ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[ lovE U ~ mY SoUl ]] สาวญี่ปุ่น ชุลมุนวุ่นรัก SoUl

    ลำดับตอนที่ #2 : [[ S o u l ]] -1- ++ ติ ว ส อ บ ++

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 49




    แสงแดดยามสายันห์ค่อยๆทอแสงอบอุ่นโอบล้อมผู้คนบนโลก  ผู้คนที่ง่วนอยู่กับงานของตน  ต่างเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ที่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีส้มอ่อนๆ จากดวงตะวันที่คล้อยต่ำลง  คนแก่คนเฒ่าต่างลุกขึ้นจากเก้าอี้หวายตัวโปรดหน้าบ้าน ที่ซึ่งใช้คอยลูกหลานกลับมาทานข้าวเย็นอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  “เย็นแล้วหรือนี่?” ก่อนเดินเข้าบ้าน  แต่ไม่ใช่กับที่นี่  กรุงโตเกียว



    ตึกรามบ้านช่องที่ผุดเป็นดอกเห็ด  ราวกับจะแข่งกันโตกับดอกหญ้าดอกเล็กๆริมทางที่ไม่มีใครใส่ใจ  ผู้คน วัยทำงาน  ต่างเดินกันขวักไขว่บนถนน  รวมถึงนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มต่างๆหลากสี  บ้างก็เดินจับกลุ่มกันเป็นหมู่คณะ  และอีกมากมายที่ต้องเดินอย่างโดดเดี่ยว  เพื่อไปยังจุดหมายเดียวกัน  บ้าน



    คุณคงแปลกใจ  หากเห็นบ้านเดี่ยวสองชั้นขนาดกะทัดรัดสีฟ้า  ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันจากดอกไม้และต้นไม้ที่ปลูกรอบๆบ้าน  กินเนื้อที่มากกว่าตัวบ้านเสียอีก  ซึ่งดูไม่เข้ากับเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยเลยสักนิด  แต่ก็นั่นแหละ  เสียงตะโกนของสาวน้อยคนนี้ที่กลบเสียงอื่นๆในบริเวณนี้ไปจนหมด  หรือเรื่องราวของเธอ  อาจทำให้คุณลงความเห็นว่า  บ้านหลังนี้มีอยู่จริงๆก็ได้



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



         “สอบ!! O_Oไม่นะ อีก 3 วันจะสอบ พี่ฮานะ!!  ช่วยด้วย” ฉันตะโกนลั่นบ้าน ขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันได กวาดสายตามองหาพี่ฮานะ  พี่สาวของฉัน  บุคคลที่ดูเหมือนจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของฉัน



         พี่ฮานะ  พี่สาวของฉันซึ่งทำประวัติศาสตร์ท๊อปทุกวิชา  ตลอด 6 ปีที่เรียนในโรงเรียนมัธยม AK  ตอนนี้พี่เรียนจบแล้ว และต่อในมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง  ถึงพี่จะจบไปแล้ว แต่ถ้าไปที่โรงเรียนมัธยม AK ถามว่ารู้จักคนชื่อ ฮิชิยาม่า ฮานะ  หรือเปล่า  รับประกันได้ว่าอาจารย์ในโรงเรียนนี้ หรือนักเรียนที่เข้ามาเรียนทันรุ่นของพี่ฮานะ  คงจะไม่มีใครตอบว่าไม่รู้จัก  และด้วยเหตุนี้  ฉัน น้องสาวของพี่ฮานะ  ผู้ใช้นามสกุล ฮิชิยาม่า เหมือนกัน  ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน  ในชั้นมัธยมต้นปี 3  จึงได้รับแรงกดดันจากอาจารย์ทั้งหลาย ( พี่รู้ไหมคะ  ว่าทำน้องสาวที่แสนน่ารักของพี่เดือดร้อนน่ะ ) หากฉันทำคะแนนได้ไม่ดีเท่าพี่สาว อาจารย์ก็มักจะบอกว่า



    “ เธอใช่น้องสาวของฮิชิยาม่าจริงๆหรือเปล่า ” แหงล่ะ ฉันไม่ใช่น้องสาวของพี่สาว (?) แล้วฉันจะไปเป็นน้องสาวของใครล่ะ  ไม่ก็  



