ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I want to see you again

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 : Good night

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 57


    “คำว่า ราตรีสวัสดิ์ อาจเป็นคำที่คนทั่วไปพูดกัน

    แต่สำหรับคนที่มีความห่วงใยกัน มันมีความหมาย

    มากกว่านั้น เพียงแต่มันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูด

    ได้ว่ามันหมายความว่าอะไร”

                                                                                             Jack Frost

    ..................................................................................................

     

    Jack Frost :

     

    หลังจากที่ข้าบอก"ราตรีสวัสดิ์"ข้าก็ได้แต่ยิ้มและมองอยู่ที่ขอบหน้าต่าง เอลซ่าเวลานี้ช่างสง่างาม ตอนแรกข้าคิดว่านางคงจะไม่ได้ยินเสียงข้า แต่นางคงได้ยินนางหันหลังกลับมาแล้วยิ้มมาที่ข้า ทำเอาข้าทำอะไรไม่ถูก ข้าก็ได้แต่โบกมือพร้อมกับยิ้มไปทั้งๆอย่างนั้น สักพักนางก็โบกมือลาพร้อมรอยยิ้มที่สวยงามนั่นและนากก็หันหลังกลับไปแล้วออกจากห้อง

              ข้าเดาว่านางจะไปหาน้องของนางอันนา ข้าก็ยืมมองไปเรื่อยจนมองไม่เห็นนางข้าก็ลอยลงมาและเริ่มสำรวจรอบนอกของพระราชวังแห่งนี้เริ่มตรงที่ตรงลานด้านหน้าเป็นลานน้ำแข็ง
    สงสัยว่านางเป็นคนสร้างขึ้นมาละมั้ง ข้าลอยลงมาสัมผัสพื้นน้ำแข็ง และสำรวจดูตอนแรกข้าคิดว่าทั้งลานเป็นน้ำแข็งแต่ไม่ใช่ลานนี้ยังมีทางเดินปกติสำหรับมาราชวังแห่งนี้ด้วย สักพักข้าก็พบว่าลานน้ำแข็งแห่งนี้มันเสียหายรอยรองเท้าสเก็ตทำให้พื้นเลยมีรอยเยอะแยะ ข้าอยากทำให้นางประหลาดใจนิดหน่อยเลยใช้เวทย์มนต์แห่งน้ำแข็งและหิมะ เสกพื้นน้ำแข็งนี้ทำให้มันกลับมาเรียบเหมือนเดิมโดยผ่านทางไม้เท้านี่

              หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าข้าไม่มีไม้เท้านี้ข้าจะใช้พลังได้ไหมขอบอกเลยว่าได้ แต่ถ้าข้าไม่ใช้ไม้เท้าข้าก็จะทำได้แค่ แช่แข็งสิ่งข้าอยากแช่แข็งตอนที่สัมผัส หรือ เสกอะไรก็ได้ที่อยู่บนมือข้า ไม้เท้านี้ก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของข้าไปแล้ว ถ้าไม่มีมันข้าก็จะบินไม่ได้ เสกสิ่งของจากระยะไกลไม่ได้ เช่น ตอนที่อยู่ในปราสาทน้ำแข็งถ้าข้าไม่ไม่มันข้าคงต้องเอามือลูบทั้งปราสาทจึงสามารถตกแต่งได้ ไม้เท้าอันนี้มันเหมือนขยายพลังของข้า ซึ่งไม่เหมือนเอลซ่า นางสามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่โดยไม่ตัองพึ่งอะไร ข้านึกภาพไม่ออก ถ้านางใช้ไมัเท้าข้าเวลาใช้พลัง

              พอข้าซ่อมพื้นเสร็จแล้วข้าก็ลองกรีดพื้นใหัเป็นรอยดูซักพังพักก็กลับเป็นปกติทำไมนะหรือ เพราะข้าฝังพลังของข้าเอาไว้ด้วย ถ้ามันเสียหายมันจะกลับเป็นเหมือนเดิม แต่ถ้าจะละลายคงต้องให้เอลซ่าหรือข้าละลายเท่านั้น พอเสร็จจากที่นี่แล้วข้าก็ไปต่อที่สวนของปราสาทที่นี่ไม่แปลกเท่าไหร ถ้ามันไม่มีมนุษย์หิมะอยู่ ข้าก็ลอยลงดูเหมือนเจ้ามนุษย์หิมะตัวนี้มันมีชีวิตมันกำลังวิ่งเล่นในสวนซะสนุกสนานเลยทีเดียวข้าก็ไปหามันก็ลองทักมันดู

