ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    +#+「King&Queen」 ยิ่งเกลียดเธอ ยิ่งเจอรัก +#+

    ลำดับตอนที่ #2 : King & Queen :: Chapter 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 39
      0
      5 ต.ค. 53

    King & Queen :: Chapter 1

    “ไม่เอา!!!!

    เสียงของฉันกรีดร้องลั่นห้องเรียนมัธยมศึกษาปีที่4 ห้องA อย่าหงุดหงิด พลางจ้องคนที่มาบอกข่าว (ร้าย) ซึ่งกำลังส่งยิ้มแห้งๆมาให้ฉัน นี่มันวันบ้าอะไร ทั้งๆที่เพิ่งบ่นในใจไปเมื่อไม่กี่นาที ว่าไม่อยากเป็นหัวหน้าห้อง แต่ดันกำลังมีตำแหน่งบ้าๆมาให้ฉันอีกเนี่ยนะ!

    “ไม่เอาน่า เพนเทล เธอรับตำแหน่งแบบนี้มาตั้งแต่ประถมแล้วไม่ใช่เหรอ แค่ตำแหน่งประธานนักเรียนมัธยมปลายเอง แค่นี้จะเป้นอะไรไป”

    ยัยป๊อกกี้ เพื่อนสนิทตัวแสบยังคงส่งยิ้มแห้งๆให้ฉันต่อไป ขณะที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมฉันไปด้วย คิดว่าฉันจะหลงกลเรอะ ไม่ใช่เรื่องของตัวเองก้พูดได้ซิ

    “ฉันทำมาตั้งแต่อนุบาลต่างหากย่ะ ทำไมต้องเป็นฉันด้วย คนอื่นก็ตั้งเยอะ หรือถ้าอยากได้คนหน้าตาเหมือนฉันก็เอายัยเพนซิล พี่สาวฝาแฝดไปเป็นแทนเด้!!

    “เธอก็รู้ว่ายัยเพนซิลน่ะสำออยเก่ง เอ้ย! อ่อนแอจะตาย”

    “ฉันก็อ่อนแอเหมือนกันน่ะแหละ”

    “ไม่หรอก คนที่สามรถปาลูกบอลอัดหน้าผู้ชายเป็นสิบๆคนได้แบบเธอน่ะไม่มีอีกแล้ว”

    “ป๊อกกี้!!

    “แฮะๆ.....”

    “ฉันไม่ทำ จำเอาไว้!!

    ฉันจ้องหน้ายัยเพื่อนตัวแสบคล้ายกับว่าถ้าทะลุร่างยัยนั่นได้ คงทะลุไปนานแล้ว ฉันสะบัดหน้าหนียัยป๊อกกี้ แล้วเดินออกจากห้องอย่าหงุดหงิด

    “ถ้าเธอไม่ทำก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะไปบอกมูนเค้กอ่ะ”

    “ยะ หยุดเลยนะ ยัยบ้า”

    “ยอมรึยังล่ะจ๊ะ ^^

    ยัยป๊อกกี้ถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ หล่อนจะขู่ยังไงฉันไม่กลัวหรอก แต่อย่ามายุ่งกับมูนเค้กได้ไหม ฉันยังไม่อยากโดนยัยแตงโมฆ่าตายหรอกนะ ชีวิตฉันยังต้องอยู่กินขนมนมเนยไปอีกนาน T^T

    “เธอขู่ฉันเหรอ ยัยป้าหนังเหี่ยว”

    “กรี๊ด นี่แกกล้าว่าเพื่อนผู้มีใบหน้าอันสวยสะดุดตาอย่างฉันว่ายัยป้าหน้าเหี่ยวเหรอยะ ยัยพยาธิเคลื่อนที่”

    “วะ ว่าไงนะ!

