ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กามเทพเบี่ยงรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 56


     

    กามเทพเบี่ยงรัก

    บทที่ 2
     

              คุณหญิงรัมภาชักสีหน้าหงุดหงิดเมื่อถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเอ่ยเรียก ขณะกำลังนั่งดูรายการโปรดทางโทรทัศน์ เห็นลั่นทมสาวใช้คลานเข่าเข้ามาใกล้พร้อมยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า

              คุณท่านค่ะ คุณปาจะเรียนสายด้วยค่ะ บอกว่าเรื่องด่วนมากๆ

              คำว่าเรื่องด่วนมากทำเอาคุณหญิงขมวดคิ้ว ก่อนจะเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์พร้อมส่งสัญญาณมือให้สาวใช้ออกไป แล้วหันไปสนใจในเรื่องด่วนที่ว่า

              ว่าไงยัยปา

              คุณแม่เสียงปลายสายวิ่งเข้ามาแทบจะทันที พี่ปลายกลับมาแล้วใช่ไหมคะ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ

              เมื่อกี้อยู่ที่นี้ แต่ตอนนี้กลับไปแล้ว

              กลับไปไหนค่ะเสียงนั้นร้อนรนขึ้นมาทันที

              ก็กลับไปบ้านของเขาน่ะสิ เอ้...เรานี่ถามได้คุณหญิงเอ่ยตอบอย่างเพลีย ๆ

              กลับไปแล้วหรือค่ะ โธ่

              เรามีอะไรดูทำเสียงอย่างกับใครจะเป็นจะตายคุณหญิงเริ่มหงุดหงิดเมื่อคิดว่าบุตรสาวคนเล็กจะโทรมาแค่ถามเรื่องการกลับมาของพี่สาวของตนเท่านั้น ขัดจังหวะการดูทีวีทั้งที่ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลย แล้วทำไมไม่โทรเข้ามือถือพี่แกเองเล่า จะโทรมาหาแม่ทำไมกัน ขัดจังหวะแม่ดูทีวีหมดกำลังถึงตอนสำคัญอยู่เชียว

              โทรไปแล้วค่ะ แต่ไม่รับ แถมยังปิดมือถืออีกต่างหากปาวิการณ์รีบแจ้ง

              คุณหญิงจึงถอนหายใจเพราะจนหนทางช่วยลูกสาวคนเล็ก

              แล้วไหนบอกว่ามีเรื่องด่วน ไหนบอกแม่มาสิว่าเรื่องด่วนที่ว่ามันคือเรื่องอะไร

             

              คนแรกที่ออกมาต้อนรับคือ บัวผัน สาวใช้ของบ้านที่อายุอานามนั้นดูไม่น้อยแล้ว

              สวัสดีค่ะคุณหญิงบัวผันยกมือไหว้ท่าทีนอบน้อม อย่างคนที่ถูกอบรมมาแล้วเป็นอย่างดี พร้อมเชื้อเชิญให้แขกผู้มาเยือนนั่ง แต่คุณหญิงแทบจะไม่ได้สนใจ สายตามัวคอยแต่สอดส่อง มองหาสิ่งที่ตนต้องการอยู่ แต่ครั้นไม่พบ คุณหญิงจึงหันกลับมาถามสาวใช้ที่กำลังขอตัวไปเอาน้ำมาเสิร์ฟต้อนรับ

              เดี๋ยว บัวผันคุณหญิงเรียกสาวใช้ไว้ก่อน คุณปลายอยู่หรือเปล่า

              อยู่ค่ะบัวผันหยุดเท้าหันหน้ามาตอบด้วยท่าทีนอบน้อมอย่างเช่นเคย คุณหญิงมาหาคุณปลายหรือค่ะ เดี๋ยวบัวไปตาม...

              ไม่ต้องคุณหญิงโปกมือหยุดเจตนารมณ์ของสาวใช้ทันที สายตาเปลี่ยนจุดมุ่งหมายไปยังชั้นบนของตัวตึก ยัยปลายอยู่บนห้องใช่ไหมคุณหญิงชี้มือขึ้นไป

              ค่ะๆ คุณปลายเธอพัก....

