NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [LOVELESS MAFAI]: เผลอใจให้คนไร้รัก (มี E-BOOK)

    ลำดับตอนที่ #10 : ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 65



    20:00 น.
    (ณิชา มึงถึงคอนโดของแทนไทหรือยัง)
    พี่ชายฝาแฝดของเธอเอ่ยถามอย่างใจจดใจจ่อเพราะเป็นห่วงน้องสาวกลัวว่าจะเกิดอันตราย แต่ตอนนี้เธอก็ได้เดินทางใกล้จะถึงคอนโดของแทนไทเต็มทีแล้ว เดินจากป้ายรถโดยสารอีกแค่สิบนาทีก็จะถึงที่หมาย คืนนี้ณิชาได้ขอไปค้างที่คอนโดของแทนไทเนื่องจากคืนนี้เขาไม่ว่างทั้งคืน มันจึงเป็นความโชคดีของเธอที่มีที่หลบภัย
    “ใกล้แล้ว มันเอาคีย์การ์ดให้แล้วด้วย”
    (มึงรีบเข้าไปเลยนะ อย่าชักช้า แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงกูนะตอนนี้กูอยู่กับไอ้ก้องภพแล้ว)
    “เออๆ แค่นี้นะดูแลตัวเองด้วย”
    (มึงก็ด้วยนะณิชา อย่าลืมว่าเรามีกันแค่สองคน)
    “อื้ม” จากนั้นหญิงสาวก็กดวางสายไป แต่ก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้เมื่อได้ยินทำว่า เรามีกันแค่สองคน ออกมาจากปากผู้มีศักดิ์เป็นพี่มันช่างรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าพวกเขากำลังจะได้แยกจากกัน
    “เฮ้อ เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรมสักทีวะ” ณิชาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างตัดพ้อในโชคชะตาอันโหดร้าย แต่สองเท้าก็ก้าวเดินตรงไปยังจุดหมายปลายทางที่ริมถนนโดยไม่ทันระวังเลยว่าตอนนี้คนที่เธอกำลังหนีนั้นตามหาเธอพบแล้ว
    “มันคงไม่หมดง่ายๆหรอกเว้ยอีณิชา ตราบใดที่มึงยังไม่มีเงินมาคืนกู” ณิชาเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อน้ำเสียงน่าเกรงขามที่เธอคุ้ยเคยนั้นเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้วยหลัง หญิงสาวจึงหันขวับไปมองบุคคลดังกล่าวแล้วก็พบเสี่ยโจกับเหล่าลูกน้องร่างกำยำอีกหกคนที่กำลังจ้องเขม็งมาที่เธอปานจะกินเลือดกินเนื้อ
    “เสี่ย!”
    “จับตัวมันไว้!” เพียงแค่ผู้เป็นนายนั้นออกคำสั่ง ลูกน้องก็รีบปรี่เข้าไปล็อกแขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้อย่างเลือดเย็น ไม่มีความเมตตาหรือสงสารผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้เลยแม้แต่น้อย
    “กรี๊ดดดด ช่วยด้วย ช่วยด้วยหนูกำลังจะถูกไอ้เสี่ยนี่ฆ่าตาย! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ”
    เพี๊ยะ!
    ฝ่ามือหยาบกระด้างฟาดลงไปบนใบหน้าขนาดเล็กเต็มแรงจนเลือกลบปาก เนื่องจากพละกำลังของเสี่ยโจมันเยอะมาก อีกทั้งดวงตาของชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราผู้นี้ยังน่ากลัวราวกับซาตาน
    “แหกปากดีจังเลยนะมึง แต่ถ้าแหกอย่างอื่นได้ด้วยก็คงจะดีกว่านี้”
    “อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ไอ้เหี้ย”
    เพี๊ยะ!
    “เก่งแต่ปากเหมือนแม่มึงไม่มีผิด แต่สุดท้ายมันก็ง่ายมาเอากับกูจนพ่อมึงฆ่าตัวตาย ฮ่าๆๆ”
    “ไม่จริง! แม่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” ณิชาถึงกับฟิวส์ขาดเมื่อได้ยินเสี่ยโจเอ่ยออกมาเช่นนั้น เธอตกใจและโกรธมากที่เสี่ยโจพูดถึงแม่เธอแบบนี้
    “ใช่สิ แม่มึงมันเป็นคนใจง่ายแบบนั้นแหละ เวลาที่มันไม่มีเงินมันก็มาอ่อยกูให้กูหลง แต่แท้จริงแล้วมันก็เอาไปทั่วกับคนที่มีเงินให้มันได้นั่นแหละ แม่มึงมันร่านมึงควรยอมรับซะอีณิชา!”
