ตอนที่ 1 : INTRO 100%
BLUE BELLs
INTRO
.....
ทางตอนเหนือของเกาะฮ่องกงว่ากันว่าเป็นที่ตั้งของฝูงหมาป่าที่มีตระกูลอันเก่าแก่มายาวนาน ความเลื่องชื่อของที่แห่งนี้ถูกเล่าปากต่อปากว่ามีป่าผืนใหญ่หลังเขาที่ถูกรายล้อมด้วยทุ่งดอกบูลเบลสีน้ำเงินซึ่งเป็นดอกไม้หายากที่จะส่งกลิ่นหอมเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ความงดงามนี้ราวกับผืนสมุทรบนทุ่งกว้างได้แผ่ขยายทอดยาวกินพื้นที่บริเวณป่าหลังเขาไปจนสุดทางที่กั้นของเทือกเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งเป็นอนาเขตติดกับอีกฝูงหนึ่งนั่นเอง
แต่ความงดงามที่น่าหลงไหลกลับไม่เคยมีผู้ใดได้ย่างกรายเข้ามาเชยชมยังสถานที่ที่ว่านั้นเลย เพราะทุกอณาเขตติดต่อของพื้นที่ได้ถูกกำหนดไว้เฉพาะคนในตระกูลและผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองของจ่าฝูงเท่านั้น ฝูงเหนือ จึงถูกใช้เป็นคำเรียกสั้นๆของคนทั่วไป มันถูกปกครองด้วยผู้มีอำนาจสูงสุดที่เรียกกันว่า “จ่าฝูง” ซึ่งผู้ที่จะขึ้นเป็นจ่าฝูงได้นั้นจะต้องสืบสายเลือดอัลฟ่าเลือดบริสุทธ์เพียงเท่านั้น จะไม่มีการแข่งขันประลองเพื่อแย่งชิงตำแหน่งเหมือนกับฝูงอื่นๆ นั่นถือเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ฉะนั้นแล้ว “จ่าฝูง” จึงต้องเป็นทายาทสายตรงและเป็นอัลฟ่าเลือดบริสุทธิ์โดยที่ไม่มีสิ่งใดมาลบล้างกฏเกณฑ์นี้ได้ นั่นจึงทำให้ตระกูลอันเก่าเเก่อย่างตระกูลปาร์คถึงกับตกที่นั่งลำบากเหมือนอย่างในตอนนี้เมื่อทายาทเพียงสองคนสุดท้ายของตระกูลไม่มีคุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นจ่าฝูงได้
“แม่ขาทำไมพี่นีนของเราถึงขึ้นเป็นจ่าฝูงแทนพ่อไม่ได้หรอ” เสียงเล็กหวานหูของลูกชายคนเล็กเอ่ยถามแม่ขาของเขาด้วยความสงสัย "คำว่าเเม่ขา" เป็นสรรพนามที่เจ้าตัวมักใช้เรียกผู้เป็นแม่อยู่เป็นประจำ ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มเผยยิ้มเล็กน้อยยามจ้องมองผู้เป้นเเม่พร้อมกันนั้นดวงตากลมโตก็ลุกวาวหน่อยๆตามประสาเด็กน้อยที่อยากรู้แต่แล้วเขาก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกตามเคย
“แม่ขาบอกกี่รอบแล้วคะว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ลูกมินเข้าห้องไปอ่านหนังสือสอบไปลูก” เป็นอีกครั้งที่แม่ขามักเอ่ยไล่เขา มันเป็นแบบนี้ประจำเสมอ เขามักถูกกีดกั้นไม่ให้รับรู้เรื่องราวในครอบครัว บ่อยครั้งเขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้เลย
"แต่มินก็อายุเท่ากันกับพี่นีนนะทำไมมินรู้ไม่ได้ล่ะครับ" ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ส่วนใบหน้าก็ง้ำงอตามประสาเด็กที่ขี้น้อยใจแต่เเม่ขาก็ไม่ได้คิดสนใจเลยเพราะวินาทีต่อมาเขาก็ถูกตำหนิผ่านทางสายตาดุๆของคนเป็นแม่จึงทำเพียงก้มหน้าน้อยเพื่อขอโทษก่อนลุกเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป
