ตอนที่ 2 : SIN OF LOVE EP01 50%
ซ่อนรักกุกมิน E P 0 1
******
แสงแฟลชจากกล้องนับสิบตัวสาดรัวๆเข้ากระทบกับใบหน้ารูปไข่ซึ่งถูกสวมทับด้วยแว่นหรูสีดำ ปลายเส้นผมหยักนุ่มถูกจัดแต่งทรงให้ม้วนลอนสะบัดปลิวเล็กน้อยเมื่อปะทะเข้ากับสายลมเย็นๆหลังจากที่เจ้าตัวก้าวเท้าลงจากรถมา ปลายส้นของรองเท้าที่สูงขึ้นมาหนึ่งเซ็นก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉงบนพื้นพรมแดงที่ถูกปูทอดยาวไปจนถึงตัวอาคาร ใบหน้าเรียบนิ่งเชิ่ดหยิ่งตั้งตรงโดยหาได้สนใจกล้องนับสิบตัวที่กำลังยื้อแย่งกันรัวแฟลชเพื่อให้ได้ภาพสวยๆไปลงข่าวหน้าหนึ่งในวันพรุ่งนี้
เจ้าของเท้าเล็กยังคงก้าวเดินไปบนพื้นพรมแดงอย่างเฉิดฉายกระทั่งเดินมาจนถึงจุดกึ่งกลางของทางเดินเจ้าตัวถึงได้หยุดฝีเท้าลง พร้อมกันนั้นแว่นกันเเดดสีดำที่เคยสวมทับไว้บนใบหน้าก็ค่อยๆถูกมือเล็กดึงออกก่อนดวงตากลมโตหากแต่ดูโฉบเฉี่ยวจะหันกลับไปจ้องมองยังกล้องนับสิบตัวที่ยังคงให้ความสนใจมาที่ตัวเอง และเพียงหลังจากนั้นไม่นานโค้ชตัวสีขาวที่ตัดกับเสื้อซีทรูแนบเนื้อสีครีมก็ถูกดึงให้ไหล่ตกลงหนึ่งข้างเผยให้เห็นไหล่ขาวมนที่ล้อกับแสงแฟลชได้เป็นอย่างดี และพอคิดว่านักข่าวพวกนั้นคงจะได้ภาพที่ถูกอกถูกใจเจ้าของเรือนกายบางก็กระชับโค้ชกลับเข้าที่เดิมพร้อมกับแว่นสีดำที่ถูกสวมทับให้ปิดบังดวงตาเช่นเดิมก่อนที่เท้าเล็กจะก้าวเข้าสู่งานที่รออยู่เบื้องหน้า
บรรยากาศภายในงานประมูลเครื่องเพชรดูเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากที่สุดในตอนนี้สำหรับเจมินะเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่อายุเริ่มย่างเข้ายี่สิบปีเต็มเขาก็ถูกพาออกงานจำพวกนี้เป็นว่าเล่น เขากลายเป็นบุคคลที่ทุกครั้งออกงานจะต้องมีสำนักข่าวมาคอยถ่ายรูปและจบด้วยการนำเอารูปเขาไปลงหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์แทบจะทุกฉบับ และหัวข้อข่าวไร้สาระพวกนั้นก็มักจะหนีไม่พ้น ทายาทอันดับหนึ่งของเคกรุ๊ป เจมินะซัง ซึ่งอ่านแล้วบางครั้งเขาเองก็อยากจะสำลักน้ำออกมาเพราะโปรไฟล์เริ่ดหรูพวกนั้นมันก็แค่สิ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปิดตาและหลอกลวง เขาที่จู่ๆก็กลายเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าของบริษัทชื่อดังอย่างเคกรุ๊ป เป็นลูกคนรวยที่พึ่งจบจากนอก กลายเป็นคนดังในสังคมไฮโซที่ต้องแต่งตัวออกงานและเสนอหน้าไปทุกงานประมูล จนบางครั้งมันก็เกิดความคิดพวกขึ้นมาในหัวของเขาว่านี่น่ะเหรอสิ่งที่เด็กในวัยยี่สิบปีเขาทำกัน
น่าเบื่อและไร้สาระสิ้นดีเลย
“ซองประมูลถูกส่งมาแล้วอีกยี่สิบนาทีคุณหนูจะต้องขึ้นไปบนเวทีนะครับ” นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ทันไรเสียงที่คุ้นชินหูและงานที่เขาต้องทำมันเป็นประจำก็ถูกลูกน้องคนสนิทคอยสั่งการ ซึ่งเป็นอีกข้อที่เขารู้สึกว่ามันน่าเบื่อเอามากๆ
“ฉันรู้น่าเรียว แต่เดี๋ยวขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม” คนถูกเรียกว่าคุณหนูเอ็ดเข้าให้เบาๆกับการจ้ำจี้จ้ำชัยของคนสนิท คนตัวเล็กรีบลุกถอดโค้ชตัวยาวออกวางพาดไว้ที่เก้าอี้โดยไม่รอให้เรียวเอ่ยอนุญาติสักคำ
“ให้ผมไปด้วยดีกว่าครับคุณ…”
“ไม่ต้อง!! หยุดเลย” เรียวพูดไม่ทันจะจบประโยคดีคนเป็นนายหญิงก็รีบเสียงดุใส่ทันที “ฉันโตแล้วนะเรียวไปห้องน้ำแค่นี้ไม่ตายหรอก”
“คุณหนู...”