             “ไงเจ้าชื่ออะไรมนุษย์หิมะ ข้าถามมัน

             “เอนั่นใครน้าา........ว้าวๆๆ ทำไมนายมีผมสีนั้นละ ทำไมนายต้องถือไม่เท้าละแล้วๆๆๆมันเล่นถามข้าทั้งๆที่มันยังไม่ได้ตอบคำถามข้าซักคำ แถมมันยังมาเล่นหัวข้าอีก

             “พอๆๆเจ้าชื่ออะไรข้าถามมันอีกครั้ง

             “ข้า โอลาฟ เอลซ่าเป็นคนที่สร้างข้าขึ้นมา มันตอบคำถามข้าแถมมันยังอ้าปากค้างรอคำถามจากข้าอีก


             “นี่โอลาฟทำไมเจ้าเห็นข้าละ ข้าลองถามมัน

             “อ้าวคนอื่นมองไม่เห็นนายเหรอ นายเป็นใครกันแน่ละ มันถามข้า

             “ข้า แจ็ค ฟรอสต์ เป็นจิตวิญญานแห่งฤดูหนาว จะเรียกข้าว่าภูติหิมะแบบเดียวกับเอลซ่าก็ได้นะ ข้าตอบคำถามโอลาฟ

             “อ้อ ข้าเป็นมนุษย์หิมะข้าเลยมองเป็นนายมั้ง” มันพูดต่อ


             “นายเจอเอลซ่าแล้วเหรอถามคำถามที่ไม่น่าถามอีกละ

             “เจอแล้วสิ……แต่ช่างเหอะ ว่าแต่เรื่องราวของเอลซ่าก่อนที่ข้าจะเจอเจ้าเป็นยังไงคือข้าอยากรู้
    ข้าถามมันอีกครั้ง ทำไมข้าอยากรู้เรื่องของนางด้วยละ ช่างเหอะข้าถามไปแล้วรอฟังละกัน


    Elsa SnowQueen :

     

    หลังจากที่ฉันโบกมือลาแจ็ค ฉันก็เดินออกมาจากห้องนอนของฉันเพื่อไปบอกอันนาคิดว่าตอนนี้น่าจะอยู่หัองอาหารรอฉันอยู่ละมั้ง พอฉันเดินออกจากห้องนอนของฉัน ดูเหมือนแจ็คก็ลอยออกไปไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เขาจะมารึเปล่า แต่ฉันคิดอะไรอยู่เขาจะมาหรือไม่มาก็เรื่องของเขา ตอนนี้ในหัวของฉันมีแต่อยากพบเขาอย่างเดียวละ

             “เลิกคิดเอลซ่า อย่าคิด อย่ารู้สึก อย่า... เดี๋ยวนะ? ทำไมฉันต้องท่องคำพูดนั้นขึ้นมาอีกแล้วละ นี่เธอเป็นอะไรไปเอลซ่า ฉันก็ได้แต่บ่นกับตัวเองจนถึงห้องอาหารเจออันนากำลังนั่นรออยู่กับคู่หมั้นของเธอคริสตอฟ

             “อ๊ะ ท่านพี่มาแล้วๆๆดูน้องฉันอายุ18จะ19แถมยังหมั้นแล้วนะยังทำตัวเป็นเด็กไปได้

             “ไง อันนา รอพี่นานไหมฉันถามอันนาที่เป็นน้องสาวซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ (ตอนนี้ฉันยังไม่นับคริสตอฟเพราะยังไม่ได้แต่งกับอันนา)


           “โครก คราก คราก โครก ท่าจะนานเสียงท้องร้องดังซะ ^_^

               ขอโทษคะท่านพี่/ขออภัยองค์ราชินีทั้งสองคนพูดพร้อมกันแหมช่างน่ารักจริงเชียว


              “ไม่ต้องขอโทษกันหรอกพี่ผิดเองที่มาช้า มาทานมื้อเย็นด้วยกันดีกว่า" ฉันพูดกับอันนาดูเหมือนคริสตอฟคิดจะออกไปทานข้างนอกฉันจึงบอกเขา