    “นี่พอกันซักทีจะได้ไหม”

    เสียงเล็กๆขัดขึ้น ฉันกับป๊อกกี้ก้มลงไปมองทางต้นเสียง แล้วก็เห็นแตงโมกำลังจ้องพวกเราเขม็ง ข้างๆมีมูนเค้กมองพวกเราด้วยสายตาสงสัยอยู่ ฉันหันไปมอองหน้าป๊อกกี้ก่อน ยัยนั่นแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉันนิดนึง ก่อนที่ฉันจะเบือนหน้าหนีด้วยอาการเครียดขึ้นสมอง

    “แล้วทะเลาะอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ”

    มูนเค้กถาม ยัยป๊อกกี้รีบตอบทันใดว่า

    “ก็นี่ไง เรื่องที่รุ่นพี่เขามาขอร้องน่ะ ฉันกำลังมาขอร้องเพนเทลอยู่น่ะซิ”

    “แล้วผลเป็นไง”

    แตงโมถาม ขณะจ้องฉัน ดูท่าทางก็คงพอจะรู้อยู่แล้วน่ะนะ แต่ที่ถามนี่คงเพื่อให้มูนเค้กรู้ด้วยล่ะมั้ง ก็มูนเค้กน่ะในบรรดากลุ่มเราทั้งหมดแล้ว เธอคือคนที่ใสซื่อที่สุดเลยนี่นา!

    “แหม เจ้าตัวเขาก็ไม่ยอมรับน่ะซิ ฉันกำลังจะไปขอให้พวกเธอมาช่วยอยู่พอดีเลยนะเนี่ย”

    “ทำไมล่ะ เพนเทลเกลียด...พวกรุ่นพี่เหรอจ๊ะ”

    “ปะ เปล่า แต่ฉันไม่อยากทำน่ะ”

    ฉันตอบมูนเค้กไปแบบนั้น แต่จริงๆฉันก็เกลียดพวกยัยรุ่นพี่ม.หกจริงๆ เวลามีปัญหาอะไรชอบลากฉันเข้าไปยุ่งด้วยทุกที นี่ยังคิดจะให้ฉันทำตำแหน่งบ้าๆนั่นอีก ยัยพวกนั้นต้องเพ้อไปแล้วแน่ๆเลย เหอๆ

    “พวกรุ่นพี่น่ะ เขาลำบากมากเลยนะเพนเทล ไม่งั้นเขาไม่มาขอร้องให้เธอช่วยหรอกนะ รู้ไหมว่าทำไม”

    “รีบๆพูดมาเถอะค่ะ คุณป๊อกกี้”

    เพราะต่อให้คุณพูดยังไงฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้อยู่ดี ฮ่าๆๆๆ ยัยป๊อกกี้ทำหน้าจริงจังก่อนจะพูดว่า

    “ก็อีกฝ่ายน่ะคือ คู่หมั้นเธอน่ะซิ”

    “หา....”

    “ฉันบอกว่าประธานนักเรียนฝ่ายชายน่ะคือ คู่หมั้นของเธอน่ะซิ รุ่นพี่เขาถึงได้มาขอร้องให้เธอเป็นไง ตอนแรกเขาก้อยากจะทำกันเอง เพราะว่าจะได้กรี๊ดกร๊าดกันตามใจชอบอยู่หรอก แต่บังเอิญว่าคุณคู่หมั้นของเธอเขาขอร้องให้เธอเป็นน่ะซิ พวกรุ่นพี่เขาถึงกับกรีดร้องกันไปสามวันเจ็ดวันเลยนะ”

    “ผีเขาล่ะซิไม่ว่า... อีกอย่างมันเป็นคู่กัดฉันไม่ใช่คู่หมั้นฉัน ที่มันทำแบบนี้เพราะมันกำลังหาเรื่องกวนมือกวนเท้าฉันอยู่ต่างหาก”

    “ปฏิเสธมันเข้าไปเถอะแม่คุณ เคยได้ยินไหม เกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้น”

    “หุบปากนะ ป๊อกกี้ ฉันจะเป็นก็ได้ ถ้าหากว่านักเรียนหญิงของโรงเรียนเราทั้งหมดยอมลงชื่อเซ็นยอมเกินครึ่ง เพื่อจะให้ฉันเป็นประธานนักเรียน”

