ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Super Junior >< ZAD Love [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : ChapTer >> 2

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 51



    กลับมาแล้วค่ะ..หลังจากที่หายไปหลายนาที...เหอๆๆ

    ตอนนี้ยังไม่มีฉากสวีทหวานซะเท่ไหร่ เป็นการเท้าเรื่องไปก่อน

    ไม่ใช่แขนเรื่อง (ขำมั๊ย)

    เดาออกมั๊ยว่าใครคู่ใคร

    ถ้าเราอ่านเราคงเดาไม่ถูกหรอก เพราะมันออกมาไม่กี่คนเอง

    เหอๆๆ

    ไปต่อกันเลย >>

    _________________________________________________________________

               เมื่อออดดัง อาจารย์สาวก็เดินออกไปจากห้อง แล้วไม่นานอาจารย์ผู้ชายร่างท้วมก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง แปะไปที่กระดานแล้วหันมาทักทายนักเรียนทุกคน

                "เอาล่ะนักเรียนครูมีข่าวดีมาบอก พรุ่งนี้เราจะเปิดใช้หอพักอย่างเป็นทางการ ใครสนใจก็มาลงชื่อที่นี่"

                แล้วอาจารย์ก็วางกระดาษเปล่าลงบนโต๊ะหน้าห้องตัวหนึ่ง  หลายคนก็ลุกขึ้นไปลงชื่อแต่ก็มีบางคนที่ยังนั่งเฉยรวมทั้งอีทึกและฮันคยองด้วย

                อีทึกรอจนคนเริ่มเบาบางลงเขาจึงลุกขึ้นเดินไปลงชื่อ ในขณะที่ฮันคยองก็เดินมาด้วยเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะชะตาลิขิต ความบังเอิญหรือความตั้งใจที่อีทึกและฮันคยองหยิบปากกาด้ามเดียวกัน ทั้งคู่เงยหน้ามองกันและกันเมื่อมือของอีกฝ่ายแตะเข้าที่มือของตัวเอง สายตาเย็นชาถูกส่งผ่านดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยไปยังเจ้าของนัยน์ตาสีดำภายใต้กรอบแว่นตาลายขาวดำนั่น(นึกภาพป๋าฮันคยองใส่แว่นสิ...) แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านจ้องกลับไปด้วยสายตาว่างเปล่า การกระทำอันไร้คำพูดของทั้งคู่ทำเอาเพื่อนๆในห้องและอาจารย์อยู่ในอาการช็อกซีเนม่า อาจารย์ร่างท้วมค่อยๆรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปหาทั้งคู่ (แล้วเมื่อกี้แกไปยืนอยู่ส่วนไหนของห้อง หา???)

                "เอ่อ ทั้งสองคน อาจารย์ว่าอย่าเพิ่งมีเรื่องกันเลย ฮันคยองเธอให้จองซูเค้าเขียนไปก่อนนะ"

                อาจารย์แตะบ่าของฮันคยอง จนฮันคยองยอมปล่อยมือออกจากปากกาและมือของอีทึก(????)

                แต่เหตุการณ์เหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้นเมื่ออีทึกก็ปล่อยมือเช่นกัน

                "นายเขียนก่อนก็ได้"

                อีทึกพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วผายมืออกให้ฮันคยองเขียนชื่อตัวเอง ท่ามกลางความตะลึงงันของทั้งห้องรวมทั้งฮันคยอง คุณชายปาร์คจองซูผู้ไม่เคยยอมใครกลับเสียสละให้ฮันคยอง ศัตรูที่เค้าเกลียดเข้าไส้ 'นายจะเอายังไงกับฉันกันแน่' ฮันคยองคิดในใจ สายตายังคงจับจ้องที่ร่างบางตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก้มลงเขียนชื่อตัวเองลงในกระดาษแล้วเดินกลับไปที่นั่งของเขาข้างๆฮีชอลก่อนจะมองอกไปนอกหน้าต่าง

                "นี่ฮัน นายรู้สึกอะไรรึเปล่า ผิดปกติอะไรมั๊ย"

    ฮีชอลเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทของอีทึกเลยรู้จักนิสัยอีทึกดี คนที่มีเรื่องกับอีทึกรวมทั้งศัตรูตัวปัญหาของอีทึกอย่างฮันคยองเพื่อนของเขา แล้ว อันตรายมักจะมาถึงตัวได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา และทุกรูปแบบ ฮีชอลเลยเป็นห่วงฮันคยองว่าจะโดนอีทึกเล่นร้ายๆอะไรรึเปล่า แต่เจ้าตัวกลับไม่รับรู้ถึงความห่วงใยของเพื่อนคนนี้เลย

                "ไม่ ฉันไม่เป็นไรหอรก"

