ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I want to see you again

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : Promise

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 703
      6
      17 เม.ย. 57



    Elsa , remember when you feel alone
    I always beside you forever

                                                                                     Jack Frost

    Elsa Snow Queen :
     

    ช่วงเวลาตีสามตีสี่ในแอเรนเดลล์ ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วนึกย้อนถึงเหตุการณ์ว่าตัวเองขึ้นมาบนเตียงได้ยังไง ฉันก็นั่งคิดเท่าไหร่ก็คิดๆไม่ออก โอยยิ่งคิดยิ่งปวดหัวนอนต่อดีกว่า
     

    พอฉันทิ้งตัวลงบนเตียงเพื่อนอนต่อ ฉันหลับตาลงและนอนตะแคง ฉันได้วาดมือไปข้างหน้าเพื่อคว้าบางอย่าง พอฉันคว้าสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นหมอนได้ ฉันก็ดึงมันเข้าหาตัว แต่มันไม่ขยับฉันก็เลยขยับตัวไปเข้าไปใกล้ๆแทน ฉันเอาแขนกอดมันไว้พลางคิดไปว่า บนเตียงฉันมีหมอนข้างด้วยหรือเหรอแต่คิดมากก็ปวดหัวนอนต่อละกัน ซักพักฉันก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันหนักๆทับตัวฉันอยู่ฉันก็ลองขยับแขนดูว่าอะไรทับตัวฉันอยู่ ฉันก็เอาแขนข้างที่กอดหมอนข้างค่อยๆลูบมันจากจุดที่ทับฉันจนถึงปลาย ชัดเลยมันเป็นแขนคนที่วางพาดผ่านตัวฉันอยู่ แต่ฉันไม่ตกใจซักเท่าไหร่ เพราะบางทีอันนาก็ชอบแกล้งฉันแบบนี้ ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรและขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิมเพราะฉันคิดว่าเป็นอันนา
     

    “ปึก(เสียงหัวชนของแข็งเบาๆ)” หน้าผากของฉันไปคนคางของคนๆนั้นเข้า ฉันก็ไม่คิดอะไรและนอนต่อ
     

    ระหว่างในช่วงที่ฉันกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราต่อ จู่ๆแขนข้างที่พาดผ่านตัวฉันอยู่ก็เริ่มกอดรัดฉันแน่นขึ้น ฉันก็ใช้มือทุบหน้าอกคนข้างหน้าฉันเบา แต่ความรู้สึกที่ทุบนั้นมันทั้งแน่นและแข็ง แสดงว่าคนที่กอดฉันอยู่ตอนนี้ไม่ใช่อันนาแน่นอนและไม่ใช่คริสตอฟด้วย เพราะคนนี้ตัวเล็กกว่ามาก ฉันก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพที่ได้เห็นคือชายหนุ่มผมสีเงินหน้าตาหล่อเหลาพอประมาณ ใช่ชายคนนั้นคือ แจ็ค ฟรอสต์ ตอนนี้เรานอนกอดกันอยู่ ฉันก็ตกใจอย่างมากเมื่อคนที่ฉันกอดและกอดฉันไม่ใช่อันนา ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นแรงราวกับมันจะทะลุออกมาจากทรวงอกของฉัน เนื่องจากที่จู่ๆฉันก็ไปกอดผู้ชาย ถึงจะด้วยความไม่รู้ตัวก็เถอะ ฉันก็ไม่รู้ทำไงก็เลยทุบตีเขา แต่เนื่องจากฉันตัวอยู่ใกล้เขามากเลยทำให้ฉันวาดแขนได้ไม่กว้างมากเลยทำให้ฉันทุบเขาได้ไม่แรงพอ ฉันก็หยุดทุบเขาเปลี่ยนมาเป็นขอร้องเขาแทน
     

    “แจ็ค ปล่อยฉันนะ" ฉันพูดออกด้วยความเขินอาย
     

    ... ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่การกระทำของเขากลับตรงข้ามกับที่ฉันสั่งให้เขาทำ
     

    “แจ็คปล่อยสิ ฉันทุบไปที่อกของเขาพร้อมกับบอกให้เขาปล่อยฉันออกจากแขนของเขา

    ตอนนี้ฉันถูกแจ็คกอดรัดจนตัวเราชิดติดกันทำให้ขยับไปไหนก็ไม่ได้ ฉันก็พยายามฝืนสุดฤทธิ์เพื่อที่จะได้หลุดออกจากอ้อมกอดของเขา แต่มันไม่เป็นผลเพราะยิ่งฉันดิ้นมากเท่าไหร่แจ็คก็ยิ่งกอดรัดฉันแน่นขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ฉันทั้งหน้าแดงพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง ฉันก็ปล่อยให้เขากอดฉันไป ตอนที่แจ็คกอดฉัน ฉันได้รู้สึกถึงไอเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวเขาในระหว่างที่เขากอดฉัน ถึงไอเย็นที่แจ็คแผ่ออกมามันจะทำให้รู้สึกหนาว แต่อ้อมกอดของเขามันกลับอบอุ่นทำให้ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ฉันก็ปล่อยให้เขากอดฉันไปและสุดท้ายฉันก็เข้าสู่หัวงนิทราอีกครั้ง


    Anna Princess of  Arendelle :
     

    ฉันตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าอันสดใส พอฉันตื่นขึ้นมาก็เห็นคริสตอฟกำลังหาสิ่งๆหนึ่งอยู่อย่างร้อนรน
     

