ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ติ่งอาริยามะ ทาคาเม่น ณ พัทยา

    ลำดับตอนที่ #1 : ติ่งอาริยามะ ทาคาเม่น ณ พัทยา ภาค 1

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 56


     ณ พัทยา ไทยแลนด์

     

    ตอนเช้า ณ ห้องอาหารสุดหรูเลิศของ โรงแรม 5 ดาวฮิลตัน

    เฮ้ วันนี้วันออฟนะ จะไปไหนกันดี?” พี่ใหญ่ของวง ยาบุเปิดบทสนทนาในระหว่างสมรภูมิรบบนโต๊ะอาหารของเหล่า JUMP เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ *ทั้งๆที่เป็นบุฟเฟ่ต์*

    ห่ะ!?” อาริยามะที่กำลังยื้อแย่งแฮมแผ่นสุดท้ายที่จิเน็นกับยูโตะหยิบมาเผื่อหันหน้ามามองที่ยาบุอย่างรวดเร็วราวกับภาพถูกกดให้หยุดนิ่ง พร้อมกับ ทาคาป๊งและเม่นโตะที่กำลังยกไอโฟนคู่ใจถ่ายภาพอากัปกิริยาอันร้อนแรง?ของอาริยามะ ไอดอลของพวกเขา  อาริยามะถึงกับย่นคิ้วเหล่มองทาคาป๊งกับเม่นโตะด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองนิดหน่อยที่โดนแอบถ่าย

    “นี่ยูยะ ขอดูรูปที่นายถ่ายหน่อย”  เคย์โตะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบพร้อมกับแบมือขอไอโฟนของยูยะไปดู โดยไม่ได้ใส่ใจจะตอบคำถามของพี่ใหญ่อย่างยาบุเลยซักนิด

    “เดี๋ยวค่อยดูได้มั้ยฉันยังไม่ได้ช็อตที่ฟินถูกใจเลยอ่ะ”  แต่ยูยะกลับปฏิเสธแล้วก็ยกไอโฟนขึ้นถ่ายอาริยามะต่อ

    “เฮ้ย!!!นั่น”  แต่ด้วยต่อมติ่งอันไวกว่าความเร็วแสง เคย์โตะเห็นทางหางตาว่าอาริยามะที่กำลังยื้อแย่งแฮมแผ่นสุดท้ายกันอยู่นั้นกลับมีการเรียลลิตี้ต่อหน้าเมมเบอร์ด้วยการกัดแฮมแผ่นนั้นกันคนละข้างแล้วก็งับเข้ามาเรื่อยๆไม่มีใครยอมปล่อยให้ใครก่อนจนกระทั่งปากของทั้งคู่ใกล้จนจะชนกันอยู่รอมร่อ ยามาดะจึงกัดแฮมให้ขาดออกจากกันและไดกิก็กินส่วนที่เหลือเข้าไป *ตกลงแฮมมันยาวแค่ไหนเนี่ย?*

    “นายถ่ายมาได้มั้ยเคย์โตะ”  ยูยะถามเคย์โตะที่ถือไอโฟนค้างอยู่กลางอากาศ พร้อมกับหน้าตาเหม่อลอยที่ยังคงฟินค้างกับความเรียลลิตี้เมื่อครู่อยู่  ยูยะตบบ่าให้ทีนึง เคย์โตะสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยื่นไอโฟนให้ยูยะไปดูเอาเอง ยูยะรับมาแล้วก็รีบไลน์รูปที่เคย์โตะถ่ายมาได้เข้าเครื่องตัวเองอย่างรวดเร็ว

    นี่พวกนายทำอะไรกันห๊ะ ยาบุส่ายหน้าระอา และหันไปหาสมาชิกคนอื่นๆแทน พวกนายว่าไง?”

    ผมว่าเดินซื้อของละแวกใกล้ๆนี้แหละดีกว่ามั้ง เพราะว่าพวกเราก็ไม่ค่อยกล้าไปไหนไกลๆด้วย อีกอย่าง ร้อนจะตาย ยูโตะโพล่งขึ้นพลางยกนมสดสตรอเบอร์รี่ของเคย์โตะขึ้นมาดื่มพร้อมทำหน้าแหยง

    ทำไมนายทำหน้าอย่างนั้นยูโตะ? ออกจะอร่อยนะ!” เคย์โตะพูดแทรก

    ฉันก็ว่างั้นแหละอีกอย่าง หยุดแค่วันเดียวเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า แล้วกลับญี่ปุ่นเลยอีกเดี๋ยวจะไม่ไหวกันซะก่อน อิโนะจังที่นั่งฝั่งตรงข้ามออกความเห็นบ้าง โดยสายตาเหลือบไปมองทาคาป๊งที่กำลังหัวเราะคิกคักกับช็อตอาริยามะที่เพิ่งได้มาเล็กน้อย

    งั้นเอางี้คุณล่ามมี 2 คน เราก็แบ่งเป็นสองกลุ่มดีมั๊ย? แล้วถ้าใครจะแยกไปยังไงก็ตกลงกันเองในแต่ละกลุ่ม?” ฮิคารุแนะนำซึ่งทุกคนก็เหมือนจะเห็นด้วย

    งั้นใครจะไปกับใครบ้างล่ะ?” ยาบุถามก่อนจะเตรียมตัวลุกไปบอกผลการประชุมกับล่าม

    แทบจะทันทีที่สิ้นสุดเสียงถาม ทาคาป๊งเม่นโตะ ก็ยกมือขึ้นราวกับจะแย่งกัน

    ผม/ฉัน!ไปกับสองคนนี้นะ!” พร้อมชี้นิ้วมาที่ไดกิและยามาดะที่กำลังนั่งเช็คทวิตเตอร์กันอย่างร้อนแรง ทำเอาเจ้าตัวทั้งสองถึงกับสะดุ้ง

    ห๊ะ!?”

    จิเนนที่นั่งมองอยู่ข้างๆถึงกับหัวเราะพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆที่เริ่มจะหัวเราะกัน

    โอเคๆๆ ฮ่าๆ ตกลง งั้นที่เหลือไปกับฉันนะ 5 ต่อ 4 ฉันไปบอกคุณล่ามก่อนนะ และยาบุก็ลุกไปพร้อมกับเสียงบ่นของยามาดะและไดกิที่บ่นตามหลังมา

    พวกแกอีกแล้วหรอ! ไปไกลๆได้มะ ไปกลุ่มโน้นเลยไป๊!” ยามาดะพยายามเอามือดันหัวเม่นโตะที่กำลังพยายามจะแทรกตัวใหญ่ๆเข้ามาเบียด

    เฮ้ย ไอ้เม่นโตะ ปล่อยนะเว่ย!” ไดกิแทบจะกระโดดข้ามโต๊ะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนสนิท

    ไม่เอาน่าไดจัง ไปกับพวกเราแหละเดี๋ยวทาคาป๊งคนนี้จะเลี้ยงเอง นายกับยามะจังไม่ต้องจ่ายอะไรเลยนะ  จริงมั้ยเคย์โตะ ทาคาป๊งทำท่าตบอกใจป๋าสุดๆล่อลวงอาริยามะ แถมยังลากเม่นโตะเข้าร่วมอุดมการณ์ป๋าๆด้วยอีก ทำเอาไดกิถึงกับชะงักและหันไปสบตากับเพื่อนสนิทเล็กน้อย

    “นี่ ยูยะ นายไม่คิดจะถามความเห็นฉันหน่อยเหรอว่าฉันพร้อมที่จะใจป๋ากับนายรึป่าวน่ะ”  เคย์โตะใช้มือที่เหลืออีกข้างคล้องคอยูยะลงมาพูดกระซิบกระซาบกันสองคน แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยแขนที่เกาะยามะจังเอาไว้อยู่

    “เอาน่า อยากติ่งความเรียลใจต้องป๋าหน่อยไอ้น้อง”  ทาคาป๊งพูดพร้อมเอาหลังมือตบที่อกเม่นโตะเบาๆ “แค่นี้เองขนหน้าแข้งนายไม่สะเทือนหรอกน่า”

    รำคาญก็รำคาญนะ ไอพวกนี้มันจับไม่ปล่อย แต่ถ้าเลี้ยงเราก็สบายแฮ ถ้าหลงกับคุณล่ามยังไงก็ยังใช้เคย์โตะได้ อืมม ยอมก็ได้ฟระไดกิคิดไม่ตกในใจ ไม่ต่างกับยามาดะฝั่งตรงข้าม แต่เมื่อได้ผลสรุปแล้วทั้งคู่ส่งสายตาตกลงกันเล็กน้อยก่อนจะประกาศข่าวดีต่อหน้าแฟนคลับ?

