คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11
ตอนที่ 11
‘สามีคุณเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง!’
‘การที่คุณเป็นภรรยาของเขานั้นเป็นสิ่งดี ที่จะช่วยให้คุณจับตาดูเขาได้ง่ายขึ้น ทั้งชีวิตประจำวัน งานอดิเรก และกิจกรรมที่เขาชอบทำ มีอะไรที่น่าสงสัยและผิดปรกติจากที่ควรจะเป็นบ้าง’
‘คุณต้องอาศัยความใกล้ชิดเพื่อหาหลักฐานที่เขาอาจจะซุกซ่อนและปิดเป็นความลับไว้’
‘ทำอย่างไรก็ได้เพื่อแยกสองคนนี้ออกจากกันก่อนที่สองคนนี้จะร่วมมือกันทำอะไรกันต่อไป’
‘คุณคอยจับตาดูสามีคุณ’
‘ส่วนผมจะตามสืบเรื่องผู้หญิงที่ชื่อฟ้าลดาเอง’
“ปลายเป็นอะไร นั่งใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี้ย”
นิชมน หรือ ที่มีชื่อเล่นว่า แป้งร่ำอดีตนักข่าวสายอาชญากรรมที่ผันตัวเองมาเป็นแม่บ้านหลังแต่งงาน เอ่ยเรียกเพื่อนสาวคนสนิทพร้อมกับโบกมือไหวๆ ไปมาอยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบสนองด้วยการหันมาก็ค่อยโล่งอกที่เห็นว่าเพื่อนเธอยังมีชีวิตอยู่ ก็อดที่จะให้คิดแบบนั้นไม่ได้นี่นา ก็ตั้งแต่เช้ามาถึงบ้าน ปลายนภาก็เอาแต่นั่งถอนหายใจไปมา นั่งนิ่งไม่พูดจากับใครจนเวลาล่วงเลยมาถึงสองชั่วโมงแล้ว นิชมนจึงต้องเดินมาเอ่ยเรียกดูเสียหน่อยหลังจากได้แต่แวะเวียนมาเยี่ยมๆ มองๆ เป็นระยะๆ หลังจากที่ปลายนภาขอเวลาอยู่คนเดียวสักครู่
“ไหวไมแก มีเรื่องอะไรไม่สบายใจแกก็บอกฉันได้นะ” ร่างที่ออกไปทางท้วมสมบูรณ์เพราะกำลังอุ้มท้องลูกแฝดสี่ที่ใกล้คลอดอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเดินอุ้ยอ้ายนั่งลงยังเก้าอี้นุ่มพร้อมๆ กับจ้องหน้าเพื่อนสนิทนิ่ง
ปลายนภาขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้ เพื่อที่จะลดเสียงการสนทนาให้เบาที่สุด
“แป้ง แกยังจำข่าวการตายของตฤณกับดารรินได้ไหม” ปลายนภาเอ่ยเข้าประเด็น “ตอนนั้น แกเป็นคนเขียนข่าวของคดีนี้ แกยังพอจำมันได้ไหม”
“จำได้” อดีตนักข่าวสาวพยักหน้า “สำนวนข่าวที่ฉันเขียนก็มาจากแฟ้มข้อมูลของตำรวจที่ให้มานั่นแหละ แกจะถามถึงมันทำไม”
“ฉันอยากให้ตัวเองแน่ใจ ว่าทุกอย่างมันไม่มีข้อกังขาใดๆ อีก”
นักข่าวสาวถอนหายใจ “นี่แกยังไม่ลืมตฤณอีกเหรอ เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งปีกว่าแล้ว”
สายตาของคนถูกถามหมองลงเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“แกช่วยเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ทางตำรวจแถลงเกี่ยวกับคดีนี้อีกครั้งได้ไหม”
