คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เมื่อพบพริ้มสบตากับนวลน้อง
เมื่อพบพริ้มสบตากับนวลน้อง ใจพี่ผ่องชื่นมื่นมิรู้หาย
เมื่อน้องยิ้มพริ้มพราวช่างพรรณราย พี่ยอมตายดายดิ้นเพราะยิ้มนาง
หลายวันมาแล้วที่คุณหลวงประดิษฐ์เพียรมาดักรอเหล่านางข้าหลวงที่เค้าเห็นเมื่อหลายวันก่อน แต่ต้องผิดหวังกลับไปทุกครา ไม่ยักได้พบหน้านางคนนั้นอีกเลย ด้วยการงานที่มากขึ้นทำให้คุณหลวงไม่ได้แวะมาทุกวัน นอกเสียจากวันไหนได้ผ่านมาที่วัง ก็จะแวะรออ้อยอิ่งอยู่ที่หน้าวังเป็นประจำ ก็จะมีนายแป้นนี่ล่ะที่รู้ทัน ว่าคุณหลวงกำลังจะทำอะไร และ ก็คอยเป็นหูเป็นตาให้เสมออย่างคนรู้ใจกัน
คุณหลวงประดิษฐ์ ยามนี้วัยก็มากขึ้นย่างเข้าสามสิบปีแล้ว ถ้าเป็นลูกชายบ้านอื่นคงได้ออกเรือน หรือไม่ก็มีหลานมาให้ปู่กับย่าเชยชมกันแล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น คุณหลวงก็มักจะส่ายหัวให้กับความหวังดีของคุณหญิงสายทิพย์ผู้เป็นมารดา ที่เฝ้าสรรหาหญิงงามพามาให้เขาได้ทำความรู้จัก เพื่อหวังจะได้อุ้มหลานสักที แต่จนแล้วจนลอด คุณหลวงก็ไม่มีวี่แววว่าจะพึงพอใจหญิงใดเลย แต่คุณหญิงก็ยังมิละความพยายาม ยังคงเดินหน้าอย่างมีความหวังต่อไป
วันนี้คุณหลวงประดิษฐ์เดินทางนำเอกสารราชการไปส่งยังท่านเจ้าคุณท่านหนึ่ง ผู้ซึ่งเป็นเจ้ากรมศิลปากร ที่ตนสังกัดอยู่ เนื่องจากท่านเจ้าคุณมิสบายพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคช่วย หรือ พรหมลิขิต การณ์นี้เองทำให้ความหวังของคุณหลวงเป็นจริงขึ้นมา เพียงแค่ก้าวขึ้นบันได้บ้านท่านเจ้าคุณขึ้นมา หัวใจของคุณหลวงก็เต้นผิดจังหวะ จากคนที่เคยสุขุม เงียบ สง่า กลายเป็นคนประหม่า ตื่นเต้น ถึงขนาดท่านเจ้าคุณจับความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด และนึกถูกใจอยู่เนื่องๆ
ณ บ้านท่านเจ้าคุณบันลือศิลป์ ท่านเจ้าคุณนั่งสนทนากับคุณหลวงประดิษฐ์เรื่องงานที่ยังค้างคาอยู่ แต่สายตา และ จิตใจของคุณหลวงมิได้อยู่ที่บทสนทนานั้นไม่ กลับตรึงอยู่กับทุกกริยาของลูกสาวท่านเจ้าคุณที่กำลังช่วยคุณหญิงจับจีบจับพลูเพื่อนำมาให้ท่านเจ้าคุณและคุณหลวงอยู่นั่นเอง ครั้นจับจีบพลูเสร็จ ท่านเจ้าคุณก็เรียกให้แม่อนงค์เป็นคนนำพานพูลมาให้
‘แม่อนงค์ นี่คุณหลวงประดิษฐ์วิจิตจิตรกร เป็นมือขวาของพ่อเอง รู้จักกันไว้ อีกหน่อยคุณหลวงมาที่บ้านบ่อยๆจะได้รู้จักกัน จริงไหมคุณหลวง’ พูดพลางหัวเราะพลาง ส่งผลให้ทั้งคุณหลวง และ อนงค์หน้าแดงเป็นเป็นผลตำลึงทั้งสองฝ่าย
‘กระผมเอง ต้องเป็นคนที่จะต้องฝากเนื้อฝากตัว ขอรับ คงต้องมารบกวนที่บ้านท่านเจ้าคุณขอรับ’ คุณหลวงกล่าวอาดๆ
‘อ่อ ไม่เป็นไรน่า เจ้าคุณพลพิทักษ์ ก็เป็นเพื่อนกัน คนกันเองทั้งนั้นจะต้องฝากเนื้อฝากตัวอะไรกัน อ่ะ อนงค์จัดสำรับเผื่อพี่เค้าด้วยแล้วกัน วันนี้อยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนลุงหน่อย เดี๋ยวให้คนไปบอกทางบ้านนู้นให้’ ท่านเจ้าคุณกล่าวพรางเรียกคน เพื่อไปบอกทางบ้านนู้น
