คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Together #Kris x Lay
Together
ทำไมทำแบบนี้...
ร่างบางของแดนซ์ซิ่งแมชชีนประจำวง EXO-M กำลังนั่งอยู่ที่โซฟากลางห้องโถงนั่งเล่นภายในหอพักอยู่คนเดียวเงียบๆ ในมือเล็กนั้นก็ถือกระดาษโพสอิทสีชมพูอ่อนไว้ ... มันเป็นโพสอิทของใครบางคนที่เขียนถึงเขา ...
‘เดี๋ยวพี่ซื้อของมาฝาก ห้ามดื้อหล่ะ รักอี้ชิงนะครับ’
ใครบางคนที่ จางอี้ชิง เรียกว่าคนใจร้าย ....
ใจร้ายที่ไปไหนโดยไม่บอกเขา ใจร้ายที่ทิ้งข้อความสั้นๆไว้ในโพสอิทแค่ใบเดียว
อู๋อี้ฟานใจร้ายที่สุด... แต่อี้ชิงก็รักอี้ฟานที่สุด ... รักมากจนโกรธไม่ลง
คนใจร้ายที่อี้ชิงเรียก กำลังยืนอยู่ในห้องนอนของตัวเองที่ไม่ได้กลับมาเสียนาน ตั้งแต่ไปเป็นเด็กเทรนอยู่ที่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ พอได้เดบิวท์ งานก็รัดตัวจนเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ได้กลับมาแคนาดาคราวนี้ก็คงอยู่ยาว
มือหนาหยิบไอโฟนห้าสีขาวเครื่องสวยขึ้นมา เปิดไปที่แอพพลิเคชั่น Camera roll ดูรูปสมาชิกทั้งฝั่ง M และ K ที่ชอบเอาโทรศัพท์ของเขาไปถ่ายรูปเล่นกันเมื่อมีเวลาว่าง ดูไปก็หัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อเจอรูปตลกๆรวมถึงรูปก่อนและหลังอาบน้ำของสมาชิกแต่ละคน โดยที่บางคนก็มีแค่ผ้าขนหนูพันรอบเอว เขาคิดว่าหากโทรศัพท์ของเขาหายไปคงถึงวิกฤตของ EXO เลยหล่ะ
สายตาคมดุดันราวกับราชสียังคงมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มือนิ้วมือของตนเองเลื่อนอยู่ ยิ้มขึ้นมาเบาๆเมื่อเจอรูปที่ตัวเองโดนแอบถ่ายตอนเผลอหลับบนเครื่องบิน คนถ่ายคือคนที่มีอายุมากที่สุดในวงแต่นิสัยและใบหน้าช่างไม่เข้ากับอายุเอาเสียเลยอย่างเสี่ยวลู่หาน และใบหน้าหล่อราวกับเทพบุตรก็เผยรอยยิ้มกว้างจนแก้มปริ เมื่อเห็นรูป ‘คนรัก’ ในอิริยาบถต่างๆ ทั้งตอนนอน กินข้าว นั่งอยู่เฉยๆ ตอนที่เล่นกีต้าร์ ตอนที่กำลังยู่ปากน้อยๆ จะว่าเขาโรคจิตก็ได้นะ ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันเกือบจะ 24ชั่วโมง แต่ก็ยังถ่ายรูปอีกคนเก็บไว้มากมาย... เปิดดูทีไรก็เรียกรอยยิ้มจากเขาได้เป็นอย่างดี คนคนนี้เป็นเหมือนยาชูกำลังของเขา...
