ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เป้าหมายที่ต้องการ
@KIRI CLUB
KIRI CLUB คลับขนาดใหญ่ภายใต้เครือข่ายของบริษัท KIRI กรุ๊ป โดยมีผู้บริหารคือ ภาส วิชญ์ภาส กิเลนารินทร์ คลับแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว ด้วยความที่บรรยากาศภายในคลับแห่งนี้นั้นตื่นตาตื่นใจเปรียบเสมือนสวรรค์ของคนรักปาร์ตี้และเที่ยวกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีทุกระดับ การบริการที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีไม่มีผิดพลาด เพราะเหตุนี้ในระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี KIRI CLUB ก็เติบโตเป็นที่หนึ่งของเมืองไทย
“เชี่ย ใหญ่กว่าร้านเจ๊แบมเป็นสิบเท่าเลยว่ะ” ณิชาเบิกตากว้างอย่างตื่นตาตื่นใจทันทีเมื่อย่างกายเข้ามาในที่แห่งนี้ซึ่งเธอไม่เคยมีโอกาสเข้ามาที่นี่มาก่อนถึงแม้ว่ามันจะใกล้บ้านของเธอแค่ไม่กี่กิโลแต่คนที่มีรายได้น้อยอย่างหญิงสาวก็คงจะไม่มีวาสนาได้เข้ามาที่เปรียบดั่งสวรรค์เช่นนี้ถ้าไม่มี สิงห์และแทนไท เพื่อนสนิททั้งสองคนที่เป็นแขกวีไอพีของที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่บ่อยนักเพราะต่างคนก็เปิดสถานที่บริการแบบนี้อยู่แล้ว
“รีบตามมาเร็ว อย่าซน”
“ก็มันสวยอะ”แทนไทตำหนิเพื่อสาวที่มือซนจับนั่นจับนี่ในคลับพร้อมกับทำตาลุกวาวเพราะไม่เคยเห็นของพวกนี้จนทำให้พนักงานในร้านมองทั้งสามคนแปลกๆเพราะกลัวข้าวของดังกล่าวเสียหาย แต่จากนั้นณิชาก็เดินตามชายหนุ่มทั้งสองไปแต่โดยดีเหมือนเด็กที่ถูกตำหนิแล้วเชื่อฟังพ่อแม่
“เชรด จองโต๊ะวีไอพีซะด้วย เพื่อนกูรวยจังวะ” เธอเอ่ยด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่เคยนั่งโต๊ะวีไอพีในคลับหรูแบบนี้สักครั้งในชีวิตจากนั้นณิชาก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาราคาแพงอย่างสบายใจราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอเอง
“สภาพมึงนี่ไม่ให้เกียรติสถานที่เลยนะไอ้ณิชา” สิงห์มองการแต่งตัวของหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเอือมระอา เพราะโอกาสทองที่เธอจะได้ออกมาเที่ยวที่แบบนี้มันไม่ได้มีมาบ่อยๆแต่หญิงสาวนั้นกลับแต่งกายด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ราวกับชุดนอนอยู่บ้านไม่เหมือนสาวๆคนอื่นที่แต่งตัวออกมาเที่ยวกลางคืนเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมอะ เสื้อยืดกางเกงยีนส์เลยนะเว้ย”
“มึงดูสาวๆรอบข้างมึงดิ มีแต่พวกคุณหนูทั้งนั้นเลย” แทนไทกรีดนิ้วชี้ไปที่เหล่าสาวงามทั้งหลายที่แต่งกายสวยเซ็กซี่กันทุกคน ซึ่งก็ไม่แปลกเลยที่ในคลับแห่งนี้ทุกคนจะแต่งตัวดีกันหมดเพราะไม่มีใครที่มีฐานะธรรมดาเลย ธรรมดาสุดก็จะเป็นเหล่าดารานักร้องดังนอกเหนือจากนั้นก็เป็นลูกหลานนักการเมืองและเศรษฐี
