ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่กัด ยุทธภพ

    ลำดับตอนที่ #8 : พบมิตร

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 54


    เวลาพลบค่ำดวงตะวันเคลื่อนคล้อย แสงแดดอ่อนเริ่มถูกความมืดกลืนกิน เจียงจิ้งฝู พาร่างของตนที่แสนเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย เดินมาตามทางออกสู่ชนบทของมหานครเซิ่งจิง เขาเพียงต้องการหาที่ซุกหัวนอน ไม่ว่างจะเป็นบ้านร้างหรือวัดเขาก็ไม่เกี่ยงเพราะเขามีเงินติดตัวมาเพียงน้อยนิด เขารู้สึกอ่อนเพลียมากจึงเลี้ยวเข้าไปในตรอกเก่าๆ เพราะเห็นว่ามีหลังคาวัดอยู่และเขาคงจะค้างคืนที่นั่นได้ เมื่อก้าวเข้าวัดไปเขาเข้าไปพิงกำแพงวัดแล้วหลับไปทันที ไม่แม้แต่จะมองป้ายชื่อวัด'ฝู่ซัน'
    ..............
    ภายนอกมหานครเซิ่งจิง ผ่านไป2วันแล้ว เซิ่นชิงยังเดินทางไปสู่นครเซิ่งจิงตามสัมผัสที่นางจับได้ บัดนี้นางได้ข้ามภูเขามา1ลูกแล้ว

    'ข้างหน้านี่แหละ ข้าสัมผัสได้ เจ้ารอข้ามาตลอดสินะ ไม่เช่นนั้นคงไม่เชิญชวนข้าถึงเพียงนี้'
    แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตานางกลับเป็นเพียงป่าทึบ บรรยากาศอึมครึมไม่ต่างจากที่นางพบมาก่อนเลย
    พลันมีร่างสตรีนางหนึ่งโผ่มาจากต้นไม้ใหญ่เป็นภรรยาของหลินจื้อ!!!

    เซิ่นชิงประหม่าหน้าซีด ตัวนางในตอนนี้ไม่มีอาวุธสักชิ้น  ไม่ทันที่นางจะก้าวขาออกวิ่ง ภรรยาของหลินจื้อก็หลายร่างเป็นปิศาจงู  กล่าวทักทายเซิ่นชิง

    "คารวะ คุณหนูเซิ่นไม่ได้พบกันนาน"
    เซิ่นชิงกำหมัดแน่น รู้ว่าไม่มีทางสู้นางได้ พยายามเดินหนีไปทิศทางเมืองเซิ่งจิงที่ตนจับสัมผัสได้แต่นางปิศาจก็ยังก็เลื้อยตามมา
    'สู้ไม่ได้ก็ต้องหนีสิ ตอนนี้สภาพร่างกายเราก็เริ่มไม่ไหวแล้ว ต้องยืดเวลาไปก่อน รอคนมาช่วย...' คิดได้ดังนี้ จึงตีหน้าเศร้า

    "คารวะพี่สาว เรื่องพ่อตาของท่านข้าไม่ได้ตั้งใจลงมือ"พูดพลางทำบีบน้ำตา แล้วสะอึกสะอื้นน่าเวทนา ปิศาจงูเห็นนางทำมารยาเช่นนั้นก็เล่นตอบ

    "น้องเรา ข้าทราบว่าเจ้าไม่มีเจตนา แต่ครอบครัวของเราเสียใจกับเรื่องนี้มาก อยากชวนเจ้ากลับไปร่วมงานศพท่านพ่อเหลือเกิน"
    เซิ่นชิงถึงกับขนลุกซู่

    'กล้าเชิญข้ากลับไปเลยหรือนี่ กลับข้าก็โง่เต็มทีแล้ว'

    "ข้าเกรงว่าคงไม่สะดวกนัก เวลานี้ข้าต้องการเสบียงอาหาร คาดว่าต้องใช้เวลานาน กว่าจะเตรียมเสร็จ" เซิ่นชิงหาข้ออ้าง จากนั้นค่อยๆ กุมมือภรรยาของหลินจื้อขึ้นมา ทั้งที่กลัวแทบตาย