‘อ่า... คิดถึงอี้ชิงจัง’
“อี้ฟาน ลงมาทานมื้อเย็นได้แล้ว” เสียงเรียกของมารดาที่มาจากด้านล่าง ดังเข้ามาในโสตประสาทของ ‘อู๋อี้ฟาน’ หรือที่ใครๆรู้จักในชื่อของ ‘คริส’ ลีดเดอร์ EXO-M ที่แสนจะทรงอำนาจ และตัวสูงประหนึ่งเสาไฟฟ้าก็ไม่ปาน
คริสวางโทรศัพท์เครื่องหรูไว้บนหัวเตียง ลุกขึ้นมาส่องกระจกตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่เต็มไปด้วยครีมประทินผิวความงามมากมาย เยอะเสียจนผู้หญิงบางคนต้องยอมแพ้ ยืนตรวจดูเสื้อผ้าหน้าผมสักพัก ก็เดินลงไปข้างล่างที่มีมารดาของตัวเองกำลังจัดโต๊ะอาหารเตรียมมื้อเย็นอยู่
“จะมาอยู่นานมั้ยลูก?” มารดาของคริสถามขึ้นเมื่อตระเตรียมของบนโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ก็อาจจะซัก2-3อาทิตย์ มั้งครับ” เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับผู้เป็นมารดาไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“อืม ความจริงเราก็ไม่น่าจะทิ้งงานมานานขนาดนี้นะ เสร็จจากไหว้บรรพบุรุษแล้วลูกจะกลับไปเลยก็ได้ แม่ไม่ว่าหรอก” คุณนายอู๋เอ่ยบอกด้วยความเข้าใจ บางทีตารางงานของคริสก็คงจะเยอะ เธอไม่อยากให้ลูกชายต้องมาหยุดงานพร่ำเพื่อแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ นานๆผมจะได้กลับมาที” คริสบอกกับผู้เป็นแม่แล้วยิ้มให้หนึ่งทีเพื่อยืนยันว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ
เสร็จจากมื้อเย็นที่มีเพียงแค่อาหารจีนธรรมดาไม่กี่อย่าง แต่เป็นของโปรดของคริสเสียทั้งหมด คริสก็ขอตัวขึ้นมาพักผ่อนบนห้องนอนที่แสนคุ้นเคย คุณนายอู๋มองตามลูกชายที่กำลังเดินขึ้นห้องนอนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ
เธอรู้ดีเส้นทางที่ลูกชายคนเดียวของเธอเลือกเดินนั้น มันเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก เธอยังจำวันที่เห็นทีเซอร์เปิดตัวศิลปินหน้าใหม่ของค่าย SM ได้ดี วันนั้นเป็นวันที่เธอยิ้มทั้งน้ำตา เมื่อเห็นลูกชายประสบความสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้น แถมยังได้เป็นหัวหน้าวงอีกต่างหาก เธอภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก แต่เธอก็ไม่อยากให้คริสฝืนเกินไป เธอกลัวว่าคริสจะล้มป่วย
คริสทิ้งตัวลงบนเตียงที่มารดาเพิ่งเปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนให้ใหม่ มันเป็นชุดผ้าปูที่นอนที่เขาชอบ คริสหลับตาและปล่อยใจให้ลอยไปกับสายลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศ นอนหลับตาคิดอะไรไปเรื่องเปื่อยจนเกือบจะหลับ แต่เสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น
คริสควานหาโทรศัพท์ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ คิ้วเข้มขมวดจนแทบจะพันกัน เขาค่อนข้างที่จะหงุดหงิดเมื่อมีอะไรมารบกวนการนอน เพราะการนอนมันเป็นชีวิตจิตใจของอู๋อี้ฟานเลยก็ว่าได้ ... คริสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาพร้อมอาการง่วงงุน ดวงตาแทบจะลืมไม่ขึ้น แต่ความง่วงก็หายไปทันทีที่เห็นข้อความผ่านแอพลิเคชั่นยอดฮิตอย่าง LINE ประเด็นสำคัญที่ทำให้หายง่วงคือเจ้าของข้อความที่ส่งมาต่างหาก...