              ไม่ต้องรอให้บัวผันรายงานเสร็จ ร่างของคุณหญิงรัมภาก็ก้าวพรวดๆ ขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว

     

              เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามทีแล้วก็เปิดออก ไม่รอให้เจ้าของห้องเอ่ยอนุญาตเสียก่อนด้วยซ้ำ คุณหญิงก้าวเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับเอ่ยเรียกคนที่นอนอยู่บนเตียงกว้างทันที

              ยัยปลาย เสียงเรียกค่อนข้างดังและห้วนปลุกให้ปลายนภารู้สึกตัวตื่น หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งอย่างโงนเงน สายตายังสะลืมสะลือด้วยความง่วงที่ยังมีอยู่ค่อนข้างมากทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายของวัน

              คุณแม่เสียงที่เอ่ยนั้นงัวเงีย ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนปรกหน้า เจ้าตัวจำต้องใช้มือสางอย่างลวกๆ เพื่อไม่ให้ปิดหน้าปิดตาพร้อมพยายามปรือตาที่ลืมแทบไม่ไหวจ้องมองไปยังคนที่ยืนจังก้าอยู่ตรงข้างเตียง

              เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ร่างบางจึงขยับเอี้ยวตัวไปยังอีกฝั่งของเตียง เอื้อมมือหยิบนาฬิกาข้อมือที่วางไว้บนโต๊ะมาเช็คเวลา แล้วก็ถอนหายใจ เธอเพิ่งหลับไปได้เพียงแค่ชั่วโมงเดียว

              รีบตื่นเดี๋ยวนี้ ยัยปลาย!” เสียงของมารดาเร่งเร้า

              คุณแม่มีอะไรคะ น้ำเสียงเนือยๆ เอ่ยถาม

              มีสิคุณหญิงตอบ เรื่องสำคัญมาก เน้นเสียงเข้มตรงคำว่า สำคัญมากชัดเจน เห็นอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคำถาม แต่คุณหญิงกลับไม่ยอมอธิบายให้เสียเวลา เดินเข้าไปดึงร่างบางของปลายนภาให้ลุกขึ้น “ลุกขึ้น แล้วรีบไปแต่งตัว ให้เร็วด้วยล่ะ เดี๋ยวไม่ทันนะอีกครั้งที่ปลายนภาจ้องมองมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม คุณหญิงเพียงโบกมือปัดไป เอาไว้แม่จะเล่าให้ฟังในรถก็แล้วกัน รีบๆ ไปแต่งตัวเร็วเข้า น้องรออยู่

              แต่...

              ไม่มีแต่

              บอกหนูก่อนไม่ได้หรือคะว่าคุณแม่จะพาหนูไปไหน ปลายนภายังอิดออดทั้งๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำแล้ว คุณหญิงกลัวเสียเวลามากไปกว่านี้ถ้าไม่รีบบอก ดูท่าทีปลายนภาคงไม่ยอมง่ายๆ

              ไปโรงพยาบาล

              ไปโรงพยาบาลปลายนภาน่าตาตื่น ใครเป็นอะไรหรือค่ะ

              ไม่มีใครเป็นอะไร

              อ้าว แล้วจะไปทำไมค่ะ

              เอาเถอะน่า แม่บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวค่อยไปเล่าให้ฟังในรถ

     

              รถที่นั่งมาหยุดลงที่หน้าโรงพยาบาล คุณหญิงรัมภาจึงเอ่ยขึ้น

              แยกกันตรงนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวแม่จะเลยไปทำธุระที่สมาคมเสียหน่อย โน้นแน่ะยัยปามายืนโปกมือเหยงๆ รออยู่ตรงนั้นแล้วคุณหญิงชี้มือไปยังจุดที่ปาวิการณ์ยืนรออยู่ ปลายนภามองมารดาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก      