“พูดเล่นน่าซีเรียสไปได้ ฉันไปคนเดียวได้จริงๆเรียวเฝ้ากระเป๋าให้ด้วยล่ะกัน” จีมินพยักหน้ายืนยันอีกเสียงเพื่อให้เรียวไม่ต้องเป็นห่วง เขารู้ว่าเรียวถูกสั่งให้ประกบติดเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแต่แค่จะไปห้องน้ำแค่นี้มันก็คงจะไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นหรอกมั้ง คิดได้เช่นนั้นคุณหนูตัวเล็กก็เดินจ้ำอ้าวฝ่าฝูงชนที่ยืนออกันตรงทางเดินออกมาสายตาก็พยายามสอดส่องมองหาทางไปห้องน้ำแต่ไม่ยักจะเจอ
“ทางไหนนะ” เดินงมออกมาตรงทางเดินที่เริ่มจะมืดปากเล็กก็พรางบ่นไปเรื่อย และพอคิดว่าตรงนี้น่าจะใช่ทางไปห้องน้ำเท้าเล็กจึงเดินต่อไปเรื่อยๆจนในที่สุดเขาก็เจอป้ายบอกทางที่บอกให้เลี้ยวขวา จีมินเดินตามป้ายบอกทางไปด้วยความแปลกใจนิดๆเมื่อรอบข้างเริ่มเงียบเกินกว่าจะเป็นทางที่ใช้เดินมาห้องน้ำ เงียบจนคิดว่าคงมีแค่เขาคนดียวที่ยืนอยู่ตรงบริเวณนี้
แต่…
“หลังจบงานประมูลครั้งนี้เราหมั้นกันไหม” นั่นไม่ใช่เสียงเขา มีใครอีกสองคนที่ยืนอยู่ตรงบริเวณนั้น ทั้งสองยืนหันหลังให้เขาจากตรงมุมเสาที่บังอยู่
“หืมม…มันไม่เร็วไปหรอ ทำไมจู่ๆถึงพูดขึ้นมาล่ะ”
"ก็ไม่รู้..."
"เหมือนกลัวว่าเธอจะไม่อยู่แล้ว”
“พูดไรแบบนั้นเราไม่ได้จะไปไหนสักหน่อย”
“อืมม...รู้ แต่มันหวิวแบบบอกไม่ถูกจริงๆ”
“ขี้กลัวตั้งเเต่เมื่อไหร่เนี่ย มากอดมา”
นั่นเป็นบทสนทนาที่เขาบังเอิญไปได้ยิน แต่จะใช้คำว่าบังเอิญได้ไหมนะในเมื่อเขายืนแอบฟังทั้งสองคนอยู่ จีมินยกมือขึ้นทาบที่อกข้างซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเองส่วนสายตายังคงจับจ้องมองยังภาพที่ทั้งสองคนกอดปลอบกัน
เพียงแค่ฟังก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของพวกเขาสองคน ได้แต่ระบายยิ้มให้กับภาพนั้นเเล้วเดินจากมาเงียบๆ
มันน่าอิจฉาเนอะ ทั้งชีวิตนี้จะมีใครมาพูดแบบนี้กับเขาบ้างไหมนะหรือมันจะมีใครที่กลัวว่าเขาจะหายไปจากโลกนี้บ้างหรือเปล่า หรือแค่คิดมันก็ดูเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้เลยสักนิด
“แขกผู้มีเกีรติทุกท่าน อีกสิบนาทีงานประมูลชุดเครื่องเพชรจะเริ่มต้นขึ้นขอเชิญตัวแทนจากทั้งห้าบริษัทวางซองประมูลที่โต๊ะด้านหน้าและยืนประจำที่แท่นของบริษัทด้วยครับ” เสียงจากไมค์โครโฟนภายในงานดังกึกก้องจนได้ยินออกมาถึงข้างนอกทำให้จีมินที่พึ่งจะทำธุระในห้องน้ำเสร็จต้องรีบวิ่งหน้าตั้งกลับเข้ามา
"ให้ตายเถอะนี่เขาต้องโดนเรียวบ่นให้อีกแน่ๆ แล้วนี่แท่นของบริษัทอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้"
“เชิญคุณเจมินะประจำที่แท่นบริษัทเคด้วยครับ อีกหนึ่งนาทีงานประมูลจะเริ่มต้นขึ้น” สิ้นเสียงพิธีกรลูกน้องคนสนิทอย่างเรียวก็รีบมองหาคุณหนูของตัวเองทันที สายตาที่เคยไว้ใช้จับมองคนเป็นนายสลับมองนาฬิกาบนข้อมือไปด้วย เข็มนาฬิกายังคงเดินวนไปข้างหน้าไม่หยุดนิ่งจนเกือบจะครบหนึ่งนาทีสุดท้ายที่พิธีกรประกาศแต่ก็ยังไร้วี่เเววของคุณหนูของเขา
“อีกหนึ่งนาทีสุดท้ายหากคุณเจมินะยังคงไม่ประจำที่แท่นบริษัททางเราคงต้องตัดสิทธิ์ตามกติกานะครับ”