    เออก็ได้ เห็นว่าพวกนายอยากไปด้วยหรอกนะ ไดกิตอบแบบวางท่าแล้วหันไปหยิบนมมาดื่มปิดท้าย

    จะมาก็มา เป็นห่วงกลัวพวกนายหลงหรอกนะ ยิ่งเอ๋อๆอยู่ ยามาดะแกะเม่นตัวโตออกจากแขนก่อนจะทำท่าลุกขึ้นยืน

    จริงหรอ!? แอร๊ยยยยยยยยยย ปลื้มมมมมมมม!!!!” คู่หูทาคาเม่นกรีดร้องดัง ร้อนถึงต้นเหตุอย่างอาริยามะรีบวิ่งหนีขึ้นห้องเป็นคนแรก ปล่อยให้เมมเบอร์คนอื่นๆจัดการกับติ่งทั้งสองแทน เพราะเสียงมันชักจะดังเกินไปแล้วสิ!

    เฮ้ย พวกแก หนวกหูโว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”  เมมเบอร์ที่เหลือโวยวายใส่ทาคาป๊งและเม่นโตะพร้อมกันด้วยความรำคาญ ทั้งสองคนหุบปากฉับโดยทันทีทันควัน หันมองหน้ากันเอง ทำตาปริบๆ

    แล้วทาคาป๊งก็กอดคอเม่นโตะเดินหลบสายตาอาฆาตของเมมเบอร์ที่ยืนอยู่ขึ้นไปเตรียมตัวติ่งอาริยามะ ณ พัทยาบนห้องพัก ก่อนที่จะออกไปเที่ยวกันข้างนอกในวันว่างที่มีอยู่ไม่ถึงวันนี้

     

     

     

    ในเวลาไม่นานนักเมมเบอร์จั๊มพ์ที่จะไปกลุ่มเดียวกับยาบุพร้อมกับคุณล่ามอีกสองคนก็มารออาริยามะและติ่งทาคาเม่นอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม  ยาบุพี่ใหญ่ก้มดูนาฬิกาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะกลัวว่าถ้ารอกันแบบนี้ต่อไปเวลาที่จะได้เที่ยวก็เหลือน้อยกันพอดี  ยาบุตัดสินใจเดินไปที่ฟร๊อนท์เพื่อจะโทรตามทั้งสี่คน 

     

    แต่ไม่ทันที่จะได้ไปโทร ก็เห็นทั้งสี่คนที่ว่านั่นเดินออกจากลิฟท์มาพอดี  โดยที่อาริยามะเดินนำหน้าและมีทาคาเม่นใส่แว่นดำเดินตามหลังมาอย่างองอาจเฉกเช่นบอดี้การ์ดอารักขาอาริยามะยังไงยังงั้น

     

    “โหยยยยย  กว่าจะเสด็จลงมากันได้นะ ให้คอยตั้งนาน”  เมื่อทั้งสี่คนเดินมาถึงก็โดนพี่ใหญ่บ่นใส่เข้าให้ในทันที

    “ต้องโทษสองตัวด้านหลังนู่นเลย” ไดกิชี้ไปที่ทาคาป๊งและเม่นโตะที่ยังคงยืนรักษามาดอันองอาจอยู่  “มัวแต่เถียงกันอยู่ได้”

    “อ้าว สองคนนั้นเถียงกันแล้วทำไมนายสองคนถึงมาช้าตามไปด้วยล่ะ”  ยาบุชี้ไปที่อาริยามะแล้วถามอย่างสงสัย

    “จะไม่ให้ช้าตามได้ไงล่ะ ก็สองคนนี้เล่นมายืนเถียงกันอยู่หน้าห้องของเราสองคนน่ะสิ  ตัวก็ใหญ่ขวางทางออกซะมิดเลย”  ยามะจังเสริมแล้วก็หันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่คู่หูทาคาเม่น

     

    “เอาล่ะๆ เมื่อมากันครบแล้วเราก็แยกกันไปตามกลุ่มที่ตกลงกันไว้เมื่อเช้าเถอะ”  ยาบุตัดบทก่อนที่จะเกิดสงครามขนาดย่อมขึ้นมาซะก่อน

     

    เมมเบอร์จั๊มพ์ต่างก็แยกกันไปตามกลุ่มของตัวเอง โดยมีคุณล่ามตามไปกลุ่มละคน  ทาคาป๊งและเม่นโตะตามติดเป็นบอดี้การ์ดให้อาริยามะไม่ห่าง แถมยังพยายามกีดกันคุณล่ามที่เข้าไปคุยกับอาริยามะใกล้ๆเพื่ออธิบายสิ่งต่างๆที่เดินผ่านมาอีก

     

    “นายสองคนช่วยเดินให้มันดีๆหน่อยได้มั้ย ฉันกำลังฟังคุณล่ามเค้าพูดอยู่นะ”  ยามะจังหันไปแหวใส่ทาคาเม่นที่เดินเป๋ไปเป๋มาอยู่ข้างหลัง จนชนคุณล่ามไปแล้วเด้งมาชนตัวเองถึงสองครั้งสองครา

    เมื่อโดนยามะจังแหวใส่ ทาคาป๊งและเม่นโตะก็จัดท่าทางตัวเองใหม่แล้วเดินวางมาดเข้มเป็นบอดี้การ์ดเหมือนเดิม  จนกระทั่งเดินเข้าไปในเซ็นทรัลที่อยู่ด้านล่างของโรงแรม  โดยมีบรรดาแฟนคลับที่ตามติดชีวิตเรียลลิตี้คอยถ่ายรูปเก็บบรรยากาศและช็อตต่างๆของทั้งสี่คนเอาไว้ตลอดเส้นทางที่เดินไป  ทำให้คู่หูคู่ติ่งทาคาเม่นออกอาการติ่งได้ไม่สะดวกเท่าไหร่นักเพราะต้องรักษามาดของนักร้องไอดอลชื่อดังแห่งเมืองปลาดิบเอาไว้ไม่ให้หลุดติ่งออกมา

    มีหลายครั้งที่อาริยามะออกอาการเรียลลิตี้เพื่อเซอร์วิสแฟนคลับบ้างเล็กน้อย จนทาคาป๊งและเม่นโตะทนไม่ไหวกับอาการเรียลลิตี้นั้นจึงชักไอโฟนคู่ใจที่ชาร์จแบตมาแล้วจนเต็มขึ้นมาถ่ายช็อตเรียลลิตี้เก็บไว้

    “เคย์โตะ  ฉันว่านะถ้าแฟนคลับตามมาเยอะขนาดนี้เราคงติ่งไม่ถนัดแน่ๆเลย นายว่ามั้ย”  ยูยะเอียงคอพูดเบาๆกับเคย์โตะ

    “นั่นสิ  จะทำยังไงดีถึงจะหลุดจากแฟนคลับพวกนี้ได้ล่ะ  แล้วยังมีคุณล่ามอีก”

    “เดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน  ตอนนี้ทำท่าทางเท่ๆหน้าหล่อๆให้แฟนคลับถ่ายรูปไปก่อน”  พูดเสร็จยูยะก็ผละออกจากเคย์โตะแล้ววางมาดไอดอลอย่างสุดตัว

     

    แล้วทั้งสี่คนก็เดินชมนู่น นี่ นั่น กันไปเรื่อยๆ  โดยมีคุณล่ามเป็นคนนำทาง

    “ยามะจัง ไดจัง นายสองคนหิวรึยัง?” ป๋าทาคาป๊งถามไอดอลทั้งสองของเค้า

    อาริยามะหันมามองทาคาป๊งด้วยดวงตาเปล่งประกาย  นั่นแสดงว่าบุพเฟต์ที่ฟาดกันไปเมื่อเช้าได้อันตธานหายไปจากกระเพาะของอาริยามะเป็นที่เรียบร้อยแล้วสินะ