“ช่างแม่งดิ กูมาตามหาไอ้ภาสนะเว้ย ไม่ได้มาเที่ยวเล่น”
“หึ ถ้าเจอจริงๆก็อย่าร้องไห้กลับบ้านล่ะ”
“ไม่มีทาง มึงก็รู้นิไอ้สิงห์ว่ากูไม่เคยร้องไห้”
“หึ” เพื่อนหนุ่มทั้งสองถึงกับเบือนหน้าหนีอย่างหมั่นไส้เพราะว่าทั้งสองนั้นรู้ดีว่าณิชาเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มนั้นขี้แยแค่ไหน แต่เธอก็ยังปากดีไปเรื่อย
“หึแม่มึงสิ ไอ้นี่นิ”
“แทนไท กูอยากแดกเหล้าแพงๆว่ะ มึงเลี้ยงกูหน่อยนะ...อื้ม โอเค...ขอบใจนะเพื่อนรัก”
“ฮะ?” แทนไทถึงกับงงเมื่อหญิงสาวพูดเองเออเองคนเดียวทั้งๆที่เขานั้นยังไม่ได้ตกลงอะไรเลย ไม่ใช่ว่าเขานั้นเลี้ยงเธอไม่ได้เพียงแต่ว่าเขานั้นทำใจไม่ทันกับความแสบของเพื่อนคนนี้
“น้องๆ มานี่หน่อย”
“รุ่นแม่มึงเลยนะนั่น”
“เงียบเถอะน่า มึงรอจ่ายก็พอ”
“เดี๋ยวคืนนี้กูเลี้ยงเอง” สิงห์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่มันกลับสร้างความตกใจให้กับแทนไทและณิชาเป็นอย่างมากเนื่องจากปกติแล้วเขาไม่ค่อยเลี้ยงแอลกอฮอล์เท่าไหร่ คืนนี้เป็นกรณีพิเศษเพราะเขาเป็นคนพาทั้งสองมาถึงที่นี่เพราะเหตุนี้เขาจึงเลี้ยงเอง
“ขอบคุณมากไอ้สิงห์เพื่อนรัก”
หลังจากนั้นแทนไทและณิชาสองคู่หูก็ทำการสั่งเครื่องดื่มราคาแพงตามใจอยากโดยไม่เกรงใจคนเลี้ยงเลยสักนิด แต่ยังไงคนอย่างสิงห์นั้นก็ไม่ขัดเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
“โห นี่ขนาดเด็กในร้านยังใช้กระเป๋าแพงกว่าเงินเดือนกูทั้งเดือนอีกอะ”
“ใครๆต่างก็ล่ำลือกันทั้งนั้น ว่าคนที่ทำงานที่นี่ตั้งตัวได้ทุกคน เงินเดือนที่ว่ามากโขแล้ว ติปก็หนักมากด้วย”
“หรือว่ากูควรสมัครทำงานที่นี่เลยดีเปล่าวะ”
“เตี้ยเกินไปเขาไม่รับหรอก ศอกก็ดำ เข่าก็ด้าน ท้องก็ลาย พุงก็ยื่น ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของคลับแล้ว”
“จริงสินะ ดูดิแต่ละคนอย่างกะดารา” หญิงสาวกล่าวเบาๆด้วยความน้อยใจในโชคชะตาที่ไม่ได้ส่งเธอเกิดมาเพอร์เฟคเหมือนคนอื่น แต่มันก็เป็นเพียงความน้อยใจชั่ววูบเพราะคนอย่างเธอนั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
อีกด้าน
บรืนนนนนนนนนนนนนนน
รถสปอร์ตคันหรูแล่นไปตามท้องถนนอย่างลื่นไหลไม่ได้ช้าหรือเร็วเกินไป วิชญ์ภาสข่มตาลงอย่างผ่อนคลายเนื่องจากวันนี้เขาเพิ่งไปทำงานใหญ่มาแถมยังมีเรื่องต่างๆให้คิดมากมายเขาจึงนอนพักสายตาสักครู่
“คุณภาสจะแวะไปดูที่คลับสักหน่อยไหมครับ”
“ไม่ กลับเลย”
“ครับ” มังกรตอบรับเสียงอ่อนพร้อมกับขับรถไปตามท้องถนนและในขณะนั้นเองวิชญ์ภาสก็เอื้อมมือไปหยิบไอแพดที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาเปิดกล้องวงจรปิดที่คลับเพื่อเช็คแขกในร้านอย่างพึงพอใจ เพราะในทุกๆวันคลับของชายหนุ่มนั้นก็ล้วนมีแต่แขกระดับสูงเท่านั้นจึงทำให้รายได้ดีไปด้วย