              “นี่รวมถึงเจ้าด้วย คริสตอฟพอฉันพูดเสร็จอันนาถึงกับยิ้มดีใจและรีบวิ่งไปฉุดแขน ของคริสตอฟให้ตามมา

              ในช่วงเวลาที่พวกเรากินข้าวกับพร้อมหน้านี่มันช่วงเวลาที่มีความสุขกันมากที่สุดแล้วละมั้ง เพราะเวลานี้ทุกคนได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองได้พบเจอมากมาย ไม่ว่าอันนาถึงอันนาจะดูซนแต่เธอก็คอยช่วยเหลือทุกคนที่เธอรู้จักเท่าที่เธอสามารถทำได้ ส่วน คริสตอฟถึงเขาจะเป็นคนเงียบๆ แต่เขานั้นเป็นคนที่คอยเป็นห่วงคนอื่นๆ เขาพยายามให้คนรอบข้างสบายใจถึงตัวเขาจะรูัสึกไม่ก็ตาม ส่วนฉันฉันก็พยายามทำหน้าที่เป็นราชินีที่ดีของเมืองเมืองนี้เพื่อตอบแทนพวกเขา พอพวกเราทานอาหารเสร็จเหล่าแม่บ้านก็จะมาเก็บกวาดทำความสะอาดตามปกติส่วนอันนาก็จะตามไปช่วยพวกเธอเสมอ บางทีฉันก็ไปช่วยบ้าง แต่วันนี้คริสตอฟอยู่ด้วยคงไม่เป็นอะไรมั้ง

              ฉันเดินไปที่สวนไม่รู้ว่าเพราะอะไรวันนี้ถึงอยากไป พอฉันไปถึงพบแจ็คกำลังเล่นกับโอลาฟอยู่ทั้ง คู่ดูสนิทสนมกันไวดี สักพักฉันก็เดินไปหาพวกเขาแล้วได้ยินแจ็คพูดขึ้นว่า


             “เรื่องของเอลซ่าก่อนที่ข้าจะเจอเจ้าเป็นยังไงคือข้าอยากรู้แจ็คถาม

             “เรื่องของเอลซ่านะมีอยู่ว่า อุ๊ป!!!
    ฉันไม่ยอมให้โอลาฟเล่าหรอก ฉันเลยเอามือปิดปากไว้ไม่ให้พูด
              “อ้าว เอลซ่า มาตอนไหนเนี่ย
    แจ็คถามฉันดัวยสีหน้าตกใจนิดหน่อย

              “ก็คงตั้งแต่ตอนที่ท่านเล่นกับโอลาฟละมั้ง
    ฉันตอบเขาไป

              “แล้วท่านละท่านไม่กลับไปที่พักของท่านเหรอ
    ฉันถามเขา

              “ข้าไม่มีหรอกสถานที่แบบนั้น ทุกวันนี้ข้าเป็นวิญญาณ ข้าไม่จำเป็นต้องกิน หรือนอน
    เขาตอบกลับมาด้วยสายตาที่ดูเศร้าหมอง

               "แต่....ว่าแต่เจ้าเหอะ ไหนว่าจะนอนทำไมมาอยู่ตรงนี้ละเนี่ยเขาถามฉันแบบกวนประสาทและพยายามฝืนยิ้ม

               "ก็กำลังกลับไปอยู่ไปละฉันรีบตัดจบเพื่อปิดการสนทนา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจ เขาเลยรีบคว้าแขนของฉัน

               "จะไปไหน ยังคุยไม่สะ.......แจ็คคว้าแขนฉันและกำลังจะพูดบางอย่าง และจู่ๆเขาก็เงียบไป ตอนที่เขาคว้าแขนของฉัน จู่ๆน้ำตาของฉันก็ไหลออกมา ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรและฉันก็ค่อยๆหันไปหาเขาหน้าของแจ็คนั้นตกใจมากและเขาก็พยายามปลอบฉัน


    Jack Frost :