    “ทำหน้าตาแบบนี้...”  เคย์โตะพูดค้างเอาไว้ แล้วหันหน้าไปหายูยะ  แล้วคู่หูทาคาเม่นก็หันกลับมาหาอาริยามะอย่างพร้อมเพรียงกันอีกที

    “น่ารักที่สุดเลยยยยยยย แอร๊ยยยยยยยยยยยย”  ทาคาเม่นพูดออกมาพร้อมกันพร้อมกับหน้าตาที่เคลิบเคลิ้มไปกับการทำตาเปล่งประกายด้วยความหิวของอาริยามะ

    เห็นดังนั้นอาริยามะก็ส่ายหน้าระอากับท่าทางของทาคาเม่น แล้วก็หันหน้ากลับมากระซิบกระซาบกันสองคน

    “นี่เราสองคนคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่เอาไอ้สองตัวข้างหลังนี้มาด้วย”  ไดกิกระซิบถามเพื่อนสนิทด้วยความไม่แน่ใจ

    “นั่นน่ะสิ  ถึงมากับพวกนี้แล้วเราไม่ต้องจ่ายอะไรเลยก็เหอะนะ แต่ เฮ้อออออออออออออออออออออ”  เมื่อคิดไม่ตกยามาดะก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างยาว  แล้วก็เหลียวหลังกลับไปมองสองคนด้านหลัง  ที่ตอนนี้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ไดกิเองก็มองตามไปเช่นกัน

    “งั้นก็ไปกินพิซซ่าที่ร้านข้างหน้านี่ละกัน”  ไดกิตัดสินใจให้แล้วชี้บอกตำแหน่งไปยังร้านพิซซ่าที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก

     

    ทั้งห้าคนเดินเข้าไปในร้านพิซซ่าแล้วก็ต้องประสบพบเจอกับคลื่นสายตาของมวลมหาประชาชน *พูดเหมือนคนเยอะมาก* ที่นั่งอยู่ในร้าน  ทำไงได้ล่ะ ก็พวกเค้าเป็นไอดอลนี่นา  คิดได้ดังนั้นทั้งหมดก็ทำหน้าหล่อส่งยิ้มเต็มที่ แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะว่างตัวนึง  งานนี้ผลประโยชน์ตกไปอยู่ที่คุณล่ามเต็มๆ เพราะพลอยถูกมองว่าเป็นไอดอลสุดหล่อไปด้วย

    เคย์โตะสอดตัวเข้าไปนั่งข้างในสุดของเก้าอี้ก่อนใครเพื่อน  “ยามะจังๆมานั่งนี่สิ”  เคย์โตะปัดกวาดเช็ดถูเก้าอี้ให้ยามาดะเสร็จสรรพ  ด้วยความที่มีสายตามองมาอยู่จะแหวใส่เคย์โตะก็ไม่ได้ ยามาดะจึงสอดตัวเข้าไปนั่งข้างๆเคย์โตะ

    “อ้าวทาคาคิคุง ทำไมไม่นั่งล่ะ”  เคย์โตะทักคู่หูที่ยังคงยืนอยู่กับที่ แล้วยูยะก็เหล่หางตามองไปที่คุณล่ามที่นั่งอยู่ข้างไดกิ  เคย์โตะเข้าใจความหมายในทันที 

    ตอนที่เคย์โตะกำลังปัดกวาดเช็ดถูเก้าอี้ให้ยามาดะนั่งอยู่นั้นไดกิก็เข้าไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้อีกฝั่งหนึ่ง ยูยะก็กำลังจะเข้าไปนั่งติดกับไดกินั่นแหละ แต่เกิดข้อผิดพลาดคือเค้ามัวแต่ยิ้มโบกมือทักทายแฟนคลับอยู่เลยโดนคุณล่ามคว้าไดกิไปกิน? เอ้ย ไม่ใช่ โดนคุณล่ามแย่งที่นั่งข้างไดกิไปแทน

    “งั้นนายมานั่งข้างยามะจังนี่สิ ที่ยังว่าง  นั่งกันสามคนอบอุ่นดีออก”  เคย์โตะเสนอความคิดให้คู่หู  แล้วยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ยูยะเข้าใจความหมายในทันทีแล้วก็รีบนั่งลงตรงที่ข้างๆยามาดะ

    “นายคิดว่าฉันจะรู้สึกอบอุ่นอย่างที่นายว่ามั๊ยห๊ะ ไอ้เม่น!!  ยามาดะกัดฟันพูด

    “เอาน่าๆ  แป๊บเดียวเอง  เพื่อเป็นการชดเชยนายอยากกินอะไรสั่งเต็มที่เลยนะ งานนี้ไม่อั้นป๋าทาคาคิจัดเต็ม จริงมั้ยป๋า”  เคย์โตะเอื้อมมือไปตบอกยูยะเพื่อแสดงความป๋าแทนคู่หู

    ......ไอ้นี่มันโยนกันดื้อๆเลยแฮะ เดี๋ยวฉันก็จะจัดเต็มให้นายเหมือนกันไอ้เม่นเอ๊ย......  ยูยะคิดอาฆาตคู่หูตัวเองในใจที่โยนภาระการจ่ายเงินมาที่เค้าคนเดียว

    ทั้งๆที่ในใจคิดอย่างนั้นแท้ๆ แต่ทาคาป๊งกลับรู้สึกได้ถึงพลังงานอะไรบางอย่างที่มันทำให้เขาใจเต้นแรง? เมื่อลองเงยหน้าขึ้นมาดู อั้ยย้ะ! อาริยามะกำลังปลื้มผมมมมมมม

    จริงนะทาคาคิ!? ฉันสั่งหน้านี้หมดเลยทั้งหน้าได้เปล่า!?” ไดกิฝั่งตรงข้ามตาเป็นประกายระยับยิ่งกว่าตอนแรกที่เดินเข้าร้าน พร้อมยกเมนูขึ้นมาตั้ง ชี้นิ้วไปที่หน้าอาหารกินเล่นสไตล์อิตาเลี่ยนอันหลากหลาย เท่านั้นยังไม่พอ

    ยูยะๆๆๆ งั้นฉันเอา พิซซ่าสองถาดได้มั๊ยๆๆ แบบว่า ลังเลอยู่สองหน้าน่ะ เลือกไม่ถูกเลย งั้นเอาสองเลยได้มั๊ยๆๆๆๆ ไม่ทันจะได้ตั้งสติ มือใหญ่ๆอวบๆจากทางด้านซ้ายมือ เอื้อมมาจับที่แขนเขาไว้ แล้วเขย่าๆราวลูกจะอ้อนพ่อขอกินนู่นนี่ จากยามาดะ

    ทาคาป๊งแทบจะคุมสติไม่อยู่ พร้อมกับเคย์โตะที่ยกไอโฟนสุดหรูยกขึ้นมาถ่ายช็อตอาริยามะรัวไม่เกรงใจคุณล่ามหรือแฟนคลับที่อยู่แถวนั้นซักกะติ๊ด

    ไม่นานเกินคอยทาคาป๊งตัดสินใจตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น

    เอาเล้ยยยยยย ถ้านายสองคนอยากกินอะไร สั่งให้หมดได้เลย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เดี๋ยวทาคาป๊งจะเลี้ยงเอะ…!!!!” และเคย์โตะก็รีบฉุดทาคาป๊งให้นั่งลงก่อนที่แฟนคลับจะแตกตื่นไปมากกว่านี้

    .

    ..

    และแล้วมื้ออาหารสไตล์อิตาเลี่ยนก็ผ่านพ้นไปด้วยดี พร้อมกับเงินใบน้อยๆของกระเป๋าทาคาป๊งที่บินหายไป แม้ว่าเทียบกับที่ญี่ปุ่นแล้วมันจะถูกมากก็ตาม

    ระหว่างที่อาริยามะกำลังบิดตัวบริหารเส้นสาย?อยู่ตรงประตูหน้าร้านพร้อมกับคุณล่ามอยู่นั้น ทาคาป๊งก็รีบยกแขนขึ้นคล้องคอเม่นโตะให้หันมาอีกฝั่ง

    เฮ้ย เคย์โตะ ในบิลเมื่อกี้เหมือนเมนูที่แกสั่งมาจะแพงกว่าใครเพื่อนเลยนะเฟ้ย!”