    “เรื่องนั้นเสร็จเรียบแล้วจ้ะ แตงโมบอกว่า คิดไว้แล้วว่าเพนเทลต้องมาวิธีนี้”

    “แหง่ะ!.... อะไรกันพวกเธออยากเป็นกรรมการนักเรียนกันรึไง ถ้าฉันได้เป็นล่ะก็ ตำแหน่งที่เหลืออีกสิบกว่าตำแหน่ง พวกเธอก็ต้องโดนหางเลขไปด้วยนะ”

    ฉันพยายามแย้งเพื่อให้ทุกคนคล้อยตาม แต่ยัยป๊อกกี้กลับหน้าระรื่น แล้วพูดว่า

    “เรื่องนั้นฉันคุยกับทุกคนในกลุ่มกันแล้ว มติเป็นเอกฉันท์เรียบร้อยแล้วจ้า”

    “อึก... แต่ทุกคนต้องมารับตำแหน่งยุ่งยากกันนะ”

    “แต่มันน่าสนุกออกนะจ๊ะ”

    “ทะ ทุกคนอาจจะต้องไปฝั่งของพวกผู้ชายก็ได้นะ”

    “เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา เพราะฉันจะกระทืบไอพวกลามกเอง”

    ไม่ว่าฉันจะเถียงอะไรไป 3 คนนี้ก็เถียงสู้กลับมาได้หน้าตาเฉย ฮือ ทำแบบนี้แกบังคับฉันให้ฆ่าตัวตายเลยดีกว่าไหมยะ

    “ถ้าเธอไม่เป็นล่ะก็จะโดนพวกผู้ชายประณามเอานะ”

    “ยังไง”

    “เขาจะหาว่าเธอเป็นยัยผู้หญิงขี้กลัว ขี้แพ้ ปอดแหก ไม่แน่จริง แค่เป็นประธานนักเรียนก็ยังไม่กล้า กลัวคู่กัดของตัวเองจนตัวสั่น เอาแต่หลบหลังเพื่อน วันๆก็เอาแต่กินกับนอน ขี้เกียจตัวเป็นขน ชอบแอบกินขนมในห้องเรียนแล้วก็ไม่แบ่ง ร่างกายอ่อนแอกว่าพี่สาว....”

    “พอได้แล้ว! ฉันเป็นก็ได้ พอใจรึยัง - * -

    “เย้~

    ยัยป๊อกกี้ร้องอย่างอารมณ์ดี แล้ววิ่งกลับเข้าไปในห้อง สงสัยจะกลับไปแจ้งข่าวให้เพื่อนในห้องทราบ ซึ่งเชื่อได้ว่าพรุ่งนี้คงจะรู้กันไปทั้งโรงเรียน ฉันล่ะหงุดหงิดจริงๆ นอกจากของกินจะล่อฉันได้แล้ว มีอีกอย่างที่จะล่อฉันได้คือ ถ้าใครมาท้า หรือสบประมาทฉันล่ะก็ มันจะต้องตายไปข้างใดข้างนึง รู้สึกที่แน่ๆในตอนนี้คือ ไอหมอนั่นมันต้องอยากตายแน่ๆ ไอคนที่มันทำให้ฉันโดนชาวบ้านเรียกฉายาประหลาดน่ะ

     

    ในเช้าวันต่อมา ทุกอย่างเป็นไปตามที่ฉันคาด ทั่วทั้งโรงเรียนได้รับรู้ว่าฉัน นางสาวเพนนิตา ราชวัตรเทวี ได้มีความประสงค์(ของเพื่อน และรุ่นพี่)ต้องการเป็นประธานนักเรียนฝ่ายหญิง น่ายินดีซะไม่มีล่ะ!

    ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงโรงเรียนของฉันก่อน เดิมที่ทั้งสองโรงเรียนเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงกันเท่านั้น เป็นโรงเรียนชายล้วน และหญิงล้วน โรงเรียนชายล้วนมีชื่อว่า St.Spiral ส่วนโรงเรียนฝ่ายหญิงมีชื่อว่า St.Spica ทุกๆปีของแต่ละโรงเรียนจะมีการให้ประธานรุ่นก่อนเสนอชื่อ ประธานรุ่นใหม่ขึ้น พร้อมกรรมการนักเรียนที่เหลือ

    เนื่องด้วยความประสงค์ของไอประธานนักเรียนชาย และฉายาโง่ๆของฉันเลยทำให้นักเรียนหญิงทั้งหมดลงมติให้ฉันเป็นประธาน ซึ่งผลที่ตามมาคือ เพื่อนๆของฉันต้องซวยมารับตำแหน่งกับฉายาบ้าๆอะไรอีกก็ไม่รู้ แถมพวกเรายังโดนรุ่นพี่ กับบรรดาคณะอาจารย์ผู้หญิงมาของร้องอีก บ้าจริงๆไหมล่ะ จะออกก็ออกไม่ได้ - * -

    และขออธิบายคร่าวๆอีกหน่อย เนื่องจากทั้ง 2 โรงเรียนนั้นอยู่ใกล้กันมานาน ทำให้ได้ยุบโรงเรียนทั้ง 2 เป็นโรงเรียนเดียวกัน ใช้ของร่วมกัน แต่ก็ยังมีการแยะห้อง แยกตึกกันอยู่ดี ประหลาดใช่ไหมล่ะ ทำไมมันไม่เอามาทำเป็นสหศึกษาซะให้สิ้นเรื่องไปเลยนะ พอฉันไปถามยัยป๊อกกี้ก็ได้คำตอบมาว่า

    “ประธานนักเรียนชายรุ่นนึงปฏิเสธรุ่นนึงต่อมา ประธานนักเรียนหญิงรุ่นนึงก็ปฏิเสธรุ่นนึงอีก ปฏิเสธกันไปมาอย่างงี้มาสิบกว่าปีแล้ว”

    “มันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะกับการยุบให้เป็นสหศึกษา”

    “ก็ต้องผ่านความเห็นชอบกันก่อน แต่ถ้ามีคนจำนวน 1,000 คนเซ็นชื่อประท้วงขึ้นมา ก็ต้องให้ประธานจับฉลากกัน ซึ่งก็ทำมาสิบๆปีแล้วเหมือนกัน แต่ไม่เคยจะได้ซักที รู้ไหมผู้อำนวยการทั้ง 2 โรงเรียนเขาอยากให้ยุบเป็นสหศึกษาตั้งนานแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ทำได้แค่ให้มาอยู่โรงเรียนเดียวกัน ไม่แน่ปีของเราอาจทำให้ความฝันพวกท่านเป็นจริงก็ได้นะ ฮุๆ”

    เหอๆ ไปตายซะเถอะ ยัยบ้า ต่อให้หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็ไม่ยอมให้ต้องมาเรียนเป็นสหศึกษาหรอก แค่ทุกวันนี้ต้องอยู่ร่วมชายคาโรงเรียนเดียวกับไอพวกบ้านั่นก็เกินพอแล้ว แต่ถ้ามันมีไอ 1,000 ลายเซ็นบ้านั่น ก็ค่อยว่ากันอีกที

    “เพนเทล จริงเหรอที่เธอยอมรับตำแหน่งแล้ว”

    ด้วยความที่ข่าวไวมากไปหน่อย ยัยพี่สาวฝาแฝด เพนซิล เลยเดินเข้ามาถามความจริงจากฉัน ฉันพยักหน้าตอบกลับไปนิดหน่อยอย่างรำคาญ จริงๆแล้วฉันกับมันไม่ค่อยถูกชะตากันเท่าไหร่ ทั้งที่ส่วนใหญ่คนที่เป็นแฝดกันจะผูกพันกัน แต่กรณีฉันคงจะไม่ใช่อย่างแรง ไม่ว่าฉันจะทำอะไรยัยนี่ก็ชอบเข้ามาสอด และก็ขัดขวางฉันไปซะทุกเรื่อง แถมชอบมาแย่งของกับฉันด้วย แต่ฉันไม่ถือสาอะไรเท่าไหร่ เพราะว่านั่นไม่ใช่ของกิน - -

