ตอนที่ 6 : รีไรท์ BLUE BELLs 05 [99.99%] CUT
จองกุกเดินผิวปากเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดีทำยุนกินและแทฮยองต้องส่งสายตามองมาด้วยความประหลาดใจทั้งยังติดใจที่ไม่รู้ว่าเมื่อคืนไอ้คนตัวสูงหายไปนอนที่ไหนถึงไม่ยอมกลับบ้าน เพราะจะบอกว่าอยู่ที่สนามแข่งรถก็คงไม่ใช่เพราะเมื่อคืนฝนตกและสนามก็ปิด
“ไปไหนมาวะ?” ยุนกิตะโกนเอ่ยถามจากตรงโซฟาที่นั่งอยู่
“บ้านช่องไม่ยอมกลับ ล่ะอารมณ์ดีไรแต่เช้า” ตามด้วยคำถามจากแทฮยอง จองกุกที่กำลังจะก้าวขึ้นบันได้จึงต้องเดินวกกลับมายังห้องโถงใหญ่ชั้นล่างของบ้าน
“คนเรามันจะมีความสุขไม่ได้เลยหรอวะ” จองกุกเอ่ย อัลฟ่าตัวสูงจำใจยอมเดินเข้ามานั่งลงที่โซฟาพร้อมเอนหลังพิงพนักกว้างอย่างคนอารมณ์ดี
“มันจะความสุขไรขนาดนั้น? สองสามวันก่อนยังจะเป็นจะตายหน้านี่อย่างกับหมาเบื่อโลก” อัลฟ่าผิวเข้มหน้าคมอย่างแทฮยองอดไม่ได้จริงๆที่จะไม่ขยี้เรื่องที่จี้ใจดำของคนอารมณ์ดี จองกุกได้ยินดังนั้นถึงกับเหลือบสายตามองพร้อมถอนหายใจออกมา
“ก็อย่าซ้ำดิมันเจ็บข้างใน” คนพูดทำหน้านิ่ง คิดเรื่องนั้นขึ้นมาทีไรเป็นอันต้องหงุดหงิด
“เอออ ไม่ได้จะซ้ำหรอกแต่ที่อารมณ์ดีนี่คือ?” แทฮยองถามซ้ำ สายตาก็มองยังท่าไหวไหล่ของคนอารมณ์ดีด้วยความหมั่นไส้
“คนมันเจอคู่โซลเมทจะอารมณ์ดีนี่ผิด?” จองกุกว่าสั้นๆ
“อำเล่นปะ?” คนตกใจเมื่อครู่ยังคงไม่เชื่อหูตัวเอง แทฮยองจ้องมองอีกคนอย่างรอคำตอบ
“มันไม่อำหรอก” และไม่ใช่จองกุกที่ตอบกลับเป็นยุนกิที่นั่งข้างกันเอ่ยขึ้นแทน
“กลิ่นโอเมก้า?”
“ตามคำทำนายจริงๆสินะ” ยุนกิพึมพำ เขาแปลกๆตั้งแต่ที่ได้กลิ่นโอเมก้าจางๆตอนที่จองกุกเดินเข้ามาในบ้านเเล้วแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมันคงไปกกกับโอเมก้าสักคนมาเมื่อคืนถึงไม่ได้กลับบ้าน
“อืม โอเมก้า” เสียงจองกุกเอ่ยนิ่งๆ ยืนยันว่าสิ่งที่ยุนกิคิดน่ะถูกแล้ว
“ใคร” คำถามสั้นๆจากยุนกิ จองกุกเงียบไปอึดใจก่อนเอ่ยตอบ
“จีมิน” คนทั้งสองเมื่อได้ยินคำตอบถึงกับขมวดคิ้วแน่นพลางนึกในใจว่าคุ้นๆชื่อนี้ ดีดนิ้วดังเปาะทันทีเมื่อภาพของเด็กคนนึงลอยแวบเข้ามาในหัว
“คงไม่ใช่…” เตรียมจะเอ่ยถามแต่จองกุกกลับสวนขึ้นก่อน
“ใช่ จีมินเพื่อนไอ้ฮุนมันนั่นแหละ” จองกุกไม่ลังเลที่จะตอบในสิ่งแทฮยองกำลังคิด
“ใกล้ตัวมากเหอะว่ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อ”
แทฮยองยังคงเหลือเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน และที่เขาคุ้นๆชื่อ “จีมิน มิน” ก็เพราะว่าเขาไปรับไปส่งไอ้น้องฮุนมันบ่อยๆที่college เลยพลอยได้เจอหน้าน้องบ้างเป็นบางครั้ง เคยคุยด้วยแค่คำสองคำเองมั้ง เหมือนดูเป็นเด็กขี้อายแต่แววตาโคตรดื้อบอกเลย
“จูบเขาไปแล้วอ่ะดิ” ยุนกิว่าพลางตบลงที่ไหล่หนาของอัลฟ่าคนน้องเบาๆ จองกุกก็พยักหน้ารับว่าทำจริง ทำมากกว่าจูบด้วยซ้ำ
“ปากนุ่มดี ผิวก็นุ่ม…”
