คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 : ค่ายสัมพันธ์
4
ค่ายสัมพันธ์
“น้องๆ ม.สี่ห้องหนึ่งกับห้องสองไปขึ้นรถเบอร์หนึ่งเลยนะจ๊ะ ส่วนห้องสามกับห้องสี่ขึ้นรถเบอร์สอง ห้องห้ากับห้องหก...บลาๆๆๆ”
พี่ปิ๊ดต้อนพวกเราขึ้นรถประจำเบอร์ของตัวเองหลังจากที่เข้าแถวเคารพธงชาติพร้อมกับคนอื่นๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่นักเรียนชั้นมัธยมปลายจะได้ไปค่ายสัมพันธ์กันเป็นเวลาสามวันสองคืน และจุดหมายปลายทางที่เราจะไปในวันนี้ก็คือจังหวัดสระบุรีนั่นเอง!
ฉันยังไม่รู้กำหนดการอะไรเกี่ยวกับค่ายนี้เลย เพราะรุ่นพี่ ม.หกที่เป็นคนจัดจะขอปิดไว้เป็นความลับทุกอย่าง เราไม่รู้กันเลยว่าในค่ายสัมพันธ์นี้จะมีกิจกรรมอะไรบ้าง รู้แต่ลางสังหรณ์ของฉันมันบอกว่าจะต้องมีเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้...ฉันยังหาพี่รหัสตัวเองไม่เจอเลยน่ะสิ T^T
วันนี้ฉันใส่เสื้อยืดสีขาวลายหมีน้อยกับกางเกงยีนส์ขาเดฟ รวบผมขึ้นไปมัดเป็นหางม้าธรรมดาๆ และสะพายกระเป๋าใบเล็กๆ ไว้ข้างๆ ในมือก็ถือถุงขนมเอาไว้เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่ฉันดันมีสองถุงใหญ่เต็มสองมือเลยน่ะสิ -_-^ เหตุเกิดจากเมื่อเช้าพี่รหัสของฉันฝากขนมพวกนี้มาให้ แล้วมันก็เยอะซะจน... กินได้สามวันสามคืนกันเลยทีเดียว
“นั่งกันเป็นคู่ๆ เลยนะจ๊ะ”
พี่ปิ๊ดพูดขึ้นในขณะที่พวกเรารีบทยอยกันขึ้นรถเบอร์หนึ่ง บนรถแต่ละคนจะมีตัวแทนเป็นพี่ ม.หกสองคนมาทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของน้องๆ และที่ไหนมีห้องสอง ที่นั่นย่อมหนีไม่พ้นพี่ปิ๊ดกับพี่ดั้งหักอีกตามเคย =_=;
“น้ำกรด แกนั่งกับใครอ่ะ ฉันนั่งกับมินนะ ^^”
ซี้เหว่ยตะโกนมาจากแถวหน้าๆ ของรถทัวร์หลังจากที่ฉันก้าวขึ้นมาที่แถวกลางๆ ของรถ
“แล้วฉันจะนั่งกับใครอ่ะ T^T”
ไร้เสียงสัญญาณตอบรับ =O= ยัยสองคนนั้นนั่งเฮฮาปาร์ตี้กันอยู่ข้างหน้าแล้วเรียบร้อย
ฉันก็ลืมไปเลยว่าเราจะนั่งรถไปกันเป็นคู่ -_-;; และในระหว่างที่ฉันกำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อหาคู่อยู่นั้น...สายตาของฉันก็พลันไปสะดุดกับดวงตาอันเป็นประกายของเด็กแว่นสามชั้นที่ไม่มีคู่นั่งเหมือนกัน อ๊ากกก! สรุปว่าฉันต้องนั่งกับหมอนี่ใช่มั้ยเนี่ย ได้โปรดอย่าจ้องฉันอย่างนั้นเลย T_T
“ขอฉันนั่งด้วยคนได้มั้ย”
ฉันหันหลังไปตามเสียงแล้วพบกับทีที่เพิ่งเดินขึ้นมาพอดี และเขาก็คงจะรู้ว่าฉันไม่มีคู่นั่ง - -;
“โอเคเลย ^^”
ฉันตอบตกลงทันทีพร้อมกับ (แอบ) โบกมือบอกลาเด็กแว่นสามชั้นนั่น แล้วเราสองคนก็เดินไปนั่งแถวหลังๆ หน่อย เพราะตอนนี้แถวหน้าๆ ถูกจองไปหมดแล้ว
“เธอจะนั่งข้างในหรือข้างนอก”
ทีแสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการให้ฉันเลือกที่นั่งก่อน
“ฉันขอนั่งริมหน้าต่างบ้าง”
ก็ในห้องเรียนนายนั่งบังวิวฉันตลอดเลย -_-^
พอพวกเราสองคนนั่งบนที่ของตัวเองกันเรียบร้อยแล้ว เสียงของพี่ปิ๊ดก็ดังลอดโทรโข่งตัวเล็กออกมาอีกครั้ง
“อ่า...น้องๆ คะ รู้สึกรถของพี่ ม.ห้าจะนั่งกันไม่พอ ก็เลยต้องกระจายไปนั่งตามคันอื่นๆ อ่ะจ้ะ ขอความร่วมมือจากน้องๆ ช่วยกันขยับไปนั่งที่ติดๆ กันหน่อยนะจ๊ะ อย่าเว้นเก้าอี้ไว้วางของน้า...”
เพื่อนหลายคนที่นั่งกินที่เก้าอี้ตัวอื่นต่างก็ย้ายที่กันอย่างชุลมุน และในขณะเดียวกัน พี่ๆ ม.ห้าก็เริ่มทยอยเดินขึ้นรถมาด้วย
“ไปนั่งตรงโน้นกันมั้ยฟาง”
ฉันได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังอยู่ไม่ไกล ในขณะที่ฉันกำลังก้มหน้าก้มตาเลือกขนมจากพี่รหัสออกมากินอยู่
“ตรงไหนก็ได้ ตามใจไนท์...จองที่ข้างหลังไว้ให้เทสกับไทน์ด้วยนะ”
เอ๊ะ...เสียงนี้ก็คุ้นๆ
ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากกองถุงขนม แล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความช็อกที่เห็นมิดไนท์ยืนอยู่ตรงหน้า
วันนี้เขาอยู่ในชุดไปรเวทสบายๆ โดยใส่เสื้อยืดสีขาวธรรมดา กับกางเกงยีนส์ธรรมดา และทรงผมที่ยุ่งๆ เหมือนเพิ่งตื่นนอน แต่ทำไม...เขาถึงได้ดูดีขนาดนี้นะ ดูดีกว่าตอนที่ใส่ชุดนักเรียนเป็นไหนๆ เลย
มิดไนท์กับพี่นางฟ้าหน้าหวานกำลังเดินมาทางนี้ และทำท่าว่าจะมานั่งเก้าอี้แถวเดียวกับฉันอีก!