“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง” พรึ่บ
ปัง ปัง ปัง
กรี๊ดดดด
เสียงปืนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนดังขึ้นสามนัดติดพร้อมกับเสียงไมค์ของพิธีกรถูกตัดไปก่อนไฟในห้องโถงจัดงานจะดับพรึ่บลงผู้คนภายในงานต่างแตกตื่นและวิ่งกันเอาตัวรอดจนเกิดความโกลาหล แต่ภายใต้เหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดคิดนั้นใครคนนึงที่ถูกฝึกมาป็นอย่างดีกลับไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“เรียวฟังฉันนะ ฉันปลอดภัยดีตอนนี้ซองประมูลอยู่ที่ไหน” จีมินขยับตัวหาที่กำบังพร้อมกันนั้นก็ติดต่อหาลูกน้องคนสนิทผ่านบลูธูทตัวจิ๋วที่เสียบไว้ข้างหูอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ตอนนี้ตีเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากการปล้นเอกสารประมูลซึ่งก็เดาไม่ได้อีกนั่นแหละว่ามาจากฝ่ายไหน
“อยู่ถัดจากแท่นบริษัทของเจกรุ๊ปครับคุณหนู”
“ดี งั้นนายไปรอฉันที่รถอีกสิบนาทีเราไปเจอกันที่นั่น”
“แต่คุณหนูมันอันตรายเกินไปนะครับเราไม่รู้ด้วยว่าฝ่ายไหนที่โจมตีอยู่”
“เรื่องนั้นไว้ก่อนไปรอฉันที่รถ” ติ๊ด จีมินกดปิดบลูธูทเมื่อรู้ว่าเรียวคงไม่ยอมและคงจะตื้อเขาอยู่อย่างนั้น สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้มีแค่เสี่ยงกายเข้าไปในดงกระสุนเพื่อเอาซองประมูลกลับมา
ปัง ปัง กรี๊ดด "ช่วยด้วยค่าา ช่วยด้วย"
เสียงกรีดร้องยังคงดังระงมและผู้คนก็ยังคงวิ่งกันไปมา เสียงปืนก็ยังคงดังติดๆกันเหมือนจงใจให้เกิดความกลัว เพราะถ้าหากจะยิงเพื่อฆ่าจริงๆมันก็คงไม่กราดยิงขึ้นฟ้าแบบนี้แน่ๆจีมินคิด หรือไม่นี่ก็อาจจะเป็นสถานการณ์จำลองที่สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่างของใครสักคนซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เพราะหน้าที่ของเขาในตอนนี้มีแค่การเอาซองประมูลกลับมา
ตุบ
พลั่กก
“โอ๊ยยย” ระหว่างทางที่พยายามแทรกตัวไปยังแท่นของบริษัทที่อยู่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงกลับมีใครบางคนจงใจต่อยเข้าที่ท้องน้อยของเขาอย่างแรง ความจุกและเจ็บทำให้ต้องงอตัวและล้มลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ด้วยการถูกฝึกมาให้สู้ด้วยสัญชาตญาณของผู้ล่าคุณหนูตัวเล็กจึงรีบควักอาวุธคู่กายที่เน็บไว้ในกางเกงปักเข้าที่อกของฝ่ายตรงข้ามในทันที
อั่กกก เพล้งง ปลายมีดที่เกือบจะแทงเข้าที่หน้าท้องของเขาหล่นลงกับพื้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ล้มลงตามมา จีมินรีบหยิบเอามีดขนาดเล็กนั้นขึ้นมาถือไว้ในมือพร้อมกันนั้นก็รีบถลาตัวไปยังแท่นของบริษัทที่มีซองประมูลวางอยู่ ข้างกันนั้นก็ยังมีซองประมูลของเจกรุ๊ปวางอยู่เช่นเดียวกัน
“เรียบร้อยสักที” พูดภายใต้ความมืดแต่ก็มองเห็นเป็นอย่างดีพร้อมกันนั้นก็หยิบเอาซองเอกสารขึ้นมาถือไว้แน่น ถอนหายใจอย่างโล่งอกเตรียมจะหมุนตัวเพื่อกลับไปยังจุดนัดหมายกับเรียว แต่...