    “นายหาอะไรเหรอคริสตอฟ ฉันถามคริสตอฟด้วยน้ำเสียงที่พึ่งตื่นพร้อมกับบิดขี้เกียด
     

    “อ้าวตื่นแล้วเหรออันนา คริสตอฟรีบหันกลับมาทักฉันพรัอมกับซ่อนของบางอย่างอยู่
     

    “พึ่งตื่นนะ แต่ว่านายเถอะนายตื่นมานานหรือยัง ฉันถามไปพร้อมกับลุกออกมาจากเตียง
     

    “ก็ซักครู่หนึ่งแล้วละ คริสตอฟยิ้มมาให้ฉัน แต่เอามือไขว้ด้านหลังซึ่งไม่เนียนเอาซะเลย
     

    “นี่คริสตอฟ นายซ่อนอะไรไว้นะขอดูได้ไหม ฉันถามกลับไป
     

    “ผมไม่ได้ซ้อนแหวนที่จะให้เธอในวันแต่งของเราหรอกนะ เขาตอบกลับมา ทำเอาฉันได้แต่ยิ้มความซื่อ(บื้อ)ในบางเรื่องของว่าที่สามีของฉัน
     

    “คะ ฉันเชื่อว่าคุณไม่ได้ซ่อนอะไรไว้ ฉันตอบเพื่อให้เขาสบายใจก่อนที่จะถามเขาต่อ

    “แล้วทำไมวันนี้นายตื่นเช้าจังละ
     

    “วันนี้ผมว่าจะไปดูธุรกิจส่งออกน้ำแข็งของอาณาจักรหน่อยนะ และก็จะไปฝึกงานให้เด็กใหม่ด้วย เขาตอบกลับมา
     

    “นายจะอยู่ทานข้าวเช้าด้วยกันไหม?” ฉันถามเขา
     

    “คือวันนี้ผมรีบ คงไม่ได้อยู่ทานดัวย คริสตอฟพูดออกมาแล้วลูบผมฉันที่ยุ่งอยู่แล้วกลับยุ่งยิ่งกว่าเดิมอีก
     

    “งั้นทำงานปลอดภัยนะคะ ฉันพูดเสร็จก็เข้าไปกอด เขาตกใจเล็กน้อยตอนที่ฉันกอดเขาแต่เขาก็กอดตอบ
     

    “นี่ผมไปทำงานเหมือนทุกๆวันนะ ผมไม่เป็นอะไรหรอก คริสตอฟตอบกลับมา
     

    “ก็ฉันเป็นห่วงนายนิ ฉันพูดกลับไป
     

    “เอาน่า ผมรอดจากพิธีคัดเลือกมาแล้วนะต่อให้เกิดอุบัติเหตุยังไงผมก็ไม่เป็นไรหรอก คริสตอฟตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มมาให้ ก่อนที่จะพูดต่อ
     

    “ผมไปก่อนนะ คริสตอฟคลายกอดก่อนที่จะเดินออกจากประตูพร้อมโบกมือลาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มพร้อมกับโบกมือลาเขาก่อนที่จะเริ่มหวีผมตัวเอง
     

    หลังจากที่ฉันแต่งตัวเสร็จก็รีบวิ่งไปที่ห้องอาหารเพราะกลัวว่าพี่เอลซ่าจะรอนาน แต่พอฉันไปถึงกลับไม่เจอพี่เอลซ่าฉันก็นั่งรอจนเวลาหกโมงสี่สิบห้านาที ฉันก็ถามแม่บ้านคนหนึ่งที่อยูีแถวนั้น
     

    “เซนน่า ฉันเรียกชื่อคนรับใช้คนน้ัน
     

    “มีอะไรให้รับใชัเพคะองค์หญิง เซนน่าถามกลับมาอย่างสุภาพ
     

    “นี่เจัาเห็นท่านพี่เอลซ่าบ้างไหม ฉันถามกลับไป
     

    “องค์ราชินียังมิได้ออกจากห้องบรรทมเลยเพคะ เซนน่าตอบกลับมา
     

    “ขอบคุณนะ เชิญทำหน้าที่ของเจ้าต่อเถอะ พอฉันได้ยินก็สั่งให้เซนน่าไปทำงานต่อ เซนน่าก็ถอนสายบัวให้ฉันก่อนจะเดินออกไป


    ฉันก็นั่งคิดอยู่ที่โต๊ะครู่หนึ่งว่าจะไปหรือไม่ไปดี สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจเดินไปตามพี่เอลซ่า ระหว่างที่ฉันเดินไปยังห้องของท่านพี่ ฉันก็ได้ยินเสียงเหล่าคนรับใช้รวมตัวคุยกัน ฉันทำไงก็แอบฟังนะสิ
     

    “เมื่อกี้เธอว่าไงนะ คนรับใช้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา
     

    “นี่พวกเธอฟังดีๆนะ ฉันว่าองค์ราชินีกำลังคบใครบางคนอยู่ คนรับใช้ท่ีถูกถามได้ทวนคำพูดอีกครั้ง
     

    “แน่เธอมั่นใจได้ไงว่าองค์ราชินีมีความรักและกำลังคบกับใครคนหนึ่งอยู่ สาวใช้คนที่สามถามกลับมา
     

    “ใช่ๆอย่างงานเทศการต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง มีทั้งองค์ชายและพระราชาหลายเมืองมาจีบพระองค์แต่องค์ราชินีของเราไม่แม้แต่จะชายตามองเลยนะ สาวใช้คนที่สี่พูดเสริม
     

    “แหมก็องค์ราชินีของพวกเรา ทั้งสวย ทั้งฉลาด มากความสามารถ แถมยังสามารถใช้เวทย์มนต์แห่งน้ำแข็งและหิมะได้อีกด้วย เพียบพร้อมซะขนาดนี้ก็ต้องเลือกหน่อยละ
     