“มิดไนท์! TOT”
ฉันเผลอหลุดปากพูดชื่อเขาออกไป อุตส่าห์ดีใจแล้วแท้ๆ ที่วันดีๆ แบบนี้จะไม่มีนายนี่มากวนใจ แต่ที่ไหนได้...อีตามิดไนท์กลับตามมารังควาญฉันเหมือนเดิม T^T
“ไง ยัยตัวแสบ -_-”
มิดไนท์ดูจะไม่ตกใจสักเท่าไหร่ที่เห็นหน้าฉัน และแทนที่เขาจะเดินลงจากรถไปนั่งคันอื่น เขากลับดึงแขนพี่นางฟ้าหน้าหวานที่ชื่อพี่ฟางมานั่งบนเก้าอี้แถวเดียวกับฉันและที โดยที่มิดไนท์นั่งริมหน้าต่าง ส่วนพี่ฟางนั่งด้านนอก ซึ่งมันประจวบและเหมาะสมยิ่งนักที่พี่รหัสน้องรหัสอย่างพี่ฟางและทีจะได้นั่งใกล้กัน
เก้าอี้ข้างหลังของมิดไนท์กับพี่ฟางก็มีเพื่อนของทั้งสองคนมานั่ง รู้สึกจะเป็นฝาแฝดที่ชื่อเทสกับไทน์นี่แหละ หน้าคล้ายกันมากเลยล่ะ ทั้งคู่ตัวสูงพอๆ กับมิดไนท์ แต่คนหนึ่งจะหน้าตาออกแนวทะเล้นๆ หน่อย ส่วนอีกคนหนึ่งก็จะหน้าหวานๆ ดูซอล์ฟๆ > <
ไม่นานรถเบอร์หนึ่งก็เคลื่อนตัวออกจากโรงเรียนเป็นคันแรก ระยะเวลาในการไปสระบุรีก็ประมาณสามชั่วโมง โดยระหว่างทางพี่ปิ๊ดกับพี่ดั้งหักก็จะทำกิจกรรมไปเรื่อยๆ ให้คนบนรถได้แย่งกันตอบคำถามเพื่อรับของรางวัล แล้วสองชั่วโมงหลังก็จะให้พวกเราพักผ่อนกันเอง บางคนก็กินขนมบ้าง ฟังเพลงบ้าง
ฉันหยิบเสื้อกันหนาวออกมาจากกระเป๋าแล้วห่มไว้บนตัวเตรียมพร้อมที่จะนอน แต่เสียงรบกวนจากคนรอบข้างก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ทั้งเสียงของพี่ฟางที่คุยกับทีอย่างสนุกสนาน และโดยเฉพาะเสียงของฝาแฝดเทสกับไทน์ ที่เล่นอะไรติงต๊องกันตลอดทางเลย =__=; ส่วนมิดไนท์... ฉันแอบเห็นเค้ากำลังฟังเพลงจาก iPod แล้วก็ร้องคลอตามเบาๆ อยู่ด้วยล่ะ... แล้วทำไมฉันต้องไปสังเกตเขาด้วยล่ะเนี่ย (> < )( > <)(> < ) ฉันละสายตาจากทุกสิ่งทุกอย่าง...
และในที่สุด...ฉันก็เข้าสู่ห้วงนิทราท่ามกลางความวุ่นวายพวกนี้จนได้...
“เอ้าๆ หยุดเล่นกันได้แล้วจ้า คนที่หลับอยู่ก็ตื่นได้แล้วน้า เรามาถึงกระดังงารีสอร์ทกันแล้ว ^O^”
เสียงอันสดใสของพี่ดั้งหักปลุกฉันให้ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กับอีกหลายคน ในขณะที่รถทัวร์แต่ละคันกำลังหาที่จอดกันอยู่ ทุกคนบนรถต่างก็พากันเก็บของของตัวเองเตรียมลงรถกันเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ยืดแขนออกไปบิดขี้เกียจแบบสุดฤทธิ์พร้อมกับหาววอดๆ ออกมา
“น่าเกลียด - -; หาวก็ไม่รู้จักปิดปากอีก”
เสียงที่แสนจะคุ้นเคยของมิดไนท์ทำให้ฉันหุบปากลงทันที พี่ฟางเดินลงรถไปแล้ว มิดไนท์ก็เลยออกมาจากที่นั่งริมหน้าต่างได้ ส่วนทีก็กำลังเก็บของเตรียมลงอยู่เหมือนกัน
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ”
ฉันพับเสื้อกันหนาวแล้วยัดเก็บใส่กระเป๋า และพอทีลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินลงจากรถ ฉันก็ลุกตามด้วย
พอพวกเราทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าล็อบบี้ของรีสอร์ทแล้ว พี่ๆ ม.หกก็จัดการผลัดกันมาพูดออกโทรโข่งว่าเดี๋ยวจะให้ไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร กี่โมง บลาๆๆ
“ค่ายนี้เราจะแยกตึกผู้ชายกับตึกผู้หญิงเลยนะคะ ผู้หญิงอยู่ตึก A นอนห้องละสามคน ผู้ชายอยู่ตึก B นอนห้องละสามคนเหมือนกันจ้ะ...ส่งตัวแทนออกมารับกุญแจห้องได้เลยนะ...”
“...ก่อนขึ้นห้องพัก แวะไปกินข้าวกลางวันที่ห้องอาหารทางด้านโน้นก่อนด้วยนะจ๊ะ”
แน่นอนว่าชะตาเราไม่ขาดจากกันอยู่แล้ว -_-^ ซี้เหว่ยเป็นคนออกไปรับกุญแจห้อง แล้วพวกเราสามคนก็พากันลากกระเป๋าขึ้นไปกินข้าวกลางวันกัน ก่อนที่จะขึ้นห้องพักไป
กำหนดการของพวกเราในวันนี้ก็คือ เมื่อขึ้นห้องไปพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว ให้ลงมารวมตัวกันที่ล็อบบี้ตอนบ่ายสองโมงอีกที ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องตามชื่อ ‘ค่ายสัมพันธ์’
กิจกรรมต่างๆ ในวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมกลางแจ้งเช่นลิงชิงบอลหรือวิ่งเปี้ยวและอีกหลายๆ อย่างที่ทำให้ฉันได้รู้จักพี่ๆ หลายๆ คน
วันรุ่งขึ้น
ฉันตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพราะเมื่อคืนนอนเร็วมากๆ เมื่อวานหลังจากที่ทำกิจกรรมกันกลางแจ้งกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลากินข้าว กินข้าวเสร็จพี่ๆ ม.หกก็ให้ขึ้นห้องมานอนเอาแรง เพราะวันนี้จะมีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งวันเลย
เมื่อถึงเวลาสิบโมงเช้า พวกเราสามคนเดินลงมาจากห้องพักเพื่อไปที่ล็อบบี้ ซึ่งเป็นเหมือนห้องโถง ที่ตอนนี้มีคนมากันประมาณครึ่งหนึ่งได้แล้ว
และไม่นานเมื่อทุกคนมาครบกันหมด พี่ ม.หกก็เริ่มประกาศกำหนดการสิ่งที่จะให้พวกเราทำในวันนี้
“เมื่อคืนนอนเก็บแรงกันดีหรือยังเอ่ย เพราะวันนี้เรามีกิจกรรมทั้งหมดสามอย่างให้น้องๆ ทำกันเลยน้า ^^”
“กิจกรรมที่พี่จะให้ทำวันนี้...เราจะเล่นเป็นคู่หมดเลยนะคะ”
“ใช่แล้ว ซึ่ง ม.สี่จะต้องคู่กับ ม.ห้าจ้ะ ^^”
รุ่นพี่ ม.หกสองคนผลัดกันชี้แจงการทำกิจกรรมในตอนบ่ายนี้ รู้สึกว่าค่ายสัมพันธ์ของชั้นมัธยมปลาย...จะมีแต่ ม.สี่กับ ม.ห้าที่ได้ทำกิจกรรมนะ -_-;; ม.หกเอาแต่บงการอย่างเดียวเลย
“ซุบซิบๆ คู่กันมั้ยจ๊ะพี่ชาย ซุบซิบๆๆ คู่กันมั้ยจ๊ะน้องสาว ฉอดๆ แฉดๆ”
เสียงซุบซิบเริ่มดังก้องทั่วล็อบบี้แห่งนี้ แต่ละคนต่างก็มองหารุ่นพี่หรือรุ่นน้องที่จะมาเป็นคู่ของตัวเองกันยกใหญ่
“ช้าก่อนจ้ะน้องๆ งานนี้พี่ไม่ได้ให้จับคู่เองหรอกนะ”
ดี...เพราะถ้าให้จับคู่เอง ฉันก็ไม่รู้จะไปคู่กับใคร =__=^
“พี่จับคู่เอาไว้ให้แล้ว ถ้าพี่เรียกชื่อน้องคู่ไหน ให้ออกมายืนแยกไว้เลยนะจ๊ะ”
ว่าแล้วพี่ๆ ม.หกทั้งหลายก็เรียกชื่อคู่นี้คู่โน้นกันอย่างสนุกสนาน ใช่เซ่!! ถ้าฉันได้คู่กับนายแว่นสามชั้นนั่น ฉันคงต้องขอปลิดชีพตัวเองตายก่อนเลย -O-
“ซี้เหว่ยกับเทส กล้วยหอมกับจอมซน มินกับไทน์ ทีกับฟาง เทเลกับทับบี้ น้ำกรดกับมิดไนท์...”