    "อีกสองวันท่านรอข้านะ ข้าจะไปที่บ้านพวกท่านแน่ๆ ข้ารู้ ว่าข้าผิด ข้าจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น"
    พูดพลางมองเข้าไปในนัยน์ตาสีเขียวขุ่นที่ไร้ความเป็นมนุษย์นั้นตรงๆ พยายามข่มความกลัวไว้ ทั้งๆที่กลัวจนขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว จากน้ั้นค่อปล่อยมือภรรยาของหลินจื้อช้าๆ ภรรยาของหลินจื้อนางก็ไม่ได้โง่ จึงเล่นละครต่อคิดต้อนเซิ่นชิงให้จนมุม
    "อ้อ แต่ข้ามีอาหารมาให้เจ้าล่ะ"
    นางหยิบห่อใบไม้เหมือนที่นางได้มอบให้เซิ่นชิงเป็นอาหารเช้าในวันนั้นออกมา เซิ่นชิงหน้าเสีย ใบหน้าอมชมพูกลายเป็นซีดเผือดสิ่งที่อยู่ในห่อนั้นเคยเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุด แต่ยังปั้นยิ้มขณะที่ขาเตรียมจะวิ่งหนี นางปิศาจงูกลับคว้าแขนของนางไว้ซะแล้ว เค่นยิ้มออกมากล่าวด้วยน้ำเสียงมี่เต็มไปด้วยความแค้น

    "อาหารนี้ข้าตั้งใจทำให้เจ้ามากนะและจะเปิดให้เจ้าด้วย"

    พูดก็มีงูรูปร่างน่าเกลียดชูคอขึ้นมาจากห่อใบไม้นั่น มันตัวสีดำเมื่อม แม้กระทั่งดวงตาก็ยังดำสนิท มันฉกเข้าที่หัวไหล่ของเซิ่นชิงทันที อย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ภรรยาของหลินจื้อเปลี่ยนจากร่างงูครึ่งท่อนเป็นร่างงเต็มตัว

    "ชะตาเจ้าขาดแล้ว" กล่าวจบก็หวีดร้องอย่างสะใจ

    ความเจ็บปวด ราวกับถูกมีดชำแหละเนื้อโจมตีเส้นประสาทของเซิ่นชิงทันที ตอนนี้นางต้องวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด จะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคแล้ว เซิ่นชิงกล้ำกลืนกัดฟันทนความเจ็บปวดนั้นไว้ วิ่งด้วยกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ แต่ละฝีก้าวที่ก้าวเท้าไปเจ็บปวดราวร่างกายจะปริแตก แต่โชคก็ยังเข้าข้างนาง นางพบชายผู้หนึ่งแต่งกายซอมซ่อกำลังก้มเก็บสมุนไพร แต่นางไม่มีเวลาแล้วปิศาจงูตามมาเร็วนัก เซิ่นชิงกระชากข้อเสื้อของชายผู้นั้นโดยแรง ตวาดไปว่า

    "ส่งอาวุธของเจ้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้" แต่เขากลับส่ายหน้าด้วยความสับสน นางเห็นดั่งนั้นยิ่งฉุนหนักขึ้น
    เหลือบไปเห็นมีดตัดสมุนไพรในมือของชายหนุ่มรีบคว้ามาทันที เซิ่นชิงเจ็บทรมานเจียนตายเกรงว่าตนจะทนต่อไม่ไหว หยิบตระกร้าสมุนไพรของชายหนุ่มขึ้นกำบัง นางปิศาจงูพุ่งมารวดเร็วจนน่ากลัว

