NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [LOVELESS MAFAI]: เผลอใจให้คนไร้รัก (มี E-BOOK)

    ลำดับตอนที่ #5 : พรหมลิขิต

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 65




    ขณะนี้มังกรกำลังมองไปยังหน้าจอแท็บเล็ตที่ขึ้นสัญญาณสีเขียวของสัญญาณโทรศัพท์มือถือของภาวิกา และตอนนี้วิชญ์ภาสและเหล่าบอดี้การ์ดอีกยี่สิบคนก็กำลังยืนครุ่นคิดอยู่ที่หน้าร้านเหล้าเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากบ้านของเขาไม่ถึงสองกิโลด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่ามันอยู่ในซอยที่ลึกมาก และเขานั้นก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีร้านเหล้าตั้งอยู่ตรงนี้
    “สัญญาณจากโทรศัพท์มือถือของคุณภาอยู่ที่นี่ครับคุณภาส”
    “ภาวิกามาทำอะไรอยู่ที่นี่”
    “หรือว่าฝ่ายตรงข้ามของเราจะเป็นคนจับคุณภามาที่นี่ครับ” ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อว่าร้านเล็กๆแห่งนี้จะเป็นที่ซุ่มของศัตรู ที่ภาวิกาอยู่ที่นี่เพราะถูกลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่ยังหน้าเชื่อกว่า
    “กวาดร้านนี้หาภาวิกาให้เจอ!”
    “ครับ” เหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายตอบรับคำสั่งของผู้เป็นนายเสียงแข็งก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าไปข้างในร้านเหล้าแห่งนี้ ก่อนที่จะทำการกวาดล้างลูกค้าที่กำลังสังสรรค์กันอยู่ออกไปให้หมด ด้วยเหตุนี้ลูกค้าทั้งหลายจริงแตกตื่นวิ่งวุ่นชนกันไปมาอย่างตื่นกลัว
    “ออกไป! ออกไปให้หมด!”
    “กรี๊ดดดดดด!”
    “นี่คุณ! กล้าดียังไงมาไล่ลูกค้าฉัน!...”
    แก่ก!
    ไม่ทันที่เจ๊แบมจะเอ่ยขึ้นมาจบประโยค มังกรก็ทำการเอาปืนสั้นจ่อตรงกระบาลของคนที่เป็นเจ้าของร้านด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายดั่งซาตาน
    “คุณภาวิกาอยู่ที่ไหน”
    “ภ..ภาวิกาอะไร ภาวิกาไหนฉันไม่รู้จัก”
    “พังร้านนี้ให้เละ”
    “ครับ!”
    โคร่ม!
    เพล้ง!
    “กรี๊ดดดดด!”
    “เกิดอะไรขึ้นวะ” ณิชากล่าวขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเธอได้ยินเสียงข้าวของในร้านแตก และตอนนี้เธออยู่หลังร้านกับภาวิกาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใดถึงมีเสียงคนโหยวายดังกว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา แต่เด็กสาวกลับมีสีหน้าที่ตื่นกลัวเป็นอย่างมากราวกับว่าเธอนั้นรู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในร้านนั้นใครเป็นตัวต้นเหตุ
    หมับ!
    ภาวิกาใช้ท่อนแขนเล็กๆกอดรัดเรียวขอของณิชาเพื่อรั้งไว้เมื่อหญิงสาวลุกขึ้นและตั้งท่าจะเดินไปดูข้างในร้านว่าเกิดอะไรขึ้น
    “คุณพ่อ...มาตามน้องภากลับแล้ว พี่ณิชาต้องช่วยน้องภานะคะ!”
    “ว่าไงนะ!”
    แก่ก!
    “ส่งตัวคุณภาวิกามาเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากตาย!” พระเจ้าช่างไม่ให้เวลาในการตกใจให้กับกับเธอเลยแม้เศษเสี้ยววินาทีเพราะตอนนี้หัวหน้าบอดี้การ์ดของวิชญ์ภาสได้ทำการเอาปืนมาจ่อหน้าผากเธอเป็นที่เรียบร้อย
    “ไอ้มังกร?”
    “เพื่อนมึงหรอ” วิชญ์ภาสเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าสงสัย
    “เปล่าครับ ผู้หญิงคนนี้คือณิชาลูกสาวของมณีคนที่ขายบ้านให้คุณภาสครับ” เขาพยักหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออกก่อนที่จะสั่งให้มังกรนั้นลดปืนลงและหลีกทางให้เขาเป็นคนจัดการเอง
    “ที่เธอทำแบบนี้เพราะแค้นฉันสินะ ณิชา”
    “แค้นบ้าอะไรล่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
    “ถ้าไม่ใช่เพราะแค้นเรื่องบ้าน แล้วจะจับตัวลูกสาวฉันมาทำไม ภามาหาฉัน!”
    “ฉันไม่ได้แค้น และฉันก็ไม่ได้รู้จักคุณทำไมฉันต้องจับเด็กคนนี้มา ฉันไปเจอน้องเขาที่กลางถนนเพราะกำลังจะถูกรถชน โทษตัวเองหน่อยเถอะว่าเลี้ยงลูกประสาอะไรถึงได้ปล่อยให้เด็กออกมาเดินกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ ฉันช่วยลูกคุณไว้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว คุณควรขอบคุณฉันด้วยซ้ำไม่ใช่เอาปืนมาจ่อหัวกันแบบนี้!”
    “เธอพลาดแล้วล่ะที่พูดกับฉันแบบนี้”
    “ทำไม? คุณจะฆ่าฉันทิ้งหรอ เอาเลยพวกคุณมันเป็นผู้มีอำนาจอยู่แล้วนี่ ทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่าคงเป็นงานถนัดของพวกคุณสินะ ขนาดลูกแท้ๆคุณยังเลี้ยงมาได้ขาดความอบอุ่นขนาดนี้เลย ชีวิตนี้เคยกอดลูกบ้างหรือเปล่า!”
    “ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ไอ้มังกรไปลากตัวภาวิกากลับบ้าน” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนดวงตาแข็งกร้าวลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ ส่งผลให้ณิชานั้นขนลุกซู่ไปทั้งตัว
    “ครับ!” เหล่าบอดี้การ์ดร่างกำยำพุ่งตรงเข้าหาเธอทันทีก่อนที่จะหิ้วปีกของหญิงสาวไว้และลากตัวของภาวิกาไปจากเธอ หญิงสาวรู้สึกเจ็บใจนักที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งเห็นภาวิการ้องไห้เธอยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่เหมือนกับว่าตอนนี้พวกเขากำลังพรากลูกสาวแท้ๆของเธอไป
    “ฮือๆ ไม่เอา น้องภาไม่กลับ! น้องภาจะอยู่กับพี่ณิชา ฮือๆ พี่ณิชาช่วยน้องภาด้วย”
    “นี่ไอ้บ้า! ปล่อยเด็กเดี๋ยวนี่นะ ไอ้เวรเอ้ย พวกมึงยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่าวะ!”
    “หึ นี่คงเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้เราสองคนมาเจอกันสินะ ณิชา!”
    “พรหมลิขิตแม่มึงสิ ปล่อยกู!”
    “เอาไว้ครั้งหน้า ฉันจะมาหาเธอเองนะสาวน้อย” เขาแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะเดินจากไปกับเหล่าลูกน้องทั้งหลาย ทุกคนในร้านกวาดสายตามองแหล่งทำงานหากินของตนเองอย่างเศร้าสร้อยที่ตอนนี้มันเละไม่เหลือชิ้นดี
    “โธ่ ร้านกู...” เจ๊แบมพูดสั่นคลอนน้ำตาแทบไหล เพราะสิ่งที่เขาสร้างมาทั้งชีวิตเละไม่เหลือชิ้นดี และแน่นอนเมื่อเจ้าของร้านเศร้าเหล่าลูกน้องทั้งหลายก็ย่อมเศร้าเช่นกันที่แหล่งทำมาหากินนั้นเสียหาย เหล่าลูกน้องในร้านนับสิบชีวิตโผเข้ากอดเจ๊แบมด้วยความโศกเศร้าเสียใจรวมถึงณิชาด้วยที่รู้สึกผิดมากๆและได้แต่โทษตัวเองว่าทุกอย่างมันพังเพราะเธอคนเดียว...