              หลังจากที่ข้าดึงแขนของเอลซ่า จู่ๆขัาก็รู้สึกเหมือนความทรงจำของนางไหลเข้ามาในตัวข้า ความทรงจำนั่นทำให้ข้ารู้ทุกเรื่องทุกอย่าเกี่ยวกับนาง ข้าแค่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครเห็นมาหลายปี แต่นางนางต้องปิดกั้นตัวเองเพื่อไม่ให้ใครตัองเดือดร้อนเพราะพลังของนางเป็นเวลาหลายปี ความทรงจำที่แสนหดหู่นี้เล่นทำข้าเกือบน้ำตาไหลออกมา แต่ตอนนี้ก็มีความทรงจำที่ดีมาทดแทนความหดหู่นั่น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นมันหลังจากที่นางสามารถควบคุมพลังได้แล้ว เหตุการณ์นี้ผ่านไปไวมากจู่ๆข้าก็รู้สึกได้ว่ามือนางกำลังสั่นอยู่นางค่อยๆหันมาพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มนวลของนาง

             “นี่เป็นอะไรเอลซ่าข้าถามนางด้วยความเป็นห่วงตอนนี้ข้าลนลานมาก นี้ข้าทำอะไรผิด
              
             “
    ข้าขอโทษเรื่องที่ดึงแขนเจ้าไม่เจ็บใช่ไหม
    ข้าขอโทษนาง แต่ตอนนี้นางมองหน้าข้าและร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก

             “ขอโทษ ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เจ้าเจ็บ
    ข้ารีบกล่าวคำขอโทษนาง ตอนนี้ข้าอยากเอามือของข้าเช็ดน้ำตานั่นออก แต่ข้าทำไม่ได้ ข้าไม่ได้สนิทกับนางขนาดนั้น ตอนนี้ข้าเอื้อมมือจะไปหานาง พอมือจะถึงตัวของนางข้าก็ชักมือออกมา ข้าทำแบบนี้หลายครั้ง เพราะเราไม่ได้สนิทอะไรมากมายจะสัมผัสตัวกันแบบนี้ดูจะเกินเลยไปหน่อย (แต่ข้าก็อุ้มนางมาส่งนี่หว่า) สักพักดูเหมือนนางจะรู้ตัวนางก็นำมือมาปาดน้ำตา ตอนนี้ข้ารู้สึกโล่งใจแล้วที่นางทำเองจะได้ไม่ต้องลนลานต่อ และนางก็พูดบางอย่าง

             “ขอโทษนะ ที่จู่ๆฉันก็ร้องไห้ออกมาแบบนี้
    นางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ปกติ

             “นี่เจ้าไม่เจ็บอะไรตรงไหนใช่ไหมเอลซ่า
    ข้าถามนางด้วยความเป็นห่วง

             “ไม่หรอกฉันไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่ตอนนี้ท่านไม่มีที่พักใช่ไหม
    นางตอบข้าและดูเหมือนนางจะพยายามเปลี่ยนเรื่องที่พูด ซึ่งก็ดีแล้วละ
      
             “
    ใช่แล้วครับองค์ราชินี
    ตอนนี้ข้าเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ข้าก็อยากให้นางยิ้มออกมาเลยตอบคำถามไปแบบกวนๆพร้อมคำนับนาง ดูเหมือนข้าจะทำสำเร็จข้าเห็นนางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่นางจะเริ่มพูดต่อ

             “ท่านนี่ช่างทำให้เรายิ้มได้เสมอเลยนะ
    นางพูดพรัอมกับหัวเราะออกมาเชิงชมข้า
      
             “
    ก็นี่มันนิสัยของข้า การทำใหิคนอื่นยิ้มข้าถนัดอยู่แล้ว"ข้าก็คุยกับนางต่อ


             “งั้นท่านจะมาพักที่นี่ไหมนางถามข้า

             “นี่เจ้าอนุญาตให้ข้าพักที่นี่เหรอ
    ข้าถามนางต่อ
     
             “
    ถ้าไม่ฉันจะถามท่านไหม
    นั่นโดนเล่นซะแล้วแจ็ค

             “โอเคๆ งั้นข้าขอพักที่ห้องของเจ้าได้ไหม
    ข้าถามนางแบบกวนๆ

             “ได้สิ แต่ข้างนอกหรือตรงริมหน้าต่างด้านนอกนะ
    นางตอบมา และนางก็เดินออกไปจากสวนและเดินเข้าปราสาทไป