“แต่ดื้อ ดื้อตาใส” จองกุกได้โอกาสก็รีบบ่นให้คนทั้งสองฟัง แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าคมกลับอมยิ้มบางเบายามเอ่ยถึงโอมก้าตัวเล็ก
“ล่ะเป็นงี้จะเอาไงต่อ เรื่องที่ฝูงอีก ไม่ง่ายนะคิดให้ดีๆ” ยุนกิดูจะเป็นห่วงอัลฟ่ารุ่นน้องคนนี้เอามากๆถึงเอ่ยเตือน
วันที่เขาถูกขับไล่ออกจากฝูงเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานพร้อมถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้กบฏนอกคอก เขากลายเป็นคนเรร่อนไร้ฝูงอยู่เป็นแรมเดือน กระทั่งวันนั้นวันที่ได้เจอกับเด็กน้อยตาแป๋วที่เป็นถึงลูกชายของจ่าฝูงใต้ จองกุกในวัย13ปี พูดกับเขาว่า
“เฮียไปอยู่ฝูงใต้กับผมไหม”
“เหม่อไรอ่ะเฮีย เรียกตั้งนาน” จองกุกสะกิดถามเมื่อเฮียตัวขาวเอาแต่นั่งเหม่อ ถามไรไปอีกคนก็เงียบ
“เปล่าหรอก” ยุนกิเมื่อได้สติก็เลี่ยงที่จะตอบ แต่ถึงไม่บอกเดาว่ายังไงจองกุกก็คงรู้ พวกเขาอยู่ด้วยกันมานาน รู้ดีว่าอีกคนคิดยังไงและรู้สึกอะไรอยู่
“ถ้ามันยากและไม่ไหวก็บอก เฮียอยู่ข้างๆพวกมึงนะ”
“ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำเพื่อคนอื่นขนาดนั้น จำไว้” คำพูดซึ้งๆและแววตาที่ทอประกายความเป็นห่วง จองกุกรู้ดีว่าคนตรงหน้านั้นหวังดีแค่ไหน และเขาไม่อยากให้เฮียมันคิดว่าเป็นหนี้บุญคุณที่จะต้องตอบแทนเรื่องในวันนั้น
“เฮียกิ”
“กอดหน่อย” ว่าจบอัลฟ่าตัวสูงก็ไม่รอให้คนเป็นเฮียอนุญาต จองกุกเข้าสวมกอดเฮียตัวขาวทันที
ภาพของอัลฟ่าหนุ่มในมุมของคนทั่วไปที่เคยพบเจอคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งน่าเกรงขาม และปกครองคนทั้งฝูงได้ หากแต่ในตอนนี้ไม่เหลือเค้าโครงนั้นให้เห็นสักนิด มีเพียงเด็กชายจองกุกที่อยู่ในอ้อมกอดเฮียของเขา
“กอดด้วย” เสียงงอนง้อของแทฮยองดังขึ้นเมื่อยืนมองได้สักพัก เจ้าตัวเดินเข้าไปใกล้ก่อนโถมตัวลงกอดทาบทับคนทั้งสองไว้
วันนี้ทั้งวันจีมินต้องใช้ผ้าผันคอผืนหนาในการผันรอบต้นคอเพื่อปกปิดกลิ่นฮีท? และรอยช้ำสีเข้มสองสามรอยที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรเพราะตื่นเช้ามาเขาก็เจอรอยนี้บนคอซะแล้ว พอลองเอามือสัมผัสแตะๆ ในใจคิดแล้วว่าคงเจ็บมากแน่ๆ แต่เปล่าเลยเขาไม่รู้สึกเจ็บใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่สีมันซ้ำเลือดมากๆ
“จับอยู่นั่นอ่ะไม่จางลงหรอกมิน” เสียงจีฮุนเอ่ยค่อนขอดด้วยความเอ็นดู เขาได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากของจีมินแล้ว ซึ่งไม่ได้ตกใจที่คู่โซลเมทของจีมินเป็นไอ้เฮียจองกุก แต่ตกใจเรื่องที่จีมินมีอาการฮีทนี่สิน่าแปลก
“แต่มินไม่เจ็บนะ” ยัง โอเมก้าตัวเล็กยังคงเถียงตาใส
“อือ ไม่เจ็บก็ไม่ใช่ว่าให้พี่มันทำบ่อยๆล่ะ” โอเมก้าตัวเล็กยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทั้งที่โดนจีฮุนดุเบาๆ