    โหยอะไรกัน เทียบกับที่ญี่ปุ่นแล้วก็ราคาพอๆกับราเมนสองชามเองนะ อย่าบ่นเลยน่า ถ้าบ่นจะไม่ให้นี่นะ ว่าแล้วเม่นโตะก็ล้วงหยิบไอโฟนขึ้นมา พร้อมโชว์รูปแววตาอันเปล่งประกายของอาริยามะบนโต๊ะอาหารเมื่อครู่ เหนือสิ่งอื่นใด มีช็อตใบหน้าอ้อนๆ?ของยามาดะตอนที่จับแขนทาคาป๊งอยู่ด้วย!

    “…” ราวกับบรรยากาศรอบข้างที่หยุดอีกครั้งพร้อมทาคาป๊งที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปหา อาริและยามะเงียบๆโดยไม่ลืมจะเหลือคำทิ้งท้ายเอาไว้ว่า

    เคย์โตะ กลับ โรงแรมแล้วส่งมาให้ด้วยนะ…” พร้อมกับเดินจากไปอย่างเท่ห์หาสิ่งอื่นใดเปรียบไม่ พร้อมกับสายตาเพ้อๆของแฟนคลับที่มองส่งไป

    .

    .

    อ้าว นายสองคนเดินแยกกันไปไหนเนี่ย นี่เห็นร้านโคมไฟร้านนั้นป่ะ?ไปดูกันๆ ไดกิเงยหน้าขึ้นมาจากที่ก้มดูแผนที่นำเที่ยวที่คุณล่ามกางให้ดู พอเห็นทาคาคิกับเคย์โตะที่เดินแยกไปกลับมาแล้วก็ชวนเดินไปดูที่ร้านขายโคมไฟไม่ไกลจากตรงที่ยืนอยู่นัก

    อ๋อ อ่ะ อืม คู่หูทาคาเม่นมองตรงไปตามทางที่ไดกิชี้ พร้อมกับไม่รอช้า หยิบแว่นดำขึ้นมาสวมเต๊ะหน้าเข้มแล้วเดินทำหน้าที่อารักขาอาริยามะต่อไป

    นี่ ไม่ต้องทำหน้าโหดกันได้ป้ะ ยามาดะเริ่มทนไม่ไหวบ่นออกมา ยิ่งไอท่าทางราวกับจะเดินไปงับหัวแฟนคลับที่เดินเข้ามาใกล้พวกเขาเนี่ย พอเหอะ!

    เปล่าซักหน่อยนะยามะจัง คิดมากน่าๆ เคย์โตะยกสองมือขึ้นระดับอกแล้วโบกมือปฏิเสธตามแบบฉบับ  แต่ไม่ทันจะพูดจบดี ก็หันกลับไปทำหน้าดุใส่แฟนคลับที่บังเอิ๊ญบังเอิญเดินโผล่มาจนเกือบจะชนอาริยามะของเขาอยู่แล้วไปซะงั้น

    ยิ่งทำเอายามาดะทำหน้าไม่พอใจเข้าไปใหญ่

    เฮ้ เคย์โตะ ยามะจังโกรธแล้วนะเว้ย!” ทาคาป๊งลนลาน ไหนจะโดนสายตาตำหนิจากไดกิที่ยืนอยู่ข้างๆยามาดะอีก

    ขะ ขอโทษ มันลืมตัวนี่นา…” เคย์โตะทำท่าสำนึกผิด เอ้าๆๆ เลือกสิๆๆ นี่ไงร้านโคมไฟที่พวกนายอยากดูไงๆๆ เคย์โตะรีบเปลี่ยนเรื่องชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปที่ร้านโคมไฟที่อยู่ตรงหน้า

    ไดกิปรายตานิดนึงอีกครั้งแบบย้ำอย่างตำหนิก่อนจะดันหลังเพื่อนสนิทให้รุดหน้าไปที่ร้านพร้อมกับตน

    สมน้ำหน้าแก ระวังตัวหน่อยดิวะ เดี๋ยวฉันก็โดนไปด้วยหรอก!” ทาคาป๊งตอกย้ำ เอ๊ะ หรือว่า ปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง?

    ก็มันเผลอนี่ ยูยะก็ดูสิ ไม่สบอารมณ์เลยอ่ะ ไดจังกับยามะจังเป็นของพวกเรานะ!” เม่นโตะโวยวายท่ามกลางเสียงแฟลชกล้องดังเปรี้ยงปร้างข้างหู “นายก็ดูสิ แฟนคลับพวกนี้โบกพัดอาริยามะด้วยอ่ะ  แต่เราสองคนกลับไม่มีพัดมาโบกแถมโบกไม่ได้ด้วย มันน่าหงุดหงิดชะมัดเลย”  หลังจากโวยวายไปยกนึงแล้วเม่นโตะก็บ่นให้คู่หูฟังอีกระลอกนึงอีก

    อย่าพาลดิ แฟนคลับสองคนนั้นก็แฟนคลับเรานะเว่ย! เอางี้เดี๋ยวซื้อของเสร็จค่อยหาทางล่อลวง เอ๊ย พาสองคนนั้นหนี ดีป่ะ? เราจะได้ติ่งกันสบายๆหน่อย ทาคาป๊งยักคิ้วให้หนึ่งที เม่นโตะใจชื้น ก่อนที่ทั้งสองจะตั้งสมาธิ กลับไปทำหน้าที่บอดี้การ์ดต่อ แต่ไม่ทันจะตั้งสติได้ดี ช็อตอาริยามะปรึกษาเลือกของจนต้องเอาหัวชนกันแนบชิดขนาดนั้น ทาคาป๊งกับเม่นไม่ทนนนนนนนนน

    อาริยาม๊า!!!!”

    เฮ้ย! หยุดแหกปากนะเว้ย!” ไดกิสะดุ้ง ไหวตัวทันตามสัญชาตญาณโบกมือไปที่ หัวของคุณเพื่อนทั้งสองอย่างจัง

    โอ๊ย!/เจ็บ!”

    สงบสติอารมณ์กันบ้างดิวะ!!!” ไดกิดุ

    ก็ไดจังกับยามะจังอ้ะ มาเรียลลิตี้กันทำไมเล่า!” เม่นโตะยกมือลูบหัว

    เรียลลิตี้? พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เมื่อกี้ก็แค่คุยกับไดจังว่าเอาสีอะไรดี ยามาดะพูด

    “จริงด้วย เราสองคนยังไม่ได้ทำอะไรที่มันดูเรียลลิตี้กันเลยซักนิด ทำเป็นแต๋วแตก วี๊ดว๊ากระตู้วู๊ ไปได้ หนวกหูชะมัด  แถมยังทำให้เราสองคนต้องพลอยขายหน้าต่อหน้าแฟนคลับอีกต่างหาก  มันน่าโบกให้อีกซักทีดีมั้ยเนี่ย ห๊ะ”  ด้วยความรำคาญติ่งสองตัวไดกิเหมือนอยากจะโบกหัวให้ติ่งยุบไปซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ต้องยกมือค้างเอาไว้เมื่อเห็นสายตาของแฟนคลับที่จ้องมองมานานแล้วจึงค่อยๆลดมือลง

    “ขอโทษคร้าบบบบบบบบบ” ทาคาเม่นยกมือขึ้นไหว้ขอโทษอาริยามะพร้อมกัน  ทั้งสองเบือนหน้าหนี แล้วหันมาให้ความสนใจกับโคมไฟที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าแทน

     

    “เฮ้ย  เคย์โตะ  ตกลงกันก่อนนะ งานนี้แกต้องเป็นคนจ่ายเพราะเมื่อกี้ในร้านพิซซ่าฉันเป็นคนจ่ายแล้ว เข้าใจ๊”  เป็นอีกครั้งที่ทาคาป๊งต้องคล้องคอเม่นโตะลงมากระซิบกระซาบทำสนธิสัญญากัน

    “อ่ะ เอ่อ คือ.....”  เม่นโตะอ้ำอึ้ง หันมองโคมไฟที่เป็นลายฉลุดูวิจิตรงดงามตระการตา คิดในใจมันจะต้องแพงกว่าพิซซ่าเมื่อกี้หลายเท่าตัวแน่ๆ  เม่นโตะซวยแล้วคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

