ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
20:00 น.
(ณิชา มึงถึงคอนโดของแทนไทหรือยัง)
พี่ชายฝาแฝดของเธอเอ่ยถามอย่างใจจดใจจ่อเพราะเป็นห่วงน้องสาวกลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่ตอนนี้เธอก็ได้เดินทางใกล้จะถึงคอนโดของแทนไทเต็มทีแล้ว เดินจากป้ายรถโดยสารอีกแค่สิบนาทีก็จะถึงที่หมาย คืนนี้ณิชาได้ขอไปค้างที่คอนโดของแทนไทเนื่องจากคืนนี้เขาไม่ว่างทั้งคืน มันจึงเป็นความโชคดีของเธอที่มีที่หลบภัย
“ใกล้แล้ว มันเอาคีย์การ์ดให้แล้วด้วย”
(มึงรีบเข้าไปเลยนะ อย่าชักช้า แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงกูนะตอนนี้กูอยู่กับไอ้ก้องภพแล้ว)
“เออๆ แค่นี้นะดูแลตัวเองด้วย”
(มึงก็ด้วยนะณิชา อย่าลืมว่าเรามีกันแค่สองคน)
“อื้ม” จากนั้นหญิงสาวก็กดวางสายไป แต่ก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้เมื่อได้ยินทำว่า เรามีกันแค่สองคน ออกมาจากปากผู้มีศักดิ์เป็นพี่มันช่างรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าพวกเขากำลังจะได้แยกจากกัน
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรมสักทีวะ” ณิชาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างตัดพ้อในโชคชะตาอันโหดร้าย แต่สองเท้าก็ก้าวเดินตรงไปยังจุดหมายปลายทางที่ริมถนนโดยไม่ทันระวังเลยว่าตอนนี้คนที่เธอกำลังหนีนั้นตามหาเธอพบแล้ว
“มันคงไม่หมดง่ายๆหรอกเว้ยอีณิชา ตราบใดที่มึงยังไม่มีเงินมาคืนกู” ณิชาเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อน้ำเสียงน่าเกรงขามที่เธอคุ้ยเคยนั้นเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้วยหลัง หญิงสาวจึงหันขวับไปมองบุคคลดังกล่าวแล้วก็พบเสี่ยโจกับเหล่าลูกน้องร่างกำยำอีกหกคนที่กำลังจ้องเขม็งมาที่เธอปานจะกินเลือดกินเนื้อ
“เสี่ย!”
“จับตัวมันไว้!” เพียงแค่ผู้เป็นนายนั้นออกคำสั่ง ลูกน้องก็รีบปรี่เข้าไปล็อกแขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้อย่างเลือดเย็น ไม่มีความเมตตาหรือสงสารผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้เลยแม้แต่น้อย
“กรี๊ดดดด ช่วยด้วย ช่วยด้วยหนูกำลังจะถูกไอ้เสี่ยนี่ฆ่าตาย! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ”
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือหยาบกระด้างฟาดลงไปบนใบหน้าขนาดเล็กเต็มแรงจนเลือกลบปาก เนื่องจากพละกำลังของเสี่ยโจมันเยอะมาก อีกทั้งดวงตาของชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราผู้นี้ยังน่ากลัวราวกับซาตาน
“แหกปากดีจังเลยนะมึง แต่ถ้าแหกอย่างอื่นได้ด้วยก็คงจะดีกว่านี้”
“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ไอ้เหี้ย”
เพี๊ยะ!
“เก่งแต่ปากเหมือนแม่มึงไม่มีผิด แต่สุดท้ายมันก็ง่ายมาเอากับกูจนพ่อมึงฆ่าตัวตาย ฮ่าๆๆ”
“ไม่จริง! แม่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” ณิชาถึงกับฟิวส์ขาดเมื่อได้ยินเสี่ยโจเอ่ยออกมาเช่นนั้น เธอตกใจและโกรธมากที่เสี่ยโจพูดถึงแม่เธอแบบนี้
“ใช่สิ แม่มึงมันเป็นคนใจง่ายแบบนั้นแหละ เวลาที่มันไม่มีเงินมันก็มาอ่อยกูให้กูหลง แต่แท้จริงแล้วมันก็เอาไปทั่วกับคนที่มีเงินให้มันได้นั่นแหละ แม่มึงมันร่านมึงควรยอมรับซะอีณิชา!”
