ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมผลงานหลินโหม่ว - ซีเรีย

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอนพิเศษ BOSS จินตนาการพิสดาร : เลิกทายปัญหาเชาว์ได้แล้ว!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.19K
      8
      17 ก.พ. 53

    .

    ตอนพิเศษ BOSS จินตนาการพิสดาร

     

    เลิกทายปัญหาเชาว์ได้แล้ว!

     

    ตัวละคร

     

    จื่ออวี๋ (พระเอก BOSS ฝูซี) ชื่อในเกม : โหย่วสือโหยวอวี่ (มีฝนบางเวลา)

     

    เสียวหรุ่ย (นางเอก เป็นแฮคเกอร์) ชื่อในเกม : ค่งเก๋อเจี้ยน (ปุ่มสเปซบาร์)

     

    อู๋ตี๋เป๋าเป่าจู (หนูน้อยหมูผู้ไร้เทียมทาน : ผู้หญิง เป็นคอลัมนิสต์นิตยสารเกมออนไลน์ที่ดังและขายดีที่สุด)

     

    อาจ่าย (ชาย : BOSS สิงเทียน) ชื่อในเกม : ตานเซินหนานจ่าย (หนุ่มน้อยโสด)

     

    A+ (ชาย : BOSS เจ้าแม่หวางหมู่) ชื่อในเกม : กวงหมิง A+ (แสงสว่าง A+)

     

    อาอิ่ง (ชาย : BOSS หนวี่วา) ชื่อในเกม : เยว่จืออิ่ง (เงาจันทรา)

     

     

    บ่ายแก่ๆ ที่ไม่มีงานสำคัญอะไร จื่ออวี๋ออนไลน์เข้าไปในสงครามเทพฯ เนื่องจาก ID ของเขาเป็นที่เปิดเผยไปแล้ว ดังนั้นชายหนุ่มจึงเข้าไปเล่นแต่ในเซิร์ฟเวอร์ทดลองโดยตรงตลอด โดยฉวยโอกาสทดสอบโปรแกรมใหม่กับเควสใหม่ในเซิร์ฟเวอร์ทดลอง และเสวนากับพวกที่พูดจาไม่ถูกคอกันสัก 2-3 คำไปด้วยพร้อมกันเสียเลย

     

    แต่วันนี้จื่ออวี๋ยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะทำอะไรดี ค่งเก๋อเจี้ยน ที่ได้รับข้อความเตือนบอกว่าจื่ออวี๋ออนไลน์แล้วก็กลายเป็นแสงพุ่งวาบมาโผล่ข้างๆ จื่ออวี๋ทันที

     

    ตั้งแต่ระบบแต่งงานเพิ่มทักษะหายตัวไปหาอีกฝ่ายได้ในพริบตา เสียวหรุ่ยก็คว้าตัวเขาไปทำภารกิจแต่งงานกันใหม่ทันที ที่จะบ้าตายคือเซิร์ฟเวอร์ทดลองดันลบข้อมูลทั้งหมดทิ้งเป็นระยะๆ นี่สิ...

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : เสียวอวี่ มาได้จังหวะพอดีเลย จะถามคำถามคำถามนึงนะ~"

     

    ยายหนูนี่จะถามคำถามปัญญาอ่อนอะไรอีกล่ะ? คงไม่ใช่คำถามสุดยอดคลาสสิคในตำนานที่ว่าถ้าสองคนตกเหวไปพร้อมกันแล้วละเลือกช่วยใครหรอกนะ?

     

    รอด้วยใจตุ๋มๆ ต้อมๆ อยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็เห็นคำถามของยายหนูโผล่ขึ้นมาในช่องสนทนาจนได้

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : ปุจฉา การเอาช้างเข้าตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?"

     

    เอ้อ...คำถามแบบนี้น่าจะเป็นปัญหาเชาว์สินะ? พูดตามตรงว่าเขาไร้พรสวรรค์ในเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงถามออกไปซื่อๆ แต่โดยดีว่า

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : มีกี่ขั้นตอนหรือ?"