    “ ฉันไม่เคยคิดเลยว่า ฮิชิยาม่าจะมีน้องสาวแบบเธอ ”  อะไรเทือกนั้น



       ฉันได้ยินมันจนชิน ช่างปะไร  ฉันก็คือฉัน ไม่ใช่ ฮิชิยาม่า ฮานะ แต่เป็น ฮิชิยาม่า นานะ ถึงพี่ฮานะจะเรียนดี นิสัยดี หน้าตาดี มนุษย์สัมพันธ์ดี แถมยังใจดี (ดีหมดเลยง่า T_T )  แต่มันก็คงต้องมีบางอย่างที่ฉันดีกว่าพี่ฮานะล่ะน่า  ฉันพยายามปลอบใจตัวเองทุกครั้งที่ได้ยินอาจารย์เหน็บแนม  แต่ฉันก็ยังหามันไม่เจอ  อะไรที่ฉันดีกว่าพี่ที่ว่าเนี่ย  มันคงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิต ที่สาวน้อยผู้บอบบางอย่างฉันต้องเกิดมามีพี่ที่แสนจะเพอร์เฟ็ค  ช่างน่าสงสารเหลือเกิน T_T



       “มีอะไรจ๊ะ  ตะโกนจนได้ยินไป 7-8 บ้านแล้ว นานะ ” พี่ชะโงกหน้า(อันสะสวยที่ฉันเทียบไม่ติด TT^TT <<< ชอบย้ำจัง ยัยคนเขียนนี่ ) มาถามจากในครัว  กลิ่นหอมจากอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ  ลอยมาเตะจมูกฉันฟุดฟิดๆ  แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ฉันหายตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้ในวันนี้



    +++++++++++++++++  ย้อนความไปเมื่อตอนบ่าย ณ. โรงเรียนมัธยม AK ++++++++++++++++



    ก่อนหมดคาบวิชาภาษาอังกฤษไม่นาน  อาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเลิกชั้นตรงเวลาสักที  เลทตลอด  ทำท่าจะเลิกชั้นเดินออกจากห้อง  แต่อาจารย์ก็เดินกลับมาอีกครั้ง (เดินไปจะถึงประตูแล้วแท้ๆ)  ตาโตราวกับเพิ่งนึกอะไรออก



    “โอ๊ะ!!เกือบลืมไป นักเรียน!!”  หลังจากที่พึมพำประโยคแรก  ก็เริ่มเน้นเสียงดึงความสนใจกลับมา  นักเรียนทั้งหลายที่จับกลุ่มคุยกันด้วยนึกว่าอาจารย์ออกไปแล้ว  ต่างก็รีบสลายตัวกลับเข้าที่



    “อะแฮ่ม !!” อาจารย์กระแอมก่อนเริ่มพูด



       “นักเรียน!! หลังจากที่อาทิตย์ที่แล้ว ที่ทางโรงเรียนยุ่งมาก เนื่องจากต้องจัดงานต้อนรับบุคคลจากกระทรวง  จึงไม่ได้แจ้งเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งให้แก่นักเรียน  ว่า ” อาจารย์เว้นระยะห่างสักพักหนึ่งตาโตๆที่เริ่มมีรอยย่นตามวัยกวาดสายตามองนักเรียนที่จดจ่อตั้งใจฟังด้วยความอยากรู้



       “วันพฤหัสและวันศุกร์นี้  จะมีการสอบไฟนอลขึ้น  ซึ่งสำหรับพวกเธอชั้นปี 3 ถือได้ว่าสำคัญมาก  เพราะคะแนนในการสอบครั้งนี้  จะนำไปจัดลำดับมากน้อย  คัดเอานักเรียนที่คะแนนดี 1000 คนแรก เพื่ออนุมัติให้เธอต่อในชั้นมัธยมปลายปี 1 ในโรงเรียนของเรา  แต่หากว่าเธอไม่ผ่าน.. ” อาจารย์หรี่สายตาเล็กน้อย  เป็นผลให้นักเรียนในห้องต่างตั้งใจฟังอย่างลุ้นระทึกจนเกือบลืมหายใจ



       “ ก็จะต้องไปต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนอื่น  ซึ่งหาต่อได้ยากมาก  เอ้า!! หัวหน้าบอกชั้น ”  



      “ นักเรียนเคารพ ”



      “ สวัสดีครับ/ค่ะ ” แล้วทั้งห้องเริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบกันเกิดขึ้น



      “ วันพฤหัส  อีกตั้งนาน  ห๊ะ!! วันพฤหัส ” ฉันเด้งตัวลุกจากเก้าอี้เมื่อนึกขึ้นได้  สายตาของคนในห้องต่างจ้องมองมา