    “ไม่ กูไม่เชื่อ แม่กูไม่ใช่คนแบบนั้น มึงข่มขืนแม่กูใช่ไหม! มึงนี่มันเลวจริงๆ” ณิชาเถียงแทบขาดใจเพราะเธอนั้นไม่เชื่อว่าแม่ของเธอจะหมดปัญญาถึงเพียงนี้ และที่สำคัญเรื่องนี้ไม่มีใครบอกเธอเลยแม้แต่คนเดียว แต่ถ้าหากว่าเสี่ยโจข่มขืนแม่ของเธอ เรื่องนี้น่าจะปักใจเชื่อได้มากกว่า
    “หึ อีโง่! ปากเก่งแบบนี้คงมีเงินมาคืนกูแล้วสินะ”
    “...ไม่มีเว้ย จะฆ่ากูก็เอาเลยสิ กูก็ไม่ได้อยากอยู่นักหรอกถ้ามีชีวิตเฮงซวยแบบนี้”
    “กูไม่ฆ่ามึงหรอกอีเด็กโง่ แต่ถ้าเกิดว่ามึงยอมเป็นนางบำเรอของกูหนึ่งปี กูอาจจะยกหนี้ให้มึงทั้งหมดและก็ซื้อบ้านของพ่อมึงกลับมาก็ได้”
    “...” ณิชาชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินข้อเสนอที่น่าสนใจ เพราะระยะเวลาหนึ่งปีเธอคงจะหาเงินตั้งมากมายพอที่จะใช้หนี้และซื้อบ้านคืนมาไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรไว้ให้รักษาแล้ว แม้แต่ศักดิ์ศรีและความเป็นคนของเธอก็แทบจะไม่เหลือ ถ้าเกิดว่านี่มันเป็นทางเดียวที่จะยุติเรื่องทุกอย่างลงได้ เธอก็ยอม ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
    “ว่าไง จะยอมขายศักดิ์ศรี หรือจะเป็นหนี้ต่อ”
    “ฉัน...”
    “ปล่อยเด็กคนนั้นมาให้ฉัน” ทันใดนั้นเองก็มีเจ้าของน้ำเสียงทุ้มนิ่งเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง พร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดอีกยี่สิบนายที่เล็งปืนมายังเสี่ยโจและพวก
    “คุณภาส...” ณิชาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ขี่รถสปอร์ต (เพราะไม่ใช่ม้าขาว) มาช่วยเธอ คือคนที่เธอเกลียดในตอนนี้
    “มึงเป็นใครวะไอ้หน้าจืด กล้าดียังไงถึงมาสั่งกู”
    “พูดแบบนี้ ไม่ให้เกียรติช่างแต่งหน้ากูเลยนะไอ้แก่”
    “ไอ้มังกร ไปชิงตัวยัยนั่นมาให้กู”
    “ครับ” เมื่อได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายแล้ว บอดี้การ์ดหนุ่มก็เดินเข้าไปชิงตัวณิชาจากเงื้อมมือของชายร่างกำยำพวกนั้นอย่างกล้าหาญแล้วส่งหญิงสาวไปให้ชายหนุ่มตามคำสั่ง ด้วยความที่เหล่าบอดี้การ์ดของวิชญ์ภาสนั้นเยอะกว่า เสี่ยโจและพวกจึงไม่โต้กลับ
    “เอาพวกมาเยอะขนาดนี้ ขี้โกงนี่หว่า”
    “มึงคงจะยังไม่รู้สินะว่ากูเป็นใคร กูชื่อ ภาส วิชญ์ภาส กิเลนารินทร์ ถ้าอยากรู้เรื่องราวของฉันเพิ่มเติม ก็ไปค้นหาในวิกิพีเดียก็แล้วกันนะ”
    “กิเลนารินทร์!”
    “ไป!”
    “คุณจะพาฉันไปไหน”
    “....”วิชญ์ภาสออกแรงกระชากแขนของคนตัวเล็กอย่างใจร้ายโดยไม่สนเลยว่าเธอจะเจ็บหรือไป ก่อนที่เขาจะยัดเธอเข้าไปในรถสปอร์ตของตนเอง
    “เข้าไป!”
    ปัง!
    “งานคืนนี้กูฝากมึงไปแทนก็แล้วกันนะ บอกว่ากูโรคกะเพราะกำเริบก็ได้ กูไม่มีอารมณ์ไปร่วมงานสังสรรค์เพราะกูอารมณ์เสียไปแล้ว”
    “ครับ”

    บรืนนนนนนนนนนนนนนน
    “จอดรถ”
    “...” วิชญ์ภาสเงียบมาตลอดทางไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้ว่าเธอนั้นจะถามและออกคำสั่งต่างๆตั้งมากมาย แต่เขาก็ยังพยายามข่มอารมณ์โทสะของตนเองไว้แล้วนิ่งเฉยเพราะกลัวว่าจะควบคุมในสิ่งที่เขาจะยัดเยียดให้เธอไม่ได้
    “ฉันบอกให้จอดไง”
    “...”
    “โอ้ย! ไอ้บ้าเอ้ย หูตึงหรือไง ก็บอกให้จอดไงวะ!”
    เอียดดดดดดดดดด
    แก่กๆ
    “ปลดล็อกสิฉันจะลง”
    “ทำไมไอ้เสี่ยนั่นมันถึงทำร้ายเธอ” ชายหนุ่มเอ่ยคำถามขึ้นมาดื้อๆโดยไม่สนใจคำสั่งของหญิงสาวแม้แต่น้อย ครานี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธราวกับหึงหวงหญิงผู้เป็นที่รักเสียอย่างนั้น
    “เสือก!”