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : มีสามขั้นตอน เปิดประตูตู้เย็น ผลักช้างเข้าไป ปิดประตูตู้เย็น"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........."

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : ถามอีกนะ! การเอายีราฟเข้าตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : .........สามขั้นตอน?"

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : ผิด! มีสี่ขั้นตอน เปิดประตูตู้เย็น ดึงช้างออกมา แล้วค่อยใส่ยีราฟเข้าไป ปิดประตูตู้เย็น"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........."

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : ถามอีกคำถามนะ! พวกสัตว์ทั่วโลกจัดงานประชุมกัน แต่มีสัตว์แค่ชนิดเดียวที่ไม่ได้ไป เธอรู้มั้ยว่าสัตว์ชนิดไหน?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : .........สัตว์ชนิดไหน?"

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : เสียวอวี่นี่โง่จัง ไม่ยอมคิดเอาเลย ก็ยีราฟไงเล่า! ยีราฟยังถูกขังในตู้เย็นอยู่เลยไง!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." ความจริงเขาเริ่มอยากจะด่าคนขึ้นมาตงิดๆ แล้ว...

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : คำถามสุดท้าย ต้องคิดให้ดีๆ นะ! คุณพ่อของเสี่ยวหมิงพาเสี่ยวหมิงไปเที่ยวสวนสัตว์ เสี่ยวหมิงพลาดตกลงไปในบ่อจระเข้ ทำไมจระเข้ถึงไม่กินเขา?"

     

    ทำไมจระเข้ถึงไม่กินเสี่ยวหมิง?

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : .........เพราะจระเข้กินอิ่มแล้ว?"

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : เพราะจระเข้ไปร่วมงานประชุมสัตว์ทั่วโลกต่างหากเล่า! เสียวอวี่นี่นะ...เจ๊เป่าจูทายถูกจริงๆ ด้วย เธอตอบคำถามไม่ถูกเลยซักข้อ!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." เขานึกแล้วเชียวว่าอยู่ดีๆ เสียวหรุ่ยไม่มีทางนึกสนใจปัญหาเชาว์ขึ้นมาได้แน่ๆ ที่แท้ก็ยายมารร้ายเป่าจูแอบยุมานี่เอง!

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : น่าเสียดายจัง ตอนแรกตกลงกันว่าขอแค่เธอตอบถูกข้อเดียว เจ๊เป่าจูก็จะให้ MP3 ฉันเชียวนะ"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : พวกเธอพนันกันด้วยเรอะ?????" จบเห่กัน...จื่อวี๋เริ่มรู้สึกได้แล้วว่ามหันตภัยกำลังหล่นใส่หัวเขา เพราะยายหมูตัวนั้นไม่มีทางพูดถึงแค่กรณีที่ตัวเองแพ้โดยไม่เอ่ยถึงกรณีที่ตัวเองชนะแน่ๆ ไม่รู้ว่ายายหนูนี่ไปตกลงรับปากอะไรยายหมูนั่นนี่สิ

     

    "ค่งเก๋อเจี้ยน : ใช่สิ! สุดท้ายเจ๊เป่าจูก็ชนะจนได้ เลยต้องให้เจ๊เขายืมเสียวอวี่ไปหนึ่งวัน..."

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." หนึ่งวัน...หนึ่งวัน...เขาจะมีชีวิตรอดพ้นหนึ่งวันนั้นไปได้มั๊ยยยย?

     

    ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกไม่ยุติธรรม จื่ออวี๋ตัดสินใจส่งข้อความลับไปหายายหมูมารร้ายที่ไม่ทราบว่าซ่อนตัวรอเก็บเกี่ยวชัยชนะอยู่ตรงไหนโดยตรง

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : คำถามแบบนั้นไม่มีใครมันตอบได้หรอกนะ! เธอล่ะตอบได้หรือเปล่า? ถ้าเธอว่างนักก็ลองดูก่อนสิว่าเธอเองน่ะตอบได้มั้ย?"