    “แหะๆ” ฉันยิ้มแห้งๆให้ก่อนนั่งลงตามเดิม  เมื่อเพิ่งรู้สึกว่าตนเองออกอาการเกินไป



       “วันพฤหัส”  ฉันทวน  วันนี้วันจันทร์  เพราะฉะนั้นก็เหลืออีก



       “3 วัน” ฉันโพล่งขึ้น  3 วัน  หนังสือฉันยังแทบจะไม่ได้ชายตามองด้วยซ้ำ  ถ้าฉันต่อมัธยมปลายที่นี่ไม่ได้  ต้องเป็นเรื่องแหงๆ พ่อก็คงบ่นไม่หยุดแล้วจับฉันเรียนพิเศษ แม่ก็คงโอ๋ฉันเหมือนฉันเป็นเด็กสามขวบ  แล้วสองคนก็ต้องทะเลาะกัน เพราะพ่อบ่นมากเกินไป แม่โอ๋มากเกินไปแหงๆเลย



    +++++++++++++++  จบการย้อนความ  +++++++++++++++



         “พี่ฮานะ!! สอบๆๆๆ  ทำไงดี วันพฤหัสจะสอบแล้ว ” ฉันพูด  พร้อมกับกระโดดโหยงๆ ราวกับถูกไฟจี้ไปรอบๆพี่ฮานะ  แต่มันก็ถูกไฟจี้จริงๆแหล่ะ  ไฟรักของแคลช  เอ้ย!! ชักไปกันใหญ่  ไฟข้อสอบที่จี้ให้ฉันต้องรีบอ่านหนังสือต่างหาก    



         “ใจเย็นๆ  มานั่งทานข้าวก่อนสิ  มีไข่ยัดไส้ของโปรดเธอด้วย ” พี่พูดพร้อมยกกับข้าวจากครัวมาไว้ที่โต๊ะทานข้าว  กลิ่นหอมฉุยเชียว  ลืมบอกข้อดีของพี่ฮานะไปอีกอย่างคือ  ทำอาหารอร่อย ต่างจากฉันที่ไข่ดาวยังทอดไม่เป็น



         \"ทานแล้วน้าค้าาาาาา\"



          ทันทีที่อาหารเข้าปากคำแรก (โดยเฉพาะไข่ยัดไส้ )  ความกังวลเกี่ยวกับการสอบก็สลายหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย ( เค้าเรียกว่าห่วงแต่กิน )  แง่มๆๆ  อาหารที่พี่ฮานะทำอร๊อยอร่อย  ไข่ยัดไส้ยิ่งอร่อย  รู้ใจน้องสาวคนนี้จริงๆ  ว่าชอบกิน (จะไม่รู้ได้ไง เห็นทีตาลุกวาว)  ซุปเต้าเจี้ยวไม่ต้องพูดถึง  ไม่มีใครเทียบติด (เท่าที่เคยกินมา)



         “เมื่อตะกี้เรียกพี่ทำไมจ๊ะ ? ” คำถ้อยคำหวานๆที่เอ่ยออกจากปากของพี่ไม่กี่คำ  กลับทำให้ฉันเปลี่ยนสีหน้าไปได้ร้อยแปด  จากที่สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อได้ทานอาหารอิ่ม ^-^  เปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวดในทันใด



         “ก็สอบน่ะสิพี่  วันพฤหัสจะสอบอยู่แล้ว ดันเพิ่งมาบอกวันนี้ ” ฉันหน้ามุ่ย  “แล้วยังเอาคะแนนสอบไปคัดนักเรียนเข้ามัธยมปลายอีกต่างหาก” พี่ฮานะได้แต่ยิ้ม  ซึ่งแตกต่างกับสีหน้าของฉันตอนนี้โดยสิ้นเชิง



         “แล้วพี่สาวที่ท๊อปทุกวิชา ตลอด 6 ปีที่เรียนในโรงเรียนมัธยม AK คงจะไม่ปล่อยให้น้องสาวตาดำๆที่แสนน่ารักคนนี้ตกที่นั่งลำบากใช่ไหม” เพราะวันนี้ ฉันตกที่นั่งลำบาก  กับเรื่องการสอบ ที่ไม่มีพี่คอยช่วยเหลือ  ( ไปซะนู่น )



         “เธอตาสีน้ำตาลต่างหาก”



