรเอามาให้เธอลองใช้”เกว็นบอกพลางเปลี่ยนท่านั่งจากไขวห้างเป็นแยกหาถางๆเหมือนผู้ชาย “แล้วก็มาอัพเดทข่าวสารกับคำสั่งใหม่”
“ว่ามา”ไซรินอนุญาติ เมื่อทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานแล้วหมุนตัวมาประจันหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่โตขึ้นมาด้วยกัน
“จากที่รวมข้อมูลมาได้...” เกว็นกล่าวรายงานด้วยเสียงเป็นงานเป็นการทันที “เมื่อมาพิจารณาแล้ว กลุ่มคนที่ตามล่าวาติโนเมื่อปีที่แล้ว กับกลุ่มที่แฮงค์ระบบข้อมูลการค้าอาวุทกองทัพลับของไทยแล้ว พวกมันน่าจะต้องการสะสมอาวุท และจากที่สอบสวนคนจากฝั่งนู้นก็ได้รู้มาคร้าวๆว่าฝั่งนั้นใช้ระบบมือขวามือซ้าย”
“มือขวามือซ้าย?”ไซรินเอียงคอขมวดคิ้วอย่างฉงน
“มีรองหัวหน้าสองคน”เกว็นอธิบาย ดวงตาสีดำเด่นในผมสีน้ำตาลอ่อนสบกับสีเทาอย่างเคร่งเครียด “มือซ้ายทำการล่ามือ และ มือขวาล่าทางเทคโนโลยี เหมือนเธอ แล้วก็ตามที่เราเคยพูดเล่นๆกันเอาไว้ตอนเด็ก มือซ้ายของซินฟานินเป็นผู้หญิง เธอเดาออกไหมว่าใคร”
“แอนฟานีซินะ”ไซรินนึกถึงเพื่อนหญิงที่เคยเล่นด้วยตอนเด็กๆเป็นคนแรก เธอคนนั้นเดินตามซินฟานินซึ่งเป็นหัวหน้าองค์กรศัตรูในปัจจุบันต้อยๆ ไม่รู้เป็นเพราะรักหรือหลง ทำให้แอนฟานีถึงกับกล้าลงมือเผาสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีอีกหลายชีวิตอาศัยอยู่ตามคำสั่งของซินฟานิน
“ใช่”เกว็นบอก น้ำเสียงเพิ่มความหนักใจมากขึ้นเมื่อพูดต่อ “แต่รายนี้ยังไม่น่าห่วง เฟลม นิก กับมาริซะช่วยคุมทางนั้นอยู่ ที่น่าห่วงคือเจ้ามือขวา ไอ้หมอนี่มันทั้งปลอมเอกสาร พาสเวิร์ด คีย์การ์ค คลื่นเสียง แฮงค์ระบบได้เนียนจนน่ากลัว”
“เธอจะให้ฉันตรวจสอบทั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ต เว็บข้อมูล แล้วก็ที่มาของสัญญาณคลื่นใช่ไหม”ไซรินพูดทันทีเมื่อจับความต้องการของหัวหน้าองค์กรได้
“อาหะ”
“มีตัวอย่างของที่พวกนั้นใช้ไหม”ไซรินถาม
“ไม่มีหรอก พวกนั้นเผาทิ้งหมดแล้ว”ไซรินหันขวับมาทางเกว็น ไม่ตัวอย่างแล้วจะให้เธอเริ่มที่ไหนละ แต่ก่อนที่จะมองจิกกัด เกว็นก็เปิดถุงนาฬิกาออก แล้วก็หยิบกล่องนาฬิกาขึ้นมาสองกล่อง “แต่มีนี่แทน”
