ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : พรหมลิขิต
ขณะนี้มังกรกำลังมองไปยังหน้าจอแท็บเล็ตที่ขึ้นสัญญาณสีเขียวของสัญญาณโทรศัพท์มือถือของภาวิกา และตอนนี้วิชญ์ภาสและเหล่าบอดี้การ์ดอีกยี่สิบคนก็กำลังยืนครุ่นคิดอยู่ที่หน้าร้านเหล้าเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากบ้านของเขาไม่ถึงสองกิโลด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่ามันอยู่ในซอยที่ลึกมาก และเขานั้นก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีร้านเหล้าตั้งอยู่ตรงนี้
“สัญญาณจากโทรศัพท์มือถือของคุณภาอยู่ที่นี่ครับคุณภาส”
“ภาวิกามาทำอะไรอยู่ที่นี่”
“หรือว่าฝ่ายตรงข้ามของเราจะเป็นคนจับคุณภามาที่นี่ครับ” ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อว่าร้านเล็กๆแห่งนี้จะเป็นที่ซุ่มของศัตรู ที่ภาวิกาอยู่ที่นี่เพราะถูกลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่ยังหน้าเชื่อกว่า
“กวาดร้านนี้หาภาวิกาให้เจอ!”
“ครับ” เหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายตอบรับคำสั่งของผู้เป็นนายเสียงแข็งก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าไปข้างในร้านเหล้าแห่งนี้ ก่อนที่จะทำการกวาดล้างลูกค้าที่กำลังสังสรรค์กันอยู่ออกไปให้หมด ด้วยเหตุนี้ลูกค้าทั้งหลายจริงแตกตื่นวิ่งวุ่นชนกันไปมาอย่างตื่นกลัว
“ออกไป! ออกไปให้หมด!”
“กรี๊ดดดดดด!”
“นี่คุณ! กล้าดียังไงมาไล่ลูกค้าฉัน!...”
แก่ก!
ไม่ทันที่เจ๊แบมจะเอ่ยขึ้นมาจบประโยค มังกรก็ทำการเอาปืนสั้นจ่อตรงกระบาลของคนที่เป็นเจ้าของร้านด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายดั่งซาตาน
“คุณภาวิกาอยู่ที่ไหน”
“ภ..ภาวิกาอะไร ภาวิกาไหนฉันไม่รู้จัก”
“พังร้านนี้ให้เละ”
“ครับ!”
โคร่ม!
เพล้ง!
“กรี๊ดดดดด!”
“เกิดอะไรขึ้นวะ” ณิชากล่าวขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเธอได้ยินเสียงข้าวของในร้านแตก และตอนนี้เธออยู่หลังร้านกับภาวิกาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใดถึงมีเสียงคนโหยวายดังกว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา แต่เด็กสาวกลับมีสีหน้าที่ตื่นกลัวเป็นอย่างมากราวกับว่าเธอนั้นรู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในร้านนั้นใครเป็นตัวต้นเหตุ
หมับ!
ภาวิกาใช้ท่อนแขนเล็กๆกอดรัดเรียวขอของณิชาเพื่อรั้งไว้เมื่อหญิงสาวลุกขึ้นและตั้งท่าจะเดินไปดูข้างในร้านว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณพ่อ...มาตามน้องภากลับแล้ว พี่ณิชาต้องช่วยน้องภานะคะ!”
“ว่าไงนะ!”
แก่ก!
“ส่งตัวคุณภาวิกามาเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากตาย!” พระเจ้าช่างไม่ให้เวลาในการตกใจให้กับกับเธอเลยแม้เศษเสี้ยววินาทีเพราะตอนนี้หัวหน้าบอดี้การ์ดของวิชญ์ภาสได้ทำการเอาปืนมาจ่อหน้าผากเธอเป็นที่เรียบร้อย
“ไอ้มังกร?”
“เพื่อนมึงหรอ” วิชญ์ภาสเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าสงสัย
“เปล่าครับ ผู้หญิงคนนี้คือณิชาลูกสาวของมณีคนที่ขายบ้านให้คุณภาสครับ” เขาพยักหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออกก่อนที่จะสั่งให้มังกรนั้นลดปืนลงและหลีกทางให้เขาเป็นคนจัดการเอง
“ที่เธอทำแบบนี้เพราะแค้นฉันสินะ ณิชา”
“แค้นบ้าอะไรล่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแค้นเรื่องบ้าน แล้วจะจับตัวลูกสาวฉันมาทำไม ภามาหาฉัน!”