“เท่าที่ฉันจำได้” นักข่าวสาวคิดย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมาปีกว่านั้นอีกครั้ง" “ทางตำรวจสรุปคดีเรื่องการตายของดารรินว่าถูกฆาตกรรมจากนายตฤณ พิรชลธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่หญิงสาวอาศัยอยู่ สาเหตุไม่แน่ชัดแต่จากการสันนิษฐานคงเป็นเรื่องชู้สาว” เจ้าของข่าวหยุดเล่าเพื่อสังเกตท่าทีของคนฟังสักครู่ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังนิ่ง จึงเอ่ยต่อ “ สิบเจ็ดนาฬิกาตรงของวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาก็คือนายตฤณ เดินทางไปรับแฟนสาวซึ่งก็คือเธอที่โรงแรม ในขณะเดียวกันโรงแรมที่ว่าก็เป็นที่ทำงานของดารรินซึ่งเป็นผู้ตายด้วยเช่นกัน ผู้ตายไปดักรอผู้ต้องหาเพื่อคุยเรื่องที่ตนและเขามีความสัมพันธ์ลับๆ กัน ผู้ตายมีความหึงหวงและอาจข่มขู่ว่าจะเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดให้แฟนสาวที่กำลังจะแต่งงานในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าของผู้ต้องหาฟัง ผู้ต้องหาไม่ยอมก็เลยเกิดมีปากเสียงกันเข้า และเพราะอารมณ์ชั่ววูบจึงพลั้งมือฆ่าผู้ตายโดยไม่ได้เจตนา”
“แล้วเรื่องการตายของตฤณล่ะ”
“ตำรวจสรุปว่าเป็นการวางเพลิง” นักข่าวสาวให้คำตอบ “หลังจากตฤณรับสารภาพว่าเขาเคยมีความสัมพันธ์กับดารรินจริงๆ และวันนั้นเขาและเธอก็เกิดมีปากมีเสียงกัน แต่เขาไม่ยอมรับเรื่องที่เขาฆ่าดารริน แต่จากหลักฐานดีเอนเอที่นิ้วมือของดารรินก็ทำให้เขาดิ้นไม่หลุด ตฤณถูกนำไปฝากขังที่โรงพักรอการขึ้นศาล เพียงแค่คืนเดียวก็เกิดไฟไหม้โรงพักที่เขาถูกควบคุมตัวอยู่ ตฤณถูกไปคลอก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและมาขาดใจตายที่โรงพยาบาล”
ปลายนภารับฟังเรื่องทั้งหมดด้วยอาการสงบกว่าที่คิด ขณะที่นักข่าวสาวส่ายหน้าช้าๆ เพราะคิดไม่ตกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“ฉันของสารภาพตามตรงเลยนะปลาย ตัวฉันเองก็คิดไม่ตกจริงๆ ว่าถ้าตฤณตายไป แล้วใครจะได้ประโยชน์จากการตายของเขามากที่สุด ใครที่ใส่ร้ายเขา และใครที่ต้องการให้เขาตาย”
“ถ้าการที่ไฟไหม้โรงพักเป็นการวางเพลิงจริง นั่นก็แสดงว่ามีคนอยากจะฆ่าตฤณเพื่อปิดปากใช่ไหม”
“แต่ตอนนี้คดีผ่านมาตั้งปีกว่าแล้ว ตำรวจยังจับมือใครดมไม่ได้เลย” นักข่าวสาวเบะปากอย่างนึกรังเกียจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“แต่เธอเชื่ออย่างฉันใช่ไหม ว่าตฤณไม่มีวันฆ่าดารริน”
คนถูกถามส่ายหน้าอีกครั้ง
“ฉันเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะ เพราะหลักฐานก็มีแค่รอยดีเอ็นเอเท่านั้น และมันก็เป็นหลักฐานชิ้นเดียวในที่เกิดเหตุอีกด้วย”
อดิรุธชะงักเท้าเมื่อเปิดประตูเข้ามาพบร่างสาวงามในชุดนอนสีครีมเนื้อผ้าซาตินลื่นสายเดี่ยว รอบอกของชุดระบายด้วยลูกไม้สีขาว ช่วงด้านหน้าเป็นคอวีลึก...ปลายนภานั่งอยู่ปลายเตียงในห้องนอนของเขาและหญิงสาวก็ไม่ได้ใส่เสื้อคลุม
ชายหนุ่มชะงักปลายเท้าอยู่แค่หน้าประตู ขาแข็งขึ้นมาเสียดื้อๆ มือที่จับลูกบิดประตูยังค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น
‘ปลายนภาเข้ามาในห้องนอนของเขาทำไม?’