    “อะรายยยย อ้ำอึ้งทำไม ทีเมื่อกี้นายโยนภาระให้ฉันๆยังยอมรับได้เลย ใจป๋าหน่อยไอ้น้อง ฮึๆๆๆๆ”  ทาคาป๊งหัวเราะเจ้าเล่ห์ตบอกเม่นโตะจนคนโดนตบแทบจุก อยากจะสำรอกพิซซ่าเมื่อตะกี้นี้ออกมาคืนมันซะจริงๆ

    “เอาล่ะ มาถึงขั้นนี้แล้วมันต้องทำให้สุดติ่ง  เม่นโตะสู้ตาย”  เคย์โตะชูกำปั้นขึ้นตรงหน้า ปฏิญาณสู้ตายอย่างหมายมาด ราวกับจะออกรบ  “เดี๋ยวไม่พอยังไงค่อยโทรบอกป๊าให้โอนด่วนมาให้ก็ได้”  พร้อมกับคิดหาทางออกฉุกเฉินไว้เสร็จสรรพ

    “ดีมากไอ้น้อง  ริจะติ่งทั้งทีมันต้องให้ได้แบบเน๊”  ยูยะตบบ่าเคย์โตะ  แล้วทั้งคู่ก็มองไปยังอาริยามะไอดอลของเค้าด้วยความภูมิใจ

     

    ยามาดะกับไดกิช่วยกันเลือกโคมไฟให้กัน  ในขณะที่คู่หูทาคาเม่นก็เดินวนไปวนมาอยู่หน้าร้านคอยเป็นบอดี้การ์ดให้อาริยามะ

    “เวียนหัวโว๊ยยยยยยยย หยุดเดินสวนสนามกันซักทีจะได้มั้ย!  ยามาดะหันมาโวยใส่ทั้งสองคนเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ คู่หูทาคาเม่นหยุดทันทีเหมือนโดนแช่แข็งเอาไว้

    “ยามาดะบอกให้พวกนายหยุดเดินนะ ไม่ได้บอกให้หยุดยืนแข็งแบบนี้ แล้วก็ไม่ต้องหยุดหายใจด้วย โตแต่ตัวจริงๆนายสองคนเนี่ย ปัญญาอ่อนนนนนนน!!!!  ไดกิว่าสำทับให้อีก  คู่หูทาคาเม่นก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติดังเดิม

    “เอ่อ ไดจัง ยามะจัง  ถ้านายเลือกได้แล้วว่าจะเอาอันไหนนายบอกเคย์โตะเลยนะ งานนี้หมอนั่นบอกจะจ่ายเอง”  ยูยะเข้าไปพูดล่อลวงให้อาริยามะอารมณ์ดีขึ้น 

    แล้วก็เหมือนจะได้ผล อาริยามะทำตาเปล่งประกายแล้วก็หันมองหน้ายิ้มให้กัน หลังจากนั้นก็ตั้งใจเลือกโคมไฟที่วางอยู่เรียงรายเพื่อหาอันที่ถูกใจที่สุดให้ได้  แต่ว่าไม่แน่นะลองมีคนจ่ายให้แบบไม่อั้นแบบนี้บางทีอาริยามะที่ลังเลใจเลือกไม่ถูกอาจจะเหมาหมดทั้งร้านเลยก็เป็นได้ งานนี้คนที่ซวยก็คือเม่นโตะของเราเพราะทาคาป๊งนั้นลอยลำไปแล้วเนื่องจากได้จ่ายค่าพิซซ่ามื้อใหญ่ไปก่อนหน้านี้แล้ว

     

    ในระหว่างที่อาริยามะกำลังตั้งใจเลือกโคมไฟกันอยู่นั้นทาคาป๊งก็เข้าไปคุยแล้วก็ชี้ไปทางโคมไฟอันหนึ่งราวกับว่ากำลังเสนอทางเลือกให้อาริยามะตัดสินใจง่ายขึ้น  อาริยามะก็พยักหน้ารับ ส่วนเม่นโตะก็เดินดูเดินเลือกโคมไฟที่ตัวอยากได้เหมือนกัน  แล้วก็หยิบอันหนึ่งส่งให้คนขายไป

    “อันนี้ของใครเหรอ”  ยูยะเดินเข้าไปถามคู่หูด้วยความอยากรู้  อันที่จริงเค้ากลัวว่าจะน้อยหน้าคู่หูมากกว่าหากว่าโคมไฟอันนั้นเคย์โตะจะซื้อให้เป็นของขวัญกับอาริยามะ แล้วเค้าไม่มีส่วนร่วมในนั้น เลยต้องถามเผื่อเอาไว้ก่อน

    “ไม่มีของใครอ่ะ ฉันเห็นลายมันสวยดีเลยจะซื้อไปไว้ที่บ้านฉันน่ะ”  เคย์โตะตอบ

    “อ๋ออออ งั้นเองเหรอ”  ยูยะพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ

    “แล้วนายคิดว่าฉันจะซื้อให้ใครเหรอ ซื้อให้อาริยามะใช่มั้ย ถึงได้มาถามกันแบบนี้เนี่ย” เหมือนเคย์โตะจะรู้ทันความคิดของคู่หู

    “ประมาณนั้นแหละ  คิดว่านายคิดจะเอาใจอาริยามะด้วยการซื้ออีกอันเป็นของขวัญพิเศษให้น่ะสิ”

    “โหยยยยยยยยย ถ้าฉันจะซื้อให้สองคนนั้นน่ะนะฉันต้องบอกนายอยู่แล้วล่ะ เราสองคนจะต้องแท๊กทีมติ่งกันแบบแพ็คคู่แยกกันติ่งไม่ได้หรอก” 

    “ดีมาก  แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าคู่หูคู่ติ่ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

    “ว่าแต่ สองคนนั้นเลือกได้รึยังเนี่ย  ฉันรู้สึกว่าแฟนคลับชักจะกระชับวงล้อมเข้ามาใกล้ทุกทีๆแล้วนะ”  เคย์โตะถามยูยะ แล้วก็หันมองรอบตัวก็พบว่ามีแฟนคลับยืนห้อมล้อมพวกเค้าอยู่โดยรอบทุกทิศทุกทาง

    “เอาอันนี้ครับ”  สิ้นคำถามของเคย์โตะ ก็ได้ยินเสียงอาริยามะพูดขึ้นมาพร้อมกันทันที  ทั้งสองคนยื่นโคมไฟที่ตัดสินใจเลือกได้แล้วจำนวนสามอันส่งให้กับคนขายโดยมีคุณล่ามคอยแปลให้อีกที

    “มัวยืนเหม่ออยู่ได้  ไปจ่ายตังค์สิเคย์โตะ”  ยูยะดันหลังให้เคย์โตะเดินไปจ่ายตังค์เพราะคู่หูเม่นโตะมัวแต่ยืนเหม่อมองอาริยามะและกำลังฟินอยู่กับเสียงของไอดอลที่พูดขึ้นมาพร้อมกัน เม่นโตะคิดในใจ .....คาว๊าอี้~~~~~~...........

    แล้วเคย์โตะก็เดินไปจ่ายตังค์ค่าโคมไฟทั้งหมดสี่อัน ของอาริยามะสามอันและของเค้าเองหนึ่งอัน  ซึ่งเคย์โตะไม่รู้ว่ามันราคาเท่าไหร่กันแน่ แต่จากการที่เค้าได้คิดเองเออเองมาก่อนหน้านี้ว่ามันคงจะแพงน่าดูถ้าดูจากลายแล้ว  เค้าจึงตัดสินใจชักแบงค์พันของไทยที่แลกไว้ใช้เรียบร้อยแล้วออกมากรีดเป็นฟ่อนๆเตรียมตัวหมดตูดเพื่อไอดอลเลยทีเดียว

    “เท่าไหร่ครับ”  เคย์โตะถามคนขายเป็นภาษาญี่ปุ่น

    “นี่แน่ะ น่าหมั่นไส้ จะมาอนุรักษ์ชาตินิยมอะไรตอนนี้วะห๊ะ!? ปกติไปไหนๆกระแดะพูดอังกฤษตลอดๆ”  ยูยะตบหัวเม่นโตะแทบคว่ำด้วยความหมั่นไส้

    ก่อนที่ยูยะจะทันได้ตบเม่นโตะอีกทีนึงคุณล่ามก็รีบถามคนขายให้ซะก่อนที่เรื่องจะบานปลาย