“ฉันไม่ได้แค้น และฉันก็ไม่ได้รู้จักคุณทำไมฉันต้องจับเด็กคนนี้มา ฉันไปเจอน้องเขาที่กลางถนนเพราะกำลังจะถูกรถชน โทษตัวเองหน่อยเถอะว่าเลี้ยงลูกประสาอะไรถึงได้ปล่อยให้เด็กออกมาเดินกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ ฉันช่วยลูกคุณไว้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว คุณควรขอบคุณฉันด้วยซ้ำไม่ใช่เอาปืนมาจ่อหัวกันแบบนี้!”
“เธอพลาดแล้วล่ะที่พูดกับฉันแบบนี้”
“ทำไม? คุณจะฆ่าฉันทิ้งหรอ เอาเลยพวกคุณมันเป็นผู้มีอำนาจอยู่แล้วนี่ ทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่าคงเป็นงานถนัดของพวกคุณสินะ ขนาดลูกแท้ๆคุณยังเลี้ยงมาได้ขาดความอบอุ่นขนาดนี้เลย ชีวิตนี้เคยกอดลูกบ้างหรือเปล่า!”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ไอ้มังกรไปลากตัวภาวิกากลับบ้าน” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนดวงตาแข็งกร้าวลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ ส่งผลให้ณิชานั้นขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ครับ!” เหล่าบอดี้การ์ดร่างกำยำพุ่งตรงเข้าหาเธอทันทีก่อนที่จะหิ้วปีกของหญิงสาวไว้และลากตัวของภาวิกาไปจากเธอ หญิงสาวรู้สึกเจ็บใจนักที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งเห็นภาวิการ้องไห้เธอยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่เหมือนกับว่าตอนนี้พวกเขากำลังพรากลูกสาวแท้ๆของเธอไป
“ฮือๆ ไม่เอา น้องภาไม่กลับ! น้องภาจะอยู่กับพี่ณิชา ฮือๆ พี่ณิชาช่วยน้องภาด้วย”
“นี่ไอ้บ้า! ปล่อยเด็กเดี๋ยวนี่นะ ไอ้เวรเอ้ย พวกมึงยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่าวะ!”
“หึ นี่คงเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้เราสองคนมาเจอกันสินะ ณิชา!”
“พรหมลิขิตแม่มึงสิ ปล่อยกู!”
“เอาไว้ครั้งหน้า ฉันจะมาหาเธอเองนะสาวน้อย” เขาแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะเดินจากไปกับเหล่าลูกน้องทั้งหลาย ทุกคนในร้านกวาดสายตามองแหล่งทำงานหากินของตนเองอย่างเศร้าสร้อยที่ตอนนี้มันเละไม่เหลือชิ้นดี
“โธ่ ร้านกู...” เจ๊แบมพูดสั่นคลอนน้ำตาแทบไหล เพราะสิ่งที่เขาสร้างมาทั้งชีวิตเละไม่เหลือชิ้นดี และแน่นอนเมื่อเจ้าของร้านเศร้าเหล่าลูกน้องทั้งหลายก็ย่อมเศร้าเช่นกันที่แหล่งทำมาหากินนั้นเสียหาย เหล่าลูกน้องในร้านนับสิบชีวิตโผเข้ากอดเจ๊แบมด้วยความโศกเศร้าเสียใจรวมถึงณิชาด้วยที่รู้สึกผิดมากๆและได้แต่โทษตัวเองว่าทุกอย่างมันพังเพราะเธอคนเดียว...
@คฤหาสน์กิเลนารินทร์
“ฮึก ฮือๆ” เด็กสาวปาดหยาดน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าและดวงตาแดงก่ำ แต่วิชญ์ภาสก็ยังถือไม้เรียวสีแดงขนาดยาวเหยียดเพื่อเป็นการขู่คนตัวเล็กที่ร้องไห้บนเตียงของเธอ
“จะร้องอีกนานไหม เดี๋ยวเลือดก็ไหลออกมาจากตาหรอก”
“ออกไปเลย น้องภาเกลียดคุณพ่อแล้ว คุณพ่อดื้อเกินไปแล้ว ฮือๆ” หลังจากที่ออกปากไล่คนเป็นพ่อออกไปแล้ว สาวน้อยก็ฟุบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่เพื่อเล่นบทดราม่าต่อไป
“เธอนั่นแหละดื้อ ฉันบอกให้ไปอาบน้ำตั้งนานละยังไม่ไปอีก”
“ไม่อาบ!”
“ได้!”
พรึ่บ!
วิชญ์ลากขาเล็กๆของลูกสาวเพื่อดึงเข้าหาตนก่อนที่จะอุ้มคนร่างเล็กขึ้นมาพาดที่ไหล่
“เดี๋ยวอาบให้”
“ไม่!!!”
10 นาทีผ่านไป....