     

    "อู๋ตี๋เป๋าเป่าจู : แหมๆๆ ก็เสียวอวี่น่ะโง่เองชัดๆ นายนึกว่าคนอื่นๆ เขาจะโง่เหมือนนายกันหมดหรือไง?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ผมไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะตอบได้"

     

    "อู๋ตี๋เป๋าเป่าจู : นายมาพูดแบบนี้เอาตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์น่า! ก็ฉันรู้คำตอบหมดแล้ว ย่อมจะไม่สามารถยืนยันให้เห็นถึงความแตกต่างของระดับความฉลาดของนายกับฉันอีกครั้งได้อยู่แล้ว"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ไม่ยุติธรรม! เรื่องที่พวกเธอพนันกันผมไม่ได้รู้เห็นด้วยซักนิด"

     

    "อู๋ตี๋เป๋าเป่าจู : เอาน่าๆ! ฉันรู้น่าว่านายไม่ยอมรับ! แต่ปัญญาหาเชาว์ 99% ฉันน่ะรู้คำตอบหมดแล้ว จึงไม่มีทางแข่งกับนายได้อยู่แล้วว่าใครทายถูกได้มากกว่ากัน เอางี้นะ ฉันคิดว่าปัญหาชุดนี้อีกสามคนในห้องทำงานของนายนั่นน่าจะไม่เคยได้ยินมาก่อน นายลองไปถามพวกเขาดู ถ้าในสามคนนั้นมีคนไหนที่ทายไม่ถูกเลยสักข้อเหมือนนาย ก็ถือว่านายชนะ เรื่องที่พนันกันก็ไม่นับ แต่ถ้าทั้งสามคนทายถูกอย่างน้อยคนละหนึ่งคำถาม อย่างนั้นนายก็ต้องยอมมาเป็นทาสของฉันหนึ่งวันแต่โดยดีล่ะนะ!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." ถึงแม้เขาอยากจะถามออกไปอย่างแรงว่าขอไม่พนันได้หรือเปล่า แต่คาดว่ายายหมูตัวนี้ไม่มีทางให้สิทธิ์ในการเลือกแก่เขาแน่ๆ

     

    ด้วยเหตุฉะนี้จื่ออวี๋ผู้สุดเซ็งจึงหันไปเริ่มลงมือกับเหยื่อรายแรก...

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ปุจฉา การเอาช้างใส่เข้าไปในตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?"

     

    "เยว่จืออิ่ง : หือ? อาอวี่เองก็เริ่มเล่นทายปัญหาเชาว์เหมือนกันเรอะ? มีสามขั้นตอนไง เปิดประตูตู้เย็น ใส่ช้างเข้าไป ปิดประตูตู้เย็น"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : นายเคยได้ยินมาก่อนแล้วเรอะ?" สวรรค์ช่างไร้ตาโดยแท้...

     

    "เยว่จืออิ่ง : ใช่แล้ว ความจริงปัญหาเชาว์นี้มันเก่ามากแล้วล่ะ เลิกฮิตไปนานแล้ว ตอนนี้เขาฮิตตลกหน้าตายกันแทน นายลองทายดูสิว่า ฉีหลิน (กิเลน) ไปที่ขั้วโลกเหนือ แล้วจะกลายเป็นอะไร?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........."

     

    "เยว่จืออิ่ง : ก็กลายเป็นปิงฉีหลิน (ไอติม) ไงเล่า!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." แม่งOOXX...

     

    สมแล้วที่เป็นไอ้หนุ่มจิตไม่ว่างที่คิดเควสวิปริตสารพัดอย่างทั้งหลายออกมา ที่แท้เวลาว่างก็ชอบนั่งอ่านของพรรค์นี้จากในเน็ตนี่เอง...จื่ออวี๋ผู้แสนเซ็งได้แต่หันไปหาเป้าหมายรายต่อไป

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ปุจฉา การเอาช้างใส่เข้าไปในตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?"

