ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าของบ้าน?
ณิชาจัดเตรียมอาหารเย็นสำหรับแม่ของเธออย่างตั้งใจเพราะขั้นตอนทุกอย่างต้องถูกสุขอนามัยเธอจะไม่มีวันสะเพร่าเรื่องพวกนี้เป็นอันขาดเพราะเธอรู้ว่าตอนนี้แม่ของเธอเหลือเวลาอีกไม่มาก แต่เธอก็ยังไม่อยากเสียเขาไปตอนนี้เธอยังอยากให้แม่ของเธอมีลมหายใจอยู่ชื่นชมความสำเร็จของลูกๆที่ใกล้จะประสบความสำเร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เมื่อเธอจัดเตรียมทุกอยากไว้เสร็จแล้ว หญิงสาวก็ทำการยกถาดอาหารพร้อมกับก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องนอนของผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
เอียดดดดดดดดดดดดด
“แม่จ๋า ถึงเวลาทานข้าวแล้วจ้า” หลังจากที่หญิงสาวเปิดประตูห้องเข้ามานั้นก็แทบช็อคทันทีเมื่อเจอร่างของผู้เป็นแม่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
“แม่!” ณิชารีบปรี่เข้าไปหามณีทันทีพร้อมกับค่อยๆใช้มือช้อนศีรษะของแม่เธอขึ้นมาวางบนตักแล้วออกแรงเขย่าเพื่อเรียกสติของเธอกลับมา
“แม่! ตื่นสิ แม่เป็นอะไรอะ แม่จ๋า ฮือๆ ตื่นสิ”
3 วันผ่านไป...
ตอนนี้สองพี่น้องกำลังนั่งอยู่ที่โซฟาขนาดใหญ่กลางบ้านและแต่งกายด้วยชุดดำเพราะเพิ่งผ่านการจัดงานฌาปนกิจศพแม่แท้ๆของพวกเขาไป ตอนนี้ครอบครัวของทั้งสองนั้นได้ขาดที่ยึดเหนี่ยวไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต่อไปนี้พวกเขาจะสู้เพื่ออะไรเพราะยังไงก็ไม่มีคนที่รอดูความสำเร็จแล้ว
“อึก ฮือๆ” คนตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นสองมือกอดรูปภาพของแม่ไว้ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย นาวินลูบแผ่นหลังของน้องสาวฝาแฝดเบาๆเพื่อปลอบขวัญถึงแม้ว่าหัวใจดวงน้อยๆของเขาก็เจ็บปวดไม่ต่างกันก็ตาม แต่เขากลับพยายามกลั้นน้ำตาของตนเองไว้เพื่อไม่ให้ณิชาเห็น
“แม่ไปดีแล้วณิชา แม่อยู่บนสวรรค์เขามีความสุขกว่าเราสองคนเยอะเลย มึงหยุดร้องได้แล้วเดี๋ยวกูก็ร้องตามหรอก”
“อึก..ฮือๆ”
“ต่อไปนี้ก็เหลือแค่เราสองคนแล้วนะ” นาวินดึงร่างเล็กของณิชาเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความเสียใจต่างคนต่างร้องไห้น้ำตาไหลพร่าอาบแก้มไม่ขาดสาย ตอนนี้แม่ของพวกเขาไม่อยู่แล้วพวกเขาก็ต้องดิ้นรนกัดฟันสู้เพื่อเอาตัวรอดบนโลกที่แสนลำบากใบนี้ต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจไปเช่นกัน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
สองแฝดผงะออกจากกันและมองหน้ากันด้วยตกใจเมื่อจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา พวกเขารับรู้ได้ทันทีว่าคงจะเป็นพวกลูกน้องเสี่ยโจเจ้าหนี้ของพวกเขานั่นเอง ครานี้นาวินจึงเป็นฝ่ายเสียสละเดินไปเปิดประตูบ้านด้วยตนเองพร้อมกับเตรียมใจไว้แล้วว่ายังไงวันนี้ก็ต้องถูกพวกทวงหนี้เข้ามาทำร้ายร่างกายเหมือนทุกครั้งอย่างแน่นอน แต่ก็ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะคิดผิดเพราะหลังจากที่เปิดประตูออกมานั้นกลับไม่ใช่พวกของเสี่ยโจ เนื่องจากคนพวกนี้แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำบุคลิกดูสง่าแถมยังหน้าตาดีทุกคนราวกับคัดเลือกนักแสดง
“พวกพี่เป็นใคร” นาวินเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยเสียงสั่นกลัวแต่ทว่าพวกเขากลับไม่ตอบแต่เดินดันตัวของนาวินเข้ามาข้างในตัวบ้านราวกับเป็นเจ้าของ
“ ย...อย่าเข้ามานะเว้ย”