น้ำกรดกับมิดไนท์ ^^
ใครกันนะมิดไนท์...ฉันชะเง้อมองหารุ่นพี่ที่ได้คู่กับฉันและทันใดนั้นอีตามิดไนท์ก็มายืนอยู่ตรงหน้าฉันอีกครั้ง
“ให้ฉันเล่นคู่กับหมายังจะดีกว่าคู่กับเธอเลย -_-;;”
มะ...หมายความว่า... ‘มิดไนท์’ ก็คือเขาคนนี้ และเขาคนนี้ก็คือ ‘มิดไนท์’ เหรอเนี่ย TTOTT ฮือๆๆ บอกฉันทีว่าพวกพี่ๆ จับคู่ให้ฉันผิดแล้ววว!
“น้องๆ คู่ไหนที่พร้อมแล้ว ไปต่อแถวเอารถ ATV* ได้เลยนะจ๊ะ คู่ไหนที่ขับไปถึงบนเขาตรงโน้นก่อน ก็จะได้เล่นเกมต่อไปก่อน ซึ่งถ้าคู่ไหนเล่นครบสามเกมเสร็จเป็นสิบคู่แรก พี่จะมีรางวัลพิเศษให้นะจ๊ะ รับรองว่าคุ้ม ^^”
ตอนนี้พวกเราทุกคนจำนวนสองร้อยกว่าชีวิตได้เคลื่อนย้ายถิ่นฐานมาที่สนามขับ ATV กันเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องอย่างเจิดจ้า คิดได้ยังไงน่ะ จะให้เรามาขับรถ ATV กันตอนใกล้เที่ยง -_-;; สนามนี้ก็ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรมนี่แหละ เพราะโรงแรมของเราใหญ่มาก ส่วนหนึ่งจะเป็นห้องพัก ส่วนที่เหลือจะเป็นที่ให้ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย
“น้ำกรด เธอขับอยู่หน้าฉันก็แล้วกัน”
มิดไนท์เดินนำฉันไปเอารถที่ว่างอยู่แล้วชี้บอกให้ฉันขึ้นคันข้างหน้าเขา
ฉันก้าวขึ้นไปบนรถคันเล็กสี่ล้อนี่อย่างทุลักทุเลเพราะไม่เคยขับมาก่อนเลยในชีวิต T^T เสียงเครื่องยนต์มันก็ดังกระหึ่มอย่างกับว่าอะไหล่ข้างในจะหลุดออกมาแน่ะ
“คันเร่งอยู่ทางด้านขวานะครับ ใช้กดเอานะครับ ส่วนเบรกอยู่ด้านซ้ายมือ บีบเอาเลยครับ”
เจ้าหน้าที่สอนพวกเราอย่างรวดเร็วแล้วต้อนให้แต่ละคันรีบๆ ขับออกไป ฉันแอบเห็นมินกับพี่ที่ชื่อไทน์ขับกันอยู่ข้างหน้าอย่างสนุกสนานเชียวล่ะ
บรื้นนน!~
แว้กกก! พอฉันกดคันเร่งที รถก็พุงไปข้างหน้าจนฉันแทบหงายหลัง พอจะเบรก หน้าก็แทบทิ่ม T___T รถอะไรทำไมขับยากอย่างนี้เนี่ย! แถมทางที่ให้ขับยังเป็นทางขึ้นเขาอีกนะ -_-; ให้ฉันขับในสนามจำลองยังไม่รอดเลยย่ะ!
“นี่เธอขับอะไรของเธอหา! คิดจะเบรกก็เบรก ฉันเกือบจะชนเธอแล้วเนี่ย -_-^”
มิดไนท์ตะโกนไล่หลังฉันมา ดูท่าทางเขาจะขับ ATV ซะชำนาญเชียว เชอะ! เบื่อคนขับ ATV เก่งจริงๆ เล้ย แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะฉันเพิ่งเคยขับครั้งแรก มันก็ต้องมีผิดพลาดบ้างอะไรบ้าง T^T
ยังไม่ทันจะขับไปได้ไกล ก็มาถึงทางขึ้นเขาซึ่งเป็นทางชัน แล้วฉันจะขับรอดมั้ยเนี่ย TOT นายมิดไนท์ก็เอาแต่ตะโกนบอกให้ฉันกดคันเร่งแรงๆ ไปเลย แต่พอฉันกดแรงๆ มันก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนฉันต้องรีบบีบเบรกหน้าแทบทิ่ม แงๆๆ
“ยัยเฉื่อย ขับให้มันเร็วๆ หน่อยสิ ทางชันข้างหน้าอ่ะ กดคันเร่งแรงๆ ไปเลย ไม่ต้องไปกลัว เข้าใจมั้ย! แล้วก็อย่าให้มันไหลลงมาจากเขาด้วยนะ =__=;;”
หมอนี่ขี้บ่นเป็นบ้าเลย! แต่ถ้าเขาไม่คอยแนะนำแนวทาง บางทีฉันอาจจะมาไม่รอดถึงตรงนี้แล้วก็ได้นะ เพราะระหว่างทางฉันขับ ATV ได้อย่างทุลักทุเลมาก ขับเกือบจะตกหน้าผาบ้าง ตกหลุมบ้าง เหยียบขี้ม้าบ้าง แล้วนี่ก็จะต้องขับขึ้นทางชันอีก โอ๊ย หวังว่ารถของฉันมันจะไม่ออกนอกลู่จนคว่ำซะก่อนนะ T_T
บรื้นนนนนนนน!!
ฉันกดคันเร่งสุดชีวิตเพื่อให้รถ ATV ของฉันมีแรงพุ่งขึ้นไปบนทางชันได้ แต่เครื่องยนต์ข้างในมันกลับสั่นและกระตุกอย่างรุนแรงจนผิดปกติ!! และแทนที่รถมันจะถูกขับขึ้นเขา มันกลับไหลถอยหลังลงไปชนกับรถของมิดไนท์พอดี TOT
“อ๊ากกกกกก!”
ตู้ม!
ยังไม่ถึงกับระเบิด...แต่ควันขึ้นแล้ว =[]=^^
ผลสรุปก็คือรถของฉันเกิดมีปัญหาขึ้นมากะทันหัน แต่ฉันยืนยันว่ามันเจ๊งตั้งแต่แรกแล้วนะ -_-;; สุดท้ายมิดไนท์ก็เลยบอกให้ทิ้งรถคันของฉันเอาไว้ แล้วให้ไปนั่งคันเดียวกับของเขาแทน แต่แทนที่เขาจะให้ฉันนั่งซ้อนท้าย นายนั่นกลับบังคับให้ฉันนั่งข้างหน้า ส่วนเขาก็นั่งข้างหลังแล้วขับไปด้วย
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขานั่งคร่อมตัวฉันตลอดเวลาที่ขับรถบ้าๆ นี่เลยน่ะสิ TTOTT ฉันก็ต้องคอยก้มหลังแล้วทรุดหัวอยู่ข้างหน้าเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคกับการขับขี่ของเขา เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็จะบ่นไปตลอดทาง -_-; นั่งแบบนี้มันก็ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะ ให้ฉันนั่งข้างหลังก็ได้นี่ แต่หมอนั่นดันบอกว่าถ้าฉันนั่งข้างหลังแล้วเกิดเขาขับเร็วเกินไป ฉันอาจจะกระเด็นออกนอกรถไปเลยก็ได้ T^T ดูสิเหตุผลไร้สาระชะมัด!