“หึๆๆ ฉันไม่ยักรู้แฮะว่าเธอเป็นลูกสาวซานตาคลอส” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆอย่างน่าขันกับผลงานชิ้นเอกที่เขาสร้างขึ้นด้วยการใช้สบู่เหลวตีเป็นฟองเยอะๆก่อนที่จะมาจัดแต่งหนวดขาวๆให้กับลูกสาว เท่านั้นยังไม่พอเขายังใช้ฟองสบู่สีขาวปิดร่างกายของลูกสาวไว้จนตอนนี้เธอแทบจะกลายเป็นฟองสบู่ขนาดใหญ่เสียแล้ว
“หึ!”
“ทำหน้าดีๆหน่อยลูกสาวพระบิดา”
“ไม่ใช่สักหน่อย ลูกสาวคุณพ่อนั่นแหละ!”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบอาบน้ำซะ วันนี้เธอทำฉันเหนื่อยมากเลยนะรู้ไหม” จากนั้นภาวิกาจากที่หน้างอคอเง้าก็อ่อนลงยอมให้ผู้เป็นพ่ออาบน้ำให้แต่โดยดี
ฟู่ว~
เสียงไดร์เป่าผมดังอย่างต่อเนื่องเพราะตอนนี้วิชญ์ภาสกำลังไดร์ผมสีดำยาวสลวยให้ลูกสาวเป็นกิจวัตรประจำที่เขาจะต้องทำก่อนที่จะส่งลูกเข้านอน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะได้มีโอกาสแบบนี้ทุกวันเพราะช่วงนี้งานก็เข้ามารุมเร้าเยอะจนไม่มีเวลา
“เมื่อไหร่จะปิดเทอมนะ อยากไปหาคุณแม่จัง” เด็กสาวตัดพ้อออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความคิดถึงผู้เป็นแม่จับใจเพราะไม่ได้เจอกันหลายเดือน แต่ภาวิกาก็ไม่ทันสังเกตุว่ามีใครบางคนนั้นกำลังน้อยใจเมื่อลูกคิดถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าแม่ที่อยู่ไกลแสนไกลแต่คนที่อยู่กับเธอแทบทุกวัน ภาวิกากลับบอกว่าเกลียด
“ทำไม แม่เธอดีขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ก็คุณแม่ใจดี ไม่ได้ใจร้ายเหมือนคุณพ่อ”
“เออ! ทุกคนก็ใจดีกว่าฉันทั้งนั้นแหละ นอนได้แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ทัน” ชายหนุ่มผู้ที่อยู่ในบทคุณพ่อขี้น้อยใจกดร่างเล็กของลูกสาวนอนราบกับเตียงแล้วจัดการห่มผ้าให้เธอเรียบร้อยและไม่ลืมที่จะปิดไฟทุกดวงจนมืดสนิท จากนั้นคนเจ้าเล่ห์ก็ทิ้งตัวนอนลงข้างๆลูกสาวอีกทั้งยังกอดรัดแน่นทำให้ภาวิกานั้นแทบหายใจไม่ออก
“อื๊อ! กลับไปนอนห้องตัวเองเลยนะ”
“ไม่ วันนี้ฉันเพิ่งถูกด่าว่าไม่เคยกอดลูกมา ก็เลยจะนอนกอดให้เธอหายใจไม่ออกไปเลย”
“คุณพ่อไม่เคยเล่านิทานให้น้องภาฟังเลยอะ อยากฟังคุณพ่อเล่านิทานจัง”
“เอางั้นหรอ...ก็ได้!”
“กาลครั้งหนึ่งมีหนูน้อยคนหนึ่งชื่อว่า ภาวิกา แต่แล้ววันนึงเธอก็ได้หลงทางเข้าไปในป่าใหญ่ ทว่าเธอกลับโชคไม่ดีไปเจอเข้ากับอสูรกายตัวโต แล้วอสูรก็จับเด็กน้อยคนนั้นกินและเธอก็ตาย จบ! นอนได้”
“อ้าว จ..จบแล้วหรอคะ”
“อืม นอนได้แล้ว”
“จบไวจัง...” คนเป็นพ่อได้แต่นอนอมยิ้มให้กับความน่ารักของลูกสาวตัวน้อยที่สั่งให้นอนก็นอนไม่ได้งอแงแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ในใจของเขากับกลัวเป็นอย่างมากเพราะเหลือเวลาอีกแค่สองเดือนโรงเรียนของภาวิกาก็จะปิดเทอมและนั่นก็ถึงเวลาที่เขาจะส่งลูกสาวเพียงคนเดียวไปอยู่กับแม่ที่อเมริกา มันทำให้เขากลัวเหลือเกิน กลัวว่าภาวิกาจะไม่กลับมาหาเขาอีก...
__________________________________
เจอกันครั้งแรกก็ดุเดือดเลยน๊า แต่อิน้องนี่ก็ปากแซ่บไม่ไหว ฮ่าๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น