“พวกมึงเป็นลูกน้องเสี่ยโจใช่ไหม แม่กูสองคนเพิ่งเผาไปพวกมึงยังจะมาทวงอีกหรอ!” ณิชาเดินเข้าหาบุรุษปริศนาพวกนั้นอย่างเกรี้ยวกราดเป็นเพราะตอนนี้เธอกำลังเสียใจที่สูญเสียแม่ไปด้วย เธอจึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“ฉันชื่อ มังกร เป็นบอดี้การ์ดของคุณ ภาส เจ้าของบ้านหลังนี้”
“เจ้าของบ้าน? มั่วแล้วลุง เจ้าของบ้านหลังนี้คือแม่เราสองคนต่างหาก ออกไปเลยนะ ก่อนที่พวกเราจะแจ้งตำรวจ” หญิงสาวออกคำขู่เมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
“หึ ตำรวจหรอ? พวกเธอคิดว่าการที่พวกฉันมาถึงที่นี่ ฉันจะกลัวตำรวจอย่างนั้นหรอ”
“...” สองพี่น้องเงียบกริบหลังจากที่มังกรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนิ่งแววตาฉายความน่ากลัวน่าขนลุก เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“คุณภาสให้เวลาพวกเธอสองพี่น้องเก็บข้าวของออกจากบ้านพรุ่งนี้ เพราะวันมะรืนพวกเราจะมาทุบบ้านหลังนี้ทิ้ง เพราะว่าแม่ของพวกเธอขายบ้านหลังนี้ให้เจ้านายฉันแล้ว”
“ไม่จริง แม่ฉันไม่มีวันขายบ้านหลังนี้แน่ๆ พวกแกโกหก!”
“แม่ของพวกเธอขายบ้านหลังนี้ให้คุณภาสตั้งแต่สี่ปีที่แล้วแล้ว แล้วก็เอาเงินก้อนนี้เอามาเป็นค่าเทอมคุณหมอในอนาคต และ...”
“ควาย”
“ถ้าไม่เชื่อ ดูเอกสารการซื้อขายก็ได้นะ หวังว่าลูกๆคงจะจำลายมือคุณแม่ได้” หลังจากนั้นมังกรก็ยื่นสำเนาเอกสารการซื้อขายให้กับณิชาที่ตอนนี้เธอกำลังสติแตก หลังจากที่หญิงสาวเห็นเอกสารฉบับนั้นเธอก็แทบจะหยุดหายใจเพราะลายเซ็นนี้คือลายเซ็นของแม่เธอจริงๆ และแม่ของเธอก็ขายบ้านหลังนี้เพราะอยากได้เงินมาเป็นค่าเทอมและค่าการศึกษาของลูกทั้งสองจนจบปริญญา
“บายนะเด็กๆ หวังว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้เจอกันอีก”
พรึ่บ!
ณิชานั่งฟุบลงกับพื้นและเวลารอบข้างก็หยุดลงทำให้เธอนั้นหูอื้อและไม่ได้ยินอะไรเธอไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของตัวเอง เธอช็อคมาก ทั้งสงสารและโกรธแม่อีกทั้งยังโกรธตัวเองที่ไม่สามรถทำอะไรได้เลยแถมยังไม่รู้อีกว่าบ้านหลังนี้เป็นของคนอื่น
“ทำไมแม่ถึงทำอย่างนี้ กูไม่เรียนก็ได้เว้ยขอแค่มีที่ซุกหัวนอน ทำไมแม่ถึงทำแบบนี้วะ ถึงจะเรียนจบไปสุดท้ายก็ต้องลำบากอยู่ดี เหี้ยเอ๊ย! ชาติที่แล้วพวกเราสองคนไปทำกรรมอะไรไว้วะ”
“ใจเย็นๆเถอะณิชา โวยวายไปเราก็ไม่ได้บ้านกลับมาอยู่ดี กูว่าเราไปเก็บของแล้วไปอยู่ร้านเจ๊แบมก่อนดีกว่า”
“นี่เรา เสียบ้านไปแล้วจริงๆหรอวะนาวิน” นาวินพยักหน้าเพื่อยืนยันกับณิชาว่าตอนนี้พวกเขาไม่เหลืออะไรแล้วแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน สองแฝดโผกอดเข้าหากันอีกครั้งพร้อมกับร้องไห้ออกมาให้กับโชคชะตาที่แสนโหดร้าย ที่ไม่เคยใจดีต่อครอบครัวของพวกเขาเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะตั้งใจสร้างทุกอย่างแค่ไหนสุดท้ายมันก็ทลายลงราวกับถูกฟ้ากลั่นแกล้ง
"อึก ฮือๆ"
เมื่อเธอจัดเตรียมทุกอยากไว้เสร็จแล้ว หญิงสาวก็ทำการยกถาดอาหารพร้อมกับก้าวเท้าเดินตรงไปยังห้องนอนของผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
เอียดดดดดดดดดดดดด
“แม่จ๋า ถึงเวลาทานข้าวแล้วจ้า” หลังจากที่หญิงสาวเปิดประตูห้องเข้ามานั้นก็แทบช็อคทันทีเมื่อเจอร่างของผู้เป็นแม่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
“แม่!” ณิชารีบปรี่เข้าไปหามณีทันทีพร้อมกับค่อยๆใช้มือช้อนศีรษะของแม่เธอขึ้นมาวางบนตักแล้วออกแรงเขย่าเพื่อเรียกสติของเธอกลับมา
“แม่! ตื่นสิ แม่เป็นอะไรอะ แม่จ๋า ฮือๆ ตื่นสิ”
3 วันผ่านไป...