                ฮันคยองตอบก่อนจะหันไปสบตากับอีทึกที่เพิ่งลงชื่อเสร็จซึ่งอีกฝ่ายก็มองเขาอยู่เช่นกัน

                "อะ...เอาล่ะ ส่วนรายละเอียดอยู่ที่กระดานครูจะขออธิบายคร่าวๆนะ หอที่ผู้บริหารจัดให้สร้างนั้น ผู้บริหารต้องการให้นักเรียนอยู่กันห้องละหลายๆคนเพื่อที่จะช่วยเหลือกัน ห้องหนึ่งจึงใหญ่มากสามารถจุคนได้มากที่สุด 14 คน จากห้องใหญ่ก็จะกระจายเป็นห้องเล็กๆอีก 7 ห้อง ห้องเล็กนั้นนอนได้ห้องล่ะ 2 คน ซึ่งสมาชิกในห้องนั้นเราจะคละกันไป พวกเธออาจจะได้อยู่กับรุ่นน้องก็ได้...แล้วแต่ดวงของแต่ละคน พรุ่งนี้คนที่ลงชื่อไว้ให้ย้ายของเข้าห้อง เราจะหยุดเรียนให้ 1 วันเพื่อให้พวกเธอได้จัดห้องและทำความรู้จักกับสมาชิกในห้องของเธอ ส่วนใครจะได้อยู่ห้องไหนกับใคร พรุ่งนี้เราจะมีประกาศติดที่บอร์ดให้ เอ้า จบแค่นี้ เข้าเรื่องเรียน……"

                 เมื่ออาจารย์พูดจบก็มีเสียงฮือฮา...กันลั่นห้อง ทุกคนต่างตื่นเต้นว่าใครจะได้อยู่ห้องไหน คนที่สนิทกันก็ภาวนาอยากให้อยู่ห้องเดียวกัน...และก็มีบางคนที่ภาวนาว่าไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับอีทึก !!!! (สุดที่รักชั้นเลวร้ายตรงไหนมิทราบ)

                "นี่นายว่าเราจะได้อยู่ห้องกับใครน่ะ"

                ฮีชอลกระซิบข้างหูฮันคยองที่นั่งเหม่อลอยทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งขึ้นมา

                "ม่ะ...ไม่รู้สิ"

                ฮันคยองยักไหล่ก่อนจะหันไปที่กระดาน

                "เอ่อ ครูคะแล้วเป็นหอรวมรึเปล่าคะ"

                จู่ๆนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างหน้าฮันคยองก็ยกมือขึ้นถาม ทำให้เพื่อนๆหัวเราะกันใหญ่ในคำถามของเธอ

               "นี่แม่คุณ ผู้หญิงกับผู้ชายใครเค้าจะให้นอนร่วมกัน ฮะ?? มันก็ต้องเป็นหอแยกสิ เอ้อ เธอนี่ ถามอะไรไม่รู้เรื่องเลย"

                 เด็กสาวคนนั้นยิ้มอย่างอายๆ แล้วนั่งลง

               
                 
    ฮันคยองหัวเราะน้อยๆก่อนจะหันหลังมองไปที่นั่งด้านหลังห้องแต่ก็ไม่พบกับสิ่งที่เค้ากำลังมองหา....
    'หายไปไหนแล้ว'หนุ่มเลือดจีนคิดในใจก่อนจะเก็บสมุดใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป  ทำเอาฮีชอลงงกับกิริยาของเพื่อนแต่ก็ไม่ได้ตามออกไป

                 ฮันคยองเดินออกมาจากห้องเรียนทั้งที่ยังไม่หมดคาบแต่อาจารย์ก็ไม่ได้สังเกตเห็น  (ขนาดแฟนชั้นเดินออกมามันยังไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย ) ร่างสูงเดินไปตามโถงทางเดินที่เชื่อมระหว่างทุกตึก  สายตาก็มองไปทั่วเหมือนกับหาอะไรบางอย่าง แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างบางที่เดินมา  ฮันคยองรีบแอบเข้าไปหลังตึกทันที  เมื่อร่างบางเดินผ่านมา มือหนาของคนที่แอบอยู่ก็ฉุดร่างบางเข้ามาหาตัวแล้วดันจนติดกับกำแพง มือขวาจับมือของอีกฝ่ายไว้ ส่วนมือซ้ายก็ล๊อกคอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย

                "นายต้องการอะไรกันแน่"

                ฮันคยองถามคนตรงหน้า....ที่แม้จะถูกกระทำแบบนี้ เจ้าตัวก็ยังคงสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาอยู่เหมือนเดิม

                "ฉันคงต้องถามนายมากกว่านะว่านายต้องการอะไร มาจับฉันไว้แบบนี้มันไม่ดีนา เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้าหรือหากฉันทำอะไรนายเข้า นายจะซวย"