วันนี้ญาติผู้ใหญ่สองสามคนมาคุยกับแม่ที่บ้านเรื่องการแต่งตั้งจ่าฝูงคนใหม่ซึ่งแน่นอนว่าเขาที่เป็นถึงลูกชายมีสิทธิ์จะขึ้นเป็นจ่าฝูงแน่ๆ แต่มันกลับไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิดเพียงเพราะเขาเกิดเป็นโอเมก้า มันเลยกลายเป็นข้อต้องห้ามในการขึ้นรับตำแหน่ง ทำให้ในตอนนี้ผู้ที่มีความเหมาะสมและสามารถสืบทอดตระกูลของฝูงเหนือได้มีเพียงพี่สาวฝาแฝดของเขา “พี่นีน แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่พี่สาวของเขาต้องแต่งงานและผูกพันธะกับชายหนุ่มที่เป็นอัลฟ่าด้วยกันเท่านั้น
“แม่ดุอะไรน้องมินรึเปล่าคะ นีนเห็นน้องวิ่งหน้าบึ้งเข้าห้องไปเมื่อกี้” อัลฟ่าหญิงผู้สง่าเดินมานั่งลงข้างกายผู้เป็นเเม่ เธอเอ่ยถามในทันทีเมื่อตอนที่เดินกลับเข้ามายังห้องโถงบังเอิญสวนกันกับจีมินที่วิ่งหายเข้าไปในห้อง ดูเหมือนน้องของเขาจะร้องไห้ด้วย
“น้องของนีนก็ชอบหาเรื่องให้แม่ดุประจำ ว่าเเต่นีนเถอะหนูตัดสินใจได้หรือยังเรื่องที่เเม่ขอน่ะ” แม่เลี่ยงที่จะตอบคำถามเธอด้วยการเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน ส่วนเธอเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรที่เเม่จะไม่ตอบเพราะก็ถามไปอย่างนั้น และคงเพราะชินด้วยมั้งเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่แม่ดุน้องจีมินซึ่งเขาเองก็ไมรู้เหตุผลว่าทำไมแม่ต้องดุน้องบ่อยๆ
"อื้มม นีนไปคิดมาบ้างแล้วล่ะค่ะก็เลยว่าจะเดินมาคุยกับแม่ซะหน่อย" ลูกสาวคนโปรดพูดพลางยิ้มหวาน เธอหยิบหมอนอิงบนตักของแม่ออกก่อนใช้ศรีษะหนุนนอนลงไปแทน ใบหน้าที่มาพร้อมความงดงามสมเกียรติอัลฟ่าหญิงเพียงคนเดียวในตระกูลนับเป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ของเธอดูจะภาคภูมิใจยิ่งกว่าสิ่งไหน
“นีนคิดๆดูเเล้วเรื่องโซลเมทอะไรนั่นมันก็ไร้สาระอย่างที่เเม่ว่าจริงๆ เพราะถ้าเกิดว่านีนรอแล้วเขาไม่ใช่อัลฟ่านีนก็คงไม่ผูกพันธะกับเขาแน่ๆ สู้นีนแต่งกับอัลฟ่าที่แม่หาให้ดีกว่าผูกพันธะกันไปแล้วก็คงไม่มีใครยุ่งกับนีนเเละเขาได้อีก”
“แต่นีนก็กลัวเขาจะติดใจเรื่องคู่โซลเมทแม่แน่ใจหรอคะว่าเขาจะไม่เลือกคู่เมทตัวเอง” เธอร่ายประโยคยาวเพราะไปนอนคิดทบทวนมาทั้งคืนเเล้วทั้งหมดที่พูดไปเป็นสิ่งที่เธอคิดมันมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ กระนั้นสีหน้าก็ยังดูกังวลหน่อยๆ เมื่อกลัวว่าอีกฝ่ายจะติดใจเรื่องคู่โซลเมทเข้าจริงๆ
“ไม่น่าจะใช่อย่างนั้นนะลูก แม่ได้ยินทางนั้นเขาลือกันว่าเนื้อคู่ของลูกชายจ่าฝูงตามคำทำนายเป็นโอเมก้าแม่ว่ายังไงจ่าฝูงก็คงไม่ยอมให้ผูกพันธะกันแน่ๆ”