    “ทำไมเธอถึงยอมง่ายจังล่ะ ไหนตอนแรกไม่อยากเป็นไม่ใช่เหรอ หรือเพราะหยางเฟยเหรอ”

    เปรี๊ยะ

    อยู่ดีๆก็เหมือนมีไฟฟ้าเข้ามาช็อตโสตประสาทฉันหรืออย่างไรไม่ทราบ ตอนนี้ฉันหันไปมองหน้ายัยเพนซิล แล้วเอ่ยเสียงเย็นว่า

    “ไม่ใช่เพราะมัน”

    “เห็นป๊อกกี้อวดเพื่อนๆในห้องเธอว่า เขามาบังคับให้รุ่นก่อนลาออก จริงรึเปล่า”

    “ใช่”

    “แล้วเขาอยากให้เธอเป็นประธานแทนงั้นเหรอ”

    “ใช่”

    “ไม่ยุติธรรม! ทำไมไม่ว่าเรื่องอะไร หยางเฟยเขาถึงต้องมาเอาเธอไปเกี่ยวด้วยทุกที”

    “ฉันจะไปรู้เรอะ! แล้วอย่าพูดชื่อมันจะได้ไหม”

    “ทำไม อยากเก็บไว้เรียกคนเดียวรึไง!!

    “บ้านเธอซิ ฉันเกลียดชื่องิ้วจีนของมันตะหากเล่า โอ๊ย! เลิกพูดซะทีเถอะ”

    ฉันโวยยัยพี่สาวปัญญาอ่อนอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะผลักยัยนั่นให้ออกไปห่างๆอย่างแรง แรงมากแค่ไหน ฉันไม่รู้หรอก รู้แค่สามารถทำยัยนี่ล้มไปกองกับพื้นได้เลยล่ะ - -

    “โอ๊ย!!!

    เสียงของยัยเพนซิลกรีดร้อง ราวกับว่าฉันไปเหยียบหาง เอ้ย! เหยียบเท้าของยัยนั่น ให้ตายเหอะ ผลักแค่เบาๆ เธอล้มไม่เท่าไหร่ แต่ยังจะร้องเสียงดัง เพื่อให้คนอื่นเขามามุงดูเพื่ออะไรกันยะ

    “อุ๊ย ดูซิเพนเทลผลักพี่ตัวเองล้มเลยล่ะ”

    “ได้ยินว่าพี่เขาร่างกายอ่อนแอด้วยนี่นา”

    “โหดร้ายจังเลยอ่ะ”

    “สมกับเป็นราชินีแห่งความชั่วร้ายจริงๆเลยเนอะ”

    “แล้ว...พวกหล่อนจะมายุ่งอะไรด้วยเล่า ไสหัวไปเลยนะ!!!

    “กรี๊ด!!!

    บรรดาไทยมุงเพศหญิงทั้งหลายต่างกรี๊ดกันเสียงหลง ก่อนจะวิ่งหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง ฉันย่อตัวลงไปเพื่อให้เท่ากับระดับสายตาของเพนซิล ใบหน้าที่เพนซิลมองมาทางฉันนั้น  ไม่ใช่ทั้งสายตาเจ็บปวด อยากร้องไห้ หรือว่าโกรธ แต่เจ้าหล่อนกำลังยิ้มเย้ยฉันอยู่ต่างหาก แค่เห็นเพียงเท่านั้น จากตอนแรกที่คิดจะพยุงยัยนั่นขึ้น ฉันเปลี่ยนใจเป็นเดินหนีให้อยู่ไกลๆยัยนั่นแทนจะดีกว่า ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่า ไปเคยทำกรรมอะไรไว้ ถึงได้ต้องจองล้างจองผลาญกับยัยนั่นถึงเพียงนี้