หญิงสาวในห้องเปิดยิ้มให้เขาก่อน ยิ้มหวานมาก...มากกว่าครั้งไหนๆ ที่เขาเคยเห็นมา ไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตัวเอง อยากจะปิดประตูแล้วเปิดเข้ามาใหม่ บางทีอาจเป็นแค่ภาพหลอน
“กลับมาแล้วหรือคะ”
เสียงหวานดังขึ้น ทำให้มือที่จับอยู่ตรงลูกบิดประตูร่วงผล็อยลงอย่างอัตโนมัติ ร่างที่อยู่ภายใต้อาภรณ์ลื่นพลิ้วนั้นขยับลุกขึ้นเดินตรงมาหาร่างสูงของเขา และเพราะขาแข็งไปแล้วจึงขยับถอยไม่ได้ แต่สายยังคงทำงานได้ดีอยู่ เมื่อยังเห็นชัดว่าชุดนอนที่หญิงสาวตรงหน้าสวมใส่นั้น หากยืนขึ้นแล้วมันสั้นกว่าที่เขาเห็นขณะที่เธอนั่งอยู่ปลายเตียงมาก จากยาวคลุมเข่ากลายเป็นสั้นเลยเข่าขึ้นไปอีกหลายคืบ
รู้สึกคอแห้ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าขึ้นมาเขาเพิ่งดื่มน้ำที่ลั่นทมสาวใช้ในบ้านยกมาให้แท้ๆ และเริ่มรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองร้อนขึ้น คลับคล้ายจะเป็นร้อนในเมื่อแขนบางโอบรอบแขนของเขา
ไม่น่าเลย...ไม่น่ากินลำไยที่ญาติของคนไข้เอามาฝากเพื่อแสดงน้ำใจต่อเขามากไปเลย เห็นไหม! ไอ้รุธ อาการร้อนในของตัวเองถึงได้เกิดขึ้น
“วันนี้กลับดึกจังค่ะ” คนพูดเหลือบไปมองที่นาฬิกาข้อมือของเขา สักพักก็เอ่ยต่อ “สามทุ่ม”
“คุณมีอะไรหรือเปล่า”
“มานั่งตรงนี้ก่อนคะ”
ร่างสูงพยายามฝืนแรงลากของอีกฝ่ายและอยากจะเถียงออกไปว่าปรกติเขาก็กลับบ้านเวลานี้เป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าเมื่อไหร่ออกเวรช่วงบ่าย กว่าจะจัดการเรื่องเอกสารที่เขาต้องเซนอนุมัติในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลและไหนจะเรื่องอื่นๆ อีกจิปาถะ สามทุ่มนี้ถือว่าเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะปฏิบัติได้แล้ว
“เหนื่อยไหมคะ”
ปรกติก็ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ แต่วันนี้และตอนนี้กำลังรู้สึกเหนื่อยเมื่อร่างสูงของเขาถูกบังคับให้นั่งที่เตียงได้สำเร็จ และมือบางนั้นก็เริ่มปลดเสื้อนอกและต่อด้วยการปลดเน็คไท สักพักก็ขยับตัวอ้อมไปด้านหลัง มือบางทั้งสองข้างวางลงที่ไหล่กว้างทั้งสองด้าน มันเลื่อนไปที่บ่าแล้วก็เลื่อนลงมาที่ด้านหน้า
ร่างสูงลุกพรวดขึ้นจากเตียง แล้วหันกลับไปยังร่างบางที่นั่งแหมะอยู่ แถมยังชักสีหน้ามึนงงกับการกระทำของเขา ที่อยู่ๆ ก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาเฉยๆ
“คุณ…จะทำอะไร” โอ๊ย...รู้สึกคอแห้งจนน้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นเบาหวิว
“ฉันแค่จะนวดไหล่ให้คุณเฉยๆ เห็นว่าคุณเหนื่อย”
‘ผมไม่เหนื่อย จะมาเหนื่อยก็เพราะคุณนี่แหละ!’ อดิรุธเอ่ยค้านในใจ
“คุณไม่สบายหรือเปล่า” น้ำเสียงเรียบนิ่งมาพร้อมพร้อมสีหน้าขรึมจัดส่งออกไปให้คนที่ขยับตัวลงจากเตียง ชุดนอนเนื้อลื่นนั้นลู่ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้สวมใส่ อดิรุธรู้สึกคอแห้งจนต้องกลืนน้ำลาย