“ไม่ กูไม่เชื่อ แม่กูไม่ใช่คนแบบนั้น มึงข่มขืนแม่กูใช่ไหม! มึงนี่มันเลวจริงๆ” ณิชาเถียงแทบขาดใจเพราะเธอนั้นไม่เชื่อว่าแม่ของเธอจะหมดปัญญาถึงเพียงนี้ และที่สำคัญเรื่องนี้ไม่มีใครบอกเธอเลยแม้แต่คนเดียว แต่ถ้าหากว่าเสี่ยโจข่มขืนแม่ของเธอ เรื่องนี้น่าจะปักใจเชื่อได้มากกว่า
“หึ อีโง่! ปากเก่งแบบนี้คงมีเงินมาคืนกูแล้วสินะ”
“...ไม่มีเว้ย จะฆ่ากูก็เอาเลยสิ กูก็ไม่ได้อยากอยู่นักหรอกถ้ามีชีวิตเฮงซวยแบบนี้”
“กูไม่ฆ่ามึงหรอกอีเด็กโง่ แต่ถ้าเกิดว่ามึงยอมเป็นนางบำเรอของกูหนึ่งปี กูอาจจะยกหนี้ให้มึงทั้งหมดและก็ซื้อบ้านของพ่อมึงกลับมาก็ได้”
“...” ณิชาชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินข้อเสนอที่น่าสนใจ เพราะระยะเวลาหนึ่งปีเธอคงจะหาเงินตั้งมากมายพอที่จะใช้หนี้และซื้อบ้านคืนมาไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรไว้ให้รักษาแล้ว แม้แต่ศักดิ์ศรีและความเป็นคนของเธอก็แทบจะไม่เหลือ ถ้าเกิดว่านี่มันเป็นทางเดียวที่จะยุติเรื่องทุกอย่างลงได้ เธอก็ยอม ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
“ว่าไง จะยอมขายศักดิ์ศรี หรือจะเป็นหนี้ต่อ”
“ฉัน...”
“ปล่อยเด็กคนนั้นมาให้ฉัน” ทันใดนั้นเองก็มีเจ้าของน้ำเสียงทุ้มนิ่งเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดอีกยี่สิบนายที่เล็งปืนมายังเสี่ยโจและพวก
“คุณภาส...” ณิชาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ขี่รถสปอร์ต (เพราะไม่ใช่ม้าขาว) มาช่วยเธอ คือคนที่เธอเกลียดในตอนนี้
“มึงเป็นใครวะไอ้หน้าจืด กล้าดียังไงถึงมาสั่งกู”
“พูดแบบนี้ ไม่ให้เกียรติช่างแต่งหน้ากูเลยนะไอ้แก่”
“ไอ้มังกร ไปชิงตัวยัยนั่นมาให้กู”
“ครับ” เมื่อได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายแล้ว บอดี้การ์ดหนุ่มก็เดินเข้าไปชิงตัวณิชาจากเงื้อมมือของชายร่างกำยำพวกนั้นอย่างกล้าหาญแล้วส่งหญิงสาวไปให้ชายหนุ่มตามคำสั่ง ด้วยความที่เหล่าบอดี้การ์ดของวิชญ์ภาสนั้นเยอะกว่า เสี่ยโจและพวกจึงไม่โต้กลับ
“เอาพวกมาเยอะขนาดนี้ ขี้โกงนี่หว่า”
“มึงคงจะยังไม่รู้สินะว่ากูเป็นใคร กูชื่อ ภาส วิชญ์ภาส กิเลนารินทร์ ถ้าอยากรู้เรื่องราวของฉันเพิ่มเติม ก็ไปค้นหาในวิกิพีเดียก็แล้วกันนะ”
“กิเลนารินทร์!”
“ไป!”
“คุณจะพาฉันไปไหน”
“....”วิชญ์ภาสออกแรงกระชากแขนของคนตัวเล็กอย่างใจร้ายโดยไม่สนเลยว่าเธอจะเจ็บหรือไป ก่อนที่เขาจะยัดเธอเข้าไปในรถสปอร์ตของตนเอง
“เข้าไป!”
ปัง!
“งานคืนนี้กูฝากมึงไปแทนก็แล้วกันนะ บอกว่ากูโรคกะเพราะกำเริบก็ได้ กูไม่มีอารมณ์ไปร่วมงานสังสรรค์เพราะกูอารมณ์เสียไปแล้ว”
“ครับ”
บรืนนนนนนนนนนนนนนน
“จอดรถ”
“...” วิชญ์ภาสเงียบมาตลอดทางไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้ว่าเธอนั้นจะถามและออกคำสั่งต่างๆตั้งมากมาย แต่เขาก็ยังพยายามข่มอารมณ์โทสะของตนเองไว้แล้วนิ่งเฉยเพราะกลัวว่าจะควบคุมในสิ่งที่เขาจะยัดเยียดให้เธอไม่ได้
“ฉันบอกให้จอดไง”
“...”
“โอ้ย! ไอ้บ้าเอ้ย หูตึงหรือไง ก็บอกให้จอดไงวะ!”
เอียดดดดดดดดดด
แก่กๆ
“ปลดล็อกสิฉันจะลง”
“ทำไมไอ้เสี่ยนั่นมันถึงทำร้ายเธอ” ชายหนุ่มเอ่ยคำถามขึ้นมาดื้อๆโดยไม่สนใจคำสั่งของหญิงสาวแม้แต่น้อย ครานี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธราวกับหึงหวงหญิงผู้เป็นที่รักเสียอย่างนั้น
“เสือก!”
