ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ไม่
@มหาวิทยาลัย
กึก กึก กึก
เสียงรองเท้าคัทชูหนังราคาแพงกระทบลงกับพื้นห้องสมุดตามจังหวะการเดิน และเจ้าของของมันก็สวมชุดนักศึกษาชายเต็มยศ เขาคือ แทนไท นักศึกษาชายปีสามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์โดยเฉพาะแว่นที่เขาสวมใส่นั้นมันยิ่งเพิ่มความน่าสนใจไม่ใช่น้อย แทนไทมีนิสัยที่ ขี้เล่น อ่อนโยน ปลิ้นปล้อนเป็นบางเวลา แต่ถึงลักษณะท่าทางภายนอกของเขาจะเป็นอย่างนี้นิสัยลึกๆของเขากลับมีอะไรซ่อนอยู่
“โห ไอ้สิงห์ ทำไมวันนี้มาเช้าจังวะ” แทนไททักท้วงเพื่อนสนิทอย่าง สิงห์ สีหราช สิงห์ หนุ่มนักศึกษาผู้ที่มีอิทธิพลซ่อนไว้อยู่เนื่องจากเขานั้นเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่างทั้งสีขาวและสีเทา และเมื่อคนที่ไม่รู้จักนิยามคำหนึ่งคำให้กับเขาก็คงจะไม่พ้นคำว่า ชั่ว เพราะภายนอกเขาเป็นแบบนั้น ทว่าคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันอย่าง แทนไท และณิชานั้นรู้ดีว่า ถึงเขาจะมีนิสัยที่ โหด เคร่งขรึม เหมือนคนเลือดเย็น แต่แท้จริงแล้วตัวตนของเขาก็เต็มไปด้วยความเมตตาและความอบอุ่นเช่นกัน
“กูก็มาเช้าทุกวันไหมล่ะ” สิงห์ตอบเรียบนิ่งโดยไม่คิดจะปลายตามองผู้มาเยือนใหม่เลยสักนิด จากนั้นแทนไทก็ทิ้งตัวลงนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยใบหน้าจริงจังพร้อมกับเอ่ยถามสิงห์อย่างร้อนใจ
“เออ ช่วงนี้มึงได้คุยกับไอ้ณิชาบ้างป้ะ”
“เพิ่งคุยกับมันเมื่อคืน มันบอกว่าจะมาเรียนวันนี้แหละ”
“หวังว่าต่อไปนี้ชีวิตมันจะไม่มีเรื่องร้ายๆเข้ามาแล้วนะ กูล่ะสงสารมันจริงๆ” สิงห์พยักหน้าเห็นด้วยกับประโยคดังกล่าวที่แทนไทพูดออกมา
“แทนไท มึงทำงานอาจารย์สมพรเสร็จยังวะ”
“เสร็จแล้ว มึงอยากลอกหรอ”
“เปล่า กูก็ทำเสร็จแล้ว”
พรึ่บ!
“แต่กูยังทำไม่เสร็จว่ะ ขอลอกหน่อยดิ!” หญิงสาวเจ้าของเสียงแหลมกระโดดเข้าหาแทนไทก่อนที่จะเกาะไหล่เขาไว้จากด้านหลังหวังจะให้เพื่อนหนุ่มตกใจ ทว่าสิงห์นั้นได้แอบส่งซิกให้แทนไทรู้ก่อนที่เธอจะย่องมาถึงตัวแทนไทเสียอีก
“หึ สมกับเป็นมึงจริงๆไอ้ณิชา” ณิชาฉีกยิ้มกว้างแก้เขินทันทีที่ถูกแทนไทว่าแบบนั้น แล้วเธอก็นั่งลงข้างๆแทนไทด้วยสีหน้าเศร้าตามสเต็ป
“เอาไป กูทำมาเผื่อแล้ว” แทนไทโยนรายงานปกสีฟ้าให้กับเธอเหมือนไม่เต็มใจก่อนที่จะกอดอกเมินหน้าหนี ณิชาหยิบรายงานที่ลอยมาวางบนตักขึ้นมาดูแล้วพบว่าวันเป็นรายงานที่มีชื่อของเธอเป็นผู้จัดทำ และแล้วน้ำตาแห่งความทราบซึ้งใจก็ใหลเอ่อมาคลอที่ดวงตาเพราะแทนไทตั้งใจทำงานให้เธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะปกติแล้วหญิงสาวต้องกับค้นอยู่ในกระเป๋าเขามาลอกเองๆ
“งื๊อแทนไท~ พ่อเตาไมโครเวฟ พ่อแสงแดดประเทศไทย”
“ไม่ต้องมาอวยกูเลย ช่วงนี้กูเห็นมึงวุ่นๆหรอกนะถึงทำให้ แต่คราวหน้าเตรียมติดเอฟเลย”
“จ้า ขอบคุณนะมึงอื๊อ!”