    “ทั้งหมด 1999 บาทครับ” คุณล่ามหันมาบอกเคย์โตะหลังจากถามราคาของจากคนขาย

    “ห๊ะ! ทำไมถูกจัง”  เคย์โตะถึงกับตกใจกับราคาของที่คุณล่ามบอกเพราะมันต่างที่เค้าคิดเอาไว้มาก ตอนแรกเค้าคิดว่าเงินในกระเป๋าเค้าคงไม่พอให้จ่ายด้วยซ้ำไป แต่มาตอนนี้เม่นโตะงงไปเลยครับ  “แต่ทำไมถึง 1999 บาทล่ะครับ ทำไมไม่คิด 2000 ไปเลยล่ะ”  เคย์โตะถามคุณล่าม

    “คนขายเค้าลดให้ 1 บาทน่ะครับ” คุณล่ามตอบ

    ..............จะลดทำไมบาทเดียวเอง............... เม่นโตะคิดในใจ

    “แต่ว่านะ............”  ยามาดะทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะพูดต่อ “ลดราคาให้อีกหน่อยไม่ได้เหรอครับ”  ยามาดะถามคนขาย คนถูกถามทำหน้างงมองหาคำตอบจากคุณล่าม คุณล่ามก็แปลให้  แต่ก็โดนคนขายปฏิเสธที่จะลดราคาให้อีก

    “เฮ้ย เคย์โตะทำอะไรซักอย่างสิ  ดูหน้ายามะจังเหมือนผิดหวังมากเลยนะที่เค้าต่อราคาไม่สำเร็จน่ะ”  ยูยะเอามือศอกกระทุ้งสีข้างเคย์โตะ

    “จะให้ฉันทำยังไงล่ะก็เค้าไม่ลดให้นี่นา” เคย์โตะตอบอย่างจนปัญญา “อ๊ะ  นึกออกแล้ว”  แล้วก็เหมือนว่าเค้าจะหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้  เคย์โตะจึงยื่นหน้าเข้าไปหาคนขาย  ถอดแว่นดำออกส่งสายตาตี่ๆที่คิดว่าหล่อสุดไปให้ พร้อมกับพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “คุณเนี่ยน่ารักจังเลยนะครับ  คนน่ารักอย่างคุณคงจะลดราคาให้ผมได้อีกใช่มั้ยครับ”  พูดเสร็จก็ขยิบตาให้คนขายทีนึงแล้วผละออกมาจากนาง

    การที่ขายของในเมืองท่องเที่ยวแบบนี้การฟังการแปลภาษาอังกฤษจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเจ้าของร้านโคมไฟ  พอนางได้ฟังนางก็ถึงกับอึ้งไปเลย  หลังจากนั้นนางก็ได้สติตอบเคย์โตะกลับไป

    “งั้นฉันลดให้พวกคุณเหลือแค่ 1500 ก็พอค่ะ” สำเร็จการชมคนขายว่าน่ารักของเคย์โตะใช้ได้ผลอย่างดีเยี่ยมจริงๆ

    คุณล่ามก็แปลที่คนขายพูดให้อาริยามะกับทาคาป๊งที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ฟังว่าสองคนนี้พูดอะไรกัน  เมื่อรู้ว่าเคย์โตะสามารถต่อราคาได้สำเร็จ ยามาดะก็ถึงกับยิ้มกว้างด้วยความชื่นชม  พร้อมทั้งอาริยามะที่กระโดดกอดกันด้วยความดีใจเพราะที่ญี่ปุ่นพวกเค้าไม่สามารถต่อราคาสิ่งของได้แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าคิดจะต่อราคาละมันก็สำเร็จด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเพราะพวกเค้าพูดเองก็ตามที

    แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ชื่นชมยินดีกับการต่อราคาสินได้สำเร็จแต่ต่อมติ่งของทาคาเม่นก็ยังไม่หยุดทำงาน  ทั้งคู่ยกไอโฟนขึ้นถ่ายช็อตอาริยามะจับมือแสดงความดีใจ และท่าทางที่กระโดดกอดกันไว้ได้ทันพอดี ราวกับเปิดโหมดออโต้ติ่งเอาไว้ยังไงยังงั้น  พร้อมทำงานตลอดเวลา

    คนขายจัดการเอาโคมไฟทั้งสี่อันห่อกระดาษเพื่อกันกระแทกก่อนจะเอาใส่ถุงส่งให้อาริยามะและเม่นโตะที่เป็นคนเลือก

    ยามาดะส่งถุงใส่โคมไฟใบนึงให้กับทาคาป๊ง “เอ้า  ยูยะ นี่ของนาย  อันที่นายบอกว่าอยากได้ไง”  เคย์โตะได้ยินดังนั้นก็หันขวับมาจ้องคุ่หูตาเขม็ง  ไม่คิดว่าคู่หูของเค้าจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้  

    “นี่นายหลอกให้ฉันจ่ายค่าโคมไฟให้นายโดยผ่านอาริยามะเหรอเนี่ย”  เคย์โตะพูดเสียงเข้มใส่ยูยะ  มันเป็นโคมไฟอันที่ยูยะชี้บอกอาริยามะก่อนหน้านี้ จริงๆยูยะไม่ได้ช่วยเสนอทางเลือกให้อาริยามะแต่อย่างใด  แต่เป็นอันที่เค้าอยากได้ซะเอง

    “เอาน่าๆ ถือว่าหายกัน  ทีนายยังเนียนสั่งพิซซ่าราคาแพงในนามอาริยามะเลยนี่  แค่นี้เองแมนๆหน่อย” 

    “ก็ได้ เรื่องนี้จบนะ คราวต่อไปไม่ต้องโบ้ยไปโบ้ยมาแล้วนะ ทุกอย่างหารสอง  โอเค๊”  เคย์โตะยื่นข้อเสนอ

    “ตกลงตามนั้น”

    .

    ..

    เอ้าแล้วจะไปไหนต่อกันดีล่ะ?” หลังจากเดินดูของในห้างได้ซักพักแล้ว ยามาดะก็เริ่มเอ่ยขึ้น ถามไถ่เพื่อนร่วมกลุ่ม

    อ้าว ไม่เดินซื้อของต่อแล้วหรอ?” เม่นโตะถาม จะว่าไปนี่ก็ยังไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ

    ซื้อของอย่างเดียวมันเบื่อแล้วน่ะ อุตส่าห์มาไทยทั้งที หาอะไรอย่างอื่นทำบ้างดีกว่า เนอะไดจัง ยามาดะพูด ไม่ลืมที่จะหันไปถามความเห็นจากเพื่อนสนิท

    ก็จริงอยู่นะ คุณล่ามมีอะไรแนะนำมั๊ย?” เอาล่ะ คงต้องถามเจ้าถิ่นสินะ

    เอ้อ ขอโทษนะ เมื่อกี้พี่ล่ามทางกลุ่มนู้นเขาโทรมาบอกว่า อาหารเป็นพิษกะทันหัน โทรตามให้ผมไปดูแลกลุ่มนู้นแทนน่ะ ทางนี้ เคย์โตะซังพูดอังกฤษได้ ถ้ายังไงช่วยอยู่กันเองได้มั๊ย?”

    สิ้นคำพูดของคุณล่าม ต่อมติ่งพิฆาตก็เริ่มทำงานอย่างเฉียบพลัน  หาสนใจเสียงโวยวายคร่ำครวญของอาริยามะด้านข้างไม่! ทาคาป๊งไม่รอช้า รวบคอเม่นโตะเข้ามาใกล้อีกครั้ง

    เฮ้ย! โอกาสเป็นของเราแล้วเว่ย! และแล้วพระผู้เป็นเจ้าก็เห็นใจเราสองคนนนนนนน ทาคาป๊งยกมือขึ้นฟ้าหนึ่งข้าง แถมด้วยน้ำตาอันใสบริสุทธิ์รินไหลออกมาจากแว่นตาสีโหด พร้อมเอ๊ฟเฟคแสงบริสุทธิ์ที่สาดส่องลงมาจากกลีบเมฆ?