“นี่ฉันพูดดีๆนะณิชา!”
“อึก...ทำไมต้องตะคอกใส่!”
“ถ้าฉันเข้าไปช่วยเธอไม่ทัน เธอก็คงจะตกเป็นนางบำเรอของไอ้เสี่ยนั่นแน่ๆ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันใกล้จะได้ใช้หนี้แล้วแท้ๆ” ชายหนุ่มอึ้งกับคำตอบที่ได้ เธอพูดเหมือนกับว่าเป็นความผิดของเขาที่ขับรถผ่านแล้วเห็นเธอกำลังโดนทำร้ายแล้วตัดสินใจบุกเข้าไปช่วย ชายหนุ่มรู้สึกเสียดายที่ช่วยผิดคน
“นี่เธอตั้งใจไว้แบบนั้นอยู่แล้วหรอ”
“ใช่ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอกนะคุณ และที่สำคัญอีณิชาคนนี้มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรอยู่แล้ว จะเป็นนางบำเรอใครมันก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ”
“หึ งั้นหรอ แล้วถ้าเกิดว่าฉันอยากจะได้เธอมาเป็นคนของฉัน และเธอก็ต้องทำตามฉันทุกอย่างที่ฉันต้องการในระยะเวลาเพียงแค่สามเดือนล่ะ เธอจะยอมไหม”
“แล้วฉันจะได้อะไร”
“ทุกอย่างที่เธอต้องการ อยากได้บ้านคืน? อยากให้ฉันจ่ายหนี้ให้? ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ”
“ทุกอย่าง...จริงๆหรอ”
“ใช่...ทุกอย่าง”
“...” ณิชาเงียบสงัดลงในขณะที่ดวงตากลมโตนั้นยังจ้องมองไปยังดวงตาคมกริบฟ้องไปด้วยคำถามว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมานั่นเขาพูดจริงหรือเปล่าหรือแค่ล้อเธอเล่น วิชญ์ภาสไม่หลบตาเธอเลยสักนิดเพราะสิ่งที่เขากล่าวออกมานั้นล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้นและไม่คิดจะโกหกด้วย หญิงสาวลังเลเป็นอย่างมากทั้งกลัวและประหม่าไปหมด แต่ถ้าจะปฏิเสธไปก็เสียดายโอกาสที่จะได้ทุกอย่างคืน เพราะถ้าขืนเธอไม่ยอมแรกด้วยศักดิ์ศรีเธออาจจะเสียทุกอย่างไปและไม่มีทางที่จะทวงคืนได้
“หรือเธอไม่สนใจก็ไม่เป็นไรนะ ฉันไม่ได้บัง!...”
หมับ!
ในที่สุดถ้อยคำสุดท้ายก็ได้ถูกกลืนกินลงไปในลำคอเมื่อหญิงสาวนั้นเอื้อมมือไปประคองท้ายทอยของชายหนุ่มไว้ก่อนที่จะทำเรื่องไม่คาดคิด เนื่องจากเธอนั้นใช้ความเร็วเพียงเสี้ยววินาทีในการประทับริมฝีปากบางของตนเองลงประกบบนริมฝีปากหนาของเขาโดยไม่ลังเลและเขินอายเลยสักนิด การที่เธอจู่โจมเขาแบบนี้มันทำให้ชายหนุ่มนั้นตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเธอจะเอาจริง ซึ่งมันก็แสดงให้เขาเห็นอีกว่า ศักดิ์ศรี มันไม่ได้สำคัญไปกว่าการรักษาสิ่งสำคัญไว้
ณิชาค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าจนเผลอสบตาเข้ากับชายหนุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้วจู่ๆเธอก็รู้สึกว่าหัวใจที่อยู่ข้างในร่างกายของตนนั้นเต้นเร็วผิดปกติราวกับว่ามันกำลังจะหลุดออกมาจากขั้ว
ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
“ฉันตกลง ฉันจะเป็นคนของคุณที่คุณสามารถสั่งให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่ฉันต้องได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ”
“หึ”
วิชญ์ภาสใช้มือทั้งสองข้างประครองใบหน้าเรียวเล็กพร้อมกับสอดสายตาเจ้าเล่ห์ฉายแววความพึงพอใจเป็นที่สุดที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ จากนั้นเขาก็ประกบริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของคนตัวเล็กจนแนบสนิทก่อนที่จะออกแรงบดขยี้แรงๆจึงทำให้ณิชารู้สึกแสบและชาไปหมด แต่เธอก็ยังแข็งใจยอมหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสอันเร่าร้อนทุกอย่าง และอดทนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน
_______________________________________
อร๊ายยยย! นี่มันอารายกันซาร่า เขิลเกินปุยมุ้ย~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น