ตอนนี้สองพี่น้องกำลังนั่งอยู่ที่โซฟาขนาดใหญ่กลางบ้านและแต่งกายด้วยชุดดำเพราะเพิ่งผ่านการจัดงานฌาปนกิจศพแม่แท้ๆของพวกเขาไป ตอนนี้ครอบครัวของทั้งสองนั้นได้ขาดที่ยึดเหนี่ยวไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต่อไปนี้พวกเขาจะสู้เพื่ออะไรเพราะยังไงก็ไม่มีคนที่รอดูความสำเร็จแล้ว
“อึก ฮือๆ” คนตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นสองมือกอดรูปภาพของแม่ไว้ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย นาวินลูบแผ่นหลังของน้องสาวฝาแฝดเบาๆเพื่อปลอบขวัญถึงแม้ว่าหัวใจดวงน้อยๆของเขาก็เจ็บปวดไม่ต่างกันก็ตาม แต่เขากลับพยายามกลั้นน้ำตาของตนเองไว้เพื่อไม่ให้ณิชาเห็น
“แม่ไปดีแล้วณิชา แม่อยู่บนสวรรค์เขามีความสุขกว่าเราสองคนเยอะเลย มึงหยุดร้องได้แล้วเดี๋ยวกูก็ร้องตามหรอก”
“อึก..ฮือๆ”
“ต่อไปนี้ก็เหลือแค่เราสองคนแล้วนะ” นาวินดึงร่างเล็กของณิชาเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความเสียใจต่างคนต่างร้องไห้น้ำตาไหลพร่าอาบแก้มไม่ขาดสาย ตอนนี้แม่ของพวกเขาไม่อยู่แล้วพวกเขาก็ต้องดิ้นรนกัดฟันสู้เพื่อเอาตัวรอดบนโลกที่แสนลำบากใบนี้ต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจไปเช่นกัน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
สองแฝดผงะออกจากกันและมองหน้ากันด้วยตกใจเมื่อจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา พวกเขารับรู้ได้ทันทีว่าคงจะเป็นพวกลูกน้องเสี่ยโจเจ้าหนี้ของพวกเขานั่นเอง ครานี้นาวินจึงเป็นฝ่ายเสียสละเดินไปเปิดประตูบ้านด้วยตนเองพร้อมกับเตรียมใจไว้แล้วว่ายังไงวันนี้ก็ต้องถูกพวกทวงหนี้เข้ามาทำร้ายร่างกายเหมือนทุกครั้งอย่างแน่นอน แต่ก็ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะคิดผิดเพราะหลังจากที่เปิดประตูออกมานั้นกลับไม่ใช่พวกของเสี่ยโจ เนื่องจากคนพวกนี้แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำบุคลิกดูสง่าแถมยังหน้าตาดีทุกคนราวกับคัดเลือกนักแสดง
“พวกพี่เป็นใคร” นาวินเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยเสียงสั่นกลัวแต่ทว่าพวกเขากลับไม่ตอบแต่เดินดันตัวของนาวินเข้ามาข้างในตัวบ้านราวกับเป็นเจ้าของ
“ ย...อย่าเข้ามานะเว้ย”
“พวกมึงเป็นลูกน้องเสี่ยโจใช่ไหม แม่กูสองคนเพิ่งเผาไปพวกมึงยังจะมาทวงอีกหรอ!” ณิชาเดินเข้าหาบุรุษปริศนาพวกนั้นอย่างเกรี้ยวกราดเป็นเพราะตอนนี้เธอกำลังเสียใจที่สูญเสียแม่ไปด้วย เธอจึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“ฉันชื่อ มังกร เป็นบอดี้การ์ดของคุณ ภาส เจ้าของบ้านหลังนี้”