    ในที่สุด ช่วงเวลาที่เราจะเป็นไทจากตาล่ามนี่ ก็มาถึงงงง!!! อาดูสิ ยูยะ พระผู้เป็นเจ้ากำลังยิ้มให้เราอยู่!” เม่นโตะประสานมือไว้ที่อก เงยหน้ามองแสงสว่างบริสุทธิ์ที่คาดว่าจะเป็นแสงเดียวกับที่ทาคาป๊งมองเห็นอยู่อย่างปลาบปลื้ม และไม่ลืมที่จะหยาดน้ำตาแห่งลูกผู้ชายออกมา

    “…….ทาคาคิ! เคย์โตะ! เฮ้ย! ได้ยินรึเปล่าวะ! เฮ้!!!!” เสียงของไดกิที่เรียกพวกเขาอยู่นั้นช่างฟังดูห่างไกลแท้ แต่เพราะความดีใจที่ล้นหลามเลยไม่อาจจะทำให้สองติ่งรู้สึกตัวขึ้นได้

    เฮ้! ฉันกำลังจะบอกว่านั่นมันกระจกร้านเขานะเว้ย!” ยามาดะเตือน ในขณะที่อีกไม่กี่ก้าว ทาคาป๊งและเม่นโตะสุดโฉดก็จะชนเข้ากับกระจกร้านอาหารร้านหนึ่งแถวนั้น

    ห๊ะ!/เอ๊ะ!?” แต่เหมือนความหวังดีของไอดอลจะไม่เป็นผล

    โครมมมมมมมมมม!!!!!

    โอ๊ยยย พวกแกเนี่ย! จะสร้างความเดือดร้อนไปถึงไหนห๊ะ!” สุดท้ายไอดอลอย่างอาริยามะก็ต้องไปแงะสองติ่งแฟนคลับออกมาจากกระจกร้านชาวบ้านเขา

    โอ๊ย เจ็บๆๆ เคย์โตะ ทำไมถึงไม่เตือนฉัน!” ทาคาป๊ง เมื่อตั้งสติได้ก็รีบหันไปโวยกับเคย์โตะใหญ่

    อ้าว ไหงพูดงั้นอ่ะ ก็ยืนอยู่ด้วยกันเนี่ย!”

    พอเลยพวกแก! แฟนคลับมองกันหมดแล้วเนี่ยเห็นมั๊ย!” ไดกิเริ่มลน แฟนคลับสาดแฟลชกันไม่หยุดบางคนถือกล้องวิดิโอด้วย เวรกรรมแล้ว!!! แต่เหมือนทาคาเม่นจะไม่ได้เห็น และก็ไม่ได้ยินอะไรเลยแฮะ

    อย่ามาปัดความรับผิดชอบดิเคย์โตะ! ถ้านายยังจะทำตัวแบบนี้อีกนะ นายคืนไอ้พิซซ่าราคาเท่าราเมงสองชามนั่นออกมาเลยนะ!” ความโกรธ?ของทาคาป๊งดูท่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น พูดจาเลอะเทอะใหญ่แล้ว! ก็ของมันกินเข้าไปแล้วนะ! แถมยังมาทำท่าแบมืออีก!

    งั้น ยูยะก็คืน โคมไฟอันนั้นมาด้วยนะ! ยังไงๆนี่ก็เงินของฉันนะ หนอย วางแผนหลอกให้ไอดอลเลือก แต่จริงๆเป็นของตัวเอง ชิ คืนมาเลยนะ!” เม่นโตะก็ใช่ว่าจะยอมที่ไหน ทำท่าจะปรี่เข้าไปแย่งถุงโคมไฟในมือของทาคาป๊งคืนมา

    โอ๊ย! พวกมันจะปัญญาอ่อนกันไปถึงไหนเนี่ย!” ไดกิยีหัวยืนมอง หืม?ทำไมถึงไม่เข้าไปห้ามงั้นเหรอ? ไม่เอาล่ะ ตัวก็ใหญ่ทั้งคู่ โดนลูกหลงเข้าจะทำไง?

    ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว เอาเหอะ ไดจังไปจัดการสองตัวนั่นนะ ฉันเคลียร์กับแฟนคลับเองแล้วเราหนีไปที่อื่นกัน ตกลงนะ?” ยามาดะเสนอแผนการที่คิดว่าดีที่สุด จากนั้นคู่หูทั้งสองก็แยกย้ายกันทำงาน

    มาด้านแรก ไดกิ

    เฮ้ พวกแก! ยามาดะบอกว่า ถ้าหยุดเถียงกันแล้วหันไปยิ้มให้แฟนคลับ ยามาดะจะเซอร์วิสให้นะ!” ไดกิเดินเข้าไปในระยะที่ปลอดภัยและคิดว่าใกล้กับสองคนนั้นที่สุดแล้วจึงค่อยนำคำที่เขาโกหกสั่วๆ?มา บอกไปที่สองคนนั้น

    แทบไม่ต้องรอให้หัวใจเต้นดังหนึ่งตุบ ทาคาเม่นก็หันมาทำตาระยับใส่เขาทันที

    จริงอ่ะ!” และหันไปยิ้มโบกมือบ๊ายบายให้กับแฟนคลับอย่างเริงร่า พร้อมเซอร์วิสกอดคอกันโชว์อีก ทำเอาไดกิถอนหายใจหน่ายๆ แล้วหันไปยิ้มให้แฟนคลับบ้าง ก่อนจะเหลือไปดูว่ายามาดะเคลียกับแฟนๆยังไง

    มาที่ ยามาดะ

    มินน๊า!” ยามาดะเดินเข้าไปใกล้วงของแฟนคลับเล็กน้อย และตะโกนเรียกทุกคน แน่นอนว่าไม่มีใครคิดจะปฏิเสธเสียงเรียกนั้น

    ไพรเบตโตะ ดะคะระ สุมิมาเซ็นเน๊ (วันนี้วันพักขอโทษน้า)” และยกมือไหว้ชูขึ้นเหนือหัว ไดกิที่ยืนมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทำตาปริบๆเล็กน้อย ไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะทำท่านี้ พอเห็นดูเหมือนแฟนๆทำท่าจะเข้าใจก็เลยสะกิดให้คนตัวอ้วนกว่าค่อยๆเดินถอยตามมา

    .

    ..

    นี่นายเอางั้นเลยหรอ?”

    ก็ใช่น่ะสิ อ้าวแล้วทำไมสองคนนั้นมองฉันแปลกๆ…” ยามาดะเหลือบมองคู่หูทาคาเม่นที่ยืนส่งสายตาเปี่ยมไปด้วยความหวังมาที่เขาอย่างไม่ปิดบัง

    คือ เรื่องมันเลยตามเลยน่ะ ฉันบอกพวกนั้นไปว่า ถ้ายอมหยุดทะเลาะกัน นายจะเซอร์วิสให้ อะไรทำนองนี้อ่ะ ไดกิยิ้มแหยงแล้วเกาหัว เล่นเอายามาดะตาโต ทำหน้าไม่ถูก

    เฮ้ย ไหงงั้นอ่ะไดจัง! แล้วเซอร์วิสอะไร? ยังไง? ทำหน้า อ่าย เลิฟ ยูววว งั้นหรอ? แกะกระดุมเสื้อรึไง? หรือจะให้ฉันร้องเพลงให้มันฟัง!?” ยามาดะเริ่มโวยวายสองมือยกขึ้นจับต้นแขนของไดกิแล้วโยกไปมาเหมือนเด็กงอแงจะขอขนม ก็นะ จะให้ไปทำเหมือนกับที่ทำให้แฟนคลับกับไอ้พวกนี้น่ะนะ? จะบ้าตาย!

    ทว่า คุณเห็นอะไรไหม? จากสายตาคนไกลที่ไม่ได้ยินบทสนทนา จะมองดูเหมือนยามาดะกำลังงอแงอะไรซักอย่างแล้วอ้อนไดกิ มันคืออาริยามะเรียลลิตี้ใช่ไหม? ถ้างั้น….!

    คะ เคย์โตะเว่ย แกถ่ายภาพนิ่งนะ ฉันถ่ายวิดิโออยู่ ทาคาป๊งหนึ่งมือถือไอโฟนอย่างมั่นคง อีกมือปัดไปที่ด้านข้างตัวเองหวังจะเรียกเคย์โตะ แต่เพราะภาพตรงหน้ามันสะกดใจเขาจนเกินไปทำให้ คว้าผิดคว้าถูกอยู่นั่น

    โอเค ไม่ต้องบอกก็รู้ เม่นโตะพยักหน้ารับ นิ้วมือกดรัวจนเกือบจะมองไม่เห็น นี่กะเอาไปทำภาพกิ๊ฟต่ออีกทีรึไงคะ?