    แล้วคุณแม่ไม่ไปด้วยกันหรือค่ะ

    ผู้เป็นมารดาถอนหายใจ มันเรื่องระหว่างผัวๆ เมียๆ แกโตแล้วควรจัดการเอง ส่วนตัวแม่น่ะเป็นผู้ใหญ่แล้วจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายมากก็คงจะไม่ดี คงทำได้แค่ยืนดูห่างๆ ตบไหล่ลูกสาวเบาๆ แล้วเอ่ยเร่งอีกครั้ง รีบเข้าไปเถอะเดี๋ยวน้องจะคอยนาน

    ปลายนภาจึงก้าวลงจากรถ สีหน้านั้นครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะปรับเปลี่ยนให้เป็นยิ้มแย้มเมื่อก้าวไปถึงจุดที่ปาวิการณ์กวักมือเร่งเร้าให้หล่อนรีบเดิน

    มีเรื่องอะไรด่วนนักเชียว ถึงให้แม่ต้องไปลากพี่ออกมาจากที่นอนแบบนี้หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่ปาวิการณ์ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจที่จะฟังคำพูดของคนเป็นพี่สาวมากนัก

    อย่าเพิ่งถามอะไรปาตอนนี้เลยค่ะ ไปดูเองเลยดีกว่าออกแรงดึงอีกฝ่ายให้ตามเข้าไปในตัวตึก แต่ปลายนภากลับขืนตัวเอาไว้ก่อน

    เดี๋ยวยัยปา จะพาพี่ไปไหน พยายามขืนตัวไว้เพื่อถามถึงเหตุผลแต่อีกฝ่ายกลับแรงเยอะกว่า หญิงสาวจึงได้แต่ก้าวตามแรงฉุดกระชากนั้นเข้าไป "เดี๋ยว หยุดคุยกันให้รู้เรื่องก่อน...ปา

    ปามีอะไรให้พี่ปลายดู ทางนี้ค่ะ

    คำว่าทางนี้ของปาวิการณ์ดูเหมือนกว่าจะถึงก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายนาที ต้องเดินผ่านตึกคนไข้ถึงสองช่วงตึก ตัดผ่านสวนหย่อมเล็กแต่ร่มรื่นไปยังตัวอาคารหลังที่สามของโรงพยาบาล ปาวิการณ์พาหล่อนมาหยุดยืนอยู่ตรงส่วนที่เรียกว่าล็อบปี้ ซึ่งถูกแบ่งส่วนออกมาจากตัวตึกของโรงอาหาร ตัวอาคารตกแต่งด้วยกระจกและเป็นสีขาวแทบจะทุกส่วน มองดูกว้างขวางสะอาดตา มีร้านกาแฟและร้านเบเกอรี่ซึ่งถูกจัดไว้ในส่วนทางขวาละส่วนทางซ้ายเป็นมุมหนังสือไว้คอยบริการ มันเป็นส่วนที่ถูกทำขึ้นเพื่อเจ้าหน้าที่และบุคลากรของโรงพยาบาลเท่านั้น

    จะบอกพี่ได้หรือยังว่ามีอะไรหญิงสาวหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ทันทีที่ข้อมือของตนเป็นอิสระ แล้วก็เห็นแววตาของอีกฝ่ายแวววาวขึ้นมาทันที

    ดูตรงโน้นสิคะ

    ปลายนภาไล่มองไปตามมือของคนเป็นน้องสาว

    พี่ปลายเห็นไหม น้ำเสียงนั้นกระตือรืนร้น ตรงข้ามกับปลายนภาที่ยังคงเฉย

    เห็นอะไรน้ำเสียงที่เอ่ยก็ยังคงราบเรียบสม่ำเสมอ

    พี่ไม่เห็น หรือแกล้งไม่เห็นกันแน่ ปาวิการณ์นิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อหันกลับมาเห็นท่าที เฉยของคนเป็นพี่