             “นี่จะคุยเรื่องของเอลซ่าอยู่ไหม
    โอลาฟดึงเสื้อคลุมของข้าพร้อมกับถาม

             “ไม่แล้วละ ข้าจะไปแล้ว
    ข้าตอบมันไป

             “ไปหาเอลซ่าอะดิ
    ดูดู้ดูดูมันพูด

             “ทำไมเจ้าคิดงั้น
    ข้าถามมันต่อ

             “ก็เวลาเจ้าคุยกับเอลซ่าตะกี้ ทำไมนายต้องประหม่าด้วยเล่า นายชอบเอลซ่าใช่ไหมละ
    นั่นดูมันพูด ตอนนี้ข้าไม่ได้ชอบนางสักหน่อย ถึงข้าจะชอบนางคงไม่รับรักข้าแน่ๆ นางเป็นถึงราชินี ส่วนข้าเป็นเพียงภูติแห่งฤดูหนาว นางเป็นที่รักของทุกคน ส่วนข้าเป็นแค่ภูติที่ไม่มีใครคิดหันมามอง

             “ข้าไม่ตอบ    ไปละ
    ข้าบอกโอลาฟก่อนจะบินออกไปสำรวจเมืองๆนี้ตอนกลางคืนต่อ


     

    Elsa SnowQueen :

     

    หลังจากที่ ฉันเดินออกมาจากสวนฉันก็ได้เดินไปที่ห้องอาบน้ำของฉันทันที ตอนนี้ฉันกำลังแช่ตัวอยู่ในอ่างส่วนตัวของฉัน อยู่ๆภาพในเหตุการณ์ตอนที่แจ็คคว้ามือฉันก็ขึ้นมาในหัวของฉัน ทำไมยู่ดีๆน้ำตาฉันถึงไหล เพราะตอนที่แจ็คคว้ามือของฉันจู่ๆฉันก็รับรูับางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขา ความทรงจำของเขาตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเพียงคนเดียวในป่า การที่คนมองไม่เห็นเขา หรือการที่เขาจะแตะคนอื่นแล้วทะลุไป หรือเขาขวางทางแล้วคนๆนั้นเดินทะลุร่างเขาราวกับเขาไม่มีตัวตน ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครมองเห็นเขา เขาแกล้งคนบ้าง ทำให้คนเหล่านั้นมีหัวเราะและสนุกสนานบ้าง เพื่อให้พวกเขามีความสุข แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเห็นเขา เขาก็ได้แต่ทุกข์เพียงคนเดียว มันช่างต่างจากฉัน ถึงแม้ช่วงแรกจะเลวร้ายเหมือนกัน  แต่ตอนนี้ทุกคนยอมรับในตัวฉันแล้ว ฉันเลยไม่เกังวลเรื่องเกี่ยวกับอดีต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมาก เพราะฉันรู้สึกตัวอีกทีน้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว

              พอฉันได้อาบน้ำเสร็จ ฉันก็เช็ดตัวใส่ชุดนอนที่คนรับใช้เตรียมไว้ให้ ชุดนั้นเป็นชุดยาวสีน้ำเงินชุดเดียวคลุมยาวตั้งแต่ไหล่จนเลยหัวเข่าเล็กน้อย(ชุดเดรสสีน้ำเงินไร้การตกแต่ง)
    ฉันเดินมาถึงห้องฉันก็ได้มานั่งที่โต๊ะของฉัน ฉันดูเอกสารต่างๆที่ม้วนอยู่บนโต๊ะและฉันก็เลือกมาฉบับนึจากนั้นหยิบพู่กันขนนกออกมา และเริ่มเขียนลงในม้วนกระดาษแผ่นนั้น