‘ที่นั่นหนาวมั้ย? ห่มผ้าหนาๆนะครับตุ้ยจ่างJ’
ให้ตายสิ เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า เขานึกว่าคนรักจะโกรธเขาด้วยซ้ำ ที่มาโดยไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้า แต่พอเห็นว่าอี้ชิงส่งข้อความมาหาคริสก็ยิ้มกว้างจนเงิงโผล่แบบไม่อายใคร เขากำลังมีความสุขทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆกัน .. อี้ชิงทำตัวน่ารักเกินไปแล้ว ...
‘นายก็ด้วย ดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าออกมานอนที่ห้องนั่งเล่นโดยที่ไม่มีฉันนอนด้วย เข้าใจมั้ยอี้ชิง’
ถ้าคิดว่าคริสจะยิ้มจนเหมือนคนบ้าอยู่แค่คนเดียว คุณคงคิดผิด เพราะตอนนี้อี้ชิงก็กำลังยิ้มจนลักยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นมา มันเป็นลักยิ้มที่คริสชอบเอานิ้วมาจิ้มบ่อยๆเมื่อเห็นมัน ยิ่งคิดอี้ชิงก็ยิ่งเขิน
ด้วยความที่สมาชิก EXO-M คนอื่นยังไม่นอน ทุกคนจึงเห็นอาการผิดปกติของอี้ชิงแล้วก็สงสัย ว่าแดนซ์ซิ่งแมชชีนคนงามของวงไปเขินใครมา?
แต่ก็สงสัยได้ไม่นานเมื่อจื่อเทา น้องเล็กฝั่ง M เดินมาหาพวกพี่ๆแล้วยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูของตนเองให้บรรดาพี่ชายได้ดูหน้าจอที่มีขอความโชว์อยู่
‘ดูแลอี้ชิงของฉันดีๆนะ อย่าให้เขาออกไปนอนที่ห้องนั่งเล่น’
‘ให้เฉินไปนอนกับอาลู่ แล้วให้อี้ชิงไปนอนที่ห้องฉัน อ่อ นอนเตียงฉันด้วยนะ’
‘เพราะห้องของฉันกับเฉินอากาศมันเป็นช่วงที่ลมเข้าพอดี อี้ชิงคงไม่ร้อน เข้าใจนะ?’
เมื่อพี่ๆทั้งสามคนได้อ่านข้อความที่แสนจะเผด็จการก็มีความคิดเดียวกันคือ ‘ตุ้ยจ่างแม่งเยอะ!’ คงจะมีแต่เฉินเท่านั้น ที่ยังคงยิ้มจนตาปิดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“งั้นคืนนี้ผมต้องไปนอนกับพี่สินะครับ?” เฉินหันมาถามบุคคลที่มีอายุมากที่สุดในวงแต่หน้าเด็กจนนึกว่าเป็นเด็กมัธยมปลาย
“ก็คงงั้นอ่ะ” ลู่หานตอบพลางยกแขนไปวางบนไหล่ของเฉิน
“ไปนอนเหอะ” ซิ่วหมินพูดแล้วเดินออกจากวงสนทนาพร้อมตาปรือๆ
“พี่อี้ชิง รีบนอนนะครับ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้า แล้วก็เข้าไปนอนที่ห้องของตุ้ยจ่างนะครับ นอนเตียงพี่เขาด้วย” เทาเดินมาหารุ่นพี่ตัวเล็กที่ยังนั่งคุย LINE อยู่กับคริสที่โซฟาแล้วบอกความต้องการของคริสให้อี้ชิงได้รู้
“เอ๋? ทำไมพี่ต้องไปนอนห้องอี้ฟานหล่ะ?” อี้ชิงละสายตาจากโทรศัพท์แล้วเงยหน้ามองน้องเล็กของวง
“พี่ก็ถามตุ้ยจ่างดูสิครับ ผมไปนอนแล้วนะครับ ฝันดีพี่อี้ชิง” เทายกยิ้มเมื่อเห็นแววตาสงสัยของอี้ชิงส่งมาให้เขาพร้อมเอียงคอน้อยๆ มันน่ารักเสียจนอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้จริงๆ
ไม่รอให้ตัวเองต้องสงสัยนาน นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความลงไปในหน้าจอทันที
“ทำไมถึงให้อี้ไปนอนห้องอี้ฟานหล่ะ?”