แต่ทันใดนั้นเองสายตาอันแหลมคมก็ไปสะดุดเข้ากับสิงห์ที่นั่งอยู่โซนวีไอพี ซึ่งชายหนุ่มและสิงห์นั้นรู้จักกันมาก่อนเพราะอยู่ในวงการธุรกิจเดียวกันแต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากถึงกับจะต้องเข้าไปทักทายอะไร แต่จะไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่เลยถ้าหญิงสาวหนึ่งเดียวที่อยู่ร่วมกลุ่มไม่ใช่ของขวัญที่เขาต้องการไปให้ลูกสาวตัวน้อย
“กูว่า แวะไปสักหน่อยก็ดีเหมือนกันนะ”
“ครับ”
หลายนาทีผ่านไป...
“สวัสดีครับคุณภาส” บาร์เทนเดอร์ตัวท็อปประจำ KIRI CLUB กล่าวทักทายวิชญ์ภาสด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมถ่อมตนพร้อมกับฉีกยิ้มให้ด้วยท่าทีที่มั่นใจ
“อืม เป็นไงบ้าง วันนี้ลูกค้าให้ติปเยอะไหม”
“ครับ เยอะกว่าทุกวันครับ”
“ก็ดีแล้ว จะได้มีเงินค่าเทอมไง”
“ครับ คุณภาสไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยนะครับ เดี๋ยวสักครู่ผมจะไปเสริฟเครื่องดื่มให้”
“โอเค”
จากนั้นชายหนุ่มก็เดินมุ่งหน้าไปยังโต๊ะวีไอพีที่มีไว้สำหรับเขาซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะที่สิงห์นั้นได้จองไว้ วิชญ์ภาสน่องลงบนโซฟาขนาดใหญ่อย่างสบายใจไม่วายยกเท้าขึ้นมาวางไว้บนเข่าอีกข้างแล้วจ้องมองไปยังเป้าหมายที่เขาต้องการอย่างไม่คลาดสายตา แต่แล้วคนที่มีสายตาอันแหลมคมเช่นกันกับเขาอย่างสิงห์ก็เห็นวิชญ์ภาสนั้นกำลังมองเพื่อนสาวด้วยแววตาที่มีความอยากเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างชัดเจนมันจึงทำให้สิงห์นั้นรับรู้ได้เลยว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีกแล้ว
“กูว่ามึงเมามากแล้วนะ กลับกันเถอะ” แทนไทเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงยืดยาวเมื่อเห็นเพื่อนสาวนั้นนอนฟุบลงกับโต๊ะอย่างหมดสภาพถึงแม้ว่าแทนไทนั้นจะเมาเหมือนกันแต่เขาก็ยังคงมีสติอยู่
“กูไม่เมา! กูรอเจอไอ้ภาสอยู่นะเว้ย เฮ้ยไอ้ภาส มึงอยู่ไหนวะโผล่มาให้กูเห็นหน่อย!”
“เดี๋ยวกูไปส่งณิชาเอง มึงกลับก่อนเลยนะแทนไท” สิงห์เอ่ยขึ้นเสียงเข้มเชิงออกคำสั่งเพราะตอนนี้วิชญ์ภาสนั้นมองมายังพวกเขาไม่ละสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว อีกทั้งยังมองด้วยสายตายั่วโมโหตามประสาคนเจ้าเล่ห์ที่อยากจะได้อะไรก็ต้องได้
“โอเค ฝากด้วยละกัน กูเมาละ”
“อืม”
“ไม่เอา กูไม่กลับนะไอ้สิงห์”
“กลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยกลับมาใหม่” สิงห์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไปจากนั้นเขาก็ออกแรงกระชากแขนณิชาให้ยืนขึ้นแล้วดันตัวเธอที่ไร้สติให้เดินออกไปจะตรงนี้ให้เร็วที่สุด เพราะอันตรายกำลังมาเยือน...