              ช่วงที่ฉันทำงานอยู่บนโต๊ะ เวลาช่างผ่านไปไวเสียเหลือเกิน ฉันมองไปดูพระจันทร์ก็พอเดาได้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้วน่าจะซักตีสองได้ เพราะฉันเริ่มเขียนตอนเวลาซักสองทุ่ม ถึงฉันจะทำเอกสารต่างๆเสร็จ ไม่ว่าจะเป็น จดหมายขออนุญาตเข้าเมือง จดหมายขออนุญาตติดต่อค้าขาย เอกสารว่าด้วยเรื่องกฎหมาย งบดุลงบประมาณที่ฉันต้องตรวจเช็คเพื่อจะไดัมั่นใจว่าไม่มีใครทุจริต และยังมีอีกรัอยแปดพันอย่างที่ฉันจะบอกเกี่ยวกับจดหมายหรือเอกสารที่วางอยูบนโต๊ะ สุดท้ายฉันก็เปิดจดหมายที่ประชาชนในเมืองแอเรนเดลล์แห่งนี้ส่งถึงฉันเพื่อต้องการผ่อนคลายสมอง และจะได้รู้ว่าประชาชนภายในเมืองพอใจในการปกครองแบบนี้หรือไม่

              ฉบับแรกของคุณโอเค่นร้ายขายของและสปากลางป่า ร้านนี้ดูเหมือนอันนาจะรู้จักดีทีเดียว เพราะเธอเล่าเรื่องราวต่างเกี่ยวกับร้านนี้ให้ฉันหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าร้านนี้จะขายของตามฤดูการณ์ ขายสิ่งที่ไม่คิดว่าจะมีขายอยู่ในร้านกลางป่า และอีกเยอะแยะสำหรับร้านนี้

              ฉันก็อ่านฉบับอื่นๆไปเรื่อยๆ แทบจะทุกฉบับที่เขียนมา พอใจกับการปกครองของฉันและเสนอแนวคิดต่างๆซึ่งดีบ้างไม่ดีบ้างจนถึงจดหมายฉบับนึง ที่ฉันอ่านถึงกับยิ้มออกมาดู เหมือนจะเป็นลายมือเด็กน้อยที่พึ่งเขียนเป็นข้อความเขียนว่าเมื่อไหร่องค์ราชินีจะทรงมีพระราชามั่งคะ ดูเหมือนเด็กคนนี้จะอยากให้ฉันมีคู่ ซึ่งตอนนี้ฉันยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลยสักคน(มีแต่ไม่ใช่คนใช่ไหมละ : ไรต์เตอร์)
    ฉันก็เขียนจดหมายตอบไปแต่พอฉันพลิกจดหมายเพื่อดูชื่อและที่อยู่ แต่ที่พบคือไม่มีชื่อคนส่งและที่อยู่ในจดหมายฉบับนี้ ตอนนี้ฉันเริ่มตาพร่านิดๆ แสดงว่าตอนนี้ฉันน่าจะล้าเต็มที ฉันหันหลังกลับไปที่เตียงของฉัน และทิ้งตัวลงนอนก่อนจะหันไปทางหน้าต่างเห็นเขา แจ็ค ฟรอสต์ ภูติหิมะ ซึ่งฉันไม่รูิเขาเข้ามาตอนไหน ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่ในท่านั่ง โดยที่ไม้เท้าประจำตัวของเขายังถูกเขากอดเอาไว้แน่นเขานั่งตรงหน้าต่างหลังพิงกระจกตอนนี้แสงจันทร์ส่องมาที่ตัวเขาทำให้ฉันเห็นรูปร่างเขาชัดเจน เส้นผมสีขาวออกสีเงินดูยุ่งๆ กับผิวสีขาวซีด เขาสวมเสื้อสีขาวแขนยาวโดยมีผ้าคลุมสีน้ำตาลปิดตรงไหล่ทั้งสองข้าง สวมกางเกงขายาวห้าส่วนสีเดียวกับเสื้อคลุมของเขาและจุดเด่นคือไม่ใส่รองเท้า ตอนนี้เขานอนอยู่หน้าตาของเขาที่ดูยิ้มตลอดเวลามันช่างดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกจากนั้นฉันก็ห่มผ้าห่มและเริ่มนอนเพราะความเหนื่อย



    Jack Frost :