     

    "กวงหมิงA+ : มีกี่ขั้นตอน?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : สามขั้นตอน ถามต่อ การเอายีราฟใส่เข้าไปในตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?" ยังดีที่ท่าทางหมอนี่จะไม่เคยได้ยินคำถามนี้

     

    "กวงหมิงA+ : นายยังไม่ได้บอกเลยว่าสามขั้นตอนไหนบ้าง?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : เปิดประตูตู้เย็น ใส่ช้างเข้าไป ปิดประตูตู้เย็น"

     

    "กวงหมิงA+ : แบบนี้เองเหรอ...งั้นยีราฟก็มีสามขั้นตอน?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ผิด มีสี่ขั้นตอน"

     

    "กวงหมิงA+ : ทำไมถึงมีสี่ขั้นตอนล่ะ?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ต้องลากช้างออกมาด้วย"

     

    "กวงหมิงA+ : นายไม่ได้บอกซักหน่อยว่าตู้เย็นใบเดียวกัน..."

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." ขืนบอกนายก็ไม่หลงกลน่ะสิ "คำถามต่อไป พวกสัตว์จัดงานประชุมกัน แต่มีสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่ได้ไป คือสัตว์ชนิดไหน?"

     

    "กวงหมิงA+ : คำถามนี้มันต่อเนื่องกับคำถามเมื่อกี้หรือเปล่า?" เห็นได้ชัดว่าหนนี้ฉลาดขึ้น

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." (คาดว่าเวลานี้คงกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ในใจอย่างหนัก...)

     

    สุดท้ายสหายจื่ออวี๋ผู้โกหกไม่เป็นก็หลอก A+ ไม่สำเร็จจนได้ จึงได้แต่หันไปถามเป้าหมายคนสุดท้ายอย่างแสนเซ็ง

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ปุจฉา การเอาช้างใส่เข้าไปในตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : ใส่ช้างเข้าไปในตู้เย็น? ทำไมต้องใส่เข้าไปในตู้เย็นด้วยล่ะ? มีตู้เย็นใหญ่ขนาดนั้นด้วยเรอะ?"

     

    จื่ออวี๋ถามไปคำถามเดียว อาจ่ายถามย้อนกลับมาตั้งสองคำถาม...

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ......นี่เป็นปัญหาเชาว์"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : ถึงจะเป็นปัญหาเชาว์ มันก็ไม่สมเหตุสมผลอย่างแรงนี่นา!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ......นายคิดซะว่ามีตู้เย็นใหญ่ขนาดนั้นก็แล้วกัน"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : งั้นก็น่าจะมีสี่ขั้นตอนมั้ง!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ทำไมถึงมีสี่ขั้นตอนล่ะ?"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : เปิดประตูตู้เย็น หั่นช้างเป็นชิ้นๆ แล้วค่อยใส่เข้าไป สุดท้ายปิดประตูตู้เย็นไง!"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." ควรจะบอกว่าหมอนี่น่ากลัวหรือเปล่า? ที่ทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นการแสดงหนังสยองขวัญคดีฆ่าหั่นศพแบบไม่สะทกสะท้านอะไรเลย...แต่จะยังไงก็ตาม อาจ่ายก็ตอบผิดอยู่ดี จื่ออวี๋แอบนึกโล่งอก "ผิดแล้ว มีสามขั้นตอน แค่ใส่ช้างเข้าไปก็พอแล้ว ไม่ต้องหั่นเป็นชิ้นๆ"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : อ๋า? ใส่เข้าไปทั้งตัวเลยเรอะ?"

     

    ก็ต้องใส่เข้าไปทั้งตัวสิวะ! เพราะประเดี๋ยวมันยังต้องแล่นไปเข้าประชุมสัตว์โลกทั้งยังเป็นๆ อีกนี่หว่า! ถึงแม้ในใจจะนึกอยากด่าคนอย่างรุนแรง แต่จื่ออวี๋ก็ได้แต่จำใจต้องถามต่อไป

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : คำถามต่อไป การเอายีราฟใส่เข้าไปในตู้เย็นมีกี่ขั้นตอน?"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : สามขั้นตอน เปิดประตูตู้เย็น ใส่ยีราฟเข้าไป ปิดประตูตู้เย็น"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ผิด มีสี่ขั้นตอน ต้องลากช้างออกมาด้วย"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : หาาาา??? ตู้เย็นใบเดียวใส่ช้างเข้าไปได้ทั้งตัว แล้วทำไมถึงจะใส่ยีราฟเข้าไปอีกตัวไม่ได้? ไม่เห็นมีใครบอกสักหน่อยนี่ว่าใส่สัตว์เข้าไปในตู้เย็นได้แค่ชนิดเดียวน่ะ!"