‘นอนเตียงฉันด้วยนะ’
“ขอเหตุผลหน่อย”
‘ฉันไม่อยากให้ใครมามองตอนที่นายใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขากว้างนอน ฉันหวง’
“รู้งี้ไม่ถามซะก็ดี -/////////////-” อี้ชิงพึมพำเบาๆแล้วพิมพ์ข้อความต่อ
“อื้อ รู้แล้ว ถ้าไม่อยากใครมามองตอนที่อี้แต่งตัวแบบนั้น อี้ฟานก็รีบกลับมาสิ...”
‘อยากได้ของฝากอะไรมั้ยครับ?’
“ไม่รู้สิ ไม่รู้จะเอาอะไร ตอนนี้อยากได้อี้ฟานมานอนอยู่ข้างๆกันมากกว่า”
‘แค่นอนอย่างเดียวเองหรอ? แย่จังนะ หึหึ’
“อี้ฟานคนบ้า! ทะลึ่งที่สุดเลย -//////////-”
‘ไปนอนได้แล้วอี้ชิง เดี๋ยวตื่นสายนะ’ ดวงตาคมของคริสเหลือบมองไปยังนาฬิกาแขวนผนังเรือนสีน้ำเงินที่บอกเวลาว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะเข้าวันใหม่แล้ว
“อื้อ อี้ฟานก็รีบนอนนะ ฝันดีครับ...”
‘ฝันดีครับ อี้ชิงของอี้ฟาน’
“เอ่อ .. รักอี้ฟานนะ”
‘รักอี้ชิงเหมือนกัน’
ดูท่าคืนนี้ทั้งอี้ฟานและอี้ชิงคงหลับฝันดี J
“หน้าตาสดใสเชียวนะ” ซิ่วหมินแซวขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องชายยิ้มหวานมาแต่ไกล
“อี้ชิงที่ปกติทำหน้า JPG วันนี้ทำหน้า GIF ได้ด้วย โอ้ว แดบัค!” ลู่หานก็เสริมทัพด้วยอีกคน ทำให้อี้ชิงเม้มปากแน่น เขินจนหน้าแดงและเดินหนีไปหาจื่อเทากับเฉินที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ เรียกเสียงหัวเราะของสองพี่ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
“ขึ้นรถได้แล้วเด็กๆ วันนี้มีแค่งานเดียว” เสียงของผู้จัดการดังขึ้นขัดบทสนทนาของบุคคลทั้งห้า
บรรดาสมาชิก EXO-M ต่างก็ทยอยเดินมาขึ้นรถตู้คันสีดำ ลู่หานกับซิ่วหมินนั่งเบาะหลังคนขับ จื่อเทากับเฉินนั่งเบาะถัดมา ส่วนเบาะสุดท้ายปกติจะเป็นที่ประจำของตุ้ยจ่างและแดนซ์ซิ่งแมชชีนของวง แต่วันนี้อี้ชิงทำแค่มองและเลือกนั่งเบาะเดี่ยวแทน
การทำงานของวันนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี อี้ชิงทำหน้าที่แทนตุ้ยจ่างโดยการตอบคำถามต่างๆได้อย่างฉะฉาน จึงทำให้ไม่มีปัญหาอะไรในการอัดรายการ
เด็กหนุ่มทั้ง 5คน มานั่งอยู่บนรถตู้คันเดิมที่นั่งมาเมื่อเช้า ต่างคนก็ต่างอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง อี้ชิงกำลังนั่งมองแอพลิเคชั่นที่คุยกับคริสเมื่อคืนนี้อย่างใจจดใจจ่อ เผื่อว่าคริสจะส่งข้อความมา เขาจะได้ตอบกลับในทันที แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าตุ้ยจ่างคริสจะส่งข้อความอะไรมา
