ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความรักของสาวทอม กับนายนักบวชหน้าตาย (หัวขโมยแห่งบารามอส)

    ลำดับตอนที่ #7 : สวีท (มั้ง) (45%)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 50


    *บทที่ 7 สวีท*

     

                    ทั้งสามตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า  แองจี้และซีบิลดีใจมากที่พบว่ากัสสร่างเมาแล้ว  และสามารถไปเรียนหนังสือได้  ทั้ง 3 จัดแจงอาบน้ำแต่งตัว  และลงไปทานอาหารที่โรงอาหารดรากอนด้วยกัน

                    เมื่อถึงโรงอาหารทั้งสามก็แยกกันไปนั่งคนละทิศคนละทาง แองจี้แยกไปนั่งกับเรนอนและมาทิลด้า กัสแยกไปนั่งกับพวกซอร์โร ส่วนซีบิลแยกไปนั่งกับพวกคาโล และเริ่มรับประทานอาหาร

                    เมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้วทุกคนจึงไปรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรับตารางเรียน

    นี่คือตารางเรียนของนร.หอพักป้อมอัศวิน ปี 1 เรียนแยก ปี 2-3 วิชาหัวใจกษัตริย์เรียนร่วมกับแผ่นดินประชาชน ปี 4-5 วิชาดาบ เรียนรวมกับปราการปราชญ์  วิชาเวทมนตร์เรียนรวมกับปราสาทขุนนาง ปี 6-7 เรียนรวมกันทุกวิชา ยกเว้นวิชาหมากรุก เข้าใจแล้วก็มาเอาตารางเรียนไปได้แล้ว สิ้นเสียงประกาศจากโรเวน เสธฯฝ่ายซ้าย เหล่านักเรียนในป้อมอัศวินก็กรูกันเข้ามาเอาตารางเรียนจากสี่ผู้คุมกฎกันเป็นการใหญ่  และต่างนำมาพูดคุยกันต่างๆนานา และหนึ่งในนั้นแน่นอนว่าต้องมีเจ้าหัวขโมยไม่เจียมบอดี้ด้วยอย่างน้อยก็คนหนึ่งล่ะ

    เฮ้ย ดูสิ  ตารางเรียนใหม่ของพวกเราอ่ะ  วิชาแรกวิชาประวัติศาสตร์กษัตริย์ด้วยล่ะ นั่นไง  บอกไม่ทันไรเสียงเจ้าตัวก็ดังขึ้นมาล่ะ  แองจี้ที่ได้ยินเหมือนกันก็ก้มลงมองดูบ้าง

     

    ~ ตารางเรียนป้อมอัศวิน ~

     

    Mon

    No Class

    History

    Sword

    L

    Bag of King

    Animals

    Heart ofKing

    Tue

    Magic

    Magic

    Chess

    U

    No Class

    Sword

    Heart ofKing

    Wed

    Sword

    Sword

    Sword

    N

    History

    No Class

    Heart ofKing

    Thu

    Chess

    Sword 

    Bag of King

    C

    No Class

    No Class

    No Class

    Fri

    Magic

    History

    Sword

    H

    No Class

    No Class

    No Class

     

    โห ใน 1 อาทิตย์ มีคาบว่างตั้ง 9 คาบแน่ะ เสียงของมาทิลด้าบ่นมาค่อยๆ ขอทานแห่งทริสทอร์เดินเข้ามาทางด้านหลังพร้อมกับชี้ให้เธอดู

    นี่ มาทิล ดูนี่ซะก่อนสิ...โรชี้ไปที่วิชาดาบและไล่นิ้วพร้อมกับนับเบาๆ

    1 2 3 4 5 6 7… ” เขาก้มลงพูดใกล้ๆหูของเธอ โดยจงใจให้ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับหูของมาทิลด้าเบาๆ นั่นทำให้ทิลด้าถึงกับขนลุกซู่โดยไม่ทราบสาเหตุ และดูเหมือนเธอจะตระหนักได้ว่าโรยืนอยู่ใกล้เธอมากแค่ไหน เธอพละออกมาทันที แต่ก็ไม่ไกลมากเท่าไหร่ เธอชี้หน้าเอ็ดทันที

    นายโร เมื่อกี้นายทำอะไรชั้น ไอ้คนไม่มีมารยาท คนถูกคำถามด่ามายังไม่สะทกสะท้าน แถมยังเดินเข้าไปใกล้เธออีก  และโดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ขอทานแห่งทริสทอร์ก็ถามเธอขึ้นมา