02:46 น.
“หัวใจพี่มีรอยช้ำ กล่ำแดงดั่งถูกแทงด้วยเข็ม มันหายเข้าไป ปักเข้าไปทั้งเล่ม โอ้เมียรักเหมือนคนมักเล่นเกมส์ แพ้เกมส์ อกหักอยากตาย!” สิงห์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับด้วยความปวดหัวเพราะตอนนี้เพื่อนสาวของเขานั้นเมามากแถมยังแหกปากร้องเพลงเพี้ยนๆตลอดทางมันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมาเป็นระยะแต่ในทางกลับกันก็กลัวว่าผู้คนแถวนี้จะเขวี้ยงขวดเขวี้ยงค้อนใส่เพราะทำเสียงดังรบกวนคนอื่น สิงห์ปล่อยให้ณิชานั้นเดินนำหน้าไปก่อนส่วนเขาก็เดินกอดอกคอยคุมตัวของเธออยู่ห่างๆทางด้านหลัง คอยพยุงตัวหญิงสาวขึ้นเวลาที่เธอนั้นล้มหัวคะมำก็พอ
“เดินให้มันตรงๆหน่อยสาวน้อย”
“มึงกลับบ้านไปเลยไปไอ้สิงห์ บ่นอยู่ได้น่ารำคาญว่ะ”
“อ้าว คนเขาอุตส่าห์หวังดี”
“ไม่ต้องมาหวังดี กูกลับเองได้เว้ย แถวนี้มันถิ่นกู กูหลับตาเดินยังได้เลย” หญิงสาวก็ยังคงปากดีเหมือนเดิมเมื่อปลายทางข้างหน้าตอนนี้นั้นใกล้ถึงร้านของเจ๊แบมในอีกไม่กี่ร้อยเมตร ทันทีที่หญิงสาวนั้นมองเห็นร้านดังกล่าวแล้วก็ออกปากไล่เพื่อนสนิททันทีแถมยังโอ้อวดเขาว่าแถวนี้เป็นถิ่นของเธอ
“แหม พอใกล้ถึงแล้วทำเป็นพูดดีนะ ถ้าอย่างนั้นกูกลับก่อนละกัน”
“โอเค บาย~” ณิชาโบกมือไหวๆให้กับสิงห์ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจากไปในความมืดเห็นเพียงแผ่นหลังที่ค่อยๆจางลงและถูกความมืดดูดกลืนไปในที่สุด ทันทีที่สิงห์เดินจากไปจากหญิงสาวก็กลับหลังหันทันทีแล้วเดินโซซัดโซเซตรงไปยังทางเดินที่เธอนั้นเพิ่งเดินผ่านมานั่นก็คือเส้นทางไปบ้านหลังเดิมของเธอนั่นเอง
“กลุ้มใจจริงจริง รักผู้หญิงหญิงก็ไม่สน เรามันคนจน แม่หน้ามน จึงไม่มอง~” หญิงสาวขี้เมาแหกปากร้องเพลงตามวงเหล้าของเธอต่อไป สองเท้าเล็กๆก็ก้าวเดินไปสองก้าวและถอยหลังสามก้าวตามสเต็ป หญิงสาวยังคงเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างไม่มีสติ หน้ามืดตามัว จนในที่สุดเธอก็เดินไปชนกับอะไรแข็งๆบางอย่างเข้าอย่างจัง
ปึก!
“อึก..ฮื้อ?”
“ไม่คิดจะมองทางเลยหรือไง”
_______________________________________
omg! อิน้องเดินไปชนใครกันนะ ทำไมซุ่มซ่ามจังเล้ยยยยย (เลิ่กลั่กๆ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น