“เปล่านี่คะ” หญิงสาวเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มหวานอีกครั้ง
ไม่ไหว ไม่ไหว! วันนี้แอร์เสียหรือไง! ทำไมมันร้อนอย่างนี้ หรือว่าตัวเขาเองกำลังจะเป็นไข้
ปลายนภาเห็นท่าทางที่ดูกระสับกระส่ายแล้วจึงขมวดคิ้วมุ่น
“ทำไมคุณทำหน้าอย่างกับเห็นผีอย่างนั้นล่ะ นี่ฉันปลายนภา เมียของคุณนะคะ”
อดิรุธรีบปฏิเสธในใจ ‘ไม่ใช้มั้ง ทุกวันไม่เคยเห็นเป็นอย่างนี้ นี่กินยาอะไรเข้าไปผิดหรือเปล่า’
เจ้าของใบหน้าสวยบาดใจนั้นยังไม่ล่ะความพยายามเมื่อเปิดยิ้มหวานส่งมาให้ชายหนุ่มรูปงานอีกครั้ง
‘โธ่…อย่ายิ้มแบบนั้นเลยนะปลายนภา ผมขอร้อง!’ ก่อนแต่งงานก็เพิ่งไปตรวจสุขภาพมานี่นา ผลที่ออกมาก็ปรกติดี แต่ทำไมวันนี้ถึงเกิดความรู้สึกว่าหัวใจจะวายเสียให้ได้ ไม่ได้การณ์แล้วล่ะ ถ้าวันไหนว่างเขาคงต้องหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อตรวจระบบหัวใจตัวเองให้ถ้วนถี่อีกสักครั้ง บางทีตอนนี้เขาอาจเป็นโรคหัวใจแล้วก็ได้
“มาสิคะรุธ” เสียงที่ได้ยินฟังดูเย้ายวนจนอดิรุธเกือบเผลอไผลไปตาม “ถ้าคุณไม่ชอบนวด งั้นก็เปลี่ยนเป็นอาบน้ำดีกว่าไหม” คนพูดเสนอทางออกให้ใหม่ “มาค่ะ เดี๋ยวฉันช่วยถอดเสื้อให้”
มือบางที่เอื้อมเข้ามาจะทำตามที่พูดถูกเขาจับรวบไว้ก่อน “ปลาย ผมว่าคุณกำลังไม่สบาย” เป็นการยากยิ่งที่จะทำน้ำเสียงให้ปรกติโดยไม่มีอาการสั่นร่วม
คนถูกหาว่าไม่สบายส่ายหน้าดิก “ไม่นี่คะ ฉันสบายดี คุณไม่เชื่อก็ลองจับ...”
“ไม่จับ!” อดิรุธโพล่งออกไปแทบจะทันที
“ไม่จับก็ไม่จับ แค่หน้าผากเอง นี่คุณรังเกียจฉันมากขนาดนั้นเลยหรือค่ะ” คนพูดหน้างอ ส่วนอดิรุธเกือบจะอ้าปากค้างไปแล้วเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของหญิงสาวตรงหน้า
ไม่ใช่แน่ๆ ไม่ใช่ปลายนภาหรอก ปลายนภาที่เขาเคยรู้จักไม่ได้เป็นแบบนี้!
“ดึกมากแล้ว ผมว่าคุณกลับไปที่ห้องของคุณดีกว่า ผมเองก็จะอาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเหมือนกัน”
เขาไม่ชอบการนอนดึก ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะหลีกเลี่ยง แต่ด้วยหน้าที่การงานแบบนี้บางทีมันก็หลีกเลี่ยงได้ยาก คนนอนดึก อดนอน ระบบฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ขจัดไขมันในร่างกายจะถูกรบกวน ความสามารถในการเผาผลาญไขมันก็จะลดลง และเมื่อเผาผลาญไม่ทันก็จะเก็บสะสมเอาไว้ที่พุง ดังนั้นการนอนดึกอาจจะเสี่ยงต่อการที่จะทำให้เขาลงพุงได้ แบบนั้นคงจะไม่ดีต่อสุภาพเป็นแน่
ดูเหมือนจะถูกไล่แบบอ้อมๆ ปลายนภาหันกลับมา สีหน้างอเปลี่ยนเป็นบึ้งขึ้นเล็กน้อย แต่น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นอ่อนเชื่อมราวกับน้ำผึ้งหวานชั้นดี “ฉันยังไม่ง่วงเลยคะ” มือบางทั้งสองข้างเอื้อมมาจับแขนของเขาเอาไว้ แล้วก็...