    เธอเสียใจหรือตกใจมากกว่า มาทิลด้างง

    ก็..ตกใจมากกว่า ทำไมหรอ โรพึมพำอะไรซักอย่างออกมาแล้วงัดมีดสั้นของตัวเองออกมาแล้วถือวิสาสะจับแขนของมาทิลด้าขึ้นมาแล้วทำท่าจะปาดมีดแล่มือเธอซะยังงั้น มาทิลด้าตกใจมากและพยายามดึงมือออกไปแต่โรก็ทำเพียงบีบแขนของเธอแน่นขึ้น เพียงเท่านั้น อาการชาเย็นวูบจากข้อมือซึมไปทั่วร่างกายเธอไม่สามารถขยับกายได้หรือแม้แต่พูด โรร่ายเวทต่อไปพร้อมกับหันสันมีดด้านที่ไม่คมขีดวงแหวนเวทลงบนข้อมือเธออย่างรวดเร็ว แล้วก็หันไปปาดแขนตัวเองเล็กน้อย ส่งผลให้เลือดค่อยๆซึมออกมา เขาวางแขนตัวเองไว้บนแขนของเธอ เลือดหยดลงบนวงแหวนเวทช้า กระแสเสียงของโรดังแผ่วออกมา

    ใจเย็นๆนะมาทิล เดี๋ยวเธอจะได้รู้แน่ว่าอะไรเป็นอะไร มาทิลด้าตกใจมากแต่ก็พูดอะไรออกมาไม่ได้รวมถึงร่างกายก็ขยับไม้ได้ด้วยจึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้อย่างนั้น แล้วดูการกระทำของโรต่อ

    โรยังคงร่ายเวทต่อไปอย่างไม่สนใจใคร และแล้วเขาก็บีบมือเธออีกครั้ง ความรู้สึกค่อยๆกลับคืนสู่ร่างของเธออีกครั้ง เธอพยายามคิดคำด่าเขาต่างนานา

    คนอะไร..ไม่มีมารยาท แต๊ะอั๋งเค้าแล้วยังมาจับมือเขาอีก เดี๋ยวปั๊ดให้ท่านแม่มาล่ามค้างปีเลย ไอ้คนไม่รุ้จักสำรวมตัวเอง ไหนเขาบอกว่าเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่แล้วทำไมไม่รู้ธรรมเนียมของอเมซอนล่ะไอ้........... เธอบ่นในใจเพราะรู้สึกโกรธเขามากเพราะธรรมเนียมของอเมซอน ผู้ชายจะไม่สามารถจับต้องร่างกายของผู้หญิงได้ ยกเว้นว่า .. คนทั้งสองจะแต่งงานกันแล้ว มาทิลยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แต่ขณะที่คิดด่าเขาอยู่ในใจนั้นก็มีเสียงร้องมาจากไอ้เจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่ที่เธอเพิ่งบ่นด่ามันไปเมื่อตะกี้นี้เอง

    โอ๊ยๆๆๆ... ไม่คิดว่าจะใช้ได้นะเนี่ย โรร้องออกมาและรีบถลกแขนเสื้อขึ้นมาดู ส่วนมาทิลด้าที่ยืนอยู่ข้างๆก็รีบเดินเข้ามาดูว่าโรเป็นอะไร

    หรือว่าเราเผลอไปร่ายเวทคำสาปใส่เขานะ  โอ้ .. ม่ายยยมาทิลคิดไปต่างๆนานา ก่อนที่จะรู้สึกตัว รีบเข้าไปช่วยดูอาการของโรที่ดูเหมือนจะหนักเอาการ มาทิลด้าสวมวิญญาณแม่มดวิงกี้เข้าช่วยดูแผลทันที

    เป็นอะไรรึเปล่าโรเธอพูดพลางจับแขนโรขึ้นมาพลิกดูอาการทันที โรยิ่งหน้าเสียกว่าเก่า รีบชักแขนตัวเองกลับไปดูแผลคนเดียว

    ไม่เป็นไรมากหรอกน่า ก็แค่ลองคาถาน่ะ ว่าแล้วโรก็หันหลังให้เธอและเริ่มต้นออกเดิน แต่คนถูกทิ้งไว้กลับยิ่งมีความสนใจจากบาดแผลมากขึ้นอีก มาทิลด้ารีบเดินตามโรจนทัน โดยไม่ฟังเสียงเรนอนที่ชวนไปห้องสมุด เธอตามหาอยู่นานพอควรก็พบโรนั่งดูแผลของตัวเองอยู่เงียบๆ คนเดียว  เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปและนั่งลงข้างๆเขาอย่างเงียบเชียบ แต่กระนั้นโรก็รู่อยู่ดีนั่นแหละ แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ ยังคงนั่งดูแผลตัวเองอยู่ตามเดิม ในระหว่างนั้นมาทิลก็รวบรวมความกล้าถามเขาไป

    แขนนาย มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง โรถอนหายใจดังเฮือก ส่ายหน้าไปมา

    มันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละ มันเป็นความผิดของฉันเอง เขาก้มลงมองแขนที่โดนกรีดเมื่อครู่ มาทิลด้าเข้าใจในทันที

    หรือว่า.....