“ล่ะนี่ยาระงับฮีทอะไรกินยัง อย่าบอกว่าออกจากห้องด้วยผ้าผันคอผืนแค่นั้นอ่ะนะ” จีฮุนบ่นยาวและพอได้รับคำตอบเขาก็ถอนหายใจออกมายาวๆเช่นกัน 'ให้ได้แบบนี่สิ ไอ้เฮียจองกุกมันไม่บอกอะไรเมทเลยอ่อ นี่ฮีทเลยนะ'
“งั้นฮุนพาแวะร้านยาก่อนล่ะกันค่อยกลับ” จีฮุนตัดสินใจเสร็จสับโดยไม่รอความเห็นจากจีมิน เขาจูงมือเพื่อนตัวดีแวะเข้าร้านยาข้างหน้าทันที
“ฮะ ฮุน พาเรามาทำไมอ่ะเราไม่ได้ป่วย” โอเมก้าตัวเล็กกระตุกแขนเสื้อจีฮุนพร้อมกระซิบกระซาบเบาๆ
“มินฟังเรานะ อาการฮีทมันต้องกินยา” จีฮุนว่าเสียงดุ เจ้าตัวหันไปเอ่ยกับเภสัชเจ้าของร้านโดยไม่สนใจคนหน้างอที่พอโดนดุนิดๆ ใบหน้าก็เตรียมเบะแล้ว
“เอาสเปรย์กับยาเม็ดระงับฮีทครับ”
“คนไหนใช้คะ อายุกี่ปีเอ่ย” เภสัชสาวคนสวยถามด้วยรอยยิ้ม จีฮุนสะกิดให้คนยืนเกาะแขนตัวเองเป็นคนตอบ
“ยี่สิบปีแล้วครับ” จีมินเอ่ยบอกเภสัชเสียงเบา ใบหน้าเห่อร้อนเพราะเขินอายหน่อยๆทั้งๆที่อาการฮีทมันเป็นอาการปกติทั่วไปของโอเมก้าแต่เขาก็อายอยู่ดีที่จะพูดมัน
“เขาฮีทครั้งแรกครับคุณเภสัช” จีฮุนเอ่ยเสริมเมื่อจีมินบอกรายละเอียดไม่ครบ
จีมินอายุยี่สิบปีก็จริงแต่เพื่อนตัวเล็กของเขาเพิ่งเคยฮีทเป็นครั้งแรก ซึ่งถ้าปกติมันต้องเกิดขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่อายุ18ปี แต่เพราะจีมินร่างกายอ่อนแอ ป่วยบ่อย ทั้งหมอประจำตัวที่เคยรักษาจีมินก็บอกว่าเป็นความบกพร่องทางฮอร์โมนเลยอาจทำให้ไม่มีอาการฮีทเหมือนโอเมก้าทั่วไป ตั้งเเต่นั้นมาจีมินก็ไม่เคยมีอาการฮีทเกิดขึ้นเลย
“ได้พบหมอมาก่อนหรือยังคะ” เภสัชสาวเอ่ยถามอีกครั้งคราวนี้จีมินเป็นคนชิงตอบเอง
“เคยพบหมอมาแล้วครับ คุณหมอบอกว่ามินบกพร่องทางฮอร์โมนเลยอาจจะไม่ฮีทครับ”
“อ่อ…ถ้าอย่างนั้นแล้วหมอคงจ่ายยาให้ไม่ได้นะคะ เพราะตัวยาอาจไประงับฮอร์โมนบางตัวที่ร่างกายพึ่งเริ่มสร้างได้ ทางทีดีหมอขอแนะนำให้ปล่อยตามธรรมชาติไปก่อนเพราะเป็นการฮีทครั้งแรกด้วย” ฟังคำอธิบายของคุณหมอจีมินได้แต่พยักหน้าตาม ทั้งเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเห็นทีเขาคงต้องให้จีฮุนช่วยอธิบายให้ฟังอีกครั้ง
“แล้วสเปรย์ระงับกลิ่นใช้ได้ปกติใช่ไหมครับ” จีฮุนพอจะเข้าใจที่เภสัชพูดเเล้ว ช่วงนี้จีมินยังทานยาระงับฮีทไม่ได้ เพราะคงกลัวว่าจะไปหยุดการทำงานของฮอร์โมนบางตัวที่เคยบกพร่องไป
“ใช้ได้ตามปกติค่ะ แต่ทางที่ดีการฮีทครั้งแรกควรปล่อยตามธรรมชาตินะคะ” เภสัชสาวให้คำแนะนำและยืนยันคำเดิมว่าการฮีทครั้งเเรกควรจะปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ
“งั้นผมเอาแค่สเปรย์ระงับกลิ่นครับ” จีฮุนตัดสินใจแทนโอเมก้าตัวเล็กเพราะขืนรอให้จีมินตัดสินใจชาตินี้ก็คงไม่ได้กลับบ้าน ยังยืนทำหน้างงอยู่เลย
“เอาถุงยางด้วยไหมคะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ด้วย” คราวนี้จีฮุนคงต้องถามเจ้าตัวแล้วล่ะจะให้ตัดสินใจแทนก็ไม่ได้เขาไม่ได้เป็นคนใช้
“มิน!! เอาป่าวว ถุงยาง?”
“หะ ห้ะ!”