    ข้าลืมตาขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่านางหลับไปแล้วจริงๆ ความจริงข้าเข้ามาตั้งแต่ตอนที่นางเริ่มอ่านจดจดหมายขอเข้าเมืองของอาณาจักรต่างๆดูเหมือนนางจะติดใจกับอาณาจักรโคโรน่า (Corona Kingdom) เพราะพอนางเจอจดหมายของอาณาจักรนี้ นางจะรีบอ่านโดยทันที โดยจะหยุดอ่านจดหมายฉบับอื่นถึงแม้ว่านางกำลังเขียนอยู่ก็ตาม ดูเหมือนสองอาณาจักรนี้ราชินีองค์ก่อนจะเป็นพี่น้องกันเพราะข้อความในจดหมายฉบับนั้นเริ่มเขียนว่า
     

    "ถึง ราชินีแห่งเอเลนเดลล์ ผู้เป็นพระราชธิดาองค์แรกของพระขนิษฐาของเรา" และดูเหมือนจะส่งมาเป็นจดหมายถามเรื่องส่วนตัวมากกว่า ซึ่งข้าจะไม่อ่าน บางทีก็มีจดหมายของเจ้าหญิงเมืองนั้นเขียนมาบ้างสองสามฉบับ ตอนนั้นข้าก็ไม่อยากให้นางร้อนเลยเสกให้ลมพัดผ่านร่างของนางเบาๆไม่ให้นางรู้สึกตัวแต่ก็พอให้รับรู้ถึงความเย็น
     

    พอนางอ่านจดหมายเสร็จนางก็บิดขี้เกียดเล็กน้อยถึงแม้เสื้อตัวนั้จะดูหลวมๆเพื่อให้สบายแก่การนอน แต่ตอนนางยกแขนขึ้นและเอนหลัง นั้นทำให้นางได้เผยรูปร่างของนางอย่างชัดเจน ตัวเล็ก เอวบาง  มีหน้าอก และไม่ใส่ชั้นใน (ไอ่หื่น) ทำเอาข้าเกือบกำเดาพุ่งถ้าข้าไม่เห็นนางข้าก็ไม่ได้คิดว่านางจะซ่อนรูปขนาดนี้ ถึงแม้ว่าตอนที่นางใส่ชุดที่สร้างจากเวทย์มนต์ของนางจะเผยรูปร่างของนางข้าก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะชนชั้นสูงจะแต่งตัวให้เอวเล็กตัวบางยังไงก็ทำได้ แต่นาง เอลซ่า นางมีรูปร่างแบบนี้โดยธรรมชาติ ตอนนี้เลิกจินตนาการเรื่องรูปร่างของนางก่อน ข้าทำยังไงดี แกล้งนอนตรงหน้าต่างละกัน พอข้าแกล้งนอนเสร็จดูเหมือนนางจะกลับไปที่เตียงนอนของนาง และข้าก็แง้มเปลือกตาของข้าเพื่อดูว่านางหลับไปหรือยัง พอข้ามั่นใจว่านางนอนแล้ว
     

    ข้าก็เดินไปที่โต๊ะของนาง ดูเหมือนว่านางจะลืมดับไฟ แต่ข้าก็เจอจดหมายฉบับนึงซึ่งไม่ได้จ่าหน้าซองว่ามาจากใครหรือที่ไหนข้าก็อ่านข้อความในจดหมายข้าถึงกับหัวเราะออกมาในลำคอก่อนพึมพำเบาๆว่า
     

             “เด็กหนอเด็กและข้าก็อ่านไปเรื่อยๆและพลิกกลับไปด้านหลัง พบลายมือเอลซ่าทำไมข้าถึงรูัว่านั่นเป็นลายมือของนาง ก็ตอนนางเขียนจดหมาย ข้าลอยอยู่ด้านบนหัวนางเห็นนางเขียนจดหมายหลายฉบับแล้วทำไมข้าจะจำไม่ได้ นางเขียนจดหมายตอบกลับข้อความว่า