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

                    วันนี้ดีที่วันแรกเป็นคาบว่างเพราะแองจี้สังเกตเห็นว่าเมื่อตอนเช้ามาทิลด้ากับโรมีเรื่องกัน แล้วอยู่ดีๆโรก็เป็นอะไรก็ไม่รู้แล้วซักพักก็เดินหนีไป แล้วมาทิลก็วิ่งตามไปโน่น จนป่านนี้ผ่านมากว่า 20 นาทีแล้วยังไม่เห็นแม้แต่วี่แวว แองจี้ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องสมุดคนเดียวอย่างร่าเริง เพราะเธอเพิ่งจะมาเข้าห้องสมุดที่นี่เป็นครั้งแรก เธอได้เดินดูชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงรายอยู่กว่า 20 ชั้นมาแล้วและพบว่า ที่นี่เต็มไปด้วยหนังสือว่าด้วยการเป็นพระราชา  หรือไม่ก็พวกรวมกฎหมายของเมืองต่างๆ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเป็นหนังสืออ่านเล่น  แต่ที่ว่าน้อยนั้นก็ยังมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ชั้นเป็นอย่างต่ำนอกจากนี้ก็ยังเป็นชั้นหนังสือต้องห้ามด้วยอีกประมาณ 3 ชั้น ที่เธอได้เดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ ส่วนมากจะเป็นหนังสือสูตรน้ำยาต้องห้ามหรือไม่ก็หนังสือเวทมนต์โบราณและยังมีพวกหนังสือที่ไม่ควรมีในห้องสมุดอีกหลายเล่ม แองจี้เดินไปตามทางเดินระหว่างชั้นหนังสือแต่ละชั้น ก่อนจะมาหยุดที่หนังสือเล่มหนึ่ง มันมีชื่อว่า ‘เทพนิยายโบราณ’ เธอรู้สึกสนใจมากและหยิบมาอ่านในทันที ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับกัสที่เพิ่งจะเข้ามาเหยียบที่นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาเข้ามานี่เพียงเพราะเขาจะมาชวนซอร์โรไปฝึกดาบด้วยต่างหาก  ระหว่างที่เขาเดินหาซอร์โรอยู่นั้น เขาก็พบแองจี้นั่งอ่านหนังสืออยุ่เพียงลำพัง แต่ดูท่าทางเธอจะมีความสุขมาก เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาชอบแอบมองดูเธอมานานแค่ไหนแล้ว เขารู้แค่ว่าเขาชอบเวลาที่เธอยิ้ม และมีความสุข เขาคิดและเผลอเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว พอดีกับที่แองจี้เงยหน้าขึ้นมาพอดี สายตาของคนที่จ้องมาหาทำเอาสายตาของนักบวชหน้าตายถึงกับแทบละลายเพราะสายตานั้นเหมือนไม่ใช่สายตาของเธอเลย กัสพยายามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงข้างๆเธอ

    เป็นอะไรรึเปล่า แองจี้ กัสถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

    เปล่านี่...เธอปฏิเสธเสียงสูง ...ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่นี่ไง  รู้มั๊ย ฉันน่ะชอบอ่านหนังสือเทพนิยายมากๆเลย มันทำให้ชั้นมีความสุข เหมือนกับตัวเองเป็นตัวละครในเทพนิยายนั่นเลยล่ะ... แองจี้พูดเหมือนเพ้อ แต่สักพักเธอก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

    แล้วนายล่ะ  มาที่นี่ทำไม กัสเกาจมูกแก้เขิน ตอนนี้นักบวชหน้าตายเริ่มหน้าแดงเข้าให้แล้ว

    ก็..ก็..มา เอ่อ...มาหาซอร์โรน่ะ จะมาชวนมันไปดวลดาบด้วยซะหน่อยน่ะ เขาพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย

    ‘จะให้ชั้นบอกว่ามาแอบดูเธอรึไงเล่า’ เขาคิดในใจ แองจี้พยักหน้า

    อืม ซอร์โรหรอ น่าจะออกไปแล้วนะ เมื่อกี้เห็นมาทำอะไรแป๊บเดียวแล้วก็ออกไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×