“ถุงยางอ่ะ เอาป่าว” จีฮุนว่าพร้อมหยิบกล่องสี่เหลี่ยมตรงเคาเตอร์เล็กๆด้านหน้าชูขึ้น จีมินอึกอัก ใบหน้าหวานเห่อร้อนขึ้นมาพร้อมรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“มะ ไม่เอา” เเถมเสียงเเข็งอีกต่างหาก
“ตามใจ” จีฮุนว่ายิ้มๆพร้อมเก็บกล่องสี่เหลี่ยมวางไว้ที่เดิม เจ้าตัวหยิบธนบัตรออกจ่าย เสร็จสับก็เอ่ยขอบคุณเภสัชสาวก่อนจูงมือคนเขินหน้าแดงออกจากร้านมา
ครื้มม
เปาะแปะ เปาะแปะ
ก้าวยังไม่ทันพ้นเขตหน้าร้านฝนเจ้ากรรมดันรินเปาะแปะลงมาซะงั้น เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มสลับกับสายฟ้าแลปเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพายุกำลังจะคืบคลานเข้ามาในอีกไม่ช้า เสียงลมพัดพาเอาสิ่งของต่างๆปลิวว่อนกระจาย จีฮุนดึงมือจีมินให้หลบเข้ายังชายคาของร้านดังเดิมก่อนที่เม็ดฝนหนักๆจะกระหนำเทลงมาพอดี
ซ่า ซ่า~~~~
“แท็กซี่คงหายากแน่ๆ เดี๋ยวไงมินกลับพร้อมเราก่อนเฮียแทมันน่าจะมาถึงแล้ว” จีฮุนรีบพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง เจ้าตัวก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือเมื่อพี่ชายบอกว่าอีกสิบนาทีคงจะมาถึง
“ลำบากฮุนอีกแล้วอ่า” โอเมก้าตัวเล็กเกิดความเกรงใจเพื่อนขึ้นมา บ่นพึมพำเสียงเบาพอๆกับที่ใบหน้าหวานเบะคว่ำลงเหมือนเด็กๆ
“ไม่เลยเหอะมิน เเล้วก็เชื่อเถอะว่าไอ้เฮียกุกมันคงไม่ยอมให้เราปล่อยมินกลับคนเดียวหรอก” เพราะจีฮุนรู้ดีว่ารายนั้นนะหวงยิ่งกว่าอะไร ยิ่งถ้าได้ผูกพันกับใครแล้วมีร้อยเฮียมันก็ให้ร้อยไปจนหมด
จีมินพอได้ยินจีฮุนเอ่ยถึงชื่ออัลฟ่าตัวสูงก็เกิดความรู้สึกน้อยใจขึ้นมาเพราะตั้งแต่เช้าที่จองกุกกลับไปโดยไม่ได้บอกเขาจนตอนนี้ที่มืดค่ำแล้วก็ยังไม่เห็นว่าอัลฟ่าตัวสูงจะติดต่อกลับมาหา ข้อความสักข้อความยังไม่มีส่งถึงกัน
'โอเมก้าแสนขี้งอนหวังแค่ว่าความน้อยใจเล็กๆที่เกิดขึ้นภายในใจจะสื่อถึงอีกคนที่เขากำลังคิดถึงได้บ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี'
บนท้องถนนในยามฝนตกเช่นนี้การจราจรมักติดขัดเป็นปกติ รถยนต์เคลื่อนตัวช้าได้ทีละนิดทำคนนั่งในรถเกิดความหงุดหงิดขึ้นมา จีมินที่ตอนแรกจะให้จีฮุนแวะไปส่งที่คอนโดแต่พอเห็นเส้นทางการจราจรที่แถบไม่ขยับ บวกกับเส้นทางที่จะกลับคอนโดเป็นคนละทางกับบ้านของจีฮุนโอเมก้าตัวเล็กจึงตัดสินใจไปค้างที่บ้านชานเมืองของจีฮุนตามคำเอ่ยชวน เพราะเกรงใจหากจะให้พี่ชายของเพื่อนขับรถกลับไปกลับมา
บนรถไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำเดียว มีเพียงเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบและอึมครึมไปกว่านี้ สายตาของโอเมก้าตัวเล็กเทียวหลบเทียวมองยังคนขับ จีมินรู้สึกเกร็งและไม่เป็นตัวของตัวเองทุกครั้งเมื่อเจอกับคนๆนี้
พี่ชายของจีฮุน 'พี่แทฮยอง'
“แอบมองไรมิน สงสัยไรก็ถามเฮียมันเลยดิ” จีฮุนหันขวับมาที่เบาะโดยสารด้านหลัง แอบมองผ่านกระจกหลังสักพักก็เห็นว่าจีมินนั่งแอบมองพี่ชายของเขาอยู่
“ปะ ป่าวนะ มินไม่ได้สงสัยอะไรสักหน่อย” ปฏิเสธเสียงเบาแถมยังตะกุกตะกักเหมือนคนกำลังโกหก จีฮุนรู้ทันเลยยิ้มขำในใจ ด้านโอเมก้าตัวเล็กรีบดึงสายตากลับมามองยังทางข้างหน้าทันที
“ไม่ต้องกลัวหรอก ไอ้เฮียมันวางมาดไปงั้นแหละแต่ที่จริงก็ใจดี” จีฮุนพอจะรู้อาการคนข้างหลังดี จีมินน่ะกลัวพี่ชายของเขาตั้งแต่ไหนแต่ไร ขนาดเจอกันบ่อยยังแทบไม่คุยกันเลย
“วางมงวางมาดอะไรเดี๋ยวเหอะ น้องก็ไม่เว้นนะเว้ย” คนถูกนินทาซึ่งๆหน้าเอ่ยสวนกลับ ถ้าไม่ติดว่าขับรถอยู่ไอ้น้องชายของเขาคงได้สักหมัดเข้าที่หน้าหล่อๆนั่นแน่ๆ
“ฮ่าๆ เห็นไหมมิน เฮียมันขี้เล่นจะตาย สงสัยมินต้องลองไปอยู่บ้านฮุนสักอาทิตย์ล่ะมั้งจะได้ชิน” จีมินได้แต่หัวเราะแห้งๆเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงมีหวังเขาคงโดนคู่โซลเมทที่ไม่รู้ว่าหายไปไหนกินหัวเอาแน่ๆ
บ้านชานเมือง
JUNGKOOK PART
ผมเดินตามกลิ่นที่แสนคุ้นเคยเข้ามาในห้องครัว มันไม่ใช่เพียงกลิ่นดอกไม้ธรรมดาเหมือนอย่างเคยแต่กลับผสมด้วยกลิ่นฮีทของใครสักคน ผมขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมเมื่อกลิ่นฮีทนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆยามผมก้าวเท้าเข้าใกล้ยังประตู และภาพที่เห็นตรงหน้าก็ไม่ผิดไปจากที่ผมคิดไว้เลยสักนิด
"จีมินยืนอยู่ในห้องครัว"
‘มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?’