    “แต่พระองค์อายุก็21พรรษาแล้วนะ แถมยังให้พระขณิษฐาของพระองค์จะอภิเสกก่อนด้วย ฉันเกรงว่าองค์ราชินีจะไร้คู่ครองนี่สิ คนรับใช้อีกคนหนึ่งพูดมา
     

    “หยุดเลยๆ จำที่ฉันบอกได้ไหมว่า องค์ราชินี:กำลัง:คบ:กับ:ใคร:คน:หนึ่ง:อยู่ คนรับใช้คนที่ตอบคำถามเมื่อครู่รีบเตือนสติคนรับใช้คนอื่นๆ
     

    “แล้วทำไมเธอแน่ใจอย่างนั้นละ คนรับใช้คนที่สามพูด
     

    “นี่ๆก็ฉันเป็นคนทำความสะอาดบริเวณทางเดินหน้าห้องขององค์ราชินีช่วงเวลากลางคืนนะ สองวันมานี้นะฉันได้ยินองค์ราชินีคุยกับใครก็ไม่รู้สองต่อสองในห้องของพระองค์อย่างสนิทสนมเชียวนะ คนรับใช้คนนั้นพูด พอพูดเสร็จคนรับใช้คนอื่นๆก็กรี๊ดดีใจอย่างเบาๆ
     

    “นี่ๆเธอพอรู้ไหมว่าชายคนที่สามารถละลายหัวใจน้ำแข็งขององค์ราชินีได้ชื่ออะไร คนรับใช้คนแรกถามขึ้น
     

    “ฉันไม่แน่ใจนะดูเหมือนว่าจะชื่อ แจ็ค อะไรนี่เนี่ยละมั้ง คนรับใช้คนเดิมตอบ
     

    “แล้วรู้ไหมว่าเขาเป็นอะไร เจ้าชาย คนขายน้ำแข็ง หรือหัวขโมยละ คนรับใช้คนที่สี่ถามด้วยความตื่นเต้น
     

    “ฉันว่า ข้อเจ้าชายตัดทิ้งไปเลย เพราะถ้าเป็นเจ้าชายจริงเราควรรู้ชื่อไปแล้ว คนรับใช้คนที่สามตอบ
     

    “ส่วนหัวขโมยนั้นเป็นคู่ครองของเจ้าหญิงราพันเซลแห่งอาณาจักรโคโรน่าไม่ใช่เหรอ คนรับใช้อีกคนพูดเสริม
     

    “ส่วนคนขายน้ำแข็งนี้คู่รักของเจ้าหญิงอันนาว่าที่เจ้าชายแห่งอาณาจักรแอเรนเดลล์เลยนะ คนรับใช้คนเดิมพูดอีก
     

    “จะว่าไปตระกูลนี้ไม่ได้แต่งกับเจ้าชายซักคนเลยเนอะ คนรับใช้คนแรกพูดออกมาอย่างขำๆ
     

    “นั่นสิอย่างที่โซเฟียพูด ตระกูลนี้ไม่ได้มีคู่ครองเป็นเจ้าชายเลยซักคน แต่ถ้าคนที่องค์ราชินีเอลซ่าคบอยู่ไม่ได้เป็นมนุษย์ละ คนรับใช้คนที่สามพูดออกมา ทั้งกลุ่มเงียบไปซักครู่ก่อนที่โซเฟียจะพูดต่อ
     

    “นี่ถ้าคนที่ราชินีคบอยู่ไม่ใช่มนุษย์ แล้วใครกันละที่คบกับองค์ราชินีอยู่ โซเฟียถาม
     

    “ก็แจ็ค ฟรอสต์ ภูติหิมะไงดูเหมาะสมกับราชินีดีออก คนรับใช้ที่ถูกถามตอบกลับมา ทำไมคนรับใช้คนนี้คิดแบบเดียวกับฉันเลยละ
     

    “นี่แจ็ค ฟรอสต์มีจริงซะที่ไหน เพ้อไปแล้วนะ คนรับใช้อีกคนพูดต่อ
     

    “ที่อาณาจักรเรามีทั้งพวกโทรล์แถมองค์ราชินียังสามารถใช้เวทย์มนต์แห่งน้ำแข็งและหิมะได้เลย ทำไมภูติหิมะจะไม่มีบ้างละ คนรับใช้คนเดิมพูดออกมาก็มีเหตุผลดี จริงๆฉันก็อยากอยู่ฟังต่อนะ แต่ฉันต้องรีบไปตามพี่เอลซ่าเพราะตอนนี้สายมากแล้ว
     