              "ตอนนี้เรายังไม่พบคนที่ถูกใจ แต่คนที่เราสนใจนั้นก็มีอยู่คนนึงซึ่งหนูจะเห็นเขาก็ต่อเมื่อหนูศรัทธาในตัวเขา เขาชื่อว่า..." ดูเหมือนว่านางจะดูซองจดหมายไม่พบชื่อคนเขียนและที่อยู่ผู้ส่งนางเลยหยุดเขียนไป  ข้าอ่านไปยิ้มไป ไม่รู้ว่านางหมายถึงใครแต่ข้าก็ภาวนาให้เป็นข้า เดี๋ยวนะ? ทำไมข้าตัองคิดแบบนี้ด้วยละ เราเจอกันแค่วันเดียวเองนะจะมีใจให้แก่กันแล้วเหรอ ข้ารีบส่ายหัวเพื่อนำความคิดอคติออกจากความคิดข้า และข้าก็ดับไฟโต๊ะของนาง

     

              ก่อนที่ข้าจะไปนอนตรงริมหน้าต่างข้าก็ไปหานางดูหน้านางให้ชัดๆ และสัมผัสการหายใจของนาง ข้าอยู่ตรงที่หน้านางไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไรสุดท้ายข้าก็เสยผมที่ปิดหน้าของนางออกใบหน้าของนางตอนนี้ดูอ่อนเยาวน์ลงมาก ใบหน้าที่ไรัการตกแต่งนั้นช่างดูเหมาะกับเวลานอนของนาง ราวกับนางยังอยู่ในวัยรุ่นอย่างใดอย่างนั้น ดูเหมือนตอนนี้ข้าจะเกินเลยไปซักหนีอยข้าก็กลับไปนอนในที่ๆนางอนุญาตให้ข้านอนพัก ก่อนที่ข้าจะนอน ข้ามองร่างของนางยามนิทรา มันช่างดูน่ารักน่าปกป้อง ข้าดูนางพร้อมกับยิ้ม และพูดคำนึงออกมามันเป็นคำที่กลั่นออกมาจากใจ มันเป็นคำที่แฝงไปด้วยความห่วงใย มันเป็นคำบอกลาในแต่ละวัน และมันเป็นเพียงคำไม่กี่พยางค์ ข้าพูดคำนี้ออกไปว่า
    .
    .
    .

    “ราตรีสวัสดิ์นะครับองค์ราชินีของผม
    .

    .

    .

    (To Be Continues)

    …………………………………………………………………………………………..

    จบไปอีกตอนแล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้ ขอสารภาพเลยครับว่าตอนนี้อยู่ในช่วงสอบดันมาลงซะงั้น 555

               ตอนนี้เป็นเรื่องราวของทั้งคู่แทบจะทั้งตอนเลยทีเดียว เนื้อเรื่องในตอนนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่นอกจากเรื่องราวของ แจ็ค และ เอลซ่า เองนะครับ ผมต้องการให้ทั้งสองตัวละครนี้รู้จักกันมากกว่านี้ก่อนค่อยเริ่มนำบทหวานต่างๆ เข้ามา คือผมรู้สึกว่า เอลซ่า จะหลุดบทไปซักหน่อย ดันเป็นสาวน้อยซะงั้น แต่ช่างมันเหอะตอนต่อไปผมว่าจะลงอย่างช้าก็ว่าที่ 10 มีนาคม 2557 นะครับ ถ้าเลยไม่เกิน 2-3 วันแน่นอนครับ

               ว่าด้วยเรื่องคนอ่านนะครับ ขอบคุณนะครับที่อุตส่าติดตามร่วมร้อยกว่าชีวิต ขอขอบคุณทุกคอมเมนต์นะครับ

    ผมว่าลงตอนต่อไปจะลงตอนพิเศษเพิ่มอีก 1 ตอน เพื่อขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ อยากทราบว่ามีใครต้องการเรื่องไหนบ้าง

    1.เรื่องราวของแจ็ค เอลซ่า ยุคปัจจุบัน

    2.เรื่องของอลิซในยุคปัจจุบัน

    3.เรื่องของ Frost family และ ผู้พิทักษ์คนอื่นๆ

    ส่งผลมาทางอีเมลล์นี้นะครับ

    bear.p.blah.blah@gmail.com

     อันไหนมากสุดผมก็จะแต่งอันนั้น และอยากได้แนวไหนบอกมาเลยนะครับ ถ้าไม่ส่งมาไม่แต่งเน้อ

    สำหรับตอนนี้ สวัสดีครับ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×