และสุดท้ายพวกเราก็มาถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย โฮะๆๆ มีคนขับ ATV เทพๆ อย่างมิดไนท์ซะอย่าง ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าบ้านเขาเปิดสนามให้เช่า ATV หรือไง =_=;; พวกเราเกือบถูกตัดสิทธิ์ ให้กลับไปขี่ ATV ขึ้นมาใหม่แล้วด้วยเพราะพวกเราขับมาโดยคันเดียวกัน ไม่แฟร์สำหรับคู่อื่น -O- แต่เมื่อเราเล่าทุกอย่างให้พี่สต๊าฟ ม.หกฟังแล้ว เขาก็เข้าใจ แถมยังต้องประสานงานส่งทีมงานไปช่วยเอาไอ้รถเวรที่เจ๊งอยู่กลางทางออกมาอีกต่างหาก -__-
คู่ที่ขับมาถึงแล้วก็จะได้ไปกินข้าวกลางวันกันก่อน จากนั้นก็ค่อยมาเล่นเกมต่อไปกัน...นั่นก็หมายความว่า ใครที่กินข้าวเร็ว ก็จะได้เล่นเกมต่อไปก่อนน่ะสิ - -^
“เกมที่สองนี้เราจะให้น้องๆ โดดหอกันจ้ะ ^^ เห็นหอทางด้านซ้ายมั้ยจ๊ะ ใครที่มาแล้วก็ไปรับอุปกรณ์แล้วขึ้นไปบนหอได้เลยจ้ะ”
หลังจากที่ฉันกับมิดไนท์ขับรถ ATV มาโผล่บนเขาแล้ว พวกเราก็ต้องเล่นเกมต่อไปนั่นก็คือการโดดหอ =[]=^ หอคอยที่สูงประมาณยี่สิบเมตรมีเชือกสลิงเส้นหนึ่งทอดข้ามจากภูเขาด้านนี้ไปยังอีกด้านหนึ่ง ซึ่งระหว่างกลางมันเป็นหุบเขา! และถ้าเชือกเกิดขาดตอนโดดล่ะก็...ไม่ต้องคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น -O-
“แก ขับ ATV สนุกมากเลยอ้า >O<”
“สนุกกับผีน่ะสิ -__-;”
ผีที่ว่าก็คือมิดไนท์ไง ฮ่าๆๆ
ฉันกับมินเจอกันตรงจุดที่ให้รับอุปกรณ์สำหรับโดดหอ เพราะยัยนั่นขับ ATV มาถึงก่อนฉันแปปเดียวเอง
“แกได้คู่กับเฮียฉันนิ เป็นยังไงบ้างอ่ะ ^O^”
“ให้ฉันคู่กับเฮียแก ไปคู่กับหมาซะยังจะดีกว่าเลย -_-”
“อะแฮ่มๆ”
มิดไนท์นั่นเองที่เป็นคนเดินเข้ามา เขาหยิบถุงมือให้ฉันกับมินคนละคู่ พวกเรารับถุงมือมาสวมแล้วเดินไปต่อแถวข้างๆ เพื่อให้พี่พนักงานเขาใส่ที่รัดตัวเรา เอาไว้เกี่ยวกับเชือกที่ห้อยอยู่ตรงนั้น
“ไทน์ไปไหนแล้วล่ะ”
มิดไนท์ถามมินให้ขณะที่เราเข้าแถวอยู่
“ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ”
“มันดูแลเราดีมั้ย ถ้ามันแกล้งเราก็บอกเฮียได้เลยนะ จะไปจัดการให้ -_-”
“โอ้โห ปกป้องน้องสาวดีจริงๆ เลยนะ ^^ ฉันไม่กล้าแกล้งน้องมินของแกหรอกน่า วางใจเถอะ”
หนึ่งในพี่ที่เป็นฝาแฝดกันเดินเข้ามาพอดีหลังจากที่มิดไนท์พูดจบ ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นพี่ไทน์ที่มิดไนท์และมินพูดถึงกันอยู่ พี่คนนี้แหละที่หน้าดูหวานๆ หน่อย ส่วนพี่เทสสงสัยจะกำลังช่วยซี้เหว่ยที่ขับรถ ATV จมกองขี้อยู่ก็เลยยังมาไม่ถึง ก๊ากๆ ^O^
พี่ไทน์เป็นฝาแฝดของพี่เทสที่เป็นพี่รหัสของซี้เหว่ย สองคนนี้หน้าตาคล้ายกันมากๆ แต่ก็ยังแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพี่ไทน์ใกล้ขนาดนี้...และมันก็ทำให้ฉันตาค้างได้เลย เพราะว่าพี่เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ดูดี...และหล่อพอๆ กับมิดไนท์เลย แต่น้อยกว่านิดนึง -.-
“เอ่อ...น้อง...น้ำกรดครับ หน้าพี่มีอะไรติดเหรอ”
พี่ไทน์ทักขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งแล้วรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน นี่ฉันจ้องหน้าพี่เขานานเกินไปเหรอเนี่ย -*-
“น้องน้ำกรด ถ้าไนท์มันแกล้งอะไรน้อง หรือมีเรื่องอะไร บอกพี่ได้เลยนะครับ พี่จะคอยดูแลและช่วยน้องอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจนะคร้าบ ^^”
พี่ไทน์พูดกับฉันพร้อมกับส่งสายตาเชิงล้อเลียนไปหามิดไนท์
อ้า...รอยยิ้มนั้นช่างทำให้โลกสดใส > / / <
“น้อยๆ หน่อยเหอะ -_-^ คู่ของฉัน ฉันดูแลเองได้”
‘คู่ของฉัน ฉันดูแลเองได้’ มะ...มันหมายความว่ายังไงเนี่ย > <
คำพูดของมิดไนท์ดังก้องอยู่ในหัวของฉันตลอดเวลา จนกระทั่งเราเดินขึ้นมาถึงยอดของหอคอยที่จะต้องโดดแล้ว คำพูดของคนอย่างเขาเชื่อไม่ได้หรอก เฮอะ! อย่าไปสนใจเลย
แต่ทำไมฉันต้องดีใจด้วยล่ะที่เขาพูดอย่างนั้น...