     

    ฉันก็อยากจะถามเหมือนกันว่าฉันถึงต้องมานั่งถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วย...

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : เอาเป็นว่า ปัญหาต่อไป สัตว์ทั่วโลกจัดงานประชุมกัน มีสัตว์แค่ชนิดเดียวที่ไม่ได้ไป คือสัตว์ชนิดไหน?"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : ไดโนเสาร์เรอะ? มันสูญพันธุ์ไปแล้วก็เลยไปไม่ได้"

     

    ในที่สุดจื่ออวี๋ก็ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่ง นั่นคือถึงอาจ่ายจะทายคำตอบไม่ถูก จินตนาการของอาจ่ายก็บรรเจิดมากพอที่จะทำให้อาจ่ายคิดปัญหาโรคจิตแบบนี้ออกมาได้อยู่ดี...

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ยีราฟต่างหาก เพราะยีราฟอยู่ในตู้เย็น"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : ช้างมันหายตัวแข็งเร็วแบบนี้เลยเรอะ?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ........." OOXX... "คำถามสุดท้าย เสี่ยวหมิงไปเที่ยวสวนสัตว์กับคุณพ่อ แล้วเสี่ยวหมิงพลาดตกลงไปในบ่อจระเข้ แต่จระเข้กลับไม่กินเขา ถามว่าเพราะอะไร?"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : เป็นไปไม่ได้นี่นา! ก็ที่สวนสัตว์มีลูกกรงกั้นเอาไว้ไม่ใช่เรอะ?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : ก็บอกแล้วว่าพลาดตกลงไปไงเล่า!" คำถามปัญญาอ่อนแบบนี้ใครมันเป็นคนคิดขึ้นมากันวะ? แล้วทำไมทั้งที่ตัวเขาเองก็รู้สึกอยู่ชัดๆ ว่ามันเป็นคำถามปัญญาอ่อน แต่ก็ยังจะดันมาช่วยไอ้คนคิดมันถามจนครบทุกคำถามอีก? จื่ออวี๋รู้สึกอนาถตัวเองอย่างรุนแรง...

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : แบบนั้นก็น่าจะไปแจ้งตำรวจนี่นา?"

     

    "โหย่วสือโหยวอวี่ : นายบอกมาแล้วกันว่าทำไมถึงไม่ถูกกิน!"

     

    "ตานเซินหนานจ่าย : อย่าบอกนะว่าจระเข้ไปเข้าร่วมประชุมสัตว์โลก?"

     

    โศกนาฏกรรม...โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้นแล้ว...แถมยังกลายไปเป็นสุดยอดโศกนาฏกรรมเสียด้วย...

     

    "อ๋า! อาอวี่ เป็นอะไรไปน่ะ? อย่าทำให้ฉันตกใจซี่!"

     

    "ก็แค่ปัญหาเชาว์เท่านั้นเอง ฉันมีคำถามครบชุดอยู่ นายเอาไปถามคนอื่นก็แล้วกัน!"

     

    "นั่นสิ! อาอวี่ เข้มแข็งเอาไว้!!!"

     

    "........."

     

    หลังจากหนึ่งวันที่เป็นประดุจนรกผ่านพ้นไป จื่ออวี๋ก็ลากสังขารที่อ่อนล้าถึงขีดสุดเดินเข้ามาในห้องทำงาน และได้เห็นเพื่อนร่วมงานทั้งสามที่ยิ้มหน้าบานเป็นกะโล่โผล่มารับหน้า

     

    "อาอวี่ พวกเราหาปัญหาเชาว์สนุกๆ พบเยอะแยะเลยแหละ จะให้นายทายทีละคำถามล่ะนะ!"

     

    ตูม!

     

    พวกนายไม่ต้องมาทายปัญหาเชาว์ฉันแล้วโว้ย!!!!!

     

     

     

    จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×