    ฉันเดินไปคิดไปเกี่ยวกับเรื่องที่คนรับใช้กลุ่มนั้นพูด ถ้าคนรับใช้คนนั้นพูดจริงแสดงว่าคนที่พี่หญิงคบอยู่ยังอยู่ในห้องนอนของท่านพี่ ฉันก็เดินไปยิ้มไปทำไมนะเหรอก็ฉันดีใจนะสิในที่สุดพี่หญิงก็เจอคนที่ถูกใจซะที ยิ่งฉันเดินเข้าใกล้ประตูห้องท่านพี่ฉันยิ่งลุ้นว่าคนที่ท่านพี่คบอยู่จะเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร นิสัยดีไหม ฉันคิดอย่างนี้วนไปวนมาจนถึงประตูห้องของพี่เอลซ่า ฉันค่อยๆเอามือไปขยับประตูเพื่อเปิดมันออกโดยหวังว่าพี่เอลซ่ากำลังนั่งทำผมโดยที่คนที่ท่านพี่คบอยู่ยืนด้านหลัง แต่ภาพที่ฉันเห็นไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ในห้องของท่านพี่มืดมากเพราะรูดม่านเอาไวัอยู่ ฉันก็ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องของพี่เอลซ่าอย่างช้าๆโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างเบามือด้วย ระหว่างที่ฉันเดินฉันก็ได้แต่ภาวนาว่าท่านพี่คงไม่ทำแบบเดียวกับฉันเมื่อวานแน่ๆ ฉันก็ค่อยๆเดินไปที่หน้าต่างเพื่อที่จะเปิดม่านเท้าฉันไปสะดุดโดนไม้เท้าของคนๆนั้นเข้ มันเกิดเสียงดังพอประมาณแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ได้ยิน ฉันก็เปิดผ้าม่านออกมาแสงแดดสอดส่องไปทั่วห้อง ภาพที่ฉันเห็นคือ ท่านพี่เอลซ่านอนอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่งอยู่ในสภาพที่เสื้อผ้ายังอยู่ครบ(วู้วโล่งอก) ชายคนนั้นมีผมสีขาวออกเงินๆ หน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ สีผิวของเขานั้นคลายกับพี่เอลซ่าแต่เข้มกว่าเล็กน้อย เขาเป็นผู้ชายที่ตัวสูงพอประมาณ ตัวไม่ใหญ่มาก เขาสวมเสื้อแขนยาวสีขาวส่วนท่อนล่างฉันไม่เห็นเพราะทั้งคู่ห่มผ้าห่มอยู่ แต่ดูเหมือนว่าแสงแดดเริ่มแยงตาของทั้งคู่ พี่เอลซ่าตื่นขึ้นมาก่อนซักพักชายคนนั้นก็ตื่นขึ้นมา


    Jack Frost :

    ข้าตื่นขึ้นมาสิ่งแรกทึ่รับรู้ถึงคือไอเย็นที่แผ่ออกมาจากบริเวณที่ข้ากอดอยู่ และตอนนี้ตัวข้ารู้สึกถึงแขนของใครบางคนทาบผ่านตัวข้าอยู่ ข้าก็ค่อยๆก้มหัวมองลงไปก็เห็นเอลซ่าที่ตอนนี้ดูเหมือนนางจะตื่นขึ้นมาได้สักครู่หนึ่งแล้ว ตอนนี้ข้ารู้สึกสับสนไปหมดว่านางมาอยู่ตรงนึ้ได้ไง ข้ากอดนางตั้งแต่ตอนไหน นางจะรู้สึกอย่างไร นางจะเกลียดหรือชอบไหม ดูเหมือนว่านางจะคูว่าข้าตื่นแล้ว เอลซ่าเลยก้มหน้าแล้วพูดออกมาว่า
     

    นี่แจ็คท่านปล่อยฉันได้รึยัง นางพูดออกมาด้วยความเขินอาย  ข้าก็รีบปล่อยนางออกทันทีตอนที่ข้าปล่อยนางขัารับรู้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงแสดงว่าข้ากอดนางเป็นเวลานานพอสมควร
     

    ของคุณนะ เอลซ่าก้มหน้าและเปลี่ยนจากนอนเป็นนั่งแล้วพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่มตัวเองให้สูงถึงไหล่ของนาง
     

    เอ่อ...ข้าขอโท ข้าพูดออกไปด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกอายด้วย
     

    ไม่เป็นไรหรอก นางพูดออกมาเบามากจนแทบจะไม่ได้ยิน
     

    แล้วข้ากอดเจ้านานไหม นี่ข้าพูดอะไรออกไปถึงอยากรู้ก็ไม่น่าถามนะเห้ย
     

    ตั้งแต่ตีสี่ นางเงยหน้าขึ้นมาแล้วเสยผมแล้วหันมามองข้า
     

    ทำเจ้าไม่ขัดขืนละ ข้าถาม
     

    พอข้าถามเอลซ่าแต่ก็ไม่พูดอะไร นางก็ปลดกระดุมเม็ดบนสุดก่อนแล้วก็ไถลเสื้อข้างซ้ายไปกองที่ต้นแขนของนางเผยให้เห็นไหล่ขาวนวลน่าสัมผัส ซักพักนางก็ชี้ไปที่จุดๆหนึ่งบริเณไหล่ตรงบริเวณนั้นเป็นรอยช้ำพาดยาวเล็กๆ พอข้าเห็นรอยช้ำนั่นข้าก็ตกใจเล็กน้อย ซักพักเอลซ่าก็พูดขึ้นมา
     

    ก็พอฉันขัดขืนท่านก็กอดฉันแน่นขึ้น ยิ่งฉันขัดขืนมากเท่าไหร่ท่านก็ยิ่งกอดรัดฉันแน่นมากขึ้นเท่านั้น เอลซ่าพูดขึ้นมาพร้อมกับดึงแขนเสื้อขึ้นที่เดิมพร้อมกับจดกระดุมเม็ดบนสุด
     

    แล้วท่านจะให้ฉันทำยังไงถ้าไม่ปล่อยให้ท่านกอดฉันไปเรื่อยๆ เอลซ่าพูดต่อแล้วจ้องมาที่ข้า
     

    ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ตัวจริงๆนะ ว่าข้าทำแบบนั้นนะ ข้าพูดตอบกลับไป
     