    ไดกิที่พยายามบอกขอโทษยามาดะ ก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหาร?จากคนใกล้ตัวจึงหันไปดู พบเพื่อนร่วมวงถือไอโฟนตั้งกล้องปาปาพวกเขาอยู่อีกแล้ว!

    แต่เออจะว่าไปแล้ว

    เอ่อ ยามาดะ ฉันว่านายไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะ แค่นายทำแบบนี้พวกนั้นก็คิดว่ามันเป็นเซอร์วิสแล้ว ไดกิบอกยามาดะให้หยุดโวยวายแล้วชี้นิ้วไปที่ทาคาเม่น

    เอ่อะ..” ยามาดะหันไปมองตามนิ้วของเพื่อนสนิทแล้วรีบปล่อยมือทันที หันหน้าหลบแบบเขินๆ แล้วเดินนำออกไปที่นอกห้าง

    อ้าว เดี๋ยวสิ ยามาดะ!” ไดกิงง จู่ๆเขินอะไร? งงแฮะ ว่าแล้วก็รีบวิ่งตามไป แน่นอนทาคาเม่นที่กำลังยืนเพ้อกับช็อตเขินอาย?ของยามาดะก็รีบเรียกสติแล้ววิ่งตามคนทั้งคู่ออกไป

    ด้านนอก

    นี่ นายเป็นอะไรน่ะ? นายเขินกล้องพวกมันหรอ? แต่มันก็ถ่ายมาตลอดอยู่แล้วนะ พอออกมาที่ด้านฝั่งหลังของห้างได้ ก็เจอยามาดะ เดินวนไปวนมาอยู่ตรงหน้าลานริมถนน

    เอ้อ เปล่า นึกอะไรขึ้นได้จู่ๆก็เลยเอ๊ะ เดี๋ยวนะ นายรู้ได้ไงว่าฉันเขิน?” ยามาดะหมุนตัวหันกลับไปสบตา ทำหน้างง ก็แค่วิ่งออกมา รู้ได้ไงอ่ะ??

    ไดกิมองหน้างุนงงของเพื่อนสนิทแล้วก็หัวเราะ ออกอาการซะขนาดนั้น ไม่รู้ก็แปลกแล้ว

    นายคิดว่าฉันเป็นใครห๊ะ? แล้วตกลงเขินอะไร?”

    ยามาดะทำท่าฟึดฟัดเล็กน้อย สายตาเหลือบไปเห็นเพื่อนซี้อีกสองคนที่เดินตามมากำลังเล็งกล้องไอโฟนมาที่พวกเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดมือลง ก็ถอนหายใจเบาๆ

    ก็เพราะเจ้าพวกนั้นมันถ่าย แล้วก็เรื่องที่นายบอกว่า พวกนั้นอยากได้เซอร์วิสจากฉัน แต่พอฉันแค่จับแขนนายแล้วก็เขย่าๆ นายก็บอกว่าสำหรับพวกนั้นแค่นี้ก็เซอร์วิสแล้ว มันทำให้ฉันนึกขึ้นได้ ว่ามันมีเซอร์วิสอีกอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า เลิฟเลิฟเซอร์วิสแบบคู่รักน่ะสิ ยามาดะหน้าแดงเล็กๆ ให้ตายสิ ทำไมต้องมาพูดเรื่องแบบนี้กับเพื่อนสนิทผู้ชายด้วยฟระ!

    ไดกิฟังตามแล้วทำท่าอ๋อ พร้อมหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างไม่ปิดบัง ทำให้ยามาดะทำหน้าสงสัย ไม่เว้นแม้แต่ทาคาป๊งกับเม่นโตะที่ยืนอยู่ข้างๆ

    แหม นายก็คิดได้นะ ฮ่าๆ! แต่ก็จริงอย่างที่ว่าแหละ และอีกอย่างดูเหมือนอาริยามะจะกำลังบูมอยู่สุดๆไปเลยซะด้วยสิ ฮ่าๆ! เอาน่ะ ยังไงฉันกับนายก็รักกันจริงๆ ไม่ต้องเขินหรอกน่า ไดกิว่า ไม่วายยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อนซี้แรงๆจนหมวกใบเก๋ของยามาดะแทบหลุด

    ปล่อยนะเว่ย! เดี๋ยวไม่หล่อ เขินสิ บ้าเปล่า ฉันไม่ใช่ไดจังนะ ยามาดะหลบพร้อมกับยกมือขึ้นสวมหมวกดีๆอีกครั้ง

    ทำไม? ฉันทำไม? เดี๋ยวเหอะ!”

    ฮ่าๆ! โอ๊ย นายอย่าแกล้งดิ มันเจ็บนะ!

    ...นายนั่นแหละ ฮ่าๆ!!!

    และแล้วอาริยามะก็หลุดเข้าโลกส่วนตัวไป โดยที่ทาคาเม่นยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ไม่ห่างไม่ไกลนัก

    โว้ยยยยยยยย เคย์โตะ!! ทำไมภาพมันเบลอๆว่ะ ฝืดดดดด!” ทาคาป๊งเรียกหาคู่หู เมื่อรู้สึกว่า ภาพตรงหน้าที่เขามองอยู่นี้มันรู้สึกโฟกัสสั่นๆยังไงไม่รู้ ไหนจะน้ำอุ่นๆที่แก้ม และน้ำมูกที่เริ่มไหลอีก

    ฝืดดดดดดด นั่นก็เป็นเพราะว่า ยูยะกำลังน้ำตาไหลอยู่ยังไงล่ะ โอ๊ย! น้ำมูกนี่จะไหลไปไหนวะ!” เคย์โตะดึกทิชชู่ที่หยิบติดมือจากร้านพิซซ่าออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วสั่งน้ำมูก

    อ่ะ อ้าวงั้นเหรอเนี่ย ฉันไม่รู้สึกตัวเลย ทาคาป๊งค่อยๆหันหน้ามาทางเคย์โตะ และก็พบกับ… “เคย์โตะนายก็ร้องไห้เหมือนกันนี่ ฝืดดดดด

    หืม จริงหรอ? ถึงว่าสิ ทำไมรู้สึกหน้าเปียกๆ ฝืดดดดดดด

    เราสองคนคงจะซาบซึ้งกับความเรียลลิตี้ตรงหน้ามากเกินไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง ฝืดดดดดดด โอยยย ดีใจที่สุดเลยยที่วันนี้ที่ตามมา!”

    ฝืดดดดดด นั่นสิ โอ๊ย รู้งี้น่าจะขโมยพัดจากแฟนๆแถวนั้นมาก็ดี ฝืดดดดดดดดด

    นายอย่าพูดสิ ฉันก็เสียดาย ฝืดดดดดดดดดดด

    ทว่าในระหว่างที่ทาคาเม่นและอาริยามะกำลังหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวกันอยู่นั้น ก็มีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งวิ่งมาทางนี้ ทำให้ต่อมติ่งกระตุกอย่างร้ายกาจ!

    เฮ้ย เคย์โตะ! แฟนคลับมาเว่ย แฟนคลับ!”

    แถมยังเป็นแฟนคลับยามะจังกับไดจังอีก ทำไงดีล่ะ ยูยะ!” และทั้งสองก็เริ่มตื่นตระหนกกับการปรากฏตัวของแฟนคลับ เพื่อ!?

    ถ้าโดนรุมอีก โมเม้นอาริยามะก็หายไปดิฟระ เอาไงดีๆๆๆๆๆทาคาป๊งลน ยัดไอโฟนลงกระเป๋ากางเกง แล้วมองสลับไปมาที่แฟนคลับกับอาริยามะ

    นั่นสิ เอาไงดีๆ

    สิ้นสุดคำพูด รถสองแถวสีแดงแรงฤทธิ์วิ่งโชว์ดริฟต์เข้ามารับผู้โดยสารริมถนนใกล้กับพวกเขา ทำให้ต่อมติ่งกระตุกอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะกระโจนตัวออกไปจับไอดอลของตัวเองและลากวิ่งขึ้นรถไป

    เฮ้ย!/แว๊ก!!!”

     

     

    ติดตามต่อ ภาค 2


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×