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”
เสียงกรีดร้องสองร้อยเดซิเบลดังขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อมีผู้หญิงกระโดดลงไป =__= เท่าที่ดู โดดหอก็ไม่มีอะไรน่ากลัวมาก เพราะไม่ได้เป็นการโดดแบบดิ่งลงไป แต่แค่ให้เราโดดออกจากหอ แล้วที่เหลือเชือกสลิงที่ทอดข้ามระหว่างหอคอยกับอีกด้านหนึ่งก็จะลากเราไปเอง
พวกเราสี่คน อันได้แก่มิน พี่ไทน์ มิดไนท์ และฉันกำลังต่อแถวเตรียมโดดหอกันอยู่ ส่วนคู่ของซี้เหว่ยกับคู่ของทีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ยังไม่เห็นวี่แววเลย สงสัยจะยังมาไม่ถึง
และเมื่อถึงคิวของพวกเรา ไทน์ก็เป็นคนโดดก่อนอย่างกล้าหาญ > < ตามมาด้วยมินที่กล้าๆ กลัวๆ อยู่บ้างแต่ก็ถูกคนข้างหลังเชียร์จนยอมโดดลงไปเอง เพราะถ้าไม่โดดสักที อาจจะโดนคนข้างหลังถีบลงไปก็เป็นได้ -_-;;
ตะ...ตาฉันโดดแล้ว TOT
ถึงแม้จะดูไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มองไปข้างล่างแล้วก็ทำให้ใจหายได้เหมือนกัน T^T พี่พนักงานก็จัดการเกี่ยวอุปกรณ์บนตัวฉันที่มีสายห้อยระโยงระยางเข้ากับเชือกสลิงแล้วเรียบร้อย ในขณะที่ฉันขาสั่นพั่บๆ อยู่ปากหอคอยแล้ว แต่ไม่กล้าโดด T_T
“ฉะ...ฉัน...ไม่โดดแล้วได้มั้ย T^T”
ฉันหันไปหามิดไนท์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะอ้อนวอนนาย อย่าให้ฉันโดดเลยนะเพราะฉันกลัวความสูง ฮือๆ TOT
“ไม่ได้ -_-; เธอจะโดดลงไปเองหรือจะให้ฉันถีบลงไป...”
“ละ...ลงเอง TOT”
ฉันสูดลงหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองลงไปเห็นหุบเขาที่ลึกชันอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้ฉันต้องกลืนน้ำลายดังเอื้อก! ก่อนที่จะตัดสินใจนับถอยหลัง...
3…
2…
“มองตรงไปข้างหน้า ไม่ต้องไปมองข้างล่าง ฉันเอาใจช่วยเธออยู่นะ”
เสียงของมิดไนท์ดังมาจากข้างหลังพร้อมกับเสียงในใจฉันที่ร้องออกมาจากขั่วหัวใจ
กรี๊ดดดดดดด!!
ฉันหลับตาปี๋แล้วกระโดดลงมา วินาทีนั้นเหมือนว่าตัวฉันเองจะตกลงไปในหุบเขาข้างล่าง แต่เชือกที่เกี่ยวอยู่กับอุปกรณ์ที่เอวก็ยึดฉันไว้ไม่ให้ตกลงไปได้ ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จ >__<
ฉันหันหลังไปมองมิดไนท์และพบว่าเขากำลังยืนยิ้มและโบกมือให้ฉันอยู่ด้วย นี่ฉันตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย! คนอย่างมิดไนท์เนี่ยนะ? ที่จะมาให้กำลังใจฉัน...บ้าน่า! คนอย่างเขามีแต่จะคอยบั่นทอนกำลังใจคนอื่นต่างหาก
และแล้วพวกเราสี่คนก็ข้ามหุบเขานั่นมาอย่างปลอดภัยแล้วมาลงที่ฝั่งตรงข้าม ตรงหน้าของพวกเราก็คือสนามเล่น Paintball** นั่นเอง ซึ่งมันเป็นสนามขนาดไม่ใหญ่มาก มีตาข่ายสีเขียวบังอยู่รอบๆ และภายในก็มีบังเกอร์ ต้นไม้และพุ่มไม้อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมดเลย TTOTT ตกลงนี่มันค่ายสัมพันธ์หรือค่ายทหารกันแน่วะเนี่ย!
“ต่อไปจะเป็นการเล่น Paintball นะจ๊ะ คู่ที่มาก่อนจับกลุ่มกันได้เลยจ้ะ ทีมละสี่คน ทีมไหนชนะได้ไปก่อน ทีมที่แพ้ต้องอยู่ต่อเพื่อแข่งกับทีมต่อไปจนกว่าจะชนะ ถึงจะไปได้จ้ะ ^^”
พี่ปิ๊ดนั่นเองที่เป็นคนคุมด่านสุดท้ายนี้ -_- มันเป็นอะไรที่ทรหดมาก!! ถ้าเล่นแพ้ก็ต้องแข่งต่อๆ ไปจนกว่าจะชนะงั้นเหรอ TOT โอ๊ยยย...ชีวิตนี้ ATV ไม่เคยขับ โดดหอก็ไม่เคยโดด แล้วจะมาให้เล่น Paintball อะไรนี่อีกที่เคยเห็นแต่ในทีวี TTOTT อ๊ากกก! อยากตาย
พวกเราสี่คนจับเป็นทีมเดียวกันแล้วเดินไปเอาชุดกับอุปกรณ์ในการเล่น มีทั้งชุดสีเขียวหนักๆ เหมือนทหาร ที่เป็นแขนยาวขายาวคลุมทั่วตัว พร้อมกับถุงมือ และหมวกเป็นหน้ากากมีแว่นตาอันใหญ่เหมือนนักดำน้ำเอาไว้ป้องกันดวงตา และที่ขาดไม่ได้ก็คือปืนอันใหญ่ที่มีลูกกระสุนสีอยู่ข้างในยี่สิบนัด
“น้องๆ สองทีมนี้มาฟังกติกากันก่อนนะครับ...”
พี่พนักงานผู้ชายคนหนึ่งบอกให้ทีมของเราและอีกทีมหนึ่งมาฟังกติกากัน ซึ่งทีมนั้นเป็นทีมที่เราต้องแข่งด้วย
ตายแน่ๆ...ทีมเสื้อน้ำเงินเป็นผู้ชายคนร่างใหญ่บึกบึนทั้งสี่คนเลยอ่ะ TT___TT
“เราต้องเข้าไปแย่งชิงธงของฝ่ายตรงข้ามมาให้ได้...”
พี่พนักงานคนนั้นชี้เข้าไปในสนามที่มีบังเกอร์เป็นที่หลบซ่อนตั้งไว้มากมาย และมีธงปักไว้ฝั่งละหนึ่งอัน
“...ถ้าฝ่ายไหนเอาธงมาได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ หรือถ้ายิงฝ่ายตรงข้ามตายหมดก่อนก็เป็นฝ่ายชนะ...”
“...ใครที่ถูกยิงแล้วพี่จะเป่านกหวีดแล้วให้เดินออกมานะครับ เพราะถือว่าตาย...และที่สำคัญ! ห้ามยิงในระยะใกล้ๆ กันนะครับ อย่างน้อยต้องห่างกันห้าเมตรหรือห่างกันหนึ่งบังเกอร์ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้รับบาดเจ็บได้...”
“...เอาล่ะครับ ตอนนี้ที่สนามว่างแล้ว เชิญน้องๆ สองทีมนี้เข้าไปได้เลยครับ พี่จะคอยดูอยู่นอกสนามนะ”
พวกเราสองทีมพยักหน้ารับทราบแล้วเดินเข้าไปในสนามกัน ในขณะที่สวนทางกับกลุ่มที่เพิ่งเล่นออกมา พวกเราต่างคนต่างก็หลบอยู่หลังถังใบใหญ่ๆ ที่เป็นของกำบังเตรียมฟังสัญญาณนกหวีด
“ระวังตัวด้วยนะ...”
“อะ... อื้ม”
มิดไนท์เตือนฉันก่อนที่สัญญาณนกหวีดจากพี่พนักงานที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการจะดังขึ้น
ปี๊ดดดดด!!
ทันทีเสียงนกหวีดดังขึ้น พวกเราสี่คนก็เริ่มวิ่งไปหลบที่จุดกำบังต่างๆ พร้อมกับซุ่มยิงฝ่ายตรงข้ามไปด้วย
ปัง!
