คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สวีท (มั้ง) (45%)
*บทที่ 7 สวีท*
ทั้งสามตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แองจี้และซีบิลดีใจมากที่พบว่ากัสสร่างเมาแล้ว และสามารถไปเรียนหนังสือได้ ทั้ง 3 จัดแจงอาบน้ำแต่งตัว และลงไปทานอาหารที่โรงอาหารดรากอนด้วยกัน
เมื่อถึงโรงอาหารทั้งสามก็แยกกันไปนั่งคนละทิศคนละทาง แองจี้แยกไปนั่งกับเรนอนและมาทิลด้า กัสแยกไปนั่งกับพวกซอร์โร ส่วนซีบิลแยกไปนั่งกับพวกคาโล และเริ่มรับประทานอาหาร
เมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้วทุกคนจึงไปรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรับตารางเรียน
“นี่คือตารางเรียนของนร.หอพักป้อมอัศวิน ปี 1 เรียนแยก ปี 2-3 วิชาหัวใจกษัตริย์เรียนร่วมกับแผ่นดินประชาชน ปี 4-5 วิชาดาบ เรียนรวมกับปราการปราชญ์ วิชาเวทมนตร์เรียนรวมกับปราสาทขุนนาง ปี 6-7 เรียนรวมกันทุกวิชา ยกเว้นวิชาหมากรุก เข้าใจแล้วก็มาเอาตารางเรียนไปได้แล้ว” สิ้นเสียงประกาศจากโรเวน เสธฯฝ่ายซ้าย เหล่านักเรียนในป้อมอัศวินก็กรูกันเข้ามาเอาตารางเรียนจากสี่ผู้คุมกฎกันเป็นการใหญ่ และต่างนำมาพูดคุยกันต่างๆนานา และหนึ่งในนั้นแน่นอนว่าต้องมีเจ้าหัวขโมยไม่เจียมบอดี้ด้วยอย่างน้อยก็คนหนึ่งล่ะ
“เฮ้ย ดูสิ ตารางเรียนใหม่ของพวกเราอ่ะ วิชาแรกวิชาประวัติศาสตร์กษัตริย์ด้วยล่ะ” นั่นไง บอกไม่ทันไรเสียงเจ้าตัวก็ดังขึ้นมาล่ะ แองจี้ที่ได้ยินเหมือนกันก็ก้มลงมองดูบ้าง
~ ตารางเรียนป้อมอัศวิน ~
Mon | No Class | History | Sword | L | Bag of King | Animals | Heart ofKing |
Tue | Magic | Magic | Chess | U | No Class | Sword | Heart ofKing |
Wed | Sword | Sword | Sword | N | History | No Class | Heart ofKing |
Thu | Chess | Sword | Bag of King | C | No Class | No Class | No Class |
Fri | Magic | History | Sword | H | No Class | No Class | No Class |
“โห ใน 1 อาทิตย์ มีคาบว่างตั้ง 9 คาบแน่ะ” เสียงของมาทิลด้าบ่นมาค่อยๆ ขอทานแห่งทริสทอร์เดินเข้ามาทางด้านหลังพร้อมกับชี้ให้เธอดู
“นี่ มาทิล ดูนี่ซะก่อนสิ...”โรชี้ไปที่วิชาดาบและไล่นิ้วพร้อมกับนับเบาๆ
“ 1 2 3 4 5 6 7
” เขาก้มลงพูดใกล้ๆหูของเธอ โดยจงใจให้ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับหูของมาทิลด้าเบาๆ นั่นทำให้ทิลด้าถึงกับขนลุกซู่โดยไม่ทราบสาเหตุ และดูเหมือนเธอจะตระหนักได้ว่าโรยืนอยู่ใกล้เธอมากแค่ไหน เธอพละออกมาทันที แต่ก็ไม่ไกลมากเท่าไหร่ เธอชี้หน้าเอ็ดทันที
“นายโร เมื่อกี้นายทำอะไรชั้น ไอ้คนไม่มีมารยาท” คนถูกคำถามด่ามายังไม่สะทกสะท้าน แถมยังเดินเข้าไปใกล้เธออีก และโดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ขอทานแห่งทริสทอร์ก็ถามเธอขึ้นมา
“เธอเสียใจหรือตกใจมากกว่า” มาทิลด้างง