“เดี๋ยวแวะร้านทำผมก่อนนะ” เมเนเจอร์พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบที่โรยตัว เมื่อไม่มีใครถามหรือพูดอะไร เมเนเจอร์จึงพูดต่อ
“พวกนายใกล้จะคัมแบ็คแล้ว ควรจะเปลี่ยนรูปลักษณ์บ้าง ป่านนี้ฝั่ง K ก็คงกำลังทำผมอยู่” จบประโยคนั้นของเมเนเจอร์ เด็กหนุ่มทั้ง 5คน ก็ยังคงเงียบอยู่ จนเมเนเจอร์คิดว่าหลับกันไปเสียแล้ว แต่พอหันหลังมองกลับพบว่าพวกเด็กๆกำลังกลั้นสะอื้นจนตัวโยน จื่อเทาเม้มปากเป็นเส้นตรงแต่ดวงตาแดงกล่ำ เฉินยิ้มกว้างทั้งๆที่น้ำตาไหลอาบแก้ม ซิ่วหมินกับลู่หานก็นั่งกุมมือกันแน่น ยิ้มและหัวเราะร่าอย่างมีความสุข ส่วนอี้ชิงทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ และพยักหน้าให้เมเนเจอร์ที่หันมาสบตากัน
การเปลี่ยนแปลงของศิลปินหนุ่มหน้าใหม่อย่าง EXO กลายเป็นประเด็น Talk of the town ที่เหล่าแฟนคลับหรือแม้แต่บุคคลทั่วไปต่างก็พูดถึงกันให้หนาหู สมาชิกทั้ง 11คน ได้เปลี่ยนทรงผมของตัวเองจนบางคนก็แทบจะจำไม่ได้
คงจะขาดแต่ ‘คริส’ ที่ยังไม่กลับมาจากแคนาดา ...
คริสมองโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้ม เขาเห็นทรงผมใหม่ของเหล่าสมาชิกทั้ง 11คน หมดแล้ว ยอมรับเลยพอเห็นแล้วอยากจะเปลี่ยนทรงผมบ้างจริงๆ อ่า... จุนมยอนดูแมนขึ้นเยอะเลยแหะ ฮ่าๆ
แต่บุคคลที่ทำให้คริสยิ้มจนแก้มปริคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อี้ชิง
“ตัดซะสั้นเลยนะอาอี้ จะแมนแข่งกับพี่หรือไง” คริสพูดเบาๆกับโทรศัพท์แล้วคิดอะไรบางอย่างได้
‘เขาก็ควรจะเปลี่ยนบ้างJ’
คริสมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกพลางยิ้มบางๆ ทำให้ลูกค้าคนอื่นที่กำลังแอบดูอยู่แทบล้มลงไปกองกับรอยยิ้มนั้น
คริสตัดผมสั้น ไถข้างนิดๆ มันคงไม่แปลกถ้าทำแค่นั้น แต่คริสย้อมผมกลับเป็นสีดำด้วย เลยทำให้คริสดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม
3 Week later
คริสกำลังนั่งเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่อยู่เงียบๆ เงียบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ และเสียงหัวใจตัวเอง...