เสียงของกระสุนนัดแรกในเกมนี้ดังขึ้น ฝ่ายตรงข้ามพยายามยิงมาที่มิดไนท์ แต่เขาก็หลบได้ทันอย่างหวุดหวิด ฉันยืนพิงถังเก่าๆ อันหนึ่งแล้วหันหลังไปมองหาเป้าหมายที่ต้องการจะยิง ท่าของแต่ละคนในตอนนี้... เหมือนกับอยู่ในสนามรบไม่มีผิดเลย
พี่ไทน์ไม่รอช้า รีบอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครเห็น วิ่งไปหลบหลังจุดกำบังต่อไปเพื่อที่จะไปหยิบธงให้ได้เร็วที่สุด ส่วนมินก็วิ่งจากจุดกำบังจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง
ปัง!
เสียงกระสุนนัดที่สองดังขึ้นโดยฝีมือของมิดไนท์ เขายิงใส่ฝ่ายตรงข้ามจนตายในระหว่างที่คนๆ นั้นกำลังเล็งปืนไปที่มิน บนเสื้อสีน้ำเงินของเขามีคราบสีบริเวณหน้าอกเป็นสีเขียวสะดุดตา พี่กรรมการเป่านกหวีดหนึ่งที ทำให้ฝ่ายนั้นเหลือผู้เล่นเพียงแค่สามคน
“เดี๋ยวฉันไปชิงธงให้ แกกับน้องสองคนช่วยกันยิงสกัดให้หน่อยก็แล้วกัน”
ไทน์กระซิบมาและหลังจากนั้นเกมก็เริ่มดำเนินต่อไป
ฉันวิ่งไปยังจุดกำบังอันข้างหน้าแล้วย่อลงเล็กน้อยเพราะจุดกำบังอันนี้เตี้ยกว่าอันอื่น ฉันโผล่หัวออกมาแล้วพบกับนายกล้ามใหญ่คนหนึ่งที่กำลังเล็งปืนมาที่ฉันในขณะที่พี่ไทน์ก็ค่อยๆ คลืบคลานเข้าไปใกล้ธงเรื่อยๆ
หัวใจฉันเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น... และเมื่อฉันหันไปเล็งปืนใส่นายกล้ามใหญ่ เขาเปลี่ยนจุดหมายจากฉันไปเป็นพี่ไทน์แทน
“พี่ไทน์ ระวัง!!”
ปัง!
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสองครั้งติดกัน ครั้งแรกฉันเป็นคนยิงเพราะเห็นว่านายกล้ามใหญ่คนนั้นกำลังจะจู่โจมพี่ไทน์ แต่ฉันก็ดันยิงไม่โดน T^T กลับเป็นพี่ไทน์ที่โดนฝ่ายตรงข้ามยิงแทน เสื้อสีเขียวเข้มของพี่ไทน์เปื้อนคราบสีส้มของฝ่ายตรงข้ามและพี่เขาก็ต้องออกจากสนามไป แงๆ ฉันขอโทษที่ช่วยพี่ไว้ไม่ทัน T_T
ปัง!
=O=^ ฉันควรช่วยตัวเองก่อนดีมั้ยเนี่ย? ในขณะที่ฉันกำลังหลบอยู่หลังบังเกอร์มองดูพี่ไทน์ถูกยิงอย่างเงียบๆ อยู่ดีๆ ก็มีกระสุนกลมๆ ตรงดิ่งเข้ามาโดนตรงข้างๆ คอฉันเต็มๆ อ๊าก! วินาทีนั้นมันเจ็บจนชาไปเลย T^T มันต้องเป็นลูกหลงที่ทีมตรงข้ามจะยิงใส่มิดไนท์ที่หลบอยู่หลังบังเกอร์ข้างหน้า แต่ฉันก็เป็นผู้โชคดีรับกระสุนนั้นแทนเขาโดยที่ไม่ได้ต้องการเลย -_-;; แล้วโดนที่ไหนไม่โดน ดันโดนที่ๆ ไม่มีเกราะกำบัง T_T
“พี่คะ หนูตายแล้ว TOT”
ฉันยกมือขึ้นสองข้างแล้วลุกขึ้นยืนตะโกนบอกพี่ทีมงาน รู้สึกเจ็บตรงคอที่ถูกยิงเหมือนกันนะเนี่ย ถึงเราจะอยู่ห่างกันไกลตอนถูกยิงแต่ก็เจ็บไม่ใช่ย่อยเลยอ่ะ T^T พี่ทีมงานเรียกให้ฉันเดินออกจากสนามแล้วบอกให้คนที่ยังเหลืออยู่ในเกมหยุดเล่นชั่วคราวก่อน เพราะกลัวว่าจะมีคนยิงมาใส่พอเห็นฉันลุกขึ้น แล้วฉันก็จะเป็นคนโดนลูกหลงนั้นอีก =__=^
ปัง! ปัง!
“โอ๊ย!”
ฉันอุทานแล้วชักขาขึ้นทันทีที่รู้สึกว่ามีลูกกระสุนกลมๆ พุ่งเข้ามาโดนที่ขาสองนัดติดเต็มๆ ดูสิยังพูดไม่ทันขาดคำเลย! ไอ้บ้าฝ่ายตรงข้ามสักคนนี่แหละที่ยิงมา แต่ฉันมองหน้าไม่ชัดเพราะแต่ละคนใส่ชุดคลุมกับหน้ากากกันหมด -_-^ กรี๊ด! แล้วนี่นายไม่ได้ยินหรือไงยะว่าให้หยุดเล่นก่อน ฉันจะเดินออกจากสนาม ใครจะโง่ยืนให้แกยิงกันล่ะ -O-
“เฮ้ยน้ำ แกเป็นอะไรเปล่าวะ”
เสียงของมินตะโกนมาจากหลังบังเกอร์ไม่ไกลไปจากที่ๆ ฉันกำลังยืนนิ่งค้างเพราะความตกใจปนอึ้งอยู่...ฉันไม่เป็นอะไรร๊อก~ ไม่เป็นอะไรเลย แค่คอเกือบทะลุกับขาคงช้ำไปสามวันสามคืนเท่านั้นเอง =_=^^
“เดินออกไปสิยัยตัวแสบ เดี๋ยวก็โดนยิงอีกหรอก โง่หรือไงมัวแต่ยืนนิ่งอยู่ได้”
นายมิดไนท์นั่นเองที่ตะโกนตามมินมาติดๆ และมันก็ช่างแทงใจดำฉันเหลือเกิน! นายลองมายืนให้ฉันยิงสิจะได้รู้ว่ามันตกใจ =O=;
“นะ...นาย -O- นาย...ฝากจัดการไอ้บ้าที่มันยิงคอฉันด้วย แล้วก็ไอ้เวรที่มันยิงขาฉัน ฉันตายไปแล้วเข้าใจมั้ยยะ! มายิงซ้ำให้คนอื่นเค้าเจ็บตัวอย่างนี้ปรับฟาวล์ไปเลยดีกว่า แพ้ไปเลย! ย๊ากกก~”
“=[]=^”
เท่าที่ฉันมองเห็น ตอนนี้หน้าตาของทุกคนในสนามล้วนกลายเป็นแบบนี้กันหมดแล้ว และพอฉันระเบิดอารมณ์ได้สักพัก พี่ๆ ทีมงานสองสามคนกับพี่ไทน์ก็รีบวิ่งเข้ามาจับฉันกันไว้ใหญ่เพื่อไม่ให้ฉันอาละวาด -_-;;
“ฉันฝากความหวังไว้กับแกแล้วนะยัยมิน อ้อ! นายมิดไนท์ด้วย...ฆ่ามานนน!! ~O~”
หลังจากที่ฉันอารมณ์เสียออกมาจากสนามแล้ว (แพ้แล้วพาล -0-) ฉันก็นั่งเชียร์มิดไนท์กับมินอยู่ที่ข้างสนามกับพี่ไทน์อย่างเอาเป็นเอาตาย สองพี่น้องคู่นี่สามัคคีกันมากๆ เลยล่ะจะบอกให้ แต่บางครั้งก็ใกล้ชิดกันเกินนไปจนฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เอ๊ะหรือฉันคิดมากไปเอง -_- ยังไงก็เหอะ! สุดท้ายทีมเราก็เอาชนะทีมบึกบึนนั่นจนได้ > < เพราะมิดไนท์กับยัยมินแท้ๆ ทำให้เราไม่ต้องเล่นกับทีมอื่นต่อจนกว่าจะชนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันคงได้ช้ำในตายก่อน -O- พูดได้คำเดียวเลยว่าซวย ดูสิพี่ไทน์โดนยิงที่เสื้อเกราะพอดีก็เลยไม่เจ็บอะไร ส่วนสองคนนั้นก็เก่งกันซะจริง ไม่โดนยิงเลยสักนัดเดียว เชอะ! -^-