    "เห็นแล้วจ้า แล้วยังไงจ๊ะ" ปลายนภาจึงยิ้มบางๆ รีบเอ่ยบอกเอาใจน้องสาว

    แม้จะนั่งอยู่ในมุมที่มองเห็นได้ลำบากเพราะถูกบดบังด้วยเสาอาคารขนาดใหญ่ แต่ร่างสูงสง่าในชุดกาวน์สีขาวที่กำลังนั่งดื่มกาแฟด้วยท่าทีสบายๆ นั้น ยังคงโดดเด่นสะดุดตากว่าใครๆ ในบริเวณนี้ ปลายนภาเห็นเขาตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอก้าวมาหยุดยืนอยู่ในอาคารหลังนี้เสียด้วยซ้ำ หล่อนเห็นภาพ เห็นกิริยาทุกอย่างของชายคนนั้นแต่หล่อนก็ยังเพิกเฉย

    เห็นแล้ว แล้วทำไมยังยืนเฉยอยู่ รีบเข้าไปจัดการเลยสิคะ คนอย่างนี้ต้องจัดการให้สำนึก ดูท่าว่าปาวิการณ์จะเดือดร้อนแทนคนเป็นพี่สาวเอามาก หลังจากที่ได้เห็นภาพของคนที่เป็นพี่เขยกับคุณหมอสาวสวยประจำโรงพยาบาลกำลังนั่งหัวเราะต่อกระซิกด้วยกัน นี่มันอะไรกันปาวิการณ์เดือดปุดทุกครั้งที่เห็น

    หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่พี่สาวของเธอจะมาถึง หล่อนเห็นสองคนนี้กำลังจับมือกันอยู่ เลยแอบซุ่มมองอยู่ห่างๆ แม้จะไม่ได้ยินบทสนทนาที่เกิดขึ้น แต่ท่าทีที่ทั้งสองคนนั่งจับมือกันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พี่สาวของเธอควรจะต้องร้อนขึ้นมาบ้าง เมื่อรู้ว่าคนเป็นพี่สาวกลับมาจึงรีบโทรรายงาน ก่อนหน้านี้หลายครั้งต่อหลายครั้งที่เห็นภาพแบบนี้ ปาวิการณ์ทำได้เพียงแค่เก็บความไม่พอใจเอาไประบายให้คนเป็นมารดาฟังเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้รับจากมารดาคือคำสั่งที่บอกให้หล่อนเงียบเอาไว้อย่าไปยุ่ง แต่จะทนได้อย่างไร ใครจะยอมทนให้พี่สาวตัวเองต้องมาโดนสวมเขาเล่า หล่อนไม่ยอมหรอก! ยิ่งต่อหน้าต่อตาพี่สาวเธอแท้ๆ อย่างนี้ต้องจัดการ

    ข้อมือของปลายนภาถูกคว้าหมับ

    ไปค่ะพี่ปลาย ไปตบยัยนั่นกัน ร่างบางกำลังจะก้าวไปแต่ถูกแขนที่เป็นอิสระของปลายนภารั้งไว้ก่อน        ปาวิการณ์ชะงักหันกลับมามองการกระทำของคนเป็นพี่สาวอย่างไม่เข้าใจ ปลายนภายังคงยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะอธิบายด้วยสุ่มเสียงเรื่อยๆ ไม่เจือความรู้สึกใดๆ ออกมา

    อย่าวู่วามสิ บางทีสิ่งที่เราเห็นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ก็แค่จับมือกัน ถ้าเขาสองคนนอนอยู่บนเตียงด้วยกันก็ว่าไปอย่าง แต่นี้เขาสองคนอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ ไม่มีอะไรหรอก ท่าทีของคนพูดดูสบายๆ จนปาวิการณ์ไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง นี่พี่สาวเธอเกิดใจดีอะไรขึ้นมา ก็เห็นๆ อยู่ว่าตัวเองอาจจะกำลังโดนสวมเขาอยู่ก็ได้ เชอะ...เอาเข้าไป จะรอให้สองคนนั้นไปนอนเล่นผีผ้าห่มกันก่อนสินะถึงจะเชื่อ

    ที่ปาบอกพี่ ว่ามีเรื่องด่วนเรื่องสำคัญ ก็แค่เรื่องนี้นะเหรอ

    คำว่า แค่ ที่หลุดออกมาจากปากของคนเป็นพี่ ทำให้ปาวิการณ์ยิ่งหายใจถี่ขึ้น ความไม่ได้รับการตอบสนองจากท่าทีของปลายนภาทำให้คนเป็นน้องอย่างเธอจี๊ดที่ใจอย่างแรง