    ฉันไม่ว่าอะไรหรอกเพราะว่า... เอลซ่าพูดออกมาแล้วนิ่งไปซักครู่หนึ่ง
     

    เพราะว่า...เพราะว่าอะไรละ ข้าคะยั้นคะยอถาม
     

    เพราะว่า....กอดของท่านอุ่นดี"ประโยคหลังนางพูดเบาจนไม่ค่อยได้ยิน ข้าเลยขยับตัวเข้าไปใกล้นางเพื่อฟังให้ชัดๆ
     

    เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะข้าไม่ได้ยิน ข้าถามนางอีกครั้ง
     

    ก็..ฉันพูดว่า กอด:ของ:ท่าน:อุ่น:ดี เอลซ่าตอบกลับมาโดยเน้นคำพูดทีละคำอย่างชัดเจน    พอนางพูดเสร็จก็รีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอง ข้าก็ยิ้มออกมากับการกระทำของนาง พอข้ากำลังจะลุกออกมาจากเตียงข้าก็ได้ยินเสียงนางสะอื้นเบาๆ
     

    ฮึก(เสียงสะอื้น)...ฮึก
     

    นี่เอลซ่าเจ้าเป็นอะไร ข้าถามไปด้วยความเป็นห่วง
     

    ฉัน...ฮึก...ฉันไม่รู้ นางตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย
     

    เอลซ่าใจเย็นๆค่อยๆคิด ข้าคอยปลอบนาง ตอนนี้ข้ารู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก
     

    ฉันรู้สึกกังวลเรื่องของเราเมื่อคืน นางพูดออกมาแล้วสะอื้นเป็นพักๆ
     

    เมื่อคืนข้าแค่กอดเจ้านะ ข้าไม่ได้ทำอะไรมิดีมิร้ายเจ้าซักหน่อย ข้าพูดเพื่อให้นางสบายใจ
     

    ที่ฉันกังวลเรื่องเรานอนกอดกันไงละแจ็ค เอลซ่าพูดกลับมาด้วยความรู้สึกเศร้ากว่าเดิม
     

    ทำไมละ ข้าขยับเข้าใกล้นางพร้อมกับถาม
     

    ก็...ก็...ฉันเป็นผู้หญิงนะ แค่มีผู้ชายที่ไม่ได้เป็นอะไรด้วยนอนบนเตียงเดียวกันมันก็ผิดแล้ว นางตอบกลับมา แต่เสียงนางตอนนี้เหมือนจะร้องไห้
     

    อีกอย่างเรานอนเตียงเดียวกันไม่พอ พวกเราเรายังกอดกันอีก ถ้ามีใครมาเห็นเข้า มันเสียหายท่านรู้ไหม เอลซ่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่เป็นภาษา
     

    อีกอย่าง...ฮึก...อีกอย่าง เอลซ่ากำลังพูดต่อ แต่ดูเหมือนร่างกายข้าจะไปก่อนความคิดข้าคว้านางเข้ามากอดโดยที่นางยังร้องไห้อยู่
     

    แจ็คท่านทำอะไรนะ นางถามกลับมาด้วยความตกใจ
     

    เอลซ่า ข้าพูดออกมาเบาๆ
     

    คะ?” นางตอบกลับมาด้วยน้ำเสีที่สะอื้นเล็กน้อย
     

    เจ้าอย่าร้องไห้นะ ข้าพูดออกไป
     

    “...ฮึก... ตอนนี้นางสะอื้นเป็นพักๆ ข้าก็กอดนางแน่นขึ้นเล็กน้อย
     

    เอลซ่า...เวลาที่เจ้าร้องไห้ เจ้ารู้ไหมว่าข้ารู้สึกอย่างไร ข้าพูดออกไปโดนที่ไม่คิด
     

    ฉันไม่รู้ นางพูดกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าใจ
     

    ข้าก็รู้สึกเศร้าตามไปด้วยเวลาที่เจ้าร้องไห้นะสิ ข้าตอบนางกลับไปก่อนที่จะพูดต่อ
     

    ฮึก...ทำไมละ นางถามมาด้วยความสฃสัย
     

    เพราะข้าไม่อยากเห็นเจ้าเศร้าเสียใจไม่ว่าเรื่องใดๆ ข้าพูดเสร็จ
     

    ข้าขอสัญญาหากเจ้ามีเรื่องอะไรที่เจ้ารู้สึกไม่สบายใจ จำไว้นะข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ...เอลซ่า ข้าพูดเสร็จก็คลายกอดนาง แล้วเช็ดน้ำตาที่เปื้อนหน้าออกให้
     

    ถึงเหตุผลอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่มันคือความจริงนะเอลซ่า ข้าพูดออกไปพรัอมกับช้อนคางของเอลซ่าเข้ามาใกล้ๆ
     

    เหตุผลนั่นก็เพราะ ข้ายื่นหน้าไปจุมพิตที่เปลือกตาของนางเบาๆ พอข้าจูบเสร็จก็กลับมาที่เดิม
     

    เพราะว่าข้ารักเจ้ายังไงละเอลซ่า พอข้าพูดเสร็จนางก็หน้าแดงราวกับลูกมะเขือเทศที่สุกงอม ในที่สุดข้าก็บอกความในใจของข้าให้นางฟังเสียที ส่วนนางจะรับรักข้าไหมนั้นอีกเรื่องหนึ่ง
     

    ขอบคุณนะ แจ็ค เอลซ่ายิ้มออกมาพร้อมกับคำขอบคุณ
     

    ขอบคุณนะที่จะอยู่เคียงข้างฉันเวลารู้สึกไม่สบายใจ นางพูดต่อดูเหมือนตอนนี้นางจะหยุดร้องไห้แล้ว
     