    "เจ้าล่อไว้ เดี๋ยวข้าจัดการมันเอง" นางส่งตระกร้าสมุนไพรให้ชายหนุ่ม เขารับไว้อย่างขาดสติ
    เมื่อเห็นท่าทีอ่อนระโหยโรยแรงของนางแล้วก็อดเป็นห่วงมิได้ พลันนางวิ่งมาหลบอยู่หลังหนุ่มเก็บสมุนไพรนั้น รวบรวมกำลังภายในที่ร่ำเรียนมา ทดลองเปิดจุดชีพจรที่ฝ่ามือ ถึงแม้จะทราบว่าจะทำให้พิษงูกระจายไปเร็วขึ้นแต่นี่เป็นหนทางสู้เพียงอย่างเดียว เกิดความรุ่มร้อนขึ้นที่ฝ่ามือขวาจนแทบจะเผาไหม้ นิ้วทั้งห้าที่กุมมีดวมุนไพรนั้นใคร่อยากวาดคมมีดออกไป ปิศาจงูเลื้อยตรงเข้าหาคนทั้งคู่ มันหัวเราะลั่นเป็นเสียงโหยหวน และพุ่งเข้าใส่บัณฑิตทันที พลันกระตุกอย่างรวดเร็วและอ้าปากของมันเขี้ยวยาวเริ่มฉีดพิษคล้ายต้องการปลิดชีพเหยื่อของมันเต็มแก่

    "เจ้ามานี่" เซิ่นชิงลากบุรุษหนุ่มถอยหลังคล้ายจะเป็นโล่

    นางปิศาจงูแค่นหัวเราะกล่าวว่า

    "เจ้าเห็นแก่ตัวถึงขนาด ใช้ผู้อื่นตายแทน แต่ข้าจะไม่ให้รอดซักคน ตายซะ" กล่าวจบนางปิศาจงูพุ่งเข้าหาชายหนุ่มทันที

    "ฉัวะ!!!" โลหิตพุ่งขึ้นดั่งสายน้ำพุ แล้วตกเป็นละอองลงมา

    เป็นโลหิตของนางปิศาจงูนั่นเอง ชายหนุ่มตกตะลึงกับภาพที่เห็น สาวน้อยผู้มีดวงหน้างดงามลงมือฆ่าสัตว์ปิศาจได้อำมหิตถึงเพียงนี้ มือขอนางมืเพียงมีดสมุนไพรเท่านั้น นางใช้วิชาย้ายร่างชนิดใดข้ามตัวเขามาแทงสัตว์ปิศาจได้
    มาถึงจุดนี้เซิ่นชิงแม้จะขยับเปลือกตาก็มิอาจทำได้ร่างกายนางมาถึงขีดจำกัดแล้ว พลันเขี้ยวยักษ์แหลมยาวได้ฝังลงไปในแขนขาวผ่องของนาง พร้อมๆกับการสิ้นใจของปิศาจงู ทั้งคู่ล้มอย่างสิ้นสมประดี บัณฑิตหนุ่มเห็นท่าไม่ดีเข้าไปประคอยร่างเซิ่นชิง คำถามมากมายปรากฏขึ้น

    'เหตุใดนางจึงทนพิษสัตว์ปิศาจได้นานถึงเพียงนี้ นางจะยังใช่มนุษย์อยู่อีกหรือ' ด้วยความที่เป็นแพทย์สมุนไพร ตรวจดูอาการนาง พบว่าลมหายใจรวยรินเต็มทีก็ช้อนร่างแบบบางไว้ในอ้อมแขน แล้วพาเข้าสู่มหานครเซิ่งจิงอันเป็นภูมิลำเนาของตน

    "เคร้ง!!!" เสียงกระทบอาวุธของนายทหารผู้เฝ้าประตูดังขึ้นพร้อมกับคำถามเรื่องชาติกำเนิด

    "ข้าเสี่ยวเนี่ยน เจ้าจำมิได้แล้วรึ" เขากล่าวเป็นเชิงเล่นหัวกับนายทหารที่เป็นเพื่อนสนิท

    "แม่นางผู้นี้เล่า"นายทหารถามขึ้น พร้อมพิศร่างอันงามหมดจดของเซิ่นชิง เสี่ยวเนี่ยนยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากถอนใจตอบคำถามนายทหาร

    "ร่างทรงสัตว์ปิศาจ" นายทหารตกใจกับสิ่งที่ได้ยินนั้น แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยให้คนทั้งคู่ผ่านประตูสู่มหานครเซิ่งจิง.....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×