คำถามเกิดขึ้นในหัวของผมแต่ผมกลับไม่มีสติพอที่จะคิดเรื่องอื่นได้ในตอนนี้เมื่อกลิ่นฮีทของจีมินเหมือนจะรุนแรงขึ้นกว่าเมื่อวาน ผมไม่รู้ตัวเลยว่าถูกสะกดนิ่งให้ยืนมองภาพตรงหน้านั้นนานแค่ไหน จีมินกำลังยกขวดน้ำขึ้นดื่มเหมือนคนกระหาย ขนาดว่ายืนมองไกลๆผมกลับเห็นไรเหงื่อผุดซึมข้างขมับบาง ชุดนอนเสื้อยืดสีขาวนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อและหยดน้ำที่หกเลอะเทอะ มันไหลย้อนลงมาตามปลายคางของจีมินจนเปียกเป็นวงกว้าง แผ่นหลังเล็กสะท้านขึ้นลงจากการหอบหายใจแรงในตอนที่ผมประชิดตัวเข้าที่ด้านหลัง
“หิวน้ำมากขนาดนั้น?”
****************
LOADING60%
“หิวน้ำมากขนาดนั้น?” เสียงเรียบกระซิบดังข้างหูของจีมิน ผมใช้วงแขนกอดรัดเอวบางจากด้านหลังพร้อมเกยคางไว้กับบ่าเล็กที่สะท้านขึ้นลง เห็นเเบบนี้เเล้วขนาดตัวของจีมินดูเล็กมากเมื่อยืนเทียบกับผม โอเมก้าตัวเล็กแทบจะจมหายไปกับแผ่นอก
ตุบ!
เสียงขวดน้ำในมือของจีมินหล่นกระทบลงบนพื้นจนหกเลอะเทอะ ประสาทสัมผัสรับรู้ได้ถึงกลิ่นของอัลฟ่าและอ้อมแขนอุ่นที่กอดรัดตัวเองอยู่ในตอนนี้
“พี่...” จีมินครางเสียงแผ่วออกมาก่อนหันหลังกลับมองยังคนที่ยืนกอดตัวเองในทันที
ปรางหน้าหวานของจีมินชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ปลายหางตาแดงเหมือนคนพึ่งร้องไห้และขยี้ตามา ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะความร้อนรุ่มในกายซที่ทำให้โอเมก้าตัวเล็กเหงื่อออกจนนอนไม่หลับถึงขั้นต้องพาตัวเองลงมาหาน้ำเย็นๆดื่มในยามดึกเช่นนี้
“ก็ไม่เห็นว่าจะร้อนอะไรทำไมเหงื่อออก” อัลฟ่าตัวสูงแกล้งถามทั้งก็รู้ดีว่ามันเป็นอาการฮีท
มือใหญ่ถูกส่งไปเช็ดเกร็ดเหงื่อตามไรหน้าผากออกให้เบาๆ ซึ่งเหงื่อจีมินเยอะมากๆ ใบหน้าหวานมีหยดน้ำเกาะพราวเกือบทั้งดวงหน้า และเหมือนจองกุกก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าโอเมก้าตัวเล็กถึงยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
“ถามทำไมไม่ตอบ” จองกุกเลิกคิ้วสูงเมื่อโอเมก้าในอ้อมแขนพยายามขยับตัวผละออกห่าง จีมินหลุบตาต่ำและไม่ยอมมองหน้าเขาแถมเงียบใส่อีกต่างหาก อัลฟ่าตัวสูงเห็นท่าไม่ดีจึงช้อนอุ้มคนตัวเล็กกว่าขึ้นนั่งบนโต๊ะทานข้าวตัวยาวพร้อมกักตัวไว้ด้วยอ้อมแขนไม่ให้จีมินได้ขยับหนี
“หนูเป็นไรไหนลองพูดมาสิครับ” จองกุกรู้แล้วว่ากับจีมินจะใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ถ้ายิ่งดุจีมินจะยิ่งต่อต้าน แต่ถ้ายอมอ่อนตามคนตัวเล็กก็จะพยศน้อยลง ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนล็อคใบหน้าหวานให้จีมินมองสบตา คนตัวเล็กยังคงหายใจแรงและเขาเองก็เช่นเดียวกัน เหมือนการเข้าใจจีมินจะทำให้เขาเริ่มคุมสติตัวเองไม่ได้ กลิ่นฮีทกำลังกลืนกินเขาทีละนิดๆ
“พี่กลับบ้านดึก…”
“ไปไหนมา ไม่ติดต่อหามินเลย…”
“อยู่ๆก็หายไป…”
จองกุกขยับนิ้วกดคลึงที่ปากอิ่มเมื่อเหมือนจีมินจะยังพูดต่อ มืออีกข้างเลื่อนมาจับล็อคค้างมนไว้เมื่อคนตัวเล็กเอาแต่หันมองทางอื่น เห็นเช่นนั้นอัลฟ่าตัวสูงถึงค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าใกล้คนตรงหน้าก่อนเอ่ยชิดกลีบปากอิ่ม
“ไม่ได้คิดจะทิ้งไปไหนหรอก..”