    ก็ใช่น่ะสิ พี่รู้เอาไว้เลยน่ะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ปาเห็นพวกเขาสองคนไม่ให้เกียรติพี่มาตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่เพียงแค่นั้นนะ คนทั้งโรงพยาบาลเขายังเอาไปนินทากันเล่นจนหนาหูว่าสองคนนั้นต้องมีซัมติงส์กันแน่ ส่วนตัวพี่น่ะ ก็กำลังถูกสามีตัวเองสวมเขาให้ รู้ไว้ซะด้วย!

    ปลายนภายักไหล่ท่าทีนั้นดูไม่สะทกสะท้าน ก็แค่ข่าวลือ พี่น่ะเชื่อใจคุณหมอ” มือเรียวบางเอื้อมไปลูบผมเอาใจคนตรงหน้า คนเป็นสามีภรรยากันก็ต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน จำคำพูดที่คุณแม่สอนพวกเราไม่ได้หรือ

    อย่ามาอ้างเลยค่ะ น้องสาวชักสีหน้ามุ่ย “พี่น่ะ รักสามีจนไม่ลืมหูลืมตาแล้ว รู้ตัวหรือเปล่า

    ประโยคสนทนาสุดท้ายทำให้ร่างสูงที่กำลังเดินใกล้เข้ามาได้ยินชัดเจน ปลายเท้าของอดิรุธชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับไปเป็นปรกติ หญิงสาวสองคนที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ดูเหมือนจะไม่ทันได้สังเกตเห็นการมาของเขา

    ไงเรา มาทำอยู่แถวนี้ ประโยคแรกอดิรุธเลือกเอ่ยทักปาวิการณ์ก่อน แอบเหลือบไปมองที่ผู้หญิงอีกคนเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันไปที่ปาวิการณ์ต่อ

    ปามาจับหัว... คำว่า ขโมยถูกกลืนเข้าคอแทบจะไม่ทัน เมื่อเจอสายตาปรามดุมาของปลายนภาก่อน แต่อดิรุธไม่ทันสังเกตเห็น ปาวิการณ์พ่นลมหายใจหนักออกมาก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงบึ้งตึงไม่พอใจ ปาก็แค่มาหากาแฟดื่ม ทำไมค่ะ หรือว่าปาจะมาไม่ได้

    อดิรุธเพียงแต่ส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆ ให้กับท่าปั้นปึงเหมือนเด็กของคนตรงหน้า รู้นิสัยของปาวิการณ์ดี ท่าทีแบบนี้สงสัยเขาต้องทำอะไรให้เธอไม่พอใจเป็นแน่ แต่มันเป็นเรื่องอะไรนั้นเขายังดูไม่ออก

    วันนี้ดูท่าจะอารมณ์ไม่ดี มีใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า อดิรุธหยั่งเชิง ใบหน้าหล่อเหลาเจือรอยยิ้มเอ็นดูส่งมา แต่ปาวิการณ์ยิ่งเห็นก็ยิ่งหงุดหงิด เมื่อมองเห็นท่าทีที่ เฉยของพี่สาวแล้วปาวิการณ์ก็ยิ่งฮึดฮัดอึดอัดในใจเป็นทวีคูณ รู้สึกว่าทนอยู่ท่ามกลางกระแสอะไรบางอย่างของคู่สามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้อีกต่อไป

    โธ่โอ๊ย!” ปาวิการณ์สบทออกมา ก่อนจะมองพี่สาวทีพี่เขยที แล้วก็หมุนตัวหุนหันเดินออกไป ทิ้งให้ปลายนภาและอดิรุธมองตามอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจกับอากัปกิริยาเหล่านั้นเท่าไหร่นัก

     