พอผ่านด่านสุดโหดนี่ไปได้แล้ว (Paintball) พี่ ม.หกก็ให้พวกเราทุกคนขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะลงมาร่วมงานปาร์ตี้สัมพันธ์กันในคืนนี้ ฉันล่ะแทบจะกรีดร้องให้ลั่นรีสอร์ทด้วยความดีใจและตื้นตันยิ่งนัก T^T ก็ดูกิจกรรมวันนี้ที่พวกเราทำแต่ละอย่างดิ มันก็น่าเล่นดีหรอกนะ แต่สำหรับฉันมันไม่สนุกเลยสักนิด! ATV ก็ขับจนรถมันเจ๊ง โดดหอก็กลัวฉี่แทบแตก ไหนจะ Paintball ที่ถูกยิงซะ ไม่ซวยแล้วจะให้เรียกว่าอะไรดีเนี่ย T_T
“แกชอบเล่นเกมอะไรมากที่สุด ฉันชอบ Paintball มากๆ >O<”
ซี้เหว่ยนั่งอยู่บนเตียงแล้วเปิดบทสนทนาขึ้นมาหลังจากที่เราสามคนอาบน้ำกันเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเราจะต้องลงไปรวมตัวกันอีกครั้ง
“ฉันก็ชอบนะ ถ้าไม่โดนไอ้บ้านั่นยิงคอ...แกดูดิ”
ฉันชี้แผลที่เป็นจ้ำบนคอให้ซี้เหว่ยดู ตอนแรกมันเป็นสีแดงๆ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสีเขียวไปแล้ว แถมยังเจ็บๆ แสบๆ อีกต่างหาก TwT ส่วนที่ขาฉันก็มีรอยเป็นจ้ำๆ อยู่เหมือนกันแต่ไม่รุนแรงเท่าที่คอ
“ฮ่าๆๆ แกซวยจังเลยอ่ะน้ำกรด ทีมเรามีฉัน พี่เทส ที แล้วก็พี่ฟาง เราสี่คนนะ...โหย อย่าให้โม้ เล่นกันแบบฟุ่บฟั่บฟุ่บฟั่บ ยิงฝั่งตรงข้ามตายหมดเลยตั้งแต่สองนาทีแรก ^O^”
ยัยซี้เหว่ยเล่า (บวกโม้) พร้อมกับแสดงท่าทางประกอบแล้วเติมเสียงเอฟเฟคเพิ่มด้วย ทำให้พวกเราขำกันยกใหญ่ แหม น่าอิจฉาจริงๆ เล้ย ฉันว่าทีมคู่แข่งของมันจะต้องเป็นพวกเด็กเนิร์ดผอมๆ ไร้เรี่ยวแรงและวิ่งไม่เป็นแน่ๆ เลย -O- ลองมาเจอพี่บึกบึนทั้งสี่ก่อนสิแล้วจะรู้ว่าฉันต้องโดนอะไรบ้าง เชอะ
พวกเราสนทนากันไปเรื่อยๆ ถึงกิจกรรมอันสุดแสนทรหดในวันนี้ และคุยเฟื่องเรื่องผู้หญิงจนถึงเวลาที่จะต้องเตรียมตัวออกไปจากห้องกันแล้ว เราสามคนเดินลงมาจากห้องพักเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปยังห้องบอลรูมที่เป็นสถานที่ไว้จัดปาร์ตี้สัมพันธ์ในคืนนี้
ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเช่นเดียวกับมิน เพราะวันนี้เราสองคนจะได้รู้ว่าพี่รหัสของพวกเราเป็นใครแล้ว >__< ตั้งแต่ที่มาค่าย ฉันก็พยายามสอดส่องหาคนที่น่าจะเป็นพี่รหัสของตัวเอง แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักที... ไม่รู้แหละ ยังไงวันนี้ฉันก็จะได้รู้แล้ว ถึงแม้ว่าการเฉลยพี่รหัสจะมาคู่กับการลงโทษก็เถอะ
“เอาล่ะค่ะ... พี่เชื่อว่าน้องๆ คงรอคอยปาร์ตี้สัมพันธ์กันมานานแล้ว งั้นพี่ขอเปิดปาร์ตี้ ณ บัดดี้เลยค่า!! >O< เชิญน้องๆ หยิบขนมและน้ำกินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะมีพี่เปิดเพลงสนุกๆ เอาไว้ให้ดิ้นตามด้วยน้า...”
“...ขอให้น้องๆ ทำความรู้จักกับรุ่นพี่รุ่นน้องเอาไว้เยอะๆ และสร้างสัมพันธไมตรีกัน และในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้ เราจะมีการมอบรางวัลให้กับสิบคู่แรกที่เล่นครบสามเกมในวันนี้ และทำการเฉลยพี่รหัสสำหรับคนที่ยังไม่รู้พี่รหัสของตัวเองด้วยนะจ๊ะ ^^”
หลังจากที่ทุกคนกินข้าวกันเสร็จแล้วเรียบร้อย เราก็มารวมตัวกันที่ห้องบอลรูมอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ภายในปาร์ตี้มีขนมนมเนย อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ มากมายให้เลือกกินกันตามสบาย มีเพลงมันส์ๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับปาร์ตี้นี้ คนในงานต่างก็พากันทำความรู้จักและคุยกันไปทั่ว ส่วนฉันก็ได้แต่หยิบขนมมากินแล้วนั่งอ่านหนังสืออยู่ในมุมที่ไกลออกไปหน่อย
♫ อยู่ในปาร์ตี้ร้อนยังกับ Fire
เธอสวยเซ็กซี่ Hot ยังกับ Fire
ไอ้เราก็เป็นผู้ชาย ชอบเล่นกับ Fire
เข้าไป เข้าไป เข้าไปเล่นกับ Fire...
เสียงเพลงในปาร์ตี้ดังตลอดเวลาทำให้ฉันไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือเลย -_-^ พี่ๆ ก็ช่างเลือกเปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศจริงๆ อย่างกับอยู่ในผับในบาร์แน่ะ
“ฉันขอโทษนะ...เรื่องเมื่อตอนเย็นน่ะ”
มิดไนท์เดินเข้ามาหาฉันแล้วพูดอะไรสักอย่าง เสียงเพลง Fire ดังกลบเสียงของมิดไนท์หมด ทำให้ฉันได้ยินไม่ชัดว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ -_-;;
“ฮะ?”
“ฉันบอกว่าทำไมเธอถึงไม่ไปเล่นกับเพื่อนเธอล่ะ”
“อะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยินเลยยย”
ฉันตะโกนแข่งกับเสียงเพลง Fire ที่ยังคงดังอยู่
“ฉันขอโทษเรื่องเมื่อตอนเย็น! ทั้งๆ ที่ฉันบอกว่าจะดูแลเธอแต่ฉันก็ทำไม่ได้! ฉันขอโทษที่ปล่อยให้ไอ้เวรฝั่งโน้นยิงคอเธอ!!”