“เมื่อคืนนี้ที่ร้านมึงเกิดอะไรขึ้นหรอ กูเห็นเจ๊แบมอัปไอจี เห็นว่าร้านเละเป็นโจ๊กเลย” สิงห์กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิทแฝงความเย็นยะเยือกลงบนเส้นเสียงตามสไตล์ของเขา แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีทั้งสองก็ยังไม่ชินกับเพื่อนคนนี้อยู่ดี
“เรื่องนี้แหละที่กูอยากขอความช่วยเหลือจากมึงไอ้สิงห์”
“ว่ามาสิ”
“ไอ้นั่นมันชื่อภาส ได้ยินว่าเป็นคนมีอิทธิพลมากๆ ขนาดบ้านมันใกล้ๆบ้านกูแค่สองกิโลเมตร กูยังเพิ่งเคยเห็นตัวจริงมันเมื่อคืนนี่เอง และที่สำคัญแม่กูขายบ้านให้มันเว้ย แถมวันนี้มันจะสั่งลูกน้องมาทุบบ้านกูอีกอะ”
“แล้วมึงจะให้กูช่วยอะไร” ณิชาฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สิงห์เอ่ยถามแบบนี้เพราะถ้าเขาไม่คิดจะช่วยเขาไม่ถามอย่างแน่นอน
“ซื้อบ้านคืนให้กูได้ป้ะ ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่กูจะไปทำงานกับมึงใช้หนี้ นะเพื่อนนะช่วยกูหน่อย”
“ไม่” ณิชาหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อสิงห์ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยไม่หยุดคิดไตร่ตรองเลยสักวินาที ทั้งๆที่ตอนนี้แสงสว่างในชีวิตของเธอมีแต่สิงห์และแทนไทเท่านั้น แต่แสงสว่างหลอดสำคัญกลับปฏิเสธเสียแล้ว
“อ้าวไอ้สิงห์ ทำไมมึงแล้งน้ำใจจังวะ ไม่เป็นไรนะณิชาเดี๋ยวกูซื้อ!..."
“ที่บอกว่า ไม่ คือเขาไม่ยอมขายให้หรอก”
“ทำไมวะ?” ณิชาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าทำไมคนที่มีอิทธิพลอย่างสีหราช สิงห์ ถึงช่วยเธอไม่ได้
“ก็ที่ตรงนั้นมันเป็นทำเลทอง มันสามารถหาเงินให้เขาได้เป็นร้อยเท่าของราคาบ้านและเขาก็ซื้อมาในราคาที่ถูกขนาดนั้นลาภลอยจริงๆ เขามีอิทธิพลเกินไปกูช่วยมึงไม่ได้หรอก”
“แม่งเอ้ย ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกขนาดนี้วะ”
“ไปเรียนเถอะ สิบโมงแล้ว” จากนั้นทั้งสามก็ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพียงกันและเดินออกไปจากห้องสมุด ตลอดเวลาทุกวินาทีของณิชาวันนี้เธอคิดแค่เรื่องบ้าน ไม่มีกะจิตกะใจเรียนเหมือนวันก่อนๆ ไหนจะหนี้สินที่เธอจะต้องหาเงินใช้อีก และพรุ่งนี้ก็ถึงกำหนดจ่ายหนี้ก้อนโตของเสี่ยโจ เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกใครเพราะไม่อยากรับความช่วยเหลือจากใครจริงๆ มีแค่เรื่องบ้านเท่านั้นที่ไม่ว่าจะต้องแลกด้วย ศักดิ์ศรี ความทุกข์ทรมารยังไงเธอก็ยอม เพราะว่าบ้านหลังนั้นคือเรือนหอที่พ่อแม่ของเธอเก็บเงินด้วยกันและสร้างมันขึ้นมา อีกทั้งมันยังเป็นเกราะกำบังที่สร้างขึ้นด้วยความรักความอบอุ่น เพราะฉะนั้นเธอปล่อยให้บ้านหลังนั้นตกไปอยู่ในมือของคนอื่นไม่ได้จริงๆ
‘ยังไง ฉันก็จะเอาบ้านของฉันคืนมาให้ได้’
@คฤหาสน์กิเลนารินทร์
“คุณภาสครับ ตอนนี้ช่างของเราไปถึงบ้านหลังนั้นแล้ว ให้ช่างจัดการเลยนะครับ”
“อืม” เขาตอบสั้นๆเพียงเท่านั้นก่อนที่จะยกชาขึ้นมาจิบเบาๆพร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ที่ห้องนั่งเล่นที่ล้อมรอบไปด้วยกระจก จึงทำให้มองภาพความสวยงามอย่างชัดเจน
“คุณพ่อคะ” แต่แล้วเสียงเล็กๆของลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาก็ดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะปรากฏขึ้นมาแถมยังกอดตุ๊กตาหมีน้อยสีขาวตัวโปรดติดตัวมาด้วย
“ว่าไง”
“พาน้องภาไปหาพี่ณิชาหน่อยสิ เมื่อคืนน้องภาขโมยยางรัดผมพี่ณิชามา” เธอไม่พูดเปล่ารีบยกมือขึ้นมาโชว์ยางรัดผมสีชมพูที่เธอรัดไว้ตรงข้อมือเล็กๆ
“ทิ้งๆไปเถอะน่า ไหนตัวหายร้อนยัง รีบๆหายนะ พรุ่งนี้จะได้ไปเรียน อยู่บ้านนานเกินไปเดี๋ยวเป็นเด็กขี้เกียจ” วิชญ์ภาสใช้ด้านหลังของมือทาบไปที่หน้าผากมนของลูกสาวเพื่อเช็คอุณหภูมิในร่างกายที่จากเดิมนั้นเธอตัวร้อนมากจนไม่สามารถไปเรียนได้ แต่อีกอย่างเขาก็เปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจภาวิกาด้วยเพราะตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเด็กน้อยก็เอ่ยถึงหญิงสาวที่ชื่อว่า ณิชา ตลอดเวลา
“น้องภาขอล่ะ แล้วต่อไปนี้น้องภาจะไม่ขออะไรจากคุณพ่ออีกเลย นะคะ...”