    อีกอย่างนะฉันก็...ฉันก็... ดูเหมือนนางจะประหม่า เพราะตอนนี้มือของนางเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้นางเอามือมากุมแขนตัวเองบ้าง ม้วนผมของนางบ้าง ดูน่ารักดี
     

    ฉันก็...อะแห่ม(เสียงใครคนหนึ่งพูดแทรก) ตอนที่เอลซ่ากำลังพูดบางอย่างเราก็ได้ยินเสียงคนๆหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา เราก็รีบหันไปดูปรากฏว่าคนๆนั้นคือน้องสาวเพียงคนเดียวในครอบครัวของเอลซ่า อันนา


    Elsa Snow Queen :

    หลังจากที่แจ็คบอกความในใจของเขาใหัฉันฟัง ฉันก็พยายามจะบอกความในใจของฉันให้แจ็ครู้เช่นกัน แต่ดันมีเสียงเสียงหนึ่งพูดแทรกเข้ามาก่อน
     

    อะแห่ม พอเราได้ยินเราทั้งคู่รีบหันไปดูปรากฎว่าเป็นนัองสาวเพียงคยเดียวของฉัน อันนาตอนนี้เธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของฉัน
     

    อะ..อะ..อันนา ฉันพูดชื่อน้องสาวของฉันออกไป นี่น้องสาวฉันเข้ามาอยู่ในนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอเห็นการกระทำที่ฉันทำไปไหม เธอเห็นแจ็ครึเปล่า ตอนนี้มีคำถามมากมายอยู่ในหัวฉัน ซักพักอันนาก็พูดออกมา
     

    ก็ว่าทำไมพี่เอลซ่าไม่ออกมาจากห้องซะที ที่แท้ติดหมอนข้างใบใหม่นี่เอง อันนาถามมาแบบนี้แสดงว่าเธอเห็นแจ็คจริงๆ แต่เธอเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ช่างมันก่อนรอดูสิว่าอันนาจะทำอะไรต่อ พออันนาแขวะฉันเสร็จเธอเอียงหัวไปซ้ายทีขวาทีพร้อมกับยิ้มแบบเจ้าเล่ห์
     

    เป็นไงบ้างคะ หมอนข้างใบนี้กอดแล้วอุ่นไหม(คำว่าไหมเสียงสูง)?” อันนายิ้มแบบเดิมแล้วถามกลับมา
     

    ก็เย็นสบายดี เวลากอด คำพูดนั้นฉันไม่ได้พูด แต่เป็นแจ็คที่พูดออกมา พอพูดเสร็จเขาก็หันมามองฉันต่อ
     

    เจ้าก็คิดอย่างงั้นใช่ไหมเอลซ่า แจ็คหันมาถามพร้อมกับยิ้มทะเล่นออกมา ด้วยความเขินอายฉันจึงตบเขาไปเบาๆ
     

    ป๊าบ(เสียงฝ่ามือกระทบที่หลังอย่างรุนแรง) ฉันตบเบาๆจริงนะ
     

    คนบ้า ฉันสบถออกไปโดยที่ตอนนี้แจ็คก็เอามือกุมแผลเอาไว้อยู่ พอพูดเสร็จฉันก็ลุกออกจากเตียงเดินไปหาอันนา
     

    อันนาพี่ว่าเราไปคุยเรื่องนี้กันที่ห้องของน้องดีกว่าไหม ฉันถามอันนา แต่ดูเหมือนว่าอันนาจะไม่ได้ฟังฉัน อันนาชี้ไปที่ข้างหลังฉันก็หันไปดูเห็นแจ็คกำลังเดินมา ฉันก็กำลังเดินหนีแต่ติดอันนาอยู่เลยไปไหนไม่ได้ แจ็คก็สวมกอดที่เอวฉันก่อนที่จะยกฉันขึ้น
     

    แจ็คปล่อยนะ ฉันก็ดิ้นไปดิ้นมาในอ้อมกอดของเขา แต่ดูเหมือนแจ็คจะไม่ฟังเขายกฉันและนั่งลงบนเตียงแล้วให้ฉันนั่งบนตักเขาส่วนฉันฉันก็ดิ้นต่อ
     

    แจ็คปล่อยสิ ฉันหยุดดิ้นและเปลี่ยนเป็นพยายามแกะมือเขาแทน แจ็คก็ค่อยๆโน้มหน้ามากระซิบที่หูฉันเบาๆว่า
     

    ถ้ายังขัดขืนข้าจะจูบเจ้าต่อหน้าน้องเจ้าแน่ พอฉันได้ยินแบบนั้นฉันก็หน้าแดงเลยทำอะไรไม่ถูกก็เลยนิ่งไป
     

    หวานกันจังนะคะ อันนาพูดขึ้นมา
     

    ขนาดน้องกับคริสตอฟจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ยังไม่เคยทำอะไรหวานเท่าท่านพี่เลยนะคะ อันนาพูดต่อเชิงหยอกล้อ
     

    พอเลยอันนาเข้าเรื่องดีกว่า ฉันพูดออกไป
     

    น้องเข้ามาห้องพี่ต้องมีอะไรแน่ บอกพี่มา ฉันถามอันนาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แต่สภาพที่ฉันอยู่ตอนนี้คือแจ็คกอดเอวและพาดคางของเขาไว้บนไหล่ฉันอยู่
     

    ตอนแรกน้องจะมาตามท่านพี่ไปทานอาหารเช้าคะ แต่พอน้องเข้ามาเห็นพวกพี่นอนกอดกันอยู่ก็เลยไม่อยากปลุก อันนาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่สดใสในแบบของเธอ
     