“ก็..ตกใจมากกว่า ทำไมหรอ” โรพึมพำอะไรซักอย่างออกมาแล้วงัดมีดสั้นของตัวเองออกมาแล้วถือวิสาสะจับแขนของมาทิลด้าขึ้นมาแล้วทำท่าจะปาดมีดแล่มือเธอซะยังงั้น มาทิลด้าตกใจมากและพยายามดึงมือออกไปแต่โรก็ทำเพียงบีบแขนของเธอแน่นขึ้น เพียงเท่านั้น อาการชาเย็นวูบจากข้อมือซึมไปทั่วร่างกายเธอไม่สามารถขยับกายได้หรือแม้แต่พูด โรร่ายเวทต่อไปพร้อมกับหันสันมีดด้านที่ไม่คมขีดวงแหวนเวทลงบนข้อมือเธออย่างรวดเร็ว แล้วก็หันไปปาดแขนตัวเองเล็กน้อย ส่งผลให้เลือดค่อยๆซึมออกมา เขาวางแขนตัวเองไว้บนแขนของเธอ เลือดหยดลงบนวงแหวนเวทช้า กระแสเสียงของโรดังแผ่วออกมา
“ใจเย็นๆนะมาทิล เดี๋ยวเธอจะได้รู้แน่ว่าอะไรเป็นอะไร” มาทิลด้าตกใจมากแต่ก็พูดอะไรออกมาไม่ได้รวมถึงร่างกายก็ขยับไม้ได้ด้วยจึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้อย่างนั้น แล้วดูการกระทำของโรต่อ
โรยังคงร่ายเวทต่อไปอย่างไม่สนใจใคร และแล้วเขาก็บีบมือเธออีกครั้ง ความรู้สึกค่อยๆกลับคืนสู่ร่างของเธออีกครั้ง เธอพยายามคิดคำด่าเขาต่างนานา
‘คนอะไร..ไม่มีมารยาท แต๊ะอั๋งเค้าแล้วยังมาจับมือเขาอีก เดี๋ยวปั๊ดให้ท่านแม่มาล่ามค้างปีเลย ไอ้คนไม่รุ้จักสำรวมตัวเอง ไหนเขาบอกว่าเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่แล้วทำไมไม่รู้ธรรมเนียมของอเมซอนล่ะไอ้...........’ เธอบ่นในใจเพราะรู้สึกโกรธเขามากเพราะธรรมเนียมของอเมซอน ผู้ชายจะไม่สามารถจับต้องร่างกายของผู้หญิงได้ ยกเว้นว่า .. คนทั้งสองจะแต่งงานกันแล้ว มาทิลยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แต่ขณะที่คิดด่าเขาอยู่ในใจนั้นก็มีเสียงร้องมาจากไอ้เจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่ที่เธอเพิ่งบ่นด่ามันไปเมื่อตะกี้นี้เอง
“โอ๊ยๆๆๆ... ไม่คิดว่าจะใช้ได้นะเนี่ย” โรร้องออกมาและรีบถลกแขนเสื้อขึ้นมาดู ส่วนมาทิลด้าที่ยืนอยู่ข้างๆก็รีบเดินเข้ามาดูว่าโรเป็นอะไร
‘หรือว่าเราเผลอไปร่ายเวทคำสาปใส่เขานะ โอ้ .. ม่ายยย’ มาทิลคิดไปต่างๆนานา ก่อนที่จะรู้สึกตัว รีบเข้าไปช่วยดูอาการของโรที่ดูเหมือนจะหนักเอาการ มาทิลด้าสวมวิญญาณแม่มดวิงกี้เข้าช่วยดูแผลทันที
“เป็นอะไรรึเปล่าโร”เธอพูดพลางจับแขนโรขึ้นมาพลิกดูอาการทันที โรยิ่งหน้าเสียกว่าเก่า รีบชักแขนตัวเองกลับไปดูแผลคนเดียว
“ไม่เป็นไรมากหรอกน่า ก็แค่ลองคาถาน่ะ” ว่าแล้วโรก็หันหลังให้เธอและเริ่มต้นออกเดิน แต่คนถูกทิ้งไว้กลับยิ่งมีความสนใจจากบาดแผลมากขึ้นอีก มาทิลด้ารีบเดินตามโรจนทัน โดยไม่ฟังเสียงเรนอนที่ชวนไปห้องสมุด เธอตามหาอยู่นานพอควรก็พบโรนั่งดูแผลของตัวเองอยู่เงียบๆ คนเดียว เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปและนั่งลงข้างๆเขาอย่างเงียบเชียบ แต่กระนั้นโรก็รู่อยู่ดีนั่นแหละ แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ ยังคงนั่งดูแผลตัวเองอยู่ตามเดิม ในระหว่างนั้นมาทิลก็รวบรวมความกล้าถามเขาไป
“แขนนาย มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง” โรถอนหายใจดังเฮือก ส่ายหน้าไปมา
“มันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละ มันเป็นความผิดของฉันเอง” เขาก้มลงมองแขนที่โดนกรีดเมื่อครู่ มาทิลด้าเข้าใจในทันที
“หรือว่า.....”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