“พูดอย่างนี้หมายความว่าไง”
“ปิดเทอมนี้น้องภาจะย้ายไปเรียนที่อเมริกากับคุณแม่ค่ะ”
“อยากไปขนาดนั้นเลยหรอ ฉัน!...”
“คุณพ่อไม่ต้องมาดุน้องภาแล้วทำตาขวางเลยนะ น้องภาไม่กลัวคุณพ่อหรอกค่ะ”
“ได้ แต่ฉันไม่พาเธอไปหรอกนะ”
“รอฉันอยู่ที่บ้านนะ ห้ามดื้อล่ะ”
“ค่ะ...” สุดท้ายภาวิกาก็ไม่สามารถโน้มน้าวคนเป็นพ่อได้ ทำได้แค่เพียงยอมรับความจริงเท่านั้น พอเธอของในสิ่งที่ต้องการไม่ได้แล้วเด็กสาวผู้น่าสงสารก็เดินออกมาจากตรงนั้นกับหมีน้อยของเธอเยี่ยงผู้แพ้
“ไอ้มังกร มึงสั่งให้ช่างกลับบ้านได้เลยนะ กูเปลี่ยนใจแล้ว แล้วมึงก็เอาค่าเสียเวลาให้พวกมันสักก้อนก็แล้วกันนะ”
“ครับ”
19:23 น.
“วันนี้เรียนโคตรหนักเลยว่ะ” นาวินบ่นออกมาอย่างตัดพ้อในขณะที่ตอนนี้สองพี่น้องกำลังเดินกลับร้านเจ๊แบมในเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ
“กูก็เห็นมึงเรียนหนักทุกวันนี้หว่าไอ้นาวิน”
“เออ ก็จริง” ถนนเล็กๆเส้นนี้สองแฝดเดินไปกลับตั้งแต่เล็กจนโตจวนจะจบปริญญาตรีในอีกไม่กี่ปีแล้ว ถนนเส้นนี้มันก็ยังเหมือนเดิม ถึงแม้ว่ารอบข้างตึกลาบ้านช่องจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม ก็เหมือนกับความทรงจำที่พวกเขาผูกพันกับที่นี่ ถึงแม้ว่ารอบข้างจะเปลี่ยนไปแค่ไหนความทรงจำนั้นก็ยังเหมือนเดิม
“บ้านเราโคตรมืดเลยเนอะ” นาวินเอ่ยขึ้นมาเสียงสั่นเมื่อเดินผ่านหน้าบ้านตนเองที่ถูกคล้องด้วยโซ่ขนาดใหญ่ แถมข้างในยังมืดสนิทเพราะไม่มีใครเปิดไฟเนื่องจากมันกำลังจะถูกกำจัดในอีกไม่นานนี้
“เออ มืดจริง”
“ไม่รู้ว่าไอ้ภาสนั่นมันจะทุบบ้านเราวันไหน ยังทำใจไม่ได้เลยว่ะ”
“กูก็เหมือนกัน แต่ยังไงกูก็ต้องหาทางเอาบ้านคืนมาให้ได้”
“ยังไง?”
“ไม่รู้เว้ย ตอนนี้ยังคิดไม่ออก”
“วันนี้จะไปเที่ยวกับสิงห์และแทนไทไม่ใช่หรอ รีบกับร้านเจ๊แบมแล้วอาบน้ำแต่งตัวเถอะเดี๋ยวดึก”
“อืม”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น