“ไม่ต้องกังวล” เอ่ยจบก็กดจูบปากอิ่มไปหนึ่งทีก่อนผละออกมามองคนน้ำตาคลอ
“จริงๆนะ” เสียงหวานย้ำเบาๆเมื่อกลัวการถูกทอดทิ้งและไม่เห็นความสำคัญ โอเมก้าตัวเล็กลอบมองใบหน้าคมด้วยใจที่เต้นระส่ำระสายยามที่จองกุกพยักหน้าตอบรับ เหมือนน้ำเย็นที่ดื่มลงไปเมื่อครู่จะไม่ช่วยดับร้อนในร่างกายของเขาสักนิดเดียวจีมินกลับรู้สึกว่ามันร้อนมากขึ้นกว่าเดิม
“ไปนอนไหมดึกแล้ว” อัลฟ่าตัวสูงอุ้มจีมินให้ลงยืนกับพื้น ตาน้องดูง่วงมาก
“มินนอนไม่หลับครับ มันร้อนไปหมดเลยดื่มน้ำแล้วก็ยังไม่หาย” จีมินเอ่ยบอกเสียงงุ้ย เหงื่อไคลยังคงไหลซึมตามกรอบหน้า อาการที่จีมินเป็นอยู่คล้ายกับคนลงแดงที่เมื่อฮีทแล้วยังไม่ได้ปลดปล่อยร่างกายก็จะร้อนขึ้นกว่าเดิม เหงื่อจะออกมากเป็นเท่าตัว และท่าฝืนจนเกินขีดจำกัดของร่างกายก็อาจช็อคและหมดสติได้
“ทำไมไม่กินยา” อัลฟ่าหนุ่มถามเสียงเรียบทั้งที่ภายในกายเริ่มไม่ปกติตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องครัว กลิ่นฟีโรโมนจากการฮีทมอมเมาให้ไร้สติได้ดียิ่งกว่าวอสก้าราคาแพงซะอีก
“คุณหมอไม่ให้มินกิน อื้ออ” จีมินเผลอครางเบาๆออกมา เมื่อคนถามไม่ฟังคำตอบ จองกุกกดจูบลงบนกลีบปากอิ่มอย่างเเรง อัลฟ่าหนุ่มเริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่จากกลิ่นฮีทรอบกายของจีมิน ตัวจีมินหอมและเขาอยากสัมผัสมันมากกว่านี้ สัญชาติญาณความเป็นอัลฟ่าสั่งให้เขาผลักจีมินนาบลงบนโต๊ะทานข้าวตัวยาว และในไม่กี่วินาทีถัดมาทั้งร่างของเขาก็ถลาขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้
“ถ้าให้หยุดก็ร้องบอก” จองกุกเอ่ยเสียงเบากระซิบเข้าที่ข้างใบหูของจีมิน เขาเอ่ยออกไปทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหยุดตัวเองได้ไหม ร่างกายจีมินตอนนี้เหมือนแคนดี้สีหวานที่อาบด้วยรสขมของวอสก้า ยิ่งสัมผัส ยิ่งลิ้มลองก็อยากที่จะหยุดตัวเอง
อัลฟ่าตัวสูงพยายามสั่งให้ตัวเองใจเย็นและมีสติ แต่เมื่อมือใหญ่แตะสัมผัสลงบนผิวอ่อนนุ่มความตั้งใจนั้นกลับไม่หลงเหลือยู่เลย สติเขาถูกครอบงำด้วยกลิ่นฮีท สีหน้าของจีมิน ร่างกายที่ดิ้นเร่าของคนใต้ร่าง ทั้งหมดนั้นทำให้ความกระหายในตัวของเขากระเพื่อมขึ้นจนเผลอบีบเคล้นผิวนุ่มเต็มแรง
Jimin Part
ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อฝ่ามือใหญ่ของพี่จองกุกบีบลงบนขาอ่อนเต็มแรง ผมได้ยินเสียงของเขาที่บอกว่า “ถ้าให้หยุดก็ร้องบอก” แต่ผมกลับไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรออกไปได้เลย ผมเหมือนคนติดอยู่ในวังวนอะไรสักอย่าง ได้แต่กระพริบตาเพื่อขับไล่ความเห่อร้อนรอบดวงตา ปากผมสั่นมากๆในตอนที่ชายเสื้อถูกเลิกขึ้นสูง
มันเป็นความรู้สึกกลัวเเละประหม่า หากแต่ไม่ได้กลัวว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นแต่มันเป็นเพราะตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะ ที่ห้องครัว ความอายและสถานที่โล่งๆทำให้ผมกระตุกแขนคนที่พยายามจะถอดเสื้อผมออกเบาๆ บอกพี่จองกุกผ่านทางสายตาว่าไม่ใช่ตรงนี้ แต่เหมือนว่าเราจะสื่อสารกันไม่เข้าใจพี่จองกุกถึงยังดึงดันที่จะถอดเสื้อผมออก
“มินไม่ให้ถอดตรงนี้นะ”