วันนี้ดีที่วันแรกเป็นคาบว่างเพราะแองจี้สังเกตเห็นว่าเมื่อตอนเช้ามาทิลด้ากับโรมีเรื่องกัน แล้วอยู่ดีๆโรก็เป็นอะไรก็ไม่รู้แล้วซักพักก็เดินหนีไป แล้วมาทิลก็วิ่งตามไปโน่น จนป่านนี้ผ่านมากว่า 20 นาทีแล้วยังไม่เห็นแม้แต่วี่แวว แองจี้ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องสมุดคนเดียวอย่างร่าเริง เพราะเธอเพิ่งจะมาเข้าห้องสมุดที่นี่เป็นครั้งแรก เธอได้เดินดูชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงรายอยู่กว่า 20 ชั้นมาแล้วและพบว่า ที่นี่เต็มไปด้วยหนังสือว่าด้วยการเป็นพระราชา หรือไม่ก็พวกรวมกฎหมายของเมืองต่างๆ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็นหนังสืออ่านเล่น แต่ที่ว่าน้อยนั้นก็ยังมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ชั้นเป็นอย่างต่ำนอกจากนี้ก็ยังเป็นชั้นหนังสือต้องห้ามด้วยอีกประมาณ 3 ชั้น ที่เธอได้เดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ ส่วนมากจะเป็นหนังสือสูตรน้ำยาต้องห้ามหรือไม่ก็หนังสือเวทมนต์โบราณและยังมีพวกหนังสือที่ไม่ควรมีในห้องสมุดอีกหลายเล่ม แองจี้เดินไปตามทางเดินระหว่างชั้นหนังสือแต่ละชั้น ก่อนจะมาหยุดที่หนังสือเล่มหนึ่ง มันมีชื่อว่า ‘เทพนิยายโบราณ’ เธอรู้สึกสนใจมากและหยิบมาอ่านในทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับกัสที่เพิ่งจะเข้ามาเหยียบที่นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาเข้ามานี่เพียงเพราะเขาจะมาชวนซอร์โรไปฝึกดาบด้วยต่างหาก ระหว่างที่เขาเดินหาซอร์โรอยู่นั้น เขาก็พบแองจี้นั่งอ่านหนังสืออยุ่เพียงลำพัง แต่ดูท่าทางเธอจะมีความสุขมาก เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาชอบแอบมองดูเธอมานานแค่ไหนแล้ว เขารู้แค่ว่าเขาชอบเวลาที่เธอยิ้ม และมีความสุข เขาคิดและเผลอเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว พอดีกับที่แองจี้เงยหน้าขึ้นมาพอดี สายตาของคนที่จ้องมาหาทำเอาสายตาของนักบวชหน้าตายถึงกับแทบละลายเพราะสายตานั้นเหมือนไม่ใช่สายตาของเธอเลย กัสพยายามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงข้างๆเธอ
“เป็นอะไรรึเปล่า แองจี้” กัสถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“เปล่านี่...”เธอปฏิเสธเสียงสูง “...ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่นี่ไง รู้มั๊ย ฉันน่ะชอบอ่านหนังสือเทพนิยายมากๆเลย มันทำให้ชั้นมีความสุข เหมือนกับตัวเองเป็นตัวละครในเทพนิยายนั่นเลยล่ะ...” แองจี้พูดเหมือนเพ้อ แต่สักพักเธอก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“แล้วนายล่ะ มาที่นี่ทำไม” กัสเกาจมูกแก้เขิน ตอนนี้นักบวชหน้าตายเริ่มหน้าแดงเข้าให้แล้ว
“ก็..ก็..มา เอ่อ...มาหาซอร์โรน่ะ จะมาชวนมันไปดวลดาบด้วยซะหน่อยน่ะ” เขาพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย
‘จะให้ชั้นบอกว่ามาแอบดูเธอรึไงเล่า’ เขาคิดในใจ แองจี้พยักหน้า
“อืม ซอร์โรหรอ น่าจะออกไปแล้วนะ เมื่อกี้เห็นมาทำอะไรแป๊บเดียวแล้วก็ออกไป”
ความคิดเห็น