ฉันเริ่มได้ยินคำพูดของมิดไนท์ชัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะเสียงเพลง Fire จบลงแล้ว (สักที) นี่เขากำลังขอโทษฉันงั้นเหรอ...? แล้วฉันควรจะดีใจมั้ยเนี่ย คำพูดของเขาฟังดูไม่ค่อยจะจริงจังเลยนะ -.-
“น้องๆ ทุกคนอย่าเพิ่งสนุกเพลินจนลืมเวลากันนะจ๊ะ ^^ ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วที่เราจะประกาศรางวัลสำหรับผู้โชคดีทั้งสิบคู่...อ๊ะๆ พี่ลืมไป เราจะทำการเฉลยพี่รหัสกันก่อนนะจ๊ะ”
เสียงของรุ่นพี่ ม.หกแทรกขึ้นทันทีหลังจากที่เพลงจบ ฉันกับมิดไนท์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย...มิดไนท์ขอโทษฉัน!
“เธอรู้พี่รหัสของตัวเองหรือยัง”
มิดไนท์รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะเขาก็คงไม่รู้ว่าฉันได้ยินคำพูดพวกนั้นหรือเปล่า
“เอ่อ...ยังเลย”
“เหรอ...งั้นเดี๋ยวเธอก็จะได้รู้แล้วล่ะ หึๆ ^^”
รอยยิ้มของมิดไนท์แฝงความกวนเอาไว้อีกแล้ว ตอนนี้เขากลับมาเป็นมิดไนท์คนเดิมที่เคยมีเรื่องกับฉันตลอดเวลา ผิดจากตอนเมื่อกี้ที่เขาเปลี่ยนไปจนฉันแทบตามไม่ทัน
“น้องๆ คนไหนที่ยังหาพี่รหัสของตัวเองไม่เจอบ้างจ๊ะ ยกมือขึ้นหน่อย”
เด็ก ม.สี่ที่อยู่ในห้องบอลรูมแห่งนี้ยกมือขึ้นกันประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ได้ แสดงว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้กันหมดแล้วล่ะสิ T^T
“คำตอบของคนที่ยังหาพี่รหัสของตัวเองไม่เจอก็คือ...”
หัวใจของฉันเต้นรัวเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้เจอพี่รหัสสักที...
“คู่ของน้องๆ ที่พี่จับให้ในการเล่นเกมที่ผ่านมา ก็คือคู่พี่รหัสน้องรหัสนั่นแหละจ้ะ ^^”
‘คู่ของน้องๆ ที่พี่จับให้ในการเล่นเกมที่ผ่านมา ก็คือคู่พี่รหัสน้องรหัสนั่นแหละจ้ะ...’
โฮะๆๆๆ คู่...คู่ที่เล่นเกมงั้นเหรอ...ฮะๆๆ...
มิดไนท์... เนี่ยนะ? ที่เป็นพี่รหัสของฉัน TT___TT
ฉันขอเอาหัวโขกกำแพงสักสามที แล้วฟาดกับพื้นอีกสามทีดีมั้ยเนี่ย TOT
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกครับ เพราะมันคือเรื่องจริง...น้องน้ำกรด ^^”
มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันยอมรับไม่ได้ TOT นี่แสดงว่ารูปถ่ายของเด็กแบเบาะ...หนังสือสามเล่ม...จดหมายฉบับนั้น...และขนมสองถุงเมื่อวาน...เป็นของเขาหมดเลยงั้นเหรอ!!
เสียงซุบซิบคุยกันดังก้องไปทั่วห้อง แต่สมองของฉันกับเฉื่อยชาจนแทบสั่งการอะไรไม่ได้แล้ว คนที่อยู่ตรงหน้านี้...คนที่ทะเลาะกันมาโดยตลอด...เขาเป็นพี่รหัสของฉันจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย!
“เงียบๆ กันก่อนจ้ะ! อย่าเพิ่งตื่นเต้นและตกใจกลัวกัน...”
เสียงพูดคุยในห้องเริ่มเบาลงเมื่อพี่ ม.หกจับไมค์ขึ้นมาพูดอีกครั้ง
“...เพราะยังมีรางวัลสำหรับผู้โชคดีอีกนะจ๊ะ...นั่นก็คือ...”
“น้องๆ สิบคู่แรกที่เล่นครบสามเกมก่อนแล้วยังหาพี่รหัสตัวเองไม่เจอ ก็จะไม่ต้องโดนทำโทษจ้ะ! ซึ่งก็มีน้องไข่ตุ๋น น้องปลาวาฬ น้องอันดู น้องปักเป้า บลาๆ”
แต่ไม่มีชื่อฉัน!! TTOTT
“ส่วนคนที่เหลือ...พี่รหัสเตรียมคิดไว้หรือยังเอ่ยว่าจะลงโทษน้องรหัสตัวเองกันยังไง... เราจะลงโทษกันให้เสร็จภายในคืนนี้เลยนะจ๊ะ ^O^”
“นะ...นายจะไม่ลงโทษฉันหรอกใช่มั้ย T^T”
ฉันหันไปส่งสายตาอ้อนวอนให้มิดไนท์ช่วยสงสารฉันหน่อย แต่เขากลับแอบยิ้มแล้วเสมองไปทางอื่น
“กฎ...ยังไงก็ต้องเป็นกฎนะครับน้องน้ำกรด ^^”
__________________________________________________________________________________________
*ATV - ALL TERRAIN VEHICLE หมายถึงยานยนต์ที่สามารถไปได้ทุกที่ รถ ATV มี 4 ล้อ และมีแฮนด์เป็นตัวบังคับทิศทางของรถคล้ายมอเตอร์ไซค์ มีการแบ่งแยกประเภทเอาไว้เหมือนกันตามจุดประสงค์การใช้งาน
**Paintball - คือการจำลองเหตุการณ์เหมือนในสนามรบ โดยแบ่งเป็นสองทีมแล้วให้ไปแย่งชิงธงของฝ่ายตรงข้ามมาให้ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันไม่ได้ฝ่ายตรงข้ามมาเอาธงของเราได้โดยการยิงใส่กัน ปืนที่ใช้จะเป็นแบบอัดแก๊สเข้าไป กระสุนจะเป็นลูกบอลพลาสติกกลมๆ บรรจุสีต่างๆ ต้องใส่ชุดเกราะและหน้ากากเพราะเวลาถูกยิงนอกจากจะเลอะเพราะลูกกระสุนจะแตกเมื่อกระทบเป้าหมาย อาจจะเจ็บตัวได้ด้วย
talk with MING ming (:
ขอร้องเถอะ อย่าทำตัวเป็น "นักอ่านเงา"
ถ้าอ่านแล้วก็ช่วยกดเม้นต์สักหน่อยไม่ได้เลยเหรอคะ
ซักนิดก็ยังดีนะ คงไม่ได้เสียเวลาอะไรมาก
และมันก็ทำให้หมิงดีใจขึ้นมาได้
แค่เม้นต์เดียวของคุณเนี่ย
มันก็เป็นกำลังใจให้กับนักเขียนมากๆๆ เลยนะคะรู้มั้ย
หมิงบอกแล้วไงคะว่าจะเม้นต์ติยังไงก็ได้ วิจารณ์ให้ก็ยิ่งดี
ยังไงก็ขอบคุณคนที่เม้นต์ คนที่แอด fav. มากๆ เลยนะคะ :)
คุณกำลังเป็นกำลังใจให้หมิงอยู่ และก็จะเป็นตลอดไป :))
ความคิดเห็น