“เจ้าของบ้าน? มั่วแล้วลุง เจ้าของบ้านหลังนี้คือแม่เราสองคนต่างหาก ออกไปเลยนะ ก่อนที่พวกเราจะแจ้งตำรวจ” หญิงสาวออกคำขู่เมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
“หึ ตำรวจหรอ? พวกเธอคิดว่าการที่พวกฉันมาถึงที่นี่ ฉันจะกลัวตำรวจอย่างนั้นหรอ”
“...” สองพี่น้องเงียบกริบหลังจากที่มังกรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนิ่งแววตาฉายความน่ากลัวน่าขนลุก เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“คุณภาสให้เวลาพวกเธอสองพี่น้องเก็บข้าวของออกจากบ้านพรุ่งนี้ เพราะวันมะรืนพวกเราจะมาทุบบ้านหลังนี้ทิ้ง เพราะว่าแม่ของพวกเธอขายบ้านหลังนี้ให้เจ้านายฉันแล้ว”
“ไม่จริง แม่ฉันไม่มีวันขายบ้านหลังนี้แน่ๆ พวกแกโกหก!”
“แม่ของพวกเธอขายบ้านหลังนี้ให้คุณภาสตั้งแต่สี่ปีที่แล้วแล้ว แล้วก็เอาเงินก้อนนี้เอามาเป็นค่าเทอมคุณหมอในอนาคต และ...”
“ควาย”
“ถ้าไม่เชื่อ ดูเอกสารการซื้อขายก็ได้นะ หวังว่าลูกๆคงจะจำลายมือคุณแม่ได้” หลังจากนั้นมังกรก็ยื่นสำเนาเอกสารการซื้อขายให้กับณิชาที่ตอนนี้เธอกำลังสติแตก หลังจากที่หญิงสาวเห็นเอกสารฉบับนั้นเธอก็แทบจะหยุดหายใจเพราะลายเซ็นนี้คือลายเซ็นของแม่เธอจริงๆ และแม่ของเธอก็ขายบ้านหลังนี้เพราะอยากได้เงินมาเป็นค่าเทอมและค่าการศึกษาของลูกทั้งสองจนจบปริญญา
“บายนะเด็กๆ หวังว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้เจอกันอีก”
พรึ่บ!
ณิชานั่งฟุบลงกับพื้นและเวลารอบข้างก็หยุดลงทำให้เธอนั้นหูอื้อและไม่ได้ยินอะไรเธอไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของตัวเอง เธอช็อคมาก ทั้งสงสารและโกรธแม่อีกทั้งยังโกรธตัวเองที่ไม่สามรถทำอะไรได้เลยแถมยังไม่รู้อีกว่าบ้านหลังนี้เป็นของคนอื่น
“ทำไมแม่ถึงทำอย่างนี้ กูไม่เรียนก็ได้เว้ยขอแค่มีที่ซุกหัวนอน ทำไมแม่ถึงทำแบบนี้วะ ถึงจะเรียนจบไปสุดท้ายก็ต้องลำบากอยู่ดี เหี้ยเอ๊ย! ชาติที่แล้วพวกเราสองคนไปทำกรรมอะไรไว้วะ”
“ใจเย็นๆเถอะณิชา โวยวายไปเราก็ไม่ได้บ้านกลับมาอยู่ดี กูว่าเราไปเก็บของแล้วไปอยู่ร้านเจ๊แบมก่อนดีกว่า”
“นี่เรา เสียบ้านไปแล้วจริงๆหรอวะนาวิน” นาวินพยักหน้าเพื่อยืนยันกับณิชาว่าตอนนี้พวกเขาไม่เหลืออะไรแล้วแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน สองแฝดโผกอดเข้าหากันอีกครั้งพร้อมกับร้องไห้ออกมาให้กับโชคชะตาที่แสนโหดร้าย ที่ไม่เคยใจดีต่อครอบครัวของพวกเขาเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะตั้งใจสร้างทุกอย่างแค่ไหนสุดท้ายมันก็ทลายลงราวกับถูกฟ้ากลั่นแกล้ง
"อึก ฮือๆ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น