“คุณ ระวัง ”
ปัง ปัง ปัง
ร่างของใครสักคนถูกกระสุนกราดยิงเข้าใส่สามนัด จีมินกำลังจะถลาตัวเข้าไปรับร่างนั้นไว้แต่ข้อมือกลับถูกกระชากออกมาอย่างเเรง
“คุณหนูไปกันได้แล้วครับ”
“เดี๋ยวเรียวนายไม่เห็นเหรอว่ามีคนโดนยิง ปล่อยฉันก่อน” จีมินพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุมของลูกน้องคนสนิท เมื่อกี้เขาเห็นคนโดนยิงต่อหน้าเธอมองมาที่เขาเหมือนต้องการความช่วยเหลือ
“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเราคุณหนู”
“เกี่ยวสิเรียว!! เธอกำลังจะตายนะ”
“นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องช่วย”
“หมายความว่าไง…”
“ตอบสิเรียว” จีมินหยุดเดินดื้อๆเมื่อถูกกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจนถึงด้านนอก และเมื่อเห็นแสงไฟทันทีก็ไม่รอช้าที่จะก้มลงมองอาวุธที่ถือติดมือมาด้วย
ปลายมีดเล็กๆที่ถืออยู่นั้นเป็นคำตอบได้ดีกว่าการที่เรียวยังยืนเงียบ สัญลักษณ์รูปหงส์ที่ปรากฏอยู่นั้นทำแขนขาเขาอ่อนแรงไปหมดสุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้สิ่งที่ถืออยู่ร่วงหล่นลงพื้น
“ฝีมือฝ่ายเรางั้นหรอ”
“นายรู้ตั้งแต่แรกใช่ไหมเรียว รู้ตั้งแต่เเรกใช่ไหม” จีมินตวาดเสียงดังลั่นเมื่อเป็นอีกครั้งที่โดนล้อเล่นกับความรู้สึก นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วกับการที่ฮาชิทดสอบเขาด้วยเหตุการณ์บ้าๆพวกนี้
“นายรู้ไหมเมื่อกี้มีคนโดนยิง เขามองฉันให้ฉันช่วย แต่ฉัน….”
“ฉันดันคือต้นเหตุให้คนบริสุทธิ์อย่างเขามาตายเพราะบททดสอบบ้าๆนี่น่ะเหรอ”
“คุณหนูอย่า” เรียวเข้าห้ามทันทีเมื่อเห็นนายหญิงของตัวเองเตรียมจะกรีดเข้าที่ข้อมือซ้ำกับรอยแผลเดิม เขารู้ว่าคุณหนูต้องอดทนกับบททดสอบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน รู้ว่าเจ้านายตัวเล็กหวาดกลัวแค่ไหนกับทุกๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่การเป็นแค่ลูกน้องอย่างเขาทำได้มากที่สุดก็แค่คอยปลอบและอยู่เป็นเพื่อน
"ตายไปเลยดีไหมทุกอย่างจะได้จบ..."
"ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะฉันอีกแล้วนายเข้าใจฉันไหม” จีมินพึมพำในลำคอก่อนเอนตัวพิงไหล่ของเรียวเหมือนคนหมดเเรง บางทีก็เหนื่อยที่จะหายใจต่อ
“เรากลับกันเถอะคุณหนู อีกเดี๋ยวนักข่าวก็คงจะแห่กันมาที่นี่” ไม่ได้รับการตอบรับใดๆกลับมา มีเพียงความเงียบและร่างกายที่ไร้เรี่ยวเเรงพิงตัวเขาอยู่ เห็นเช่นนั้นเรียวจึงตัดสินใจช้อนอุ้มคุณหนูของเขาขึ้นมาแนบไว้กับอกก่อนพาเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล
หวังแค่ว่าตื่นมาพรุ่งนี้นายหญิงของเขาคงจะลืมเรื่องราวพวกนี้ไปจนหมดเหมือนที่เคยทำมา
LOADING
50%
TALK
เรื่องนี้ทุกตัวละครซ่อนความรู้สึกเก่งมากนะยกเว้นน้องจีมิน กรี๊ดดดด 555 อย่าปล่อยคนเเต่งหวีดคนเดียวเลยค่ะ ไปเม้นและเล่นแท็กกันเถอะนะจ๊ะคนดี
#ซ่อนรักกุกมิน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อะไรยังไง น่าติดตามค่ะ ลุ้นๆ><