อย่าลูบนะ! อย่าลูบสิ! บอกว่าอย่าลูบ! เสียงร้องห้ามนั้นดังก้องอยู่ในร่างสูงที่ยังตีสีหน้านิ่ง
ขณะที่มือของปลายนภาก็ลูบขึ้นลูบลงสลับกับการไล้เบาๆ แม้จะมีเนื้อผ้ากั้นระหว่างนิ้วมือของหญิงสาวและเนื้อแขนของเขา แต่เพราะวันนี้เขากินลำไยและร้อนใน มันก็เลยยิ่งทำให้ที่แขนรู้สึกร้อนกว่าส่วนอื่นๆ เขาสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
“คืนนี้ฉันขอนอนด้วยคนนะคะ”
‘ห่ะ!’
ร่างสูงที่ยืนทำหน้าขรึมอยู่เกือบจะหงายตึงลงไปนอนที่พื้น
“คุณว่าอะไรนะ!” นี่เขาหูฟาดหรือเป็นเพราะปลายนภาเสียสติ
“นะคะรุธ” สายตาอ่อนเชื่อมเหลือบขึ้นมามอง แต่ชายหนุ่มกลับเสไปมองทางอื่น “เดี๋ยวนี้ฉันฝันร้ายบ่อย ฉันกลัว ไม่กล้านอนคนเดียว”
อดิรุธรีบส่ายหน้า ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ทำไมคะ หรือคุณไม่สะดวก” หญิงสาวจงใจแนบลำตัวด้านหน้าตั้งแต่ช่วงอกจนถึงหน้าท้องให้เบียดชิดอยู่ที่แขนของเขา ในขณะที่ศีรษะได้รูปเอียงเข้าซบที่ไหล่กว้าง มือที่ลูบไล้แผ่วเบาก็ยังทำหน้าที่ของมันต่อไป นาทีนี้อดิรุธแทบจะยืนกลั้นหายใจและยิ่งเขาพยายามตั้งสติตัวเองเท่าไหร่ แขนของเขาก็ยิ่งรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มที่เคลื่อนไหวผ่านผ้าลื่นที่ขยับตามแรงหายใจของคนพูด ชัดเจน แม่นยำยิ่งขึ้น
‘ใช่ ไม่สะดวก ไม่สะดวกแน่นอน!’
“หรือห้องนี้ เตียงนี้เล็กเกินไป” หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้อง พยายามหาเหตุผล
“ถ้างั้นเราย้ายไปนอนที่ห้องของฉันแทนก็ได้”
‘ไม่ย้าย!’
“เปลี่ยนไปอาบน้ำที่ห้องนอนฉันก็ได้ค่ะ”
‘ไม่เปลี่ยน!’
“ทำไมคุณเงียบไปละคะ”
ปลายนภาผละศีรษะที่ซบอยู่ที่ไหล่กว้างออกเพื่อเงยขึ้นมาเผชิญหน้ากับคู่สนทนาได้ถนัด แต่ขณะที่เผชิญหน้าและจะอ้าปากถามเขาอีกครั้ง สิ่งที่เห็นก็ทำให้ปลายนภาเบิกตาโตด้วยความตกใจ
“รุธคะ นั่นเลือดกำเดาคุณไหลนี่!”