ผมรีบร้องท้วงเสียงดังก่อนที่พี่จองกุกจะได้ถอดเสื้อยืดตัวโคร่งออกจากร่างกาย ผมตะครุบมือเล็กเข้าที่คอเสื้อของตัวเองทันที มือผมสั่นมากเมื่อเผลอสบตาเข้ากับพี่จองกุก เขาไม่เหมือนคนเดิม นัยน์ตาที่ปกติคมดุตอนนี้มันดุกว่าเดิมและเต็มไปด้วยความกระหาย เร่าร้อน เหมือนจะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว
พี่จองกุกไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย เขาเงียบ เงียบจนความวาบหวิวที่เกาะกินในใจทำผมเริ่มกลัวมากกว่าเดิม กระทั่งพี่เขาช้อนอุ้มผมขึ้นเกี่ยวกับเอวสอบผมถึงต้องใช้วงแขนกอดรอบลำคอเขาไว้เมื่อกลัวว่าตัวเองจะตก ผมไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่เขากำลังเดินขึ้นบันได เพราะได้สติอีกทีผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องแล้ว
แกร๊ก
JIMIN END
ชั้นสองของบ้านหลังใหญ่มีเพียงสองห้องนอนเท่านั้นอัลฟ่าตัวสูงตรงไปทางห้องปีกซ้ายที่เป็นห้องของตัวเอง แขนแกร่งช้อนอุ้มคนตัวเล็กที่ซุกหน้ากับซอกคอของเขาไว้มั่นก่อนใช้มืออีกข้างที่ว่างเอื้อมไปเปิดประตู จองกุกพาคนตัวเล็กเข้ามาด้านใน กำลังจะกดเปิดสวิตช์ไฟตรงผนังห้องแต่เสียงของจีมินกลับเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“ห้ามเปิดไฟนะ” โอเมก้าตัวเล็กตั้งข้อห้ามเป็นข้อที่สอง ข้อเเรกไม่ให้ถอดเสื้อที่ห้องครัว ข้อสองคือไม่ให้เปิดไฟ ความอายที่ร้อนรุ่มฉาบไปทั่วทั้งตัวและใบหน้าของจีมินพอๆกับเสียงเบาที่เอ่ยห้ามทำจองกุกลอบยิ้มบางเบา
'ถึงไม่เปิดไฟสายตาของอัลฟ่าในความมืดก็ยังชัดเจนอยู่ดี' ชัดขนาดที่ว่าจองกุกสามารถเดินอุ้มจีมินมายังเตียงใหญ่โดยไม่สะดุดชนอะไรสักอย่าง จะเห็นมีก็แต่โอเมก้าตัวน้อยที่ในความมืดมิดนั้นจะมองไม่เห็นอะไรแม้สักอย่าง
“ไฟตรงหัวเตียงจะให้ปิดด้วยไหม?” จองกุกแกล้งกระซิบถามเสียงแหบพร่าพร้อมกับวางจีมินลงบนเตียงขนาดคิงไซส์ ดันกายบอบบางให้ไถลตัวไปด้านบนก่อนที่ตัวเองจะโถมกายขึ้นคร่อมคนใต้ร่างไว้อีกครั้ง
จีมินใช้สติคิดอยู่ชั่วครู่กับคำถามนั้น กระพริบตาถี่ใต้ความมืดเพราะตอนนี้เขามองไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่งใบหน้าของจองกุก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในตอนนี้อีกคนมองมาที่เขาด้วยสายตาแบบไหน? หรือรู้สึกอะไรอยู่? โอเมก้าตัวเล็กคิดว่าตัวเองคงได้คำตอบให้จองกุกแล้วล่ะ
แสงสีส้มลางๆทำจีมินหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อก่อนหน้าจมอยู่ในความมืดอยู่นานสองนาน กระพริบตาปรับโฟกัสได้สักพักก็มองเห็นคนบนตัว เห็นใบหน้าหล่อคม จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้มเป็นทรงรับกลับใบหน้าหล่ออย่างลงตัว และสิ่งสุดท้ายเท่าที่สายตาของจีมินมองเห็นก็คือสายตาของจองกุกที่พร้อมจะเขมือบกินเขาเข้าไปทั้งตัว
“ต่อร้องไห้ก็ไม่หยุดแล้วนะ” เสียงสุดท้ายที่จีมินได้ยินก่อนริมฝีปากถูกช่วงชิงไป
“อื้ออ”
[CUT]
ที่เดิม
“จีมิน...” จองกุกกดเสียงครางต่ำในลำคอเมื่อแกนกายเกร็งกระตุกและกำลังปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมา มันเลอะเปรอะเปื้อนต้นขาของจีมินในทันทีที่เขาถอดถอนแกนกายออก เป็นความตั้งใจของเขาที่จะไม่ปล่อยในตัวจีมินเด็ดขาดเพราะน้องยังเด็กมากถึงจะยี่สิบแล้วก็ตาม