    หญิงสาวเอื้อมมือไปรับกาแฟจากเขาพร้อมกล่าวขอบคุณ

    เห็นอีกฝ่ายอ้อมไปนั่งยังเก้าอีกด้านข้างแทนที่จะตรงข้าม หล่อนเหลือบมองแวบเดียวก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่ม เขายังนิ่งเงียบ

    ไม่คิดจะถามหน่อยหรือคะว่าฉันกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่

    ทีนี้เห็นว่าเขาขยับตัว และดูเหมือนจะอ้าปาก แต่ปลายนภาเอ่ยขึ้นก่อน

    ฉันเพิ่งมาถึงเมื่อเช้าน่ะค่ะ หล่อนยิ้มไม่มากและไม่น้อยเกินไป แล้วคุณล่ะคะ

    เห็นสีหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่เข้าใจ ปลายนภาจึงรู้สึกตัวว่าตัวเองใช้คำถามที่สั้นเกินไป จึงควรถามใหม่ให้ชัดขึ้น ฉันหมายถึง วันนี้คุณว่างหรือค่ะ ถึงมาดื่มกาแฟได้ น้ำเสียงที่ใช้นั้นรายเรียบจนแทบหาอารมณ์ความรู้สึกของคนพูดไม่ได้

    คนถูถามพยักหน้ารับ ผมออกเวรพอดี

    อ๋อ หล่อนรับรู้สั้นๆ

    ในขณะที่อดิรุธหรี่ตาลง เป็นพฤติกรรมทีเผลอที่เขาไม่เคยรู้ตัว มันมักจะเกิดขึ้นเมื่อเขารู้สึกไม่พอใจกับบางสิ่งบางอย่าง และหาเหตุผลในความไม่พอใจต่อเรื่องนั้นๆ ไม่ได้

    แล้วคุณล่ะ มาที่นี้ มีธุระอะไรหรือเปล่า

    ฉัน... ดูเหมือนปลายนภาจะติดอ่างขึ้นมา หล่อนจะบอกความจริงได้อย่างไร หญิงสาวเบือนหน้าไปทางอื่น ก็แวะมาเยี่ยมยัยปาและก็มาส่งคุณแม่ทำธุระแถวนี้ เห็นสายตาที่มองมาเหมือนไม่เชื่อ ปลายนภาเริ่มรู้สึกอึดอัด หล่อนไม่ชอบสายตาแบบนี้ แบบที่เขาชอบใช้กับหล่อนอยู่เรื่อยมา สายตาที่นิ่งลึกจนไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของเจ้าของได้

    หญิงสาวขยับตัว ใกล้จะเย็นแล้ว ฉันกลับก่อนดีกว่าค่ะ มีงานค้างเอาไว้ พูดไปแล้วก็ได้แต่เจ็บใจตัวเอง หล่อนไม่จำเป็นจะต้องบอกเหตุผลในการกลับของหล่อนเลยนี่นา พยายามดับความหงุดหงิดในใจด้วยการยกกาแฟดื่มรวดเดียวหมด “ฉันขอตัวนะคะ หล่อนคว้ากระเป๋าข้างกายแล้วลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้า อดิรุธก็เอ่ยขึ้นก่อน

    เดี๋ยวกลับพร้อมกัน คุณไม่ได้เอารถมาใช่ไหม ร่างสูงนั้นยืนขึ้นตาม

    ปลายนภาส่ายหน้าแทนคำตอบ ไม่ทันแม้แต่จะเอ่ยถามว่าเขารู้ได้ยังไง

    ถ้างั้นคุณรอผมแป็บนึง

    ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนั่งแท็กซี่กลับเองได้เอ่ยปฏิเสธและก็ได้ยินเสียงค้านดังตามเข้ามา

    ทำไมต้องลำบากไปนั่งแท็กซี่ ยังไงซะ คุณกับผมก็ต้องกลับบ้านหลังเดียวกันอยู่แล้ว

    เท่านั้นแหละ ปลายนภาก็ยืนเฉย ไม่เอ่ยรับปาก แต่หล่อนรอเขา ก้าวเดินไปลานจอดรถของโรงพยาบาลพร้อมเขา และนั่งรถที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความเงียบกลับบ้านไปกับเขา

     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×