         “นั่นแหละ”  แล้วฉันก็พยายามหว่านล้อมพี่ฮานะ  ชักแม่น้ำทั้งห้า  ว่างั้นเหอะ  เพื่อที่จะให้พี่ฮานะยอมตกลงเป็นติวเตอร์ชั่วคราวให้ฉัน  ซึ่งขึ้นชื่อว่าได้เกรดห่วยแตกมั่กๆ



         “ได้  แต่เธอจะไม่สามารถถอนตัวระหว่างการติวได้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตามตลอด 3 วัน” กฎบ้าบออะไรตั้งมากมาย



         “อืม”  ฉันตอบตกลงไป  โดยลืมนึกถึงนิสัยของพี่อีกอย่างหนึ่ง  ซีเรียส  เครียด  โหด  เมื่อเป็นเรื่องเรียน



         “งั้นเอานี่ไปอ่าน” พี่ฮานะยกหนังสือ ( ที่แค่วิชาเดียวก็ปาไป 2-3 เล่ม ) และสมุดเลกเชอร์ที่น่าจะ 5 เล่มเป็นอย่างต่ำ  มาวางกองไว้หน้าฉัน  ที่กำลังนั่งอึ้งO_O  ปากค้างO0O  “อ่านแบบผ่านๆก่อน พวกเรามีเวลาจำกัด  วันนี้พี่จะติวให้ 3 วิชา  ไม่ต้องมาปากหวอ รีบๆอ่าน!! ”



         ดวงตาสีน้ำตาลของฉันจับจ้องอยู่ที่ตั้งหนังสือ  ก่อนกลืนน้ำลาย “ม่ายน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++  



         พวกเราติวเสร็จครบ 3 วิชา  เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ( เริ่มติวตอน 5 โมง = = )  ทั้งๆที่พรุ่งนี้ฉันต้องไปโรงเรียนแท้ๆ  พี่ฮานะดันติวให้ซะจนดึก  หลังติวเสร็จฉันจึงเริ่มหยุดปากในการบ่นโอดครวญ  ที่เกิดขึ้นตลอดการติว  การแก้ปัญหาของพี่ฮานะคือการหาขนมมาอุดปากฉัน  เหอะน่า!! ไหนๆก็โดนอุดปากแล้ว ขนมมันก็ต้องดีกว่าแอปเปิ้ลที่ฉันเกลียดที่สุดแหละน่า  เพราะฉะนั้นตอนนี้ห้องของฉัน (ที่ได้แปรสภาพไปเป็นสนามติวไปโดยปริยาย)  พื้นห้องสีเขียวอ่อน บัดนี้  มีเศษขนมและซองขนมกระจายอยู่เป็นหย่อมๆ ปะปนกับหนังสือติว



         ฉันหันไปมองพี่ฮานะตาปริบๆ อย่างขอความช่วยเหลือ  S.O.S ด่วน !! พี่ฮานะที่ยืนอยู่ใกล้ๆประตูสีเขียวอ่อนเข้ากับห้องยิ้มหวานให้  ฉันเริ่มใจชื้น  ก่อนเอ่ยประโยคที่ทำให้ฉันรู้ว่าเสียรู้จนได้ “ไปก่อนนะจ๊ะนานะที่รัก  เก็บห้องให้เรียบร้อยด้วยล่ะ” แล้วจึงปิดประตูชิ่งทันที



         “เฮ้ย!! ได้ไงอ่า  พี่ก็กินด้วย มาช่วยกันเก็บเลย”  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  พี่ฮานะเผ่นแนบไปแต่ไกล  ฮ่วย!สุดท้ายฉันก็ต้องมาเก็บคนเดียวอีกแล้วล่ะสิเนี่ย  ตลอดเลยนะพี่  ฉันบ่นๆๆๆ  ก่อนจะรีบเก็บ เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว  พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน



         ฉันล้มตัวลงนอนกับเตียง ที่มีผ้าปูสีเขียวอ่อนเช่นเดียวกับหมอนข้างและหมอนหนุน  ก่อนกระชับผ้าห่มสีเขียวอ่อนให้แนบกาย ( พี่ฮานะมักจะชอบบ่นว่าฉันชอบอยู่ใกล้สาหร่าย  ก็ฉันชอบของฉันนี่ ) พลางสลัดความกังวลเกี่ยวกับการสอบให้หมดไป  เพราะเริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ว่า  การเลื่อนชั้นครั้งนี้ของฉันมันต้องเกิดเรื่องแน่ๆ



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ~LINWENYA~


    17/12/48
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×