“ถึงจะอย่างนั้นนีนก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดีค่ะแม่” เธอเอ่ยพูดกับแม่ด้วยเสียงเบาหวิวก่อนคลายความกังวลนั้นด้วยการหลับตาลงบนตักนุ่ม ฝ่ามืออุ่นของผู้เป็นแม่ลูบเบาๆลงบนกลุ่มผมยาวสลวยดุจใยไหม ขับกล่อมคนบนตักด้วยความอบอุ่นจากอ้อมกอดสักพักเสียงลมหายใจก็ดังเข้าออกอย่างสม่ำเสมอเมื่อลูกสาวสุดที่รักคล้อยหลับไปแล้ว
ภาพความอบอุ่นนั้นอยู่ในสายตาของคนแอบมองอย่างจีมิน เขายืนแอบดูความอบอุ่นที่พี่สาวฝาแฝดได้รับจากคนเป็นแม่ มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขาเห็นอะไรแบบนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งถึงต้องร้องไห้ออกมา หรือเป็นเพราะเขาอิจฉาแม้กระทั่งพี่สาวของตัวเองเหรอ อิจฉาที่มีแต่พี่สาวของเขาที่ได้รับความอบอุ่นนั้น ได้รับทุกๆอย่างที่ตัวเขาเองไม่เคยได้
@บ้านชานเมือง
“น้องมึงไหนตกลงกันแล้วว่าจะไม่หิ้วผู้หญิงเข้าบ้าน” เสียงก่นตำหนิดังไกลจากชั้นสองของบ้านทำคนพึ่งเสร็จกิจตรงโซฟาถึงกับนั่งเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพร้อมกรอกตาขึ้นมองด้วยความหงุดหงิด เจ้าตัวยกมือเสยผมที่ปรกหน้าคมขึ้นก่อนหยิบเอากางเกงที่หล่นกองบนพื้นโซฟาขึ้นมาสวมใส่
“โทษทีว่ะ” เจ้าตัวเอ่ยอย่างรู้สึกผิด แถมใบหน้าคมยังดูผิดสังเกตไปในสายตาของคนมองอย่างยุนกิ ดูเหมือนไอ้น้องของเขามันจะหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแต่ก็เหมือนมีเรื่องคิดอยู่ในหัว
“เออ..ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอก แต่มึงก็รู้ว่าจีฮุนมันยังเด็กถ้าเกิดมาเห็นเข้าทำไงวะ ล่ะนี่เครียดไรอีกถึงลากผู้หญิงมากินถึงบ้าน” เสียงที่ดังไกลฟังชัดยิ่งขึ้นเมื่อคนที่เอาแต่บ่นเขาเดินมานั่งลงข้างกัน และสงสัยเขาจะเครียดจริงๆอย่างที่ไอ้พี่ยุนกิว่าเพราะร้อยวันพันปีไม่เคยจะโทรเรียกให้ผู้หญิงมาหาถึงบ้าน คิดแล้วก็ตลกตัวเองสิ้นดี
“ก็เรื่องเดิมๆ แต่แค่หนักกว่าเดิมมั้ง” พูดเหมือนปลงตกกับชีวิต ยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้
“เรื่องจ่าฝูงมึงอ่ะหรอ เห็นยืดเยื้อมาหลายเดือนนึกว่าจะจบ” ไอ้พี่ยุนกิถามเหมือนมานั่งอยู่ในใจเขาอย่างนั้นแหละ
“จบกับผีอ่ะดิพี่ ดูท่าจะหนักกว่าเดิมอีก” เขาแค่นยิ้มก่อนลุกเดินไปหยิบไฟแซ็กมาจุดบุหรี่ในมือสูบ ยังไม่ทันที่มวนบุหรี่สีขาวจะถูกคาบไว้ในปากก็โดนมือขาวๆของคนเป็นพี่(ในนาม)ปัดทิ้ง
“สูบไรนัก มึงเครียดก็ระบายก็พูดดิ” เห็นสีหน้าจริงจังของพี่ยุนกิแล้วทำไมเขาถึงอยากหัวเราะจังนะ แต่ติดตรงที่มันหัวเราะไม่ออกนี่ล่ะ
“ถ้าพี่ต้องปฏิเสธเมทเพื่อขึ้นรับตำแหน่งจ่าฝูงพี่จะทำไง” คำถามจริงจังมาพร้อมกับใบหน้าเคร่งขรึมที่หม่นแสงลงหน่อยๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นพี่ คำถามที่ถามออกไปมันตอบยากใช่มั้ยล่ะพี่ยุนกิถึงมีสีหน้าแบบนั้น
“ทำไมถามเหมือนเจอเมท อย่าบอกนะว่า”
“อืมม คิดว่าเจอแล้วแต่ไม่รู้จะใช่หรือเปล่า....” เพราะพี่ยุนกิเงียบไปเขาถึงไม่รู้ว่าควรเล่าต่อไหม
“พี่!!”