                อีทึกย้อนกลับไปด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แต่ฮันคยองกลับไม่สะทกสะท้านกับคำพูดจากร่างบางสักเท่าไหร่ 

    ผ่านไปนาน ต่างฝ่ายต่างก็จ้องมองกันอยู่อย่างนั้น แต่แล้วฮันคยองก็ถึงกับผงะ เมื่อมือเรียวของอีทึกสะบัดออกจากมือของเขาแล้วเอื้อมมาดึงแว่นตาจากหน้าของเขาออก

    "อันที่จริง แว่นนี่นายอย่าใส่มันเลยดีกว่า คิดจะสร้างภาพให้กับตัวเองหรือไง ฮะ??? แล้ววันนี้คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่านายจงใจที่จะหยิบปากกาพร้อมฉันน่ะฮะ....คิดจะทำอะไร"

    อีทึกพูดพลางสะบัดแว่นออกไปเหมือนของไร้ค่า แว่นตาของร่างสูงตกลงบนพื้นข้างๆกายของทั้งคู่ ทำเอาฮันคยองฉุนขาด เหวี่ยงร่างบางแล้วต่อยเข้าที่แก้มเนียนด้วยปลายหมัดจนล้มลงไป  แต่คนที่โดนต่อยก็ยันตัวลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับศัตรูตัวร้าย ที่หยิบแว่นขึ้นมาใส่อีกครั้ง ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็พลันหมันไส้ร่างสูงอย่างไม่มีเหตุผล  กระชากเสื้อนอกของร่างสูงตรงหน้าแล้วยกขึ้นดันติดกำแพงบ้าง

    "ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน"

    "ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับนายหรอก....นายนั่นแหล่ะ ที่อย่ามายุ่งกับฉัน"

    อีทึกพูดออกมาพลางเอามือแตะที่ปากของเขาที่เพิ่งโดนต่อยไปเมื่อครู่ ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นไปอีกคน โชคดีที่ตอนนั้นยังไม่เลิกเรียน ก็เลยไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ทั้งสองจะรู้อะไรเมื่อมีใครบางคนก้าวออกมาจากที่ๆทั้งคู่ยืนอยู่เมื่อกี้โดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนเห็นเหตุการณ์

    ติ๊ดดดดดดดดด  ติ๊ดดดดดดดดด

    "อะไร"

    "ฮยอคแจ แกอยู่หนาย นี่ทุกคนเค้ารอแกคนเดียวนะเว้ย"

    "เออ ไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ"

    แล้วก็ปิดมือถือก่อนจะเดินออกไป (อ๊าก ฮยอคแอบดูทึกกะป๋าทำ....กัน)

    RRRR…..

    เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่ถูกวางไว้ข้างกายดังขึ้น ร่างบางจ้องมองมันด้วยสายตาว่างเปล่าราวกับจะสะกดให้มันหยุดไป แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด มือเรียวจึงกดรับแล้วยกขึ้นมาแนบหู

    "พี่อีทึกคะ มากินไอติมกันนะ"

     ไม่บอกก็รู้ว่าใคร  คิมเฮียวบินนั่นเอง (ยัยนี่ ไม่น่าให้ออกเล้ย มันบาดใจตัวเอง ซิกๆ (ร้องไห้))

    "ฉันไม่ว่าง"

                "โธ่ ฉันอุตส่าห์จองโต๊ะได้แล้วเชียว ใต้ต้นไม้ข้างนอกด้วย พี่ก็รู้ว่าโรงอาหารโรงเรียนเราคนเยอะขนาดไหน นี่พี่จะให้ฉันยกโต๊ะที่จองไว้ได้ให้คนอื่นไปงั้นหรอคะ ไม่เอานะ" (หึยแก มันชักจะมากไปแล้ว เดี๋ยวต้องเพิ่มบทให้อีทึกจับแกฆ่าดีกว่า โฮะๆๆ) [ชิ  : เฮียวบิน]
    _______________________________________________________________________


         มีคำผิดตรงไหนโพสบอกได้นะคะ จะได้แก้ไขค่ะ...

    เฮียวบินทำเสียงออดอ้อน เหมือนว่ายังไงๆอีกฝ่ายก็ต้องมากินไอศกรีมกับตัวเองให้ได้

    "อือ งั้นเดี๋ยวเจอกัน"

    "ค่ะ..."

    แล้วอีทึกก็กดปิดมือถือ ก่อนจะเดินมาที่โรงอาหารที่คลาคลั่งไปด้วยนักเรียนม.ปลายมากมาย แถมยังมีนักเรียนจากมหาฯลัยข้างๆอีกด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×