เกว็นเปิดกล่องนาฬิกา เผยให้เห็นนาฬิกาที่ดูก็รู้ว่าอย่างต่ำห้าล้านดอลล่าอเมริกา เธอถอดมันออกมาวางจากหมอนใบเล็กอย่างเบามือที่เบาะข้างๆ และไปสนใจที่หมอนใบเล็กแทน เกว็นรูดซิปเปิดด้านหลัง ล้วงนิ้วเข้าไปในฟูก ก่อนจะดึงเครื่องบางอย่างออกมา และทำเหมือนกันกับอีกกล่อง ลักษณะเครื่องทั้งสองคล้ายเฟลชไดร์ฟขนาดกลางเหมือนกันยกเว้นอันหนึ่งมีหัวเป็นยูเอสบีอีกอันมีหัวเป็นปลั๊กแทน
“อันนี้ ใช้กับจอใหญ่ มันจะช่วยให้เธอหาเว็บที่พวกนั้นใช้เจอเร็วขึ้น มันจะเชื่อมกับคอมทุกเครื่องที่จอใหญ่เชื่อม ข้อมูลเบื้องต้นอยู่ในนี้แล้ว แล้วก็มีโปรแกรมวัดคลื่นเสียงใหม่ และช่วยเตือนและหยุดการแฮงค์ของมูล และหาที่มาของแฮงค์เกอร์ โดยที่ฝากนู้นไม่รู้ว่าโดนจับได้แล้ว”เกว็นอธิบายหัวยูเอสบีก่อนหัวปลั๊ก “ส่วนเจ้านี้ เอาไปเสียบเหมือนปลั๊กทั่วๆ มันจะดึงข้อมูลจากเครื่องเก็บหรือหาข้อมูลทุกอย่างที่ใช้ไฟฟ้าในบ้านหลังนั้น หรือจะตึกคอนโดก็ได้แล้วมันจะส่งข้อมูลไปที่หน่วยรวมข้อมูลซึ่งก็คือหน่วยของเซริน ไม่ว่าจะใช้อินเทอร์เน็ตสไกพ์กับเพื่อน ค้นหาข้อมูลทั่วๆไป เซรินก็จะรับรู้ทุกการเคลื่อนไหว หรือกล้องวงจรปิด ทุกภาพที่กล้องบันทึกภาพไว้ มันก็จะปรากฏให้เห็นบนหน้าจอของเซริน และมันก็รักษาข้อมูลได้แม้ไม่เสียบปลั๊ก ในถุงนี่มีอีกสี่อัน เผื่อต้องใช้”
“น่าสน... วาติโนคิด?”ไซรินรับของมาจากเกว็น มองดูอย่างสนใจ
“อาหะ ก็ใช่สิ ไม่ใช้หมอนั่นแล้วจะเป็นใคร”เกว็นมองดูไซรินเหมือนจะพูดว่าถามอะไรแปลกๆ
“เปล่า แค่คิดว่าค่อยคุ้มกับการเสียตัวของเธอหน่อย”ได้ทีไซรินก็ไม่คิดจะพลาดโอกาสล้อเพื่อนบ้าง
“บ๊ะ ผับผ่าสิ”เกว็นสบถ ทิ้งหลังพิงผนักอย่างเสียอารมณ์ทันที
“ฮะๆๆ ล้อเล่นน่า แค่คิดว่าฝีมืออย่างนี้หรอก เอโดรถึงหมายจะเอาให้ได้ เธอเลยต้องไปง้อนาน”ไซรินแก้ให้ยิ้มๆ
“เออๆๆ เดี๋ยวนี้ล้อเล่นบ่อยขึ้นนะ ก่อนหน้านี้เอาแต่เป็นน้ำแข็งเดินได้แข่งกับเจ้านิกมัน จะพูดจะยิ้มทีก็เหมือนว่าโลกจะแตก”เกว็นพูด ทำให้ไซรินเพิ่งรู้ตัวว่าเธอเปลี่ยนไปขนาดไหน ”ความรักมันเปลี่ยนคนจริงๆ”
นั่นสินะ ไซรินคิด เมื่อก่อนเธอเป็นคนเงียบที่เรียกได้ว่าเย็นชา จะยิ้มทีก็หายาก นอกจากยิ้มเหยียด อย่าว่าแค่พูดเล่นเลย แค่พูดธรรมดาก็น้อยส่วนใหญ่ก็เป็นจิกกัดเสียมากกว่า ฮวินหยางช่วยเธอจากการเป็นหุ่นยนตร์ให้มีจิตใจเหมือนคนธรรมดาต่อจากเซรินได้มากจริงๆ
สองสามีภรรยาคู่เอก
กับตัวประกอบที่เข้ามาทักดังสายลม
เจอกับเธอได้ใน The wind shadow ภาระกิจกระหน่ำรักใส่นายมาเฟีย
(อาจมีเปลี่ยนชื่อไทย)
ความคิดเห็น