    “นี่ฉันพูดดีๆนะณิชา!”
    “อึก...ทำไมต้องตะคอกใส่!”
    “ถ้าฉันเข้าไปช่วยเธอไม่ทัน เธอก็คงจะตกเป็นนางบำเรอของไอ้เสี่ยนั่นแน่ๆ”
    “ก็ใช่น่ะสิ ฉันใกล้จะได้ใช้หนี้แล้วแท้ๆ” ชายหนุ่มอึ้งกับคำตอบที่ได้ เธอพูดเหมือนกับว่าเป็นความผิดของเขาที่ขับรถผ่านแล้วเห็นเธอกำลังโดนทำร้ายแล้วตัดสินใจบุกเข้าไปช่วย ชายหนุ่มรู้สึกเสียดายที่ช่วยผิดคน
    “นี่เธอตั้งใจไว้แบบนั้นอยู่แล้วหรอ”
    “ใช่ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอกนะคุณ และที่สำคัญอีณิชาคนนี้มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรอยู่แล้ว จะเป็นนางบำเรอใครมันก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ”
    “หึ งั้นหรอ แล้วถ้าเกิดว่าฉันอยากจะได้เธอมาเป็นคนของฉัน และเธอก็ต้องทำตามฉันทุกอย่างที่ฉันต้องการในระยะเวลาเพียงแค่สามเดือนล่ะ เธอจะยอมไหม”
    “แล้วฉันจะได้อะไร”
    “ทุกอย่างที่เธอต้องการ อยากได้บ้านคืน? อยากให้ฉันจ่ายหนี้ให้? ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ”
    “ทุกอย่าง...จริงๆหรอ”
    “ใช่...ทุกอย่าง”
    “...” ณิชาเงียบสงัดลงในขณะที่ดวงตากลมโตนั้นยังจ้องมองไปยังดวงตาคมกริบฟ้องไปด้วยคำถามว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมานั่นเขาพูดจริงหรือเปล่าหรือแค่ล้อเธอเล่น วิชญ์ภาสไม่หลบตาเธอเลยสักนิดเพราะสิ่งที่เขากล่าวออกมานั้นล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้นและไม่คิดจะโกหกด้วย หญิงสาวลังเลเป็นอย่างมากทั้งกลัวและประหม่าไปหมด แต่ถ้าจะปฏิเสธไปก็เสียดายโอกาสที่จะได้ทุกอย่างคืน เพราะถ้าขืนเธอไม่ยอมแรกด้วยศักดิ์ศรีเธออาจจะเสียทุกอย่างไปและไม่มีทางที่จะทวงคืนได้
    “หรือเธอไม่สนใจก็ไม่เป็นไรนะ ฉันไม่ได้บัง!...”
    หมับ!
    ในที่สุดถ้อยคำสุดท้ายก็ได้ถูกกลืนกินลงไปในลำคอเมื่อหญิงสาวนั้นเอื้อมมือไปประคองท้ายทอยของชายหนุ่มไว้ก่อนที่จะทำเรื่องไม่คาดคิด เนื่องจากเธอนั้นใช้ความเร็วเพียงเสี้ยววินาทีในการประทับริมฝีปากบางของตนเองลงประกบบนริมฝีปากหนาของเขาโดยไม่ลังเลและเขินอายเลยสักนิด การที่เธอจู่โจมเขาแบบนี้มันทำให้ชายหนุ่มนั้นตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเธอจะเอาจริง ซึ่งมันก็แสดงให้เขาเห็นอีกว่า ศักดิ์ศรี มันไม่ได้สำคัญไปกว่าการรักษาสิ่งสำคัญไว้
    ณิชาค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าจนเผลอสบตาเข้ากับชายหนุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้วจู่ๆเธอก็รู้สึกว่าหัวใจที่อยู่ข้างในร่างกายของตนนั้นเต้นเร็วผิดปกติราวกับว่ามันกำลังจะหลุดออกมาจากขั้ว
    ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก
    “ฉันตกลง ฉันจะเป็นคนของคุณที่คุณสามารถสั่งให้ฉันทำอะไรก็ได้ แต่ฉันต้องได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ”
    “หึ”
    วิชญ์ภาสใช้มือทั้งสองข้างประครองใบหน้าเรียวเล็กพร้อมกับสอดสายตาเจ้าเล่ห์ฉายแววความพึงพอใจเป็นที่สุดที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ จากนั้นเขาก็ประกบริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของคนตัวเล็กจนแนบสนิทก่อนที่จะออกแรงบดขยี้แรงๆจึงทำให้ณิชารู้สึกแสบและชาไปหมด แต่เธอก็ยังแข็งใจยอมหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสอันเร่าร้อนทุกอย่าง และอดทนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน




    _______________________________________
    อร๊ายยยย! นี่มันอารายกันซาร่า เขิลเกินปุยมุ้ย~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×