“ใจเต้นแรงซะขนาดนี้ ชอบล่ะสิ”
“เราเจ็บหรอ” ว่าไม่มีผิด ที่จีมินนิ่งไปก็เพราะเจ็บจริงๆ จองกุกรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“ห้ามขอโทษนะ” จีมินเอ่ยดักทางเหมือนรู้ว่าจองกุกจะเอ่ยคำนี้
“แล้วให้ทำไง” จองกุกเลิกคิ้วถามพร้อมดึงคนตัวเล็กเข้ามาซุกไว้ในอ้อมกอด
“ก็...ทีหลังต้องเบาๆ พี่รุนแรง ตัวก็ใหญ่มินตัวนิดเดียวจะรับไหวได้ไง” โอเมก้าตัวเล็กโผล่หน้าขึ้นมาเพียงนิดจากขอบของชายผ้าห่ม ปากอิ่มขยับบ่นอย่างน่าเอ็นดูจนจองกุกทนไม่ไหวถึงกับต้องยื่นมือไปบีบจมูกรั้นเบาๆ
“บ่นเก่ง ทีเมื่อกี้ไม่ร้องเก่งแบบนี้บ้าง” จองกุกต่อว่าขำๆ แต่คนฟังคงคิดจริงจังถึงได้เถียงสู้ตาย
“ใครว่า เมื่อกี้มินก็ร้อง”
“ตอนไหน? หืมม ร้องตอนไหน” จองกุกแสร้งทำเป็นไม่รู้ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จะดูว่าเด็กมันจะซื่อได้แค่ไหนกัน
“ก็ตอนที่พี่เข้ามาในตัวมิน”
อุ๊บบ
โอเมก้าตัวเล็กยกมือปิดปากแทบไม่ทันเมื่อคิดได้ว่าเผลอพูดอะไรที่มันไม่ควรออกไป ตาใสเบิกกว้างจ้องมองจองกุกตาปริบก่อนดันร่างกายผลุบหายเข้าไปในผ้าห่มราวกับล่องหนได้ จองกุกถอนหายใจยาวกับความแสบของจีมิน จะมาหนีมุดผ้าห่มแบบนี้ได้ไงน้ำก็ยังไม่อาบ
"ไปอาบน้ำ..."
"ตัวเลอะใครให้นอนด้วย” ว่าจบจองกุกก็หอบเอาคนตัวเล็กที่ม้วนอยู่กับผ้าห่มเข้าไปในห้องน้ำทั้งอย่างนั้น แม้ตอนนี้เหมือนจะเต็มไปด้วยความสุขแต่อัลฟ่าหนุ่มกลับเริ่มคิดหนักกับหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้
เขาจะเริ่มรู้สึกหวงคู่เมื่อได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่ชะตาของตัวเอง กลิ่นกายของจีมินและเขาจะถูกกลบด้วยกลิ่นของกันและกันในตลอดหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งจะไม่มีใครแยกพวกเขาหรือเข้าใกล้คู่ของอัลฟ่าได้เลย
**************
คัทก็ที่เดิมเลยค่ะทุกคน แต่งตอนฝนตกก็จะง่วงๆหน่อย ซาบซ่านไม่ถึงใจอย่างไรต้องขอโทษด้วยจริงๆ อารมณ์มาแค่นี้ 555 อยากบอกว่าเรื่องนี้ จีมินซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองมากๆ
ปล.1 ทางเราอยากอ่านเม้นท์มากๆเลย คนอ่านปามาให้อ่านทีนะ ยิ้มกริ่ม
ปล. 2 จิบน้ำชา หรือ จิบน้ำตา ดีคะ ??
สกรีม #ระฆังสีน้ำเงิน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใครรู้วอนบอกทีค่ะ
อย่าทำน้องเจ็บนะ หัวอกคนเป็นแม่รับไม่ได้ T-T
โอ๊ยจีมินนนนน น่าจับตีให้ก้นลายเลย;-; จองกุกไปดูตัวแล้วแสดงว่าก็ต้องรู้เรื่องพี่นีนแฝดจีมินแล้วล่ะสิ????
ปล.ตอนหน้าจะม่ารึป่าวคะเนี้ยย
เป็นฟิคที่สนุกมากค่ะจีมินจะงอนไหมถ้ารู้ความจริงอยากเห็นจีมินงอนแล้วจองกุกตามหึง ค้างมากมาต่อนะคะไรท์สู้ๆ
ตอนน้องบอกคราวหลังทำเบาๆ + มินร้องตอนพี่เข้ามาในตัว
นี่ได้แต่กรีดร้องในใจ โว้ยยยยย ทำไมน้องถึงซื่อแบบนี้อ่ะ โคตรน่าเอ็นดูเลย แบบน้องน่าจะซื่อตรงต่อความรู้สึกแบบนี้ตอนกับแม่หน่อยได้ไหมคนดี (ขอโทษนะหนู)
จองกุกต้องบอกน้องนะ ถ้าน้องมารู้เองทีหลังคงไม่ดีแน่ๆ ไม่อยากให้น้องเจ็บ ยิ่งมีอะไรกันแล้วด้วยอ่ะ
จีมินง่าาา