คริสกำลังดีใจจนตัวจะลอย เมื่อคิดได้ว่า เขาจะได้กลับไปเจออี้ชิงแล้ว... ไม่ได้เจอกันมาเดือนนึง คิดถึงแทบขาดใจ
“เก็บของหมดหรือยังอี้ฟาน?” เสียงหวานของมารดาเอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วเดินมานั่งบนเตียงของลูกชาย
“หมดแล้วหล่ะครับ แม่มีอะไรหรือเปล่า?” คริสพับเสื้อตัวสุดท้ายลงกระเป๋าพลางถามมารดา
“แม่จะไปส่งที่สนามบิน ไม่ต้องขัดนะ น้าฉางก็ไปด้วย ไม่ต้องห่วงจ้ะ” คุณนายอู๋พูดและบีบมือคริสเบาๆ เพราะเธอรู้ว่าคริสจะเป็นห่วง กลัวว่าเธอจะเป็นลมเพราะโดนเหล่าแฟนคลับรุมล้อม
“งั้นก็โอเคครับ ไปกันเถอะครับแม่ ผมกลัวรถติด” คริสยิ้มบางๆให้มารดาแล้วยกกระเป๋าเดินลงไปชั้นล่าง
“ดีนะที่วันนี้รถไม่ติด” ฉางพูดขึ้นเมื่อขับรถมาได้ซักพัก วันนี้ถนนโล่งราวกับเป็นใจให้คริสได้รีบกลับเกาหลีอย่างไรอย่างนั้น
เพียงไม่นาน ทั้ง 3ชีวิต ก็เดินทางมาถึงสนามบินแวนคูเวอร์ ที่คล่ำคลาไปด้วยผู้คนมากมาย ต่างคนก็ต่างจุดหมาย
คริสสวมแว่นดำและเดินเข้ามาภายในสนามบิน โดยที่มารดาและน้าชายจะตามมาทีหลัง คริสยกยิ้มกว้างกับภาพตรงหน้า แฟนคลับจำนวนมากกำลังกรูเข้ามาหาเขาที่ยืนอยู่ตรงแถวๆเก้าอี้ยาว ซึ่งเป็นจุดนัดพบของเขากับมารดา รวมไปถึงน้าชายด้วย
แฟนคลับยื่นช็อคโกแลตยี่ห้อดังให้คริส ซึ่งเขาก็รับมาและแจกมันให้แฟนคลับเกือบทุกคน เพราะวันนี้เป็นวัน White day ของประเทศเกาหลี เขาเลยถือโอกาสนี้ให้ช็อคโกแลตแฟนๆซะเลย
“ขอบคุณทุกคนครับ ขอบคุณครับ” คริสยิ้มกว้างและโบกมือลาแฟนคลับที่มาส่งเขาที่สนามบิน คริสเดินย้อนกลับไปหามารดาและสวมกอดเธออีกครั้งด้วยความคิดถึง
“ตั้งใจทำงานนะอี้ฟาน อย่าหักโหมให้มากนัก มีปัญหาอะไรก็บอกแม่ ดูแลตัวเองแล้วก็ดูแลน้องๆในวงด้วยนะ” คุณนายอู๋เอ่ยบอกลูกชายพลางยิ้มไปด้วย มือบางลูบหัวลูกชายอย่างรักใคร่ โดยที่คริสก็ย่อตัวให้มารดาลูบหัวอยู่แบบนั้น
“ผมรักแม่นะครับ”
“แม่ก็รักอี้ฟานนะ โชคดีจ้ะลูกแม่”
คริสยืนมองแฟนคลับที่มารับเขาที่สนามบินด้วยรอยยิ้ม พลางมองหาเมเนเจอร์ที่บอกว่าจะมารับเขากลับหอพัก
“ยินดีต้อนรับกลับมานะคริส” เสียงคุ้นหูดังขึ้นทางด้านซ้ายมือของคริส เขาหันไปมองแล้วยิ้มกว้าง แล้วกอดเมเนเจอร์แน่นด้วยความคิดถึง
“ขอบคุณครับ”
“เหยดดดดดดดดดดด ดูสิใครมา!!!!!” เสียงทุ้มแบบกู่ไม่กลับของชานยอลดังขึ้นกลางหอพักของ EXO-M เรียกให้สายตาหลายคู่หันไปมองทางประตู
“เห้ย! พี่คริสจริงดิ? หล่อขึ้นบานนนนนนนนนน” มักเน่ชานมวิ่งดุ๊กดิ๊ก(?)เข้ามาหาตุ้ยจ่างสุดหล่อแล้วชมไม่ขาดปาก
“เออๆ รู้ว่าหล่อเว้ย หล่อตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว” คริสว่าเขาได้ยินเสียงคนอ้วกนะ ...