     

    ฉันตัดสินใจเดินวนอ้อมมาที่สวนหลังโรงเรียน ก่อนจะหาต้นไม้ดีๆ เพื่อปีนไปหาของกิน  ไม่ใช่! เพื่อปีนขึ้นไปนอนต่างหาก สำหรับโรงเรียนนี้การจะหาที่ดีๆ และเงียบสงบให้อยู่อาศัยได้นั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ฉันเคยเรียนรู้เรื่องนี้ตอนอยู่ชั้นป.5 ขณะที่ฉันแอบไปงีบที่ห้องพยาบาลนั้นเอง ตอนนั้นฉันอยู่สังกัดชมรมคาราเต้ สาเหตุที่เลือกเพราะจะหาเรื่องโดด ไอรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งหลายมันก็แห่กันไปชุมนุมกันที่นั่น เพื่อที่จะให้ฉันเป็นประธานชมรม ลองคิดถึงความเว่อร์ของพวกมันซิ จำได้ว่าขนาดหนีไปอยู่ในห้องน้ำชาย มันก็ยังตามมาหลอกหลอนฉันอีก

    จนวันหนึ่ง แตงโมได้เสนอแนวทางขึ้นว่า ให้ฉันปีนไปซ่อนพวกนั้นบนต้นไม้ แต่คนอย่างฉันแค่จะไปปีนซ่อนเฉยๆ ก็ดูจะธรรมดาไป ฉันเลยไปนอนตากลม 3 ชั่วโมง จนเลิกเรียนกันไปเลยทีเดียว แล้วตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ฉันก็มักจะโดดไปซ่อนบนนี้ แต่เดี๋ยวหนีชักไม่ได้ผล เพราะยัยป๊อกกี้เริ่มจะสืบหาฉันเจอบ่อยขึ้น สงสัยต้องหาที่ซ่อนใหม่อีกซะแล้วล่ะมั้ง

    ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงพูดคุยกันอยู่ข้างล่างดังขึ้น ตอนแรกก็ไม่ได้จะสนใจอะไรหรอก ถ้ามันไม่ได้พูดเรื่องของฉันอยู่น่ะนะ...

    “นี่รู้ไหมว่าพี่เพนเทลน่ะ เขาเป็นคนป่าเถื่อนแหละ”

    “จริงเหรอ ฉันเห็นเขาผลักพี่สาวจนล้ม ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”

    “แล้วฉันยังได้ยินมาว่าเขาเป้นพวกยูริด้วยแหละ”

    “ตายแล้ว! รุ่นพี่หยางเฟยจะเป็นอะไรไหมนะ”

    “นั่นซิ คิงแย่แล้วล่ะ เรารีบเอาไปบอกคนอื่นเถอะ”

    หลังจากนั้นยัยนกกาทั้ง 3 ตัวก็รีบไปกระจายข่าวสาร ไอเรื่องฉันป่าเถื่อน ผลักพี่สาวนี่ยังพอทนได้อยู่หรอกนะ แต่ไอที่หาว่าฉันเป็นพวกยูรินี่มันหมายความว่าไงกันยะ!! อย่าให้รู้เชียวนะว่าไอบ้าที่ไหนมันกระจายข่าวลือพิลึกๆแบบนี้ แต่ตอนนี้ช่างมันก่อนเถอะ ง่วงชะมัดเลย ขอนอนดีกว่า -0-

    + + + + + + + + + + + + + + + + + +

    มาลงตอนแรกแล้วค่า แวะมาเม้นกันหน่อยนะ

    จะได้รู้ว่าเราควรปรับปรุงตรงไหนไหม T^T

    เรื่องสำนวนการบรรยายอาจจะห่วยไปนิด ทำใจอ่านหน่อยเน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×