“อื้มม ฟังอยู่มึงเล่ามา” นึกว่าพี่มันไม่ได้ฟังกันอยู่ซะอีก เขากัดริมฝีปากตัวเองอย่างชั่งใจก่อนตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาเมื่อวันก่อน
Jungkook Part
“มึงๆ เย็นนี้วานไปรับไอ้น้องฮุนมันหน่อยพอดีติดธุระว่ะ” เสียงจากปลายสายที่โทรเข้ามาดูจะรบกวนการนอนในบ่ายวันนี้ของผมแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังกดรับสายมันอยู่ดีก่อนจะรู้ตัวว่าตัดสนใจผิด ผมลุกจากเตียงไปเปิดผ้าม่านในห้องก่อนพูดเสียงห้วนตอบกลับมัน
“โทรสั่งเหมือนเมีย ถ้ากูรู้ว่าไปกกสาวจะฟ้องน้าคิมให้” ปลายสายมันหัวเราะคงถูกผมจี้จุดเข้าล่ะสิ
“เออๆ กุวานหน่อยล่ะกัน เดี๋ยวโทรบอกน้องฮุนมันรอหน้าโรงเรียนแค่นี้นะ” ยังไม่ทันตอบรับเหี้ยไร ไอ้คนโทรมาก็วางสายไปดื้อๆ ผมส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาเต็มทนกับการถูกมันใช้ให้เป็นผู้ปกครองไปรับไอ้น้องสุดที่รักที่โรงเรียนแทบจะทุกวัน
ผมโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงก่อนหยิบผ้าขนหนูเพื่อจะไปอาบน้ำ หันมองนาฬิกาข้างหัวเตียงก็เห็นว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไอ้น้องฮุนน้องสุดที่รักของไอ้แทฮยองก็คงเลิกเรียนพอดี ไปไม่ทันก็ปล่อยมันรอนั่นแหละ ขนาดพี่มันยังไม่ใส่ใจและผมใครทำไมถึงต้องทำ
บ่นไปงั้นสุดท้ายก็ไปรับอยู่ดี
16.00
@Hongkong college
ผมจอดบิ๊กไบค์สปอตรุ่นท้อปเทียบกับฟุตบาทด้านข้างกำแพงรั้วของcollegeชื่อดังในฮ่องกง บรรยากาศในตอนนี้ไม่น่าหงุดหงิดใจเท่ากับที่ไอ้แทพึ่งโทรมาบอกว่าน้องฮุนมันกลับบ้านไปตั้งแต่บ่ายแล้ว สาบานเลยว่าผมห้ามใจไม่ให้ด่ามันแล้วแต่อดไม่ได้จริงๆ และก็ยังงงจนถึงตอนนี้เพราะถ้าไอ้น้องฮุนมันกลับบ้านแล้วจริงๆทำไมผมไม่เจอเพราะนี่ผมก็พึ่งจะออกจากบ้านมาเหมือนกัน
'ไอ้พี่น้องคู่นี่เล่นไรของมันเนี่ย'
ผมยืนสบถในใจกำลังตัดสินใจว่าจะขับรถกลับดีไหม แต่ไหนๆก็มาถึงHCก็แวะเดินเล่นเเถวนี้ก่อนค่อยกลับล่ะกันเพราะตั้งแต่เรียนจบผมก็ไม่ได้มาแถวนี้นานมากแล้ว ผมตัดสินใจเดินข้ามถนนไปยังอีกฝั่งที่เป็นสตรีทฟู้ด ผมยังคงไม่ได้ถอดหมวกกันน็อคที่สวมอยู่ออกเพราะคิดว่าซื้อน้ำสักแก้วที่ร้านโปรดเสร็จก็จะกลับเลย และดูเหมือนวันนี้คิวต่อแถวที่ร้านจะไม่ยาวด้วย
“บลูชานมไม่ใส่น้ำตาล พิเศษไข่มุกแก้วนึงครับ”
นั่นเป็นเมนูโปรดผมแต่กลับไม่ใช่เสียงผมที่เอ่ยสั่ง เพราะขณะที่กำลังอ้าปากจะสั่งนั้นเด็กจากcollegeก็ดันตัดหน้าซะก่อน
เด็กนั่นยืนอยู่ข้างหน้าผมขนาดตัวที่ต่างกันอยู่มากโขทำให้ระดับความสูงของคนตรงหน้าอยู่เพียงระดับอกของผมเท่านั้นเอง ‘ตัวจะเล็กอะไรขนาดนั้น’ ผมคิดในใจแต่กลับต้องขยับกายเข้าใกล้คนตรงหน้ายิ่งกว่าเดิมเมื่อกลิ่นหอมอ่อนๆลอยแตะเข้าที่ปลายจมูกทั้งที่ผมยังสวมหมวกกันน็อคอยู่
กลิ่นดอกบลูเบล?