    นี่น้องเข้ามาในห้องพี่ตั้งแต่ตอนไหนนะ ฉันถามกลับไปด้วยความตกใจ
     

    ก่อนที่พวกพี่จะตื่นคะ อันนาตอบกลับมา
     

    งั้นเจ้าก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในห้องใช่ไหม แจ็คตอนนี้ที่เอาคางมาพาดบนไหล่ฉันพูดขึ้นมา
     

    "คะ ทุกเหตุการณ์ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ และทุกอย่างเลย

    แล้วพี่เอลซ่าคะ คนที่อยู่ข้างหลังพี่ชื่ออะไรคะ อันนาถามมาพร้อมกับเอียงคอถาม
     

    “พี่แนะนำให้น้องรู้จักไปแล้วนะอันนาเมื่อสองวันก่อนน่ะ” ฉันตอบคำถามอันนากลับไป อันนาก็คิดสักครู่หนึ่งแล้วก็นึกออก
     

    “แจ็ค ฟรอสต์ ใช่ไหมคะ” พอแจ็คได้ยินก็ยิ้มออกมา
     

    “แล้วพี่แจ็คคะ พี่มีความสามารถเหมือนพี่เอลซ่ารึเปล่าคะ?” ดูเหมือนน้องฉันจะสงสัยเลยถามไปแบบนั้น
     

    “เจ้าอยากรู้เหรอ” แจ็คถามขึ้นมา อันนาก็พยักหน้าตอบ
     

    “ก็ได้” แจ็คพูดออกมาพอเขาพูดเสร็จก็วางฉันลงบนเตียงแล้วยืนขึ้น เขาบิดขี้เกียดเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเริ่ม
     

    แจ็คยื่นมือไปด้านข้างทำท่าจะคว้าอะไรบางอย่าง จู่ๆไม้เท้าของเขาที่วางอยู่บนก็เริ่มสั่นเบาๆแล้วมันก็ลอยอย่างรวดเร็วไปที่มือของเขา พอแจ็คจับไม้เท้าได้เขาก็ควงมันอย่างรวดเร็ว ทวงท่าตอนที่เขาควงไม้เท้ามันช่างดูสวยงาม ดูสง่า และดุดัน พอเขาควงแล้วหมุนตัวได้รอบสองรอบเขาก็เอาไม้ปักลงบนพื้น เกิดแสงเจิดจรัสบนพื้นห้องและสุดท้ายมันก็กระจายไปทั่วห้อง พอแสงหายไป ทั่วทั้งห้องจากเดิมที่ตกแต่งไปด้วยหินอ่อนและไม้ ตอนนี้มันกลับมีน้ำแข็งออกมาเป็นลายดูสวยงามมิใช่น้อย ฉันกับอันนาก็จ้องมองไปรอบๆห้อง ชื่นชมกับฝีมือของแจ็ค
     

    “คราวนี้มีอะไรจะถามอีกไหม” แจ็คพูดขึ้นมาก่อนที่จะพิงไม้อย่างสบายใจ
     

    “นี่ๆพี่แจ็ค” อันนาทักเชิงสนิทสนม
     

    “หืม?” แจ็คก็ขานตอบ
     

    “ทำไมพี่ต้องควงไม้เท้าก่อนเสกด้วยละ” อันนาเอนหัวถาม
     

    “อ้อที่ข้าทำก็เพราะข้าต้องใช้เวลานึกภาพนะ” แจ็คตอบกลับไป
     

    “ถ้าข้ามีภาพอยู่ในหัวอยู่แล้วข้าทำแค่นี้ก็ได้” แจ็คพูดเสร็จก็บิดไม้เท้าที่ปักอยู่บนพื้นไปมา ระหว่างที่เขาบิดลวดลายต่างๆก็ค่อยๆเปลี่ยนบางทีก็มีตุ๊กตาหิมะโผล่ออกมาบ้าง สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆบ้างสุดท้ายเขาก็หยุดบิดไม้เท้า ตอนนี้พื้นห้องของฉันระหว่างเตียงของฉันถึงเก้าอี้ที่อันนานั่งอยู่ปรากฏเป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งออกมา ฉันกับอันนาก็จ้องมองดูลายละเอียดของมัน ซักพักฉันก็นึกออกว่านี่คือเมืองอะไร
     

    “นี่พี่/ท่านรู้ผังเมืองนี้ได้ยังไง” ฉันกับอันนาพูดพร้อมกัน
     

    “นี่ๆข้าอยู่นี่กี่วันแล้วละ และอย่าลืมสิข้าเป็นภูติข้าไม่ใช่มนุษย์ แค่เห็นอะไรก็จำรายละเอียดได้แล้วถ้าข้าอยากจะจำน่ะ” แจ็คพูดออกมา
     

    “ท่านไม่ใช่มนุษย์หรอกเหรอ” อันนาถามขึ้นมา
     

    “ใช่” แจ็คตอบ พอแจ็คตอบเสร็จอันนาก็จ้องมาที่ฉันแล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์
     

    “ฮัด ชิ่ว” อันนาจามออกมา
     

    “อ้าวหนาวไปเหรอ งั้นข้าจะเปลี่ยนเป็นเหมือนเดิมเลยละกัน” แจ็คพูดเสร็จก็กระทุ้งไม้ลงบนพื้นอีกครั้ง คราวนี้เหล่าหิมะและน้ำแข็งค่อยๆละลายและละเหยหายไป
     

    “แค่นี้น่าจะโอเคแล้วละมั้ง” แจ็คพูดขึ้นมาก่อนที่จะยกไม้เท้าติดตัวมาด้วยและมานั่งข้างๆฉัน ฉันก็จะขยับไปข้างๆแต่แจ็คก็เอาไม้เท้าเกี่ยวเอวของฉันไม่ให้ไปไหน ซักพักอันนาก็พูดโพล่งขึ้นมาว่า
     

