คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part 1
[แล้ว 6 โมงเย็นเจอกันนะ]
เสียงข้อความที่ถูกส่งมาเมื่อครู่ดังขึ้นเมื่อเจ้าของมือถือนั้นผละจากเคาน์เตอร์มาดู
“อีทึก...”
ผู้จัดการร้านคอฟฟี่ช๊อปที่ร่างบางทำงานอยู่พูดขึ้น
“ครับ”
“มีนัดก็ไปเถอะ นี่ก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้วไม่ใช่หรอ”
หญิงร่างท้วมเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ สายตามองเข้าไปในตาสีน้ำตาลสวยของร่างตรงหน้าที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่
“ไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวรอให้พี่ชินมาก่อนแล้วผมค่อยไปก็ได้ เผื่อมีลูกค้ามา”
ร่างบางส่ายหน้าแล้วยิ้มบางๆ มือเรียวก็ง่วนอยู่กับการเก็บถ้วยกาแฟของโต๊ะที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่
“ไปเถอะน่า...เดี๋ยวฉันดูแลร้านฉันเอง ไปๆ”
อีกฝ่ายออกคำสั่งจนอีทึกเงยหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของผู้จัดการร้านแล้วก็ต้องยอม
“ขอบคุณครับ”
ร่างบางโค้งน้อยๆแล้วเดินไปเก็บของของตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปเลยที่หลังร้าน
“เมื่อไหร่รถจะมานะ”
อีทึกชะเง้อหน้ามองหารถเมล์ที่จะแล่นมา แต่ก็ไม่มีให้เห็นสักคัน ร่างบางจึงก้าวถอยหลังยืนพิงติดกับกำแพง
“อ๊ะ !!!”
เมื่อมองลงไปที่เท้าของตัวเองก็ต้องผงะไป อะไรบางอย่างอยู่ใต้รองเท้าแต่เสียงๆหนึ่งกลับเรียกความสนใจของร่างบางไป รถเมล์คันใหม่มาแล้ว อีทึกจึงรีบวิ่งขึ้นรถไป เลือกหาที่นั่งได้แล้วก็มองไปที่พื้นนั่นอย่างสงสาร
“ขอโทษนะ”
พึมพำเบาๆอย่างรู้สึกผิดก่อนที่รถเมล์จะเคลื่อนออกไป
“สายอีกแล้วนะ”
เสียงแข็งกร้าวของคนที่ยืนรออยู่ดังขึ้น ทำให้ร่างบางที่วิ่งหอบมาแทบจะร้องไห้
“ฉันรีบมาแล้วนะ...เลทแค่ 20 นาทีเองอีกอย่าง นี่บนเขานะไม่สงสารกันบ้างรึไง”
อีทึกทำหน้าตาน่าสงสาร มองคนตรงหน้าตาแป๋ว จนอีกฝ่ายต้องหลบตาไป
“ให้อภัยอีกครั้งก็แล้วกัน แล้วนี่กินอะไรมารึยัง”
ร่างสูงถามพลางกระโดดขึ้นไปนั่งบนกำแพงหิน วิวข้างหน้านั้นมองเห็นได้ทั่วเมือง
“ยัง”
อีทึกตอบพลางปีนขึ้นไปนั่งข้างๆร่างสูงอย่างยากลำบาก ก็มันสูงนี่นา -____-^^^(แสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก)
“งั้นก็กินนี่สิ...”
พูดขึ้นแล้วส่งกล่องใบหนึ่งมาให้ร่างบาง กลิ่นหอมลอยขึ้นมาปะทะจมูกของอีทึกเข้าอย่างจังทำเอาร่างบางถึงกับเคลิ้ม
“อะไรหรอ ฮันคยอง ~ ~ ~”
“บะหมี่ผัด”
สิ้นคำพูดของฮันคยอง ร่างบางก็เปลี่ยนสีหน้าทันที เบะปากอย่างไม่ชอบใจ
“แหวะ ไม่เอาไม่กินไม่ชอบ”
อีทึกส่ายหน้าแล้วยื่นกล่องบะหมี่ผัดคืนให้ร่างสูงข้างกายแต่ก็ถูกดันกลับมา
“กินไป...อย่าเรื่องมากนัก เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”
“...”
ร่างบางยิ่งหน้าบูดมากขึ้นเมื่อโดนสั่ง โดนผู้จัดการสั่งยังไม่น่ารำคาญเท่าคนข้างๆสั่งเลย...
“ดูทำหน้า ชีวิตมันไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นซะหน่อย”
ฮันคยองพูดพลางผลักหัวของร่างบางข้างๆจนอีกฝ่ายเอนไปแล้วกลับมานั่งอย่างเดิม
“แย่สิ ทำไมจะไม่แย่”
อีทึกเถียงกลับมาทันที วางกล่องบะหมี่ผัดลงอีกข้าง กรอกน้ำใส่ปากไปหลายอึกแล้วจ้องฮันคยองตาเขม็งราวกับจะเปิดศึก
“ชีวิตฉันแย่กว่านายอีกนะ”
ร่างสูงตอบสวนมาอย่างใจเย็นแต่อีกฝ่ายกลับไม่เย็นด้วย ก็นี่มันใกล้ค่ำแล้วนี่นา เหอๆๆ
“ชีวิตฉันแย่กว่าอีก เรียนเสร็จก็ต้องมาทำงาน”
“ฉันเรียนเสร็จก็ต้องกลับบ้านไปหาอะไรให้นายกิน”
ชักไม่เย็นแล้วเหมือนกันนะ...
“นายหาว่าฉันเป็นภาระนายหรอฮะ...”
อีทึกเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้แล้วยกนิ้วชี้หน้าอีกฝ่าย
“มันก็เป็นอย่างนั้นแหล่ะ”
ร่างสูงเถียงตอบแล้วปัดมืออีทึกออกไป
“ชิ วันนี้ฉันโดนลูกค้าต่อว่ามา”
“วันนี้ฉันเล่นบาสแล้วโดนดึงเสื้อขาดเนี่ย”
ฮันคยองดึงชายเสื้อที่ขาดลุ่ยให้ร่างบางดูแต่อีกฝ่ายกลับบุ้ยปาก ต่างฝ่ายต่างพยายามหาความแย่ของตัวเองมาเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนเมื่อ...
“ฉันทำให้เด็กข้างบ้านร้องไห้ก่อนออกมาจากบ้าน”
“ก่อนขึ้นรถเมล์ฉันเพิ่งเหยียบมดตายไป”
สิ้นคำพูดของร่างบางทั้งคู่ก็ค้างไปนานก่อนที่ฮันคยองจะหลุดขำออกมา บรรยากาศที่ดูตึงเครียด(รึเปล่า)จึงค่อยๆสลายไป
“นายนี่มันจริงๆเลย”
ร่างสูงขยี้หัวของอีทึกเบาๆอย่างเอ็นดู อีกฝ่ายก็หัวเราะน้อยๆ
“^-^”
แล้วทั้งคู่ก็เงียบไปนาน ต่างคนก็ต่างมองไปข้างหน้า เห็นดวงอาทิตย์ลิบๆอยู่หลังขอบฟ้าไกลนั่น ทุกๆอย่างค่อยๆมืดลงอย่างช้าๆไม่นานมันก็มืดสนิทจนเห็นดวงดาวส่องแสงระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า ร่างบางนั้นแอบหันมามองที่คนข้างๆเป็นระยะด้วยสายตาที่ไม่เคยมีให้ใครนอกจากคนๆนี้เพียงคนเดียว
ความคิดเห็น