    @คฤหาสน์กิเลนารินทร์
    “ฮึก ฮือๆ” เด็กสาวปาดหยาดน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าและดวงตาแดงก่ำ แต่วิชญ์ภาสก็ยังถือไม้เรียวสีแดงขนาดยาวเหยียดเพื่อเป็นการขู่คนตัวเล็กที่ร้องไห้บนเตียงของเธอ
    “จะร้องอีกนานไหม เดี๋ยวเลือดก็ไหลออกมาจากตาหรอก”
    “ออกไปเลย น้องภาเกลียดคุณพ่อแล้ว คุณพ่อดื้อเกินไปแล้ว ฮือๆ” หลังจากที่ออกปากไล่คนเป็นพ่อออกไปแล้ว สาวน้อยก็ฟุบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่เพื่อเล่นบทดราม่าต่อไป
    “เธอนั่นแหละดื้อ ฉันบอกให้ไปอาบน้ำตั้งนานละยังไม่ไปอีก”
    “ไม่อาบ!”
    “ได้!”
    พรึ่บ!
    วิชญ์ลากขาเล็กๆของลูกสาวเพื่อดึงเข้าหาตนก่อนที่จะอุ้มคนร่างเล็กขึ้นมาพาดที่ไหล่
    “เดี๋ยวอาบให้”
    “ไม่!!!”