ไม่รู้ว่าผมเข้าใกล้ต้นคอขาวจนแนบชิดแค่ไหนคนข้างหน้าถึงมีปฏิกิริยาด้วยการย่นคอถอยห่าง ก่อนนั้นไม่กี่วิเสียงของพนักงานก็ดังเรียกสติของผมกลับมา
“ลูกค้าด้านหลังต้องขอโทษด้วยนะคะวันนี้ไข่มุกหมดแล้ว” ประโยคที่พนักงานตะโกนเมื่อครู่คงบอกผมสินะ ผมพยักหน้าเป็นอันเข้าใจตั้งใจจะหมุนตัวเดินกลับ แต่...
“แบ่งออกจากแก้วของผมก็ได้ครับ”
อ่า...เสียงหวานมากๆ ใบหน้าที่หันหลังให้กันอยู่นั้นค่อยๆหันกลับมามองผมที่ยืนอึ้งอยู่ทางด้านหลังเพราะยังจมอยู่ในภวังค์ของเสียงหวานหูเมื้อกี้นี้อยู่ เสียอาการมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
“คุณเอาเมนูอะไรสั่งสิครับเดี๋ยวผมแบ่งไข่มุกจากแก้วให้” หันมาเพื่อจะบอกกันแค่นี้น่ะหรอ ผมกระตุกยิ้มและยังไม่ทันได้มองเสี้ยวหน้านั้นชัดๆด้วยซ้ำเจ้าตัวก็รีบหันกลับไปซะแล้ว และภายใต้หมวกกันน็อคที่สวมอยู่มีใครรู้ไหมนะว่าผมกำลังยิ้ม นี่ถ้าไอ้พี่ยุนกิรู้เข้าคงโดนล้อไปสามชาติเศษ
“บลูชานมไม่ใส่น้ำตาล” เอ่ยสั่งเสียงห้วน สายตาก็มองยังพนักงานที่กำลังตักแบ่งไข่มุกจากอีกแก้ว สักพักแก้วชานมก็ถูกส่งต่อมาให้โดยคนตัวเล็กข้างหน้า จู่ๆผมรู้สึกเหมือนหัวใจเต้น มันไม่ได้เต้นแรงอะไรมากหรอกแต่แค่วูบโหวงแปลกๆ พลันก็นึกถึงสิ่งที่ดวงจันทร์เคยบอกไว้เรื่องคู่โซลเมท
"บลูชานม เมนูโปรดสินะ"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องน่ารักจัง ใจดีอีก
แงงงง น้องน่ารักจังเลยค่ะ
ภาษายังสวยอ่านง่ายเหมือนเดิมเลย
รอติดตามนะคะ ><
ฮื่อออ กอดน้องจีมินจองกุกเอ็นดูน้องด้วยเถิดอย่าปฏิเสธน้องเลย สู้ๆนะคะไรท์อยากอ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว
แปลว่า ผู้หญิงอาจต้องแต่งงานกับจองกุกอย่างนั้นใช่ไหม แต่ทีนี้มาเจอน้องแล้วนี่ที่้ร้านชาไข่มุก ขอให้เป็นโซลเมทกันทีเถอะ จะได้ไม่ยากไปกว่านี้ แค่นี้ก็สงสารน้องจีมินจะแย่อยู่แล้ว เพราะเกิดเป็นโอเมก้า ก็เลยเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรใช่ไหม ใครๆ ก็ไม่สนใจน้อง เพราะว่าน้องเป็นโอเมก้า โหยยยยย ถ้าเรามีน้องเป็นลูกนะ เราจะยิ่งรักและประคบประหงมเลยล่ะ น่าสงสารน้อง ขอให้น้องได้แต่งงานกับอัลฟ่าคิงไปเลยเหอะ ทุกคนจะได้หันมาให้ความสำคัญกับน้องบ้าง สงสาร
เราชอบเรื่องนี้นะคะ เรา Fav. ไว้แล้ว เราชอบอ่านแนวโอเมก้าค่ะ เพราะว่าตัวละครสามารถมีลูกกันได้ เป็นครอบครัวจริงๆจังๆ ไม่ต้องไปหาใครอื่น เพราะงั้นเราเลยชอบค่ะ แล้วเราหาโอเมก้าเวิร์สคู่ที่เราอ่านไม่ค่อยมีด้วยค่ะ หรือมีแต่เรายังไม่เจอกันนะ ทุกวันนี้เราเลยสิงจอยส่วนมาก แต่เราชอบอ่านฟิคบรรยายเหมือนเดิมนะคะ ฟิคนี้เป็นโอเมก้า พาร์ทบรรยายมันย่อมได้อรรถรสกว่าอยู่แล้ว เราจะรอเรื่องนี้นะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้วววววว