‘มิเป็นไรขอรับ มิต้องเดือนร้อน กระผมมิได้กลับบ้านทานข้าวทุกวัน บางคราวทำงานดึก ก็ทานที่กระทรวงขอรับ’ ชายหนุ่มรีบตอบ
ขณะนั้นเองที่สายตาของหนุ่มสาวปะทะกัน อนงค์ส่งยิ้มอายๆมาให้ ทำให้คุณหลวงใจเต้น ตามองตามอนงค์เดินจากใจไม่วางตา ทั้งหมดอยู่ในสายตาของผู้เป็นพ่อ ที่ยังคงยิ้มปนหัวเราะอย่างพอใจ
การรับทานอาหารค่ำนี้ผ่านไปด้วยความชื่นมื่น มีทั้งเสียงคุยกัน และ เสียงหัวเราะสนุกสนาน จากทั้งท่านเจ้าคุณที่เป็นคนชวนคุย ชวนหัวเราะ และ เสียงคุณหลวงหัวเราะอย่างมีความสุขเช่นกัน โดยที่อนงค์มิได้เอ่ยสิ่งใด นอกจากสำรวมกริยามิให้เกินงาม เพราะเป็นการพบกับผู้ชายครั้งแรกของเธอ ทั้งๆที่เธอก็ประหม่า แต่ก็ยอมรับได้เลยว่าจากการฝึกอบรมกริยามารยาทอย่างดีในรั้วในวังทำให้อนงค์เติบโตมาอย่างงามสง่าทั้งกาย วาจา และ ใจ เป็นที่ชื่นใจแก่บุพการีทั้งสองยิ่งนัก
ครั้นเมื่อคุณหลวงลากลับไปแล้ว ท่านเจ้าคุณและคุณหญิงก็มิวายคุยกันต่อเรื่องของเด็กทั้งสองคน ที่พอจะดูออกว่าคุณหลวงนั้นมีใจแก่บุตรี แต่ด้วยเพียงรู้จักกันไม่นานนัก จึงมิได้พูดกระไร หรือกระทำสิ่งใดให้ผิดสังเกต เพียงแต่แอบคุยและเห็นด้วยกับการณ์นี้เอง
‘คุณหลวงประดิษฐ์ เป็นชายหนุ่มรุ่นใหม่ อนาคตใกล้เชียวล่ะ ยิ่งพ่อก็เป็นเจ้าคุณด้วยแล้วยิ่งไม่ด้อยไปกว่ากัน แม้ว่าเพิ่งจะรับราชการมาไม่นานแต่ด้วยสติปัญญา พี่ว่าไม่มีปัญหา ถ้าพี่สนับสนุนหน่อย ก็ยิ่งฉลุยเลยทีนี้’ ท่านเจ้าคุณเปรยกับภริยา
‘แหม เจ้าคุณพี่ก็ ลูกเรายังเล็กนัก เพิ่งจะได้พบสบหน้ากันคราเดียว คิดไปถึงไหนๆแล้วคะ ถ้าเด็กเค้าชอบพอกัน เราก็ดูอยู่ห่างๆ คุณพี่ไม่ต้องไปรีบเร่ง หรือวางแผนอะไรหรอกนะเจ้าคะ อีฉันมิได้สอนนะเจ้าคะแต่อีฉันสงสารลูก ลูกสาวคนเดียวนะคะ อยากให้อยู่ดูแลกันก่อน’ คุณหญิงกล่าวเอื่อยๆ
‘โอย… จะให้ลูกกลายเป็นสาวเชื้อคอยดูแลเราไปจนแก่หรืออย่างไร แม่สจีนี่ มีคนดีๆเข้ามาก็ต้องช่วยหน่อยสิ เอาน่าไม่รีบ ไม่เร่งหรอก คอยดูอยู่ห่างๆ’ ท่านเจ้าคุณพูดปนหัวเราะ
‘นี่ลูกเพิ่งจะแตกเนื้อสาว มีหนุ่มมาสนใจคุณพี่ก็เป็นซะอย่างนี้ อีกหน่อยลูกมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาสนใจ มีหวังคุณพี่มีเรื่องสนุกให้จัดการอีกเยอะเทียวคะ’ คุณหญิงพูดปนหัวเราะย้อนกลับ
แม้คุณหลวงจะกลับถึงบ้านแล้ว แต่มิอาจตัดใจจากดวงหน้านวลของอนงค์ได้ จิตใจคุณหลวงยังมิได้กลับ ยังคงอยู่ที่บ้านท่านเจ้าคุณอยู่เช่นเดิม หวนคิดถึงทุกกริยาของนวลน้อง ชวนให้ยิ้มอยู่ร่ำไป
‘เฮ้อ… คืนนี้จะนอนหลับหรือไม่หนอเรา’ ว่าแล้วคุณหลวงก็หยิบไวโอลินขึ้นมาสี บรรเลงเพลงรัก ที่แสนโรแมนติก ใครฟังก็จะนึกว่ากำลังมีความรักอย่างแน่นอน จะมีก็แต่นายแป้นที่แอบยิ้ม เพราะเป็นผู้เดียวที่รู้ความจริงว่าบทเพลงของคุณหลวงส่งมอบไปให้แก่หญิงใด
ความคิดเห็น