“หล่อตายแหละ” เป็นลู่หานที่ขัดขึ้นมาพร้อมกับเสียงอ้วกเมื่อกี๊
“หล่อกว่ากวางเตี้ยแถวนี้นะ แล้วอี้ชิงอยู่ไหน?” คริสไม่ได้สนใจจะต่อปากต่อคำ ตอนนี้เขาอยากเจอคนรักมากกว่า
“อ่อ เลย์อยู่ในห้องฉันเอง ไปสิ” ลีดเดอร์ฝั่ง K บอกกับคริสพร้อมรอยยิ้มละมุนละไม
“ขอบใจจุนมยอน อ่า.. ตัดผมใหม่แล้วแมนขึ้นนะ ฮ่าๆ” ไม่วายจะกวนประสาทเพื่อนตัวเล็กก่อนจะเดินไปทางห้องของจุนมยอน
ภาพที่คริสเห็นหลังจากเปิดประตูเข้ามาคือคนรักของตัวเองกำลังหลับเอาหัวหนุนแขนอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ สวมเฮดโฟนสีม่วงที่แสนจะโปรดปรานค้างเอาไว้ ได้ยินเสียงดนตรีที่ดังลอดออกมา และเหลือบไปเห็นกีต้าร์ของอี้ชิงวางอยู่ข้างๆ ทำให้คริสยกยิ้มน้อยๆ
‘กำลังแต่งเพลงอยู่สินะ’
“อี้ชิง ตื่นได้แล้ว” คริสเขย่าร่างบางนั่นเบาๆราวกับกลัวว่าหากกระทำรุนแรงแล้วคนตรงหน้าจะบุบสลายคามือหนา
“อือ อะ อี้ฟาน!” อี้ชิงไม่ใช่คนขี้เซาแบบคริส เขาเลยตื่นง่ายเพียงแค่สะกิด อี้ชิงเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ฉันเอง กลับมาแล้วครับที่รักJ” คริสยกมือมาลูบผมสีแดงของคนตัวเล็กเบาๆ อี้ชิงก็กอดเอวหนาแน่นแล้วเอาหน้าซุกกับหน้าท้องแกร่งของคนรัก อี้ชิงถูใบหน้าสวยไปกับหน้าท้องของคริสราวกับออดอ้อน
“จะอ้อนเอาอะไรหืม?” คริสถามอี้ชิงแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ เพราะเขาไม่เห็นอี้ชิงอ้อนเขาแบบนี้มานานแล้ว
“มีของฝากให้อี้หรือเปล่า?” อี้ชิงถามพลางช้อนตาขึ้นมองคนรัก นัยน์ตาแดงน้อยๆเพราะตอนที่ตื่นนอน อี้ชิงขยี้ตาจนมันแดงและช้ำ
“ไหนบอกไม่อยากได้ไง?” คริสแหย่คนรักเล่นๆ และหัวเราะออกมาเมื่อเห็นอี้ชิงกำลังยู่ปากใส่เขา
“ตุ้ยจ่างใจร้าย ไม่ซื้ออะไรมาฝากแฟนตัวเองเลย” อี้ชิงลุกขึ้นเดินหนีไปนั่งบนเตียงของจุนมยอนและหันหลังให้คริส
คริสยิ้มเมื่อรู้ว่าอี้ชิงกำลังโกรธเขา แต่ไม่ได้จริงจังหรอก ถ้าอี้ชิงโกรธจริงๆ จะไม่พูดอะไรเลยและเดินออกนอกห้องไป ทำตัวเหมือนเขาเป็นเพียงธาตุอากาศ
คริสเดินออกนอกห้องไป เสียงประตูที่ปิดลงทำให้อี้ชิงใจเสีย เขาคิดว่าคริสคงเหนื่อยหน่ายใจที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทั้งๆที่กลับมาเหนื่อยๆ คริสควรจะต้องพักผ่อน แต่กลับต้องมาง้อเขา ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย
ขณะที่อี้ชิงกำลังคิดมากอยู่นั้น คริสก็เดินกลับเข้ามาแล้วปิดประตูอย่างแผ่วเบาจนอี้ชิงไม่ได้ยินเสียง คิดเดินมาทางด้านหลังของอี้ชิง ร่างบางเห็นว่ามีเงามาทาบทับตัวเองจึงหันกลับไปมอง ก็เจอคริสยืนยิ้มให้และในมือก็ถือถุงแบรนด์ MCM ที่เป็นกระเป๋าแบรนด์โปรดของเขาอยู่ด้วย
“ของฝากจากแคนาดาครับที่รัก” คริสยื่นถุงใบขนาดกลางให้ร่างบาง อี้ชิงรับมาแล้วเปิดดูพบกระเป๋าเป้คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดถึงจะเป็นของผู้หญิงก็เถอะ เขาคิดว่าหากเงินไตรมาสนี้ออกจะนำมันไปซื้อเสียหน่อย แต่ตอนนี้คงไม่ต้องเพราะมันมาอยู่ในมือเขาเรียบร้อยแล้ว คริสยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนรักกำลังตื่นเต้นที่เห็นกระเป๋าใบนั้น
อี้ชิงดีใจจนน้ำตาไหลที่คนตัวสูงทำดีกับเขาขนาดนี้ อี้ชิงไม่รู้จะตอบแทนให้คริสอย่างไรดี
“ขอบคุณนะอี้ฟาน ขอบคุณ...” อี้ชิงกอดคริสแน่นพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ฉันเต็มใจ อะไรที่ทำให้อี้มีความสุข ฉันพร้อมจะทำ ขอแค่อี้บอกฉันมา” คริสลูบไล้แผ่นหลังเล็กเบาๆเพื่อเป็นการปลอบโยน
“อะ อี้ฟาน.. คือ เอ่อ...” อี้ชิงผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่นแล้วเรียกชื่อคริส อ้ำๆอึ้งๆอยู่ซักพักก็ตัดสินใจพูดออกมา
“ไปล็อคประตูห้องให้อี้หน่อยได้มั้ย?” คนตัวเล็กพูดออกมารวดเดียวจบ จนคริสกลัวว่าลิ้นจะพันกัน ถึงจะสงสัยในการกระทำของคนรัก แต่คริสก็เดินไปกดล็อคประตูตามคำของอี้ชิง
“มีอะไรหรือเปล่าอี้ชิง?” คริสเดินไปประชิดร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่บนเตียง
“เอ่อคือ ... อี้อยากให้ ...ให้อี้ฟาน ‘รัก’” อี้ชิงพูดตะกุกตะกัก พูดจบแล้วก็ก้มหน้าคางชิดอกเพราะความเขิน
คริสยังคงอึ้งที่อยู่ๆคนเรียบร้อยอย่างอี้ชิงพูดประโยค 18+ แบบนั้นออกมา แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกดี
“อยากให้ฉันรักหรอ? หืม? คนดี” คริสถามพลางก้มหน้าอยู่ตรงซอกคอของคนรัก สูดดมความหอมหวานที่เขาหลงไหลเข้าไปเต็มปอด คำตอบที่ได้จากอี้ชิงคือการพยักหน้าเบาๆ
“หึ งั้นก็อย่ามาขอให้หยุดนะครับที่รักJ”
The End.
NC
กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!!! เอ็นซีมันมาแล้ว!!! TTvTT
คอมยังซ่อมไม่เสร็จ ต้องระเห็จมานั่งแต่งฟิคที่ร้านเน็ต แต่งไประแวงไปกลัวว่าใครจะมาเห็น
5555555555555555555555555555555 ;_____________________;
ความคิดเห็น