    “น้องว่าพี่สองคนน่าจะลองคบกันดูนะคะ” อันนาพูดขึ้นมาทำเอาฉันกับแจ็คหน้าแดงไปทั้งคู่
     

    “ทำไมละอันนา” ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัยปนความเขินอาย
     

    “ก็พี่สองคนดูเหมาะสมกันจะตาย มีพลังเหมือนกัน หน้าตาก็ดีเหมือนกัน ฉลาดพอกัน ดีไม่ดีอาจซ่อนรูปเหมือนกันอีกก็ได้นะ” อันนาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข โถ่น้องสาวฉัน 
     

    “แล้วน้องรู้ได้ไงว่าพี่กับแจ็คซ่อนรูป” ฉันถามพร้อมกับก้มหน้า
     

    “ขอองท่านพี่น้องพึ่งรู้เมื่อวานคะ ส่วนพี่แจ็คเดาๆเอา” อันนาตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มมาทางฉันแล้วก็หันไปทางแจ็ค
     

    “พี่แจ็คเห็นทุกสัดส่วนของท่านพี่เอลซ่าแล้วอะดิ” อันนาถามแจ็คบ้างแจ็คดูเหมือนจะเขินกับคำถามเขาก็เลยเกาหัวเล็กน้อย อย่าบอกนะว่าเห็นแล้ว
     

    “ข้าไม่เคยหรอก ถึงข้าจะอยากเห็นแค่ไหนก็ต้องให้นางเต็มใจให้ข้าดูเท่านั้น ถ้านางไม่เต็มใจข้าก็ไม่ทำ” แจ็คตอบคำถามอันนาไปอันนาก็ดูเหมือนพอใจกับคำตอบเลยยิ้มอย่างพอใจ
     

    “สุภาพบุรุษจังนะคะ” อันนาพูดออกมาก่อนที่พูดต่อ
     

    “น้องเห็นหุ่นพี่เอลซ่าแล้ว น้องอยากเห็นว่าที่สามีของพี่เอลซ่าบ้างอะ” อันนาพูดอออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
     

    “ว่าท่งว่าที่สามีอะไรเล่าอันนา” ฉันรีบตอบสวนกลับไปแต่
     

    “แล้วเจ้าอยากดูไหมละเอลซ่า” แจ็คหันมาถามฉันแต่ไม่เขารอฟังคำตอบ เขาค่อยๆดึงเสื้อตัวเองขึ้นส่วนฉันทำไง ก็ดึงเสื้อเขาลงนะสิ
     

    “ตาบ้า น้องฉันยังอยู่อายบ้างไหม” ฉันพูดเสร็จก็ดึงเสื้อแจ็คลงที่เดิม
     

    “ก็ได้ๆข้าแค่แกล้งเจ้าเฉยๆ” แจ็คพูดขึ้นมาแล้วเราก็หันไปที่อันนาต่อ อันนาก็จ้องฉันกับแจ็คสลับไปมาก่อนที่จะพูดบางอย่าง
     

    “งั้นน้องไปรอท่านพี่ที่ห้องอาหารนะคะก่อนนะ” อันนาพูดเสร็จก็รีบวิ่งออกประตูไป แต่ก่อนที่อันนาจะปิดประตู เธอก็พูดบางอย่าง
     

    “อีกอย่างนะคะ ถ้าพี่แจ็คจะจีบพี่เอลซ่าหนูสนับสนุนเต็มที่นะคะ” พออันนาพูดเสร็จก็ปิดประตู ตอนนี้ในห้องเหลือแต่ฉันกับแจ็คกันแค่สองคน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    To Be Continued

     

    ………………………………………………………………………………………………………
     

             จบไปแล้วนะครับสำหรับ Chapter 8 : Promise ผมแต่งไปแต่งมาอยากเปลี่ยนชื่อตอนยังไงชอบกล เนื้อเรื่องเริ่มขยับไปนิดหน่อยแล้วละครับ ตัวเอกบอกรักตัวนางแบบตรงๆแล้วส่วนตัวนางจะบอกตอนไหนนั้นลุ้นเอาเองนะครับ

     

             ตอนนี้ก็ใกล้ตามเป้าหมายที่ผมวางไว้แล้วนะครับ น่าจะอีกไม่กี่ตอนก็จะถึงตอนจบ นะครับ ขอขอบคุณ คุณ Papermail มากนะครับที่คอยแนะนำข้อเสนอเล็กๆน้อยๆให้ และวางแผนจะลองแต่งข้ามฟิคกันดูนะครับ แต่คาดว่าคงอีกนานเพราะว่ายังไม่ว่างกันทั้งคู่ครับ คนอื่นๆก็ต้องขอบคุณด้วยนะครับที่ติดตามกันมาถึง 8 ตอนนะครับ สำหรับตอนนี้ขอลาไปก่อนนะครับ
     

    สวัสดีครับ

     

    Spoil Chapter 9 : Always

    ต่อให้โลกนี้เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกของข้าที่มีให้เจ้าก็ไม่มีวันเปลี่ยน
    ต่อให้เจ้าจะเกรียดข้ายังไง ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ

    ต่อให้เจ้าเจ็บป่วยหรือตายไป ข้าก็จะอยู่กับเจ้าจนถึงวันนั้น
    ทำไมนะหรือ ก็เพราะว่า ข้าสัญญากับเจ้าไว้ว่าข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดไป






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×