อดิรุธสะดุ้งเฮือกกก...ขยับร่างถอยหลบการจู่โจมของสาวงามตรงหน้า
“เดี๋ยว! นั่นคุณจะทำอะไร”
มือบางที่กำลังแกะกระดุมเสื้อหยุดชะงัก หญิงสาวจ้องมองร่างสูงที่นอนพิงหมอนที่ซ้อนกันถึงสามใบเพื่อที่จะให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ
“ก็จะถอดเสื้อให้คุณนะสิคะ”
“จะถอดทำไม ผมแค่เลือดกำเดาไหล” เพราะมือทั้งสองข้างกำลังถือผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณจมูกจึงไม่ว่างที่จะจับมือบางที่กำลังปลดเบื้องเสื้อผ้าของเขาอยู่ ‘โธ่เอ๊ย...ปลายนภา คุณรู้ตัวบ้างไหมว่าเลือดกำเดาผมจะไหลไม่หยุดก็เพราะคุณนี่แหละ’
“เสื้อของคุณเปื้อนเลือด” หญิงสาวให้เหตุผล เชิ้ตสีขาวมีคราบเลือดอยู่จุดหนึ่ง หญิงสาวจึงจะถอดและก็จะได้เปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ให้ อดิรุธก็เพิ่งจะเห็นดังนั้นจึงไม่ได้ห้ามปรามการกระทำของเธออีก
มือของปลายนภาจึงดำเนินการต่อไปจากเม็ดที่หนึ่งเลื่อนลงไปยังเม็ดที่สอง
“ทำไมอยู่ๆ เลือดกำเดาถึงออกได้ล่ะคะ” หญิงสาวส่ายหน้าไม่เข้าใจในสาเหตุ
แต่คนที่นอนหนุนหมอนอยู่ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นอีกครั้งที่อดิรุธรู้สึกว่าตัวเองต้องกลั้นหายใจ
“การที่ร่างกายขาดวิตามินอย่างเช่น วิตามินซี วิตามินเค ก็อาจทำให้เลือดกำเดาออกได้ง่าย” อดิรุธเอ่ยบอก เป็นความรู้พื้นฐานที่คนเป็นแพทย์อย่างเขารู้ ความจริงอาจมีหลายสาเหตุซึ่งเขาขี้เกียจอธิบายให้เธอฟังไปมากกว่านี้ เลือกเอ่ยบอกข้อที่เป็นสาเหตุแบบง่ายๆ ให้เธอเข้าใจไปก่อน อย่าให้รู้ความจริงเชียวว่าเพราะอะไร เพราะอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้น เส้นเลือดฝอยเล็กๆ จึงฉีกขาดและทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหล อุณภูมิที่สูงขึ้นคงเป็นเพราะลำไย นั่นแหละ อดิรุธพยายามบอกตัวเอง
เห็นปลายนภาพยักหน้าแต่แล้วเธอก็มีสีหน้าตึงเครียดขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้น หมายความว่าคุณก็ขาดวิตามินพวกนี้นะสิคะ”
อดิรุธพยายามพยักหน้างึกๆ เพื่อตอบรับเอาตัวรอดไปก่อน
“วันหลังคุณควรทานผัก ทานผลไม้ให้มากๆ ของพวกนี้วิตามินซีสูง”
อีกครั้งที่อดิรุธพยายามพยักหน้างึกๆ ทั้งที่พักสายตาโดยการหลับตานิ่งเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นเรือนร่างสาวงามในชุดนอนสีครีมนั่นอีก
“คุณแน่ใจนะคะ ว่าตัวเองแค่ขาดวิตามิน ไม่ใช่ว่าเป็นอะไรร้ายแรง”
อยากจะเอ่ยปากถามเหมือนกันว่าเธอเป็นห่วงเขาด้วยเหรอ แต่เพราะความเพลียชายหนุ่มเลยทำเพียงแค่นิ่งเงียบ
กระดุมเม็ดที่สองผ่านไปยังเม็ดที่สาม
“ถ้าแค่ขาดวิตามินก็ค่อยยังชั่ว ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ฉันจะบอกพี่ลั่นทมให้...”
อยู่ๆ ทั้งมือทั้งน้ำเสียงของปลายนภาก็หยุดชะงักไปพร้อมกัน
หญิงสาวจ้องเขม็งไปที่กล้ามเนื้อท้องที่ราบเนียนจนแลเห็นกล้ามข้างซ้าย 3 มัด ข้างขวา 3 มัด
โอ้ว!...ซิกแพค!
ปลายนภารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเธอกำลังสูบฉีดด้วยความเร็วและแรงจนมันตีขึ้นหน้าขึ้นตัวเธอไปหมด
มือที่เลื่อนไปยังกระดุมเม็ดสุดท้ายนั้นดูลนๆ เล็กน้อย ขณะคนที่นอนหลับตานิ่งอยู่ไม่ได้รับรู้ถึงความเป็นไปรอบกายของตัวเอง
อีตานี่! มีซิกแพคกับเขาด้วยเหรอ? คำถามนั้นดังขึ้นถามตัวเองเงียบๆ พร้อมกับใบหน้าที่กำลังปรากฏสีระเรื่อขึ้นมา ไม่เคยเห็นเขาเข้ายิมหรือออกกำลังกายเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วไปเอาซิกแพคที่กระชากใจสาวๆ แบบนี้มาจากไหนกัน?
ปลายนภาเริ่มรู้สึกว่าเลือดกำเดาของตัวเองเริ่มที่จะออกบ้าง นี่ร่างกายของเธอก็ขาดวิตามินเดียวกันกับเขาเลยหรือนี่!
ความคิดเห็น