    10 นาทีผ่านไป....
    “หึๆๆ ฉันไม่ยักรู้แฮะว่าเธอเป็นลูกสาวซานตาคลอส” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆอย่างน่าขันกับผลงานชิ้นเอกที่เขาสร้างขึ้นด้วยการใช้สบู่เหลวตีเป็นฟองเยอะๆก่อนที่จะมาจัดแต่งหนวดขาวๆให้กับลูกสาว เท่านั้นยังไม่พอเขายังใช้ฟองสบู่สีขาวปิดร่างกายของลูกสาวไว้จนตอนนี้เธอแทบจะกลายเป็นฟองสบู่ขนาดใหญ่เสียแล้ว
    “หึ!”
    “ทำหน้าดีๆหน่อยลูกสาวพระบิดา”
    “ไม่ใช่สักหน่อย ลูกสาวคุณพ่อนั่นแหละ!”
    “ถ้าอย่างนั้นก็รีบอาบน้ำซะ วันนี้เธอทำฉันเหนื่อยมากเลยนะรู้ไหม” จากนั้นภาวิกาจากที่หน้างอคอเง้าก็อ่อนลงยอมให้ผู้เป็นพ่ออาบน้ำให้แต่โดยดี

    ฟู่ว~
    เสียงไดร์เป่าผมดังอย่างต่อเนื่องเพราะตอนนี้วิชญ์ภาสกำลังไดร์ผมสีดำยาวสลวยให้ลูกสาวเป็นกิจวัตรประจำที่เขาจะต้องทำก่อนที่จะส่งลูกเข้านอน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะได้มีโอกาสแบบนี้ทุกวันเพราะช่วงนี้งานก็เข้ามารุมเร้าเยอะจนไม่มีเวลา
    “เมื่อไหร่จะปิดเทอมนะ อยากไปหาคุณแม่จัง” เด็กสาวตัดพ้อออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความคิดถึงผู้เป็นแม่จับใจเพราะไม่ได้เจอกันหลายเดือน แต่ภาวิกาก็ไม่ทันสังเกตุว่ามีใครบางคนนั้นกำลังน้อยใจเมื่อลูกคิดถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่ที่อยู่ไกลแสนไกลแต่คนที่อยู่กับเธอแทบทุกวัน ภาวิกากลับบอกว่าเกลียด
    “ทำไม แม่เธอดีขนาดนั้นเลยหรือไง”
    “ก็คุณแม่ใจดี ไม่ได้ใจร้ายเหมือนคุณพ่อ”
    “เออ! ทุกคนก็ใจดีกว่าฉันทั้งนั้นแหละ นอนได้แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ทัน” ชายหนุ่มผู้ที่อยู่ในบทคุณพ่อขี้น้อยใจกดร่างเล็กของลูกสาวนอนราบกับเตียงแล้วจัดการห่มผ้าให้เธอเรียบร้อยและไม่ลืมที่จะปิดไฟทุกดวงจนมืดสนิท จากนั้นคนเจ้าเล่ห์ก็ทิ้งตัวนอนลงข้างๆลูกสาวอีกทั้งยังกอดรัดแน่นทำให้ภาวิกานั้นแทบหายใจไม่ออก
    “อื๊อ! กลับไปนอนห้องตัวเองเลยนะ”
    “ไม่ วันนี้ฉันเพิ่งถูกด่าว่าไม่เคยกอดลูกมา ก็เลยจะนอนกอดให้เธอหายใจไม่ออกไปเลย”
    “คุณพ่อไม่เคยเล่านิทานให้น้องภาฟังเลยอะ อยากฟังคุณพ่อเล่านิทานจัง”
    “เอางั้นหรอ...ก็ได้!”
    “กาลครั้งหนึ่งมีหนูน้อยคนหนึ่งชื่อว่า ภาวิกา แต่แล้ววันนึงเธอก็ได้หลงทางเข้าไปในป่าใหญ่ ทว่าเธอกลับโชคไม่ดีไปเจอเข้ากับอสูรกายตัวโต แล้วอสูรก็จับเด็กน้อยคนนั้นกินและเธอก็ตาย จบ! นอนได้”
    “อ้าว จ..จบแล้วหรอคะ”
    “อืม นอนได้แล้ว”
    “จบไวจัง...” คนเป็นพ่อได้แต่นอนอมยิ้มให้กับความน่ารักของลูกสาวตัวน้อยที่สั่งให้นอนก็นอนไม่ได้งอแงแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ในใจของเขากับกลัวเป็นอย่างมากเพราะเหลือเวลาอีกแค่สองเดือนโรงเรียนของภาวิกาก็จะปิดเทอมและนั่นก็ถึงเวลาที่เขาจะส่งลูกสาวเพียงคนเดียวไปอยู่กับแม่ที่อเมริกา มันทำให้เขากลัวเหลือเกิน กลัวว่าภาวิกาจะไม่กลับมาหาเขาอีก...




    __________________________________
    เจอกันครั้งแรกก็ดุเดือดเลยน๊า แต่อิน้องนี่ก็ปากแซ่บไม่ไหว ฮ่าๆๆๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×